ทำไม maximum heart rate(MHR) มีหลายสูตรจังครับใช้ตัวไหนดีงง แล้ว
ผมอ่าน บทความที่ bikelover ที่สมาชิก ส่งมาให้มีการคำนวนว่า
ชาย MHR= 220 - อายุ(ปี)
หญิง MHR= 226- อายุ(ปี)
ถ้าออกกำลังกาย แบบ aerobic ควรอยู่ในช่วง 60%-85% เป็นเวลาต่อเนือง อย่างน้อย 20 นาที หลังจาก worm up สัปดา ละ 3 ครั้ง
แล้วผมก็ไปอ่าน นิตยาสาร สุขภาพบอกว่า
MHR = 202- อายุ / 0.55
ผมรู้ว่าเครืองวัดมีประโยชน์เลยรีบไปซื้อมา
แต่ในคู้มือบอกว่า
MHR = 204 - 0.69 x อายุ
แล้วให้ออกอยู่ในช่วง 30 - 70%
แล้วตกลง ผมอายุ 34 ปี แล้วอยากลดความอ้วนด้วยนะครับ ควรจะออกอยู่ในช่างใดครับ งง จริงจริง แนะนำด้วยครับ
ทำไม maximum heart rate มีหลายสูตรจังครับใช้ตัวไหนดีงง แล้ว
-
- สมาชิก
- โพสต์: 29
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 00:30
- Tel: 081 831 3590
- team: ยังไม่มีครับ
- Bike: 1
- เสือ Spectrum
- ขาประจำ
- โพสต์: 4450
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
- Tel: -
- team: 99 City Bike
- Bike: LA Spectrum
Re: ทำไม maximum heart rate มีหลายสูตรจังครับใช้ตัวไหนดีงง แล้ว
ผมก็จำไม่แม่นแล้วครับ แหล่งข้อมูลจริง ของจริงอยู่ที่ท่านเสือแก่ PCB เขียนเป็นกระทู้ไว้ใน เวป Bikeloves.com ครับ (ท่านเสือแก่ PCB ศึกษามาทางวิทยาศาสตร์การก๊ฬาครับ)
คร่าวๆ ก็คือยังมีตัวแปรเรื่องของความแข็งแรงของหัวใจและความเป็นนักก๊ฬาต่อขึ้นมาอีก การวัดค่าแบบละเอียดมักจะทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลหรือศูนย์วัดสมรรถภาพ และควรอยู่ในความควบคุมของผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เท่านั้นครับ วัดเองสุ่มสี่ สุ่มห้า อาจจะเกิดอาการช๊อคจนหัวใจวายได้เพราะเป็นการรีดสมรรถนะสูงสุดของหัวใจออกมาวัดครับ
ประมาณว่าต้องออกกำลังจนเหนื่อยสุดๆ เลยละครับค่า Max. HR. จึงจะออกมาให้เห็นครับ
ส่วนมากหากไม่มีค่าจริงเขาก็มักเอาค่าใกล้เคียงมาแบ่งทำเป็นโซนฝึกซ้อมอย่างเช่นโซน Sport ก็ประมาณว่าเวลาออกกำลังถึงโซนนี้ก็มักจะเหนื่อยจนร้องเพลงหรือคุยไม่ออกนั่นแหละครับ คือใช้เทียบเคียงเอาว่าเมื่อถึงโซนนี้แล้วร่างกายก็มักแสดงอาการอย่างที่มีข้อมูลบอกไว้ครับ
หากไม่แสดงอาการก็แสดงว่าค่า Max. HR. เฉพาะของเราอาจจะแตกต่างไปจากคนอื่นครับ ก็ต้องเทียบเคียงหาค่าความใกล้เคียงของแต่ละโซนกันใหม่เอาเองนะครับ
ซึ่งอาจจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ HR. Meter มาวัดประกอบด้วยก็ได้ครับ
ถ้าปั่นจักรยานก็ปั่นฯ ในระดับปรกติที่ไม่ทำให้เหนื่อยหอบ ก็คือเหนื่อยธรรมดาๆ ต่อเนื่องกันยาวสัก 30 - 40 นาทีก็ได้ผลแล้วครับ สำคัญอยู่แต่ว่าปั่นฯ แล้วอย่ากลับไปกินจุตามนะครับ ไม่อย่างนั้นมันก็จะลดน้ำหนักไม่ลงหรอกครับ
คร่าวๆ ก็คือยังมีตัวแปรเรื่องของความแข็งแรงของหัวใจและความเป็นนักก๊ฬาต่อขึ้นมาอีก การวัดค่าแบบละเอียดมักจะทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลหรือศูนย์วัดสมรรถภาพ และควรอยู่ในความควบคุมของผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เท่านั้นครับ วัดเองสุ่มสี่ สุ่มห้า อาจจะเกิดอาการช๊อคจนหัวใจวายได้เพราะเป็นการรีดสมรรถนะสูงสุดของหัวใจออกมาวัดครับ
ประมาณว่าต้องออกกำลังจนเหนื่อยสุดๆ เลยละครับค่า Max. HR. จึงจะออกมาให้เห็นครับ
ส่วนมากหากไม่มีค่าจริงเขาก็มักเอาค่าใกล้เคียงมาแบ่งทำเป็นโซนฝึกซ้อมอย่างเช่นโซน Sport ก็ประมาณว่าเวลาออกกำลังถึงโซนนี้ก็มักจะเหนื่อยจนร้องเพลงหรือคุยไม่ออกนั่นแหละครับ คือใช้เทียบเคียงเอาว่าเมื่อถึงโซนนี้แล้วร่างกายก็มักแสดงอาการอย่างที่มีข้อมูลบอกไว้ครับ
หากไม่แสดงอาการก็แสดงว่าค่า Max. HR. เฉพาะของเราอาจจะแตกต่างไปจากคนอื่นครับ ก็ต้องเทียบเคียงหาค่าความใกล้เคียงของแต่ละโซนกันใหม่เอาเองนะครับ
เรื่องลดความอ้วน ตามตำราบอกว่าแค่ออกกำลังในระดับปรกติให้ต่อเนื่องนานเกินกว่า 30 ถึง 40 นาทีสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 300 นาทีหรือประมาณ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ได้ผลเรื่องลดความอ้วนแล้วครับแล้วตกลง ผมอายุ 34 ปี แล้วอยากลดความอ้วนด้วยนะครับ ควรจะออกอยู่ในช่างใดครับ งง จริงจริง แนะนำด้วยครับ
ซึ่งอาจจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ HR. Meter มาวัดประกอบด้วยก็ได้ครับ
ถ้าปั่นจักรยานก็ปั่นฯ ในระดับปรกติที่ไม่ทำให้เหนื่อยหอบ ก็คือเหนื่อยธรรมดาๆ ต่อเนื่องกันยาวสัก 30 - 40 นาทีก็ได้ผลแล้วครับ สำคัญอยู่แต่ว่าปั่นฯ แล้วอย่ากลับไปกินจุตามนะครับ ไม่อย่างนั้นมันก็จะลดน้ำหนักไม่ลงหรอกครับ
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
-
- สมาชิก
- โพสต์: 29
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 00:30
- Tel: 081 831 3590
- team: ยังไม่มีครับ
- Bike: 1
Re: ทำไม maximum heart rate มีหลายสูตรจังครับใช้ตัวไหนดีงง แล้ว
ขอบคุณครับ คงต้องคุมอาหารด้วยนะครับ ไม่งันลดไม่ลงแน่