ThaiMTB.com

ผู้ที่อ่านกระทู้นี้ ถ้ายังไม่มีลูก ปั่นจักรยานอยู่และทำงาน ให้ปั่นจักรยานไปทำงาน ถ้าเป็นผู้มีอายุแล้ว มีลูก มีหลาน บอกลูกให้ปั่นจักรยานไปตลาดนัด ไปโรงเรียน ไปมหาวิทยาลัย แต่ก่อนอื่นเลยสนับสนุนจักรยานให้พวกเขา มีหลานก็คุยกับหลาน คุยกับพ่อแม่ให้อนุญาติเถอะครับ ใช้จักรยานปั่นออกถนนใหญ่ กับรถยนต์ที่คุณ ๆ เก็บเงินใช้เวลาเพื่อซื้อรถยนต์ สิ่งจำเป็นของครอบครัวในความคิดของคนกรุงฯ มอบความคิดสิ่งดี ๆ ด้านดี ๆ ของจักรยาน ปั่นอย่างปลอดภัยอย่างไร แล้วถ้าทุกคนปั่นกันเยอะ ๆ พร้อมกันจะดีอย่างไร รถยนต์ที่ราคาเป็นแสน ๆ มันทำให้วันนี้เป็นอย่างไรในชีวิตประจำวัน รถติด ไปโรงเรียนสาย รถเต็มแล้วเต็มอีกจนขึ้นไม่ได้ ต้องตื่นเช้าเพื่อไปทำงานทั้งที่ไม่จำเลย ที่ทำงาน โรงเรียนก็อยู่ใกล้บ้านนะ แต่รถมันติดเลยต้อง รีบตื่น รีบอาบน้ำ รีบแต่งตัว รีบทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเป็นยังไง พ่อก็ดุลูกแม่ก็ดุลูก พ่อก็อารมณ์เสีย แม่ก็อารมณ์เสียจากการรีบ ๆ ในเช้าวันทำงานและวันไปโรงเรียนของลูก ลูกก็อาจจะมีเจ็บตัวโดนตี รองรับอารมณ์ของพ่อแม่ ส่งท้าย ก้าวลงจากรถยนต์ทุกประเภท แล้วหาจักรยานปั่นกันเถอะครับ ลืมสิ่งเล็ก ๆ ที่เป็นอันตรายกับจักรยานออกไป อากาศดี ๆ บรรยายกาศดี ๆ รอยยิ้ม คำทักทาย สุขภาพดี ๆ รอคุณอยู่ มาสวัสดีครับ !! กันดัง ๆ และ พูดต่อไปว่า ปั่นไปไหนครับ ให้คนบนรถเมล์ที่ไม่มีกระจกได้รู้ ว่าปั่นจักรยานแล้วมีความสุข สู้ต่อไป นักปั่นเพื่อสังคมเปลี่ยน แล้ว ทางจักรยานจะเต็มไปด้วยจักรยาน รถเมล์อาจจะว่างได้ในเวลาเร่งด่วน สบายละทีนี้ สรุปสั้น ๆ คุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยาย ป้า น้า อา อนุญาติให้ลูกหลานของท่าน ปั่นจักรยานไปโรงเรียน เมืองจะเปลี่ยนในทันที เดี๋ยวนี้ ทราบแล้วทำเลยนะครับ สวัสดี

หลายคนยังติดอยู่ในกรอบ ความหรูหราสำอาง ความกลัวเรื่องความปลอดภัยหลายๆอย่าง. แต่ผมคิดว่าสักวันเมื่อพวกเราชาวจักรยานมีประชากรเพิ่มมากขึ้นๆ...คนเหล่านั้น...และผู้บริหารประเทศคงจะหันมามองและคิดกันใหม่และข้ามผ่านกรอบออกมากันมากขึ้นๆครับ.

คำสนทนาของคนปั่นจักรยานทำงานสองคน.

ผมปั่นจักรยานมาทำงานตั้งนานยังไม่เห็นมีใครปั่นมาทำงานด้วยเลย
30 กว่าคนเฉพาะส่วนที่ทำงานห้องเดียวกัน
55555555 จะเปลี่ยนได้ยังไง
ผมอัพเรื่องจักรยานตั้งเยอะไม่กดไลท์ซะคน
โพสในกลุ่มเลย ก็เงียบสนิท
ผมลบออกเลย
55555555

คนตั้ง 60 กว่าล้านคน...เอา 30 คนมาเป็นสถิติไม่ได้ซิ.

คืออย่างน้อย
เขาให้เห็นผมปั่นมาทำวัน
ความคิดที่ไม่ดีว่าปั่นจักรยานแล้วมันไม่ปลอดภัยน่าจะเปลี่ยนไปครับ

อย่างน้อยเราทำให้เขาเห็นว่ามันปั่นได้ไง 1/30 แล้ว.

คือ แค่ผมปั่นแล้วเจอคนปั่นจักรยานร่วมทาง 3 คนรวมผมด้วยผมก็ดีใจแล้ว
คือ ที่ทำงานเต็มที่ก็ชื่นชมผม
ผอ.ส่วนบอกว่า ได้อย่างจะเสียอย่างหรือเปล่า ความคิดระดับ ผอ.ส่วน ซี9 ชำนาญการพิเศษ

เรายังมองไม่เห็นว่าบางคนสะสมพลังงานอยากปั่นเกือบเต็มที่แล้วก็เป็นได้ที่จะออกมาปั่น.

ผมมองว่าคนทำงานอ็อฟฟิตเขาชอบสบายมากกว่า

พยายามต่อไป

แค่เดิน 4 ชั้นเขาก็ก็บ่นกันแล้ว
จริง ๆ แล้วคือมองหลายอย่าง เขาอาจจะคิดว่า สุขภาพดีแล้วได้อะไร
หรืออีกอย่างพอเห็นผมใช้จักรยานแพง
เขาก็อาจจะมองว่าจักรยานปั่นแบบนี้ก็ต้องแพงเขาไม่ปั่นหรอก
แล้วจักรยานเขาก็มองว่าปั่นแค่ในซอยหรือชนบทแถวบ้าน
ที่ฟังมานิดหน่อย
ต้องทำป้ายไปติดบนรถเมล์
"ก้าวลงจากรถเมล์ แล้วปั่นจักรยานกันเถอะ" เหมือนโฆษณาหาเสียง ผู้ว่าฯ
แล้วก็ใส่ความคิดดี ๆ ของจักรยานลงไป

4:16pm
เหมือนคนเข้าวัดนั่งสมาธิอะแหละน้อยคนนักที่จะในตาเห็นธรรมและนำใปปฎิบัติได้จริงๆ.
พวกเราที่ปั่นอาจจะเป็นคนที่เห็นธรรมมะแล้วก็ได้...ใครทำใครได้. เราปั่นก็ได้กับตัวเราก่อน.
วันหนึ่งหากมีคนคิดได้เหมือนเราเยอะๆก็คงจะมีสังคมจักรยานที่เติมโตขึ้น.
หากว่าการปั่นของเรามีส่วนกระตุ้นให้คนอื่นๆคิดปั่นหรือลงมาปั่นกันก็ถือว่าเป็นอนิสงค์แก่ตัวเราเองหละครับ...

พยายามมาตลอด4ปีที่จะดึงคนอื่นมาปั่นครับ
ดึงมาสำเร็จ4คน ตอนนี้ทั้ง4คนเลิกปั่นหมดละ..... เหลือคนเดียวเหมือนเดิม
มันไม่ใช่ง่ายๆนิครับ คนส่วนใหญ่ เขาอยากสบาย อยากหรู อยากสำอาง

umbabab เขียน:พยายามมาตลอด4ปีที่จะดึงคนอื่นมาปั่นครับ
ดึงมาสำเร็จ4คน ตอนนี้ทั้ง4คนเลิกปั่นหมดละ..... เหลือคนเดียวเหมือนเดิม
มันไม่ใช่ง่ายๆนิครับ คนส่วนใหญ่ เขาอยากสบาย อยากหรู อยากสำอาง

อย่าไปคาดหวังคนอื่น...อย่าไปคาดหวังกับสังคมมากครับ...ตัวเราเองยังดำรงค์อยู่ก็เยี่ยมยอดแล้วละครับ.

อันดับแรกเลยครับ กลัวตาย ต่อมาก็สิ่งแวดล้อมไม่อำนวย ที่ทำงานไม่มีห้องอาบน้ำ เจ้านายไม่สนับสนุน เกิดวันไหนมาช้าโดนด่า และบางคนมีลูกเป็นภาระต้องไปรับไปส่ง และอื่นๆบราๆๆๆๆ มีเหตุผลเยอะแยะที่จะไม่ใช้จักรยาน

ผมปั่นไปทำงาน ช่วงปิดเทอมของลูก

อยากปั่นมากครับ แต่ถนน+รถใน กทม ไม่เป็นมิตรต่อจักรยานครับ
อันตราย เกินไป ปกติจะปั่นเป็นกลุ่มๆ ปลอดภัยกว่า
โดยเฉพาะกลางคืน ปั่นเดียว กลัวโจรครับ

แบบว่าปอด...

...ลืมสิ่งเล็ก ๆ ที่เป็นอันตราย... ใครทำได้แล้วทำอยู่ สู้ต่อไปครับ นักปั่นจักรยานเพื่อสังคมเปลี่ยน

wuttichairc เขียน:

umbabab เขียน:พยายามมาตลอด4ปีที่จะดึงคนอื่นมาปั่นครับ
ดึงมาสำเร็จ4คน ตอนนี้ทั้ง4คนเลิกปั่นหมดละ..... เหลือคนเดียวเหมือนเดิม
มันไม่ใช่ง่ายๆนิครับ คนส่วนใหญ่ เขาอยากสบาย อยากหรู อยากสำอาง

อย่าไปคาดหวังคนอื่น...อย่าไปคาดหวังกับสังคมมากครับ...ตัวเราเองยังดำรงค์อยู่ก็เยี่ยมยอดแล้วละครับ.

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่ใช้จักรยาน ก็อยู่กันไปตามสังคม สู้ต่อไป หวังว่าอ่านบทความผมแล้วมีคนทำอย่างที่ผมเขียนผมจะดีใจมาก ^ ^ เมืองจักรยานเกิดจริง ๆ นะ ไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องออกมาบ่น ขอทางจักรยาน

umbabab เขียน:พยายามมาตลอด4ปีที่จะดึงคนอื่นมาปั่นครับ
ดึงมาสำเร็จ4คน ตอนนี้ทั้ง4คนเลิกปั่นหมดละ..... เหลือคนเดียวเหมือนเดิม
มันไม่ใช่ง่ายๆนิครับ คนส่วนใหญ่ เขาอยากสบาย อยากหรู อยากสำอาง

พยายามมา 4 ปี น่ายกย่อง ครับ คนใกล้ชิดปั่นไหมอ่าครับ เหอ

มีคนปั่นบนถนนจำนวนมากที่ไม่ได้เล่นบอร์ดนี้ สู้ต่อไป ใครทำ ทำแล้ว ทำต่อ อยากมีเมืองจักรยานทำกันนะครับ

Boonsongto เขียน:ผมก็คนเดียวที่ปั่นจักรยานมาทำงาน จากบ้านมาโรงงาน เป็นคนเดียวที่ปั่นมา ตอนแรก ๆ เขาก็มอง ๆ กัน แต่ผมก็ไม่สนนะครับ ผมถือว่าเป็นเรื่องของสุขภาพของเรา เวลาเราป่วย คนอื่นก็ไม่ได้มาช่วยเรา แต่พอปั่นมาทุกวันก็เริ่มชิน ก็เริ่มมีคนมาทักทายบ้าง บางคนก็เริ่มสนใจมาสอบถามเรื่องจักรยาน บ้าง เวลามีใครมาคุยเรื่องจักรยาน ผมจะคุยด้วยความรู้สึกเต็มใจและภูมิใจมาก เพราะอยากให้มีคนมาปั่นร่วมกันหลาย ๆ คน (ผมทำงานโรงงานอยู่ในนิคมบางปะอินครับ) อยากให้คนมาปั่นกันเยอะ ๆ พวก ๆ ก็ปั่นกันตอนเย็น ๆ สนุกดีหลังจากลับจากทำงาน หลากหลายอาชีพ ตำรวจก็มี ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมดครับ พอมาจับจักรยาน ไม่มีอาชีพ มีอาชีพเดียวคือเป็นนักปั่นกัน ซึ่งการปั่นไปที่ต่าง ๆ ทำให้เรารู้จักสถานที่ที่เรายังไม่เคยไป มองความเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ที่ทุกคนต้องการความเร่งรีบ แต่พวกผมไปกันเรื่อย ๆ สบายใจ สนุนสนาน และก็ได้สุขภาพที่ดีด้วย ขอสนับสนุนให้ทุกคนอย่าย่อถ้อนะครับ ปั่นต่อไป อย่างน้องถ้าไม่เพื่อใครก็เพื่อตัวคุณเอง .....

เยี่ยมครับ เหมือนผมเลยแรกๆก็ปั่นคนเดียว...ตอนนี้เริ่มมีคนปั่นด้วยบ้างแล้ว...อย่างน้อยลูกน้องเข้ามาใหม่ๆก็ชวนมาปั่นทำงานทางเดียวกับผมเลย...อย่างน้อยก็ปั่นไปกันสองคน จะได้เป็น buddy กันบนถนนด้วยเผื่อเกิดอุบัติเหตุด้วย.

'ต๋าว' ปั่นเดี่ยวไม่มีเพื่อน ไม่คบใครครับ ^^"
ที่ทำงานกะคอนโดใกล้กันนิดเดียว 15-20 นาที เหงื่อไม่ทันซึมก็ถึงซะแร่ะ (มีแวะรายทางซื้อปลาท่องโก๋มั่ง ล๊อตรี่มั่ง อะไรมั่ง สบายใจดีแท้)
ใกล้เกิ๊น เลยไม่มีแนวร่วม 55+