ThaiMTB.com

phirun เขียน:จัดให้ตามคำขอครับสำหรับเตาฟืนแบบ Down draft
มีคนสงสัยว่าหุงข้าวพร้อมกับตุ๋นไข่ไปด้วยทำยังไงกันหนอ !!!!!!! วันนี้พอดีว่างเลยถือโอกาสนำเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับอาหารจานด่วนของนักทัวรริ่งที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแบบลูกทุ่ง ตบท้ายด้วยกาแฟอีกสักแก้วจากการจุดเตาเพียงครั้งเดียว ปกติเวลาออกทัวร์ผมจะหุงข้าวให้เต็มหม้อแบบด้ามจับขนาด 5” เพื่อให้สามารถกินได้สองมื้อแล้วตุ๋นไข่ไปพร้อมกันโดยใช้ขันนึ่งข้าวตีไข่ปรุงรสเสร็จใส่รวมไปในหม้อเลย ใช้เวลาในการหุงข้าวนานแค่ไหนเรามาเริ่มจับเวลาตั้งแต่จุดเตาเลยครับ หลังจากจุดไฟที่ปากเตาแล้วใช้เวลาประมาณ 3 นาที เปลวไฟจึงเริ่มพวยพุ่งออกมาให้เริ่มการหุงต้มได้ นั่นหมายความว่าเตาแบบนี้ขนาดเท่านี้ใช้เวลา start 3 นาที ผ่านไปอีก 7 นาทีรวมเป็น 10 นาที หม้อข้าวเริ่มเดือด 15 นาที่ฝาหม้อถูกไข่ตุ๋นที่กำลังฟูเต็มที่ดันขึ้นมา เอามือกดฝาปิดลงไป 20 นาที ข้าวสุกไข่สุกพร้อมกินได้ถ้าไม่กลัวลวกปาก ยกหม้อข้าวลงตั้งน้ำชงกาแฟต่อได้เลยใช้เวลา 10 นาทีน้ำที่จะใช้ชงกาแฟก็เดือด รวมเวลาตั้งแต่เริ่มจุดเตาจนหุงข้าวและต้มน้ำเดือด 30 นาที ทดลองกันดูนะครับถ้าหากชื่นชอบในแนวนี้

ซาเล้งสีแดง เขียน:

phirun เขียน:จัดให้ตามคำขอครับสำหรับเตาฟืนแบบ Down draft
มีคนสงสัยว่าหุงข้าวพร้อมกับตุ๋นไข่ไปด้วยทำยังไงกันหนอ !!!!!!! วันนี้พอดีว่างเลยถือโอกาสนำเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับอาหารจานด่วนของนักทัวรริ่งที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแบบลูกทุ่ง ตบท้ายด้วยกาแฟอีกสักแก้วจากการจุดเตาเพียงครั้งเดียว ปกติเวลาออกทัวร์ผมจะหุงข้าวให้เต็มหม้อแบบด้ามจับขนาด 5” เพื่อให้สามารถกินได้สองมื้อแล้วตุ๋นไข่ไปพร้อมกันโดยใช้ขันนึ่งข้าวตีไข่ปรุงรสเสร็จใส่รวมไปในหม้อเลย ใช้เวลาในการหุงข้าวนานแค่ไหนเรามาเริ่มจับเวลาตั้งแต่จุดเตาเลยครับ หลังจากจุดไฟที่ปากเตาแล้วใช้เวลาประมาณ 3 นาที เปลวไฟจึงเริ่มพวยพุ่งออกมาให้เริ่มการหุงต้มได้ นั่นหมายความว่าเตาแบบนี้ขนาดเท่านี้ใช้เวลา start 3 นาที ผ่านไปอีก 7 นาทีรวมเป็น 10 นาที หม้อข้าวเริ่มเดือด 15 นาที่ฝาหม้อถูกไข่ตุ๋นที่กำลังฟูเต็มที่ดันขึ้นมา เอามือกดฝาปิดลงไป 20 นาที ข้าวสุกไข่สุกพร้อมกินได้ถ้าไม่กลัวลวกปาก ยกหม้อข้าวลงตั้งน้ำชงกาแฟต่อได้เลยใช้เวลา 10 นาทีน้ำที่จะใช้ชงกาแฟก็เดือด รวมเวลาตั้งแต่เริ่มจุดเตาจนหุงข้าวและต้มน้ำเดือด 30 นาที ทดลองกันดูนะครับถ้าหากชื่นชอบในแนวนี้

ขอบคุณครับพี่ จะไปลองทำดูครับ ไข่ตุ่นพร้อมหุงข้าว

SAICHON1 เขียน:เมื่อศุกร์ต้นเดือน เหมือนเคยเห็นพี่ ซา ปั่นมาแถวถนน เลียบคลอง ห้า ลำลูกกาใช่ไหมครับ..

phirun เขียน:เมื่อร่างกายพร้อมแล้วมือใหม่จะมีวิธีเลือกรถย่างไร?
หายไปหลายเดือนเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลต่างๆจากการปั่นเดี่ยว เพื่อทดสอบและหาคำตอบที่ยังคาใจอยู่ โดยเฉพาะคนที่กำลังจะเปลี่ยนแนวมาทัวร์ริ่งซึ่งหลายคนอาจมีคำถามในใจว่า ตัวเองควรจะเลือกรถแบบไหนไว้ออกทัวร์ดี คำตอบต้องเริ่มต้นจากตัวเราเองก่อนอย่าไปเลือกด้วยการเลียนแบบคนอื่น เพียงเพราะเห็นว่าเขานิยมจักรยานแบบนั้นแบบนี้เพราะนั่นคือตัวเขาไม่ใช่ตัวเรา อันดับแรกควรเริ่มต้นจากการเป็นคนฉลาดบริโภค ด้วยการซื้อรถมือสองหรือรถที่ไม่แพงมาลองใช้ก่อน มือใหม่หลายคนเริ่มต้นด้วยการจ่ายแพงเพราะคิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการออกทัวร์ แต่กลับมาเปลี่ยนใจในภายหลังจากการตกผลึกทางความคิด และเริ่มเข้าใจความต้องการที่แท้จริงที่มันเข้ากับสไตล์ของตัวเองแต่เมื่อซื้อมันมาแล้วจะขายก็เสียดาย ไหนๆมันก็ไม่ตรงกับแนวการทัวร์ริ่งที่คิดไว้แต่แรกก็ซื้อมันใหม่อีกสักคันจะเป็นไรไปหลายคนเลยมีรถจอดอยู่เต็มบ้านแต่ขี่อยู่แค่คันเดียว กว่าเราจะรู้ใจตัวเองจนกระทั่งทุกอย่างลงตัวต้องใช้เวลาเพื่อทดสอบและทดลองด้วยตัวของท่านเองเท่านั้น อย่างที่สองต้องระลึกไว้ในใจเสมอว่าการปั่นทัวร์ริ่งเราต้องเจอทั้งทางราบและทางเขา ดังนั้นเวลาเลือกรถข้อนี้ไม่เกี่ยวกับยี่ห้อหรือราคาถูกราคาแพง แต่เกี่ยวกับความสามารถของรถคันที่เราเลือกว่ามันสามารถทำความเร็วช่วงทางราบได้ดีแค่ไหน และที่สำคัญถ้าเจอเนินเราจะสามารถปั่นขึ้นไปได้หรือต้องลงจูง
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าค่า GI กันมาบ้าง ผมเองเคยมีประสบการตรงแบบชนิดไม่เคยลืมจากการเข้าไปเลือกจักรยานแล้วถามคนขายว่าผมขอดู spec รถคันนี้หน่อยผมอยากรู้ว่ามันมีเฟืองหน้าหลังเท่าไหร่บ้าง คนขายบอกไม่มีแล้วก็ไม่มาเสียเวลานั่งนับจำนวนด้วยว่ามันมีกี่ฟัน ขายรถมาเป็นสิบๆปีไม่เคยมีใครมาถามแบบนี้ ผมไม่โกรธคนขายแต่ผมกลับสงสารคนที่จะเข้าไปเลือกซื้อรถในร้านนี้ เพราะการรู้จำนวนฟันของจานหน้าและหลังจะทำให้เรารู้ค่า GI เราจะรู้ได้ทันที่ว่ารถคันนี้เหมาะกับตัวเราหรือไม่? คำนวณแบบง่ายๆตัดสินใจได้เดี๋ยวนั้นเลยโดยการเอาจำนวนฟันของจานหน้าที่ใหญ่ที่สุด ( รถที่เหมาะสำหรับการทัวร์ริ่งจะมีจานหน้า 3 จาน ) หารด้วยจำนวนฟันล้อหลังที่เล็กที่สุดแล้วคูณด้วยขนาดวงล้อ ค่าที่ออกมาสูงจะทำความเร็วในทางราบได้ดีกว่าคันที่ได้ตัวเลขน้อยกว่า อยากรู้ว่าไต่เขาได้ดีไหมให้เอาจำนวนฟันของจานหน้าที่เล็กที่สุดหารด้วยจำนวนฟันล้อหลังที่ใหญ่ที่สุด แล้วคูณด้วยขนาดวงล้อค่าที่ออกมาต้องน้อยถ้าเทียบกับคันอื่นตัวเลขของคันไหนน้อยกว่าแสดงว่าคันนั้นมีความสามารถในการไต่เขาได้ดีกว่า ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้ดูกันแบบชัดๆ Trex 3900 กับ Trinx M318DB ทั้งคู่เป็นล้อขนาด 26” 24 speed ชุดขับเคลื่อนของ Trex จานหน้า 24-34-42 หลัง 11-32 ส่วนของ Trinx จานหน้า 22-32-42 หลัง 13-34 ลองเปรียบเทียบค่า GI ที่ได้ Trex = 19.5/99.27 ส่วนของ Trinx = 16.5/82.38 จากตัวเลขที่ได้เราซึ่งเป็นคนไปเลือกซื้อจะรู้ได้ทันทีว่า 16.5 จะไต่เนินได้ดีกว่า 19.5 แต่ที่ความเร็วทางราบสู้ 99.27 ไม่ได้ options ที่เหลือก็เป็นความชอบส่วนบุคคล ขอให้มือใหม่มีความสุขกับการเลือกรถคู่ใจนะครับ