หน้า 1 จากทั้งหมด 3

สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 16:33
โดย e21smn
เมื่อ 24-30 ธค 2559 ที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆได้ไปเยือนพม่าในมุมมองที่เราไม่เคยพบ โดยแรงบันดาลใจในทริปนี้ได้มาจากสรุปทริปพม่าไปแล้วคุณจะรักของคุณโสภณ ลำปาง ที่ได้สรุปไว้ ซึ่งทริปนี้คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีแนวทางจากกลุ่มนี้ จึงขอขอบคุณกลุ่มดังกล่าวมา ณ ที่นี้ครับ ตลอดจนคำแนะนำต่างๆทาง PM ที่ได้มาเป็นประโยชน์ต่อผมทั้งสิ้น

ทริปต้นแบบที่เรานำมาตามรอยครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1397219

จริงๆแล้วปีนี้มีทริปที่ต้องสรุปหลายทริปนับตั้งแต่ต้นปีไปแชงกร๊ล่า-เต๋อชิง และเดือน ตค ไปลาว-ซาปามา เอาเป็นว่าสรุปทริปนี้ก่อนครับเดี๋ยวลืมส่วนทริปอื่นๆที่ยังไม่ได้ลงขอสรุปตามหลังจากความทรงจำเอา

เหตุเกิดเมื่อหลายเดือนก่อนพอมีสรุปทริปพม่าด้าน อ แม่สอด เข้าพะอัน มะละแหม่ง ผมและเพื่อนๆมีความสนใจเป็นอันมากประกอบกับมีวันหยุดก่อนปีใหม่จึงเห็นพ้องต้องกันว่าไปตามรอยคุณโสภณแหละ เพราะพม่าเรายังไม่เคยไปปั่นกัน จึงรวบรวมสมาชิกได้ 6 คน ประกอบด้วย

ผม คนก้อปปี้แผนและปรับเปลี่ยนให้เข้ากันกับเวลาของเรา
หนูแคป เหรัญญิกกลุ่ม ผู้ไม่เคยซ้อมเลย พอมีทริปก็จับจักรยานปั่นไปเลย
พี่เทิ่ม เสือนครศรีฯ อายุ 65 ปีแล้วแต่ขาแรงที่สุดในกลุ่ม วันนัดเจอกันแกปั่น จกย มาจากนครฯถึงราชบุรีเพื่อขึ้นรถไปแม่สอด
พี่ปกครอง เสือตรังรอบที่แล้วทิ้งตั๋วไปซาปาเพราะน้ำท่วมสวนปาล์ม รอบนี้เลยไม่ขอพลาด
พี่ทูล เสือสุพรรณฯติดใจทริปซาปาเลยตามมารับรสชาดของพม่า
ลุงแม็ค เสือตรังตากล้องประจำกลุ่ม

รวม 6 ชีวิตครับ จำนวนคนกำลังดีไม่มากไปทำให้ทริปคล่องตัวสูง
อันดับแรก เราต้องทำวีซ่าก่อนครับ ทั้งหมดส่งเอกสารมาที่ผมเพื่อไปทำวีซ่าที่สถานทูต การทำวีซ่าเข้าพม่ายังจำเป็นอยู่ครับถ้าเข้าทางบก แต่ถ้าเป็นทางอากาศจะได้รับการยกเว้นและสามารถอยู่ได้ 14 วัน แต่ของเราต้องขอครับเพราะปั่น จกย เข้าอยู่ได้ 30 วัน

ค่าทำวีซ่านั้นเดิมดูในเว็บคือ 810 บาทต่อคน พอวันที่เราไปขอเขาบอกราคาขึ้นเป็น 1,600 บาทต่อคน เราสตั้นท์ไปแป้บและ The show must go on เราจึงต้องจ่ายคนละ 1,600 สบายกันไป

ก่อนไปเรามีความกังวลกันเป็นอย่างมากเพราะรอบๆประเทศเพื่อนบ้านนี้มีเพียงพม่าเท่านั้นที่เรายังไม่ได้ลองสัมผัส เรากังวลถึงความเป็นมิตรของผู้คน กังวลเรื่องอาหารการกิน กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและการแลกเงิน จนกระทั้งกังวลถึงระบอบการปกครอง (ว่าไปโน่น) สุดท้ายทุกอย่างมันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเลยแม้แต่น้อย

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 16:45
โดย e21smn
หลังจากทุกอย่างพร้อม ผมดำเนินการจองที่พักจากกรุงเทพผ่าน Expedia และ Booking.com เพื่อมั่นใจว่าเรามีที่พักแน่ เพราะเป็นช่วงไกล้วันหยุด แต่ก็ยังเจอดีกันจนได้ครับ จะยังไงเดี๋ยวมาดูกัน
แผนการปั่นเป็นดังนี้ครับ

24 ธค พบกันที่แม่สอด ข้ามด่านไปนอนเมียวดี (ไปปั่นหาที่พักเอา)
25 ธค เมียวดี-กอกะเร็ก 60 กม ใช้เส้นทางเก่าที่เขาไม่ใช้แล้ว (ไปปั่นหาที่พักเอา)
26 ธค กอกะเร็ก-พะอัน 90 กม (จองโรงแรม Angle Land ผ่าน Expedia)
27 ธค ปั่นเที่ยวพะอัน (พัก Angle Land)
28 ธค พะอัน-มะละแหม่ง 60 กม (จองโรงงแรม Than Win ผ่าน booking.com)
29 ธค มะละแหม่ง-ตันบิวซายัด-ไจ้คะมีย์-มะละแหม่ง 200 กม (ปั่น+เหมารถ) (พักที่เดิม Than win)
30 ธค มะละแหม่ง- พะอัน โดยเรือล่องสาละวิน ต่อด้วยพะอัน-แม่สอดโดยรถเหมา ปิดทริป (นอนแม่สอด)

ทริปค่อนข้างจะตามแผนครับมีเป๋ไปบ้างตามกำลังขา เรามาเริ่มเดินทางกันเลยยยยยยยยย

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 17:09
โดย e21smn
24 ธค คริสต์มาสอีพ หกเสือมาพบกันที่แม่สอด
วันนี้ผมออกจาก กทม กลุ่มเสือใต้ออกจากตรังมาเมื่อวาน เสือสุพรรณ ออกพร้อมผม เรามาเจอกันที่แม่สอดประมาณบ่ายสองโมงครับ ประกอบรถ จกย เสร็จตรวจสอบสัมภาระฝากรถยนต์ไว้ที่บ้านเพื่อน ยังมีเวลาอีกมากเพราะด่านปิดสองทุ่มครึ่ง เราจึงปั่น จกย ไปหาแลกเงินจ้าตพม่าก่อน

การแลกเงินจ้าตทางฝั่งเราผมปั่นไปแถวๆด่านแล้วถามเขาว่ามีที่ใหนรับแลกบ้าง ก็มีคนแนะนำให้ไปร้านๆหนึ่งแถวๆสะพาน อัตราที่เราแลกคือ 100,000 จ้าต ประมาณ 2,640 บาท คราวนี้เรามองหน้ากัน แลกเท่าไหร่ดีพี่ ไม่รุ้สิ คิดๆๆๆ สุดท้ายเรากลัวเงินไม่พอเพราะไปซาปาครั้งที่แล้วเงินไม่พอและเงินไทยบางที่ก็ไม่รับแลก จึงต้องไปกด ATM กัน เลยสรุปว่าแลกกันคนละ 300,000 จ้าต ลงกองกลางคนละ 50,000 จ้าต (สุดท้ายเงินเหลือ เพราะอะไรตามไปเลยครับ)

เมื่อแลกเงินเสร็จแล้วทำการผ่านพิธีการออกประเทศที่ด่านไทย ใช้เวลากันแป้บเดียวก็ปั่นขึ้นสะพานมิตรภาพพอถึงกลางสะพานชิดขวาไหลลงมาก็เจอด่าน ตม พม่า ทันที

เราจอด จกย แล้วจะเดินไปผ่านพิธีการ เสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนใส่เราเป็นภาษาพม่า ไรกันเฟ้ย ข้ามสะพานมายังไม่ทันเหงื่อออกเลยคุยกันไม่รุ้เรื่องแล้วหรือนี่

สุดท้ายจบกันที่ภาษาพม่าปนไทยปนอังกฤษ คือเราต้องไปเซ็นชื่อที่สมุดก่อนว่า พาสปาร์ตเลขอะไร วีซ่าเลขอะไร แลัวไปที่ ตม

เจอ ตม ปัญหาเดิมอีกคือคุยกันไม่รุ้เรื่องเขาไม่ยอมปั้มให้และเราขอใบ ตม มากรอกเขาก็ไม่ให้ อึ้งอยู่สักพักหรือว่ามันต้องมีน้ำมันหล่อลื่นเหมือนบางประเทศฟ่ะ (อคติบังเกิดทันใด) สุดท้ายสิ่งที่สงสัยก็พังทลาย นั่นคือ ตม ลุกขึ้นจูงมือเราออกมานอกห้องแล้วเรียกคนที่พอสื่อสารกับเราได้บอกว่า เราต้องถ่ายเอกสารหน้าแรกของพาสปอร์ตและวีซ่าพร้อมกรอกใบเข้าเมือง โดยถ้าไม่ได้เตรียมมาหลังป้อมมีบริการถ่ายเอกสาร หรือจะให้เขาบริการกรอกให้เลยก็ได้เสียแค่ 20 บาท

ถึงบางอ้อทันทีใช้บริการกรอกเอกสารคนละ 20 บาทแล้วกลับมา ตม ก็ประทับตรา ถ่ายรูป เขายิ้มแย้มและเป็นมิตรมากครับ เราเริ่มประทับใจและอคติส่วนตัวเริ่มปรับในทางที่ดีขึ้น (และมากขึ้นจนถึงมากที่สุดในวันถัดๆไป)

พอผ่านด่านเราก็เริ่มผจญภัยวันแรกในดินแดนพม่ากันเลย

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 18:55
โดย e21smn
ออกจาก ตม เราปั่นหาที่พักโดยผมหมายตาใว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณสี่แยกห่างจาก ตม ประมาณสองกิโล เราปั่นผ่านโรงแรมเมียวดีที่อยู่ไกล้สุดไปด้วยความเฉยเมยเนื่องจากมีเป้าหมายอยู่แล้ว เมื่อไปถึงโรงแรมจึงพบว่า.....
็Hotel is full ????? กำ เราเลยถามพนักงานที่พูดได้แค่ภาษาอังกฤษพูดไทยไม่ได้ (เรื่องภาษานี่เป็นอะไรที่อเมซิ่งมากครับ เรานึกว่าชายแดนจะพอพูดและเข้าใจภาษาไทย แต่ปล่าวเล้ยยยย) เขาแนะนำให้ไปอีกที่ไม่ไกลกันนักประมาณครึ่งกิโลและเราก็ไปแล้วพบว่า

โรงแรมเต็ม ??????? ไม่นะ ไม่นะ เราถามเขาว่าอีกที่ไกล้ๆกันเป็นยังไงเขาก็บอกว่าน่าจะเต็ม ไม่เชื่อครับส่งหนูแคปกับพี่ทูลไปถามส่วนผมแวะซื้อซิมการ์ดรอ ซิมราคา 1,500 จ้าต เติมเงินอีก 5,000 จ้าตใช้เน็ทได้อัพเฟสส่งลายได้ เราเลือกของ Telenor หรือเป็นบ้านเราก็ดีแทคแหละเพราะคนขายเชียร์ว่าดี

พี่ทูลกับหนูแคปกลับมาด้วยความกังวลว่า พี่มันเต็มหมดอ่ะ แต่เขาแนะนำอีกที่นะ Grand One ห่างไปสองกิโลเป็นโรงแรมใหญ่น่าจะไม่เต็ม รอช้าไรราคาเท่าไหร่เราคงเลือกไม่ได้แล้ว ระหว่างทางพบอีกโรงแรมหนึ่งผมแวะไปถามไม่เต็มไชโย้.....แต่.....เขาบอกว่าต่างชาติรับไม่ได้ เอ้ะ มัยละทำไม เขาบอกเป็นข้อบังคับ เลยบอกไม่เป้นไรเราจะไป Grand One

พอถึง Grand One ตำตอบเดิมคือ เต็ม ฟ้าก็เริ่มมืด ท้องก็เริ่มหิว ขอเปิดห้องประชุมเขานอนก็ไม่ยอมเพราะบอกว่ามีงานเลี้ยง เลยถามว่าทำไมถึงเต็มกันหมดเลยเขาบอกเป็นคริสต์มาสอีฟ โว้วววว กำ ละ พอดีมีคนวิ่งออกกำลังกายมาพูดภาษอังกฤษพอได้มาซักถามเรา เลยอาสาเรียก จกย รับจ้างพาเราไปบังกาโลเพราะไม่น่าเต็ม

ผมทิ้งสมาชิกไว้ที่ Grand one แล้วซ้อนสามไปกับพี่ปกครอง พี่วินพาเราไปไกลมาก เข้าป่ามันเข้าสวนจนคิดว่าจะมาตูไปใหนฟ่ะเริ่มระแวงอีกแล้ว จนพบบังกะโลเป้นหลังๆว่างอยู่ น้องที่เป็นพนักงานต้อนรับพูดไทยได้บอกว่า พี่ครับ ต่างชาตินอนไม่ได้ครับผมเสียใจด้วย เฮ้ย น้อง เอางี้ดิ พวกพี่เข้าที่พักแล้วจะหลบซ่อนตัวไม่ออกไปใหนเลยน้องไม่ต้องกลัวหรอก พอฟ้าสางพวกพี่จะรีบออกไปแต่เช้าเลย

ไม่ยอมครับ สงสัยว่ากฏระเบียบมันแรงมากยังไงก็ไม่ยอม ผมเลยซ้อนท้ายพี่วินกลับ Grand One ความคิดว่าเอาไงดี

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 19:11
โดย e21smn
เอปปิโสตนี้ยาวนิดหนึ่งครับเพราะปัญหาเรื่องที่พักแก้ไม่ตก

กลับมา Grand One พบสมาชิกชะเง้อมองด้วยความหวัง ผมส่ายหน้าช้าๆพร้อมบอกว่า ลุงแม็คเราไปนอนวัดกันเถอะขอเขานอนเพราะเราผ่านมาตั้งหลายวัด ถ้าพระไม่ยอมให้ต่างชาตินอนเราไปขอนอนที่สถานีตำรวจเลย และถามหนูแคปว่านอนวัด โอเค มั้ย หนูแคปบอกไม่มีปัญหาเพราะออกทริปครั้งใดจะมีถุงนอนคู่ใจติดตัวตลอดเวลาเผื่อฉุกเฉินหนูนอนได้อยู่แล้น

มีสมาชิกบอกว่าด่านยังไม่ทันปิดเราปั่นกลับไปนอนฝั่งไทยมั้ย ผมบอกกลับไปก็เข้ามาอีกไม่ได้เพราะวีซ่ามันขาเดียว เลยปั่นแถวเรียงหนึ่งย้อนกลับมาแถวด่านเพื่อหาวัดนอน และแล้ว...............

ในความมืดมิดย่อมมีแสงสว่างแม้เพียงน้อยนิด เราผ่านโมเต็ลเล็กๆเก่าๆแห่งหนึ่งระหว่างทางเป็นห้องแถวเลยลองไปถามดูเจอพนักงานหน้าตาน่ากลัวมาก เหมือนเป็นแขกดำทางบังคลาเทศประมานนั้น เขาถามเราว่ามีพาสปอร์ตมั้ย อ้าวมีสิเฮียนี่ไง วีซ่าก็มีนะถูกกฎหมายทั้งหมดนะ แล้วบอกเราว่ามีว่างอยู่คนละ 15,000 จ้าต (ประมาณ 38 จ้าตต่อ 1 บาท) เราไปดูห้องแล้วอุทานว่า สภาพแบบนี้มันก็ต้องว่างแหละแต่ดีกว่านอนวัด จักรยานก็สามารถเก็บที่ห้องใต้ดินได้ เลยจัดไปแล้วออกไปหาอาหารกิน เรื่องอาหารนี้ที่เมียวดีเรานั่งมองไฟที่ฝั่งแม่สอดเห็นอยู่ลิบๆแต่คุยภาษาไทยไม่ได้เลย ก็ใช้วิธีเปิดรูปในเน็ทให้เห็นไข่เจียว ผัดกระเพรา จึงรอดตายอีกมื้อและกลับมานอน

ราตรีสวัสดิ์

ปล เรื่องที่พักมาทราบทีหลังว่าต่างชาติหากเข้าพักต้องลงทะเบียนทุกครั้งโดยโรงแรมจะเป็นผู้ลงทะเบียนและแจ้งตำรวจให้ ถ้าเรานอนบ้านเจ้าของบ้านต้องเป็นผู้ไปแจ้งหากไม่มี สน อยู่ไกล้ก็แจ้งผู้ใหญ่บ้าน โรงแรมที่ไม่รับต่างชาติอาจเพราะเขาไมได้ลงทะเบียนรับต่างชาติไว้กระมัง ถ้าวันนั้นไม่เจอโมเต็ลนี้ไปถึงวัดก็คงไม่ได้นอนเช่นกัน

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 19:52
โดย e21smn
25 ธค วันคริสต์มาสกับเส้นทางเมียวดี-กอกะเร็ก
เมื่อคืนคงไม่มีซานตาครอสมานะเพราะข้าวของยังเท่าเดิมไม่มีอะไรสูญหายหรือมีเพิ่มเติมจากเดิม เพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็ดีกมากเสียงรถราดังเหมือนวิ่งอยู่ข้างหู ตอนตีห้าเสียงพระสวดออกเสียงตามสายก็มาปลุกให้เราตื่นด้วยความงัวเงีย เมื่อคืนถุงนอนถูกนำออกมาใช้เพราะกลัวคันจากที่นอนที่สภาพไม่น่าใว้วางใจนัก

วันนี้เราจะเริ่มปั่นวันแรกระยะทางประมาณ 60 กม โดยมีข้อมูลที่ศึกษามาคือมีเส้นทางสองเส้นคือเก่าและใหม่ ใหม่อ้อมเขาทางเรียบพึ่งสร้างเสร็จ เก่าทางเสียแล้วแคบขึ้นเขาตลอด ที่สำคัญเขาไม่ใช้กันแล้ว เอาไงดีอ่า....

เอาทางเก่านะพี่ปกครองบอก ไปเรื่อยๆรถน้อยอากาศดีขึ้นเขาไปเรื่อยๆเหนื่อยก็หยุดถ่ายรูป หนูแคปไม่ต้องกลัวนะ เดือนก่อนหนูปั่นลุยลาวลุยซาปามาแล้วเมื่อเทียบกันอันนี้มันอนุบาลมากเลย เราก็เลยกินอาหารเช้ากันแล้วสะสมสเบียงและน้ำเพราะกลัวไปแล้วจะไม่พบบ้านคนและกลัวมืดกลางทาง

แปดโมงเช้าเวลาดีท้องอิ่มล้อหมุน เราปั่นอ้อยอิ่งไปเรื่อยๆประมาณ 15-20 กม/ชม ผ่านไป 15 กม เจอด่านทหารสกัดให้เราหยุดแล้วถามมา Are you foreigner? เราตอบไปว่าใช่เขาเลยขอตรวจวีซ่าและถ่ายรูปวีซ่ากับพวกเราไว้ ใจหายตุ้มๆต่อมๆแต่สุดท้ายอัธยาศัยดีมากครับ ถ่ายเสร็จเขาก็ให้เราเดินทางต่อได้

ผ่านด่านทหารมานิดเดียวก็พบทางแยกซ้ายไปกอกะเร็กถนนใหม่ระยะทาง 43 กม ตรงไปถนนเก่าระยะทาง 45 กม เราแวะถ่ายรูปป้ายทางแล้วตรงลุยขึ้นเขาไปเรื่อยๆ สภาพถนนช่วงนี้บางส่วนชำรุดแล้วบางส่วนยังใช้งานได้ นานๆมีรถชาวบ้านผ่านมาทีหนึ่ง มีร้านค้าท้องถิ่นประปราย มีเด็กเล็กๆตะโกนมิงกะลาบาตลอดทาง มีคนบ้าหกคนปั่นจักรยานขึ้นมา 55555

เราปั่นขึ้นเขามาเรื่อยๆเจอชาวบ้านเราแวะทักทายเจอเด็กแวะแจกขนม เจอวิวเจอวัดเจอผาแวะหมด ทางกว้างบ้างแคบบ้างมีมีเสียวๆ เพราะข้างทางบางส่วนเป็นเหวลึกมากตกลงไปดพื่อนปวดหัวเลยไม่รู้จะช่วยยังไง เราปั่นไปจนเวลาประมาณ 11 โมงผมดู Garmin ที่ทำ Course ใว้พบว่ามันเป็นจุดสูงที่สุดแล้ว อ้าววววว งี้อีกไม่นานก็ถึงกอกะเร็กแล้วสิ แล้วสเบียงที่เตรียมมาเยอะแยะเอาไงดี ก็เลยนั่งพักยาวมีชาวบ้านเอาน้ำชามาเลี้ยง เป้นน้ำใจชาวพม่าที่เราซาบซึ้งมากครับ เขาอยู่บนเขาแก้วที่นำมาให้เรากินน่าจะเป็นแก้วใบที่ดีที่สุดในบ้าน เราดื่มและแสดงความขอบคุณแล้วก็ไหลลงมาจากยอดเขา

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 20:10
โดย e21smn
ตอนไหลลงเขา ผมจินตนาการถึงตอนไหลลงเขาที่ลาวหรือเวียดนาม มันช่างมีความสุขและสนุกมากมาย แต่พอมาไหลลงเขาที่นี่ โหหหหห มันมีลุ้นอะไรเช่นนี้ ปล่อยไหลลงเร็วไม่ได้ครับถ้าท่านยังไม่อยากตกเขา มีหินลอยให้ท่านพลิกล้มมากมาย มีโค้งเซอร์ไพร้สให้ท่านลุ้น Lap นี้ตัวใครตัวมันครับแล้วแต่สกิลของแต่ละคน หนูแคปบ่นอุปบอกกำเบรคจนปวดมือ ลุงแม็คมาถึงหลังเพื่อนเพราะไม่กล้าลงเร็วหยอดมาเรื่อยๆ พี่ปกครองงานเข้าน้อตสเต็มหลุดต้องเดินหาจนเจอ พี่เทิ่มเกาะลุงแม้คมาเรื่อยๆ พี่ทูลล่วงหน้าไปแล้ว

ประมานบ่ายโมงกว่าเราผ่านเขาแล้วเขาเล่า เจดีย์แล้วเจดีย์เล่า จนมาถึงพื้นราบแล้วปั่นไปหาที่พักที่เราหมายตาไว้ ระหว่างทางไปหาที่พักผมเสนอว่า นี่แค่บ่ายสองเองพะอันก็อีก 90 กม เราปั่นกันน่าจะถึงไม่เกินหนึ่งทุ่ม เอามั้ย เอามั้ย เพราะเข้าที่พักก็ไม่มีอะไรทำ พี่เขาเสนอว่าเอาตามแผนดีกว่าเพราะถ้ามันมืดก่อนแล้วไปเจอโรงแรมที่เขาไม่รับต่างชาติเราจะเดือดร้อน สมาชิกก็เลย โอเค้ พักที่กอกะเร็ก

ปั่นมาถึงโรงแรม Smile World ที่กลุ่มก่อนนี้เคยมาพักกันค่าที่พักคนละ 15,000 จ้าต เราถามว่ามีห้องแอร์มั้ย คำตอบคือไม่มีครับที่นี่โรงแรมนี้ไม่มีไฟฟ้า เราจะปั่นไฟหกโมงเย็นถึงสี่ทุ่มนะครับ ถ้าสี่ทุ่มพี่ยังไม่หลับก็โขคดีละกันนะ

เก็บของเสร็จไปหาข้าวกินในตลาด เบียร์กระป๋องละ 18 บาท อาหารข้าวราคาถูกมากเรากินอย่างมีความสุข และเราสามรถสั่งอาหารไทยได้เขาทำมารสชาดก็กินได้ครับ แล้วเราก็ไปเที่ยววัด กลับมาซักผ้าที่โรงแรมแล้วมืดๆก็หลับเพื่อเดินทางในวันต่อไป

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 12 ม.ค. 2017, 20:58
โดย e21smn
สำหรับเส้นทางสายเมียวดี-กอกะเร็กเส้นตัดใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย หมายเลข 1 หรือ AH-1 โตเกียว-อิสตันบุล ระยะทาง 20,921 กิโลเมตรเชื่อมเอเชียตะวันออกถึงยุโรป โดยถนนที่เริ่มต้นจากเมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ดังกล่าวเมื่อไปถึงกอกะเร็ก ยังสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองผาอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง เมืองสะเทิมในรัฐมอญ และไปถึงนครย่างกุ้งได้ ขณะนี้ทางหลวงช่วงดังกล่าวก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานอย่าเป็นทางการมียานพาหนะต่างๆ ใช้สัญจรเนื่องจากย่นระยะเวลาเดินทางระหว่างเมืองเมียวดี และกอกะเร็ก จากเดิม 2 ชั่วโมง 30 นาทีในฤดูแล้ง เหลือ 90 นาที โดยที่ไม่ต้องขับรถขึ้นภูเขาดอว์นะซึ่งสลับเปิดใช้ทางระหว่างรถขาขี้นกับขาล่องแบบวันคู่-วันคี่

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 05:02
โดย joey.naye
พม่า เป็นประเทศที่ประทับใจในความมีน้ำใจ ในความเอื้อเฟื้อ มากที่สุดแล้วครับ อยากไปอีกครั้ง เลยมาเกาะติดตามกระทู้นี้ครับ

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 07:39
โดย เอส-เมอร์ริด้า
ยินดีด้วยครับพี่แม๊ค ได้ปั่นทริปเส้นทางที่ยอดฮิตติดลมบนแบบนี้***

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 08:49
โดย e21smn
เอส-เมอร์ริด้า เขียน:ยินดีด้วยครับพี่แม๊ค ได้ปั่นทริปเส้นทางที่ยอดฮิตติดลมบนแบบนี้***
ครับเอสประทับใจริงๆ ผมกำลังวางแผนลาซา-กาฎมันดุ ในปีหน้าให้ทัวร์ท้องถิ่นขับรถเซอร์วิสและทำ Permit ให้ ถ้าแผนเป้นจริงแล้วจะส่งข้อความไปชวนครับ เบื้องต้นกำลังกังวลเรื่อค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

joey.naye เขียน:พม่า เป็นประเทศที่ประทับใจในความมีน้ำใจ ในความเอื้อเฟื้อ มากที่สุดแล้วครับ อยากไปอีกครั้ง เลยมาเกาะติดตามกระทู้นี้ครับ
ใช่ครับมโนภาพก่อนไปกับไปมาแล้วมันต่างกันโดยสิ้นเชิง เรามองคนพม่าแค่คนไม่กี่คนที่มาทำไม่ดีในเมืองไทยแต่คนดีอีกส่วนมากที่เคยมาทำงานในเมืองไทยแล้วกลับไปประกอบอาชีพที่บ้านเขามีอีกไม่น้อยครับ คนกลุ่มนี้พอเห็นเราแล้วรู้ว่าเราเป็นคนไทยเขาจะเข้ามาคุยด้วย ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ที่สำคัญเขาอยากพูดภาษาไทยกับเรา ประทับใจมากครับ

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 11:00
โดย e21smn
26 ธค กอกะเร็ก-พะอัน ร้อนจังว้อย
เช้านี้เราจะเดินทางสู่เมืองพะอันซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยงระยะทางประมาน 90 กม ไม่มีเขาแต่จะเป็นเนินขึ้นๆลงๆสลับกันไป เราพร้อมกันที่หน้าโรงแรมเวลา 07:00 น เพื่อทำการไปสำรวจตลาดเช้าพร้อมกินอาหารเช้า ตลาดที่นี่ก็เหมือนกับตลาดท้องถิ่นทั่วๆไปแต่จะต่างจากไทยคือที่นี่จะพอของป่ามาวางขายอยู่บ้าง

เราแวะกินอาหารเป็นผัดหมี่และต้มเส้นคล้ายๆขนมจีนบ้านเรา รสชาดถูกอกถูกใจสมาชิกไปตามๆกันจนต้องขอเบิ้ล ที่สำคัญแม่ค้าพุดไทยได้ดีเพราะเคยไปทำงานเมืองไทย การสื่อสารจึงไม่เป็นอุปสรรคมากนัก กินกันเสร็จคิดเงินก็ต้องประหลาดใจที่ราคาถูกมาก กินกันหกคนสิบกว่าจานไม่เกินสองร้อยบาทไทย ถ้าเป็นที่ลาวเรากินกันเท่านี้คงไม่หนีห้าร้อยบาท

ท้องอิ่มเราจัดน้ำและขนมขึ้นรถล้อเริ่มหมุนสู่พะอัน บรรยากาศเริ่มแรกเย็นสบายถนนพอปั่นได้และออกมาได้สักพักผ่านทาง Bypass ที่มาจากถนนสายใหม่เราก้ได้พบกับด่านทหารอีกครั้ง

หยุดอีกเหมือนเดิมครับท่าน เจ้าหน้าที่ทำการถ่ายรูปวีซ่าและพาสปอร์ตแล้วให้เราไปต่อได้ พออกมาอากาศเริ่มร้อนขึ้น ถนนแคบไม่มีใหล่ทาง รถใหญ่วิ่งกันมากมายและใช้ความเร็วกันพอสมควร เมื่อรถมาเขาจะบีบแตรให้เราทราบทุกครั้งสังเกตุไม่เห็นมีอุบัติเหตุเท่าไรนัก

ผ่านมาสักพักเจอสะพานข้ามแม่น้ำ Gyaing (ไม่รู้อ่านว่ายังไง) แวะถ่ายรูปแล้วปั่นสู้เนินกับการบั้มของถนนมาเรื่อยๆเพราะถนนนั้นไม่เรียบเอาซะเลยไส้จะหลุดแล้วและทำความเร็วไม่ค่อยได้ เส้นทางนี้ไม่ค่อยพบอะไรน่าสนใจมากนักมีเจดีย์เล็กๆอยู่ประปราย เราปั่นจนมาถึงแยกซ้ายมือไปมะละแหม่งและขวามมือไปพะอันก็ต้องหยุดเพราะน้อตยึดหูกระเป๋า Orthlibe ของพี่เทิ่มหลุดหายจากแรงสะเทือนของเส้นทาง ผมหาน้อตอะหลั่ยมาเปลี่ยนแล้วทำการเดินทางต่อ

หลังจาก 11 โมงอากาศร้อนมากวัดได้ประมาณ 37 องศาจากไมล์การ์มิน สภาพข้างทางมีแต่สวนยางพาราไม่มีร้านอาหารบ้านคน เราปั่นมาได้ประมาณ 40 กม จึงพักเที่ยงที่ร้านอาหารข้างทางแห่งหนึ่ง เจ้าของร้านพูกไทยไม่ได้แต่เราก็สื่อสารกันได้ด้วยดีโดยภาษามือ

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 11:19
โดย e21smn
ทานอาหารเที่ยงกันเสร็จล้อเริ่มหมุนเข้าสู่พะอัน เส้นทางก่อนเข้าเมืองพะอันมีภูเขาใหญ่บังไว้ทางทิศตะวันตกซึ่งวันรุ่งขึ้นเราก็ได้ปั่นผ่านมาเที่ยวอีกครั้ง

เราเข้ามาถึงพะอันประมาณบ่ายสี่โมงเย็น สภาพบ้านเมืองไม่ใหญ่มากนักและเงียบสงบ ผมปั่นหาโรงแรมที่จองใว้โดยการเปิด Google Map มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อผมปั่นเลยโรงแรมไปประมาณ 100 เมตรเพราะหาไม่เจอแล้วย้อนกลับมา ลุงแม้คผู้อยู่ท้ายสุดกลัวไม่ทันเลยไม่ทันได้สังเกตุรถเลี้ยวที่สี่แยกเล็กๆในซอย จึงเกิดการเฉี่ยวชนจนล้มและเขาก็ขับหนีไป ดชคดีลุงแม็คและรถไม่เป็นอะไรมากสามารถเดินทางต่อได้

เราเข้าไปแสดง Booking งานเข้าอีกแล้ว หนูแคปบอกว่าเขาหายืนยันการจองของเราไม่เจอเราก็โชว์ใบจองว่านี่ไง ตัดจ่ายเงินแล้วด้วย สุดท้ายก็เจอเพราะพนักงานไปดูการจองของเอเยนต์อื่นซึ่งไม่ใช่ Expedia จึงได้ห้องมาราคา 1,700 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า ถ้าเรา Walk in ไปที่อื่นคงราคาถูกกว่านี้แต่เราต้องการปลายทางแต่ละวันที่ชัดเจนจึงทำการจองมาล่วงหน้า
สภาพห้องถือว่าดีครับ เราส่งผ้าซักแล้วออกไปดุพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำสาละวินกับไปวัด Shwe Yin Myaw (ซุยยินเมียว)

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 11:31
โดย e21smn
ออกจากวัดซุยยินเมียวผมถามสมาชิกว่าวันนี้เราจะกินอาหารอะไรดี พม่า ไทย ยุโรป สมาชิกตอบพร้อมกันว่าอาหารไทยผมเลยหาใน Google map พบร้าน Bangkok Thai Food shop จึงปั่นไป อาหารอร่อยครับ เจ้าของร้านพูดไทยได้ ที่สำคัญราคาไม่แพง เรากินกันหกคนอาหารกว่าสิบอย่างเบีนร์อีกหลายกระป๋อง ราคาแค่ประมาณ 600 บาทเฉลี่ยคนละร้อยบาทเท่านั้น

ท้องอิ่มเราก็เคลื่อนทัพกลับโรงแรมเพื่อนอนเอาแรงลุยในวันต่อไป

"พะอัน” (Hpa-An) เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง (Karen State) ตั้งอยู่บนเส้นทางช่วงปลายของระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ในประเทศเมียนมา ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงที่ยังคงยึดวิถีการประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำไร่ทำนาเป็นหลักเหมือนเมื่อครั้งบรรพบุรุษของพวกเขา
เนื่องจากไม่ได้มีการทำสำมะโนประชากรในเมียนมามานานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 จำนวนประชากรจึงถูกอ้างอิงจากฐานข้อมูลเก่าว่ามีอยู่ประมาณ 50,000 คน แต่จากการประเมินของ World Gazettee ในปี 2013 ประเมินว่าประชากรของเมืองพะอันน่าจะมีอยู่กว่า 125,000 คน ขณะที่มีคนอีกจำนวนไม่น้อยเคยเดินทางเข้ามาขายแรงงานในประเทศไทยในยุคที่เมียนมายังมีปัญหาการสู้รบภายในประเทศ แต่เมื่อเหตุการณ์สงบลงพวกเขาก็เริ่มทยอยกลับบ้านและเลือกวิถีในการประกอบอาชีพของตนเอง

Re: สรุปทริป "พม่ามนต์เสน่ห์แห่งลุ่มน้ำและผู้คน"

โพสต์: 13 ม.ค. 2017, 16:38
โดย jazzmusic
ขอขอบคุณพวกพี่ๆทุกคนครับที่มีเรื่องราวดีๆมาให้ชมกันผมขอให้พวกพี่ทุกๆคนมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขตลอดปี 2560 ทุกๆคนครับผมขอเป็นกําลังใจให้ครับ