......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

ผู้ดูแล: มิตร

กฏการใช้บอร์ด
กลุ่ม AIRPORT GROUP PHITSANULOK
ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
ผู้ดูแล MIT โทร 08-1534-4540
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

..นั้น..คือเรื่องการเอาชนะปัจจัยแรงต้านทานจากภายนอก แล้วแรงต้านทางจากภายในละ จะมีไหม.
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

:D :lol: :oops: :oops: :oops: :oops: :lol: :lol: :lol: :roll: :roll: :roll: :oops: :oops: :oops: :lol: :lol: :lol:
ไฟล์แนบ
S1036666.jpg
S1036666.jpg (22.44 KiB) เข้าดูแล้ว 440 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
sakdadej
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 84
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 21:46
Tel: 055302416
team: airportgroup phitsanulok
Bike: KLEIN,Garyfisher

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย sakdadej »

อ่านแล้วได้สาระความรู้ดีครับ .....รอติดตามต่อครับขอบคุณ
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

[quote]ขอบคุณครับ พี่ศักดาเดช..เมื่อวานยามเย็นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ดีใจนะครับ ที่บทความข้อเขียนสามารถเป็นแรงกระตุ้นอีกทางหนึ่ง ให้กลุ่มเราเกิดพลังในการขี่จักรยาน โดยเฉพาะนน้องหมิว ที่พยายามมาบอกด้วยตัวเองว่า อ่านบดความของพี่เนิ่มแล้ว ทำให้อยากขี่จักรยานขึ้นอีกเยอะ

นี้คือเรื่องของแรงกระตุ้นจากภายในครับ บางครั้งชีวิตที่จะเริ่มห่อเหี่ยว หรือไร้พลัง การหวลกลับมาสร้างพลังใจต่อกัน เป็นทางเลือกที่สามารถก่อให้เกิดการกระทำร่วมกันได้ ขอเป็นพลังใจให้พี่น้องกลุ่มจักรยานยามเย็นสนามบินใหม่ทุกท่านนะครับ ....ขอเชิญพบกับวรรณกรรมไร้ทิศทางเรื่อง การปฏิวัติตนเองกันต่อขอรับ สวัสดีครับ ...
[/quote]
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ท่านอาจจะไม่เคยได้รับการบอกกล่าวมาจากที่ใด และข้าพเจ้าต้องขออภัยทุกท่านด้วยที่ต้องให้ท่านกลับไปค้นหาด้วยตนเองว่าเป็นจริงดังคำพูดหรือไม่ ขออย่าได้เชื่อว่าจะเหมือนกันทุกคนไป เพราะสิ่งที่เขียนคือเรื่องความรู้ที่เกิดขึ้นโดยตรง จากตนเองขอรับ ....เรื่องแรงต้านจากภายในนั้น มีคำถามทิ้งท้ายไว้ว่ามีอยู่หรือไม่ อันดับแรกนั้น เป็นเรื่องของแรงต้านทางจิตใจ....คืออะไรหรือ ....
คือเรื่องที่เราไม่สามารถเอาชนะตนเองได้นั่นเอง เรื่องที่เราไม่สามารถทำได้ดังที่ตนเองคาดหวังไว้ เช่นในวันพุธนี้นั้น ข้าพเจ้าเลือกที่จะขี่จักรยานแบบเอาชนะแรงต้านทาน โปรแกรมการขี่ถูกค้นหามาว่า การเพิ่มสมรรถภาพความแข็งแร็งของกล้ามเนื้อขา คือการขี่ในลักษณะที่จะต้องขี่ความหนักสูง รอบขาต่ำกว่า 80 ครั้งต่อนาที ต่อเนื่องยาวนาน ตนเองรู้ว่าเป็นเช่นนั้น ฉนั้น ทางเลือกหนึ่งคือทางเลือกที่เป็นไปได้ตามความเป็นจริงในการประเมินตนเอง ข้าพเจ้าดูตัวเองตามความสามารถว่า ความเข็งแรงของเราอยู่ในเกณฑ์ระดับไหน ใช้เกียร์เดโชว์ระดับความหนักเท่าใด ถึงจะขี่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อเราประเมินตนเองตามความเป็นจริง การที่เราเอาชนะตนเองได้จึงมิใช่คำตอบที่เราจะต้องไปแสวงหา การฝึกซ้อมจักรยานของเราจะมีแต่ความตั้งใจ มุ่งมั่น มีความพยายามที่จะทำให้ได้ตามที่ตนเองออกแบบแผนการปั่น คงเหลือแต่เพียงเรื่องการกระทำเพียงอย่างเดียว ด้วยความใส่ใจต่อแรงกดที่สวนทางสู้รอบขา เราทราบได้ด้วยตนเองจากการทดลองกระทำ ทราบได้ว่าเราใช้เกียร์หนักแล้ว ความรู้สึกที่เรียกว่า '' บันใดสู้ตีน '' (ภาษาจักรยาน มิใช่คำหยาบ) มีอาการเช่นใด แล้วเราจะทนต่อสู้กับความเจ็บปวด ความหนักของการขี่จักรยานได้ขนาดไหน ....
ประการที่สอง คือแรงต้านทางกายภาพ....นั้นคือเรื่องที่เกิดความรู้สึกรับรู้ได้โดยตรงต่อการเกิดผลของการกระทำต่อกล้ามเนื้อ เช่นในขณะปั่นจักรยานที่ความหนักสูง สิ่งที่เราต้องพยายามจะให้เกิดขึ้น คือการเร่งรอบขาตนเองตลอดเวลา ความเร็วจะเกิดขึ้นจากความพยายามเช่นที่กล่าวนี้ ความเร็วเกิดขึ้นได้ด้วยความพยายามที่จะไปให้เร็วที่สุด ทั้งความหนักที่ต่ำและรอบขาที่สูง ล้วนเกิดจากความพยายามที่จะออกแรงส่งต่อไปยังลูกบันใดเพื่อให้รถจักรยานไปเร็วที่สุด ท่านจะสังเกตเห็นว่า ในระดับความหนักที่สูงของการใช้เกียร์เดโช (ใบหน้าใหญ่ เฟืองหลังเล็กถึงเล็กสุด) นั้น เราต้องใช้ความพยายามที่สูงขึ้น เพื่อการเอาชนะแรงต้านทานจากภายใน นั้นคือการเอาชนะความรู้สึกของตนเองเป็นอันดับแรก ต่อจากนั้นจึงเป็นการรับรู้ความรู้สึกทางกายภาพ รับรู้ความเจ็บปวด รับรู้ถึงการออกแรงต่อการกระทำ ตรงนี้ก็ควรจะเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำการเรียนรู้ด้วยตนเอง ยังมีเรื่องที่ลึกลงไปกว่านั้นอีก เรื่องที่ว่านั้นคือเรื่องการนึกคิด สิ่งทั้งหมดนั้น คือเรื่องที่ประกอบเป็นโครงสร้างทั้งภายนอก ภายใน จนถึงระดับรากแห่งการคิดนึกเลยทีเดียวขอรับ.....
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะบอกว่า...การขี่แบบเอาชนะแร็งต้านนั้นขี่อย่างไร แต่ยากอย่างยิ่งในแนวทางปฎิบัติที่เป็นของจริง ๆ ครับ....
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

ขอเล่าเรื่องการฝึกซ้อมเพื่อเป็นเกร็ดความรู้ไว้ให้ท่านไปค้นหาเองในขณะที่เราทำการฝึกซ้อมจักรยาน....
.
วันนั้น...ความตั้งใจในตั้งแต่จุดแรกเริ่มเลยคือการปั่นตามโปรแกรมที่ตนเองได้วางแผนไว้ คือเรื่องการเอาชนะแรงต้านทาน ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ฝึกระบบหัวใจไหลเวียนเลือด โดยระดับความหนักอยู่ที่รอบขาต่ำกว่า 80 รอบต่อนาที ระดับความเหนื่อยประมาณ E3 ..คือระดับความเหนื่อยที่เริ่มพูดจาไม่ได้ พูดได้เหมือนกัน แบบว่าเป็นการตอบเพียงคำเดียว หรือพูดไม่เต็มประโยค ...ข้าพเจ้าเปรียบเทียบแบบง่าย ๆ นะครับ ไม่สลับซับซ้อนอะไร สำหรับเรื่องความรู้สึกรับรู้กับความเหนื่อยนี้นั้น คงจะได้กล่าวในโอกาสต่อไปว่ามีอาการอย่างไรบ้าง ระยะเวลาในการปั่น 1 ช.ม. และในหนึ่งชั่วโมงนั้น แบ่งการขี่ออกเป็นการอบอุ่นร่างกายประมาณ 10-15 นาที ในระหว่างการอบอุ่นร่างกาย มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการเริ่มต้นจากการขี่แบบช้าไปหาเร็ว ด้วยหลักการเรื่องการสร้างความเคยชิน หลักการเรื่องการปรับสภาพของระบบกล้ามเนื้อ เอนยืดเหยีด บางครั้งคนที่เครื่องติดช้า ก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาว่าจะต้องอยู่ในห้วง 10-15 นาที จะมากกว่านี้ก็ไม่เป็นอะไร ให้เกิดความพร้อมทางการอบอุ่นร่างกายมากที่สุด เพื่อเตรียมรองรับ เพื่อเตรียมระบบกล้ามเนื้อ เอ็น ระบบหายใจ ให้เกิดความพร้อมที่จะทำงานหนักกับโปรแกรมที่ตั้งใจไว้ เราจะสังเกตุตัวเราเองได้อย่างไร การสังเกตุความพร้อมสำหรับข้าพเจ้าเองนั้น เมื่อทำการอบอุ่นร่างกายแล้วมีอาการเครื่องติดคือเมื่อเหงื่อยเริ่มซึม ๆ ตามผิวหนังภายนอก รู้ตัวรับทราบได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเป็นไอร้อนที่ระเหยออกมาปนกับอากาศภายนอก นั้นคือเรื่องที่เราจะต้องหัดสังเกตุตนเองโดยแท้ สำหรับข้าพเจ้าแล้ว มิได้ใช้เครื่องไม้เครื่องมืออันใดมาเป็นมารตวัด การวัดสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้น เลือกที่จะวัดตนเองจากความเป็นจริง ตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับตนเอง....

เมื่ออบอุ่นร่างกายพร้อมแล้ว การมองไปยังพื้นถนนที่ตนเองกำลังท่องไปบนอานจักรยานกำลังเกิดขึ้น พร้อมกับสายตาที่ระแวดระวังภัยป้องกันตนเองแบบเป็นธรรมชาติ เป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากรถยนต์ อุบัติเหตุ เหมือนกับเล็งแลเห็นกระโจนลอยเมื่อเจองู ความพร้อมทางประสาทสัมผัสเกิดขึ้นเองอย่างเป็นไป ในขณะที่ขาเริ่มปั่นกดบดขยี้ไปกับความหนักที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป สายตาเหมือนมีคู่หลังอยู่ด้วย ความฉับไวในการปั่นจักรยานจำต้องมี หูรับรู้ฟังเสียงสัญญาณ เสียงอันตราย เสียงรถยนต์ แม้กระทั่งเสียงนกร้องยังแว่วยินมาจากถิ่นที่แสนไกล การรับรู้ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองในขณะปั่นจักรยาน เปรียบดั่งญาณทิพย์ ที่เป็นเรื่องของความไวต่อประสาทสัมผัส เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มิได้อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติ แต่เป็นธรรมชาติของตัวเราที่จะต้องเข้าไปเรียนรู้ สัมผัส ไม่เซ่อ ไม่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง หรือทำเป็นไม่สนใจ เพราะการขี่จักรยานบนท้องถนน หรือขี่บนเกมส์การแข่งขันนั้น ท่านจะมาบอกว่าฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่เห็นไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่จะขาดไปเสียมิได้ คือความว่องไวทางประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรา ให้เกิดเป็นธรรมชาติ ดุจดั่งการแลเห็นงูเลื้อยอยู่แล้วเราจะไม่หลีกหนีนะหรือ หรือเราจะปล่อยให้งูฉกตัวเรา เช่นเดียวกัน เราคงไม่ขี่พุ่งไปหารถยนต์ให้ชนตัวเอง หากเรารับรู้ความเป็นทั้งหมด ในขณะที่ขี่จักรยาน....
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

การขี่เอาชนะแรงต้านในวันนั้น จึงเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจมาเป็นอย่างดี .....

เมื่อระยะเวลาที่ประกอบกิจกรรมดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เหลือบมองดูความเร็วในหน้าปัดที่เรือนไมล์จักรยาน บ่งบอกถึงความเร็วที่ไม่สม่ำเสมอ บางครั้งขึ้นมาอยู่ที่ 34 KM/h บางครั้งตกลงไปที่ 30 /29 /28 KM/h ก็มี แต่ความเร็วบนหน้าปัดไมล์จักรยานไม่มีความหมายอันใดกับความรู้สึกนึกคิด ข้าพเจ้าเลือกที่จะอยู่กับความรู้สึกเหนื่อยแบบเริ่มหายใจทางปากเป็นจังหวะไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อความรู้สึกเหนื่อยเริ่มเบาบางลง การเร่งวงรอบบดอัดดึงขาหลังถูกกระตุ้นเตือนให้เกิดความเหนื่อยกับอาการดังกล่าวขึ้นมาใหม่ตลอด การปั่นคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เส้นทางที่ขี่นั้นเป็นแบบวงรอบ รอบละ 5 กิโลเมตร และเป็นจุดรวมพลจักรยานของเมืองพิษณุโลก ตอนเย็น ๆ จะมีทั้งขาแรงและบุคคลผู้เริ่มขี่จักรยานมาออกกำลังกายกันเต็มไปหมด

การขี่เป็นไปแบบขี่เดี่ยวไทม์ทอัล ทำเวลากับตัวเอง ฉนั้น การเลือกที่จะต่อสู้กับความปวดร้าวของกล้ามเนื้อขา เลือกที่จะทนต่อความเจ็บปวด หนทางที่จะรักษาให้เกิดขึ้นและคงอยู่กับตนเองแบบนานที่สุดนั้น มีโอกาสอันมากในการที่จะเร่งตาม ไล่บดขยี้ ไล่คนที่อยู่ข้างหน้าเรา เมื่อตนเองมองเห็นคนขี่จักรยานอยู่ข้างหน้าราว ๆ 50 เมตร หรือ 100 เมตร เป็นอันว่า การสร้างพลังใจให้ไล่ตามหรือขี่เพื่อเอาชนะ หรือไล่ให้เข้าไปไกล้กว่านี้อีกนิดหนึ่ง อีกนิดหนึ่ง เกิดขึ้นกับตนเองตลอดเวลาในห้วงของการฝึกขี่แบบเอาชนะแรงต้าน ....

ข้าพเจ้าไม่เลือกที่จะขี่จักรยานแบบไปเรื่อย ๆ เฉย ๆ แบบทำเป็นทองไม่รู้ร้อน หรือแบบไร้ความพยายาม เมื่อขี่จักรยานแล้ว ความพยายามที่จะทำให้ตัวเองดีขึ้น เป็นทางเลือกสำคัญสำหรับตัวเอง......
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

:D :) ;) :lol: :x :P :cry: :roll:
รูปประจำตัวสมาชิก
ball เท้าไฟ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2698
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2008, 12:45
Tel: 081-5325743
team: AIRPORT GROUP PHITSANULOK (AGP)
Bike: PRINCIPIA
ติดต่อ:

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย ball เท้าไฟ »

sakdadej เขียน:อ่านแล้วได้สาระความรู้ดีครับ .....รอติดตามต่อครับขอบคุณ
พี่ศักดาอ่านแล้วออกไปปั่นด้วยนะคับ เพราะรู้สึกว่าพี่จะมีปัญหาเรื่องแรงต้านทางกายภาพมากกว่าใคร
http://www.facebook.com/group.php?gid=140187639353305
ball-55@hotmail.com
แอร์พอร์ท กรุ๊ป สุขภาพดี สังคมดี
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

แหม...แสดงว่าอ่านแล้วเข้าใจเน๊าะ...น้องบอล ...


.
.
รูปประจำตัวสมาชิก
ตง อุลลิช
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 400
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 10:10
Tel: 087-0001604
team: ขี่มั่วให้ทั่วไทย
Bike: LOOK เทียม

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย ตง อุลลิช »

สวัสดีพี่เนิ่มครับ....

มีทริปสนุกๆ ลงให้ชมบ้างนะครับ
รบกวนฝากเวปครับ

http://www.bicycletripthai.com/
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

สวัสดีครับ เข้าไปเยี่ยมมาแล้ว ไว้จะเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกนะครับ คุณ ตง อุลลิช
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

ความพยายามที่จะไปให้ถึงจุดอันเกิดความเหนื่อยล้า จุดสูงสุดของความสามารถตนเองนั้น คือเรื่องการเอาชนะแรงต้านทานทั้งจากภายนอก ภายในทั้งสิ้น ....

สิ่งที่เราท่านต่างมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิงคือเรื่องการเรียนรู้ตนเองขณะที่กำลังทำการปั่นจักรยาน เรียนรู้ว่าขี่ในระดับความหนักขนาดนี้ จะเกิดผลอย่างไรกับกล้ามเนื้อตน ขี่ที่ความหนักต่ำ รอบขาสูง จะเกิดอะไรขึ้นกับระบบหัวใจใหลเวียนเลือด แม้กระทั่งในห้วงของการขี่จักรยานแบบคุมโซน แบบที่ใช้เครื่องมือวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ในระดับโซนเดียวกัน ชีพจรเท่ากัน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ความรู้สึกกับสภาวะความเหนื่อยล้าจะไม่เหมือนกัน เช่นที่ความเหนื่อยในระดับ E3 อัตราการเต้นของหัวใจประมาณ 175 -185 ครั้งต่อนาที แต่เมื่อใช้เกียร์เดโชว์ที่แตกต่างกัน ความรู้สึกของเรื่องความเหนื่อยล้ายังไม่เหมือนกับทางด้านอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเรื่องนี้ ถือว่าเป็นศาสตร์ที่จะต้องทำการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ค้นหาว่าถ้าเราจะเป็นนักกีฬาที่ดีได้ เราควรหรือไม่ที่จะต้องเรียนรู้เรื่องศาสตร์ทางจิตใจ

ในห้วงระหว่างการแข่งขัน สภาวะที่เกิดความกดดัน อัตรารการเต้นของหัวใจแทบจะใจสลายเมื่อเหลือบมองดูเรือนหน้าปัดที่บ่งบอกว่าในขณะนี้ แค่เราขี่จักรยานเบา ๆ แล้วทำไมถึงได้เต้นกระโดดโครมครามไปไกลมากถึงปานนั้น ......

เรื่องมาตรวัดทางด้านภายใน เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือถือว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างสูงยิ่ง มิฉนั้น เราจะไม่สามารถสัมพันกับร่างกายตนเองได้ ....

แต่เรื่องที่ถูกมองข้ามไป และกายเป็นเรื่องของความล้าสมัย แถมถูกวิจารณ์ในเชิงดูหมิ่น ดูแคลน ว่าใช้ไม่ได้ผล นั้นคือเรื่องการวัดด้วยความรู้สึกแห่งตน ประเมินตัวเองโดยไร้มารตวัด ท่านว่าจริงไหม.....

แน่นอนว่าในเรื่องของทางวิทยาศาสตร์การกีฬาจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะค้นหาคำตอบว่า การฝึกซ้อมของบุคคล ๆ นี้ มีความเจริญก้าวหน้าไปได้ไกลขนาดไหนแล้ว มีการพัฒนาเกิดขึ้นไหมจากกระบวนการฝึกซ้อม โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ มาวิเคราะห์เจาะลึกแบบเป็นตัวเลข ยืนยันกันให้เห็นสถิติอย่างชัดเจน สามารถประเมินได้ว่าคน ๆ นี้ ขาดตกบกพร่องทางไหนบ้าง เช่นขาดเรื่องความแข็งแร็ง เราก็จะทราบได้ ขาดเรื่องความอดทน ขาดเรื่องพลัง เราทราบได้หมด

แต่เครื่องมือไม่สามารถทราบได้ว่า จิตใจของท่านนั้น จะมีความเป็นเพ็รชฆาตสู้ไม่มีวันถอยได้ในการแข่งขันจักรยานหรือไม่ จิตใจของท่านนั้น จะแข็งแกร่งดั่งภูผาหินหรือไม่ จิตใจของเรานั้น จะต่อสู้กับอุปสรรคในการเผชิญความเป็นจริง ความกดดันที่เกิดขึ้นกับตนเองได้หรือไม่ เรื่องทางด้านจิตใจนั้น ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือทางวิทยาศาตร์ในโลกหล้าสามารถที่จะกระทำให้มนุษย์ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อก้าวเดินไปสู่จุดความสามารถอันสูงสุดในความเป็นมนุษย์ได้ ....ท่านว่าจริงหรือไม่....
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

วิทยาศาสตร์ทางเทคโนโลยี จิตใจความรู้สึกนึกคิด เป็นความสัมพันธ์ที่จะประกอบเป็นความสามารถสูงสุดของตัวเราเองได้ การผสมผสานกันทั้งสองอย่าง จะเป็นความสัมพันธ์ที่จะเดินทางไปสู่ความเป็นเลิศได้อย่างสมบูรณ์สูงสุดเช่นกัน....

ในกระทู้แห่งนี้คงเป็นเรื่องที่ว่าด้วยการเรียนรูความรู้สึกนึกคิดของตนเอง สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในขณะจิตที่ตนเองกำลังประกอบกิจกรรม .....
รูปประจำตัวสมาชิก
เนิ่ม ชมภูศรี
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6448
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:02
Tel: 081 7533298
team: ศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 PBC PHITSANULOK
Bike: connago....KAZA...GIANT...GT....

Re: ......................'' ปฏิวัติตนเองสู่วิถีปี 52 ......''

โพสต์ โดย เนิ่ม ชมภูศรี »

จะทำอย่างไรดีละเมื่อขี่เท่าไหร่ก็ยังไล่คนข้างหน้าไม่ได้ซักที ทั้งที่เราก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แถมด้วยกลุ่มใหญ่ที่ไล่มาข้างหลังก็ไล่เข้ามาทีละนิด ๆ เราอยู่ระหว่างกลางของกลุ่มจักรยานทั้งสองทีม การพยายามที่จะไล่ข้างหน้าให้ทัน การปั่นให้หนีกลุ่มข้างหลังเป็นดั่งเกมส์ที่เคยได้ลงทำการแข่งขันมาแล้วเมื่อในอดีต...

หากแต่ว่าวันนี้นั้น เป็นการฝึกซ้อมที่อาศัยสายเลือดในความเป็นนักกีฬาจักรยานเก่า จิตใจของตนเอง มีเรื่องแปลกประหลาดอยู่นิดหน่อย คือเมื่อได้จับจักรยานแล้ว การที่จะมาขี่เล่นหัวแบบไปเรื่อย ๆ นั้นไม่มี มีแต่ความกระสันอยากที่จะปั่นจักรยานให้เร็ว ยิ่งเมื่อขี่กันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยแล้ว ความรู้สึกมันส์ในอารมณ์ตนเองเกิด มักจะไม่ยอมแพ้อย่างง่าย ๆ ทั้งที่ไม่เคยได้ซ้อมจักรยานเลย แต่ด้วยคงเป็นเพราะหนทางในการต่อสู้บนอานจักรยานเมื่อครั้งก่อนเก่า คงติดเป็นนิสัยความเคยชิน ยามใดเมื่อปั่นจักรยาน เป็นอันต้องขี่แบบเกินความสามารถของตัวองตลอด ในวันนี้ก็เช่นกัน ข้าพเจ้าเป็นคนที่อยู่ระหว่างทีมจักรยานทั้งสอง รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีความสามารถที่จะไล่ตามข้างหน้าให้ทันได้ และทราบอยู่แก่ใจตนเมื่อเหลือบไปมองเห็นกลุ่มที่ไล่ตามมาข้างหลัง แต่ยิ่งมองข้างหน้ายิ่งเหมือนสิ่งเร้าให้เราไล่ไปให้เร็วที่สุด ยิ่งมองข้างหลังยิ่งบอกกับตัวเองว่ามาทันเมื่อใดมันส์แน่ ๆ .....
ตอบกลับ

กลับไปยัง “AIRPORT GROUP PHITSANULOK”