หน้า 1 จากทั้งหมด 1

บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 03 พ.ค. 2013, 00:14
โดย RideforLife
__________________________________________________'เชียงใหม่' แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย__________________________________________________

รูปภาพ

___________________'เชียงใหม่' แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย____________________

รูปภาพ

ผิดแพลน
_______การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางครั้งแรกของพวกเรา ซึ่งมีกันทั้งหมด
สามคน พวกเราชอบอะไรที่คล้ายกันๆ พูดเรื่องเดียวกัน มีอุดมการณ์ร่วมกัน
พวกเราจึงมารวมตัวกันและมีความฝันร่วมกันว่า เราจะปั่นจักรยานไปทุกที่ที่สองล้อ
ของจักรยานจะสามารถพาเราไปได้
_______แพลนของเราตอนแรกคือการนำจักรยานขึ้นรถไฟจากพิจิตรไปเชียงใหม่
ปั่นเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ให้สมใจอยากนอนพักสักคืนจากนั้นปั่นขึ้นดอยสุเทพ
แล้วปล่อยรถให้ไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก โดนลมปะทะจนหน้าชาแล้วอยู่เที่ยว
ตลาดท่าแพมันอีกสักคืนหลังจากนั้นจึงปั่นกลับลงมาพิจิตร แต่การนำจักรยานขึ้น
รถไฟนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟบอกกับเราว่าถ้าหากจะนำ
จักรยานขึ้นรถไฟต้องขึ้นจากสถานีต้นทางเท่านั้น เพราะว่าไม่สามารถบอกได้ว่าตู้
สัมภาระจะเต็มหรือเปล่า แต่พวกเรายังมีความหวังที่จะรอให้รถไฟมาเพื่อที่จะดูว่า
มันสามารถขนจักรยานของพวกเราไปได้ไหม สรุปคือไม่สามารถนำขึ้นไปได้
หน้าของพวกเราซีดเผือดไม่รู้จะรับมือกับปัญหานี้อย่างไรเพราะขณะนั้นฟ้าก็มืดลงแล้ว
ใจหนึ่งก็อยากไปมันซะวันนี้อีกใจก็อยากรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าก่อนแล้วค่อยคิดหาทางอื่น
แต่ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นใจร้อนพวกเราจึงตัดสินใจเดินทางกันภายในคืนนั้น ...

ประสบการณ์ที่ไม่มีรูปถ่ายมายืนยัน
_______หลังจากที่เราตกลงกันแล้วว่าจะออกปั่นกันตอนกลางคืน เมื่อตั้งโซ่ตรวจ
ลมยางเรียบร้อย ก็พร้อมออกเดินทาง เราปั่นออกมาทางพิจิตรสามง่าม ผมหันหลังกลับ
ไปมองต้นยางใหญ่สูงชะลูดข้างทางที่คอยต้อนรับคนที่เดินทางผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้
พลางนึกว่าต้นไม้คงอวยพรให้เราโชคดี
_______เรายิ้มแย้มคุยกันสนุกสนานและตื่นเต้นกับการปั่นจักรยานทางไกลครั้งแรก
พวกเราไม่สนอะไรทั้งนั้นใจพวกเราอยู่เชียงใหม่กันแล้ว
_______เข้าเขตพิษณุโลกผมได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์มาจากทางด้านหลังผม
ประมาณไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ที่ขี่ผ่านพวกเราไป แต่บอกได้เลยว่ามีจำนวนเยอะมาก
พวกเขาขี่มากันเป็นกลุ่มใหญ่เลยทีเดียว ในฐานะนักเดินทางเหมือนกันผมไม่ได้คิดอะไร
นอกเหนือซะจากว่าพวกเขาขี่กันเหมือนงูเลื้อยไม่แน่ใจว่าไปเมาอะไรที่ไหนกันมาหรือเปล่า
ผมกลัวว่านักเดินทางซดน้ำมันพวกนั้นจะมาปะทะเข้ากับนักเดินทางขาปั่นอย่างพวกเรา
แต่นั่นยังไม่แย่พอเมื่อผมสังเกตเห็นไฟสว่างจ้ามาจากทางด้านหน้ามีรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง
ย้อนศรมุ่งตรงมาที่ผมหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ คืนนั้นถ้าผมหักหลบไม่ทันอะไรจะเกิดขึ้น
ผมไม่รู้แน่ชัด แต่นาทีนั้นผมคิดว่าตัวเองรอดมาได้อย่างไร
_______ท่ามกลางถนนที่ไฟจากข้างทางมีบ้างไม่มีบ้างสลับกันไป เราอาศัยไฟดวงน้อย
จากหน้ารถเราที่สว่างพอที่จะเห็นทางข้างหน้าในระยะสองสามเมตร เราปั่นกันมาถึง
มหาวิทยาลัยนเรศวรแล้ว และที่นี่คือจุดหมายของเราในคืนนี้ (ผมมีหอพักอยู่ข้างมหาวิทยาลัย)
เมื่อมาถึงผมคิดอะไรไม่ออกนอกจากจะเข้าไปกราบไหว้อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ที่ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเป็นอันดับแรก เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจในเวลานี้ ผมเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อย
พวกเราพูดคุยกันสนุกสนานเหมือนเดิมและช่วยกันขนของเข้าที่พักตรวจดูสภาพรถสำหรับการเดินทาง
ในวันถัดไปพร้อมเข้านอน ก่อนหลับผมนึกในใจว่าวันนี้พวกเราโชคดีเหลือเกินที่ผ่านพ้นอันตรายมาได้
มันทำให้ผมอุ่นใจเพราะได้อยู่ในที่ที่คุ้นเคย ผมยิ้มที่มุมปากแล้วก็หลับไปพร้อมกับความเหนื่อย ...

รูปภาพ

เมืองในความทรงจำ
_______ผมตื่นเช้าขึ้นมาปลุกทุกคนให้ตื่นจากความเหนื่อยล้าจากเหตุการณ์เมื่อคืน
พวกเราช่วยกันยกสัมภาระเตรียมตัวออกเดินทางต่อ เมื่อจัดการเรื่องอาหารการกิน
เรียบร้อยแล้วเราจึงเข้าไปปั่นเล่นรอบๆ มหาวิทยาลัยกันก่อนเพื่อผ่อนคลาย
หลังจากนั้นเราก็เริ่มปั่นออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์
ระหว่างทางพวกเราคนหนึ่งดันเกิดอุบัติเหตุยางรั่วขึ้นมา เราหาร้านปะยางกันจ้าระหวั่น
เมื่อเจอร้านปะยางเรียบร้อยแล้วเลยคิดกันว่า “นี่เรายังไม่มียางอะไหล่กันเลยนี่หว่า”
เราปั่นหาร้านจักรยานกันทั่วเมืองพิษณุโลกแต่ก็ไม่มีร้านไหนที่มียางขนาดที่เราต้องการ
แต่แล้วก็ได้มีผู้หวังดีแนะนำให้เราไปร้านหนึ่งที่อยู่แถวตำบลปากโทก เราปั่นไปถึงที่นั่นเกือบเที่ยงวัน
เมื่อเราจัดแจงซื้อของกันเสร็จเรียบร้อยทางร้านก็ตรวจดูสภาพรถเราอย่างละเอียดพร้อม
ปล่อยลงถนนอีกครั้งเพื่อออกเดินทางกันต่อ
_______เส้นทางที่เราใช้เดินทางไปนั้นต้องผ่านอำเภอวัดโบสถ์และเข้าอุตรดิตถ์โดยใช้เส้นทางเขาขาด
ขณะปั่นไปจากร้านจักรยานไปอำเภอวัดโบสถ์ระหว่างทางผมเห็นภาพลวงตาแบบ “มิราจ” เกิดขึ้นตลอดทาง
ทุกคนคงเคยเห็นใช่ไหมครับที่ข้างหน้าเราจะมีอะไรบ้างอย่างคล้ายๆกับน้ำเจิ่งนองบนพื้นถนน
ซึ่งมันเกิดจากการหักเหของแสงที่ไม่เท่ากันทำให้เกิดการสะท้อนเข้าตาเรา
ซึ่งหมายความว่าสภาพอากาศขณะนั้นร้อนคล้ายกับการที่เรายืนอยู่ใกล้ๆ เตาถ่านเลยทีเดียว

รูปภาพ

_______เรามาถึงทางขึ้นเขาขาดตอนที่โลกหมุนรอบตัวเองเกินครึ่งรอบมาหกชั่วโมง
นั่นแปลว่าวันนี้เราต้องถึงอุตรดิตถ์ตอนค่ำแน่นอน
_______ตามคาดหมายพวกเรามาถึงอุตรดิตถ์กันช่วงหัวค่ำ ผู้คนยังขวักไขว่กันอยู่ตามท้องถนน
เรารีบหาที่พักกันก่อนเพื่อที่จะนำสัมภาระไปเก็บและออกมาปั่นหาอะไรอร่อยๆ กินกัน
ที่พักของเราเป็นโรงแรมใหม่ดูสะอาดสะอ้านทีเดียว แล้วยังอนุญาตให้เรานำจักรยานเข้าไปเก็บในห้องพักได้อีกด้วย
พวกเราออกมาหาของกินแถวตัวเมือง จำได้ว่าของหวานที่อุตรดิตถ์อร่อยมาก ร้านนั้นอยู่แถวๆ
ห้างฟรายเดย์ในตัวจังหวัด ผู้อ่านคนไหนผ่านมาก็อย่าลืมแวะมาชิมกันนะครับ
_______เนื่องจากเราเป็นนักปั่นมือใหม่เส้นทางวันนี้ถือได้ว่าเป็นการปั่นขึ้นเขาครั้งแรกของพวกเรา
มันสาหัสเอาเรื่องเหมือนกันแต่ก็คุ้มค่ากับการที่ได้มากินของอร่อยๆ และได้กลับมาในเมือง
ที่ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ช่วงวัยเด็กอีกครั้ง ความทรงจำของผมบอกผมว่าพรุ่งนี้ผมควรพาตัวเองกับจักรยานไปที่ไหนบ้าง ...

รูปภาพ

รักเขาข้างเดียว
_______เช้าวันใหม่ที่อุตรดิตถ์ผมตื่นเช้ากว่าเวลาปกติเนื่องจากนอนในที่ที่ไม่เคยชิน
และต้องทำเวลาให้ทันเพื่อที่จะถึงที่หมายก่อนมืดค่ำ เราตื่นมาพร้อมออกไปกินอาหารเช้าที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ให้
หลังจากนั้นก็ได้เวลาเข้าห้องไปจัดระเบียบสัมภาระให้เข้าที่เข้าทางเพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง
เท้าเราแตะบันไดถีบดันขาจานให้ล้อหมุนออกจากที่พักตอนเวลาเช้าตรู่

รูปภาพ

_______ผมมีสถานที่ที่จะต้องไปให้ได้ในวันนี้สามที่ คือ สถานีรถไฟ (ตอนเด็กๆผมชอบมานั่งดูรถไฟที่นี่)
โรงเรียนเก่าที่เคยเรียน และ ศาลากลางจังหวัดเพื่อไปกราบไหว้อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกเดินทาง
ในที่สุดผมก็ได้ไปครบทุกที่สมใจอยาก เนื่องจากอุตรดิตถ์เป็นจังหวัดที่ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ในช่วงวัยเด็ก
พอผมได้กลับไปมันทำให้ผมมีความรู้สึกว่าวัยเด็กที่หอมหวานของผมได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
แม้มันจะอยู่ในช่วงเวลาที่ต่างกันก็ตาม

รูปภาพ

รูปภาพ

_______เราออกจากอุตรดิตถ์และทิ้งความทรงจำวัยเด็กของผมไว้เบื้องหลัง ผมสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาหามันอีกครั้งแน่นอน
เราพักดื่มเครื่องดื่มเย็นๆกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในปั๊มน้ำมันข้างทางก่อนที่จะทำใจกับการปั่นขึ้น “เขาพลึง”
ที่นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์ หลังจากปั่นมาได้ไม่นานรถของพวกเราคันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุยางรั่วระหว่างทาง
ทำให้เราต้องมาเสียเวลากับการเปลี่ยนยางอะไหล่อีกครั้ง การเปลี่ยนยางครั้งแรกของเราน่าตื่นเต้นแปลกๆพิลึกดีเหมือนกัน

รูปภาพ

รูปภาพ

_______พวกเราทั้งสามคนมาถึงทางขึ้นเขาพลึง พร้อมกับป้ายบอกระยะทางว่า “ขึ้นเขายาว 3 กม.” เราเริ่มปั่นขึ้นไปเรื่อยๆ
ยังไม่ทันถึงหลักกิโลแรกก็เริ่มมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับต้นขา เนื่องจากพวกเราต้องรับหน้าที่แบกสัมภาระที่หนักกว่า 20 กก.
และด้วยความที่เป็นตีนใหม่หัดถีบเลยทำให้การขึ้นเขาระยะทางแค่ 3 กม. ทำเอาพวกเราลมจับ
ผมเปลี่ยนเกียร์จนไม่มีเกียร์ให้เปลี่ยนปั่นจนไม่มีแรงให้ปั่น จากนั้นขาของผมก็เริ่มแตะพื้น
สุดท้ายผมยอมรับอย่างไม่อายว่าผมจูงรถขึ้นเขา พวกเราปั่นบ้างจูงบ้างจนในที่สุดเราก็ถึงจุดพักชมวิวจนได้

รูปภาพ

_______พอขึ้นมาได้ต่างคนต่างไม่พูดอะไรนอกจากกระดกน้ำเข้าปากกันอย่างต่อเนื่อง
แล้วพาร่างอันอิดโรยไปหาอาหารกินกันอย่างไม่ปริปากพูดกันสักคำ หลังจากท้องอิ่มได้ที่
พวกเราผลัดกันเล่าถึงความเหน็ดเหนื่อยของแต่ละคนระหว่างทางขึ้นอย่างสนุกสนาน
และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ‘เราต้องเปลี่ยนจุดหมายจากเชียงใหม่เป็นเชียงรายแทน’
_______สาเหตุที่เปลี่ยนจุดหมายเพราะว่าพวกเราคนหนึ่งต้องกลับไปทำธุระที่ต่างจังหวัดและได้มีรถยนต์
มานัดรับเราที่จังหวัดแพร่เพื่อที่จะขึ้นไปยังจังหวัดเชียงราย ผมรู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ทำอย่างไงได้
“ผมยังอยู่บนโลกนี้อีกนานและผมจะมาอีกครั้งก็ไม่เสียหายอะไร” นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

รูปภาพ

_______หลังจากปรึกษาหารือกันเสร็จก็ถึงเวลาที่เราจะปล่อยให้สองล้อของเราไหลลงเขาตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ผมปล่อยมันไหลตามทางลงไปเรื่อยๆพลางคิดว่าการขึ้นลงเขาก็คงเหมือนกับชีวิตของคนเราที่คนเก่าแก่เขาสอนกันไว้ว่า
“ลำบากวันนี้สบายวันหน้า” ก็เห็นจะจริงอย่างทีปู่ย่าตายายท่านสอนไว้ทุกอย่าง
ผมขึ้นเขามาอย่างเหน็ดเหนื่อยสิ่งที่ได้ก็คือการไหลลงเนินอย่างสบายอารมณ์ที่สุด
หากใครถามผมว่าผมเป็นเสือทางเรียบหรือเสือภูเขาผมตอบอย่างไม่อายเลยว่า ผมเสือทางลงครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

_______พวกเราถึงแพร่กันก่อนค่ำ พร้อมไปรอรถที่จะมารับที่จุดนัดพบ เรานัดกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองแพร่
แพร่เป็นเมืองเล็กๆที่มีเสน่ห์ เสียดายที่ผมไม่ได้ปั่นจักรยานชมได้ทั่วเมือง

รูปภาพ

_______การขึ้นเขาวันนี้ทำให้ผมน้อยใจนิดๆ ทั้งๆที่วัยเด็กผมเป็นคนรักต้นไม้กับภูเขาเป็นไหนๆ
รักมากเสียจนอยากปลูกบ้านอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ สักลูกหนึ่งผมคิดว่าถ้าผมรักมันมันก็คงรักผมเหมือนกัน แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่า
“ผมรักเขาข้างเดียว” ...

รูปภาพ

จุดหมายของนักเดินทาง
_______หลังจากที่เรานั่งรถกันมาถึงจังหวัดเชียงราย เราแวะเที่ยวกันก่อนหนึ่งวันที่วัดร่องขุ่น วัดนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะสร้างเสร็จตอนไหน มาทีไรก็มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นมันซะทุกครั้ง วัดร่องขุ่นเป็นวัดที่สร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2540 และคนสร้างเองก็คาดว่าจะไม่เสร็จในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ซะด้วย วัดร่องขุ่นจึงเป็นวัดที่น่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาเยือน

รูปภาพ

รูปภาพ

_______เรานอนพักเชียงรายหนึ่งคืนพอวันรุ่งขึ้นอาทิตย์ยังไม่ทันพ้นขอบฟ้า พวกเราขนจักรยานขึ้นรถยนต์มุ่งตรงไปยังเมืองเชียงใหม่ เพื่อที่จะได้ใช้บริการรถไฟกลับบ้านกันสักที คิดไปคิดมาเราก็ประสบความสำเร็จสำหรับการนำจักรยานขึ้นรถไฟได้สมใจอยากสักที และยังมาถึงเชียงใหม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้อีกต่างหาก แต่เสียดายที่ล้อจักรยานของเราสัมผัสพื้นของเชียงใหม่ได้แค่บริเวณสถานีรถไฟ “สักวันเราจะมาเที่ยวรอบเมืองเชียงใหม่” จักรยานผมคงพูดอย่างนั้นเพราะผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ‘เรามาถึงเชียงใหม่แค่ครึ่งเดียวยังไม่เต็มร้อย’ เจ้าหน้าที่ตีระฆังเป็นสัญญาณให้เรามุ่งหน้าสู่เมืองชาละวันแล้วเราก็เดินทางกันอีกครั้ง
_______แม้ว่า “บ้าน” จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางแต่สุดท้ายแล้วจุดหมายปลายทางของนักเดินทางทุกคนก็คงไม่พ้นกับสถานที่เล็กๆภายในโลกใบใหญ่ที่ชื่อว่า “บ้าน” ผมถึงบ้านแล้วครับ

รูปภาพ

________________________________________________________________________________________________________________RIDE_FOR_LIFE

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 03 พ.ค. 2013, 01:39
โดย Wasuu2530
+100 ครับ

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 03 พ.ค. 2013, 02:32
โดย Chatda
มาถูกทางแล้ววัยรุ่น!!...จำได้ๆแก๊งนี้เคยเจอ... :)

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 03 พ.ค. 2013, 07:57
โดย neungkung
เจ๋งมากครับ

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 03 พ.ค. 2013, 08:30
โดย rumrasin
เยี่ยมครับ บรรยายเห็นภาพเลยเพราะผมขับรถเส้นนั้นตอนไปน่าน สวยมากมาย ^^

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 04 พ.ค. 2013, 21:40
โดย dangpichit
:lol: :lol: :lol: เยี่ยมมากเด็กๆ ....... ความตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่มิใช่ว่ามันจะเป็นความล่มเหลวน่ะครับ ขอให้ทำอย่างซ้ำๆเช่นอย่างงานวิจัย แล้วเราก็จะรู้ว่าความสำเร็จมันเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ......ขอเป็นกำลังใจให้ล่ะกัน :lol: :lol: :lol:

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 07 พ.ค. 2013, 09:06
โดย เสือโชติเทคนิค
:o สุดยอดมาก ถึงแม้จะยังไม่สำเร็จดังที่ตั้งใจ แต่นี่ตือจุดเริ่มต้น เริ่มสร้างประสบการณ์ ต่อไปต้องประสบความสำเร็จแน่นอนถ้าใจเราสู้ซะอย่าง ขอให้กำลังใจ แล้วมาปั่นด้วยกันกับลุงๆทั้งสามนะ :D

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 07 พ.ค. 2013, 14:05
โดย ปูไทย
ผมขี่จักรยานแบบจริงจัง ทั้งในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง มาสิบกว่าปีแล้ว แต่ยังไม่เคยขี่จักรยานทางไกลเลย
น้องๆเก่งมากครับ ขอเป็นกำลังใจให้ ทริปหน้าต้องบรรลุผลแน่นอนครับ
:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

รูปภาพ

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 29 ก.ค. 2013, 07:32
โดย f18hornet
ยอดเยี่ยมครับ

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 08 ส.ค. 2013, 10:06
โดย taoat
เยี่ยมมากครับ...เล่าได้เห็นภาพเหมือนผมอยู่ในเหตุการณ์จริงๆเลยครับ..

Re: บันทึกการเดินทาง ตอน "เชียงใหม่แค่ครึ่งไม่ถึงร้อย" by RideforLife

โพสต์: 08 ส.ค. 2013, 12:14
โดย eeaakk
สุดยอดเลยครับบรรยายซะเห็นภาพ เมื่อก่อนตอนยังไม่เล่นจักรยานเคยนึกเหมือนกันว่าไอ้พวกนี้มันจะปั่นไปไหนร้อนก็ร้อน แต่เดี๋ยวนี้มีคำตอบแล้วครับ555