ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

ผู้ดูแล: น้าเป็ด..., βlue$ushi™, paravatee

กฏการใช้บอร์ด
น้าเป็ด (สัจจา ขุทรานนท์) หัวหน้ากลุ่ม(ผู้ดูแลห้อง1)

๒. βlue$ushi™ (กษิดิ เกษมสวัสดิ์)(ผู้ดูแลห้อง2)
Tel: 081 612 9753,02 589 0804

๓. paravatee (จุฑามณี ภูเดชมณีสถิต น้องออน)(ผู้ดูแลห้อง3)
084-160-5677
รูปประจำตัวสมาชิก
veenono
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 15873
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
Tel: 089 776-9110
team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160

ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย veenono »

คัดลอกมาจากมติชนนะครับ

รูปภาพ
รูปภาพ
พูดคุยทักทาย-แนะนำทาง facebookและอีกหลายๆกิจกรรมจาก veenono คลิ๊กเลย
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
รูปประจำตัวสมาชิก
veenono
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 15873
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
Tel: 089 776-9110
team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย veenono »

ปัญหาจราจรกับที่ทำการใหม่ของ กทม.

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
รักษาการผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
และประธานชมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย


หลายคน แม้แต่คนกรุงเทพอาจไม่รู้ว่ากรุงเทพมหานครหรือที่เรียกกันสั้นๆว่า กทม.
ของเราจะได้มีที่ทำการใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งแห่ง เรียกว่า ‘ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2’
ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2555 อาคารนี้อยู่บนถนนมิตรไมตรี 3 แยกจากถนนประชาอุทิศ
ใกล้ถนนวิภาวดี(ขาเข้า)และถนนดินแดง อาคารดังกล่าวเป็นอาคารสูง 37 ชั้น ซึ่ง
หากรวมกับอีก 2 อาคาร ซึ่งสูงประมาณ 30 ชั้น และกทม.กำลังวางแผนจะก่อสร้าง
ในอนาคตอันใกล้ ก็คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในอาคารนี้ รวมทั้งผู้มาติดต่อขอใช้
บริการหรือมาประชุม ฯลฯ อีกราวไม่น้อยกว่า 30,000 (สามหมื่น) คนต่อวัน
ซึ่งมองจากจำนวนคนขนาดนี้แล้วก็เทียบได้กับเมืองขนาดย่อมเมืองหนึ่งทีเดียว
ซึ่งแน่นอนเมื่อมีคนเข้าออกพื้นที่จำนวนมากขนาดนี้ก็ย่อมต้องส่งผลต่อเนื่องไปยัง
การจราจรในพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ใครที่ต้องมีกิจธุระหรือความจำเป็นที่จะต้องไปแถวนั้นในชั่วโมงเร่งด่วน เช่น ช่วงเวลา
8 โมง ถึง 9 โมงเช้าในวันธรรมดา จะพบปัญหารถติด(มาก)ได้ด้วยตัวเอง จากข้อมูล
ล่าสุดพบว่า ปริมาณการจราจรเฉลี่ยบนถนนวิภาวดีฯขาเข้า เท่ากับ 7,479 คัน และขา
ออกเท่ากับ 8,612 คัน รวมเป็น 16,091 คัน ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ส่วนของถนน
ดินแดง พบว่า เท่ากับ 2,500 คันสำหรับขาเข้า และ 4,767 คันสำหรับขาออก
รวมเป็น 7,267 คัน
.
ดร.สุรศักดิ์ ทวีศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจราจรและขนส่งของบริษัทที่ปรึกษาของกทม.
บอกว่า ในแง่เศรษฐกิจ คนกรุงเทพฯมี ‘ค่าของเวลา’ หรือมองอีกมุมหนึ่งก็คือ
‘ค่าสูญเสียเวลา’ เฉลี่ยคนละ 2 บาทต่อนาที ซึ่งถ้าเรานำไปคำนวณต่อ
โดยสมมุติมีคนจำนวน 3 หมื่นคนไปเสียเวลาเพราะรถติดบริเวณนั้นนาน 30 นาที
ก็จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เสียไปเท่ากับ 30,000X30X2 = 1,800,000 บาท
หรือ 1.8 ล้านบาทหรือเกือบ 2 ล้านบาทในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
.
นี่ยังไม่นับการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อศาลากทม. 2 เปิดใช้งาน และยังไม่รวมโครงการ
พัฒนาอื่นๆในบริเวณพื้นที่นี้อีก เช่น โครงการอีกสองอาคารสูงของกทม. โครงการของ
การเคหะแห่งชาติ(แฟลตดินแดง) โครงการพัฒนาศูนย์มักกะสัน และโครงการ
พระราม 9 สแควร์ ฯลฯ ซึ่งหากพัฒนากันขึ้นมาเต็มโครงการ พื้นที่นี้ก็จะเป็นอัมพาตได้ในทันที
.
รูปภาพ

แต่ก็น่าดีใจที่กทม.ได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้และได้จัดให้มีการสัมมนารับฟังความคิดเห็น
จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยกทม.ได้ถือโอกาสนี้ชี้แจงว่า
กทม.ได้ตระหนักดีถึงปัญหาดังกล่าว และได้มีโครงการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาศึกษาหาวิธีลด
ปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางและขนส่งให้
ประชาชนในพื้นที่และผู้สัญจรผ่านในบริเวณฯได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง
รวมทั้งเพื่อลดการใช้พลังงานและลดมลพิษในพื้นที่ด้วย โดยมีหลักคิดในการแก้ปัญหาอยู่
4 ประการ คือ 1) เพิ่มเส้นทางเข้า-ออกพื้นที่ 2) ลดการตัดกันของกระแสจราจรบริเวณ
ทางแยกและทางกลับรถ 3) เชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางให้เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน
(รถไฟใต้ดิน รถไฟแอร์พอร์ตเรลลิงค์ไปสุวรรณภูมิ และบีทีเอส ตลอดจนรถเมล์) และ
4) ปรับปรุงเส้นทางเดินเท้าและทางจักรยานให้เหมาะสมต่อการเดินทาง รวมทั้งปรับปรุงระบบ
สัญญาณไฟจราจรและเครื่องหมายจราจรเพื่อให้เข้าถึงพื้นที่ได้สะดวก
รูปประจำตัวสมาชิก
veenono
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 15873
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
Tel: 089 776-9110
team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย veenono »

ในฐานะที่ตนเองทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมานานกว่า 30 ปี และขณะนี้เป็นผู้รักษาการใน
ตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานชมรม
จักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย(ซึ่งอายุครบ 20 ปีในปี 2554 นี้) ก็อดดีใจและ
ภูมิใจแทนคนกทม.และสถาบันฯรวมทั้งชมรมฯไม่ได้ ที่กทม.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
ของระบบขนส่งมวลชนและระบบการเดินทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า NMT
หรือ Non-Motorized Transportation ซึ่งได้แก่การเดิน การขี่จักรยาน การใช้
สเก๊ตบอร์ด ฯลฯ มากขึ้นกว่าในอดีต และได้นำแนวคิดที่สามารถลดปัญหามลพิษอากาศ
แบบนี้มาผนวกใช้ในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
.
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีข้อคิดและข้อเสนอแนะว่า การที่กทม.พยายามสร้างทางเชื่อมต่อ
จากอาคารศาลาว่าการกทม.2 ไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะ โดยตั้งเป้าไปที่ระบบอุโมงค์เพื่อ
ให้คนเดินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งนั้น เป็นโครงการที่ราคาสูงมาก แม้ผู้เขียนจะเห็นด้วยว่า
ประชาชนได้รับความสะดวกและสบาย ปลอดจากอุบัติเหตุจากการจราจร จากมลพิษ
จากภูมิอากาศ(แดดร้อนฝนตก) แต่กทม.ก็อาจพิจารณาทางเดินเท้าที่เป็นรูปแบบมีกระจกใส
ครอบและติดแอร์ภายในควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็จะได้ผลสัมฤทธิ์เช่นเดียวกับอุโมงค์
แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันมาก รวมทั้งทำได้รวดเร็วกว่าด้วย (หมายเหตุ : ในประเด็นนี้
คุณกวิน ชุติมา และคุณกิตติศักดิ์ อินทรวิสิษฐ์ จากชมรมจักรยานฯ ก็ได้นำเสนอไว้ในที่
ประชุมสัมมนาวันดังกล่าวแล้วอย่างชัดเจน) หรือหากจะให้ดียิ่งขึ้นก็อาจทำทั้งสองระบบควบคู่ไปพร้อมกัน
.
นอกจากนี้ผู้เขียนยังมีข้อสังเกตอีกว่า ในการดำเนินโครงการในลักษณะที่มีผลกระทบต่อ
ผู้คนจำนวนมากรวมทั้งผู้คนในพื้นที่แบบนี้ ควรที่กทม.จักทำการศึกษาผลกระทบเชิงสังคม
หรือ SIA (Social Impact Assessment) ก่อนที่จะทำการก่อสร้างอาคาร
ดังที่จะเห็นได้ว่าในการประชุมในวันดังกล่าวได้มีชายอาวุโสซึ่งเป็นคนในพื้นที่ลุกขึ้นมากล่าวว่า
‘พวกผมอยู่ของผมดีๆ จู่ๆ พวกคุณก็เอาปัญหามาใส่พวกผมโดยไม่ถามพวกผมสักคำ
ต่อไปนี้ลูกหลานของพวกผมจะเดินจะขี่จักรยานไปโรงเรียนก็ไม่สะดวก ไม่ปลอดภัยเหมือนเดิมแล้ว
และแบบนี้ใครจะมารับผิดชอบและช่วยดูแลพวกกระผมบ้าง’
.
คำถามแบบนี้ใครตอบได้ ช่วยตอบที



และนอกจากการศึกษาผลกระทบทางสังคมหรือ SIA ดังที่กล่าวไว้แล้ว สิ่งที่ควรทำสำหรับโครงการ
ใหญ่ๆที่มีผลกระทบมากๆแบบนี้ คือการศึกษาแบบวงกว้างขึ้น ในรูปแบบที่แวดวงนัก
วิชาการสมัยใหม่เรียกว่า SEA หรือ Strategic Environment Assessment ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า
‘การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์’ คือ ไม่ใช่มองเฉพาะตัวโครงการหรือตัวอาคารนั้นๆแต่เพียงโดดๆ
แต่ต้องมองผลกระทบในระดับที่กว้างไกลออกไปเป็นพื้นที่อื่นๆรอบโครงการ อย่างเช่นที่กทม.
กำลังศึกษาการแก้ปัญหาจราจร(ที่จะเพิ่มขึ้นในบริเวณถนนวิภาวดี – ดินแดง โยงไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ
และถนนพระราม 9) อยู่ในขณะนี้นั่นแหละ
.

ต่างกันเพียงว่า SEA นั้นเขาต้องทำกันก่อนดำเนินโครงการหรือก่อสร้างอาคาร ไม่ใช่มาทำเมื่อสร้าง
อาคารเสร็จแล้วหรือใกล้เสร็จ เพราะปัญหาบางอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้วมันอาจแก้ไม่ได้เลยก็ได้
แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องขอบคุณแทนคนกทม.ที่ตัวกทม.เองได้เห็นถึงปัญหา และพยายามหาทางแก้หรือ
ลดปัญหาไว้ล่วงหน้า สมควรที่หน่วยงานของรัฐอื่นๆจะนำไปใช้เป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
.
เผยแพร่ในคอลัมน์ หมายเหตุประชาชน นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันอังคารที่ 27กันยายน2554
ปัญหาจราจรกับที่ทำการใหม่ของ กทม.
พูดคุยทักทาย-แนะนำทาง facebookและอีกหลายๆกิจกรรมจาก veenono คลิ๊กเลย
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
รูปประจำตัวสมาชิก
โอ๊ตนนท์
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 11236
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 00:56
Tel: 0878229217
team: กลุ่ม รวมมิตร
Bike: mongoose tyax elite pro2005&2007,jamis draka xc pro,fishbone bigass,LA X-Limited,Stark str trial,Intense M1,Bromton
ตำแหน่ง: 117/56 ม 5 ซ ไพลินสนธิ ต บางกระสอ อ เมือง จ นนทบุรี 11000

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย โอ๊ตนนท์ »

:D :D ขอบคุณสำหรับบทความครับ.. คาร์ฟรีเดย์...ก็พยายามอย่าลืมวัตถุประสงค์หลักของวัน คาร์ฟรีเดย์..เดี๋ยวโดนว่า เป็นวันจักรยานแห่งชาติอีก... :lol: :lol: ..
..ถ้าจัดวันที่ คาร์ฟรีเดย์จริงๆ..ซึ่งไม่ตรงกับวันหยุดหรือเปลี่ยนวัน.อื่น..จะทำไงให้เกิดการรณรงค์ จริงๆได้นะ... :D :D เพราะ เดาว่า คนมาร่วมงาน ถ้าไม่ตรงกับวันหยุด..คงมีคนมาร่วมน้อยแน่ๆ..
กระทู้ทริปยาวๆที่สุดในชีวิตของผม..มาเดินทางไปพร้อมกับผมได้ที่กระทู้นี้..กด...ภาพประกอบหนังสือ ทิเบตสองขา จากแดนไทย สู่หลังคาโลก..
หยุดปั่นสักวัน ไปเที่ยวงานเทศกาลโยเกิร์ต บนหลังคาโลกกันเถอะ..กด..Shoton Festival เทศกาลโยเกิร์ต..
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน บทความดีๆ ที่น่าสนใจครับ :D
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
รูปประจำตัวสมาชิก
merf
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4768
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 09:05
Tel: 0859121272
team: ไม่มี
Bike: Spider_Merf , MixZee_Merf
ติดต่อ:

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย merf »

ใกล้บ้านผมเลยนะ...
หาที่ทำเลดีๆแถวนั้น เปิดร้านขายจักรยานซ่ะเลยดีไหม? :lol:

แซวเล่นนะครับน้าวี
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล
รูปประจำตัวสมาชิก
Dhandranunda
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 9598
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 20:58
Tel: 083970โหลโหลโหล
team: ไม่มี
Bike: Merida Matts 70d /Masi Triple CX

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย Dhandranunda »

รู้สึกสะกิดใจกับประโยคที่ว่า

[quote]"คาร์ฟรีเดย์นี้กำหนดให้มีกิจกรรมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 22 กันยายนของทุกปีซึ่งเมืองไทยมักทำในวันนี้ไม่ได้ ด้วยขีดจำกัดของคนมาร่วมงาน เพราะบังเอิญไปตีความแบบไม่ถูกต้องว่า คาร์ฟรีเดย์เป็น "วันจักรยาน" จึงเลี่ยงไปทำกันในวันหยุดที่ใกล้เคียงกับวันที่ 22 กันยายน[/quote]


เห็นจะจริงแท้แน่นอน วันอาทิตย์เป็นวันที่คนมีรถส่วนตัวไม่น้อยอยู่กับบ้านเพราะเป็นวันหยุด มีบ้างออกไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยวนอกบ้าน การจราจรบนท้องถนนจึงปลอดโปร่งโล่งสบายให้ชาวจักรยานปั่นได้ชิวๆ

ความจริง วันคาร์ฟรีเดย์ควรเน้นรณรงค์กันในวันธรรมดา วันทำงานนี่แหละ ยิ่งเป็นวันจันทร์ด้วยยิ่งดี เพราะคนเริ่มกลับมาจับจองที่จอดรถบนท้องถนนกันอีกรอบ

แต่ความที่เราตีความวันคาร์ฟรีเดย์เป็นวันจักรยานก็เลยนิยมจัดในวันหยุด จะมีก็แต่ชาวจักรยานส่วนนึงที่ทิ้งรถไว้ที่บ้านแล้วหอบหิ้วปั่นจักรยานมาร่วมงาน จากนั้นก็จะหันไปขับรถเหมือนเดิม มีไม่น้อยที่เอารถยนต์ส่วนตัวขับมาจากนั้นเอาจักรยานออกมาปั่นต่อ

หลักใหญ่ใจความของงานจึงมุ่งเน้นเชิญชวนคนให้ปั่นจักรยานมากกว่าเชิญชวนให้คนมีรถทิ้งรถไว้ที่บ้านแล้วเดินทางด้วยวิธีอื่นที่ไม่ก่อมลพิษ
ขวด

The Power Of Slow Ride
รูปประจำตัวสมาชิก
Dhandranunda
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 9598
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 20:58
Tel: 083970โหลโหลโหล
team: ไม่มี
Bike: Merida Matts 70d /Masi Triple CX

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย Dhandranunda »

กทม 2 อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเลย รถติดมากช่วงทางเข้ามหาวิทยาลัยหอการค้า แล้วก็ทางเข้าถนนมิตรไมตรีนั่นแหละ ต่อไปคงนึกไม่ออกว่าจะเป็นยังไง ที่จริง ฟุตปาทก็กว้างพอที่จะทำทางจักรยานได้ เช่น ถนนที่เป็นทางริมรั้ว เช่นเลาะจาก NBT เรื่อยไปจนถึงหอการค้า จากนั้นก็จะเป็นฟุตปาทตลอด (แต่ก็เป็นทางเท้าสภาพย่ำแย่เอาการ ถ้าฝนตกไม่ต้องพูดถึง กบอึ่งอ่างคางคกกระโดดเล่นน้ำกันสนุกสนาน)
ถ้าจะปรับปรุงให้กว้างขึ้นแล้วทำทางดีๆ จักรยานก็น่าจะปั่นได้ (แต่ก็แคบเกินไปอยู่ดีในกรณีมีคนเดินสวนทาง)
กับฟุตปาทถ้าทำทางดีๆ ขี้คร้านมอเตอร์ไซค์วินก็จะจับจองเป็นที่วิ่งรับส่งผู้โดยสาร สำหรับการวิ่งย้อนศร(ปรกติเส้นนี้ก็ย้อนศรกันหนุกหนาน)

แย่จริงๆ

กทม 2 ยังอยู่ใกล้กับกระทรวงแรงงาน ลองนึกดูม็อบคนงานปักหลักปิดถนนประท้วงดูสิครับ
ขวด

The Power Of Slow Ride
รูปประจำตัวสมาชิก
shine sai4
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3486
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 14:33
Tel: 081-7212385,085-8124055
team: COOL70ก็ยังแจ๋ว...
Bike: จักรยานเพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยว...แข่งบ้างวัดใจตัวเอง...
ตำแหน่ง: พุทธมณฑลสาย4 กท.ม.

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย shine sai4 »

:D
บ้านCOOL70 http://www.cool70.com/เชิญแวะเยี่ยมชม
https://www.facebook.com/groups/Cool70house/
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือโก๋หน้าวัง
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1279
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
Tel: 081XXXXXXX
team: Bike to Work
Bike: Trek 6500

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย เสือโก๋หน้าวัง »

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ ร่วมงานกับท่านอาจารย์ธงชัยมาร่วม 1 ปี ได้ท่านมาทำงานเพื่อผู้ใช้จักรยานในชีวิตประจำวันอีกครั้ง เวลาเพียงแค่ไม่ถึงปี งานผลักดันเรื่องการเดินและจักรยานรุดหน้าไปเยอะมาก อาจารย์เป็นคนดีทั้งนอกทั้งใน อีกทั้งมีความรู้ความสามารถ ประเทศไทยต้องการคนอย่างท่านเยอะๆครับ
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
รูปประจำตัวสมาชิก
GT2008
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4157
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 11:20
team: ปั่นไม่โหด ความเร็วไม่เกิน 30
Bike: MTB, RB, FB

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย GT2008 »

ขอบคุณเช่นกันครับ สำหรับบทความที่มีประโยชน์ และให้แง่คิคดีๆ ครับ :D
รูปประจำตัวสมาชิก
veenono
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 15873
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
Tel: 089 776-9110
team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย veenono »

อัดนโยบายรถคันแรก ทำโลกร้อน

รูปภาพ
รูปภาพ
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
รักษาการผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
และประธานชมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย
จากไทยรัฐ 28 กันยายน 2554
พูดคุยทักทาย-แนะนำทาง facebookและอีกหลายๆกิจกรรมจาก veenono คลิ๊กเลย
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
รูปประจำตัวสมาชิก
veenono
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 15873
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
Tel: 089 776-9110
team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย veenono »

การประชุมสัมมนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมจักรยานและอุปกรณ์การเดิน
ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย เขียน:ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายระดับชาติ
คือภาคส่วนเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ การผลิต และการนำเข้าอุปกรณ์ ชิ้นส่วน
และอะไหล่จักรยานและอุปกรณ์การเดินที่มีคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัย
ในราคาที่เหมาะสม ไม่น่าเชื่อว่าสี่สิบกว่าปีมาแล้วจักรยานราคาเท่ากับทองหนึ่งบาท(400 บาท)
แต่วันนี้ที่ราคาทองไปเกือบสามหมื่นบาท สูงกว่าครั้งนั้นเกือบ70 เท่า แต่เรายังพบว่า
มีจักรยานราคาเพียงพันกว่าบาทขายอยู่
แม้จะมีจักรยานราคาเรือนหมื่นเรือนแสนจาก
ต่างประเทศมาตอบสนองความต้องการของคนมีกะตังก็ตาม หนำซ้ำ ในห้างสรรพสินค้า
ขนาดใหญ่ยังมีโฆษณาจักรยานราคาเจ็ดร้อยเก้าสิบบาท ทั้งๆที่เป็นการขายที่ขาดทุน
แต่เขาใช้คำว่า "จักรยาน 1 คัน" มาเป็นตัวล่อในการดึงลูกค้า นั่นคือการ "ดั๊ม"ราคา
สินค้าเพื่อกลยุทธทางการตลาด ในทางตรงกันข้ามเป็นการทำลายขีดความสามารถในการ
แข่งขันของธุรกิจอุตสาหกรรมจักรยานในประเทศไทยลงอย่างได้ผล ยิ่งในอีกไม่กี่ปีจะ
มีเอฟทีเอตามข้อตกลงประชาคมอาเซียน ก็ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมจักรยานของไทยยิ่งก้าว
สู่ความตกต่ำมากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งในและนอก
ประชาคมอาเซียนได้ ทุกวันนี้แม้จะมีการขายจักรยานเดือนละประมาณ 2 แสนคัน
เป็นส่วนแบ่งของสองยี่ห้อใหญ่ประมาณสี่สิบกว่าเปอร์เซน ที่เหลือเป็นของยี่ห้ออื่นๆอีก
หลายสิบเจ้า ในสมาคมของผู้ประกอบการฯเองก็ยังคงมีช่องว่างในการประกอบการพอ
สมควรซึ่งภาครัฐควรเข้าไปติดตาม(กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม
และหน่วยงานอื่นๆ)ให้การสนับสนุนและแก้ไขปัญหาที่ทางผู้ประกอบการจะประชุมสรุปนำเสนอ
ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายก็ไม่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมใดๆกับทางสมาคมเลย
เช่นเดียวกับในธุรกิจอุตสาหกรรมทุกประเภทที่อาจมีคนที่คิดว่าตนเองไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้อง
กับเพื่อนร่วมอาชีพแต่อย่างใด เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อจักรยานที่ชาวบ้านซื้อ
ไปสองสามเดือนตกหลุมครั้งเดียวก็พังไม่สามารถซ่อมได้ หรืออาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บได้
การสัมมนาครั้งนี้จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์จริงและ
เอื้อประโยชน์กับทุกฝ่ายโดยเสมอภาคและเป็นธรรม มิใช่เป็นนโยบายระดับชาติที่ส่วนราชการ
จัดซื้อจักรยานยืมใช้แล้วเหมาเฉพาะบางยี่ห้อที่เข้าถึงอำนาจทางการเมืองเท่านั้น.... เรื่องเหล่านี้
มีอยู่และเป็นอยู่จริง.... น่าดีใจที่คณะกรรมการสมาคมส่งเสริมจักรยานตระหนักเห็นความสำคัญ
จึงเข้าร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้วยการสนับสนุนการเตรียมการจัดตั้งกองทุนอุปกรณ์ซ่อมบำรุง
จักรยาน และการผลิตจักรยานเพื่อชาติที่มีคุณภาพมาตรฐานในราคาถูกได้ โปรดติดตาม...
ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย
อดีตสว.สุพรรณบุรี
กรรมการอาวุโสและประธานกับกับทิศชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย(TCC)
ที่ปรึกษาสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย(TCHA)
รูปประจำตัวสมาชิก
test600
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 215
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2011, 12:36
team: no team
Bike: Marushi
ตำแหน่ง: Nakhon Pathom

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย test600 »

นานาจิตตังครับ
ผมว่าแนวคิดที่ดีมีมากมาย แต่มักไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนมากที่ควรเท่านั้นเอง เพราะได้ผลที่ตามมาน้อย (เข้าใจกันนะครับ :P )

:D :D
> > รถไม่แรงไม่ต้องอาย.. สุขภาพที่ดี คือสิ่งที่น่าชื่นชม.. ^^ < <
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือโก๋หน้าวัง
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1279
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
Tel: 081XXXXXXX
team: Bike to Work
Bike: Trek 6500

Re: ทอล์คออฟเดอะทาวน์...เอามาแบ่งกันอ่านครับ

โพสต์ โดย เสือโก๋หน้าวัง »

อาจารย์เพิ่งไปร่วมประชุมเรื่องจักรยานที่สเปนมา และท่านก็มีโอกาสไปดูงานที่ต่างประเทศบ่อยมาก และหลายคนไม่ทราบว่าท่านคือคนหนึ่งที่ใช้จักรยานไปทำงานทุกครั้งที่มีโอกาส ผมจำได้เมื่อไม่นานมานี้ท่านบ่นว่าจักรยานเก่าๆของท่านโดนขโมยไปตรงจุดจอดใกล้สถานีรถไฟฟ้า เรายังแซวกันเลยว่าคนขโมยไปคงไม่ทราบว่าเป็นของท่าน. ที่บ้านอาจารย์มีทั้งชุดจักรยานและหมวกกันน็อกครบทั้งหมดแต่ท่านเลือกที่จะแต่งตัวธรรมดามาร่วมกิจกรรมรณรงค์เพราะต้องการให้ภาพที่สื่อออกไปมีบรรยากาสของการเชิญชวนให้ออกมาใช้จักรยาน และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก

หนึ่งปีที่ผ่านมา ชมรมจักรยานฯ ได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับชุมชนทั่วประเทศผ่านทางมูลนิธิโอกาสในโครงการชุมชนจักรยาน ทำให้ผมกล้ายืนยันได้ว่าสิ่งที่ท่านบอกในบทความที่ท่านเขียนลงไปนั้นเป็นความจริงของสังคมไทย ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยค้านกับความเห็นของท่านในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะตอนที่เป็นเลขาฯของชมรมฯ (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นสมาคมฯไปแล้ว) แต่สุดท้ายผมได้พบว่าสิ่งที่ท่านพยายามสื่อสารออกไปนั้นเป็นความจริงทุกประการ เรื่องหมวกกันน็อกนี่ผมเคยถามอาจารย์ว่าทำไมไม่ใส่ตอนปั่นไปรณรงค์ ท่านบอกว่าท่านไม่ได้ห้าม มีปัจจัยจะซื้อหามาใช้ได้ก็น่าทำ แต่ก็ถามกลับมาอย่างน่าสนใจว่า ถ้าโก๋ปั่นจักรยานแม่บ้านด้วยความเร็ว 14 - 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วล้มจะเป็นอะไรมั้ย ก็ตอบว่าไม่เป็นไร เพราะตอนเด็กๆก็ปั่นช้าๆแล้วล้มก็ไม่มีอะไร คำถามต่อมา ถ้าโก๋ใส่หมวกกันน๊อกแล้วปั่นจักรยาน แล้วรถยนต์มาชนจะเป็นอะไรมั้ย ก็ตอบอาจารย์ว่าเป็นครับเพราะหมวกไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการกระแทกแรงๆ แค่ใช้ในการแข่งขันและป้องกันการกระแทกนิดหน่อยที่ความเร็วไม่มากเท่านั้น คำถามสุดท้าย หมวกกันน๊อกราคาเท่าไหร่ ก็ตอบอาจารย์ไปว่าถูกหน่อยก็ 900 ดีขึ้นมาก็ 1600 บาท อาจารย์ก็ถามต่อว่าจักรยานชาวบ้านราคาเท่าไหร่ ก็ตอบไปว่ามีตั้งแต่ 799 - 3500 บาทครับ อาจารย์ก็เลยบอกว่าถ้าพวกเราต้องการให้ประชาชนโดยเฉพาะในชนบทหันมาใช้จักรยานแล้วแนะนำให้ใช้หมวกด้วยเค้าไม่ไหวนะ อาจารย์บอกว่าเงินหมื่นเงินแสนสำหรับคนในเมืองมันไม่มาก แต่สำหรับชาวบ้าน เงินร้อยเงินพันมันมีความหมายนะ

นี่คือจุดยืนและตัวตนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของอาจารย์ธงชัย ทำไมท่านจะไม่ดีใจและรู้สึกชื่นชมที่เห็นพวกเราออกมาร่วมรณรงค์ แต่ความเป็นครูบาอาจารย์เมื่อมองเห็น "ภาพลักษณ์" มันผิดประเด็นออกไป ก็อดไม่ได้ที่จะต้องออกมาตักเตือน อย่าลืมว่าท่าน ทำงานระดับประเทศทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อม จักรยาน และงานทางด้านวิชาชีพอื่นๆ มายาวนานมาก เหล่านี้ทำให้ท่านมองได้กว้างยิ่งกว่าที่พวกเรามองเห็น หนึ่งปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าไปร่วมงานกับอาจารย์ในฐานะของคนเขียนแผนยุทธศาสตร์และทำโครงการเพื่อขอการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะจาก สสส หลายครั้งที่ผมเองยังคิดไม่ถึงในบางประเด็นที่ท่านคิดซึ่งมันเป็นเรื่องละเอียดอ่น และบางประเด็นแค่เด็ดดอกไม้ก็กระเทือนถึงดวงดาว คิดไม่ถึงเลยว่าแค่ไม่ถึงปีที่ผ่าน ท่ามกลางอะไรหลายๆอย่าง ชมรมฯ มีโครงการและงานวิจัยที่อนุมัติและทำไปแล้วกว่า 40 โครงการ โดยกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคและทุกกลุ่มของผู้ใช้จักรยานอย่างทั่วถึง นับว่าเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วและทั่วถึงมาก แต่ก็ยังไม่เท่าปี 2555 ที่จะขยายเพิ่มเป็นสามเท่าของปีนี้

แม้เงินที่สนับสนุนการทำกิจกรรมในครั้งนี้จะไม่มากเลยเมื่อเทียบกับงบประมาณโดยรวมในแต่ละปี แต่มันก็คือเงิน และโดยธรรมชาติมันมีค่าเสียโอกาสแฝงอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามประเด็นที่แท้จริงมันกลับกลายเป็นว่า การนำเงินของประชาชนมาจัดการรณรงค์เพื่อประชาชนส่วนใหญ่นั้นดีมาก แต่การสร้างภาพเพื่อจะสื่อสารออกไปถึงประชาชนอย่างที่เห็นนั้นมันมีความเหมาะสมและถุกต้องตามวัตถุประสงค์ของการใช้งบประมาณเพียงไร อันนี้ต้องไปพิจารณาเอาเองครับ สำหรับผมเองไม่เห็นด้วยกับการสร้างภาพในลักษณะนี้ เพราะมันไม่ใช่ Concept ของ CFD ที่ควรจะเป็น แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะค้านในใจ แต่ก็ตั้งใจไปช่วยทุกงานรณรงค์ของทุกชมรม สมาคม และ ทุกหน่วยงาน ถ้ามีโอกาสและเวลาที่เอื้ออำนวย และก็จะทำงานทางยุทธศาสตร์และเขียนโครงการต่อไปเพื่อนำงบประมาณที่จัดสรรไว้สำหรับการผลักดันการเดินและการใช้จักรยานมาใช้ในสิ่งที่เห็นว่ามีความคุ้มค่าและกระจายถึงประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงงบประมาณเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถ้าเราทำอะไรก็ตามด้วยจิตที่เป็นเมตตา อยากช่วยให้การรณรงค์เป็นกระบอกเสียงให้คนที่มีรายได้น้อยและปานกลางเค้าได้มีทางเลือกในการเดินทางที่ประหยัดและดีต่อสุขภาพของเค้าเอง มันก็จะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ถ้าจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่เพื่ออะไรก็ตาม เอาคนมาเยอะๆเป็นตัวตั้ง แล้วทำทุกวิถีทางเพื่อไปถึงจุดนั้น มันก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะคิดไม่เหมือนกัน

อาจารย์พยายามพูดเรื่องนี้มาหลายปี แต่โชคไม่ดีที่มีคนเข้าใจสิ่งที่ท่านพูดน้อยมาก ถ้าลองสังเกตดูว่าระยะหลังนี้สื่อสนใจเรื่องการรณรงค์แบบที่พวกเราจัดกันน้อยมากจนเห็นได้ชัด องค์กรร่วมจัดอย่าง สสส เริ่มเบนเข็มมาสนับสนุนการทำงานที่เป็นเนื้อหาสาระและการผลักดันเชิงนโยบายมากขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางการใช้ภาษีของประชาชนที่ถูกต้องและควรจะเป็นอีกทั้งยังสอดคล้องกับการผลักดันของประเทศต่างๆทั่วโลกเรื่องการส่งเสริมให้ประชาชนของตนเองมีสุขภาวะที่ดีได้อย่างยั่งยืน

ที่ผ่านมาผมพอได้ยินเรื่องราวมากมายที่ผู้คนพูดกันไปซึ่งส่วนใหญ่ก็เหมือนการเล่นเกมส์ Communication ธรรมดาๆ ก็คือเพี้ยนกันไปเรื่อยๆ และส่วนใหญ่ใส่ไข่จนรกรุงรัง ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการและความเป็นจริง หาสาระไม่ได้ อย่างเช่น

ล่าสุดเรื่องงาน CFD มีคนลือว่า ท่านเอาเงินไปทำชมรมหมดแล้ว เลยงบน้อย ซึ่งก็ไม่จริง เพราะเงินของชมรมที่ได้รับการสนับสนุนมาจาก สสส ได้รับการอนุมัติมาตั้งแต่ เดือน มกราคม ปี 2554 โดยเป็นการอนุมัติที่ผ่านขั้นตอนการกลั่นกรองอย่างเป็นระบบจากหน่วยงานที่เต็มไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และเป็นการอนุมัติตามที่เสนอในเอกสารโครงการฯ ของชมรมฯ ที่ยื่นต่อ สสส เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2553 คำว่างบประมาณแผ่นดิน มิใช่จะเดินไปบอกว่าขอกัน 5 ล้าน 10 ล้าน แล้วเอามาได้ซะเมื่อไหร่ครับ มันต้องมีการวางแผนว่าจะทำอะไร มีความยั่งยืนและต่อเนื่องหรือไม่ และต้องสอดคล้องกับแผนหลักของผู้ให้ทุนด้วย เค้าถึงจะให้ ในกระบวนการขอทุน อาจารย์ไม่ได้เข้าไปยุ่งเลยเพราะท่านไม่ต้องการให้เกิด Conflict of Interest (COI) เพราะตอนนั้นท่านทำงานเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสำนักหนึ่งใน สสส ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติทุนใดๆ อันที่จริงเรื่องนี้ ถ้าจะมีคนเอาเงินส่วนนี้ไป น่าจะผมที่เป็นคนเอาไปมากกว่า เพราะเป็นคนเขียนแผนแล้วเป็นคนไป present ด้วยตนเอง (ตอนนั้นไปกับคุณกวิน ผมยังบ่นในใจเลยว่าถ้าได้อาจารย์มาช่วยพูดให้ก็จะดีไม่น้อย ปล่อยให้ลุยกันเองมันเหนื่อยนะครับ)

แล้วมันก็โยงมาถึงเรื่องที่มีผู้พูดกันไปว่าท่านเป็นบอร์ดของ สสส แล้วเอาเงิน สสส มาทำชมรม ไม่สง่างาม อะไรทำนองนั้น อันนี้ก็มั่วสนิทชนิดที่ว่าไม่มีเค้าโคลงของความเป็นจริงอยู่เลย เพราะความจริงก็คือ ท่านได้รับการคัดเลือกให้เป็นบอร์ดหลังจากที่มีการอนุมัติทุนให้กับชมรมฯ มาตั้ง 3-4 เดือนแล้ว พอได้รับการคัดเลือกเป็นบอร์ดท่านก็แจ้งที่ประชุมของชมรม และท่านก็ระมัดระวังในเรื่อง COI มากขึ้นไปกว่าเดิม โดยทำหน้าที่ในฐานะเป็นที่ปรึกษามากกว่าจะตัดสินใจใดๆทั้งสิ้น และนี่คือความสง่างามในวิธีคิดและจุดยืนของอาจารย์ท่านนี้

เรื่องที่ท่านออกมาแนะนำ อยากให้คิดทบทวนกันให้ดี วางใจให้สงบและเป็นกลาง แล้วพิจารณาให้ถ้วนถี่ครับ

คาบข่าวมาฝาก....หลายๆงานวิจัยที่อาจารย์และทีมงานได้ดำเนินการไว้ และประสบการณ์ในการทำงานโดยเฉพาะโครงการชุมชนจักรยาน น่าจะมีโอกาสได้ไปบรรยายในงานประชุมเรื่องจักรยานแบบนี้ในปีหน้าครับ ถึงตอนนั้น การผลักดันนโยบายสาธารณะในเรื่องการเดินและจักรยานของประเทศไทยจะได้รับการเผยแพร่ไปในเวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความร่วมมือในหลายๆด้านในระดับนานาชาติที่จะตามมา

http://www.cyclecongress.com/researchforum.php
http://www.cyclecongress.com/urban-design.php
แก้ไขล่าสุดโดย เสือโก๋หน้าวัง เมื่อ 03 ต.ค. 2011, 18:41, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ThaiNCC”