ThaiMTB.com

วันหนึ่งก่อนไปออกรอบวันอาทิตย์ มีหมอบคันหนึ่งมาพักกินน้ำเลยชวนกันไปอยุธยา ได้รู้จักกันในชื่อเสือโอ ผู้ชอบอัพรถเป็นชีวิตจิตใจ และยังเป็นเพื่อนที่แสนดีอีกด้วย หลังจากวันนั้นเกือบทุกอาทิตย์ก้อจะเจอกันเป็นกิจวัตรไปแล้ว

อาทิตย์นี้ไปเที่ยวสวนจตุจักร วนไปทางเตาปูน สะพานพระรามเจ็ด นนทบุรี วนมา วัดชลประทานกลับติวานนท์ เข้าคลองเปรม นานๆจะเข้าเมืองให้เสียวเล่นซักทีก้อ มันส์ดีเหมือนกันครับ

ครั้งนี้ออกทริปแรกโดยการชักชวนของพี่หมอ(ซึ่งก้อเจอกันครั้งแรกและก้อเป็นพี่ชายที่แสนดีอีกคนหนึ่ง) ไปกับเลคไบค์ ไปตลาดน้ำลำพระยา เป็นการเปิดหูเปิดตา ซึ่งคงมีเพื่อนๆในนี้ไปกันหลายคน เพราะรถมากจริงๆ สนุกกันมากแต่ขากลับเรากลับกันก่อนออกมาทางบางเลนมาเข้าลาดหลุมแก้ว ทางไม่ดีเลย

ขากลับมีน้องที่ลำลูกกากลับมาด้วย ขอโทษครับที่จำชื่อไม่ได้ แต่วันหน้าถ้าเจอทักกันบ้างนะครับ ขากลับทางแย่มากแต่เรารีบก้อเลยกลับกันก่อน ไว้วันหน้าจะไปร่วมทริปอีกนะครับ

งานคาร์ฟรีเดย์ ปทุมธานี ปีนี้ไปเจอกันอีกนะครับ ได้เสื้อสวยๆ ปั่นมันส์ๆ

ต่อ..ต่อ...

ต้นสัปดาห์ของอาทิตย์ที่17 กลุ่มรวมมิตรชวนไปวัดม่วง อ่างทอง ลงชวนๆกันไปในเนต กลุ่มรามอินทราก้อเลยไปจัดหนักด้วย กระแส แรง เค้าว่าจะไปกันราวๆ40+ พี่หมอเลยชวนไปเพื่อเป็นการลองของ พวกเราก้อตกลง กลัวซะที่ไหน หัวหินก้อไปมาแล้ว วัดใจก้อหลายที่ผ่านทุกที่ เจ็ดคต นครนายก แค่100กว่าๆแค่นี้ จิ๊บๆ ก้อไม่ได้เตรียมอะไรมากมาย เพียงแต่คอยอ่านข่าว และเส้นทางการเดินทาง และแล้ววันแห่งการลองของก้อเริ่มขึ้น โดยโอและพี่หมอ เริ่มสตาร์ทมาพร้อมกลุ่มรามอินทราใกล้ เวิร์คพ้อย ที่เหลือรอหน้า อบต.บ้านปทุม พอมาหน้าอบต. ก้อปั่นสุดตัว ความเร็ว45-46 กว่าจะทันท้ายแถว ประมา2กม. กว่าจะทัน แต่ชุดแรก 7-8 คัน แรงมากจริงๆได้ปั่นเลยไปก่อน พวกเราตามไปกัยกลุ่มที่2 แต่แล้ว

แต่แล้ว ขาแรงของกลุ่ม เกาะแถวไม่ติด ทางกลุ่มเลยต้องปล่อยลงมาเพื่อไปพร้อมกัน แล้วไปทันกับกลุ่มหน้าที่ปั้ม ตราดาว แยกวรเชษ พักพอกินน้ำหมดก้อเดินทางต่อ คราวนี้เกาะไปแบบติดๆ 40+ จริงๆแฮะ เนื่องจากข้าวเช้าไม่กินไป ดีแต่เอาขนมปังใส่หลังไป 3-4 อัน เลยได้ใช้ แต่ตามได้สักพัก โอตะโกนมา เสือธนหลุดอีก เอ๊วันนี้ขาแรง ไม่แผลงฤทธิเลย เกิดไรขึ้น ถามไถ่ได้ความว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยไม่ค่อยมีแรง แต่ก้อประคองกันมาจนถึง แต่ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ปั่นแบบกระชากมาตลอดทาง เพราะคิดว่าไม่ไกล ไป77 กลับ 77 จากบ้านผมนะ คงไหวแบบสบายๆแต่การณ์กลับไม่เป็นอย่างนั้น

เพราะ ขากลับ ต้านลมและร้อนมาก ตับแลบเลยหล่ะ และพวกเราก้อพยายาม สปีดให้ทันกลุ่มรามอินทรา ซึ่งเห็นหลังกันแวบๆ ก้อเลยใส่ใหญ่เลย พอมาแซงกลุ่มรามอินทราได้ ก้อแวะร้านค้า กินน้ำกัน ตอนนี้แหละ กลุ่มรามอินทราได้ไปต่อ แต่พวกเรา ไปไม่ไหวเริ่มล้า เลยพักต่ออีก ครู่ใหญ่จึงออกเดินทางต่อ ตอนนี้แหละที่ผมเริ่มรู้สึกถึงตะคริว ก้อกัดฟันมาโดยการฟรีขามาตลอดทาง แต่พี่หมอไม่หมดเป็นหัวลากมาตลอด โชคดีที่เจอรถยางรั่ว เลยจอดช่วยกันปะยาง เลยได้พักจนดีขึ้นมาก เมื่อออกเดินทางอีกครั้งก้อดีขึ้น ปั่นยาวๆมาถึงแยกวรเชษฐ์ เลย

ถึงแยกวรเชษฐ์ เห็นหลังกลุ่มรามอินทราพึ่งออกจากปั้มบางจากพอดี แต่พวกเราต้องเติมน้ำมันในปั้มบางจากก่อน 555 แวะกินน้ำกันน่ะ ก้อเจอชาวจั๊กอีก 8คัน สมัครใจจะมาพร้อมกัน จากการขานชื่อนับได้13คัน ก้อออกจากปั้มโดยตกลงว่าหัวลากจะลากไม่เกิน25 เพราะป้อแป้ กันพอสมควร แต่แล้ว หัวลากลาก ปประมาณ28 แล้วพี่หมอของเราก้อขึ้นไปลากต่อ ถึง30 ผมเกาะท้ายพี่หมอจนเกือบถึงเกาะเกิด ก้อหมด ต้องลงมาปั่นเดี่ยว จนถึงเกาะเกิด เพราะกลุ่มหลังทิ้งห่างมาก ถึงเกาะเกิดพวกเราก้อเหลือ 5 คันเท่าเดิม เพราะกลุ่มอื่น ออกไปก่อนมั่ง หลังมั่ง เรียกว่าแยกย้ายกันไป กว่าจะเข้าคลองเปรม กว่าจะถึงบ้าน เรียกว่า สาหัส สากัน จริงๆ แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ ในทริปนี้ และต้องขอชื่นชม กับกลุ่มรวมมิตร และกลุ่มรามอินทราด้วย ที่ขี่ได้เร็วและอดทน สักวันทีมเราคงไปถึงจุดนั้นบ้าง ไว้วันหลังเขาไปจัดหนักกันก้อจะขอตามไปอีกนะครับ

ขออนุญาติลงไปปั่นที่นครศรีหน่อยนะครับ กะว่าจะปั่นจากอ. ท่าศาลา นครศรีธรรมราช ไป ตรัง แล้ว ออก พัทลุง ทางเขาพับผ้า หรือ ไป ทางสตูล เพื่อไป สงขลา ดี ขากลับ คงกลับ ทาง สงขลา ปากพนัง นครศรี ไม่รู้จะได้แค่ไหน เป็นกำลังใจกันนะครับ ส่วน อีกกลุ่ม ทางบ้านปทุม ไป ปั่น ทริป เบียงชี่ ที่ ราชรีครับ ไว้จะเก็บภาพมาฝากกันนะครับ

วันนึงเกิดร้อนวิชา ว่าเสือภูเขาต้องอยู่บนเขาบ้างสิ เลยลองหาทางดู ต้องให้เครดิตเวป เลิฟไบค์ ที่มีทางดีๆให้เลือกลอง เราได้ข้อสรุปที่ เขาสามหลั่นครับ เพราะดูระยะทางไม่ไกล ประมาณ 40 โล เหมาะกับ ขาใหม่อย่างพวกเรา ตกลง เมื่อวันอาทิตย์มาถึงก้อออกเดินทาง โดยฟอร์ดแดง ออก 7 โมงเช้า ไม่นานนักก้อถึง แหมกลิ่นป่าช่างประทับใจจริงๆ ทางขี่ขึ้นเขา ถ้าเพื่อนๆไปกันก้อ ขึ้นหลัง ประชาสัมพันธ์ หรือจุดบริการท่องเที่ยว ตรงป้ายน้ำตกน่ะครับ ขึ้นไปแล้วจะเป็นทางชันขึ้นเรื่อยๆ

ตอนพวกเราไป เป็นเดือนตุลาคม เป็นปลายฝนต้นหนาว ทำให้มีน้ำขังบ้าง แต่ไม่มากครับ อากาศบนเขาดีมาก ขี่ไปแล้วจะเจอทางแยกที่ป้าย ถ้าไปทางขวาจะวนกลับมาที่ หน้าสนง. ไม่กี่โลถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 4-5โล ถ้าไปทางซ้ายจะเป็นทางวิบากมาก ไปลงอีกด้านของเขา แล้วขี่อ้อมเขากลับมา ประมาณ สี่สิบโลครับ ตอนไปมีต้นไม้ล้มขวางทางหลายต้น มีแอ่งน้ำ มีทางน้ำผ่านคล้ายฝายน้ำล้น เพลินตาเพลินใจมากครับ แต่ควรไปอย่างน้อย สัก สามคัน เพราะพอเข้าป่าแล้วมันวังเวงดีเหมือนกัน 555

เลี้ยวทางซ้าย จะผ่านป่าไผ่ ทางจะเป็นทางชัน มากกกก พวกเราเข็นซะมาก แต่ถ้าขี่ดีมีประสบการณ์ คงขี่ได้ตลอด

ลงมาอีกฝั่งแล้วขี่ไปตามทาง ถามทางเค้าไปเรื่อยๆ เส้นทางก้อน่าขี่ดี เป็นทางลาดยางสลับลูกรัง