Re: ซำเหนือ ชื่อนี้อยากไปหาดินแดนแห่งขุนเขา
โพสต์: 25 มิ.ย. 2019, 23:51
วันที่ 16 มกราคม 2562
ปั่นจากหนองเขียว - เวียงทอง ระยะทาง 56 กม.
ปั่นเข้าเมืองเวียงทองมาจนถึงตลาดเย็นกันแล้ว ข้างหน้าตรงไปเป็นทางที่เด่นเคยปั่นออกมาจากเมืองโพนไซ เด่นบอกว่าโหดใช่เล่น เลี้ยวซ้ายไปซำเหนือ ข้ามสะพานไปต่อวันพรุ่งนี้
ทางเข้าตลาดมองเห็นผู้คนมากมาย จอดรถกันบริเวณหน้าตลาด มีผัก ผลไม้ วางขายกัน เดินเข้าไปด้านในอาคาร มองหาไข่ไก่ ต้นหอม กระเทียม เพื่อนำมาทำไข่เจียวทานกันเองมื้อเย็นนี้ ผักกาดหอม
ยังไม่ได้ปั่นหาที่พัก แต่เด่นบอกว่าผ่านมาก็สาม สี่แห่ง ปั่นย้อนกลับไปใหม่อีกรอบ แต่มองเล็งไว้ที่ยอดเนินก่อนเข้าเมืองเวียงทอง อีกทีน่าจะเป็นริมถนน เป็นเฮือนพักสร้างใหม่ แต่ห้องเหลือเพียงห้องเดียว
เรื่องที่พักให้เด่นจัดการได้ดีกว่าผม และคนอื่นๆ และเคยผ่านเมืองเวียงทองมาก่อน จึงรู้ว่าจุดไหนน่าพัก และทำเลดี ปั่นตามเด่นกันมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เลี้ยวเข้าไปหักขึ้นเนินชัน แม้สั้นๆ แต่ไม่เบาเลยกว่าจะถึงหน้าเฮือนพัก ผมงี้ร้องขอชีวิตเลย
เวลาเจอที่พัก ผมได้สุขใจ เหมือนได้เวลาพักผ่อนกับเวลาที่เหลืออยู่ในการจัดการเรื่องทำอาหารกัน มองเห็นม้านั่งพอดีคนที่จะนั่งล้อมวง และวางอุปกรณ์เตาแก๊สได้อย่างดี
เจ้าของเฮือนพักยังไม่มาต้อนรับ แต่เราจัดเตรียมถอดกระเป๋าเตรียมไว้รอเลย ลักษณะเป็นตึกสองชั้นมีระเบียง ดูแล้วโอเครเลย เงียบไกลจากถนนใหญ่ และมีหมู่บ้านด้านหลังลงไปยังลำห้วยซ่วงที่อยู่ไม่ไกล
ตกลงกันว่าใครจะนอนกับใคร ห้องมีสองห้อง ต้องนอนเต็นท์หนึ่งคนแยกกัน ซึ่งพี่แม๊คจะอาสาขอนอนเต็นท์ก่อนคนแรก และยินดีหารเท่ากันในการจ่ายห้องพัก สรุปว่าพี่หนึ่งขอกางเต็นท์นอนเป็นเพื่อน พี่จุกเลยได้นอนคนเดียวสบายๆ
ผมกับเด่นนอนเป็นบัดดี้กันตลอด แทบจะครองรักกันก็มิปาน พูดง่ายๆ ว่าคุยกันรู้เรื่อง ตอนนี้จัดการเรื่องสัมภาระเข้าห้องพักกันก่อน ยังไม่อาบน้ำ และมาเตรียมหุงข้าว ทำอาหารมื้อเย็นกัน
พี่จุกอาสาหุงข้าว และผัดผักแสนอร่อยให้ ส่วนพี่แม๊ค พี่หนึ่ง และผม ก็จัดการเรื่องเจียวไข่ ใส่สารพัด เรียกกว่าเชฟกระทะเหล็ก โชว์ฝีมือสุดชีวิต มื้อนี้แสนอร่อย
เด่นอาสาซื้อเบียร์ และหมูปิ้งย่างที่เป็นอาหารแกล้มเบียร์ที่ขาดไม่ได้ และเด่นเจอปัญหาเรื่องรองเท้าคลีตพัง ขาดตัวยึดหลุดออกมา และบันไดก็ไม่มีเปลี่ยน ทำอย่างเดียวคือซ่อมร้องเท้าคลีตให้ได้ ไม่งั้นไม่ได้ไปต่อ ตระเวนหาร้านร้องเท้าก็ยากยิ่ง แต่ก็ให้วิธีหาน๊อตมายึดไว้ก่อน
เกือบทุ่มกว่าๆ พร้อมรับประทานอาหารมื้อเย็นกันแล้ว พวกเราสรวลเสเฮฮากันเต็มเหนี่ยว พูดคุยกันอย่างออกรสแทบจะทุกมื้อเย็นๆ หลังจากปั่นมาทั้งวัน ได้ปลดปล่อยสิ่งต่างๆ
เบียร์ ลูกชิ้น หมูย่าง และไข่เจียว น่าจะมีมาม่าต้มยำด้วยนะ คุยกันยาวจนเกือบเที่ยงคืน วันหลังน่าจะอัดเทปว่าคุยอะไรกันนักนะ และผมก็จอดเรื่องเบียร์ แม้ว่าไม่ต่ำกว่า 5 ขวด ก็ไม่ถึงกับเมาอะไร แต่มึนๆ และไม่ไหวขอลาไปนอนก่อน ส่วนคนอื่นๆ นั่งคุยกันต่อนะ
ที่พักมีที่ชาร์ทไฟ ผมก็เสียบมันทุกอย่างที่มีรูให้เสียบ ก็เต็มที่ใช้สรุปทริปไปในตัว แต่ก็ไม่ไหว โพสต์ได้ไม่เกิน 4-5 รูปก็หลับสนิท แล้วตื่นนอนอีกทีก็ราวๆ ตีสี่ ตีห้า มานั่งสรุปทริปต่อ
วันใหม่มาแล้ว ตื่นขึ้นมาแสงตะวันก็เรียกว่าสายแล้วล่ะ ยังไม่จัดของกัน ออกไปหาพี่แม๊คเตรียมชงกาแฟไว้รอเหมือนเดิม ได้นั่งคุยกันเรื่อยๆ เปิดแผนที่เส้นทางให้ดูว่าวันนี้กี่หลัก (กม.) และจะพักกันที่ไหน พี่หนึ่งก็ตื่นนอนมานั่งคุยด้วยกัน ติดใจกับการออกทริปมากๆ แรงดีซะด้วย น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์จริงๆ
ทานกาแฟ ขนมปังกันรองท้อง มื้อหนักตอนเช้าออกไปหาอะไรทานที่ตลาด และกว่าจะได้เวลาเตรียมตัวก็เกือบ9 โมง และผมก็บอกเพื่อนๆ ว่าขาเจ็บมาก เดินแทบไม่ได้ ขอหายากินก่อน เลยต้องตระเวนหาร้านขายยา กว่าจะออกจากที่พัก ไปตลาดได้ก็เกือบ 10 โมงแล้ว ตุนน้ำ และนมแลตตาซอย ผมจะยอมแบกของกินไว้เผื่อตลอด แม้ต้องขึ้นเขายาวๆ วันนี้
เข้าไปตลาดทานเฝ๋อ ส่วนคนอื่นๆ พร้อมกันแล้ว เหมือนโดนกดดัน มองหาซื้อเสบียงเป็นเนื้อย่างพร้อมข้าวเหนียว และผมก็มองหาคุ๊กกี้จีนได้สำเร็จ เหมาหมดร้านเลยครับ
การเดินทางเริ่มชีวิตขาขึ้นกันแล้ว
เอส-เมอร์ริด้า
ปั่นจากหนองเขียว - เวียงทอง ระยะทาง 56 กม.
ปั่นเข้าเมืองเวียงทองมาจนถึงตลาดเย็นกันแล้ว ข้างหน้าตรงไปเป็นทางที่เด่นเคยปั่นออกมาจากเมืองโพนไซ เด่นบอกว่าโหดใช่เล่น เลี้ยวซ้ายไปซำเหนือ ข้ามสะพานไปต่อวันพรุ่งนี้
ทางเข้าตลาดมองเห็นผู้คนมากมาย จอดรถกันบริเวณหน้าตลาด มีผัก ผลไม้ วางขายกัน เดินเข้าไปด้านในอาคาร มองหาไข่ไก่ ต้นหอม กระเทียม เพื่อนำมาทำไข่เจียวทานกันเองมื้อเย็นนี้ ผักกาดหอม
ยังไม่ได้ปั่นหาที่พัก แต่เด่นบอกว่าผ่านมาก็สาม สี่แห่ง ปั่นย้อนกลับไปใหม่อีกรอบ แต่มองเล็งไว้ที่ยอดเนินก่อนเข้าเมืองเวียงทอง อีกทีน่าจะเป็นริมถนน เป็นเฮือนพักสร้างใหม่ แต่ห้องเหลือเพียงห้องเดียว
เรื่องที่พักให้เด่นจัดการได้ดีกว่าผม และคนอื่นๆ และเคยผ่านเมืองเวียงทองมาก่อน จึงรู้ว่าจุดไหนน่าพัก และทำเลดี ปั่นตามเด่นกันมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เลี้ยวเข้าไปหักขึ้นเนินชัน แม้สั้นๆ แต่ไม่เบาเลยกว่าจะถึงหน้าเฮือนพัก ผมงี้ร้องขอชีวิตเลย
เวลาเจอที่พัก ผมได้สุขใจ เหมือนได้เวลาพักผ่อนกับเวลาที่เหลืออยู่ในการจัดการเรื่องทำอาหารกัน มองเห็นม้านั่งพอดีคนที่จะนั่งล้อมวง และวางอุปกรณ์เตาแก๊สได้อย่างดี
เจ้าของเฮือนพักยังไม่มาต้อนรับ แต่เราจัดเตรียมถอดกระเป๋าเตรียมไว้รอเลย ลักษณะเป็นตึกสองชั้นมีระเบียง ดูแล้วโอเครเลย เงียบไกลจากถนนใหญ่ และมีหมู่บ้านด้านหลังลงไปยังลำห้วยซ่วงที่อยู่ไม่ไกล
ตกลงกันว่าใครจะนอนกับใคร ห้องมีสองห้อง ต้องนอนเต็นท์หนึ่งคนแยกกัน ซึ่งพี่แม๊คจะอาสาขอนอนเต็นท์ก่อนคนแรก และยินดีหารเท่ากันในการจ่ายห้องพัก สรุปว่าพี่หนึ่งขอกางเต็นท์นอนเป็นเพื่อน พี่จุกเลยได้นอนคนเดียวสบายๆ
ผมกับเด่นนอนเป็นบัดดี้กันตลอด แทบจะครองรักกันก็มิปาน พูดง่ายๆ ว่าคุยกันรู้เรื่อง ตอนนี้จัดการเรื่องสัมภาระเข้าห้องพักกันก่อน ยังไม่อาบน้ำ และมาเตรียมหุงข้าว ทำอาหารมื้อเย็นกัน
พี่จุกอาสาหุงข้าว และผัดผักแสนอร่อยให้ ส่วนพี่แม๊ค พี่หนึ่ง และผม ก็จัดการเรื่องเจียวไข่ ใส่สารพัด เรียกกว่าเชฟกระทะเหล็ก โชว์ฝีมือสุดชีวิต มื้อนี้แสนอร่อย
เด่นอาสาซื้อเบียร์ และหมูปิ้งย่างที่เป็นอาหารแกล้มเบียร์ที่ขาดไม่ได้ และเด่นเจอปัญหาเรื่องรองเท้าคลีตพัง ขาดตัวยึดหลุดออกมา และบันไดก็ไม่มีเปลี่ยน ทำอย่างเดียวคือซ่อมร้องเท้าคลีตให้ได้ ไม่งั้นไม่ได้ไปต่อ ตระเวนหาร้านร้องเท้าก็ยากยิ่ง แต่ก็ให้วิธีหาน๊อตมายึดไว้ก่อน
เกือบทุ่มกว่าๆ พร้อมรับประทานอาหารมื้อเย็นกันแล้ว พวกเราสรวลเสเฮฮากันเต็มเหนี่ยว พูดคุยกันอย่างออกรสแทบจะทุกมื้อเย็นๆ หลังจากปั่นมาทั้งวัน ได้ปลดปล่อยสิ่งต่างๆ
เบียร์ ลูกชิ้น หมูย่าง และไข่เจียว น่าจะมีมาม่าต้มยำด้วยนะ คุยกันยาวจนเกือบเที่ยงคืน วันหลังน่าจะอัดเทปว่าคุยอะไรกันนักนะ และผมก็จอดเรื่องเบียร์ แม้ว่าไม่ต่ำกว่า 5 ขวด ก็ไม่ถึงกับเมาอะไร แต่มึนๆ และไม่ไหวขอลาไปนอนก่อน ส่วนคนอื่นๆ นั่งคุยกันต่อนะ
ที่พักมีที่ชาร์ทไฟ ผมก็เสียบมันทุกอย่างที่มีรูให้เสียบ ก็เต็มที่ใช้สรุปทริปไปในตัว แต่ก็ไม่ไหว โพสต์ได้ไม่เกิน 4-5 รูปก็หลับสนิท แล้วตื่นนอนอีกทีก็ราวๆ ตีสี่ ตีห้า มานั่งสรุปทริปต่อ
วันใหม่มาแล้ว ตื่นขึ้นมาแสงตะวันก็เรียกว่าสายแล้วล่ะ ยังไม่จัดของกัน ออกไปหาพี่แม๊คเตรียมชงกาแฟไว้รอเหมือนเดิม ได้นั่งคุยกันเรื่อยๆ เปิดแผนที่เส้นทางให้ดูว่าวันนี้กี่หลัก (กม.) และจะพักกันที่ไหน พี่หนึ่งก็ตื่นนอนมานั่งคุยด้วยกัน ติดใจกับการออกทริปมากๆ แรงดีซะด้วย น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์จริงๆ
ทานกาแฟ ขนมปังกันรองท้อง มื้อหนักตอนเช้าออกไปหาอะไรทานที่ตลาด และกว่าจะได้เวลาเตรียมตัวก็เกือบ9 โมง และผมก็บอกเพื่อนๆ ว่าขาเจ็บมาก เดินแทบไม่ได้ ขอหายากินก่อน เลยต้องตระเวนหาร้านขายยา กว่าจะออกจากที่พัก ไปตลาดได้ก็เกือบ 10 โมงแล้ว ตุนน้ำ และนมแลตตาซอย ผมจะยอมแบกของกินไว้เผื่อตลอด แม้ต้องขึ้นเขายาวๆ วันนี้
เข้าไปตลาดทานเฝ๋อ ส่วนคนอื่นๆ พร้อมกันแล้ว เหมือนโดนกดดัน มองหาซื้อเสบียงเป็นเนื้อย่างพร้อมข้าวเหนียว และผมก็มองหาคุ๊กกี้จีนได้สำเร็จ เหมาหมดร้านเลยครับ
การเดินทางเริ่มชีวิตขาขึ้นกันแล้ว
เอส-เมอร์ริด้า