@@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53(ขี่จักรยานชมเมืองกาญจน์ครั้งที่2)

ผู้ดูแล: เสือชอร์

กฏการใช้บอร์ด
ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
ผู้ดูแลบอร์ด โทร 0813722240
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ






สุสานสัมพันธมิตร กาญจนบุรี ที่บ้านดอนรัก
เป็นสุสานฝังศพผู้เสียชีวิต อยู่ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟกาญจนบุรี ห่างจากตัว เมืองออกไปทางเหนือประมาณ 1 กิโลเมตรครับ เป็นสุสานที่มีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,928 หลุม
เมื่อสงครามมหาเอเซียบูรพาสงบลง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามได้จัดสร้างอนุสรณ์สถานขึ้น เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ที่เสียชีวิตในสงครามมหาเอเซียบูรพา ได้จัดสร้างขึ้นในประเทศไทยที่จังหวัดกาญจนบุรี ๒ แห่งคือ สุสานกาญจนบุรี ที่บ้านดอนรัก และสุสานช่องไก่ (ช่องควาย) การสร้างสุสานทั้งสองแห่งนี้ได้มีการตกลงกันระหว่างรัฐบาลไทย กับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๔๙๗
สุสานกาญจนบุรี ชาวบ้านเรียกว่า ป่าช้าอังกฤษ ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต บ้านดอนรัก ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง ฯ ใกล้สถานีรถไฟกาญจนบุรี มีพื้นที่ ๑๗ ไร่ ทางเข้าด้านหน้าเป็นรูปซุ้มประตูโค้งก่ออิฐถือปูน ๓ ประตู ด้านหน้าเขียนตัวอักษรว่า Kanchanaburi War Cemetary ๑๙๓๙ - ๑๙๔๕ ภายในซุ้มเป็นห้องโถงเล็ก ๆ ตรงกลางมีแผ่นหินอ่อนฝังอยู่ ในเสาจารึกข้อความทั้งในภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ดังนี้
"คริสตศักราช ๑๙๓๙ - ๑๙๔๕ แผ่นดินซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งสุสานนี้ เป็นสมบัติของประชาชนชาวไทย ได้อุทิศให้เป็นสถานที่พักตลอดกาลสำหรับ ทหารเรือ ทหารบก และทหารอากาศ ซึ่งได้รับเกียรติ ณ ที่นี้"
บริเวณกลางสนามหญ้าด้านในสุด สร้างเป็นไม้กางเขนขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบจัดทำที่ฝังศพอย่างมีระเบียบ แต่ละหลุมฝังศพจมีแผ่นป้ายทองเหลือง จารึกชื่ออายุ สังกัดประเทศ และบันทัดสุดท้ายจะมีคำขวัญไว้อาลัย
สุสานกาญจนบุรี ได้รวบรวมศพผู้เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสาย ไทย - พม่า มีจำนวน ๖,๙๘๒ คน ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตอื่น ๆ ได้มาจากจารึกบนแผ่นซีเมนต์เหนือหลุมฝังศพของเหล่าเชลยศึกตามค่ายต่าง ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เนื่องจากประวัติศาสตร์การก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เกี่ยวพันกับเหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกพันธมิตรจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์เพื่อผ่านไปยังประเทศพม่า เริ่มต้นจากสถานีหนองปลาดุก อ. บ้านโป่ง จ. ราชบุรี ผ่านสถานีต่าง ๆ ใน จ. กาญจนบุรี เพื่อลำเลียงยุทธปัจจัยและกำลังทหารไปยังพม่า เส้นทางเมื่อข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควไปแล้วจะเลียบไปตามลำน้ำแควน้อย ผ่านโตรกผาบริเวณที่เรียกว่าถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นทางโค้งเลียบนหน้าผา ด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำที่เชี่ยวกราก บางช่วงต้องขุดเจาะระเบิดภูเขาเป็นช่องให้รถไฟผ่านไป
การสร้างทางรถไฟสายนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดอาหาร ทำให้เชลยศึกชาวตะวันตกได้แก่ อังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย และฮอลันดา และกรรมกรรถไฟหลากเชื้อชาติต้องสังเวยชีวิตไปเป็นจำนวนจำนวนหลายหมื่นคน จนมีการเปรียบเทียบว่าหนึ่งไม้หมอนของทางรถไฟสายมรณะคือหนึ่งชีวิต ซึ่งยังทิ้งร่องรอยไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาเป็นจำนวนมากในเรื่องราวความเป็นมาในอดีต
ที่ตั้ง บ้านท่า-มะขาม ต. ท่ามะขาม อ. เมือง
ประวัติ ทหารช่างญี่ปุ่นเลือกสร้างสะพานที่บริเวณนี้เนื่องจากมีฐานดินด้านล่างแน่นที่สุด โดยใช้แรงงานเชลยศึกและกรรมกรรับจ้างจำนวนมาก การก่อสร้างเริ่มจากการสร้างสะพานไม้เพื่อลำเลียงคนและอุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟข้ามไปก่อน โดยสร้างในช่วงที่น้ำลดลงตอนปลายเดือนพ.ย. 2485 โดยใช้ไม้ซุงทั้งต้นตอกเป็นเสาเข็ม ใช้เวลาก่อสร้าง 3 เดือน และได้รื้อออกไปหลังจากสร้างสะพานเหล็กแล้ว (ปัจจุบันแนวสะพานไม้เดิมอยู่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควลงไปทางใต้ประมาณ 100 ม. ในพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง 1 ปี โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและท้ายเป็นโครงไม้ ตัวสะพานยาวประมาณ 300 ม.สร้างเสร็จและทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2486
สะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศทั้งสิ้นราว 10ครั้งในระหว่างสงคราม จนกระทั่งสะพานช่วงที่ 4-6 ชำรุด และไม่สามารถใช้การได้ ต่อมาการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงขึ้นใหม่จากของเดิม โดยตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็กสองช่วง ส่วนด้านหัวและท้ายเปลี่ยนเป็นสะพานเหล็กหกช่วงแทน


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

ตลาดค้าพลอยบริเวณสะพานข้าแม่น้ำแคว

รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ

“แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก” เป็นคำขวัญของจังหวัดกาญจนบุรี บ่งบอกได้ถึงความสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดกาญจนบุรีได้ดีทีเดียว

มณีเมืองกาญจน์ ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมคือไพลิน และนิล แหล่งที่พบได้มาก และยังมีการทำเหมืองพลอยให้เห็นก็คือ อ.บ่อพลอย แต่บางครั้งนักท่องเที่ยวอาจแวะมาเยี่ยมชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่ได้เดินทางเลยไปถึง อ.บ่อพลอย ก็สามารถมาแวะชม หรือซื้อหาได้ในบริเวณนี้เช่นกัน ถึงไม่ได้ไปถึงแหล่งต้นทาง แต่พลอยในร้านริมสะพานข้ามแม่น้ำแควก็มีมากมายให้เลือกหลายร้าน และตรงข้ามกับส่วนโชว์หัวรถจักร จัดเป็นตลาดค้าพลอย และอัญมณี ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ก็นำมาจาก อ.บ่อพลอยเช่นกัน แต่ควรสอบถามเพื่อความแน่นอนด้วย



นอกจากพลอยเม็ด แล้วยังมีเครื่องประดับทำจากพลอยต่าง ๆ ให้เลือกหาซื้อด้วยเช่นกัน

นอกจากไพลิน และนิลแล้ว ยังมีพลอยสีต่าง ๆ ทั้งที่เป็นเม็ดใหญ่ลดหลั่นกันมาจนถึงขนาดเม็ดเล็ก ๆ บางชิ้นถูกนำไปประกอบเป็นตัวเรือนแล้วก็มี หรืออาจเป็นหินสีต่าง ๆ ที่สวยงามราคาไม่แพงก็มีให้เลือกซื้อหากันได้ตามกำลังทรัพย์ แต่ถ้าจะซื้อพลอยแท้ควรมีความรู้ในการเลือก หรือพาผู้รู้ที่ไว้ใจได้ไปด้วย รวมถึงควรเลือกร้านที่มีการออกใบรับรองให้กับสินค้าที่ซื้อ เพื่อเป็นการรับประกันว่าได้ของจริงไม่ได้เสียเงินเปล่า ๆ เพราะเงินทองหายากควรระมัดระวังก่อนใช้จ่าย
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

มาเมืองกาญจน์ขอแนะนำให้ทานทองม้วนสด อร่อยได้ใจเลยล่ะ


รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

แก้วของฝาก ของดีเมืองกาญจน์ที่ขอแนะนำ รับประกันความอร่อย ความสะอาด ที่นอกไปกว่านั้นเจ้าของ บริษัท.ยังชอบปั่นจักรยานเหมือนเรา และเป็นคณะกรรมการจัดงาน ในงานคุณนิพัฒิยังนำน้ำมะขาม น้ำกระเจี๊ยบมาบริการด้วย
รูปภาพรูปภาพ
พบกับความหลากหลายของขนมอร่อย กว่า 1,000 รายการ อาหารจานด่วนเลิศรส ของฝากเลื่องชื่อ อาทิ มะขามกวนแก้ว ทองม้วนสด ทองม้วนกรอบ วุ้นมะพร้าวอ่อน น้ำพริกเผา น้ำมะขามสด บ๊วยมะขาม เยลลี่มะขามรสบ๊วย ฯลฯ สินค้าตราแก้ว ทุกชิ้น ผลิตโดยโรงงานผู้ผลิตของเราเอง มั่นใจได้ทั้งในเรื่องคุณภาพและความอร่อย รับรองโดยเปิบพิศดารแม่ช้อยนางรำ มายาวนานกว่า 30 ปี

เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของฝากอร่อยกว่า 1,000 รายการ
รูปภาพ
อิ่มอร่อยกับขนมไทยสดใหม่จากเตาทุกวัน
รูปภาพ
ข้าวแกงอร่อย ในบรรยากาศแสนสบาย

รูปภาพ


รูปภาพ

ติดต่อแก้วของฝากคลิ๊กเลย
http://kaewshop.shopdd.in.th/
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

รูปภาพ

หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2, กาญ
หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน ก่อตั้งขึ้นโดยคุณอรัญ จันทร์ศิริ ผู้ประกอบการธุรกิจค้าอัญมณี ในจังหวัดกาญจนบุรี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มก่อตั้งในปี 2538 โดยตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ลักษณะพิพิธภัณฑ์เป็นกลุ่มอาคารจัดแสดงจำนวนหลายหลัง เรื่องราวที่จัดแสดงภายในมีเนื้อหาที่หลากหลาย บางส่วนเกี่ยวโยงกับเรื่องสงครามโลกครั้งที่สอง การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว และบางส่วนเป็นความสนใจส่วนตัวของเจ้าของ และบางส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าอัญมณี ทั้งนี้พื้นที่การจัดแสดงสามารถแบ่งคร่าวๆ ได้ 7 เรื่องราว ได้แก่




1. ประวัติศาสตร์ชาติไทย สงครามระหว่างไทยกับพม่า จัดแสดงภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง สงครามการสู้รบระหว่างไทยกับพม่า พร้อมข้าวของต่าง ๆ ที่เจ้าของสะสมไว้ อาทิ เครื่องปั้นดินเผา ที่บดยา ปืน ดาบ กระต่ายขูดมะพร้าวเป็นต้น

2. การสร้างสะพานความแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายไทย-พม่า โดยจัดแสดงอาคารจำลองที่พักเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมแสดงหุ่นจำลอง และภาพถ่ายและภาพวาด แสดงชีวิตความเป็นอยู่ของเชลยศึกในค่าย การจัดแสดงภาพถ่ายและโมเดลเหตุการณ์การทิ้งระเบิดทำลายสะพานข้ามแม่น้ำแคว ข้าวของเครื่องใช้ของเชลยศึก และทหารญี่ปุ่น ยานพาหนะของทหารญี่ปุ่น เป็นต้น

3. ของสะสมส่วนตัว อาทิ แสตมป์ นาฬิกา เหรียญและธนบัตร สัตว์สตัฟฟ์ เครื่องดนตรี เป็นต้น

4. หินแร่ และเครื่องประดับ แสดงตัวอย่างแร่ธาตุต่าง ๆ อาทิ แร่แอเมทิสต์ แร่หยกขาว แร่รูไทล์ รวมถึงพลอยดิบ

5. เครื่องแต่งกายไทย จัดแสดงเครื่องแต่งกายผู้หญิงประกอบภาพวาดนางสาวไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

6. ยานพาหนะของทหารญี่ปุ่น อาทิ รถจี๊ป รถมอเตอร์ไซค์ รถม้า เป็นต้น

7. ถ้ำมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จัดแสดงภาพวาดและรูปจำลองวิวัฒนาการของมนุษย์ตั้งแต่อดีต เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 -18.00 น. ค่าเข้าชมชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (034) 512596
รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

ประวัติ พระญวนในประเทศไทย
เมื่อราว พ.ศ.2316 ได้เกิดกบฏขึ้นที่เมืองเว้อันเป็นราชธานีของประเทศญวน(เวียดนาม)ในสมัยนั้น องเชียงซุนราชบุตรองค์ที่4 ของเจ้าเมืองเว้ได้อพยพครอบครัวเข้ามาอาศัยยังกรุงธนบุรีเมื่อราว พ.ศ.2316 ปีวอก พระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้รับไว้และพระราชทานที่ให้ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกพระนครฝั่งตะวันออกคือแถวถนนพาหุรัดทุกวันนี้


ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่1 ได้มีพระราชนัดดาของเจ้าเมืองเว้อีกพระองค์หนึ่งชื่อ องเชียงสือ (เดิมหนีพวกกบฏอาศัยอยู่ที่เมืองไซ่ง่อน) ได้เข้ามาขอพึ่งบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ณ กรุงเทพฯ เมื่อปีเถาะ พ.ศ.2326 ทรงพระราชทานที่ให้ญวนพวกองเชียงสือตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำฝั่งตะวันออก ที่ตำบลคอกกระบือ คือตรงที่ตั้งสถานฑูตโปตุเกสทุกวันนั้

ยังมีพวกญวนที่อพยพเข้ามาอยู่เมืองไทยภายหลังครั้งองเชียงสือในสมัยรัชกาลที่ 3 อีก 3 คราว คือ 1.เมื่อปีมะเมีย พ.ศ.2377 พระเจ้าแผ่นดินญวน(มินมาง) ประกาศห้ามมิให้พวกญวนนับถือศาสนาคริส และจับพวกญวนที่เข้ารีตทำโทษ จึงมีพวกญวนเข้ารีตอพยพครอบครัวหนีภัยเข้ามาถึงพระบารมีอยู่ในประเทศไทยที่เมืองจันทรบุรีโดยมาก ที่เข้ามากรุงเทพฯเห็นจะมีบ้าง และโปรดพระราชทานที่ให้อยู่แถวสามเสน 2.เมื่อครั้งเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงหเสนี) ไปตีเมืองญวนเมื่อปีมะเส็ง พ.ศ.2376 ได้ส่งครัวญวนเข้ามายังกรุงเทพฯ เมื่อปลายปีมะเมีย พ.ศ.2377 ญวนที่เข้ามาแบ่งเป็น 2 พวกคือ พวกที่นับถือพุทธศาสนา ทรงให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีสำหรับรักษาป้อมเมืองใหม่ ซึ้งทรงสร้างขึ้นที่ปากแพรก และพวกที่นับคือศริสศาสนา ทรงให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่สามเสน 3.เมื่อปีชวด พ.ศ.2383 เวลานั้นกองทัพไทยกับเขมรกำลังรบพุ่งขับไล่กองทัพญวนที่เข้ามาตั้งอยู่ในเขมรและได้ส่งครัวญวนมายังกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯให้ญวนพวกนี้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่แถวบางโพ

ชาวญวนที่นับถือพุทธศาสนา มาตั้งภูมิลำเนาอยู่แห่งใด ก็นิมนต์พระญวนมาสร้างวัดเป็นที่บำเพ็ญการกุศลของพวกตนด้วยเสมอ ประเทศญวนรับลัทธิพระพุทธศาสนาอย่างมหายานมาจากจีน ชาวญวนจึงบวชเรียนและประพฤติกิจในศาสนาผิดกับไทย เพราะฉะนั้นเมื่อชาวญวนมาสร้างวัดและมีพระญวนอยู่ในประเทศไทย แต่เดิมก็มีผู้นับถือเฉพาะชาวญวนด้วยกัน และในสมัยนั้นยังไม่มีวัดจีนในประเทศไทย ชาวจีนก็มักไปทำบุญที่วัดญวนด้วย เพราะลัทธิศาสนาของญวนและจีนเหมือนกัน เช่น พิธีกงเต็ก เป็นต้น ส่วนชาวไทยแม้ไม่สู้จะนับถือก็ไม่เกลียดชัง เพราะเห็นว่านับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน

รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ





วัดถาวรวราราม หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดญวน ตั้งอยู่ติดกับวัดเทวสังฆาราม ทางด้านทิศเหนือ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง ฯ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
วัดถาวรวราราม เป็นวัดอันนัมนิกายที่ใหญ่วัดหนึ่งในประเทศไทย ภายในโบสถ์และวิหารมีพระพุทธรูปแบบทรงไทย และทรงญวนอยู่เป็นจำนวนมาก กุฏิส่วนมากเป็นอาคารตึกและสะอาดเรียบร้อย วัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ก็เรียบร้อย ชาวจังหวัดกาญจนบุรีให้ความเคารพนับถือ พระสงฆ์ญวนเช่นเดียวกับพระสงฆ์ไทย และพระสงฆ์ทั้งสองฝ่ายก็มีความติดต่อสัมพันธ์กันเป็นอันดี ทุกเช้าจะมีพระญวนออกบิณฑบาตเป็นทิวแถว เป็นภาพที่หาดูไม่ได้ในที่อื่นนอกจากที่เมืองกาญจนบุรีเท่านั้น
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) กาญจนบุรี
รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



ประวัติสมเด็จพระสังฆราช
สมเด็จพระญาณสังวร พระฉายาว่า"สุวัฑฒโน" พระนามเดิมว่าเจริญ พระสกุล "คชวัตร" ประสูติที่บ้านเลขที่ 367ตำบลบ้านเหนืออำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อวันศุกร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู ตรงกับวันที่ 3 ตุลาคมพ.ศ.2456เวลาประมาณ10ทุ่มหรือประมาณ 4.00 น. เศษแห่งวันเสาร์ที่ 4 ตุลาตม พ.ศ.2456 ตามที่นับในปัจจุบัน โยมบิดาชื่อน้อย คชวัตร ถึงแก่กรรม พ.ศ.2465 โยมมารดาชื่อกิมน้อย คชวัตรถึงแก่กรรม พ.ศ.2508
บรรชน
............. บรรชนของสมเด็จมาจาก 4 ทิศ บิดามาจากสายกรุงเก่าทางหนึ่ง จากปักษ์ไต้ทางหนึ่ง ส่วนมารดามีเชื้อสายญวนทางหนึ่ง และจีนทางหนึ่ง บิดาคือนายน้อย คชวัตร เป็นบุตรนายเล็กและนางแดงอิ่ม เป็นหลานปู่พระยา หลานย่าของหลวงพิพิธภักดี และนางจีนเป็นชาวกรุงเก่ามารับราชการในกรุงเทพ ได้ออกไปเป็นผู้ช่วยราชการอยู่เมืองไชยาคราวหนึ่ง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3ได้เป็นผู้หนึ่งที่ไปคุมเชลยที่เมืองพระตะบอง ได้ภริยาชาว เมืองไชยา 2 คน ชื่อทับ กับชื่อนุ่น และได้ภริยาชาวเมืองพุ่มเรียง 1 คน ชื่อแต้มต่อมาเมื่อได้รับคำสั่งให้ไปราชการปราบแขกที่มาตีเมืองตรังเมือง สงขลาจึงไปได้ภรรยาซึ่งเป็นพระธิดาของพระปลัดเมืองตะกั่วทุ่ง ( สน )และได้พาภริยามาตั้งครอบครัวอยู่ที่กรุงเทพ ฯ เวลานั้นพี่ชายของหลวงพิพิธภักดีเป็นที่พระพิชัยสงคราม เจ้าเมืองศรีสวัสดิ์และพระยาประสิทธิสงคราม ( ขำ ) เจ้าเมืองกาญจนบุรีเป็นอาของหลวงพิพิธภักดีจึงพาภรรยาไปตั้งครอบครัวอยู่ที่ จังหวัดกาญจนบุรี และลาออกจากราชการไปประกอบอาชีพทำนา ตระกูลคชวัตร นายเล็กกับนางแดงอิ่ม มีบุตร 3 คน

1.นายน้อย คชวัตร
2.นายวร คชวัตร
3.นายบุญรอด คชวัตร
นายน้อย กับนางกิมน้อย คชวัตร มีบุตร 3 คนดังนี้

1.สมเด็จพระญาณสังวรฯ( เจริญ คชวัตร )
2.นายจำเนียร คชวัตร
3.นายสมุทร คชวัตร

โยมบิดา และโยมมารดา
........... นายน้อย คชวัตรโยมบิดาประกอบอาชีพเป็นเสมียนตรา อำเภอเมืองกาญจนบุรีเมื่อ พ.ศ.2445จนเป็นผู้รั้งปลัดขวา เมื่อ พ.ศ.2451ต่อมาไปตรวจราชการเกิดอาการป่วยมากจึงต้องลาออกจากราชการเมื่อหายดี แล้วก็ได้กลับเข้ารับราชการใหม่
...........จนปี พ.ศ.2456 จึงได้บุตรชายคนโตคือ สมเด็จพระญาณสังวรฯและได้ย้ายตำแหน่งเป็นปลัดขวาอำเภอวังขนาย( ท่าม่วง ) เมื่อปี พ.ศ.2458ได้สมัครเป็นสมาชิกเสือป่าได้มีโอกาสซ้อมรบเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้า รัชกาลที่ 6 เสด็จฯ ซ้อมรบเสือป่าที่บ้านโป่งและนครปฐม เมื่อสมเด็จฯกรมพระยาวชิรญาณวโรรสเสด็จฯ เมืองกาญจนบุรีนายน้อยได้นำสมเด็จพระญาณสังวรฯ ขณะนั้นอายุเพียง 2 ขวบ เข้าเฝ้าด้วยต่อมาได้ไปรับราชการที่จังหวัดสมุทรสงคราม เกิดเจ็บป่วยจึงเดินทางกลับเมืองกาญจนบุรีเพื่อพักรักษาตัวและถึงแก่กรรม เมื่อมีอายุได้เพียง 38 ปี สมเด็จพระญาณสังวรฯได้นางเฮงผู้เป็นป้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กเมื่อโยมบิดา มารดาย้ายไปสมุทรสงครามก็ไม่ได้ตามไปด้วย อาศัยอยู่กับป้าที่เมืองกาญจนบุรี


การศึกษา
............ สมเด็จพระญาณสังวรฯได้เข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาเมื่อมีอายุได้ 7 ขวบที่โรงเรียนประชาบาลวัดเทวสังฆารามซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ทรงเรียนที่ศาลาวัดจนจบชั้นสูงสุด คือประถม 3 ถ้าจะเรียนต่อ ระดับมัธยมต้องย้ายโรงเรียนไปเรียนที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม( วัดไต้ ).ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดแต่ครูที่โรงเรียนวัดเทวสังฆารามชวนให้เรียน ต่อที่โรงเรียนเพราะเปิดชั้นระดับประถมปีที่ 4 ( เท่ากับชั้น ม.1 )จึงทรงเรียนที่โรงเรียนเดิม พ.ศ.2468ทรงสอบได้เป็นลูกเสือเอก ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมการเข้าซ้อมร่วมกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎฯ ที่จะเสด็จพระราชดำเนินมาซ้อมรบเสือป่าที่นครปฐมแต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎทรง สวรรคตก่อน
...........ขณะเรียนที่โรงเรียนเคยรับเสด็จฯเจ้านายหลายครั้ง เช่น สมเด็จพระปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธ์วรเดช
...........สมเด็จพระญาณสังวรฯ เรียนจนถึงชั้นประถม 5 ก็ทรงถึงทางตันเพราะเมื่อจบแล้วก็ไม่ทราบว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน จึงออกจากโรงเรียน

บรรชาเป็นสามเณร

........... เมื่อ พ.ศ.2469มีน้าของท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเทวสังฆารามโยมป้าจึงชักชวน ให้บวชเณรแก้บน จึงบรรชาเป็นสามเณรเมื่อมีอายุได้ 14 ปีมีพระครูอดุลสมณกิจ ( ดี พุทธโชติ ) เจ้าอาวาทวัดเหนือเป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงจำพรรษาอยู่ที่วัดเพราะคุ้นเคยกับหลวงพ่อและพระเณรเพราะทรงเรียนหนังสือ อยู่ในวัดมาตั้งแต่เล็ก ทรงศึกษาธรรมสวดมนต์ จนเมื่อออกพรรษาหลวงพ่อชวนให้ไปเรียนภาษาบาลีที่วัดเสน่หา จังหวัดนครปฐม เพื่อต่อไปจะได้กลับไปช่วยสอนที่วัด ในปี พ.ศ.2470
ทรงศึกษาไวยากรณ์ที่ วัดเสน่หา โดยมีพระสังวรวินัย(อาจ) เจ้าอาวาสขณะนั้นและมีอาจารย์ถวายการสอนเป็นพระเปรียญมาจากวัดมกุฏกษัตริยา ราม ได้ทรงเรียนแปลธรรมบท ใน พ.ศ.2472 อีกพรรษาหนึ่งแล้วเสด็จกลับไปประทับที่วัดเทวสังฆาราม
............เมื่อเสด็จไปแสดงพระธรรมเทศนาในงานพระราชทานเพลิงศพพระครูสังวรวินัยหลวงพ่อวัดเหนือ
ได้ นำสมเด็จฯ มาฝากเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์โดยได้อยู่ในความดูแลของพระครูพุทธมนต์ปรีชา ได้รับประทานฉายาจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้าว่า " สุวัฑฒโน" ได้ทรงปฏิบัติตามระเบียบของวัด สวดมนต์
ศึกษาพระปริยัติธรรม ทรงสามารถสอบได้ดังนี้
- พ.ศ.2472 พระชนมายุ 17 ปี สอบได้นักธรรมตรี
- พ.ศ.2473 พระชนมายุ 18 ปี สอบได้นักธรรมโท และเปรียญ 3 ประโยค
- พ.ศ.2475 พระชนมายุ 20 ปี สอบได้นักธรรมเอก และเปรียญ 4 ประโยค
เมื่อ พ.ศ.2474 เป็นสามเณรองค์เดียวที่ได้รับพระราชทานผ้าไตรจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทอดกฐิน ณ วัดบวรนิเวศฯ

ทรงอุสมบทเป็นพระภิกษุ
.......... เมื่อมีพระชนมายุครบอุปสมบท จึงเสด็จฯ มาอุปสมบทที่วัดเทวสังฆาราม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนพ.ศ.2476 โดยมีพระครูอดุลยสมณกิจ ( ดี พุทธโชติ ) เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆารามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินฐสมาจารย์ ( เหรียญ ) เจ้าอาวาสวัดศรีอุปราราม ( วัดหนองบัว )เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดหรุง เจ้าอาวาสวัดทุ่งสมอ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
...........เมื่ออุปสมบทแล้ว จำพรรษาอยู่ที่วัดเทวสังฆารามจนออกพรรษาจึงเสด็จกลับวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงอุปสมบทซ้ำเป็นพระธรรมยุต ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์และเสด็จกลับมาอยู่วัดเหนืออีก 2 ปี ทรงสอบปริยัติธรรมได้ทุกปีดังนี้

- พ.ศ.2476 พระชนมายุ 21 ปี สอบได้เปรียญ 5 ประโยค
- พ.ศ.2477 พระชนมายุ 22 ปี สอบได้เปรียญ 6 ประโยค
- พ.ศ.2478 พระชนมายุ 23 ปี สอบได้เปรียญ 7 ประโยค
- พ.ศ.2481 พระชนมายุ 26 ปี สอบได้เปรียญ 8 ประโยค
- พ.ศ.2484 พระชนมายุ 29 ปี สอบได้เปรียญ 9 ประโยค

........... สมเด็จพระญาณสังวรฯ มีภารทางการงานและการศึกษาตั้งแต่ยังเป็นพระเปรียญตร ีเปรียญโท และเมื่อ มีวิทยฐานะเข้าเกณฑ์เป็นกรรมการตรวจข้อสอบนักธรรมและบาลีก็ได้รับการแต่ง ตั้งเป็นกรรมการตรวจธรรมและบาลีสนามหลวงเรื่อยมา คือตั้งแต่นักธรรมตรี โท เอก ประโยค ป.ธ.3 - ป.ธ.9
............นอกจากนั้นยังมีภารกิจในการเผยแผ่ศาสนาในต่างประเทศ เสด็จฯประเทศต่างๆ มากมายหลายประเทศ
การหนังสือสมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้เรียบเรียงหนังสือต่างๆไว้มาก ทั้งประเภทตำราทางการศึกษา ธรรมกถา ธรรมเทศนา และสารคดีอื่นๆ

............สมณศักดิ์
- พ.ศ. 2490 ทรงเป็นพระราชาคณะสามัญที่พระโสภณคณาจารย์
- พ.ศ. 2495 ทรงเป็นพระราชาคณะในพระราชทินนามเดิม
- พ.ศ. 2498 ทรงเป็นพระราชาคณะชั้นเทพในพระราชทินนามเดิม
- พ.ศ. 2499 ทรงเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมวราภรณ์
- พ.ศ. 2504 ทรงเป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองที่พระศาสนโสภณ
- พ.ศ. 2515 ทรงเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระญษณสังวรฯ
- พ.ศ. 2532 ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระญารสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 19
...........นับเป็นความภูมิใจของชาวกาญจนบุรีอย่างยิ่ง ที่สมเด็จพระญารสังวรฯ ได้รับพระราชทานดำรงตำแหน่งเป็น
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ของประเทศไทย ขอให้ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน............
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

ขอพักเส้นทางปั่นชมเมืองสักครู่
ขอแนะนำทะเลน้ำจืดท่าล้อ ห่างจากตัวเมือง 5 กิโล
สำหรับเวลาปั่นออกทริปเสร็จมาเล่นน้ำกันได้
รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ




รูปภาพ



รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
ardam
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 931
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 19:55
Tel: 0812855982
team: ชมรมจักรยานกาญจนบุรี
Bike: WHEELER,DAHON,KHS,JAVA

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย ardam »

ปชส.ได้สุดยอดครับท่านประธาน
เสียเหงื่อ สบายตัว
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

เมืองกาญจน์ ๑๗๗ปี
รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ



รูปภาพ




รูปภาพ




รูปภาพ



รูปภาพ




รูปภาพ




รูปภาพ




รูปภาพ[/url




[url=http://upmany.com/uTnY]รูปภาพ





รูปภาพ





รูปภาพ





ณ จุดที่แม่น้ำแควน้อยไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแควใหญ่ เป็นชัยภูมิซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงใช้สร้างเมืองใหม่ในปีพ.ศ. 2374 และได้ขยับขยายบ้านเมืองสืบทอดวิถีผู้คนผ่านยุคล่าสมัยอาณานิคม สงครามโลก เรื่อยมาจนเป็นเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน นับได้เป็นระยะเวลาถึง 177 ปีแล้ว
ถนนปากแพรก ย่านชุมชนเก่าแก่ของเมืองกาญจน์ที่ขนานไปกับน้ำแควใหญ่ ใกล้กำแพงเมือง มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์พร้อมกับสร้างเมืองในยุคแรก ๆ บริเวณนี้เป็นย่านการค้าสำคัญ เนื่องจากใกล้ชุมทางขนส่งทางน้ำของกาญจนบุรี ปัจจุบันเป็นจุดที่เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองกาญจน์หลาย แห่ง อาทิ กำแพงประตูเมืองเก่า ศาลหลักเมือง พิพิธภัณฑ์สงครามวัดใต้ และยังอยู่ใกล้ท่าน้ำหน้าเมืองที่มีเรือแพท่องเที่ยวมากมาย
สิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ มีทั้งโบราณสถาน บ้านเรือนร้านค้าแบบไม้และตึก ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงแบบจีนและตะวันตก ก่อสร้างอยู่รวมกันตลอดเส้นทางสายนี้ เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร


ประตูเมืองเก่า
รัชกาลที่ 3 ได้ทรงย้ายเมืองกาญจนบุรีจากลาดหญ้า มาตั้งยังอยู่ที่ปัจจุบัน ประตูเมืองก่อด้วยอิฐ ด้านบนตัวอักษรระบุปี พ.ศ. 2374 ที่สร้างเมือง ด้านหน้าประตูมีพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 3 ส่วนด้านข้างเป็นแนวกำแพงเมืองเก่า
รูปประจำตัวสมาชิก
jam
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 305
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 11:51
Tel: 08-1858-9279
team: -
Bike: วิสกี้ & รังนก

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย jam »

อยากทราบเส้นทางปั่นด้วยครับ
FIFTY-UP GROUP
รูปประจำตัวสมาชิก
somsak tarasunton
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3952
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 081-1997717
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: Cervélo-Specialized -merida- bianchi-TREk

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย somsak tarasunton »

jam เขียน:อยากทราบเส้นทางปั่นด้วยครับ
เส้นทางปั่นอยู่หน้าที่ 2
หรือคลิ๊ก
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 5&start=15
รูปประจำตัวสมาชิก
protum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 731
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 14:13
Tel: 0840846531
team: ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี
Bike: scott trek dahon

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย protum »

ข้อมูลปึ้กจริงๆครับลูกพี่ :o :o :o :ugeek:
DRINK SEX BIKE
รูปประจำตัวสมาชิก
macro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1231
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2009, 09:08
Tel: 0888488101
team: ขี่มั่วฯ

Re: @@จักรยานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินาถอาทิตย์ที่15ส.ค53

โพสต์ โดย macro »

somsak tarasunton เขียน:
jam เขียน:อยากทราบเส้นทางปั่นด้วยครับ
เส้นทางปั่นอยู่หน้าที่ 2
หรือคลิ๊ก
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 5&start=15
อื้อฮือ.สุดยอดส์......ทั้งภูมิศาสตร์,ประวัติศาสตร์ ละเอียดๆแน่นๆเนื้อๆเน้นๆ
ประชาสัมพันธ์เยี่ยม จัดงานยอด ต้องประธานสมศักดิ์ ธาราสุนทร เท่านั้นนนนน
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ชมรมจักรยานจังหวัดกาญจนบุรี”