ถิ่นสีน้ำเงิน

รายงานตัว พี่ๆน้องๆที่ปั่นด้วยกัน อาจเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันก็ได้ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
guys
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 11:49
Tel: 0816459640
team: SUNDAY BIKES CLUB
Bike: WHEELER E1-ZX, RIDLEY NOAH SL
ตำแหน่ง: พัทยา

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย guys »

Kong&Poo เขียน:
RUNG เขียน:
Kong&Poo เขียน:ก้องครับ ปวส. 18 1กบ. อยู่บางแสน แวะมาทักทายพี่น้อง
รุ่นเดี่ยวกันนี่นา ผมอยู่ 1กช. ครับ 1กบ.นี่ห้องเดี่ยวกับไอ้เหงาใช่ป่าว :geek:
คนละห้องกัน เหงาอยู่ 2 กบ. มั้งถ้าจำไม่ผิด
ใช่ครับ เหงาอยู่ 2 กบ. ห้องเดียวกับผมครับ :D
1000ways
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1613
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2010, 12:36
team: Baanfha Cycling team
Bike: Motobecane / Ridley
ตำแหน่ง: Lumlukka, Pathumthani

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย 1000ways »

..สวัสดีครับ ..เกิด 1 กพ.เหมือนกันครับ อิ อิ
สถ 52 ครับ..
E ~~~~~~~~~~~ __o
~~~M ~~~~~~~ _ <_
~~~~~~ D ~~ (_)/(_)

..สุขภาพที่ดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องทำเอง..!
...Cycling accidented will never make me give up my love for the sport
รูปประจำตัวสมาชิก
Yut Bangyai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 312
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ย. 2009, 07:36
Tel: 0813459946
team: หยุดปั่นเลี้ยงลูกก่อน
Bike: Trek 8500 & Radac

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย Yut Bangyai »

..ถ้าเรารักสมัครจิต ก็ต้องคิดสมัครมือ ถิ่นสีน้ำเงินคือ ที่รวมรักสมัครคง...

สวัสดีครับ ผมก็เลือดสีน้ำเงิน ครับ.ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่-น้อง
BLUE ZONE 55
RUNG
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2915
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 19:18
Tel: 0819202264
team: สวนผัก BIKE&BEER Since 2002
Bike: WILIER & BIANCHI Jab
ตำแหน่ง: bangkok
ติดต่อ:

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย RUNG »

เดี่ยวนี้ มีแต่รุ่นน่ารัก..ครับ :geek:
รูปภาพ รูปภาพ
เชษฐ์ ปวส.18
สวนผัก Bike&Beer [Since 2002]
BIANCHI TEAM ISSUE
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 97&t=19851
http://www.facebook.com/#!/suanpak.bike
RUNG
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2915
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 19:18
Tel: 0819202264
team: สวนผัก BIKE&BEER Since 2002
Bike: WILIER & BIANCHI Jab
ตำแหน่ง: bangkok
ติดต่อ:

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย RUNG »

Yut Bangyai เขียน:..ถ้าเรารักสมัครจิต ก็ต้องคิดสมัครมือ ถิ่นสีน้ำเงินคือ ที่รวมรักสมัครคง...

สวัสดีครับ ผมก็เลือดสีน้ำเงิน ครับ.ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่-น้อง
อยู่ใกล้ผมเลยครับพี่ ผมอยู่ วงแหวนฉิมพลี ถ้ามีโอกาสคงได้พบกัน ตามประสาพี่น้องเลือดสีน้ำเงินนะครับพี่
รุ่ง สวนผัก BIKE&BEER
:geek:
สวนผัก Bike&Beer [Since 2002]
BIANCHI TEAM ISSUE
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 97&t=19851
http://www.facebook.com/#!/suanpak.bike
รูปประจำตัวสมาชิก
Yut Bangyai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 312
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ย. 2009, 07:36
Tel: 0813459946
team: หยุดปั่นเลี้ยงลูกก่อน
Bike: Trek 8500 & Radac

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย Yut Bangyai »

RUNG เขียน:
Yut Bangyai เขียน:..ถ้าเรารักสมัครจิต ก็ต้องคิดสมัครมือ ถิ่นสีน้ำเงินคือ ที่รวมรักสมัครคง...

สวัสดีครับ ผมก็เลือดสีน้ำเงิน ครับ.ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่-น้อง
อยู่ใกล้ผมเลยครับพี่ ผมอยู่ วงแหวนฉิมพลี ถ้ามีโอกาสคงได้พบกัน ตามประสาพี่น้องเลือดสีน้ำเงินนะครับพี่
รุ่ง สวนผัก BIKE&BEER
:geek:
ยินดีครับ..
BLUE ZONE 55
พลาย
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 980
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 13:24
team: สุดแต่ขาจะพาไป
Bike: la,bf,af,amf6

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย พลาย »

:D :D :D สวัสดีครับพี่ยุทธ พี่ครับ พี่ถ่ายรูปนี้ดูเผินๆคล้ายพี่เมฆเลยครับ :lol: :lol: :lol:
รูปประจำตัวสมาชิก
Yut Bangyai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 312
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ย. 2009, 07:36
Tel: 0813459946
team: หยุดปั่นเลี้ยงลูกก่อน
Bike: Trek 8500 & Radac

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย Yut Bangyai »

:D
BLUE ZONE 55
รูปประจำตัวสมาชิก
teeravut
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 14:49
Tel: 0899847660
team: นักปั่นไร้พุง BLUEZONE 58
Bike: LA Redline
ตำแหน่ง: ปากเกร็ด นนทบุรี
ติดต่อ:

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย teeravut »

สวัสดีครับ แนะนำตัวนิดนึงครับ
วุฒิ 58 ส.ช. ครับ
ปัจจุบันมาทำงาน โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง3 นครพนม
...................................ขบวนการนักปั่นไร้พุง BLUEZONE 58.................................................
รูปประจำตัวสมาชิก
ommy
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 25
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 16:34
Tel: 086-588-1326
team: uthenbikephuket
Bike: Merida 18"

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย ommy »

โอ้แม่เจ้า สวัสดีครับพี่ๆ ผมโอม 68 4กช อยู่ภูเก็ตครับ Uthenbike 30 กว่าคัน เรียนเชิญหากมีโอกาศ เรียนชม http://www.uthenphuket.com/index.php?op ... Itemid=180
RUNG
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2915
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 19:18
Tel: 0819202264
team: สวนผัก BIKE&BEER Since 2002
Bike: WILIER & BIANCHI Jab
ตำแหน่ง: bangkok
ติดต่อ:

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย RUNG »

พูดคุยกันตามประสาพี่น้องครับ ใน FB
http://www.facebook.com/home.php?sk=gro ... 3787314235
สวนผัก Bike&Beer [Since 2002]
BIANCHI TEAM ISSUE
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 97&t=19851
http://www.facebook.com/#!/suanpak.bike
รูปประจำตัวสมาชิก
BLUEJEANS
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 22:07

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย BLUEJEANS »

ตรี 4 กช 53 ครับ
RUNG
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2915
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 19:18
Tel: 0819202264
team: สวนผัก BIKE&BEER Since 2002
Bike: WILIER & BIANCHI Jab
ตำแหน่ง: bangkok
ติดต่อ:

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย RUNG »

ประวัติ "พระวิษณุกรรม"
เมื่อ โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ได้รับการก่อตั้ง โดยการแยกตัวออกมาจากโรงเรียนเพาะช่าง เมื่อ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2477 ขณะนั้นเชื่อแน่ได้ว่า จะยังไม่มีพระรูปของพระวิษณุกรรม ประจำของโรงเรียน
ได้มีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุของโรงเรียนว่า "เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2477 โรงเรียนได้มีการทำบุญฉลอง เวลา 9.30 น.มีการไหว้ครู พระเทวาฯเป็นผู้เจิมขึ้นครูการช่าง เวลา 10.00 น.พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และถวายบิณฑบาต
และ จากหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่ง คือภาพเขียนรูปพระวิษณุกรรมที่พระเทวานิมมิต ได้บรรจงเขียนขึ้น ภาพนี้ท่านผู้เขียนภาพได้บัมทึกวันเขียนภาพไว้ที่ด้านล่างของภาพว่า 19/12/77 นั่นคือวันที่ 19 มีนาคม 2477 ดังที่มีกล่าวไว้ในเอกสารเก่าๆหลายเล่มและมีข้อที่น่าสังเกตุคือ วันที่เขียนภาพเสร็จเป็นวันก่อนกำหนดวันทำบุญฉลองและขึ้นครูเพียง 2 วันเท่านั้น
ในจดหมายเหตุของโรงเรียนบันทึกว่า "เป็นวันอิสระภาพ" และในการฉลองเพื่อแสดงถึง ความเป็นอิสระภาพนั้น ควรจะต้องมีสัญญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง ให้ผู้ที่อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ และบุคคลภายนอกได้รับรู้อย่างทั่วกัน และทำไมจึงมาจัดงานทำบุญฉลอง หลังจากวันที่ได้มีคำสั่งให้แยกตัวออกถึงเกือบสองเดือน สันนิษฐานว่าอาจเนื่องจาก การค้นคิดหาสัญญลักษณ์ของโรงเรียนหนึ่ง และการกำหนดฤกษ์ยามอันเป็นมงคลของงานอีกหนึ่ง
พระเทวานิมมิต ได้รับการขอร้องจากโรงเรียน ในฐานะที่ท่านเป็นบรมครูช่างที่ดีเด่น และ ได้รับการนับถือในวงการช่างขณะนั้น ขอให้ท่านเป็นผู้กำหนดองค์เทพาจารย์แห่ง
ช่างประจำโรงเรียนขึ้น เพื่อเป็นองค์ประธานสำหรับบูชาในพิธีขึ้นครูของช่าง ซึ่งถือกันว่าเป็น การให้เกียรติและ ให้การยกย่องอย่างสูงสำหรับผู้ที่รับเชิญให้ทำหน้าที่นี้ และท่านคง จะต้องรีบเร่งเขียนภาพพจน์พระวิษณุกรรม เพื่อให้เป็นเทพาจารย์ของช่างสำหรับสำนักช่าง อุเทนถวายจนเสร็จทันตามกำหนดของงาน
วันที่ พระเทวานิมมิตมาเป็นประธานเจิมขึ้นครูการช่างนั้น เป็นครั้งแรกทีได้กระทำกันต่อหน้า (ภาพเขียน) พระวิศวกรรม และที่ว่าสีพระกายของพระวิศวกรรมเป็นสีน้ำเงิน ก็คงเนื่องจาก สีพระกายที่ปรากฏในภาพเขียนนั่นเอง เรื่องนี้จะดูหลักฐานได้จากภาพเขียนสีน้ำเงิน ซึ่งใช้เป็นสีของโรงเรียนในเวลาต่อมา (เดิมใช้สีแสด-เทา) ได้รับความบันดาลใจมาจาก สีพระกายของพระวิศวกรรม
ปัจจุบันนี้ ภาพเขียนพระวิษณุกรรมฝีมือท่านพระเทวาภินิมมิต ยังประดิษฐานอยู่ในห้องประชุม ของวิทยาเขตอุเทนถวาย ขนาดของภาพมีส่วนกว้าง 13 นิ้ว และมีส่วนสูง
20-1/2 นิ้ว เป็นภาพเขียนที่งดงามมาก องค์ร่างมีทรวดทรงสัดส่วนที่สูงสง่าสมองค์ แววพระเนตรค่อนข้างดุ ตามลักษณะของช่างที่เอาจริงเอาจังต่องาน เป็นภาพเขียนที่มีวิญญาณ มีชีวิตจิตใจที่แสดงออกถึงความเป็นช่าง ในขณะเดียวกันมีความอ่อนช้อย สละสลวย ด้วยชั้นเชิงทางศิลปะ ท่านประทับยืนในกลุ่มเมฆในรูปลักษณ์ของเทพ พระหัตถ์ทั้งซ้ายและขวา ทรงเครื่องมือช่าง ที่สำคัญคือพระหัตถ์ขวาทรงไม้วา พระหัตถ์ขวาทรงไม้ฉากและลูกดิ่ง และถ้าจะพิจารณาจากเครื่องมือช่างที่พระเทวาภินิมมิตได้กำหนดให้เป็นเครื่องมือคู่พระหัตถ์ นับว่าท่านได้เลือกไว้ให้อย่างถูกต้องเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่มีวิญญาณของความ เป็นช่างก่อสร้างทั้งหลายคงจะเข้าใจได้ดีว่า อันเครื่องมือทั้งสามชิ้นนั้นมีความสำคัญเพียงไร สำหรับช่าง เพราะการทำงานเป็นช่างก็ดี หรือการตรวจสอบความถูกต้องของงานช่างที่ทำไว้แล้วก็ดี จะต้องใช้เครื่องมือทั้งสามชิ้นนี้เป็นหลัก เครื่องมือที่ช่างทุกคนจะต้องมีติดประจำกายมาแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันอาจมีเครื่องมืออื่น ที่พัฒนารูปแบบให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่หน้าที่ของการใช้ก็ยังคงเดิม เครื่องมือทั้งสามนี้น่าจะยกให้เป็นเครื่องมือครู
กาลเวลา ได้ผ่านไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2481 ในจดหมายเหตุโรงเรียนได้บันทึกไว้ว่า ”……มีพิธียกครูและไหว้ครูเวลาเช้า 7.00 น.มีการสวดมนต์และเลี้ยงพระ 5 รูป 9.00 น.ทำพิธี ยกครูพระวิษณุกรรม โหรได้กระทำพิธียกครูตามพิธีไสยศาสตร์โดยเรียบร้อย หลังจากนั้น ได้กระทำพิธีไหว้ครูที่หน้าแท่นประดิษฐานรูป (ปั้น) พระวิษณุกรรม เมื่อเสร็จพิธีไหว้ครู อาจารย์ใหญ่ให้โอวาทแก่บรรดานักเรียน วันนี้ประกาศผลสอบปลายภาคด้วย...” มีการเอ่ยถึงพระนามว่า พระวิษณุกรรมเป็นครั้งแรก มีการทำพิธีทั้งฝ่ายพุทธและพราหมณ์ มีการตั้งแท่นประดิษฐานรูปพระวิษณุกรรม วันนี้เป็นวันที่มีพิธีกรรมจัดตั้งองค์พระวิษณุกรรม ในลักษณะของรูปปั้นขึ้นเป็นครั้งแรก นอกเหนือจากภาพเขียน และอาจพอสรุปได้ว่า พระเทวาภินิมมิต ได้เขียนภาพพระวิษณุกรรม เพื่อให้ทันต่อการประกอบพิธีของงานฉลองตามกำหนด ส่วนรูปปั้น คงจะต้องใช้เวลาจัดทำกันนานพอสมควร นับตั้งแต่ขั้นการออกแบบ และการปั้นหล่อ ก็มีกระบวนการต่างๆหลายขั้นตอน จนต้องทิ้งช่วงมาถึง 4 ปี
และตามที่ น.ณ ปากน้ำ ได้เขียนไว้ในหนังสือตำราศิลปะไทยฯ ถึงงานของพระพรหมพิจิตร ตอนหนึ่งว่า ท่านได้ออกแบบรูปปั้นองค์พระวิษณุกรรมให้ไว้เมื่อ พ.ศ.2480 และระบุว่า จะใช้ประดิษฐาน ณ โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ได้กำหนดขนาดสัดส่วนต่างๆไว้อย่างละเอียด ถ้าพิจารณาถึงงานที่เขียนแบบรูปนี้ เป็นเวลาก่อนงานพิธียกครูเพียง 1 ปีได้ มีการมอบให้ พระพรหมพิจิตร เป็นผู้ออกแบบรูปปั้นขององค์พระวิษณุกรรม งานของพระพรหมพิจิตร จึงมา หลังงานของพระเทวาภินิมมิต และเข้าใจว่าจะอาศัยเค้าโครงของภาพเขียนของพระเทวาภินิมมิต คือประทับยืน มีเครื่องมือช่างที่สำคัญสามชิ้นเหมือนกัน และ ลักษณะของการถือจับและ การทอดพระหัตถ์ต่างออกไปเล็กน้อย เครื่องภูษาทรงไม่อ่อนช้อยเหมือนภาพเขียน เข้าใจว่า เพื่อให้เข้ากับเทคนิคของงานปั้นรูป
เป็นที่ทราบกันดี อยู่แล้วว่าผู้ปั้นองค์พระวิษณุกรรมคือ อาจารย์สิทธิเดช แสงหิรัญ กับอาจารย์ทองอยู่ ชื่นชอบ ในขณะนั้นอาจารย์ทองอยู่อายุประมาณ 20 ปี เพิ่งสำเร็จแผนกช่างปูน ของโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ท่านเข้าเรียนเมื่อ พ.ศ.2477 เป็นนักเรียนรุ่นที่ 2 ของโรงเรียน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2481 และเป็นครูของอุเทนถวายต่อมา จนกระทั่งท่าน ครบเกษียณอายุไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2523 ส่วนอาจารย์สิทธิเดช แสงหิรัญ สมัยนั้นท่านมีชื่อว่า บุญเจือ แสงหิรัญ ศึกษาทางช่างปั้นจากโรงเรียนเพาะช่าง อายุแก่กว่าอาจารย์ทองอยู่ 1-2 ปี ท่านได้เข้ารับราชการเป็นครูพร้อมกับอาจารย์ทองอยู่ ต่อมาลาออกไปสมัครเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ศิลป พีระศรี ที่โรงเรียนประณีตศิลป์ ของกรมศิลปากรในสมัยนั้น มีผลงานทางปฏิมากรรม จนได้รับ การยกย่องเป็นปฏิมากรเอกของชาติ ท่านเสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 50 ปีเศษ
ท่านอาจารย์ทองอยู่ ชื่นชอบ ได้เล่าให้ฟังว่า ท่านกับอาจารย์สิทธิเดช ได้ช่วยกันปั้นองค์พระวิษณุกรรม โดยมีโครงเป็นเหล็กเส้น ใช้ซีเมนต์ผสมทรายหล่อหุ้ม แต่งขึ้นเป็นรูปองค์ อาจารย์สิทธิเดช เป็นผู้กำหนดสัดส่วนต่างๆ และให้การตกแต่งรายละเอียด ส่วนงานปูนส่วนใหญ่ อาจารย์ทองอยู่ เป็นผู้จัดทำ ซึ่งก็เป็นไปตามฝีมือความถนัดของอาจารย์ทั้งสอง อาจารย์สิทธิเดชเป็นช่างปั้น ท่านก็ย่อมถนัดงานปั้นดินเหนียว แต่พระรูปครั้งนี้ใช้วัสดุเป็นปูน ซึ่งอาจารย์ทองอยู่ถนัดกว่า และ การใช้ปูนปั้นย่อมทำให้ส่วนรายละเอียดของงานแตกต่างไปจากต้นแบบ
โดย อาศัยภาพเขียน ของพระเทวาภินิมมิตเป็นต้นแบบ โดยอาจารย์สิทธิเดช แสงหิรัญ เป็นผู้ร่างขยายแบบบนกระดาษก่อน เท่าขนาดของจริงทั้ง 3 วิว คือรูปด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง จึงเป็นการให้ความกระจ่างได้อีกเรื่องหนึ่ง ที่ว่าองค์พระวิษณุกรรม มีต้นแบบมาจากของท่านผู้ใด
อย่างไรก็ตาม ภาพต้นแบบของพระพรหมพิจิตร น.ณ ปากน้ำ ได้ยกย่องว่าเป็นงานออกแบบ ที่ยอดเยี่ยมชิ้นหนึ่ง ควรได้บันทึกเป็นประวัติของงานสร้างพระวิษณุกรรม ของอุเทนถวายไว้ด้วย
ถ้าจะว่า ตามความรู้สึกของชาวอุเทนถวาย หรือผู้ที่ได้เข้ามาพำนักอยู่ใน “อุเทนถวาย” แล้ว มักจะว่าตนเป็นลูกที่นับถือ “พ่อ” องค์เดียวกัน จึงทำให้เกิดความสนใจใคร่รู้ความเป็นมาของท่าน พยายามสืบเสาะหาข้อมูล และรวบรวมบันทึกเรื่องนี้ไว้
เมื่อสร้างองค์พระวิษณุกรรมเสร็จขึ้นอย่างงดงาม นับว่าเป็นปฏิมากรรมที่สวยงามองค์หนึ่ง จึงต้องมีแท่นสำหรับประดิษฐาน อาจารย์แป๊ะ ฉัตรกุล ท่านได้เป็นผู้ออกแบบ และมีอาจารย์สะอาด เพ็ชรตระกูล ซึ่งเป็นหัวหน้าโรงงานช่างปูน พร้อมนักเรียนช่วยกันดำเนินการจัดสร้าง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เพราะวัสดุที่ใช้ทำหายาก
ต่อมา เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เดือนธันวาคม 2484 ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาพักอาศัยในโรงเรียน หลังจากสงครามสงบ ทหารญี่ปุ่นได้ย้ายออกไปแล้ว จึงได้เริ่มดำเนินการบูรณะ และเสริมแผงเหล็กเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม โดยรื้ออิฐที่ทหารญี่ปุ่นนำมาก่อเป็นเตาหุงข้าว มาทำความสะอาดใช้ก่อเป็นเสาและแผง นอกจากนั้นก็หาวัสดุอื่นๆมาเพิ่มเติม
การบูรณะ ครั้งที่สอง ในสมัยอาจารย์สว่าง สุขัคคานนท์ ประมาณปี พ.ศ.2503 ได้มีการ เปลี่ยนแปลงแผงด้านหลังใหม่ ทำด้านข้างยื่นออกมาและมีอ่างน้ำทั้งสองข้าง โดยมีอาจารย์ถวัล เพียรตระกูล เป็นผู้ออกแบบ อาจารย์ทองอยู่ ชื่นชอบ หัวหน้าโรงงานช่างปูน และนักเรียนเป็นผู้ดำเนินการจัดทำ
ต่อมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2531 ในสมัยอาจารย์โสภณ แสงไพโรจน์ (ศิษย์เก่าท่านหนึ่ง) เป็นผู้อำนวยการ ได้มีการบูรณะและจัดบริเวณใหม่ เพื่อให้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น โดยมีอาจารย์วัชรี จิวาลักษณ์ และอาจารย์เกษียร ธรานนท์ เป็นผู้ออกแบบ สมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย ได้เป็นผู้ดำเนินการบูรณะร่วมกับวิทยาเขตอุเทนถวาย
ปี พ.ศ.2540 สมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย ซึ่งได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2490 ครบ 50 ปี ได้อัญเชิญองค์พระวิษณุกรรม ซึ่งได้ประกอบพิธีเททองไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 (อุเทนถวาย
ครบ 60 ปี ซึ่งแต่เดิมสมาคมศิษย์เก่าฯ และสมาคมผู้ปกครองฯ ได้ตั้งใจที่จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่ “วิทยาเขตอุเทนถวาย ศาลายา” แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “วิทยาลัยเขตศาลายา” เพราะมีหลายสาขาวิชา) ขึ้นประดิษฐาน ณ ที่ทำการสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย ถนนสามเสน เยื่องโรงพยาบาลวชิระ เพื่อให้ศิษย์เก่าและท่านที่เคารพนับถือองค์พระวิษณุกรรม ได้เคารพสักการะสะดวกยิ่งขึ้น บรรดาศิษย์เก่าหลายท่าน ได้ร่วมกันให้ความร่วมมือทั้งออกแบบและตกแต่งจนสวยสง่า สมฐานะของ “องค์พ่อ” ของพวกเราชาวสีน้ำเงิน
ไฟล์แนบ
visanu.jpg
visanu.jpg (94.42 KiB) เข้าดูแล้ว 989 ครั้ง
สวนผัก Bike&Beer [Since 2002]
BIANCHI TEAM ISSUE
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 97&t=19851
http://www.facebook.com/#!/suanpak.bike
ABACO.
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2010, 00:26
Tel: 081-xxx-9596
team: Ram.39
Bike: ABACO.
ตำแหน่ง: 517 Ramฯ 39 plabpla Wangthonglang BKK 10310

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย ABACO. »

วิทยา สช.55 สวัสดี พี่ๆน้องๆนักปั่นครับ
ปั่นเถอะ__ถ้าอยากปั่น
รูปประจำตัวสมาชิก
tt62
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ค. 2011, 23:21
Tel: 0800628062
team: ปั่น 25 อยู่ทีมไหนก็ได้ // ได้ข่าวว่าทีมเต่ามาซื้อตัว
Bike: CAAD10 wsd3 , Eddy Merckx efx 1.0 , GEOX , Turtle Bike

Re: ถิ่นสีน้ำเงิน

โพสต์ โดย tt62 »

หวัดดี พี่ช้าง // msn อันเก่าเดี้ยงเลย
เพิ่ง regist เมื่อคืน

รายงานตัวหน่อยค่ะ แต๊กเอง

ปล. ชายเอ๊ย พี่ไม่ค่อยได้เข้าเว็บ รร . เลยว่ะ มัวแต่ไปแร่ดใน FB

อยู่เสนาค่ะ อยุธยา พี่ช้างผ่านแวะเยี่ยมหนูด้วยนะ
ฉันอยากจะบอกเธอว่า โชคดีเพียงใดที่เราได้พบกัน โชคดีเพียงใดที่เราได้รู้จักกัน.....
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ห้องคืนสู่เหย้า”