สรุปทริปปั่นไกลถึงไต้หวัน กับ ฟอลคอนไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
สรุปทริปปั่นไกลถึงไต้หวัน กับ ฟอลคอนไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
[align=center]
[align=center]ทริปปั่นไกลถึงไต้หวัน กับ ฟอลคอนไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559[/align]
มีโอกาสได้ไปปั่นจักรยานที่ประเทศไต้หวัน กับ ฟอลคอนไอไบค์ ประกันภัยจักรยาน ที่จัดกิจกรรม “นำผู้โชคดีปั่นไกลถึงไต้หวัน” เลยถือโอกาสนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับคนอยากไปปั่นจักรยานที่ไต้หวันกันบ้าง ทริปนี้เริ่มออกเดินทางกันจากสนามบินดอนเมือง ในคืนวันที่ 22 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา โดยรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเวลา 5 ทุ่ม เพื่อทำการรวมพลสมาชิกในทริป เตรียมเอกสาร และ สัมภาระ ก่อนที่จะทำการเช็คอินเตรียมขึ้นเครื่อง งานนี้ผมขนรถจักรยานพับไปขี่ที่นั่นด้วย ทริปนี้คณะของเราเดินทางไปไต้หวันด้วยสายการบิน NOKSCOOTซึ่งอนุญาตให้สามารถขนจักรยานไปได้ฟรี โดยที่จักรยานจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกร้ม (รวมกล่องหรือถุงใส่แล้ว) และ ยังอนุญาตให้ขนสัมภาระส่วนตัวได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม งานนี้ผมขนสัมภาระส่วนตัวแยกเป็นสองกระเป๋าคือ เป้สำหรับใส่ของติดตัว และ กระเป๋าเข็นสำหรับใส่เสื้อผ้าและของใช้
หลังจากตระเตรียมตรวจสอบเอกสาร และ สัมภาระแล้วทางคณะของเราก็ได้ทำการเช็คอินที่เค้าเตอร์ของ NOKSCOOT เพื่อที่จะรอขึ้นเครื่อง ซึ่งวันนั้นโดยสารเที่ยวบิน XW182 โดยเครื่องจะออกจากสนามบินดอนเมืองเวลา 3.10 น หลังจากเช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกเมืองตามปกติ แล้วมาพักผ่อนรอขึ้นเครื่อง ภายในบริเวณประตูขึ้นเครื่อง ซึ่งก็หลับได้ตื่นหนึ่งพอดี พอใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องพนักงานของ NOKSCOOT ก็ได้ประกาศเรียกขึ้นเครื่อง หลังจากนั้นก็บินลัดฟ้าผ่าน ลาว เวียดนาม ออกทะเลจีนใต้ แล้วก็มาลงจอดที่ไต้หวัน
[align=center][/align]
[align=center]สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักฟอลคอน iBike ลองคลิกดูรายละเอียดได้จากคลิบนี้[/align][homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 933667.jpg[/homeimg]
[/align][align=center]ทริปปั่นไกลถึงไต้หวัน กับ ฟอลคอนไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559[/align]
มีโอกาสได้ไปปั่นจักรยานที่ประเทศไต้หวัน กับ ฟอลคอนไอไบค์ ประกันภัยจักรยาน ที่จัดกิจกรรม “นำผู้โชคดีปั่นไกลถึงไต้หวัน” เลยถือโอกาสนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับคนอยากไปปั่นจักรยานที่ไต้หวันกันบ้าง ทริปนี้เริ่มออกเดินทางกันจากสนามบินดอนเมือง ในคืนวันที่ 22 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา โดยรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเวลา 5 ทุ่ม เพื่อทำการรวมพลสมาชิกในทริป เตรียมเอกสาร และ สัมภาระ ก่อนที่จะทำการเช็คอินเตรียมขึ้นเครื่อง งานนี้ผมขนรถจักรยานพับไปขี่ที่นั่นด้วย ทริปนี้คณะของเราเดินทางไปไต้หวันด้วยสายการบิน NOKSCOOTซึ่งอนุญาตให้สามารถขนจักรยานไปได้ฟรี โดยที่จักรยานจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกร้ม (รวมกล่องหรือถุงใส่แล้ว) และ ยังอนุญาตให้ขนสัมภาระส่วนตัวได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม งานนี้ผมขนสัมภาระส่วนตัวแยกเป็นสองกระเป๋าคือ เป้สำหรับใส่ของติดตัว และ กระเป๋าเข็นสำหรับใส่เสื้อผ้าและของใช้
หลังจากตระเตรียมตรวจสอบเอกสาร และ สัมภาระแล้วทางคณะของเราก็ได้ทำการเช็คอินที่เค้าเตอร์ของ NOKSCOOT เพื่อที่จะรอขึ้นเครื่อง ซึ่งวันนั้นโดยสารเที่ยวบิน XW182 โดยเครื่องจะออกจากสนามบินดอนเมืองเวลา 3.10 น หลังจากเช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกเมืองตามปกติ แล้วมาพักผ่อนรอขึ้นเครื่อง ภายในบริเวณประตูขึ้นเครื่อง ซึ่งก็หลับได้ตื่นหนึ่งพอดี พอใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องพนักงานของ NOKSCOOT ก็ได้ประกาศเรียกขึ้นเครื่อง หลังจากนั้นก็บินลัดฟ้าผ่าน ลาว เวียดนาม ออกทะเลจีนใต้ แล้วก็มาลงจอดที่ไต้หวัน
[align=center][/align]
[align=center]สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักฟอลคอน iBike ลองคลิกดูรายละเอียดได้จากคลิบนี้[/align][homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 933667.jpg[/homeimg]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
[align=center][/align]
ไหนๆก็มาเที่ยวไต้หวันกันแล้ว มาทำความรู้จักกับประเทศไต้หวันกันก่อน ไต้หวันเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะ แต่เดิมอาศัยอยู่เฉพาะคนพื้นเมืองซึ่งเป็นคนเผ่าอะบอริจิ้น ว่ากันว่าอพยพมาจากทวีปออสเตเรีย และมีชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาอาศัยร่วมด้วย จนกระทั่งชาววิลันดาและสเปนเดินทางเข้ามาในยุคสำรวจเมื่อศตวรรษที่ 17 และมาตั้งบ้านเรือนกลายเป็นนิคมใหญ่โต ต่อมาในปี 1662 ราชวงศ์หมิงในแผ่นดินใหญ่ถูกราชวงศ์ชิงแทนที่ เจิ้ง เฉิงกง ขุนศึกหมิง รวมกำลังหนีมาถึงเกาะไต้หวัน และเข้ารุกไล่ฝรั่งออกไปได้อย่างราบคาบ เขาจึงตั้งราชอาณาจักรตงหนิง ขึ้นบนเกาะเพื่อ "โค่นชิงฟื้นหมิง" แต่ในปี 1683 ราชวงศ์ชิงปราบปรามอาณาจักรตงหนิงและเข้าครอบครองไต้หวัน เป็นผลสำเร็จ ไต้หวันจึงกลายเป็นมณฑลหนึ่งของจีน หลังจากนั้นซักระยะหนึ่งได้เกิดความบาดหมางระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เป็นเหตุให้ญี่ปุ่นได้ไต้หวันไปในปี 1895 ช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวันนั้นได้วางโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาไต้หวันเหมือนเป็นส่วนของประเทศตนเอง หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็ต้องเสียไต้หวันคืนให้แก่จีนในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากนั้น มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน พรรคชาตินิยม ได้เป็นใหญ่ แต่ไม่นานก็เสียทีให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ พรรคชาตินิยมจึงหนีมายังเกาะไต้หวัน ยังคงใช้ชื่อสาธารณรัฐจีน แล้วเป็นที่ยอมรับว่าเป็นรัฐบาลจีนโดยชอบธรรม จนถึงปีค.ศ.1971 เมื่อประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ จึงทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ใช้ชื่อสาธาณรัฐประชาชนจีน ในองค์การสหประชาชาติแทน อย่างไรก็ดี ทางจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงถือว่า ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน และไม่ยอมรับว่าประเทศไต้หวันเป็นรัฐเอกราช ส่วนฝ่ายไต้หวันยังคงอ้างตนเป็นรัฐบาลจีนโดยชอบธรรมมาตลอดจนถึงบัดนี้
ถ้าจะเอาแบบให้เห็นภาพชัดขึ้นอีกก็คือ หลังจากที่ ซุน ยัด เซ็น ได้ล้มราชวงศ์ชิงระหว่างการปฏิวัติซินไฮ่ ได้ตั้งสาธารณรัฐจีนก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1912 และภายหลังร่วมก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ซุนเป็นบุคคลผู้สร้างความสามัคคีในจีนหลังยุคจักรวรรดิ และยังคงเป็นนักการเมืองจีนสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างกว้างขวางจากประชาชนทั้งสอง ฟากฝั่งช่องแคบไต้หวัน
[align=center]
รูปของ ซุน ยัด เซ็น [/align]
เมื่อ ซุน ยัตเซน ถึงแก่อสัญกรรม ในปี พ.ศ. 2468 (ค.ศ. 1925) เจียง ไคเชกได้เป็นผู้นำพรรคแทน และพยายามรวบอำนาจในพรรคด้วยการกำจัดแกนนำพรรคคนอื่น ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งด้วยอำนาจทหารและอำนาจเงิน โดยมีการต่อท่อสายสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น กระทั่งสามารถยกตนเองก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของ สาธารณรัฐจีน
[align=center]
รูปของ เจียง ไคเช็ค[/align]
เจียง ไคเชกย้ายที่ตั้งรัฐบาลไปอยู่เมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งอยู่ใกล้กับภูมิลำเนาเดิมบ้านที่มณฑลเจ้อเจียง แต่จากปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง และถูกซ้ำเติมด้วยการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นจนเกิดความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เป็นเหตุให้เกิดกลุ่มต่อต้านขึ้นมามากมาย เพื่อโค่นล้มการปกครองของพรรคก๊กมินตั๋ง กลุ่มที่สำคัญที่สุดคือ พรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมีเหมาเจ๋อตุง เป็นแกนนำสำคัญของพรรคนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2464 (ค.ศ. 1921)
[align=center]
รูปของเหมา เจ๋อ ตุง[/align]
ความบาดหมางระหว่างทั้งสองพรรคได้กลายเป็นสงครามกลางเมือง ขึ้นหลายครั้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2470 ถึง พ.ศ. 2480 (ค.ศ. 1927) ถึง (ค.ศ. 1937) และระหว่างปี พ.ศ. 2489 ถึง พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1946) ถึง (ค.ศ. 1949) แต่บางครั้งทั้งสองฝ่ายก็หันมาร่วมมือกัน เช่น ในสงครามจีน-ญี่ปุ่น ระหว่างปี พ.ศ. 2480 (ค.ศ. 1937) ถึงปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) และในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยในช่วงหลังปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) การทำสงครามกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ รัฐบาลเจียง ไคเชกเป็นฝ่ายแพ้ต้องอพยพไปตั้งรัฐบาลจีนคณะชาติที่ไต้หวันในปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาด้วยดีตลอดมาจนถึงปี พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) จีนคณะชาติที่ไต้หวันถึงถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ เปิดทางให้สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าเป็นสมาชิกแทน
ช่วงที่อพยพผู้คนจากแผ่นดินใหญ่มาที่เกาะไต้หวัน เจียง ไคเชค ได้ทำการคัดเลือกเฉพาะคนระดับหัวกระทิในสายอาชีพต่างๆมาอยู่บนเกาะไต้หวัน รวมทั้งยังมีพ่อค้าคนสำคัญที่มีธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ติดตามมาด้วย นอกจากนั้นยังได้ขนสมบัติล้ำค่าจากพระราชวังต้องห้าม โดยคัดเฉพาะชิ้นที่สำคัญๆมาไว้ที่ไต้หวันอีกด้วย
พักเรื่องราวประวัติศาสตร์และการเมืองของไต้หวันกัน แล้วมาดูเรื่องลักษณะภูมิศาตร์และกายภาพกันก่อนน่ะครับ ไต้หวันเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะมีพื้นที่ 35,980 ตร.กม หรือ ประมาณภาคตะวันออกของบ้านเรา มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน มีเงินเป็นสกุลของ คือ New Taiwan Dollar (NT$) หรือ TWD พื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 70 % ของประเทศเป็นภูเขา จะมีพื้นราบเฉพาะฝั่งตะวันตกของประเทศ
[align=center][/align]
[align=center]พื้นที่ของประเทศไต้หวัน มีขนาดใกล้เคียงกับภาคตะวันออกของประเทศไทย[/align]
[align=center][/align]
ไหนๆก็มาเที่ยวไต้หวันกันแล้ว มาทำความรู้จักกับประเทศไต้หวันกันก่อน ไต้หวันเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะ แต่เดิมอาศัยอยู่เฉพาะคนพื้นเมืองซึ่งเป็นคนเผ่าอะบอริจิ้น ว่ากันว่าอพยพมาจากทวีปออสเตเรีย และมีชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาอาศัยร่วมด้วย จนกระทั่งชาววิลันดาและสเปนเดินทางเข้ามาในยุคสำรวจเมื่อศตวรรษที่ 17 และมาตั้งบ้านเรือนกลายเป็นนิคมใหญ่โต ต่อมาในปี 1662 ราชวงศ์หมิงในแผ่นดินใหญ่ถูกราชวงศ์ชิงแทนที่ เจิ้ง เฉิงกง ขุนศึกหมิง รวมกำลังหนีมาถึงเกาะไต้หวัน และเข้ารุกไล่ฝรั่งออกไปได้อย่างราบคาบ เขาจึงตั้งราชอาณาจักรตงหนิง ขึ้นบนเกาะเพื่อ "โค่นชิงฟื้นหมิง" แต่ในปี 1683 ราชวงศ์ชิงปราบปรามอาณาจักรตงหนิงและเข้าครอบครองไต้หวัน เป็นผลสำเร็จ ไต้หวันจึงกลายเป็นมณฑลหนึ่งของจีน หลังจากนั้นซักระยะหนึ่งได้เกิดความบาดหมางระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เป็นเหตุให้ญี่ปุ่นได้ไต้หวันไปในปี 1895 ช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวันนั้นได้วางโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาไต้หวันเหมือนเป็นส่วนของประเทศตนเอง หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็ต้องเสียไต้หวันคืนให้แก่จีนในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากนั้น มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน พรรคชาตินิยม ได้เป็นใหญ่ แต่ไม่นานก็เสียทีให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ พรรคชาตินิยมจึงหนีมายังเกาะไต้หวัน ยังคงใช้ชื่อสาธารณรัฐจีน แล้วเป็นที่ยอมรับว่าเป็นรัฐบาลจีนโดยชอบธรรม จนถึงปีค.ศ.1971 เมื่อประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ จึงทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ใช้ชื่อสาธาณรัฐประชาชนจีน ในองค์การสหประชาชาติแทน อย่างไรก็ดี ทางจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงถือว่า ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน และไม่ยอมรับว่าประเทศไต้หวันเป็นรัฐเอกราช ส่วนฝ่ายไต้หวันยังคงอ้างตนเป็นรัฐบาลจีนโดยชอบธรรมมาตลอดจนถึงบัดนี้
ถ้าจะเอาแบบให้เห็นภาพชัดขึ้นอีกก็คือ หลังจากที่ ซุน ยัด เซ็น ได้ล้มราชวงศ์ชิงระหว่างการปฏิวัติซินไฮ่ ได้ตั้งสาธารณรัฐจีนก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1912 และภายหลังร่วมก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ซุนเป็นบุคคลผู้สร้างความสามัคคีในจีนหลังยุคจักรวรรดิ และยังคงเป็นนักการเมืองจีนสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างกว้างขวางจากประชาชนทั้งสอง ฟากฝั่งช่องแคบไต้หวัน
[align=center]
รูปของ ซุน ยัด เซ็น [/align]
เมื่อ ซุน ยัตเซน ถึงแก่อสัญกรรม ในปี พ.ศ. 2468 (ค.ศ. 1925) เจียง ไคเชกได้เป็นผู้นำพรรคแทน และพยายามรวบอำนาจในพรรคด้วยการกำจัดแกนนำพรรคคนอื่น ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งด้วยอำนาจทหารและอำนาจเงิน โดยมีการต่อท่อสายสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น กระทั่งสามารถยกตนเองก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของ สาธารณรัฐจีน
[align=center]
รูปของ เจียง ไคเช็ค[/align]
เจียง ไคเชกย้ายที่ตั้งรัฐบาลไปอยู่เมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งอยู่ใกล้กับภูมิลำเนาเดิมบ้านที่มณฑลเจ้อเจียง แต่จากปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง และถูกซ้ำเติมด้วยการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นจนเกิดความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เป็นเหตุให้เกิดกลุ่มต่อต้านขึ้นมามากมาย เพื่อโค่นล้มการปกครองของพรรคก๊กมินตั๋ง กลุ่มที่สำคัญที่สุดคือ พรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมีเหมาเจ๋อตุง เป็นแกนนำสำคัญของพรรคนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2464 (ค.ศ. 1921)
[align=center]
รูปของเหมา เจ๋อ ตุง[/align]
ความบาดหมางระหว่างทั้งสองพรรคได้กลายเป็นสงครามกลางเมือง ขึ้นหลายครั้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2470 ถึง พ.ศ. 2480 (ค.ศ. 1927) ถึง (ค.ศ. 1937) และระหว่างปี พ.ศ. 2489 ถึง พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1946) ถึง (ค.ศ. 1949) แต่บางครั้งทั้งสองฝ่ายก็หันมาร่วมมือกัน เช่น ในสงครามจีน-ญี่ปุ่น ระหว่างปี พ.ศ. 2480 (ค.ศ. 1937) ถึงปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) และในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยในช่วงหลังปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) การทำสงครามกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ รัฐบาลเจียง ไคเชกเป็นฝ่ายแพ้ต้องอพยพไปตั้งรัฐบาลจีนคณะชาติที่ไต้หวันในปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาด้วยดีตลอดมาจนถึงปี พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) จีนคณะชาติที่ไต้หวันถึงถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ เปิดทางให้สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าเป็นสมาชิกแทน
ช่วงที่อพยพผู้คนจากแผ่นดินใหญ่มาที่เกาะไต้หวัน เจียง ไคเชค ได้ทำการคัดเลือกเฉพาะคนระดับหัวกระทิในสายอาชีพต่างๆมาอยู่บนเกาะไต้หวัน รวมทั้งยังมีพ่อค้าคนสำคัญที่มีธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ติดตามมาด้วย นอกจากนั้นยังได้ขนสมบัติล้ำค่าจากพระราชวังต้องห้าม โดยคัดเฉพาะชิ้นที่สำคัญๆมาไว้ที่ไต้หวันอีกด้วย
พักเรื่องราวประวัติศาสตร์และการเมืองของไต้หวันกัน แล้วมาดูเรื่องลักษณะภูมิศาตร์และกายภาพกันก่อนน่ะครับ ไต้หวันเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะมีพื้นที่ 35,980 ตร.กม หรือ ประมาณภาคตะวันออกของบ้านเรา มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน มีเงินเป็นสกุลของ คือ New Taiwan Dollar (NT$) หรือ TWD พื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 70 % ของประเทศเป็นภูเขา จะมีพื้นราบเฉพาะฝั่งตะวันตกของประเทศ
[align=center][/align]
[align=center]พื้นที่ของประเทศไต้หวัน มีขนาดใกล้เคียงกับภาคตะวันออกของประเทศไทย[/align]
[align=center][/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
บรรยากาศช่วงเตรียมตัวกันก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง สมาชิกในทริปนี้มีทั้งหมด 11 คน เป็นชายล้วน เลยคุยกันแบบสบายๆกันตามประสาชายล้วน เป็นเจ้าหน้าที่จากฟอลคอน 2 คน ผู้โชคดีจากประกันภัย iBike 6 คน ไกด์ทัวร์บริษัท ไปไหนไปกัน 2 คน และ ก็ผมไปในนามเว็บ thaimtb.com ทั้งทริบมีการขนจักรยานจากเมืองไทยไปสองคัน มีผมขนรถพับไปคันหนึง และ น้องอีกคนขนเสือหมอบไป นอกนั้นไปเช่าจักรยานที่นู่นขี่กัน
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
เวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ วันที่ 23 มิถุนายน เครื่องบินของ NOKSCOOT เที่ยวบิน XW182 ก็ได้พาคณะของพวกเราลงจอดที่ สนามบินเถาหยวน ซึ่งอยู่จังหวัดไทเป ทางตอนเหนือของไต้หวัน ซึ่งหลังจากที่ผ่านตรวจคนเข้าเมือง และ รับสัมภาระกันแล้ว สิ่งแรกที่ทางคณะทำก็คือการซื้อ SIM Card สำหรับเปลี่ยนในโทรศัพท์มือถือ ให้สามารถออนไลน์ในไต้หวันได้ ด้วยสัญญาณ 4G หรือ จะโทรกลับประเทศไทยก็ยังได้ ถูกกว่าการใช้โรมมิ่งเยอะ ซิมก็มีหลายราคาตั้งแต่ 300 NT ขึ้นไป หลังจากเปลี่ยน SIM กันแล้วก็ได้มาขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางกันต่อไป
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
ปัจจุบันไต้หวันถือว่าเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้ว มีรายได้หลักจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งหลักๆมีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในสองอุตสาหกรรม ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ยังไม่นับพวกมือถืออีก นอกจากนั้นไต้หวันยังมีอุตสาหกรรมหลักๆอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมแปรรูปยาง (ทั้งๆที่เป็นประเทศไม่ได้ปลูกยางพารา) และ อุตสาหกรรมอื่นๆ
ปี 2513 ประเทศไต้หวันมีการลงทุนโครงการเมกกะโปรเจคขนาดใหญ่ถึง 10 โครงการ อาทิเช่น การลงทุนสร้างสนามบินใหม่ โครงการรถไฟฟ้า โครงการสร้างท่าเรือน้ำลึก เพื่อขนส่งสินค้าใหม่หลายแห่ง เช่น ที่เมือง Taichung เมือง Su-on และเมือง Kaohsiung มีการสร้างโรงงานผลิตเหล็กกล้า โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ และอุทยานวิทยาศาสตร์และนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยหลายแห่ง
นอกจากไต้หวันจะมีทางรถไฟรอบเกาะแล้ว ยังมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ด้านฝั่งตะวันตกของประเทศ เชื่อมจากตอนเหนือไปยังตอนใต้ของประเทศอีกด้วย
[align=center]
[/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
[align=center]
หลังจากขึ้นรถบัสกันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปที่เมืองผูหลี่ โดยใช้ทางด่วนของไต้หวัน ซึ่งสะดวกมาก ทางด่วนบ้านเค้าไม่มีตู้จ่ายเงินเหมือนบ้านเรา รถทุกคันจะใช้บัตรผ่านแบบเติมเงินคล้ายๆ Easy pass ของบ้านเรา และ ที่สำคัญรถบนทางด่วนไม่มีใครขับเกินความเร็วที่กำหนด ซึ่งถ้าหากขับเร็วเกินกำหนด จะมีกล้องวงจรปิดเก็บหลักฐานและส่งใบปรับไปให้ถึงบ้าน
[align=center] เริ่มเดินทางออกจากสนามบินเถาหยวน
คุณอาหลง ไกด์ประจำทริปได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมาและเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประเทศไต้หวันให้คณะเราฟัง
ทางด่วนของไต้หวันบางช่วงตอหม้อสูงมาก
เนื่องจากไต้หวันมีพื้นที่ราบน้อยมาก ดังนั้นการสร้างอาคารสูงบนภูเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
วิวบนทางด่วนมองเห็นปล่องของโรงไฟฟ้านิวเคลียล์อยู่ไกลๆ
แม้ไต้หวันจะเป็นประเทศอุตสาหกรรม แต่ก็ยังเห็นพื้นที่การเกษตรสลับกันกับโรงงานอยู่บ้างเป็นช่วงๆ
มอเตอร์เวย์บ้านเค้ามี ที่พักระหว่างทาง หลังจากนี่นั่งรถกันมาร้อยกว่ากิโล คณะเราก็มาหยุดพักหาอะไรทานรองท้องกัน
หลังจากพักก็เดินทางกันต่อไปยังเมืองผูหลี่ ซึ่งสองข้างทางเป็นภูเขาและป่าไม้เต็มไปหมด บางช่วงของทางก็มีลอดอุโมงยาวๆ บางช่วงมอเตอร์เวย์ก็มีตอหม้อที่สูงมาก(เกิน 60 เมตร) เนื่องจากมอเตอร์เวย์เส้นที่ใช้ ผ่านแม่น้ำที่อยู่ใกล้เชิงเขา ในหน้ามรสุมน้ำป่าจะรุนแรงมาก ดังนั้นเขาจึงสร้างทางยกสูง(มาก)เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง[/align]
[align=center] เมื่อถึงเมืองผูหลี่ คณะของเราไว้แวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารเล็กๆภายในเมือง[/align]
[/align]หลังจากขึ้นรถบัสกันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปที่เมืองผูหลี่ โดยใช้ทางด่วนของไต้หวัน ซึ่งสะดวกมาก ทางด่วนบ้านเค้าไม่มีตู้จ่ายเงินเหมือนบ้านเรา รถทุกคันจะใช้บัตรผ่านแบบเติมเงินคล้ายๆ Easy pass ของบ้านเรา และ ที่สำคัญรถบนทางด่วนไม่มีใครขับเกินความเร็วที่กำหนด ซึ่งถ้าหากขับเร็วเกินกำหนด จะมีกล้องวงจรปิดเก็บหลักฐานและส่งใบปรับไปให้ถึงบ้าน
[align=center] เริ่มเดินทางออกจากสนามบินเถาหยวน
คุณอาหลง ไกด์ประจำทริปได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมาและเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประเทศไต้หวันให้คณะเราฟัง
ทางด่วนของไต้หวันบางช่วงตอหม้อสูงมาก
เนื่องจากไต้หวันมีพื้นที่ราบน้อยมาก ดังนั้นการสร้างอาคารสูงบนภูเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
วิวบนทางด่วนมองเห็นปล่องของโรงไฟฟ้านิวเคลียล์อยู่ไกลๆ
แม้ไต้หวันจะเป็นประเทศอุตสาหกรรม แต่ก็ยังเห็นพื้นที่การเกษตรสลับกันกับโรงงานอยู่บ้างเป็นช่วงๆ
มอเตอร์เวย์บ้านเค้ามี ที่พักระหว่างทาง หลังจากนี่นั่งรถกันมาร้อยกว่ากิโล คณะเราก็มาหยุดพักหาอะไรทานรองท้องกัน
หลังจากพักก็เดินทางกันต่อไปยังเมืองผูหลี่ ซึ่งสองข้างทางเป็นภูเขาและป่าไม้เต็มไปหมด บางช่วงของทางก็มีลอดอุโมงยาวๆ บางช่วงมอเตอร์เวย์ก็มีตอหม้อที่สูงมาก(เกิน 60 เมตร) เนื่องจากมอเตอร์เวย์เส้นที่ใช้ ผ่านแม่น้ำที่อยู่ใกล้เชิงเขา ในหน้ามรสุมน้ำป่าจะรุนแรงมาก ดังนั้นเขาจึงสร้างทางยกสูง(มาก)เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง[/align]
[align=center] เมื่อถึงเมืองผูหลี่ คณะของเราไว้แวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารเล็กๆภายในเมือง[/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
หลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จแล้วก็ได้ไปเช่าจักรยานที่ร้านเช่าจักรยานภายในเมือง ซึ่งก็มีจักรยานเสือภูเขา Giant ให้เช่าขี่เยอะตามความสูงของคนขี่
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
หลังจากที่เลือกจักรยานเสร็จแล้ว คณะเราก็ปั่นมุ่งหน้าไปยังสถานที่เที่ยวที่แรกนั่นก็คือ วัดจงไถฉันซื่อ เป็นวัดใหญ่ 1 ใน 4 วัดประจำภาคกลาง ของไต้หวัน เป็นวัดที่ผสมผสานระหว่างหลายๆนิกายเข้าด้วยกัน สามารถนมัสการสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์และพระโพธิสัตว์หลายๆพระองค์ได้ที่นี่ และยังเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่มีห้องเรียนถึง 1,000 ห้อง ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวัน
[align=center] ภาพเส้นทางภายในเมืองผูหลี่ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่มีภูเขาล้อมรอบ บรรรยากาศมองไปเขียวขจีรอบด้าน
จอดรถจักรยานกันที่หน้าวัดจงไถฉันซื่อ วันนั้นก็มีคณะทัวร์ของคนไทยคณะอื่น ไปเที่ยววัดนี้เหมือนกับคณะของเรา
รถจักรยานคันที่ผมมีปัญหานิดหน่อยตอนขาไป ถอดตีนผีก่อนขึ้นเครื่องเพื่อป้องกันปัญหาดร็อบเอ้าท์หัก พอไปถึงประกอบเองไม่เรียบร้อย ทำให้ลงเฟืองเล็กสุดไม่ได้ ก็เลยต้องซ่อมกันนิดหน่อย
ถ่ายรูปที่วัดกันพอหอมปากหอมคอ[/align]
[align=center] ภาพเส้นทางภายในเมืองผูหลี่ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่มีภูเขาล้อมรอบ บรรรยากาศมองไปเขียวขจีรอบด้าน
จอดรถจักรยานกันที่หน้าวัดจงไถฉันซื่อ วันนั้นก็มีคณะทัวร์ของคนไทยคณะอื่น ไปเที่ยววัดนี้เหมือนกับคณะของเรา
รถจักรยานคันที่ผมมีปัญหานิดหน่อยตอนขาไป ถอดตีนผีก่อนขึ้นเครื่องเพื่อป้องกันปัญหาดร็อบเอ้าท์หัก พอไปถึงประกอบเองไม่เรียบร้อย ทำให้ลงเฟืองเล็กสุดไม่ได้ ก็เลยต้องซ่อมกันนิดหน่อย
ถ่ายรูปที่วัดกันพอหอมปากหอมคอ[/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
ในระหว่างที่เที่ยวอยู่ที่วัดจงไถฉันซื่อ ฝนก็ได้ตกลงมา ทำให้คณะของเราต้องเสียเวลาคอยฝนหยุด หลังจากคอยได้สักระยะหนึ่งฝนยังไม่หยุดสนิทเสียทีเดียว อาหลงซึ่งเป็นไกด์ได้โทรศัพท์ไปบอกภรรยาให้ขี่มอเตอร์ไซด์ลุยฝน เพื่อเอาเสื้อกันฝนมาส่งให้คณะของเรา (ลืมบอกไปว่าคุณอาหลงเป็นลูกครึ่งไทย-ใต้หวัน จบ ม.6 ที่เมืองไทยแล้วมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในใต้หวัน ที่สำคัญภรรยาคุณอาหลงเป็นสาวเมืองผูหลี่นี่เอง) หลังจากที่ได้รับเสื้อกันฝนแล้ว คณะของเราจึงขี่จักรยานลุยฝนกลับเข้าสู่ในตัวเมืองผูหลี่ ซึ่งระหว่างทางฝนก็ค่อยๆเบาลง พอจะถึงเมืองผูหลี่ก็หยุดตกโดยสนิท เมื่อถึงตัวเมืองคณะเราก็ได้ขี่จักรยานไปคืนจักรยานกับร้านที่เช่ามา
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
หลังจากที่คืนรถกับร้านเช่าเสร็จแล้ว ทางคณะเรามุ่งหน้าไปทานเมือเย็นที่ร้านสเต็กบุพเฟ่ภายในเมืองกันต่อ อันนี้ขอบรรยาด้วยภาพก็แล้วกันน่ะครับ
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
หลังจากกินมื้อเย็นกันเสร็จคณะเราได้เดินทางไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดเล็กกลางหุบเขา แต่ที่น่าประทับใจคือโรงแรมนี้มีน้ำแร่ให้แช่ทุกห้อง หากไม่ชอบในห้องก็สามารถมาแช่ที่อ่างใหญ่ด้านนอกอาคารก็ยังได้
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
[align=center]
เช้าวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของทริป หลังจากที่ตื่นนอนและกินอาหารเช้าในโรงแรมกันเสร็จแล้ว คณะของเราก็ได้ขึ้นรถบัสจากโรงแรมเพื่อมุ่งหน้าไปยัง ท่าเรือส่วยเส้อ เพื่อที่จะขี่จักรยานเที่ยวรอบทะเลสาบสุริยันจันทรา
[align=center] [/align]
[/align]เช้าวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของทริป หลังจากที่ตื่นนอนและกินอาหารเช้าในโรงแรมกันเสร็จแล้ว คณะของเราก็ได้ขึ้นรถบัสจากโรงแรมเพื่อมุ่งหน้าไปยัง ท่าเรือส่วยเส้อ เพื่อที่จะขี่จักรยานเที่ยวรอบทะเลสาบสุริยันจันทรา
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
ทะเลสาบสุริยันจันทรา
ทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นแหล่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในไต้หวัน ทะเลสาบสุริยันจันทราตั้งอยู่ที่เขตหนานเถา เมืองหยูชี บริเวณโดยรอบของทะเลสาบเป็นบ้านเรืองของชาวเซา หนึ่งในชนเผ่าพื้นเมืองในไต้หวัน ทะเลสาบสุริยันจันทราล้อมรอบไปด้วยเกาะเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ลาลู (Lalu) ทางด้านฝั่งตะวันออกของทะเลสาบคล้ายกับมีพระอาทิตย์ ในขณะเดียวกันทางด้านตะวันตกคล้ายกับมีพระจันทร์ จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรา ทัศนียภาพของพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเป็นที่ดึงดูดทุกคนที่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้
ภาพรวม
ทะเลสาบสุริยันจันทรา ตั้งอยู่ในระดับ 748 เมตร (2,450 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล 27 เมตร (89 ฟุต) จากพื้นผิวบริเวณโดยรอบ และพื้นที่รอบบริเวณทะเลสาบ ประมาณ 7.93 ตารางกิโลเมตร (3.06 ตารางไมล์) บริเวณทะเลสาบห้อมล้อมไปด้วยทางเดินสำหรับการปีนเขาหลายเส้นทาง[1]
โดยทั่วไป ทะเลสาบสุริยันจันทราไม่อนุญาตให้ว่ายน้ำเล่น แต่จะมีการแข่งขันว่ายน้ำประจำปีระยะทาง 3 กิโลเมตร ชื่องานว่า "The Swimming Carnival of Sun Moon Lake" งานถูกจัดขึ้นในช่วงเทศกาลกลางฤดูใบไม้ผลิ ของทุกปี ในหลายปีช่วงหลัง ผู้เข้าแข่งขันมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่น ส่วนเทศกาลอื่นที่จัดงานในช่วงเวลาเดียวกันจะมีทั้งดอกไม้ไฟ, การแสดงแสงสี และคอนเสิร์ตร่วมด้วย
ทะเลสาบและเมืองโดยรอบ เป็น 1 ใน 13 แห่งที่มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามในไต้หวัน สถานที่บริเวณรอบทะเลสาบ ได้แก่ วัดเหวิน หวู่ ถูกสร้างหลังจากการเพิ่มระดับน้ำจากการสร้างเขื่อน จึงทำให้วัดเล็ก ๆ บริเวณนั้นถูกย้ายออกไป เจดีย์ซีอัน ถูกสร้างโดยอดีตประธาธิบดีเจียงไคเช็คในปี 1971 เพื่อระลึกถึงมารดาของท่าน ส่วนวัดอื่น ๆ ที่ได้มีการบันทึกไว้เพิ่มเติม เช่น วัดเจียนจิง วัดเฉียนจาง และวัดเฉียนกวง
[align=center]
Taiwanese aborigines at Sun Moon Lake, photo from a 1926 brochure of the Government of Formosa[/align]
ประวัติ
บันทึกวรรณคดีอังกฤษของ มิชชันนารี จอร์เจียส แคนดิเดียส ในสมัยศตวรรษที่ 17 เรียกทะเลสาบนี้ว่า ทะเลสาบแคนดิเดียส ช่วงตอนกลางของทะเลสาบ คือ เกาะลาลู เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าเซา ในตำนานชาวเซาเป็นนักล่าสัตว์ที่ค้นพบทะเลสาบสุริยันจันทราขณะที่กำลังไล่ล่ากวางขาวผ่านบริเวณหุบเขา และนั่นเอง กวางได้นำพวกเขาไปยังทะเลสาบ นอกจากจะค้นพบทะเลสาบที่สวยงามแล้วพวกเขายังค้นพบแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ด้วยปลา ทุกวันนี้กวางขาวตัวนั้นยังเป็นตำนานที่ไม่มีวันลืมโดยมีรูปปั้นหินอ่อนเป็นสัญลักษณ์บนเกาะลาลู
ช่วงที่ไต้หวันอยู่ภายใต้ยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น ญีปุ่นได้ตั้งชื่อเกาะนี้ว่า "เกาะหยก" หลังจากรัฐบาลแห่งชาติของเจียง ไคเชก ย้ายมาที่ไต้หวัน เกาะดังกล่าวก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น กวงฮัว ("จีนรุ่งโรจน์") และในปี 1978 รัฐบาลท้องถิ่นได้สร้างศาลาใช้สำหรับจัดงานแต่งประจำปี ในปี 1999 เกิดแผ่นดินไหว ชื่อ แผ่นดินไหว921 ได้ทำลายศาลาและจมหายไปในเกาะนั้น ในปีต่อมา การรับรู้ทางด้านสังคมและการเมืองเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความระลึกและเคารพถึงชนพื้นเมืองไต้หวันมากขึ้น ดังนั้น หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว921 จึงได้เปลี่ยนชื่อเกาะตามภาษาดั้งเดิมของชาวเซา ซึ่งก็คือ "เกาะลาลู"
โรงไฟฟ้าพลังน้ำ หลายแห่งได้ถูกสร้างขึ้นที่ทะเลสาบสุริยันจันทราตั้งแต่ปี 1919 รวมถึงเขื่อนหมิงถาน และหมิงฮู เมื่อครั้งที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกสร้างเสร็จในปี 1934 โรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้ถูกนำมาพิจารณาถึงเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในครั้งหน้า ต่อมา เขื่อนหวู่เจีย ได้ถูกสร้างและสร้างเสร็จในปี 1934 มีการผันน้ำจากแม่น้ำซูโจว ทำให้เพิ่มพลังน้ำในทะเลสาบได้มากขึ้นจากเขื่อนแรก ทางรถไฟสายจีจิ จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการก่อสร้าง
ข้อมูลก็อบมาจากลิ้งนี้เลยครับ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97 ... 3%E0%B8%B2
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
เมื่อรถบัสเดินทางมาถึงท่าเรือ ท่าเรือส่วยเส้อ คณะของเราได้เดินไปที่ร้านจักรยาน Giant ซึ่งมีจักรยานดีๆให้เช่าหลายแบบไม่ว่าจะเป็นเสือหมอบ เสือภูเขา ไฮบริด ของยี่ห้อ Giant ซึ่งทางคณะเราก็ได้เลือกเช่ากันตามใจชอบก่อนที่จะออกทริปขี่รอบทะเลสาบสุริยันจันทรากัน ซึ่งมีระยะทางโดยรอบประมาณ 27 กิโลเมตร
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: ทริปปั่นไกลถึงใต้หวัน กับ ฟอลคัลไอไบค์ 22-27 มิถุนายน 2559
ปั่นไปได้สักพักคุณะของเราก็แวะถ่ายรูปกันที่สะพานมัดใจนิรันดร์กาล ซึ่งเป็นจุดนิยมถ่ายรูปแห่งหนึ่งของทะเลสาบสุริยันจันทรา
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]