หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 09 มี.ค. 2019, 18:14
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เหล้าเก่าในขวดใหม่ อ่านเรื่องเก่าทีไรก็ดูสับสนยังไงอยู่จึงนำกลับมาเรียบเรียงเสียใหม่ ซึ่งตอนนั้นก็ใช้เครื่องโทรศัพท์รายงานสดๆก็มีขาดๆเกินๆ ทริปนี้เราตั้งใจจะขึ้นรถไปถึงปลายทางแล้วปั่นกลับ 1 เมษายน 2559 เราสามคนเดิมๆมีพิชิต-บุญน้อมและ จขกท.บรรทุกรถจักรยานขึ้นรถที่แขวงบ่อแก้ว(ห้วยทราย) ข้ามสะพานที่ด่านอำเภอเชียงของ (สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 ) ค่าโดยสารคนละ 20 บาท ค่าจักรยานคันละ 100 บาท(แพงอิบอ๋าย)ต้องยัดใต้ท้องรถไป ใครเสียดายรถไม่เหมาะกับการเดินทางแบบนี้ เชื่อเหอะไม่ยัดใต้ท้องรถก็กองไว้บนหลังคามีแค่นี้ ท่ารถที่จะไปคุนหมิงอยู่คนละที่กับท่ารถในประเทศแต่ก็อยู่ใกล้ๆกัน จากด่านไปหาท่ารถประมาณ 5 กม.อยู่นอกเมืองห้วยทรายมาทางใต้ จะเป็นรถนอนเตียง 2 ชั้น ค่าโดยสารจ่ายที่ช่องขายตั๋ว ค่าระวางรถตกลงกับคนขับต่อรองได้ อย่างมากก็ไม่เกินครึ่งหนึ่งของค่าโดยสาร มัดมือชกเหมือนกันนะเพราะซื้อตั๋วแล้ว ขนสัมภาระและรถไปรอที่ช่องจอดรถรอคนขับรถมาตกลงราคา ผมโชคไม่ค่อยดีได้ที่นอนอยู่เหนือห้องคนขับ ไม่สามารถมองเห็นนอกรถเหมือนที่นั่งด้านข้างๆเลย รถแอร์แต่ไม่ค่อยเย็นเพียงพอที่เราต้องการ ห้องคนขับไม่ปิดแยกมีแต่บันไดลงไปผ่านออกประตู เพราะคนขับมันเปิดประตูหน้า เปลี่ยนกันสูบบุหรี่ เดี๋ยวเดียวกลิ่นบุหรี่ก็ขึ้นมา นึกถึงสภาพเหมือนนอนในโลงทึบๆแกว่งไปมาและมีกลิ่นบุหรี่โชยมาเป็นระยะๆ(โอ๊ยจะ..) รถออกบ่ายแก่ๆ(ตอนนี้เปลี่ยนเวลาครับตามตารางการเดินรถด้านล่างเป็น 10โมงเช้า)วิ่งไปประมาณร้อยโลก็จอดบนเขาก่อนถึงเมืองเวียงภูคาให้ผู้โดยสารลงเดินเข้าป่าข้างทางปลดทุกข์ รถเดินทางต่อผ่านแขวงหลวงน้ำทา เข้าปากทางบ่อเต็น จอดอีกที่เมื่อถึงด่านชายแดน ผู้โดยสารลง ผมวิ่งไปอ้วกแถวๆห้องน้ำเออค่อยอยากมีชีวิตอยู่ดูโลกกับเขาบ้าง คนลงจากรถผ่านระบบด่าน รถวิ่งจอดรอข้างหน้า เข้าด่านจีนที่บ่อหาน (จีนออกเสียงเป็นโมฮัง) จากนั้นก็วิ่งผ่านเมืองลาตรงยาวไปคุนหมิง หลับๆตื่นๆมาจอดอีกทีประมาณตี 3 เป็นลานจอดรถ มีรถโดยสารจอดอยู่เป็นสิบๆคัน ผู้โดยสารลงมาหาอาหารกิน ซื้อของ แล้วกลับขึ้นไปนอนในรถต่อ ร้านค้าที่เปิดบริการก็ปิดร้านหลับต่อ พอดีมีผู้โดยสารคันหนึ่งไปทำงานที่คุณหมิงก็คุยกัน เขาบอกว่ารถต้องรอให้ถึงเวลาที่กำหนดก่อนจึงจะเข้าไปในคุนหมิงได้ (เข้าเมืองก่อนเวลาก็ไม่ได้ฮ่วย) ถึงคุนหมิงยังไม่สว่างดี พอจัดสัมภาระเสร็จก็สว่างพอดี (ป.ล.เราแลกเงินหยวนไว้ก่อนแล้วที่พ่อค้าในเชียงของ) (ต้องขออภัยนะครับภาพก็อปของเดิมมาดูขัดตาเล็กน้อย)

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 09 มี.ค. 2019, 21:00
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
ท่ารถสายตะวันออกที่เราไปจอดคุนหมิง เราจะต้องหาทางไปท่ารถสายตะวันตกให้ได้ ตอนนั้นเรื่อง GPS ยังไม่คุ้น การค้นหาอะไรต่างๆในมือถือยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ถามทางเขาก็พยายามจะเข้าใจ แต่ก็ไปไม่ถูกสักที ถนนมันหลายชั้นเหมือนกับเราอยู่หมอชิตจะไปบางนายังงี้แหละ สุดท้ายก็ต้องเข้าโรงพัก เจอตำรวจพอคุยอังกฤษได้บ้างนิดหน่อยคนหนึ่ง มาสบทบอีกคนพูดไทยได้เพราะเคยมาทำงานแถวห้วยทรายอยู่เหมือนกัน แต่พูดคำไดก็ไอ้ห่า 55 แต่เขาก็ใจดีขับรถยนต์ไปส่งที่ท่ารถสายตะวันตก ถึงว่ามันไกลเป็น 30 โลเห็นจะได้ เมื่อไปถึงก็ไปถามข้อมูลเรื่องรถจะออกเวลาใด แล้วขี่ตระเวนหาโรงแรมพักใกล้ๆกัน อันที่จริงถ้าเราจะขึันรถโดยสารต่อไปยังท่ารถสายตะวันตก ก็ซื้อตั๋วใกล้ๆกันนั่นแหละและยังมีรถสายตรงไปแชงกรีลาโดยไม่ต้องแวะลี่เจียงอีกด้วย แต่เราขี่จักรยานออกไปเรื่องมันเลยยาว รุ่งเช้าก็มาซื้อตั๋วรถต่อที่ 2 ไปยังเมืองลี่เจียงเป็นเป้าหมายต่อไป หลายร้อยกิโลอยู่นะ เมื่อไปถึงเมืองลี่เจียงก็ปั่นไปตามป้ายเมืองเก่า หาที่พักไกลจากเมืองลี่เจียงเก่าประมาณ 1 กม. จำได้ว่าไม่ไกลจากอนุสาวรีย์เหมาเจ๋อตุงสักเท่าไร ตกเย็นก็ออกจากที่พักไปเที่ยวเมืองเก่ากัน ลี่เจียงเมืองมรดกโลก ตามถนนร้านรวงต่างๆ โรงแรมหรือบ้านพักในเมืองเก่าก็มีอยู่แต่ราคาน่าจะแพง ย้อนยุคดีมีสีสรร เพลินตาเพลินใจ ถนนปูด้วยหินลดหลั่นไปตามสภาพพื้นดิน เราเดินเที่ยวจนเมื่อยจึงเดินกลับไปที่พัก วันที่ 2 ของเมืองลี่เจียงเที่ยวตามโบรชัวร์แนะนำไปเที่ยวภูเขาหิมะมังกร ไปทางตะวันออก 5-6 โล แล้วเลี้ยวซ้ายยาวไป 20-25 โล ก่อนถึงปลายทางอีก 8 กม.มีซุ้มประตูด่านเก็บเงิน มีรถท่องเที่ยวมากมายทั้งเล็กทั้งใหญ่ แต่ถามใครก็ไม่ได้คำตอบ ในที่สุดก็ได้ซื้อตั๋วคนละใบเป็นเงินไทยหมดคนละหลายร้อย แต่มารู้ในเวลาต่อมาว่าเป็นแค่ค่าผ่านทางเพราะไปใช้สิทธิ์อะไรข้างหน้าไม่ได้เลย เดาว่ามันน่าจะคิดจักรยานเราคันหนึ่งเท่ารถทัวร์คันหนึ่งทีเดียว ต้องปั่นไปอีก 8 กม.ซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงกลางแจ้งที่ใช้ภูเขาเป็นฉากหลัง การแสดงยิ่งใหญ่ตระการตา คนแสดงหลายร้อยคน มีขบวนม้า แสดงประวัติความเป็นมาของชนชาติจีนในอดีต จากนั้นซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าไปยอดเขาหิมะมังกร จะต้องซื้อออกซิเจนคนละกระป๋องเพราะอากาศหายใจข้างบนลำบาก รวมทั้งเช่าเสื้อกันหนาวคนละผืนด้วย ขึ้นรถยนต์บริการพาขึ้นเขาไปสูงระดับหนึ่ง ต่อจากนั้นก็เข้าคิวไปขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขา ออกจากอาคารกระเช้าก็ขึ้นไปลุยหิมะกันเลย 2 เสือออกไปสนุกสนานปะปนไปกับนักท่องเที่ยว ส่วนผมออกไปสักพักก็รู้สึกหวิวๆต้องกลับเข้ามาในอาคารสูดออกซิเจนรอ ได้เวลาอันสมควรก็ลงกระเช้าและต่อรถที่จุดเดิม ขี่จักรยานกลับที่พัก สรุปวันนี้จ่ายเงินไปเยอะเลยคนละหลายพัน แต่ถ้าเราจอดรถไว้ที่พักในเมืองใช้บริการบริษัททัวร์ตามบู้ทขายทัวร์ในเมืองเบ็ดเสร็จก็จ่ายเพียง 480 หยวน(สองพันกว่า) นับว่าเป็นการหลงทางครั้งที่2 แต่เราก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบนะครับ เรื่องกระบอกแก็สออกซิเจนถ้าซื้อข้างนอกไปราคา 60-80 หยวน แต่ถ้าไปซื้อก่อนขึ้นกระเช้า กระป๋องละ 100 หยวน กระบอกนี้ผ่านเข้าท่ารถโดยสารในการเดินทางไปต่างเมืองไม่ได้นะต้องทิ้งแต่ถ้าแอบยัดไว้ในกระเป๋าไม่แน่อาจรอดถ้าผ่านเครื่องสแกนก็ไม่รอดเหมือนกันโดยปกติเราจะจูงรถออกอีกช่องโดยไม่ผ่านเครื่อง(โหลดกระเป๋า) เสียดายนะถ้าใช้ไม่หมด ถ้าเตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆไปก็ไม่ต้องเสียค่าเช่าอีก 250 บาท

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 00:02
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เช้าวันที่ 2 ของเมืองลี่เจียงเราไปท่ารถและเดินทางกันแต่เช้า เป็นต่อที่ 3 จากเมืองลี่เจียงไปแชงกรีล่า(แชงเกอรีล่า) ถึงแชงกรีลาบ่ายๆอากาศเริ่มหนาวมีลมพัดจึงรีบตระเวนหาบ้านพักไม่ไกลจากท่ารถสักเท่าไร เมื่อเอาของไว้ที่โรงแรมแล้วก็ปั่นเที่ยวแชงกรีล่าไปตามถนนต่างๆ เที่ยวเมืองเก่า ถามชาวบ้านว่าวัด "ต้าฝอ"ไปทางไหน บริเวณเมืองเก่าก็จะมีโรงแรมที่พักต่างๆอีกด้วย ทั้งยังมีเตียงเป็นแค็ปซูล(Youth Hostel) หรือเป็นห้องรวมไว้บริการด้วย ที่น่าจะไปเที่ยวอีกที่หนึ่งคือวัดชงจ้านหลิน ที่จำลองวัดโปตาลาในธิเบตมาไว้อย่างครบครัน ต้องโบกรถให้เขาไปส่งที่ขายตั๋ว เช้าวันต่อมาก็เดินทางโดยรถประจำทางอีกเป็นต่อที่ 4 จากแชงกรีล่าไปเมืองเต๋อชิงเป็นเป้าหมายสุดท้าย ช่วงนี้ไม่เก็บค่าระวางจย. ไปได้ประมาณครึ่งทางหิมะก็ตกตลอดทาง เมื่อไปถึงท่ารถเมืองเต๋อชิง ก็รีบปั่นหาที่พักเพราะหนาวมากจากท่ารถไปไม่ไกลก็เจอโรงแรมแรกขวามือก็ตกลงเข้าพักเลย รีบอาบน้ำห่มผ้านอน เพื่อความอบอุ่น เป็นช่วงที่ต้องปรับร่างกายมีคำแนะนำว่าต้องเคลื่อนไหวอย่างช้าๆเป็นสโลไลฟ์ไปเลย ไม่งั้นหน้ามืดใจสั่น ร้านรวงตลาดเขาติดกระจกกันหมด คนก็เข้าอยู่ด้านใน

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 00:29
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เช้าวันที่ 2 ของเมืองเต๋อชิง ท้องฟ้าครึ้มๆแต่หิมะหยุดไปตั้งแต่หัวค่ำเมื่อวาน 8 โมงกว่าแล้วชาวบ้านไปค่อยออกมาพลุกพล่านตามถนนสักเท่าไร ดูเหมือนว่าเขานอนตื่นสายกัน เราปั่นขึ้นเจอถนนหลักที่จะไปธิเบต(1,500 กม.)ก็เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 10 กม.ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่เราไปถึง ป้ายจะบอกว่าไป Meili Snow mountain น่าจะเป็นหมู่บ้านมากกว่าเมือง มีร้านค้า มีโรงแรม ซึ่งจุดนี้เขานิยมมาตั้งกล้องเพื่อรอถ่ายภูเขาสีทองเมื่อหิมะต้องกับแสงดวงอาทิตย์ (ภูเขาหิมะเหมยลี่หรือคาวากาโปในภาษาธิเบต) เราหาจุดริมถนนด้านซ้ายมือเลยหมู่บ้านออกไปมีผู้คนมารอถ่ายรูปประมาณ 30 คน มีรถยนต์เหมาลำไปเที่ยวหมู่บ้านข้างล่างลิบตา เขาบอกเป็นสายน้ำต้นแม่น้ำโขง นอกจากนั้นจุดนี้ซ้ายมือยังมีลานจอดรถนำเที่ยวที่จะพาไปดูหมูบ้านท้องถิ่น วัดเฟยไหล ห่างไป 2 โล มีพวกBack packer ของไทยเคยเดินไป (ข้อมูลใน Pantip) ถ้าจะให้สบายใจก็ต้องซื้อตั๋วก่อน คนละ 60 หยวนเพื่อเข้าชมวัดเฟยไหล ไปดูวัดไปขี่ม้าในกรณีที่ใช้บริการทัวร์ จะจุดนี้เราเฝ้ารอเป็น 2 ชั่วโมงฟ้าก็ไม่เปิดเพื่อจะได้ชื่นชมกับภูเขาหิมะต้องแสงอาทิตย์เป็นสีทอง จึงต้องปั่นกลับ ไปเที่ยวเมืองเก่าเต๋อชิง ก็มีลักษณะแบบเมืองจีนโบราณทั่วไปที่ใช้หินและไม้ซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่นติดกันเป็นพืดลดหลั่นไปตามสภาพพื้นที่ มีถนนแคบๆปูด้วยแผ่นหิน ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 06:23
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เราพักนอนที่เมืองเต๋อชิง 2 คืนจึงเริ่มปั่นกลับเป็นขาขึ้นครับ เริ่มกัน 8 โมง ร้านมุสลิมใจดีทำข้าวผัดฟรีสำหรับการเดินทาง ที่จริงก็จะไปสั่งกินแต่ร้านเขายังไม่เปิดบริการ ขึ้นมาสัก 5 โลก็ลอดถ้ำไม่ยาวนักเป็นถ้ำแรก ด้านในติดแสงไฟ ช่วงนี้ยาว 50 โลได้มั้ง จะต้องปั่นให้ได้ในวันเดียวให้พ้นภูเขาที่หนาวเย็น ไม่มีบ้านคน ไม่มีที่พักให้กางเต็นท์ หน้าแดงจมูกแดงหมด ทางบางช่วงแคบมากไม่มีไหล่ทางสูงชัน เดี๋ยวนี้น่าจะสร้างเสร็จแล้วก็ไม่รู้ ขึ้นถึงยอดเขามีจุดชมวิวสูงสุดถ่ายรูปกัน ระยะทางเกือบครึ่งต่อครึ่ง เพราะลงอย่างเดียว 20-30 โล ถึงหมู่บ้านข้างล่างเกือบค่ำ ลูกสาวเจ้าของบ้านพักตะโกนโหวกเหวกโบกมือจึงย้อนกลับเป็นโรงแรมเล็กๆ ที่จริงก็เป็นแมนชั่น บ้านหลังใหญ่ 3 ชั้น มีหลายห้อง นำมาจัดเป็นโรงแรมเสียเลย มีทำอาหารขายด้วยครับ ห้องน้ำรวมมีน้ำอุ่นให้อาบด้านนอก นักปั่นชอบมาแวะที่นี่เห็นร่องรอยเขียนเต็มฝาผนัง มีลูกสาว 2 คน คนเล็กสวยกว่าจบ ป.ตรีวิชาเอกภาษาธิเบต คนพี่อารมณ์ดีเป็นแม่งานขอจับมือบีบแข็งกร้าน เธอต้องออกไปทำสวนแต่เช้าๆ ค่าพักคนละ 20 หยวนเอง เช้าวันต่อมายังลงอีกเรื่อยๆเข้าสูเมืองเปิ้นจื่อหลาน เป็นเมืองเล็กๆยาวไปตามถนนปั่นไปสัก 20 โลได้ แวะกินข้าวเมืองนี้ สุดเมืองก็เริ่มเป็นทางขึ้นได้พบกับทีมปั่นจากไทยและทีมงานคนค้นคนไปทำรายการรวม 19 คน ทุกรถบินไปจากเชียงใหม่ลงคุนหมิง มีรถยนต์ service ตลอดการเดินทาง ช่วงไหนทางขึ้นเขาก็ขึ้นรถ ทางช่วงไหนสะดวกก็ปั่ต่อ ช่วงนี้เขาปั่นมาจากแชงกรีล่าซึ่งเป็นขาลง 6-70 โล ซึ่งตรงข้ามกับเราเป็นขาขึ้น ต้องไปแวะนอนกลางทาง

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 07:26
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
ขึ้นจากเมืองเปิ้นจื่อหลานแล้วขึ้นเรื่อยๆไม่ชันแต่ยาวประกอบกับก็ไม่เร่งรีบ เหนื่อยก็หยุด มีร้านก็แวะบ้าง เห็นวิวสวยๆหรือมีอะไรแปลกตาก็หยุดถ่ายรูป จนใกล้ค่ำก็เจอหมูบ้านหนึ่ง ร้านอาหารทางซ้ายอ้าวปิด พอดีมีอยู่ทางขวาข้างบนเป็นร้านค้า ด้านล่างทำเป็นห้องพักเพิ่งเปิดให้บริการ พักที่นี่คืนหนึ่งรุ่งเช้าก็ออกเดินทางพอสายนิดหนึ่งเริ่มมีหมอกต้องเปิดไฟรถ น่าจะไปสัก 20 โล ถึงจะลงสู่เมืองแชงกรีล่า ก่อนลงมีจุดชมวิวเมืองด้านขวามือด้วย มองเห็นสนามบินลิบๆ ต้องยอมรับว่าแชงกรีล่าสมกับเป็นที่ราบสูงจริงๆ ลงไปอีกไม่ถึง 10 โลก็เข้าสู่ตัวเมืองแชงกรีล่า เราไปพักที่โรงแรมแห่งเดิม หลังจากเก็บของแล้วก็ตระเวนเก็บเกี่ยวบรรยากาศของแชงกรีล่าอีกบ้างตามสมควร ในช่วงเดือนเมษานี้หิมะไม่ค่อยตกที่เมืองนี้ แต่เต๋อชิงเดือนเมษาตกทุกปีเพื่อนนักบิดจากเชียงของท่านหนึ่งบอกมา ที่เราไมได้ไปคือวัดชงจ้านหลิน ค่าตั๋ว 115 หยวน แล้วขึ้นรถของวัดไป 10 นาทีก็ถึง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดโปตาลาน้อย เพราะจำลองวัดโปตาลาจากธิเบตมาทั้งหมดเลย

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 08:03
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
นอนที่แชงกรีล่าคืนหนึ่งก็เดินทางต่อในเช้าวันต่อมา ปั่นรถออกนอกเมืองไปไม่ถึง 10 โลก็เจอเจดีย์ เป็นวงเวียน ขี่อ้อมซ้ายไป (อ้อมขวาไปทางซ้ายถึงจะถูก..งง) ครับจะลงเป็นส่่วนใหญ่ 7-80 โลเห็นจะได้ ถ้าปั่นขึ้นคงเหนื่อยน่าดู แต่เคยอ่านใน MTB. เหมือนกันว่าเคยมีคนปั่นขึ้น บ่ายคล้อยก็แวะเมืองหูเท้าเฉว แวะนอนที่นี่เพื่อไปเที่ยวหุบเขาเสือกระโจนในวันรุ่งขึ้น กะว่าจะไปถ่ายภาพไกลๆก็พอไม่ต้องเข้าไป ที่ไหนได้เจอซุ้มประตูเก็บเงินที่ก่อนออกเมืองนี้เลยกว่าจะไปถึงเป็น 10 โล เมื่อไปถึงล็อกรถไว้กับราวเหล็กที่ลานจอดรถ แสดงตั๋วแล้วก็เดินลงตามบันไดไปสู่แม่น้ำ เที่ยวจนเพลิน ใครเดินไม่ไหวก็มีคานหามบริการนะครับ เช้าวันต่อมาก็เดินทางต่อไปเมืองต้าหลี่ จนเกือบเย็นก็ถึงทางแยกซ้ายจะไปเมืองลี่เจียง (เราไปเที่ยวขามาแล้ว) เลี้ยวขวาไปเมืองต้าหลี่ที่เราเลือก เป็นเส้นทางท้องถิ่นเกือบจะคู่ขนานไปกับเส้นใหญ่ ทางกำลังก่อสร้าง ณ พ.ศ.นี้(2562)คงเสร็จแล้วนะ ใกล้ค่ำก็พักนอนที่หมู่บ้านแห่งมี ที่ห้องพัก 2 ชั้น ห้องน้ำรวมด้านนอก เกือบเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เสียแล้ว เพราะไปอาบน้ำ (ร้อนๆ) ข้างล่าง พอเสร็จก็หนาวสั่นวิ่งขึ้นมารีบใส่เสื้อผ้าห่มผ้าแทบไม่ทันทั้งที่สั่นสะท้านช้ากว่านี้คงชักกระตุกไปแล้ว 55

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 09:12
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เราแวะนอนเมืองข้างทางขวามือเข้าไปอีก 5-6 โล ตระเวนหาที่พักก็เจอพี่ใจดีคนหนึ่งแกเปิดร้านขายจักรยาน นำเราไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ค่าห้องแพง(จนผิดสังเกต) กล่าวขอบคุณแล้วเขาจากไป เราวนหาบ้านพักต่อไปจนเจอราคาที่เหมาะสม เมืองนี้ไม่มีอะไรพิเศษและเราก็กลับออกมาเลี้ยวขวาไปต่อเมืองต้าหลี่เก่าเป็นเป้าหมายต่อไป จนเย็นก็ถึง ด้านขวามือจะเป็นเจดีย์ 3 องค์(เรียกเอง) แหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้ ต้องซื้อตั๋วเข้าไปแต่เราก็ถ่ายรูปแค่ภายนอก ไปอีกสักพักก็เห็นซุ้มประตูกำแพงเมืองต้าหลี่เก่าสูงตระหง่านอยู่ข้างถนนด้านซ้าย เราหาโรงแรมนอนฝั่งตรงข้าม ราคาไม่แพง หลังจากเก็บของเข้าห้องพักแล้วกระเดินข้ามถนนไปเที่ยวเมืองต้าหลี่เก่า บรรยากาศคล้ายเมืองเก่าลี่เจียงแต่ไม่คึกคักเท่า

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 09:24
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เราแวะนอนเมืองข้างทางขวามือเข้าไปอีก 5-6 โล ตระเวนหาที่พักก็เจอพี่ใจดีคนหนึ่งแกเปิดร้านขายจักรยาน นำเราไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ค่าห้องแพง(จนผิดสังเกต) กล่าวขอบคุณแล้วเขาจากไป เราวนหาบ้านพักต่อไปจนเจอราคาที่เหมาะสม เมืองนี้ไม่มีอะไรพิเศษและเราก็กลับออกมาเลี้ยวขวาไปต่อเมืองต้าหลี่เก่าเป็นเป้าหมายต่อไป จนเย็นก็ถึง ด้านขวามือจะเป็นเจดีย์ 3 องค์(เรียกเอง) แหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้ ต้องซื้อตั๋วเข้าไปแต่เราก็ถ่ายรูปแค่ภายนอก ไปอีกสักพักก็เห็นซุ้มประตูกำแพงเมืองต้าหลี่เก่าสูงตระหง่านอยู่ข้างถนนด้านซ้าย เราหาโรงแรมนอนฝั่งตรงข้าม ราคาไม่แพง หลังจากเก็บของเข้าห้องพักแล้วกระเดินข้ามถนนไปเที่ยวเมืองต้าหลี่เก่า บรรยากาศคล้ายเมืองเก่าลี่เจียงแต่ไม่คึกคักเท่า

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 09:52
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
ออกจากเมืองต้าหลี่เก่ามุ่งลงใต้เลียบข้างทะเลสาปเอ๋อไห่อันกว้างใหญ่ เจอนักปั่นเจ้าถิ่นเมืองใกล้ๆมาปั่นบอกว่ารอบหนึ่ง 200 กิโลเมตร มุ่งสู่ทางทิศใต้ จนบ่ายๆก็เข้าสูเมืองต้าหลี่ใหม่ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ ผ่านทางแยกมากมายแต่เราเน้นทางตรงเรื่อยไปจนสุดทาง เหมือนว่าจะบังคับให้เลี้ยวซ้ายด้วยภูเขาหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ เจอคนก็ถามหา "ชีเชอจ้าง" (ท่ารถ) เขาก็บอกทางให้แต่ที่แรกไม่ใช่เป็นท่ารถในท้องถิ่น ต้องไปต่ออีกสักพักก็ไปเจอท่ารถที่จะไปสิบสองปันนาหรือเชียงรุ่ง ที่เราตั้งใจจะขี่รถเพราะถามเขาแล้วว่าระยะเวลาจากเมืองต้าหลี่ใหม่ถึงสิบสองปันนา รถยนต์ 10 ชั่วโมงต้นๆ ซึ่งลัดเลาะไปตามภูเขาเราคงเสียเวลาไปเยอะ แต่ใครจะปั่นก็มีเมืองเล็กๆตามรายทางนะครับ หลังจากได้ข้อมูลท่ารถแล้วก็ไปหาที่พักใกล้ๆ นั่นเอง เก็บของเข้าห้องพักแล้วก็ปั่นไปเที่ยวทะเลสาปเอ๋อไห่ ไกลออกไป 4 กม. คงนึกภาพออกว่าเมืองต้าหลี่ใหม่อยูขอบทะเลสาปด้านทิศใต้

Re: ย้อนอดีตลุยหิมะที่เต๋อชิง งบไม่เกิน 2 หมื่น

โพสต์: 10 มี.ค. 2019, 10:29
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
รถออกตอนสายแต่ถึงสิบสองปันนาเที่ยงคืนกว่า สะดุ้งตื่นระหว่างทางเมื่อรถเปิดไฟมีทหารขึ้นไปตรวจ ถามหา passport สงสัยถิ่นนี้น่าจะเป็นชายแดน ถึงสิบสองปันนาก็หาโรงแรมนอนพักกัน จนรุ่งเช้าตัดสินใจปั่นไปต่อเมืองลาเพื่อเข้าประเทศลาวต่อไป แต่ละคนเคยมาสิบสองปันนาแล้ว พวกเราจึงไม่อยู่เที่ยว ไปหาซื้ออาหารในตลาดและเดินทางต่อ ทางช่วงนี้กำลังก่อสร้างกัน(ตอนนั้น) จนค่ำเราแวะนอนที่เมืองๆหนึ่ง ตรงนี้มีทางแยกที่จะไปท่่าเรือ "กวนเล่ย"ที่ขี่ไปเชียงแสนได้ในวันเดียว แต่ต้องไปอีก 30 กม. ไม่แน่ใจว่าจะเจอเรือสินค้าไหมอย่างไร เรือโดยสารมีบ้างไหม จะไปได้หรือไม่ได้ยังเป็นปัญหาอยู่ พออีกวันเราจึงเดินทางต่อเป้าหมายต่อไปคือเมืองลา ถนนมีขึ้นมีลงครับ เป็นเส้นทางสายเก่า ถึงเมืองลาก็บ่ายๆ พักนอนที่เมืองลา ใกล้ๆกับท่ารถ เหตุผลเดิมคือไม่ขี่ในลาวเพราะเราเคยปั่นแล้วตกลงขึ้นรถเมืองลาเข้าลาวผ่านแขวงหลวงน้ำทา ไปถึงบ่อแก้ว(ท่ารถ)ปั่นไปถึงด่านอีก 5 โล ข้ามเชียงของ กลับบ้าน จบทริปเต๋อชิงเพียงนี้ พยายามจะหาภาพและแก้ไขเนื้อเรื่องบางที่ที่ผิดไปเพื่อให้สมบูรย์ยิ่งขึ้น ก็แวะเข้ามาอ่านได้นะครับ และต้องขอโทษเรื่องภาพที่ก็อปปี้มาจากเรื่องเดิม เรื่องระยะทางต่างๆผมใช้ความรู้สึกมากกว่าความเป็นจริง หลายปีก็ลืมไปนะครับ สวัสดีครับผม.....