pskorat เขียน:s81283 เขียน:
ไหน ๆ ก็อินทนนท์ละ อยากถามอีกเรื่อง ว่าโภชนาการเฉพาะกิจสำหรับอินทนนท์นั้น ควรต้องเตรียมการณ์อย่างไร ถึงจะดี สำหรับเช้าก่อนไต่อินททนนท์
นมสดอุ่นๆ( non fat / low fat ) 1 ชาม ผสม
ข้าวโอ๊ตตรา..ตาแป๊ะ..กระป๋องสีแดงเพราะมันสุกมาในกระป๋องแล้ว (เน้นสีแดงอย่าเอารุ่นสีน้ำเงินนะครับ..ต้องต้ม) ปริมาณตามที่กำหนดข้างกระป๋องต่อ 1 มื้อ(ปรับความข้น/ใสตามชอบใจ แต่หนืดไว้ก่อนดีกว่า) เติมน้ำตาลทราย ให้ได้ความหวานที่ 6-8 % เติมเกลือสัก 1/4 -1/2 ช้อนชา แค่นี้ก็ได้อาหารเช้าที่ให้พลังงานต่อเนื่องได้ยาวนานจาก คาร์โบไฮเดรทโมเลกุลยาวชนิดที่ละลายน้ำได้ของข้าวโอ๊ต เสริมด้วยน้ำตาลที่ให้พลังงานทันที และเกลือ
หมายเหตุ...สูตรนี้ถ้าผมจำไม่คลาดเคลื่อนเป็นของ Lance สมัยรุ่งๆ(ไม่ใช่รุงริ่งเพราะติดโด๊บเช่นในปัจจุบัน
![Exclamation :!:](./images/smilies/icon_exclaim.gif)
)
เครื่องดื่มเกลือแร่และให้พลังงานระหว่างทาง...เมื่อค่ำมีหลานโทรมาถามจาก กทม. ผมให้สูตรไปดังนี้
1. ผงเกลือแร่(ORS) ยี่ห้อ Oreda ซองใหญ่ รสชาดดีที่สุดเท่าที่ผมทดลองภาคสนามกับเพื่อนๆที่โคราช(บริษัทคำนวนไว้ใช้กับขวดแม่โขง 750 มล.) มีกลูโค้ส 10 กรัมร่วมกับเกลือแร่ที่จำเป็นเมื่อเสียน้ำ
2. ถ้าต้องการพลังงานฉับพลัน ตวงผงกลูโค้สยี่ห้อ กลูโคลิน(ซื้อได้ตามรานขายยาราคากระป๋อง 400 กรัมละ 55.00 บาท) 5 ช้อน(ปาดเสมอขอบช้อน)ที่ใช้ตวงยาน้ำในเด็กเล็กขนาด 5 มล.ที่ทุกบ้านน่าจะมีจะได้ที่น้ำหนัก 17 กรัม
3. เติมด้วยน้ำตาลทรายซองขนาด 8 กรัม อีก 2 ซอง(.ใกล้ Makro ก็ยี่ห้อ aro / ใกล้ห้างก็ยี่ห้อ Orchids )
จาก 1+2+3 สูตรนี้ก็จะได้ค่าน้ำตาล 2 ชนิดที่ความเข้มข้น 6 % ตามกำหนดที่โภชนาการแนะนำอยู่ในพิสัย 6-8% (จางไปก็ไม่ได้เรื่อง ข้นเกินไปก็เกิดการดูดซึมน้ำย้อนกลับ reverse-osmosis เข้าทางเดินอาหารแทนที่จะถูกดูดซึมออกไปเพื่อใช้งาน)
หากลูโคลินไม่ได้/ไม่ทัน แทนด้วยน้ำตาลซองนั่นแหละครับ
ที่เสนอน้ำตาลซองขนาด 8 กรัมเพราะคำนวนลงตัวพอดีเผื่อบางท่านไม่มีตาชั่งและลดความยุ่งยากของการชั่ง ตวง วัดครับ
เท่าที่ผมเคยทำให้ทีม ผมจะผสมทั้งหมดในซองยาเดียวกัน คำนวนชั่วโมงละขวด พกติดหลังของใครของเขาฉีกเทเข้าขวดน้ำได้เลย
จากการทดลองภาคสนามระยะทาง 140 กม.ผลออกมา...ดีถึงดีมากครับ
ต้นทุนตกที่ประมาณ 11 บาทต่อ 600-700 มล.ครับ ถูกกว่ายี่ห้อที่บรรจุขวดขายทั้งไทย/เทศมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยี่ห้อไทยๆทั้งหมดลองอ่านฉลากข้างขวด แล้วดูที่เปอร์เซ็นต์น้ำตาลทุกยี่ห้อ
...หวานเกิน...เคยสังเกตไหมครับที่ยิ่งดื่มยิ่งเหนียว/คอแห้ง/กระหายน้ำตามมาอีก ก็ด้วยเหตุนี้แล
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังมุ่งพิชิต
...ดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดแห่งแดนสยาม...ด้วยจักรยาน ที่ครั้งหนึ่งนานมากแล้ว(พ.ศ. 2518)ที่ผองเพื่อน พี่ๆน้องๆมหิดลกลุ่มหนึ่งรวมทั้งตัวผม ใช้เส้นทางเดินป่าอ้อมตีตัดหลังขึ้นไปประท้วงการสร้างเรดาห์ทางการทหารในสมัยสงครามเย็นใกล้จะสิ้นสุดก่อนที่เราจะประท้วงทั้งประเทศให้อเมริกาถอนฐานทัพทั้งหมดออกจากราชอาณาจักรไทย โดยที่อีกกลุ่มหนึ่งทำทีเป็นใช้เส้นทางที่ทุกท่านกำลังจะพิชิตกันอยู่นี่แหละเป็นเส้นลวง(แต่สมัยนั้นเป็นถนนดินแดงลุกรังบดอัดครับ)
ขอให้ทุกท่าน...บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งใจไว้โดยสวัสดี...