ท่องเที่ยวด้วยจักรยาน#16 ปั่นส่ง"ดอยอินท์ สองน่อง"เสร็จ .. ก็ปั่นมันไปเรื่อยๆก่อนแล้วกันนะ"เจ้านกขมิ้น" .. [4 - 17 ก.พ.]

[kobfujar]

โดยแท้จริงแล้ว..ผมปั่นขึ้นเนินเลยร้านค้านี้ไปแล้ว แต่ก็ไหลกลับลงมาเพื่อดูว่ามีอะไรกินบ้าง..
ปรากฏว่า มี"น้ำผึ้ง" ที่กินได้ นอกนั้นมี"กล้วยดิบ" "ไม้เกี๊ยะ"(เอาไว้เป็นเชื้อก่อเตาไฟ) และ พืชผักชิ้นโตๆที่ยังดิบๆ เลยได้แต่ขอเติมน้ำ(ประปาภูเขา)ที่พร่องไปเท่านั้น..

ถ้าผมผ่านอช.ถ้ำปลาตอนสาย ผมคงตัดสินใจไม่กินข้าว แล้วก็มาตายหยังเขียดด้วยความหิวช่วงเส้นทางนี้ ที่ไม่มีแม้แต่ขนมจะซื้อกิน..ดีที่มีขนมปังและอื่นๆเล็กน้อยติดรถเป็นประจำเสมอเลยพอช่วยให้ผ่านช่วงแห่งความแร้นแค้นของร้านค้าไปได้ด้วยดี ..

และ..ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่ไหลกลับลงมาที่นี่และเติมน้ำไปจนเต็มพิกัด 4 ขวด เพราะจากที่นี้ไป เส้นทางมีแต่ขึ้นๆๆๆๆอย่างเดียว ประกอบกับอากาศที่เริ่มร้อนมากขึ้นในช่วงบ่ายสองครึ่ง ไม่มีอารยธรรมใดๆตามติดไปแก้หิวแก้กระหายให้อีกแล้ว

[kobfujar]

15.47..เกือบจะบ่าย 4 โมงแล้ว..
เจ้านกขมิ้นตัวนี้ เริ่มคิดถึงที่พักนอนเย็นนี้ว่าจะได้นอนที่ไหนกันหนอหละเนี่ย..
เพราะหนทางยังคงมีแต่ขาขึ้นๆๆๆ..

[kobfujar]

พอบ่าย 4 โมงกว่าๆ..หนทางเริ่มสดใส อากาศเริ่มสบายขึ้นไม่ร้อนเหมือน 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา และเส้นทางเริ่มไหลลง .. แต่ลงแรงไม่ได้นะครับ ต้องคอบกำเบรคเกือบตลอดจนกลัวยางระเบิดเหมือนกัน เพราะทางราดยางมีชำรุดบ้างบางช่วง และ หากแรงมากเดี๋ยวหลุดเข้าไปชมทิวทัศน์ข้างทางได้ครับ

บ่าย 16.17 น.ผมมาหยุดถ่ายภาพโค้งนี้ พร้อมกับพักขอบล้อจากความร้อนไปด้วยครับ


แต่โอโฮ..ด้านหลังบริเวณที่ผมยืนถ่ายภาพ เป็นที่หวาดเสียวว่ามันจะตำทะลุรองเท้าหรือไม่..เพราะเต็มไปด้วยสารพัดเศษแก้วเศษขวดที่กองผสมอยู่กับดินเป็นภูเขาเลากาเลยทีเดียว..

[kobfujar]

วันนี้..หลังจากไหลลงจากเขามาได้ จึงแวะร้านค้าที่บ้านน้ำกัด เพื่อซื้อเสบียงสำหรับเย็นนี้ และ สอบถามเรื่องที่พักที่พอจะไปขออาศัยนอนได้ ก็ได้ข้อมูลให้ไปนอนที่บ้านห้วยส้าน เพราะจะไปให้ถึงปางมะผ้าต้องข้ามเขาชันไปอีกหนึ่งลูก ซึ่งในเวลาเช่นนี้ และ สภาพผมเช่นนี้คงไม่หวังขนาดนั้นครับ

จากบ้านน้ำกัดไปก็เป็นทางขึ้นๆลงๆเนินบ้าง แต่สภาพร่างกายเริ่มอยากพักผ่อนแล้ว
สายตาเริ่มมองหาที่พัก ตอนนี้ที่ไหนก็ได้ เพราะตอนนี้บ่าย 5 โมงกว่าแล้ว

การเดินทางมาจบลงที่หน่วยพิทักษ์ป่าเล็กๆริมทางซ้ายมือในเวลาที่อีกครึ่งชั่วโมงจะหกโมงเย็น


มาถึง..ไม่ทันได้กางเต๊นท์ ได้พักให้เหงื่อแห้ง
เจ้าหน้าที่ที่ผมเข้าไปขออนุญาติเพื่อพักแรมก็กำลังกินข้าวเย็นอยู่พอดี เลยได้รับผลจากกรรมดีเก่าๆที่อาจเคยทำไว้ ได้กินข้าวมื้อเย็นไปด้วยเลย มีน้ำพริกพื้นบ้านตำเองเป็นอาหารหลัก เคียงด้วยสารพัดผักที่แกปลูกเองมากมาย ไร้สารพิษโดยแท้..


ที่ี่นี่..แม้จะอยู่ติดทางหลวง แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ น่าแปลกมาก..ไม่เป็นไรนั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่

[kobfujar]

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556

พี่สมเพชร ทาสมา(ไม่แน่ใจว่าจำนามสกุลผิดหรือไม่)
ผู้เอื้ออารีในที่พัก และ อาหารมื้อเย็นเมื่อวานแก่เจ้านกขมิ้นตัวนี้..


เช้านี้..ยังต้มน้ำชงกาแฟให้กินอีก


โรงครัวด้านหลัง


สถานที่พักแรมเมื่อคืน..เย็นวานไม่มีโอกาสถ่ายภาพเพราะแสงน้อยแล้ว

[kobfujar]

เริ่มเดินทางได้ก็เลยเวลา 8.30 น.ไปแล้ว..วันนี้เริ่มปั่นก็ต้องงัดเนินกันเลย
กว่าจะมาถึงตรงจุดชมวิวของยอดเขานี้ เวลาก็ล่วงเลยไป 10 นาฬิกากว่าแล้ว..
จึงตัดสินใจนั่งเล่นดูคนที่นั่งรถตู้มาเที่ยวกันเป็นคณะใหญ่เกือบสิบคัน ก็ล้งเล้งกันน่าดู และ ซื้อมันเผามานั่งกินเล่นไป


เดินสำรวจไปมาไปเจอะข้าวชั้นดีเข้า ไม่ได้ซื้อมาลองเพราะที่มีอยู่ก็มีพอเพียงแล้ว


บนจุดชมวิวนี้(ไม่รู้มีชื่อหรือเปล่า)..มีห้องน้ำนะ แต่ไม่มีน้ำ
ไอ้เราก็หลงไปเชื่อป้ายของทางหลวงที่มีเป็นระยะๆช่วงปั่นขึ้นมา ว่า มีห้องน้ำสะอาดที่จุดชมวิวตรงนี้..
แถมจะมีคนพื้นเมืองจะมาเก็บค่าเข้าห้องน้ำอีก..เลยยิ่งเป็นงง

[kobfujar]

นั่งเล่นไปกว่าชม.จึงไหลรถลงเขาเพื่อไปหาข้าวกลางวันกินที่อ.ปางมะผ้า


ทิวทัศน์ก่อนถึงทางราบครับ..เห็นไกลๆรู้สึกจะเป็นแปลงทดลองปลูกข้าวครับ

[kobfujar]

หลังจากได้เติมพลังไปแล้ว พร้อมเสบียงกินเล่นอีกนิดหน่อย พร้อมสอบถามเรื่องเส้นทางไปอ.ปายเพื่อมาประเมินกับเวลาที่เหลือของวันนี้ เพราะดูท่าทางจะไปไม่ถึงอ.ปายแน่เลย .. อย่างมากผมก็ให้ได้แค่"ดอยกิ่วลม" เพราะคงจะมืดที่นั่นและผมคงไม่ไหลรถฝ่าความมืดลงเขาเพื่อเข้าอ.ปายแน่นอน

ก็ไปดูเอาข้างหน้าครับว่าถึงที่ไหน..ก็ที่นั่น
ปั่นออกไปได้หน่อยเดียวก็ไปแวะเข้าห้องน้ำหน้าถ้ำผีแมน สมองเริ่มคิดว่าขอนอนที่นี่ดีไม๊ พรุ่งนี้ค่อยไปต่อ

[kobfujar]

ผ่านมาถึง"ถ้ำผามอน" สภาพดูร่มรื่น(น่าพักแรมเป็นอย่างนิ่ง)


ถายในถ้ำมีลำธารไหลผ่าน มีปลาเล็กๆมากมาย




ใกล้ๆกันก็เป็นด่าน..ไม่แน่ใจว่าด่านป่าไม้ หรือ สกัดยาเสพติด ซึ่งดูแล้วก็น่าจะขอนอนได้
แต่ตอนนี้เพิ่งบ่าย 3 โมง..ผมคิดว่ายังมีเวลาตัดสินใจ เพราะมี "บ้านน้ำริน" เป็นบ้านสุดท้ายในทางข้างหน้า ก่อนขึ้น"ดอยกิ่วลม"

[kobfujar]

วันนี้..การเดินทางจบไวหน่อยครับ เมื่อราว 16 นาฬิกา


เพราะผมประเมินเส้นทางขึ้นดอยกิ่วลมที่เหลืออีกราวเกือบ 10 กม.แล้ว คาดว่า..มืดแล้วก็อาจไม่ถึง และ/หรือ ถึง..ผมก็ไม่แน่ใจในเรื่องสถานที่พักนอน .. เหตุการณ์การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อผมปั่นเลยหน่วยงานป่าไม้หน่วยนี้ขึ้นเขาไปแล้วประมาณ 500 เมตร..จึงตัดสินใจไหลกลับลงมาเพื่อขอพักแรมที่นี่


ที่พักหรูหราพอสมควรครับ..เจ้านกขมิ้นได้พื้นที่หน้าสำนักงานเป็นแหล่งพักพิงคืนนี้

[kobfujar]

หลังจากอาบน้ำ ซักผ้าเรียบร้อย ก็เดินออกไปสำรวจสถานที่รอบๆหน่วยฯ


ผมสังเกตมาหลายหน่วยงานป่าไม้แล้ว ดูเหมือนจะมีการส่งเสริมให้เล่นกีฬากันมาก โดยเฉพาะ"เปตอง"


เดินลงไปทักทายเจ้าหน้าที่ ตามธรรมเนียมครับ..โดนชวนให้เล่น ไม่กล้าเล่นเพราะเห็นเขาเล่นเก่งๆกันทั้งนั้น อีกอย่างไม่อยากไปขัดความสนุกของเขา


แถม..ได้ภาพสาวน้อยมาประดับทริป
/ขนาดหน้าตา หนวดเครารุงรังนะเนี่ย..ไปขอถ่ายภาพ เด็กพยักหน้าอนุญาติทันที/

[kobfujar]

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556

เช่นเคย 8.30 น.คือเวลาออกเดินทางของเช้าวันนี้
คำนวณระยะทางคร่าวๆ วันนี้ผมต้องปั่นราว 40 กม.กว่าโล คือ ขึ้นไป"ดอยกิ่วลม"ประมาณ 10 กว่ากม.+ไหลลงไปอ.ปายอีกราวเกือบ 20 กว่ากม.+ไปบ่อน้ำร้านท่าปายอีกราว 10 กว่ากม. .. ประเมินแล้วถึงก่อนค่ำแน่นอน..อาจบ่ายอ่อนๆก็คงถึง

ออกงัดเนินขึ้นเขามาได้ไม่ไกลก็ถึง"บ้านน้ำริน"ซึ่งต่อไป จะไม่มีหมู่บ้านจนกว่าจะขึ้นไปถึง"ดอยกิ่วลม"


9 โมงกว่าอากาศที่สดชื่นเริ่มระอุขึ้นมาจากการออกแรงงัดเนิน


มีจุดให้แวะพักเหนื่อย ชมทิวทัศน์ที่เปิดโล่งไปเกือบตลอดทาง


10 นาฬิกา..ปายอยู่อีกไม่ไกลแล้ว แต่ยังเหลือเนินให้งัดขึ้นไปอีกเยอะ


10.30 น.แวะพักถ่ายภาพไปด้วย เติมพลังงานจากขนมชนิดต่างๆที่ติดรถมา

[kobfujar]

ก่อน 11.30 น.เล็กน้อย..ถึง"ดอยกิ่วลม"แล้ว ทางที่เหลือไม่เท่าไหร่แล้วหละ

[kobfujar]

ตอนแรก..ผมกะจะหาข้าวกินบนนี้
แต่ที่ไหนได้กลับไม่มีอะไรให้กินนอกจาก น้ำดื่ม และ ขนมอีกนิดหน่อย
จึงตัดสินใจไหลลงไปหาอะไรหนักๆกระเพาะกินที่อ.ปายดีกว่า
อีกอย่าง..ไม่ชอบหน้าคนขายที่ขายของขูดรีดราคา คือ มีฝรั่งมาถามหาน้ำมันเบนซิน คนขายบอกราคาขวดละ 100 บาท

ช่วงไหลลงมาทางก็ดูสวยงามไม่แพ้ช่วงขึ้นเลยทีเดียว


ได้กินข้าวกลางวันเป็น "ข้าวเหนียวส้มตำและไก่ย่าง" ที่ร้านหน้าแขวงการทางปาย ตรงสามแยกนอกเมืองก่อนเข้าอ.ปาย ..
จริงแล้วผมต้องการแวะไปขอแผนที่ทางหลวงด้วยเพราะผมไปทำหล่นหายที่ไหนจำไม่ได้แล้ว แต่แม่ค้าซึ่งแฟนทำงานที่แขวงบอกว่า แผนที่หมด
จึงสอบถามทางเพราะเห็นมีทางแยก 2 ทาง..จึงรู้ว่าเป็นทางเข้าเมือง กับ ทางเลี่ยงเมือง
เสร็จจากชำระค่าเสียหายข้าวเหนียวส้มตำไปแล้ว จึงตัดสินใจปั่นเข้าเมืองในทางปกติ

[kobfujar]

ความมุ่งหมายหลักของผมที่ปั่นผ่านเมืองมี 3 อย่างเท่านั้น คือ
1.เพื่อดูสภาพความเป็นไปในเมืองปายว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร
2.เพื่อหาซื้อเสบียงเพิ่มเติม จึงได้ภาพพระพุทธรูปองค์นี้มาองค์เดียว .. และ
3.เผื่อฟลุ๊ก..จะมีแหล่งที่ปั่นผ่านไปจะได้แผนที่มาสักแผ่นหนึ่งโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหามากมาย
เพราะเป้าหมายหลักของผมอยู่ที่ สะพานท่าปาย และ บ่อน้ำร้อนท่าปาย ซึ่งต้องไปอีกราว 10 กว่ากม.
ขณะนี้เวลาบ่าย 2 โมงแล้ว