โพสต์
โดย lucifer »
ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ข้อตกลงระหว่างปณ.กับผู้รับบริการในเรื่องของความเสียหายของพัสดุ จะถือหรือเข่าข่าย พรบ.สัญญาที่ไม่เป็นธรรม ปีพศ.2540 หรือเปล่า?
( คำยินยอมในการให้การรักษา เขายังจัดอยู่ในสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเลย ดังนั้นหากรักษาแล้วมีผลแทรกซ้อนอันพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เกิดจากตัวโรคเอง แต่เกิดจากความประมาทของผู้ประกอบวิชาชีพ คำยินยอมดังกล่าวก็ไม่คุ้มครอง ผู้เสียหายสามารถฟ้องเอาฐานละเมิดได้เช่นกัน )
ตรงนี้ถ้าสมาชิกท่านใดเป็นทนายความ หรือ ทรงภูมิด้านกฏหมาย ผมก็อยากจะให้ลองพิจารณาดูด้วย
เพราะเดิมทีนั้น ปณ.เคยเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระไปแล้ว กลายเป็น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ดังนั้นความรับผิดต่อความแพ่งจึงน่าจะต้องเป็นไปตามพรบ.สัญญาที่ไม่เป็นธรรม
การส่งของมีค่าไปทางปณ. ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่"เสี่ยง"มาก ถ้าเป็นของมีมูลค่าสูง แนะนำให้ส่งเป็นปณ.ด่วนพิเศษ+ประกัน โดยเขาจะมีวงเงินสำหรับประกันเอาไว้ให้เลือก ซึ่งผมเคยส่ง iPod ไปให้น้อง ก็ยังต้องยอมซื้อประกันเพิ่ม
เวลาผมขายของไปให้เพื่อนๆ แล้วส่งทางปณ. ผมจะแพคกล่องไว้อย่างแน่นหนา ใช้กระดาษลังอย่างหนา ซีลขอบด้วยกาวแท่ง เอาเป็นว่ามือแกะไม่ได้ ต้องใช้มีดกรีดเท่านั้น แพคของเผื่อพื้นที่และซับแรงในกรณีที่ถูกโยนเสมอ ยอมเสียค่าส่งแพงขึ้นเพราะหนักขึ้น ดีกว่ามีปัญหากับคนที่ซื้อของของเราไป ( แต่ถ้าหล่น แล้วโดนรถทับแบบนี้ อะไรก็คงไม่รอด ยกเว้นใส่ลังไม้ )
ผมเคยมีปัญหากับบริษัทเครื่องมือแพทย์ ที่ดันส่งอุปกรณ์ราคาหลักแสน แพคมาแบบ"ห่วยๆ" ส่งมาให้ทางปณ. พัสดุมาถึงแผนกผมในสภาพ"เยิน" เพราะผมทราบมานานแล้วว่า ปณ.ทุกๆประเทศ ( ไม่เว้นแม้แต่ USA ) เขาโยนกันทั้งสิ้น ยิ่งของหนักนี่ บางทีเขาโยนกัน เพราะคนงานก็คือผู้ใช้แรงงาน ( ต้องเข้่าใจว่า ถ้าเขามีปัญญามากกว่านี้ เขาก็คงจะเลือกไม่มาใช้แรงงานแลกเงินหรอก ) เมื่อแกะดูก็พบว่า อุปกรณ์นั้น"ชำรุด" ก็เลยต้องขับรถจากนครปฐม ไปที่ีบริษัทที่อยู่เชิงสะพานปิ่นเกล้า ซึ่งตรงนี้ผจก.ของบริษัท ก็ตกเป็นจำเลยของผมในทันที เพราะว่า"รู้อยู่แล้วว่าปณ.ทำงานกันอย่างไร" ดังนั้นต้องไปไล่เบี้ยเอากับผู้จัดส่งว่า ระยะทางไม่ถึง 50 กม. ขับรถไม่ถึง 50 นาที เอาของราคาหลักแสนมาส่งให้ด้วยมือมันอยู่ในวิสัยที่ทำได้
บริษัทจักรยานใหญ่ๆในบ้านเรา เขาส่งจักรยานแพคกล่องผ่านมาให้ทางขนส่งเอกชนครับ เพราะเขาทราบดีถึง"คุณภาพ"ของปณ.บ้านเรา
ผมเชื่อว่า ที่ปณ.ไม่ถูกลองดีในชั้นศาล ก็เพราะว่าความเสียหายนั้นมันไม่สูงพอที่จะคุ้มค่าจ้างทนาย และค่าเสียเวลาในชั้นศาลมากกว่า
แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะคนบางคนยอมเสียเงินเพื่อแลกกับความสะใจ เหมือนกับขับรถโดนชนท้าย คนชนเบี้ยวท้าให้ฟ้อง ค่าเสียหายแค่ 2หมื่น ผู้เสียหายเอาสะใจ เลยฟ้องซะ ประมาณนั้น
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน