หน้า 1 จากทั้งหมด 2

สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 14:41
โดย e21smn
จากที่ผมชวนปั่นในกระทู้นี้ครับ

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1374785

เมื้อถึงเวลามีสมาชิกทั้งหมด 4 ท่าน ผม , น้องแคป , พี่ไพโรจน์ สระบุรี และพี่จากพิษณุโลกอีกหนึ่งท่าน
เรานัดกันเช้าวันที่ 17 ที่ บขส อุดรธานีเพื่อขึ้นรถอุดร-วังเวียง รถออก 8:30 น ค่ารถคนละ 320 บาท ค่าระวาง จกย 300 บาทครับ

คืนวันที่ 16 พี่ไพโรจน์ขึ้นรถไฟจากสระบุรีไปอุดร พี่จากพิษณุโลกส่งลายมาตอนสี่ทุ่มบอกติดปัญหาว่ารถ บขส ไม่มีที่ให้จักรยานขึ้นเลยมาตามนัดไม่ทันเลยเหลือเราแค่สามคน
ส่วนผมกับน้องแคปขึ้นนกแอร์เที่ยวหกโมงเช้าวันที่ 17 โชคดีที่นักบินมาทำงานทำให้เราสามารถไปตามนัดได้ ค่าเครื่องบิน 700 บาท สัมภาระและ จกย โหลดฟรีไม่ต้องถอดรถครับ จูงไปหา จนท ที่เค้าเตอร์เช้คอินเลยแล้วจะมีคนจูง จกย ไปขึ้นเครื่องให้

พอเราถึงสนามบินอุดรประมาณเจ็ดโมงเช้าจัดการบรรทุกสัมภาระ เติมลม จกย แล้วเปิดกูเกิลแมปว่า บขส อยู่ใหนเราต้องไปขึ้นที่ บขส เก่าครับ ระยะทางประมาณ 8 กม ใช้เวลาปั่นตามแผนที่ไม่นานก็มาถึง บขส มีพี่ไพโรจน์มาถึงก่อนรออยู่แล้ว
หลังจากนั้น ก็ไปซื้อตั๋วโดยต้องใช้พาสปอร์ตโชว์ครับแจ้งว่ามี จกย ไปด้วยเขาคิดคันละ 300 บาท แต่ไม่ยักมีใบเสร็จให้แล้วเราก็เอารถ จกย ไปใส่ใต้ท้องรถโดยถอดล้อหน้า หลัง และวางรวมกับสัมภาระ ผมก็กลัวๆรถพังเหมือนกันแต่รักทัวร์ริ่งต้องทำใจครับ

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 15:03
โดย e21smn
ระยะทางอุดรวังเวียงประมาณ 250 กม แต่รถจะใช้เวลาวิ่งประมาณ 7 ชม โดยไปถึงประมาณบ่ายสามโมง สาเหตุที่ใช้เวลานานเพราะต้องจอดทำพิธีการที่ด่านไทยและลาว และเมื่อผ่านฝั่งลาวแล้วเมื่อออกจากเมืองเข้าถนนเลขที่ 13 ถนนจะซ่อม สร้าง เป็นระยะๆ ซึ่งนี่คือสาเหตุให้ผมมาเลือกเริ่มต้นที่วังเวียงสำหรับทริปนี้ เพราะหากปั่นไปจากเวียงจันทรืคงไม่สะดวกเท่าไหร่นัก
8:30 รถออกตรงเวลาตั๋วระบุที่นั่งโดยเราได้นั่งแถวหลังสุด ส่วนใหญ่ในรถเป้นนักท่องเที่ยวทั้งไทย เกาหลี และชาติอื่นๆปนกันไปครับ หลังจากนั้นประมาณ 1 ชมรถถึงหนองคายก้วนไปรับผู้โดยสารที่ขึ้นที่นั่นแล้วมาจอดที่ด่านขาออกของไทย
ด่านนี้เราลงมาแต่ตัวและพาสปอร์ตครับเขียนใบ ตม แล้วผ่านพิธีการรถจะเลื่อนไปรอรับเราที่หลังด่าน เมื่อมาครบกันแล้วเราขึ้นรถแล้วก้พาเราข้ามสะพานมิตรภาพไปด่านขาเข้าของลาว เราลงมาแต่ตัวเช่นกันครับเขียนใบขาเข้าแล้วผ่านพิธีการ และซื้อเสียค่าเหยีบแผ่นดิน 5 บาทโดยไปซื้อการ์ดมาเสียบที่ช่องผ่านเหมือนเราเข้ารถไฟฟ้า
มีข้อสังเกตุคือผมเคยนั่งรถข้ามที่มุกดาหาร-สุวรรณเขตเมื่อเดือนก่อน เมื่อถึงด่านเข้าของลาวเราต้องเอาของลงมาทั้งหมดรถทั้ง จกย ที่ผมโหลดไต้ท้องรถด้วยเพื่อผ่านศุลกากร แต่ที่นี่ไม่ต้องอาจจะเป็นที่เขาเคลียกันเองหรือไม่อันนี้ก็ไม่ทราบแน่เพราะตอนไปจ่ายเงิน 300 ค่าโหลด จกย เขาบอกว่าเรื่อง จกย เขาจะเคลียให้เราก็ยังไม่ทราบตอนนั้นว่าจะเคลียอะไร เลยมาคิดว่าคงเป็นแบบนี้ไม่ต้องยกขึ้นยกลง

พอผ่านด่านลาวผมก็เอาซิมลาวที่มีอยู่แล้วมาเปลี่ยนลงมือถือ ไปเติมเงิน 10,000 กีบหรือประมาณ 44 บาทจะใช้เน็ท 4G ได้ 1.5GB ระยะเวลา 7 วัน ส่วนน้องแคปไปแลกเงิน เดินกลับมายิ้มแก้มปริว่าได้จับเงินล้านแล้วในชีวิตนี้
อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้น 1 บาทได้ 227 กีบ ครับ

พอขึ้นรถเราก็หลับตามั้งลืมตามั้ง รถเข้าไปวนในเวียงจันทร์แต่ไม่จอดรับใครเราก็งงเข้าไปให้เสียเวลาทำไม หลังจากนั้นไปเรื่อยๆบนรถไม่มีห้องน้ำนะครับจัดการธุระส่วนตัวและเตรียมของขบเคี้ยวให้เรียบร้อยก่อนขึ้น ประมาณบ่ายโมงรถมาถึงบ้านโพนโฮงก็จอดเพื่อให้เรากินข้าวเที่ยง
ข้าวราดแกง 20,0000 กีบ หรือประมาณ 88 บาท ที่ลาวของกินแพงค่าโรงแรมถูก หลังจากนั้นก้ไปต่อรถก็เริ่มขึ้นเขาลงเขา โค้งไปแล้วก็โค้งมา น้องแคปเริ่มเวียนหัว ฝุ่นถนนที่กำลังซ่อมก็อบอวนเข้ามา นาทีนั้นเรามองแค่ว่าเมื่อไหร่จะถึงซะทีฟะ พวกตูแย่แล้ว ส่วนพี่ไพโรจน์คุยกับสาวๆนักท่องเที่ยวไปเรื่อยๆอย่างมีความสุข

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 15:17
โดย e21smn
พอถึงวังเวียง เราประกอบรถแล้วปั่นหาที่พักโดยกำหนดว่าค่าที่พักในทริปนี้แต่ละคืนไม่เกิน 100,000 กีบหรือ 440 บาท ซึ่งที่พักส่วนใหญ่ราคาประมาณนี้อยู่แล้ว
ผมเลือที่พักที่อยู่ถนนสายกลางจะได้ไม่พลุกพล่านได้ในราคา 80,000 กีบห้องแอร์ และ 60,000 กีบ ห้องพัดลม ผมเลือกห้องแอร์ซึ่งเป็นการเลือกที่ผิดมหันต์เพราะหนาวครับ แอร์ไม่ได้เปิดเลยส่วนพี่ไพโรจน์เลือกพัดลมเพราะไม่ชอบแอร์
สภาพห้องดีครับ ป้าเจ้าของก็อัธยาศัยดี เมื่อเราเก็บของแล้วก็ปั่นเที่ยวกันซึ่งผมกับน้องแคปมากันครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือน มีค 58 ตอนปั่นใจเกินร้อยเวียงจันทร์-วังเวียง ส่วนพี่ไพโรจน์เคยมาเมื่อสองปีก่อน ดังนั้นเราจึงปั่นเพื่อรำลึกความหลังและเก็บเกี่ยวบรรยากาศมากกว่า จนค่ำก็ไปหาอาหารกินที่ริมน้ำซอง แล้วมานอนเอาแรงเพื่อพบกับการปั่นวันรุ่งขึ้น

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 15:54
โดย e21smn
เช้าวันที่ 18 วันแรกของการเดินทางสู่หลวงพระบาง เรานัดกัน 7:00 น เพื่อหาอาหารเช้ากินและสำรองระหว่างทาง โดยมรเป้าหมายวันนี้ที่ บ้านน้ำอุ่นรีสอร์ทระยะทาง 75 กม กับการไต่ขึ้นที่ความสูง 755 เมตร วันนี้ยังสบายๆมีเขามีเนินพอให้เหนื่อยกัน อุณหภูมิตอนเช้าวันนั้น 15C เราใส่เสื้อกันหนาวหาอาหารที่ตลาดเช้ากินแล้วเดินทางตามทางหมายเลย 13 ขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ช่วยแรกทางเรีบผสมกับเนินซึมๆครับ มีรถขนนักท่องเที่ยวไปล่องน้ำซองแซงเราขึ้นไปเป็นระยะๆ ที่น่าสังเกตุคือรถนักท่องเที่ยวจีนทะเบียนจีนเยอะมาก นักท่องเที่ยวเหล่านี้เที่ยเสร็จก็คงมาต่อที่ไทยโดยเข้าทางเชียงของกัน

เริ่มออกเดินทางทุกคนยังตื่นเต้นและสนุกสนานครับเนื่องจากแรงยังดีและเป็นวันแรก พอผ่านไป 20 กม เริ่มเงียบกันมากขึ้นเพราะขึ้นเนินจนถึง กม ที่ ก็เงียบกันหมดเพราะขึ้นเขาจนถึงประมาณ กม ที่ 38 ก้จะได้เริ่มไหลลง จุดนี้ก่อนถึงจุดบนสุดยางหลังน้องแคปก็ระเบิดเราเสียเวลาประมาณ 15 นาทีจัดการเปลี่ยนแล้วไปกันต่อ
หลังจากไหลลงแล้วก็เป็นเนินขึ้นลงเบาๆจนถึง กม ที่ 70 จึงเริ่มไต่ขึ้นเขาไปสัก 5 กม ก็ถึงบ้านน้ำอุ่นรีสอร์ทเป็นที่พักเราสำหรับคืนนี้ เราไปถึงประมาณ 16:00 น ครับปั่นกันไม่เร็ว AV วันนั้นคือ 14.9
ถ้าใครไม่แรงและเก่งจริงให้หยุดพักที่นี่ครับอย่าไปต่อเพื่อหวังพักที่ภูคูนเป็นอันขาดเพราะระยะทางที่เหลืออีก 25 กม ถึงภูคูนนั้นเส้นทางยากมาก เราจะว่ากันในการปั่นวันพรุ่งนี้ครับ

บ้านน้ำอุ่นรีสอร์ทเป็นลักษณะรีสอร์ทไม่มีบ้านคนอยู่ไกล้เท่าไรนัก มีบ้านพักอยู่ 5 หลังค่าที่พัก 80,000 กีบต่อคืนพักได้ 2 คนมีห้องน้ำในตัว หากจะกางเต้นทืมีเต้นให้บริการหรือสามารถนำไปเองได้ดดยเขาจะให้กางในที่คล้ายๆกระท่อมที่ไม่มีผนัง เหทือนตามร้านอาหารตามต่างจังหวัดนิยมให้คนมานั่งกินอาหารกัน ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมค่ากางหลังละ 40,000 กีบ

เราเปิดห้องพักแล้วเขาจะมีน้ำอุ่นธรรมชาติครับเดิน 1 นาทีถึงไปนอนแช่กันคลายเมื่อยล้าได้ดีเป็นอย่างมาก ส่วนอาหารนั้นรีสอร์ทมีร้านเขาเอง ราคาก้ทั่วไปครับ 15,000-20,000 กีบ

นักทัวร์ริ่งไทยได้เกียรติถ่ายรูปเพื่อโฆษณาที่นี่ครับ ไปดูรูปแล้วเป็นเพื่อนๆที่ออกทริปกันอยู่ มาเมื่อไหร่ไม่บอกกันเลย
ที่นี่เป็นจุดพักส่วยใหญ่ของนัก จกย ทัวร์ริ่ง วันนั้นมีนักทัวร์ริ่งสองคนจาก USA และ Mexico มาพักโดยปั่นสวนมาจากภูคูนเราก็ทักทายและนั่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันครับ
อายน้ำอุ่นเสร็จกินข้าวแล้วคุนกัยพอเริ่มง่วงก้แยกย้ายกันนอนดดยวันรุ่งขึ้นพบกันเวลาเดิม และจะเป็นวันที่หนักที่สุดในทริปสั้นๆนี้

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 15:59
โดย e21smn
บึนทึกเส้นทางปั่นวันนี้ครับ

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 16:24
โดย e21smn
19 กพ 59 วันที่สองของการปั่นเรามีเป้าหมายอยู่ที่กิ่วกระจำ ระยะทางจากบ้านน้ำอุ่นรีสอร์ทประมาณ 75 กม แต่วันนี้เราต้องไต่เขาขึ้นไปที่ความสูง 1420 เมตร ขึ้นลง ขึ้นลง ขึ้นลง ทั้งหมดสามครั้งครับ
เขาแรกเป็นจุดที่ทุกคนลงความเห็นว่ายากสุดนั่นคือเราจะไหลลงจากบ้านน้ำอุ่นรีสอร์มาประมาณ 2-3 กม แล้วตั้งหนเาตั้งตาขึ้นอย่างเดียวไปอีก 25 กม เพื่อถึงภูคูนครับ เราออกเดินทางกัน 8:00 น เช่นเดิมอุณหภูมิวันนี้ 14C ครับหนาวมากพอไหลลงก็หนาว พอปั่นขึ้นเขาก็ร้อน สภาพเส้นทางพันไปพันมาตามไหล่เขาเรื่อยๆจนถงภูคูน ระยะทาง 25 กม เราใช้เวลากันประมาณ 4 ชม จนถึงภูคูนประมาณเที่ยงแล้วแวะกินข้าวเที่ยงกันที่ตลาดสามแยกภูคูนครับ

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 16:35
โดย e21smn
จากรูปสุดท้ายด้านบนจะเห็นยอดเขาลิบๆอยู่ซ้ายมือ เราต้องไปให้ถึงครับ ดูแล้วท้อแต่เมือถึงแล้วดูกลับลงมาก็สุขใจ
วันนี้พี่ไพโรจน์ปั่นดีมากครับ (และก็ดีในวันอื่นด้วย) สงสัยสระบุรีมีเขาให้ซ้อมเยอะปั่นแซงขึ้นไปจนลับตา ส่วนผมกับน้องแคปใช้ความเร็ว 3-5 KM/Hr ไปเรื่อยๆ สองสามกิโลพักที รอบขาช้าเหมือนหอยทาก ปั่นช้าจนขนาดที่ว่าแมลงมันตามตอมไปได้เรื่อยๆปั่นหนีมันไม่ได้เลย
จนถึงยอดเขาก่อนถึงภูคูนเป็นจุดพักรถพบพี่ไพโรจน์นั่งพักยิ้มให้บอกจะซูมกล้องหาแต่ไม่เจอเพราะไกลมาก แฮ่มมมม มาถึงนานจนหายเหนื่อยแล้วละสิ
อีกไม่ไกลมากก็ถึงภูคูนแล้วครับ

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 19:55
โดย e21smn
หลังจากเราออกจากจุดพักเพื่อไปต่อแล้วเส้นทางยังเป็นขึ้นๆลงแต่ไม่หนักมากแล้ว ปั่นไปพอลิ้นห้อยก็ถึงสามแยกภูคูน เราแวะตลาดกินข้าว โหลดน้ำเพิ่ม กินกาแฟ เมื่อพร้อมแล้วออกเดินทางต่อ
ออกจากภูคูนขึ้นเขามานิดเดียวก็เป็นทางลงยาวๆไหลลงสนุกมากระยะทางประมาณ 5 กม ก็เริ่มขึ้นเขาอีกเพื่อชดใช้กรรมที่เราไหลลงมา ขึ้นไปอีกประมาณ 18 กม ก็ได้ไหลลงอีกครั้งเกือบ 10 กม ความสนุกกับความฟินมาหาเราอีกครั้งแล้วก็ขึ้นลูกสุดท้ายที่ชันที่สุดเพื่อเข้าสู่กิ่วกระจำ
เราไต่ขึ้นไปอีกประมาณ 18 กม ตอนนี้อีก 3 กม สุดท้ายที่จะถึงกิ่วกระจำเราเริ่มหมดแรงกันแล้ว ต่างคนต่างปั่นไม่พูดไม่จา 3 กิโลเหมือนกับไม่ถึงซักที ผมต้องเอากระเป๋าของน้องแคปทั้งสองใบมาใส่ข้างหน้ารถผมตั้งแต่เขาลูกที่สองเพื่อให้รถเบาขึ้นเขาจะได้ไม่ต้องปั่นช้าห่างกันมากนัก
แล้วสุดท้ายเราก็มาถึงกิ่วกระจำเราพักที่เดิมที่เคยพักครับ นั่นคือบ้านพักป้าบุนทัน ราคาห้องละ 80,000 กีบ แต่สภาพห้องไม่ดีนักอับและชื้นเนื่องจากอากาศเย็น เราต้องเอาถุงนอนขึ้นมานอนทับอีกที
ที่พักแห่งนี้เป็นจุดพักของนัก จกย ทัวร์ริ่งเช่นกันครับ วันที่เรามาพักมีนัก จกย จากเวียดนามมาสองคน จีนสี่คน ผมได้คุยและและ add friend facebook ไว้เพื่อขอความช่วยเหลือหากไปซาปาในโอกาสต่อไป
ที่พักแห่งนี้ด้านหลังเป็นระเบียงสามารถกางเต้นทได้ เมื่อเดือนที่แล้วก่อนทริปนี้ผมได้มากางเต้นทนอนที่ระเบียงไปหนึ่งครั้ง เขาคิดเต้นท์ละ 40,000 กีบ ในตอนเย็นสามารถดูพระอาทิตย์ตกตินได้ที่จุดนี้และตอนเช้าเราจะเห็นทะเลหมอกเช่นกัน
วันนั้นเรามาถึงประมาณ 17:00 ทันดูพระอาทิตย์ตกดินพอดี
วันนี้รูปน้อยครับหมดแรงจนไม่อยากยกกล้อง ส่วนเรื่องอาหารการกินจุดนี้นั้น ที่พักเขาเป็นร้านอาหารตามสั่งราคาทั่วไปครับ 15,000 - 20,000 กีบต่อจาน

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 20:08
โดย e21smn
20 กพ 59 วันของการปั่นเข้าหลวงพระบาง เราตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นและคึกคักเพราะรู้ว่าส่วนที่ยากที่สุดได้ผ่านไปแล้ว มีแต่น้องแคปบ่นว่าเหมือนมีคนมาหายใจไกล้หูทั้งคืนกลัวมาก ผมบอกว่ามาสองครั้งยังไม่เจออะไรเลยสงสัยเหนื่อยจนหลับไม่รู้เรื่อง ส่วนพี่ไพโรจน์บ่นนัก จกย เวียดนามที่พักห้องข้างๆว่าเสียงดังตอนตีสอง แล้วเราก็ไปดูทะเลหมอกและปรึกษากันว่าจะออกตอนใหนดีเพราะขณะนี้หมอกลงจนมองไม่เห็นและเราต้องไหลลงเขาไปเป็นระยะทางไกลมาก
พี่ไพโรจน์ขอตัวออกไปหาร้านซ่อมรถเพื่อหาน้อตมาใส่ตะแกรงที่มันหลุดออกไป พบร้านซ้อมมอเตอร์ไซค์ที่เจ้าของร้านเคยมาทำงานที่หนองจอกเลยได้การบริการที่ดีจากเขามา
ประมาณเก้าโมงเช้ากับหมอกที่ยังไม่จางเราตัดสินใจไหลไปเรื่อยๆเปิดไฟหน้าหลังกับระยะทางที่ไม่กดดันมากนัก จากนี้อีกแค่ 75 กม เราก็ถึงหลวงพระบางแล้วมีเขาอีกแค่ลูกเดียว และเขาเล็กๆพอเพลินๆก่อนเข้าหลวงพระบางอีกหนึ่งลูก

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 20:47
โดย e21smn
เราปั่นลงเขามาประมาณ 20 กม ทะลุหมอกลงมาเรื่อยๆมีความรู้สึกได้ชดเชยที่ไต่ขึ้นมาเมื่อวาน จนผ่านไปประมาณ 22 กม ความสุขก็หมดไปเพราะเริ่มขึ้นใหม่ แต่ครั้งนี้เราฮึกเหิมเพราะรู้ว่าเป็นลูกสุดท้ายของทริป
ไต่ขึ้นอีกประมาณ 20 กม ก็เริ่มถึงจุดไหลลงไปเมืองเชียงเงินครับ ไหลลงอีก 15 กม ที่ลาวผมชอบคือขึ้นก็ขึ้นอย่างเดียวยาวๆเอาให้มันรู้เรื่องไปเลย และลงก็ลงยาวๆเช่นกันสะใจคอซาดิตส์
ไหลลงมาแวะดูวิวที่จุดชมวิวเมืองเชียงเงินแล้วก็ไหลลงต่อเพื่อไปพบกับพี่ไพโรจน์ที่ล่วงหน้าไปก่อนกำลังนั่งรอที่ร้านส้มตำเพื่อทานอาหารเที่ยงกัน
หลังจากนี้อีก 20 กมเข้าหลวงพระบางทางเรียบขึ้นเนินลงเนินเล็กน้อยผ่านแยกไปเมืองไชยบุรีเราตรงไปเลี้ยวซ้ายที่ปั้มน้ำมันเพื่อเข้าเมือง
ก่อนเข้าเมืองมีเขาอีกลูกพอช้ำๆใจผมให้ชือว่าเนินรับแขกบ้านแขกเมืองครับ ผ่านไปแล้วเราก็ตรงไปที่พักเราคือบ้านพักปากห้วยที่ตั้งอยู่ไกล้ริมน้ำโขงและอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวครับ
ห้องพักราคา 100,000 กีบ แต่ผมมาครั้งที่สองและน้องพรเจ้าของเรือนพักคุ้นเคยกับนัก จกย ทัวร์ริ่งไทยเป็นอย่างดีเลยให้ราคา 80,000 กีบเท่ากับครั้งที่ผ่านมาครับ
เราทำการเก็บของแล้วปั่น จกย ชมเมืองและเมื่อค่ำลงเราไปตลาดมืดกัน ก่อนหน้านั้นไปกินแหนมเนืองเจ้าอร่อยที่คนท้องถิ่นไปกินกัน

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 21:09
โดย e21smn
วันรุ่งขึ้นเราไปเที่ยวสถานที่ต่างๆครับ แล้ว 11:00 น เราก็ไปเที่ยวน้ำตกกวางสีโดยรถ ที่เราไม่ปั่นไปเพราะต้องการประหยัดเวลาครับ เส้นทางก็แคบๆขึ้นเขาลงเขาตลอดระยะทางประมาณ 35 กม
พอกลับจากน้ำตกเราแยกกันพักผ่อนและนัดกันไปกินข้าวตลาดมืดและปิดทริปกันคืนนี้เพราะรุ่งขึ้นพี่ไพโรจน์นั่งรถทัวร์กลับเวียงจันทร์เพื่อปั่นข้ามมาหนองคายและขึ้นรถไฟกลับ ค่ารถ 180,000 กีบ ค่า จกย 50,000 กีบ
ส่วนผมกับน้องแคปจองตั๋วการบินไทยไว้ไปตอนบ่าย

ทานอาหารเสร็จเรากลับที่พักเก็บของวันรุ่งขึ้นพี่ไพโรจน์ปั่นไป บขส หลวงพระบางแต่เช้าผมตื่นมาสวัสดีไม่ทัน แล้วสายๆผมก็เก็บข้าวของขึ้น จกย ไปปั่นอำลาหลวงพระบาง แวะรับแหนมเนื่องที่สั่งไว้เมื่อวานใส่ลังเพื่อเอากลับมากินที่ กทม แล้วปั่นไปสนามบิน
ถึงสนามบินเอากระเป๋าออกแล้วไปเค้าเตอร์ที่รับบริการ wrap กระเป๋า ผมถอดล้อรถออกและถอดแฮนด์เพื่อให้เขา wrap แต่น้อง จนท บอกว่ามีกล่อง จกย แล้วเขาก้ไปเอากล่อง จกย เก่าๆบวมๆมาสองกล่องแล้วบรรจุ จกย เราลงกล่องติดเทปกาวเรียบร้อยเสียเงินไปคันละ 80,000 กีบ แล้วเราก็ทำการ check in ไปรอเครื่องออก
ถึงเวลาใจหายเล็กน้อยเพราะสามสี่วันที่ผ่านมาปั่นมีความสุขมากถึงแม้ว่าจะเป็นภูเขา แต่รถน้อย อากาศดี นั่งคิดเพลินๆชั่วโมงครึ่งก็ถึงสุวรรณภูมิ ไปรับกระเป๋าและรับรถที่จุดจ่ายสัมภาระ oversize แล้วกลับบ้านไปพบกับภาระการงานที่ต้องทำต่อไป

สบายดีหลวงพระบาง คิดถึงและจะกลับไปอีก

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 10 มี.ค. 2016, 21:24
โดย e21smn
ปิดท้ายครับ การเตรียมตัวไปปั่น
ร่างกายควรพร้อมใช้เกียร์เป็น
ปะยางได้แก้ไขปัญหาเล็กน้อยได้
ไม่ต้องปั่นเร็วมากเพราะมีสัมภาระไปเรื่อยๆเราไม่ทิ้งกัน
มีอัธยาศัยดีทุกคนคือมิตร
ให้เกียรติคนท้องถิ่น คนที่ลาวน่ารักทุกคนคอนเฟิม
กินง่าย นอนง่าย อยู่ง่าย ไม่งอแง
สำรองอาหารแห้งในกระเป๋าเผื่อฉุกเฉิน
เงินสำรองพอใช้แลกเป็นกีบไปใช้คล่องมาก เงินบาทก็รับในเมืองใหญ่ระหว่างทางอาจจะไม่รับ
อื่นๆเพื่อนๆในนี้คงรีวิวไว้แล้วครับ แล้วพบกันทริปต่อไป 25 มีค - 5 เมษ คุนหมิง-แชงกรีล่าครับ จะกลับมาเล่าสู่กันฟัง

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 11 มี.ค. 2016, 11:06
โดย NO.7
ตามอ่านจนจบ สนุกมากครับ เสมือนได้ร่วมทริปไปด้วย

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 11 มี.ค. 2016, 18:43
โดย ไพโรจน์ พลอยกระจ่าง
โห ! คุณแจ๊ค ครับ อ่านในรีวิวแล้วแทบอยากจะกลับไปซ้ำรอยอีกเลยครับ ขาทัวร์ริ่งได้อ่านแล้วน้ำลายยืดแน่ๆ

Re: สรุปทริปปั่นเบาๆวังเวียง-หลวงพระบาง

โพสต์: 11 มี.ค. 2016, 18:49
โดย e21smn
ไพโรจน์ พลอยกระจ่าง เขียน:โห ! คุณแจ๊ค ครับ อ่านในรีวิวแล้วแทบอยากจะกลับไปซ้ำรอยอีกเลยครับ ขาทัวร์ริ่งได้อ่านแล้วน้ำลายยืดแน่ๆ

ครับพี่ไพโรจน์ไว้สิ้นเดือนเมษายนเราไปซาปากัน