หน้า 1 จากทั้งหมด 7
ทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม
โพสต์: 02 มิ.ย. 2017, 08:04
โดย เขียดขาคำ
สรุปทริป 8 เมษายน 2560
เวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง-เดียนเบียนฟู-ซาปา-ฮานอย-เวียงจันทน์
===============================
สมาชิกครั้งนี้ 14 คน แผนเดิมจะเริ่มปั่นที่ด่านนากระเซ็ง อ.ท่าลี่ จ.เลย แต่ด่านนี้ไม่อนุญาตให้สองล้อเข้า
ต้องเปลี่ยนแผนมาเข้าทางหนองคายและเปลี่ยนเส้นทาง
===============================
ยกที่ 1 หนองคาย - หลวงพระบาง 5 วัน
7 เมษายน หนองคาย - เวียงจันทน์
8 เมษายน เวียงจันทน์ - เขื่อน้ำงึม
9 เมษายน เขื่อนน้ำงึม - วังเวียง
10 เมษายน พักเที่ยววังเวียง (แยกกลับที่วังเวียง 1 คน)
11 เมษายน เปลี่ยนแผนเนื่องจากความร้อน ขึ้นรถไปหลวงพระบาง
==============================
ยกที่ 2 หลวงพระบาง - เดียนเบียนฟู 2 วัน
12 เมษายน เที่ยวหลวงพระบาง
13 เมษายน ขึ้นรถไปเมืองใหม่ (แยกกลับที่หลวงพระบาง 3 คน)
ช่วงนี้ก็เปลี่ยนแผนเลื่อนมาปั่นที่เมืองใหม่ เกรงจะมีปัญหาเรื่องการผ่านด่าน พอไปจริงไม่มีปัญหา
=============================
ยกที่ 3 เมืองใหม่ - ซาปา 5 วัน
14 เมษายน เมืองใหม่ - เดียนเบียนฟู
15 เมษายน เดียนเบียนฟู - เมืองลาย
16 เมษายน เมืองลาย - พงโท
17 เมษายน พงโท - ไลเจา แล้วเปลี่ยนแผนขึ้นรถไปซาปาเนื่องจากฝนตก
18 เมษายน เที่ยวซาปา ตอนเย็นนั่งรถลงมาฮานอย , อีกกลุ่มไปฮาลองและกลับวันที่21
19 เมษายน ฮานอย ตอนเย็นนั่งรถไปเวียงจันทน์
20 เมษายน เวียงจันทน์ ข้ามกลับหนองคาย
============================
โพสต์: 02 มิ.ย. 2017, 08:04
โดย เขียดขาคำ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
Re: รายงานทริป 8 เมษา ซาปา
โพสต์: 02 มิ.ย. 2017, 08:07
โดย เขียดขาคำ
แผนที่ เส้นทางคร่าว ๆ วัดมาจาก google เพื่อเป็นแนวทางในการปั่น
##เริ่มจากเมืองใหม่##
(เราสามารถขึ้นรถจากเวียงจันทน์ไปลงที่เมืองใหม่ได้เลย มีรถสายตรงออกจากเวียงจันทน์ 10 โมง ถึงเมืองใหม่ประมาณ 8 โมง ของอีกวัน เป็นรถนอน)
จากเมืองใหม่ - ด่านปางหก ผิวถนนดี สภาพเส้นทางยังใหม่เอี่ยม บรรยากาศสวย
จากด่าน - เดียนเบียนฟู ต้องระวังรถบรรทุกหิน ลงเขาใช้ความระมัดระวัง บรรยากาศเส้นทางสวยแต่ผิวถนนพัง
จากเดียนเบียนฟู - เมืองลาย ถ้าไม่รีบ ซอยตรงนี้ออกเป็น 2 วัน จะสนุกสัมผัสบรรยากาศชนบทและคนไต
เมืองลาย - พงโท ผิวถนนดี บรรยากาศสวย เลียบแม่น้ำ มีเนินเล็กๆ นวดตลอด
พงโท - ตามเดือง ดันเขา 2 ลูก ลูกแรกไลเจา ลูกที่สองตามเดือง ถ้าไม่รีบซอยออก 2 วัน แวะเที่ยวไลเจา เมืองใหญ่ผังเมืองสวย
ตามเดือง - ซาปา สวรรค์น่าจะอยู่ตรงนี้ แต่ต้องลุ้นว่าจะมีอุปสรรคเรื่องฟ้าฝนไหม สวยมาก
สำหรับทริปนี้ต้องขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทั้งฝั่งไทยและลาว
คุณต้น คอยเป็นกองหนุนให้ข้อมูลติดต่อประสานงานจากกรุงเทพฯ
หนูนา ให้ข้อมูลช่วงเมืองกาสี
ุคุณทองแดง ประธานรถถีบหลวงพระบาง จองห้องพักและติดต่อเรื่องรถให้
น้อย ให้ข้อมูลเรื่องข้ามด่านปางหก
และเพื่อนร่วมทริปทุกท่าน อุตส่าห์เป็นคนชวนเพื่อนปั่นแต่ไม่เคยปั่นกลุ่มใหญ่เลย ดีที่เพื่อนร่วมทริปมีประสบการณ์จึงทำให้การจัดการทริปง่ายขึ้น (ได้เรียนรู้หลายอย่างจากเพื่อนร่วมทริป ขอบคุณมาก)
รายละเอียดการเดินทางเชิญเพื่อนสมาชิกท่านอื่นเล่าต่อ รสชาด ความสนุก ความประทับใจ แม้แต่ปัญหาหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ เชิญได้เลยนะครับ
Re: รายงานทริป 8 เมษา ซาปา
โพสต์: 07 มิ.ย. 2017, 11:58
โดย sperpond
ครั้งแรกที่เปิดประสบการณ์ปั่นทัวร์ริ่ง ขอบคุณเขียดขาคำ#หัวหน้าก๊วน#และเพื่อนq
ร่วมก็วนทุกท่าน ขอบคุณที่ดูแลตลอดเส้นทาง พี่ๆทุกคนน่ารักดีครับ ปีหน้าพบกันใหม่ครับ#เถ้าแก่น้อย#
Re: รายงานทริป 8 เมษา ซาปา
โพสต์: 07 มิ.ย. 2017, 12:30
โดย พัทธวรรณ์ K.
พี่มาย คนสวยใจเสาะวัยสว. นักปั่นทัวร์ริ่งมือใหม่ไปต่างแดนครั้งแรก แวะมาแบ่งปันประสบการณ์ กับกลุ่มพี่หัวหน้ากบ โปรดติดตามคนใจเสาะจะเอาตัวรอดยังไงท่ามกลางความร้อนระอุที่สุดของเดือนเมษายน ดวงอาทิตย์ที่แทงทะลุเสื้อถึงผิวแสบจี๊ดดูเหมือนตามจ้องแต่จะแผดเผาคณะนักปั่นทีมเราตั้งแต่เช้าตรู่จนอาทิตย์ลับขอบฟ้าให้สุกเกรียมในลาวให้ได้
ยกที่1: จากด่านหนองคาย - หลวงพระบาง 5 วัน
ด่านพรหมแดนหนองคาย-เวียงจันทร์
วันที่ 7 เมษายน 2560 จุดนัดพบรวมกลุ่มก่อนปั่นข้ามด่านแรก คือหาที่กินอร่อยๆ กักตุนลงท้องให้เต็มเอาไว้ก่อนคะ ที่ร้านแดงแหนมเนือง ซึ่งโฆษณาว่าใส่ใจในคุณภาพ และควบคุมทุกๆ ขั้นตอนการผลิต นับตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย ขอขอบคุณพี่ชาญชัยอาสาเป็นเจ้ามือมื้ออร่อยนี้ หลังจากพบปะทักทายแนะนำตัว ระหว่างทานข้าวพวกเราพูดคุยแผนเดินทางจนเป็นที่เข้าใจของทุกคนแล้ว พี่หัวหน้ากบ พี่ถัง พี่มาย พี่มล พี่กุย พี่ดาบ เถ้าแก่น้อย พี่อ่ำ ก็ได้เวลาขยับขยายแยกย้ายกันออกเดินทางต่อ เพื่อไปเตรียมตัวรอพร้อมหน้ากันที่จุดนัดพบที่สองก่อนข้าม
“ด่านพรมแดนหนองคาย” เป้าหมายคืนนี้คือปั่นข้ามด่านเข้าไปสมทบกลุ่ม พี่ฉลอง พี่สนั่น ที่ปั่นไปล่วงหน้านอนตีพุงรอหนึ่งคืนแล้วที่จุดนัดพบที่สามคือที่ เวียงจันทน์
ก่อนถึงหน้าด่านเจอพี่เจ้าหน้าที่ใจดีพาไปลานฝากรถ มีบริการรับฝากทั้งรายวันและระยะยาวเป็นเดือนด้วย พี่มาย พี่มล พี่กุย เราสามคนเดินทางจากกรุงเทพโดยขับรถยนต์ขนจักรยานลงไปคะ ที่ลานฝากใช้เวลาตระเตรียมสำภาระใส่จักรยานไม่นานก็พร้อมออกปั่นกลับไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงหน้าด่าน การทำเอกสารผ่านด่านไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิด เจ้าหน้าที่เข้าใจภาษาไทย
สิ่งที่ต้องเตรียม คือ พาสปอร์ต และแลกเงินกีบลาว ไว้เสียค่าธรรมเนียมและใช้จ่ายระหว่างปั่นจำนวนหนึ่ง เขารับเงินไทยด้วยนะแต่เงินท่านจะหมดไว เพราะถ้ามีเศษเขาจะไม่ทอน ระหว่างรอบางคนยื่นเอกสารผ่านด่านก็เดินหาซื้อซิมลาว ไว้ติดต่อระหว่างวันเผื่อฉุกเฉิน หรือพลัดหลงกัน ทุกคนเสร็จเรียบร้อยก็มารวมตัวพร้อมออกปั่นเรียงแถวเป็นกลุ่มเป็นเข้าเวียงจันทร์ วันนี้สมาชิกมาถึงแล้วรวม 11คน นอนรอกลุ่มพี่ลี พี่เล็ก พี่แดง ซึ่งเดินทางโดยรถทัวร์ตามมาสมทบที่นี่เช้าวันที่ 8 อีก 3คน ยกแรกเวียงจันทน์จึงมีทั้งหมด 14 คน.
บรรยากาศหน้าห้องพักตอนไปถึงใหม่ๆ พี่มายก็ยิงคนละรูปทันทีเอาไว้ดูเพราะบางท่านยังจำชื่อไม่ได้
ช่วงเย็นพวกเราปั่นไปกินข้าวที่ตลาดมืดอยู่ใกล้บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ หรือ เจ้าอนุ เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์พระองค์ที่ ๕ หรือพระองค์สุดท้าย ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นพระมหาวีรกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านช้างและประเทศลาว นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องจากประชาชนชาวลาวว่า เป็นพระมหากษัตริย์ผู้พยายามกอบกู้เอกราชชาติลาวจากการเป็นประเทศราชของราชอาณาจักรสยาม ทรงปกครองราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ราว พ.ศ. ๒๓๔๘-๒๓๗๑ ปัจจุบันบริเวณอนุสาวรีย์เป็นสถานที่พักผ่อนของคนเวียงจันทน์อยู่ติดกับตลาดมืด ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง
กินอาหารเย็นริมรั้วอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์
Re: รายงานทริป 8 เมษา ซาปา
โพสต์: 07 มิ.ย. 2017, 13:51
โดย พัทธวรรณ์ K.
Re: รายงานทริป 8 เมษา ซาปา
โพสต์: 07 มิ.ย. 2017, 20:22
โดย พัทธวรรณ์ K.
เดินทางวันที่สาม
เขื่อนน้ำงึม-โพนโฮง-ปั้มน้ำมันก่อนขึ้นเขา-หินเหิบ-ท่าเฮือ-วังเวียง
วันที่ 9 เมษายน 2560 ระยะทางรวมออกนอกเส้นทางประมาณ 100กว่ากม. เข้าวันที่สามแล้วนะ พวกเรายังคงกล้าบ้าบิ่น ปั่นระห่ำเย้ยแดดเดือนเมษายนที่ลาวกันอยู่คะ วันนี้ประทับใจแดดมากกว่าวันก่อนๆ แค่เจ็ดโมงกว่าๆ ยกมือลูบแก้มตัวเองรู้สึกถึงไอร้อนจากผิวหน้าใต้ผ้าบั๊ฟขึ้นมาถึงมือเลยคะ
สายหน่อยความร้อนระอุเข้าปกคลุมร่างกายทุกส่วน แสบผิวตามตัวแปร๊บๆ ประกายไอร้อนปะทะทะลุเสื้อผ้าตอนปั่น ชวนนึกในใจเล่นๆ ถ้าแสงแดดเผาเราผสมเหงื่อเค็มๆ ตอนสุกเกรียมคงอร่อยดีแท้..ฮ่าๆ ยิ่งช่วงใดจอดแวะพักนะรู้ไหมอะไร ตอนหยุดกึกลงจากจักรยานใหม่ๆ โอ้ยยย.. ความร้อนทั่วร่างกายวิ่งกระฉูดเพิ่มทวีคูณทันทีทันใด ร้อนยิ่งกว่าตอนกำลังปั่นเสียอีกคะ รีบถอดโม่ง ถอดโน่นนั่นนี่ รูดซิประบายไอร้อนออกปรับตัวแทบไม่ทัน บางท่านก็รีบเอาน้ำราดตัว ราดแขนราดหัว
ถามตัวเองในใจแระคะ ยังงี้พรุ่งนี้จะไหวไหมนะ ทำให้นึกยาวไปถึงต้นไม้เมื่อเจอแดดแผดเผายังแห้งเฉาตาย หรือต้นไหนรอด ก็โตแบบแคระแกร็นกระแด้งน้ำเลยคะ แม้แต่ปลาในทะเลเจอร้อนยังกระแด้งตัวแคระตัวเล็กลงไม่ยอมโต ปัญหานี้เริ่มเป็นอุปสรรคใหญ่กับพวกเรา เห็นตัวเองมีอาการแน่นหน้าอกอ่อนๆ ตามด้วยหน้ามืดตาลายเป็นช่วงๆ แต่ยังไปต่อได้ คนนอกอาจดูเหมือนว่าพวกนักปั่นทัวร์ริ่งเก่งจัง ขนของไปด้วยเยอะแยะ ไปไหนมาไหนระยะไกลได้สบาย พวกเราก็มีวันไม่ไหวได้เช่นกันนะคะ ข้าวต้มขาวเพรียวเมื่อคืนทำวันนี้ปั่นช้าลงๆ แวะพักตามบ่อยขึ้น
วันนี้ทั้งวันได้มีโอกาสปั่นตาม พี่สนั่น พี่ฉลองก็ได้คุยแลกเปลี่ยนเรื่องแดดร้อนจัด เรื่องสุขภาพกัน พี่แกก็บ่นอุ๊บอิ๊บเรื่องอาการผิวแพ้แดดกำลังกำเริบรุนแรงขึ้น ใส่เสื้อสองชั้นก็เอาไม่อยู่ เห็นแกควักครีมกันแดดยี่ห้อที่ว่าดีสุดออกมาทาก็ว่าเอาไม่อยู่ ส่วนพี่ฉลองแกมักชอบปั่นควงขาหมุนติ้วๆ ปั่นๆ หยุดๆ ปั่นดักหน้าดักหลังไม่ทิ้งกันเฉียดไปมาๆ ก็เริ่มบ่นเรื่องแกรูตัน คือว่าจมูกที่เคยเจออุบัติเหตุหลายปีแล้ว ปัจจุบันหายใจได้รูเดียว และมันเริ่มมีอาการไขมันจากสันหลังไหลย้อนออกมาอุดรูตอนหายใจ แกอธิบายว่าต้องคอยหายใจสูดเข้าๆออกๆแรงๆฟอกลม ไม่ให้รูแกตัน555 แถมบ่นปวดฝ่าเท้าด้วยพะน่ะ
และแล้วพวกเราก็เห็นใจกัน มีความปวดแสบปวดร้อนเช่นเดียวกัน คนหัวอกแดดเดียวกัน ก็มีเหตุผลเพียงพอหาเรื่องชวนกันแวะผูกเปลนอน แวะต้มกาแฟ แวะร้านตู้แช่บ่อยขึ้น.. ฮ่าๆๆ ข้างทางขายอะไรก็แวะอุดหนุนไปเรื่อยๆ เราไม่สนใจรีบเร่งปั่นถึงที่พักแระคะ วันนี้ไม่เห็นหัวหน้ากบ พี่ดาบ พี่ลี พี่เล็ก พี่แดง พี่ชาญชัยอีกเลย พวกเขาขาแรงส์ตอนนี้อยู่ตรงไหนแล้วน้อ พี่มาย พี่มล พี่กุย พี่สนั่น พี่ฉลอง เถ้าแก่น้อย พี่อ่ำ พี่ถัง เรากลุ่มเดียวกันวันนี้
ระหว่างแวะข้างทางช่วงก่อนจะโพล้เพล้พลบค่ำก็เจอทีมพี่ลี พี่เล็ก พี่แดง ปั่นฮ้อตะบี้ตะบันเหมือนควบม้าบึ่งมาด้วยความเร็วสูง มายยืนสกัดไว้ไม่อยู่ วิ่งไปคว้าจักรยานสุดรักคู่ใจออกปั่นไล่กวดตามจนทันแก ได้ความว่าเมื่อปลายปีนี่เองพี่เล็กเคยปั่นหลับใน วิ่งแฉลบเข้าถนนเจอเฉี่ยวล้ม ซี่โครงหัก จึงอยากปั่นแต่กลางวัน มองไปที่พี่เล็กก็เห็นมีอาการกำลังงัวเงีย เหมือนจะเพลียและง่วงนอน ปั่นประคองไปด้วยกันได้แป๊บเดียวก็เริ่มมืดสนิท ไฟถนนเส้นนั้นก็ไม่มี มืดตึ๊ดตื๋อเลยคะ เราก็ปั่นคลำทางเรียงแถวตามกัน ตะโกนระวังตกหลุมตกบ่อไปแบบนั้นแระคะ ถึงที่พักเป็นกลุ่มสุดท้าย ความมืดทำให้ไปที่พักไม่ถูก ต้องให้คนถึงก่อนออกมารับ
ช่วงก่อนถึงที่พักต้องลงเนินกระทันหันทันที แค่ไฟจักรยานเห็นรำไรปั่นตามกันไม่ทันสังเกตอะไร รถก็แร่นไหลปรู๊ด รู้ตัวก็ตอนฝ่าหนองโคลนน้ำคล่ำ ขี้โคลนข้นคลักบะลักมั๊กกั๊กเสียแล้ว ล้อแฉลบบนก้อนหินใต้น้ำขนาดเขื่องลื่นคว่ำในโคลนน้ำคล่ำจนได้ อึ๋ยยยย์... ถ้าซักก็ไม่ออกเป็นเรื่องอีก แต่พอมาถึงที่พักได้รับข่าวดีจากพี่หัวหน้ากบว่าจะพักเที่ยวแถวนี้ที่นี่สองคืน เย้ๆๆ หัวหน้ากบน่ารักที่ซู๊ดดดดดดด
ระหว่างหลบแดดเจอกลุ่มกบินทร์ปั่นผ่าน
พี่ฉลองทำขาตั้งจักรยานหักทิ่มเท้าตัวเอง โอ้ย!เจ๊บเจ๊บ!!
พวกเราขอชื่นชมพี่กุย ฉลาด หัวไว หลักแหลม คิดแก้ปัญหาทันกาล ทำไม้ค้ำแทนขาตั้งจักรยานให้พี่ฉลอง น่าทึ่งไหมคะ
Re: รายงานทริป 8 เมษา ซาปา
โพสต์: 07 มิ.ย. 2017, 21:02
โดย sananmunketvit
ทริป 8เมษายน60 ซาปาต้องขอบคุณ อ.กบหัวหน้าทริปที่วางแผนเส้นทางรายละเอียดการเดินทางที่ทำให้เรา14คนได้มาร่วมทริปสร้างความสนุกสนานรู้จักกันเพื่อนร่วมเดินทางทุกคนได้ให้ความช่วยเหลือเป็นกันเอง ทำให้ทริปนี้จบได้ตามเป้าหมาย
ส่วนตัวผมเองมีความมุ่งหวังว่าการปั่นจักรยานทัวร์ริ่งจากที่ได้เห็นรุ่นพี่ๆได้ปั่นทริปซาปา ก็มีความมุ่งหวังว่าจะต้องมีสักครั้งหนึ่งต้องปั่นไปซาปาให้ได้ ได้ทราบข่าวว่าอ.กบจัดทริปไปซาปาก็มีความตั้งใจต้องปั่นไปให้ได้แต่ๆการปั่นคร้ังนีจะเริ่มทริป 8 เมษายน โอ๊ยๆร้อนแน่ๆ อากาศเดือนเมษายนฮาฮาฮา ไหวไหมเนี่ย ตัวเองแพ้แดดอยู่ด้วยเจออากาศร้อนหน่อยหลังปวดแสบปวดร้อนเอาอย่างไรแน่ แต่ก็ตัดสินใจว่าจะร่วมทริปแล้วต้องไปอย่างไงก็ต้องไป ที่นี้เอาอย่างไงดีหละต้องเตรียมติ/ครีมกันแดดทั้งแบบทาหน้า/ทั้งแบบทาตัวทุกอย่างเตรียมๆ เสื้อต้องเป็นสีขาวใส่แล้วจะได้ไม่ร้อน โอ๊ยๆจะช่วยได้ปะเนี่ย...ไปเริ่มทริปจริงๆแล้วฮาฮาฮา ค่อยติดตามตอนต่อไป
Re: รายงานทริป 8 เมษา 2560
โพสต์: 07 มิ.ย. 2017, 23:24
โดย พัทธวรรณ์ K.
Re: รายงานทริป 8 เมษา 2560
โพสต์: 08 มิ.ย. 2017, 08:54
โดย sperpond
เรื่องเล่า ความประทับใจสำหรับผมคงไม่มีคำบรรยายได้เเต่บอกคำเดียวว่าขอบคุณหัวหน้าก็วน ขอบคุณพี่ๆทุกคน พี่ๆทุกคนน่ารัก ขอบคุณที่เป็นบัดดี้เเละเพื่อนร่วมทางมาโดยตลอดงานนี้สนุกมากครับ ใครไม่ไปไม่รู้ ปีหน้าเราจะพบกันใหม่ครับขอบ#เถ้าเเก่น้อย#
Re: รายงานทริป 8 เมษา 2560
โพสต์: 08 มิ.ย. 2017, 08:57
โดย sperpond
ตัวกล้องมักมีภาพน้อย อิอิ
Re: รายงานทริป 8 เมษา 2560
โพสต์: 08 มิ.ย. 2017, 09:03
โดย sperpond
บรรยากาศ ดี ดี
Re: รายงานทริป 8 เมษา 2560
โพสต์: 08 มิ.ย. 2017, 15:13
โดย พัทธวรรณ์ K.
เดินทางวันที่ 4
ตอน2: โดดน้ำตู้ม บลูลากูน ที่วังเวียง
คนเขียนติดลมบนผาเงิน ขอเกริ่นต่ออีกหน่อยนะ พี่มายใช้เวลาตะเกียกตะกายขึ้นผาเงินนานกว่าใครจึงถึงศาลาชมวิว พื้นที่ข้างบนเป็นยอดปลายหินแหลมๆอย่างเดียว มีเนื้อที่จำกัด ลักษณะหินแหลมคม แตกเป็นร่องลึกมองไม่เห็นจุดจบของร่อง เจ้าหน้าที่ทุบส่วนยอดที่แหลมออกปิดร่องแตกให้พอเดินได้ กว้างประมาณฟุต ศาลาบนยอดผาพวกเรานั่งเบียดกันได้ทุกคน ได้นั่งกินลมชมวิว กินมาม่า กินส้มตำอย่างเอร็ดอร่อย ใครใคร่นอนก็นอน ใครใคร่เล่นเฟส เล่นไลน์ สัญญาณชัดแจ๋ว เรามีเวลาทั้งวันอิ่มเอมให้เต็มที่อยู่นานๆ ให้สมกับความเหนื่อยกว่าจะตะกายขึ้นมา ไม่นานก็ได้เวลาไถลลง ขาลงเหมือนเหาะลงแค่แผล็บเดียวถึง ขออำลาจากผาเงินไปก่อน ถ้ามีโอกาสจะมาพบกันใหม่นะ
ปั่นไปโดดน้ำตู้มที่ บลู ลากูน ต่อดีกว่า ยังมีเวลาเหลือเยอะ จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ปั่นต่ออีกแค่ 3กม.เอง พวกเราปั่นลัดเลาะผ่านรั้วหมู่บ้านซึ่งปลูกกระจัดกระจาย ไปเรื่อยๆ มองรอบๆ เป็นพื้นราบทุ่งทุ่งนาโล่งๆ เห็นฝูงวัวผอมตัวไม่ใหญ่ไม่เล็ก รูปร่างแกร็นๆ ยืนเล็มหญ้าอย่างสงบ แต่พอมองไกลไปอีกหน่อย บริเวณนี้ถูกล้อมลอบด้วยภูเขาสูงชัน ลักษณะเดียวกันกับผาเงินที่เราเพิ่งไปตะกายมาตะกี้นี่เลย บ้านพวกเขาก็คล้ายๆ การเป็นอยู่บ้านเรานี่แหละคะ ปลูกบ้านอยู่ริมทางบนพื้นที่ตัวเองเป็นหย่อมๆห่างกันเป็นระยะๆ ปั่นไม่นานก็ถึง บลูลากูน
ขนาดของสระไม่กว้างมากนัก น้ำเป็นสีฟ้าจางใสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของถ้ำภูคำ สามารถลงไปว่ายน้ำเล่นตรงไหนก็ได้ เพิ่งผ่านการตระเกียกตะกายผาเงินมาสดๆร้อนๆ ถอดรองเท้าเอาขาแช่น้ำดูทิ๊ โอวว์... ความเย็นมันวิ่งปรู๊ดแทรกซึมไปทั่วร่างทันที ชื่นใจจัง มันต้องให้ได้อย่างนี้สิ สักพักถูกขยั้นคะยอให้ลงน้ำ แหม!!! มัวแต่ลีลาแช่แค่ขาอยู่นั่นแหละ พอได้ลงทั้งตัวเท่านั้นแหละ อูวววว์... มันฟินนนนเว่อร์.. เย็นฉ่ำอย่างถึงจิตถึงใจทั่วกายเกินบรรยาย ว่ายน้ำไม่เป็นก็ใช้ท่าพื้นฐานของลูกหมาตกน้ำ สายฝน หล่นจาก ฟากฟ้า สู่ท้อง ธารา ธารใส ไหลริน เอื่อยเอื่อย เรื่อยไป สดใส ชื่นใจ ให้เย็น พี่มาย แหวกว่าย ไปมา ฝูงปลา ใหญ่น้อย ลอยเด่น ธรรมชาติ สวยงาม ร่มเย็น หลากเช่น หลายพันธ์ มากมี น้ำนิ่ง แลใส.ฮ่าๆๆ (เครดิต: ราชิกา)
อย่าบอกใครมาบลูลากูนที่นี่นะ อุ๊บอิ๊บไว้ฮ่าๆๆ พอมองเลยถัดไปซ้ายมือมีอีกเวิ้งสระฝั่งโน้นจะเห็นต้นไม้ใหญ่ มีเชือกให้สามารถไต่ปีนกระโดดน้ำได้อย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งยังมีบริการให้เช่าห่วงยาง ใครที่ไม่อยากลงน้ำก็มีแคร่ไม้ไผ่ และศาลาไม้ริมสระนั่งดื่มกินรอ ดูลูกหลานเล่นน้ำได้ เพราะมีสุราอาหารจำหน่ายอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้แช่น้ำเย็นความเย็นฉ่ำชื่นใจนี้มีความสุขสบายอารมณ์ ช่วยคลายไอร้อนของแดดที่สะสมฝังใต้ผิวหนังทุกอณู ช่วงปั่นหลายวันที่ผ่านมาก็วันนี้นี่แหละคะ
เล่นน้ำจนเบื่อแล้วพวกเราก็กลับที่พักขากลับยิงยาวทีเดียว 7 ก.ม.ถึงสะพานแขวน (สะพานนี้ขาไปเสียเงิน ขากลับไม่เสียเงิน ขาไปเราจึงเลี่ยงไปใช้สะพานไม้ไผ่) วันนั้นจริงแล้วมายก็ไม่ได้เหนื่อยนะ แต่ทำไมเริ่มรู้สึกแน่นหน้าอกเบาๆ และผะอืดผะอมเริ่มอวก น่าจะเกิดจากร่างกายปรับสภาพจากอยู่ท่ามกลางแดดร้อนระอุมาหลายวันแล้วมาเจอน้ำเย็นเจี๊ยบทันที จึงปรับตัวไม่ทันไหมคะ
ต่อมาได้ข่าวว่าวันนี้พี่ชาญชัยมีปัญหาสุขภาพ ขอแยกกลับไปก่อน ส่วนพี่ถังแกมีปัญหาหนักเรื่องเมารถ ขอออกเดินทางคนเดียวไปหลวงพระบางก่อนตั้งแต่ช่วงเที่ยง พวกเราเหลือ 12คน วันนี้ทั้งวันไม่เห็น พี่สนั่น พี่ฉลอง สองหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายนั่นปั่นไปเที่ยวหลีสาวคนสวยที่ไหนกันน้อคะ อ๋อ.. ได้ข่าวว่าพี่สนั่นจะไม่ปั่นเป็นคนแดดเดียว หรือหลายแดดอีก เพราะอาการวูปยังไม่ดีขึ้น เห็นว่าออกไปเช่ามอเตอร์ไซด์แว๊นเที่ยว สุขภาพไม่ดีแทนที่จะพักผ่อนยังออกไปตะลอนๆ ได้ข่าวทีหลังว่าเจอแม่ค้าคนสวยก็จะเป็นลมความดันกระฉูดหน้ามืดอีก ขอแม่ค้าเข้าไปนอนพักในร้านนิ๊สนึง ส่วนแม่ค้าก็บริการเอาอกเอาใจพี่แกอย่างดี หาหมอน หาพัดลมไห้ และได้กินอาหารอร่อย โอ้ย.. คือดีต่อใจแท๊ะน้อ ฮ่าๆๆๆ
ที่สะพานไม้ แม่น้ำเดือนเมษายนแห้งขอดตื้นเขินรถยนต์วิ่งข้ามน้ำได้
ถ้าแก่น้อยกลัวน้ำ ได้พี่แดงเป็นครูสอนแนะแนว
พี่เถ้าแก่น้อย ได้ฝึกว่ายน้ำกับสาวสวยเจ้าถิ่น
ขากลับข้ามอีกสะพานหนึ่งรถใหญ่วิ่งผ่านได้
Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม
โพสต์: 09 มิ.ย. 2017, 17:02
โดย พัทธวรรณ์ K.
Re: สรุปทริปทัวร์ริ่ง / ลาว - ซาปาเวียดนาม
โพสต์: 10 มิ.ย. 2017, 14:05
โดย พัทธวรรณ์ K.