ThaiMTB.com

อ่านจากเว็บไทยรัฐนะครับ เอามาเฉพาะข้อ 6-10
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
6. เวลาเราคาร์ดิโอในระดับต่ำ (low intensity) ร่างกายเราจะใช้ไขมันเป็นพลังงานประมาณ 90% ถ้าในระดับหนัก ร่างกายจะใช้ไขมันเป็นพลังงานประมาณ 60%

7. หลายคนคงกำลังคิดว่า แบบนี้ถ้าคาร์ดิโอในระดับต่ำนานๆ มากๆ ก็คงจะเผาผลาญไขมันได้เยอะแน่ๆ แต่! คาร์ดิโอในระดับหนักนั้นสามารถเผาผลาญแคลอรีโดยรวมได้มากกว่า

8. ถ้าคาร์ดิโอในระดับเบา (50% ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ) เราจะเผาผลาญประมาณ 7 แคลอรีต่อนาที และ 90% จะเป็นไขมัน
ถ้าคาร์ดิโอในระดับสูงหนักหน่อย (75% ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ) เราจะเผาผลาญประมาณ 14 แคลอรี ต่อนาที และแค่ 60% มาจากไขมัน

10. เริ่มเห็นภาพกันหรือยัง ถ้ายัง ลองคำนวณตาม :

- คาร์ดิโอระดับเบาเผาผลาญ 7 แคลอรี ต่อนาที 90% มาจากไขมันก็ 7x.90 = 6.3 แปลว่าคุณเผาผลาญไขมันจริงๆ แค่ 6.3 แคลอรีต่อนาที
- เทียบกับคาร์ดิโอหนักหน่อย เผาผลาญ 14 แคลอรี ต่อนาที 60% มาจากไขมันก็ 14x.60 = 8.4 แปลว่าคุณเผาผลาญไขมันจริงๆ 8.4 แคลอรี ต่อนาที

ง่ายๆ เลย คาร์ดิโอยิ่งระดับความหนักสูงยิ่งดีกว่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สรุปแล้วถ้าเน้นเผาพลาญไขมัน/ลดน้ำหนัก จะ low หรือ high intensity ดีครับ

ฉบับเต็มดูมาจากที่นี่ครับ
http://www.thairath.co.th/content/474084

ก็ถูกแล้วครับ ยกเว้นคุณไปถึงโซนแดงที่ไม่ใช้ไขมันเลยใช้แต่น้ำตาลครับ

คนที่มีเวลาน้อยเช่น 1 ชม ควรออกกำลังกายระดับ 3-4 ถ้าต้องการเผาผลาญจำนวนไขมันให้ออกมากที่สุดครับ แต่ถ้าคุณมีเวลาออกกำลังทั้งวัน ควรที่จะเน้นระดับ 3 ต้นๆ เพราะจะได้สงวนแรงไว้พอที่จะปั่นกลับบ้านได้ อย่างพวกปั่น 200+ กม ใน 1 วันไงครับ เพราะถ้ามัวแต่เร่ง หมดแล้วหมดเลย ฟื้นยากมากครับ ต้องพักนานกว่าปกติ หรือตะคริวถามหา หรือถ้านอนน้อย อาจชักตายได้ มีหลายรายตายเพราะนอนน้อยและปั่นหนักครับ

ต้องเข้าใจก่อนว่าในกล้ามเนื้อก็มีไกลโครเจน(กลูโคสในรูปแบบนึง) การออกกำลังกายเบาๆร่างกายเราจะหลีกเลี่ยงการดึงไกลโครเจนในกล้ามเนื้อมาเผาเป็นพลังงานครับ แต่กับดึงไขมันมาใช้(ไขมัน1กรัมสามารถให้พลังงานได้มากถึง9 kj)แต่เป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน กับไปมองมุมที่ร่างกายโหมทำงานหนักเช่นสปริ้นเล่นกันแรงๆ ตอนนี้ร่างกายจะดึงไกลโครเจนมาใช้ละ (จะไม่บอกถึงขั้นตอนพลีชีพสลายโปรตีนในเซลล์มาใช้นะครับเด๋วงง)ถึงแม้คาร์โบไฮเดรตโมเลกุลเดี่ยวนี่จะมีพลังแค่4kjแต่เอามาใช้ได้เร็วกว่าไขมัน ร่างกายหลีกเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องใช้พลังงานละจึงยอมดึงมันมาใช้ นี่เป็นแบบคร่าวๆครับ ใครจะให้ลงเครปไซเคิ่ลให้ส่วนตัวมาหา อิอิ เอาเป็นว่าใครจะลดน้ำหนักให้ขี่ชมนมชมไม้ไปเรื่อยๆ เน้นรอบขา100ไปเรื่อยๆหัวใจอย่าเกิน60%หรือใครไม่มีวัดหัวใจก็กะๆว่าให้รู้สึกว่าเหนื่อยนิดๆ แต่ไปได้ตลอดถึงไหนถึงกัน ...จากนั้นลดความเร็วลงอีกนิด ปั่นชิวๆไปเรื่อยๆให้เกิน1ชม.ทุกวัน ลดแน่ๆครับ และเคล็ดลับคือเติมน้ำแก่ร่างกายทีละนิด จิบไปเรื่อยๆให้จบทริปถึงบ้านแบบน้ำหมดพอดี

.
.
การออกกำลังกายหนักๆ ยังช่วยให้เกิด Afterburn Effect อีกด้วย
แต่ทำบ่อยๆไม่ไหว ร่างกายมันจะพังซะก่อนครับ

สรุปแล้วถ้าเน้นเผาพลาญไขมัน/ลดน้ำหนัก จะ low หรือ high intensity ดีครับ

Low intensity และ นานๆ ครับ

ยังไงก็แนะนำให้ทำ weight training ด้วยนะครับ อย่า burn อย่างเดียว

ขอบคุณทุกท่านครับ เพิ่งรู้จักคำว่า interval อีก เหมือนเอา low high มาผสมกันเลย
เป็นเรื่องทีต้องศึกษาอีกเยอะจริงๆครับ

แบบhigh burnเยอะกว่าก็จริงครับแต่ร้อยทั้งร้อยหลังปั่นเส็ดกินยับเลยครับทำให้ทำไมยิ่งปั่นไวยิ่งอ้วนกับอีกกรณีปั่นเบาๆนานๆค่อยดึงไขมันมาใช้กลับบ้านกินปรกติผมว่าแบบหลังดีกว่านะครับเป็นการสร้างพื้นฐานการปั่นไปในตัวด้วยครับ

ผมว่าระดับสูงของเจ้าของกระทู้ที่ว่า 75% ของ Max HR ยังอยู่แค่กลางโซน 3 เองนะครับ ไม่ได้สูงอะไรเลย เหงื่อออกซึมๆเท่านั้น ผมอายุ 50 แล้ว คำนวนแล้ว. 127.5 เองแค่เริ่มต้นวอร์มด้วยซ้ำ