หน้า 8 จากทั้งหมด 10

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 14 ธ.ค. 2012, 15:42
โดย TigerSmile'Hy
ไม่ต้องเอาเตนท์ไปนะ ... ม่ายเท่อิกาง :lol:

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 15 ธ.ค. 2012, 21:32
โดย panom_cat
เบาไปหิดนึงล่าว
วันที่ 16 ธ.ค. 55 เวลา 07.00 น. ปั่นเดี่ยว กระบี่ - ตรัง

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 15 ธ.ค. 2012, 23:21
โดย Krabi Eco Cycle
panom_cat เขียน:เบาไปหิดนึงล่าว
วันที่ 16 ธ.ค. 55 เวลา 07.00 น. ปั่นเดี่ยว กระบี่ - ตรัง

เสียดายติดงาน โดนหมอบแน่ถ้าว่าง ดายของ

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 23 ธ.ค. 2012, 18:32
โดย panom_cat
ว่างๆ จะไปให้หมอบแซงล่าว อิอิอิ

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 24 ธ.ค. 2012, 07:40
โดย TigerSmile'Hy
รูปภาพ

เก่งทั้งวิ่ง ทั้งปั่น ... แต่กลัวฝน :lol:

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 24 ธ.ค. 2012, 15:18
โดย panom_cat
TigerSmile'Hy เขียน:รูปภาพ

เก่งทั้งวิ่ง ทั้งปั่น ... แต่กลัวฝน :lol:
ปั่นกลางฝน มันทรมานจิตใจมาก น้ำฝนปนเหงื่อเป็นของธรรมดา แต่น้ำฝนที่ไหลผ่านตัวหมาเน่ามาตามถนน แล้วถูกล้อหน้ามันวิดมาเข้าจมูกเข้าปากมันนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่า....จะขนาดไหน :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 29 ธ.ค. 2012, 23:27
โดย บังโหลด
ให้โกยาว กับเจ๊ณีครับ :mrgreen:

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 30 ธ.ค. 2012, 13:51
โดย คุณขวัญแก้ว
ส.ค.ส.๒๕๕๖....
ขอให้โกยาว&เจ๊ณี และเพื่อนผองน้องพี่ทุกท่านพร้อมครอบครัว
มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และประสพแต่โชคดีตลอดไปนะคะ...
:mrgreen:

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 02 ม.ค. 2013, 13:31
โดย panom_cat
ขอบคุณมากๆ สำหรับคำอวยพร ของบังโหลด และ คุณขวัญแก้ว ขอบคุณครับ

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 04 ม.ค. 2013, 15:36
โดย ลุงเนตร
รูปภาพ

""..เพิ่งพบกระทู้..สวัสดีปีใหม่..โกยาว อยู่ดีมีสุขทั้งครอบครัวนะครับ..ตา..แจ่ม..นานแล้วซีนะ..

รูปภาพ

Re: ชวนปั่นแบบสบายๆ ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเช้าโดยโกยาวและเจ๊ณี

โพสต์: 06 ม.ค. 2013, 20:47
โดย panom_cat
ขอบคุณครับลุงเนตร สำหรับคำอวยพรปีใหม่ ขอให้คุณลุงและครอบครัวมีความสุขเช่นกันครับ

Re: โกยาว & เจ๊ณี

โพสต์: 04 มี.ค. 2013, 14:36
โดย panom_cat
hindo เขียน:เอาบทความเก่ามาให้อ่านกันครับ เพราะหลังจากที่เราผ่านกานปั่นหนักๆหรือผ่านการแข่งขันมา เราจะฟื้นสภาพร่างกายให้ถูกครับจะได้กลับเข้าสู่สวาวะปกติได้อย่างสมบูรณืและรวดเร็วครับ




ไม่ใช่แค่กินหรือดื่มอะไรหลังปั่นมาหนัก ๆ แล้วฟื้นตัว แต่การฟื้นตัวยังหมายถึงการกินเข้าไปเมื่อไรด้วยถึงจะฟื้นสภาพได้อย่างถูกต้อง มีแรงปั่นต่อไปในวันรุ่งขึ้น ไม่ใช่เอาแต่ปั่นหนัก ๆ จนอ่อนล้าเท่านั้นที่จะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จอันหมายถึงฟิตกว่าและเร็วกว่า การเติมเชื้อเพลิงเข้าไปถูกต้องถูกเวลานั่นก็ช่วยได้เหมือนกัน ด้านการฟื้นสภาพให้กล้ามเนื้อ มาดูกันเป็นขั้นตอนว่าทันทีที่คุณลงจากอานจักรยานแล้วต้องทำอะไรบ้างภายในกี่นาที เอาเป็นแค่แนวทางก็พอไม่ต้องเคร่งครัดถึงขนาดถือนาฬิกาจับเวลากันเป๊ะ ๆ

ในการปั่นแบบนานและไกล สิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อฟื้นสภาพคือต้องเติมน้ำแทนน้ำที่เสียไปในรูปเหงื่อเสียก่อน กฎข้อสำคัญู คือต้องดื่มน้ำสองแก้วชดเชยน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมที่ลดลง อันหมายถึงน้ำที่เสียไปและทำให้น้ำหนักลด

30 นาที

เติมคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน พอเติมน้ำเสร็จแล้วคุณต้องได้รับพลังงานทดแทน มีรายงานการวิจัยของฝรั่งหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่ากล้ามเนื้อสามารถรับสารอาหารเข้าไปเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ใด้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ใน 30 นาทีแรกหลังการออกกำลัง ถ้าคุณขับรถยนต์ไปแข่งจักรยานก็จงวางสแน็คทิ้งไว้ไนรถด้วยเพื่อว่ากลับมาจากแข่งจะได้กินทันเวลานี้ แต่ก็ต้องไม่มุ่งเป้าไปที คาร์โบฯกันลูกเดียว สแน็คนี้ต้องมีโปรตีนเป็นสัดส่วนมากพอใช้ด้วยคือ 1 กรัมต่อทุก 4 กรัมของคาร์โบฯ มีสปอร์ตดริงค์หลายตัวที่ถูกออกแบบให้ช่วยร่างกายโดยเฉพาะและรวมเอาสารอาหาร อย่างเช่น กลูตามีนและกรดอมิโนเข้าไปด้วย คุณได้พลังงานมาทดแทนแล้วยังไม่พอต้องได้โปรตีนเข้ามาด้วยเพื่อซ่อมแซมส่วนสึกหรอ

2 ชั่วโมง อาหารมื้อหลัก

พอทำตามข้อข้างต้นทั้งสองข้อเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วก็ต้องกินอะไรที่มันเป็นเรื่องเป็นราวหน่อยซึ่งอาจจะหมายถึงโปรทีนเพียวๆอย่างเนื้อไก่ ปลาทูนาหรือถ้าเป็นมังสวิรัติก็ต้องกินเต้าหู้เพื่อให้เข้าไปช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่เสียหายไปจากการออกกำลังกายหนัก และต้องควบคู่กับคาร์โบฯเชิงซ้อนด้วย เช่น พวกโฮลเกรน พาสต้า ข้าว หรือมันฝรั่งเพื่อรักษาระดับของไกลโคเจนให้คงที่ นอกจากนี้ในจานของคุณต้องมีทั้งผลไม้และผักด้วย เพื่อคงสภาพของสารแอนไทออกซิแดนไว้ เช่น วิตามินซี เอและอี ซิงค์เซเลเนียม และโอเมก้า 3 สารพวกนี้จะช่วยปกป้องเซลต่างๆ ของคุณไว้จากความเสียหายด้วยกรดไขมันอิสระ ต้องจำไว้เช่นกันว่าถึงการฝึกหนักจะทำให้รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น มันก็ยังใช้สารอาหารสำคัญๆไปมาก เช่น กลูตามีน อีเลคโตรไลต์ แอนไทออกซิแดนต์ ไขมัน และอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง

อาหารเสริมช่วยให้ฟื้นสภาพ

ถ้าคุณยังปวดเมื่อยเนื้อตัวอยู่หรือยังรู้สกเหนื่อยล้า โหยทั้งที่ได้เติมเชื้อเพลิงเข้าไปเต็มแล้ว คงต้องใช้อาหารเสริม อย่างเช่นมัลติวิตามินกับเกลือแร่ที่มีทั้งสารแอนติออกซิแดนต์ และสารอาหารสำคัญ ๆ ต่อไปนี้

-กลูตามีน มีกรดอมิโนมากมายอยู่ทั้งในเลือดและในกล้ามเนื้อ การสูญเสียกรดอมิโนไปมากจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและอ่อนล้า ให้ใช้กลูตามีนผงผสมน้ำหรือน้ำผลไม้ตามสูตรที่บอกไว้ในฉลาก ข้าง กล่อง

-แมกนีเซียม นี่คือขุมทรัพย์ของอีเลคโตรไลต์กับสารอาหารสำคัญรวมทั้งเอนไซม์อีก 300 ตัว การสูญเสียแมกนีเซียมจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าเร็วและยังอ่อนล้าอยู่นานหลังออกกำลังไปแล้ว แมกนีเซียมที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมีทั้งในรูปของผง และ แคปซูล

-ไขมันโอเมกา 3 ตัวต้านความเจ็บปวดกล้ามเนื้อขนานแท้ น้ำมันตับปลาจะช่วยได้ ถ้าคุณรับประทานทุกวัน วันละหนึ่งช้อนชานื้สภาพจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ากินอะไรเข้าไปเฉย ๆโดยการไม่ดูชนิด สนใจแค่ปริมาณ ยังต้องเลือกด้วยว่าจะกินอะไรเพื่อให้มันไปทดแทนอะไรได้บ้าง รวมทั้งต้องรู้ด้วยว่าต้องกินตอนไหน
เก็บเอามาฝากขาแรง

Re: โกยาว & เจ๊ณี

โพสต์: 04 มี.ค. 2013, 14:47
โดย panom_cat
hindo เขียน:ควรวางแผนโภชนาการอย่างไร ก่อนการแข่งขัน7วัน ซึ่งอาหารบางอย่างที่ผมอ่านๆมา ของฝรั่งมันหากินไม่ได้ในชีวิตจริงนะครับ แต่เราโชคดีที่เรามีข้าว มีผัดซีอิ้ว ผัดไทย กล้วยตากอบน้ำผึ้งแถมมีเคลือบช๊อกโกแล๊ตด้วยนะ กายาสาท และอีกหลายๆอย่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากและอร่อยกว่าพาสต้าของฝรั่งอีกด้วย ลองมาดูการวางแผนว่าจะกินอะไรอย่างไรแบบง่ายๆดูครับ ก็แล้วแต่ใครจะลองเอาใช้ดูหรือไม่ครับ




กล้ามเนื้อจะทำงานได้หนักขึ้นและนานขึ้น หากมีไกลโครเจนสะสมไว้มากพอ ตามปกติ วิธีนี้จะเริ่มประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการแข่งขันโดยในวันแรกของสัปดาห์ (จะให้ดีควรเป็นตอนเย็นๆ)นักกีฬาจะโหมฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อใช้ไกลโครเจนที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อไปให้มากที่สุด และกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตแต่น้อย ในช่วง 3 วันต่อมา นักกีฬาจะฝึกซ้อม เบาลงแต่ยังคงกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต
น้อย ในวันที่ 5 และ 6 ของสัปดาห์ นักกีฬาจะเพิ่มอาหารคาร์โบไฮเครตมากขึ้นและผ่อนการ ซ้อมลงไปอีก ครั้นถึงวันสุดท้ายก่อนวันแข่งขันจึงกินคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นอีก และพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในวันรุ่งขึ้น วิธี “อัดพลังคาร์โบไฮเดรต” ดังกล่าวมีหลักการดังนี้คือ กล้ามเนื้อที่มีไกลโครเจนต่ำเมื่อได้รับคาร์โบไฮเดรตเข้าไปในปริมาณมากกล้ามเนื้อจะชดเชยความขาดแคลนโดยรับไกลโครเจน เข้าไปสะสมไว้ในปริมาณมากกว่าปกติอยู่เป็นระยะสั้นๆ ซึ่งร่างกายสามารถนำพลังงานส่วนเกินนี้มาใช้ในระหว่างแข่งขันช่วยให้มีพลังสำรองมากขึ้นเมื่อปฏิบัติตามหลักโภชนาการเช่นนี้ นักวิ่งมาราธอนเอกบางรายพบว่า ตนมีสมรรถนะดีขึ้นมาก"""""" วันสุดท้ายอย่าลืม อัดข้าว ขนมปัง มะพร้าว ถั่ว ให้มาก พลังติดเทอร์โบ โชคดีทุกท่าน
เอามาฝากอีกดอก

Re: โกยาว & เจ๊ณี

โพสต์: 04 มี.ค. 2013, 14:51
โดย panom_cat
hindo เขียน:วันนี้เอาบทความเกี่ยวกับการฝึกหายใจมาฝากครับ มีประโยชน์มากๆครับ ทำให้เหนื่อยยากขึ้นก็ทำให้เราปั่นจักรยานได้สนุกมากขึ่นด้วย


หัดหายใจ..กันบ้างดีมั๊ย.....
หลังจากเราฝึกให้หัวใจเราทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ฝึกกล้ามเนื้อให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ตามหน้าที่แล้ว ยังไม่เห็นมีใครพูดถึงเรื่องการหายใจกันเลย อยากให้ช่วยเสนอความรู้ทางด้านนี้กันมาบ้างนะครับ เพราะยังเห็นหลายคนหายใจกันผิดวิธีอยู่ ผมมีวิธีที่จะนำมาให้หัดกันนะครับ
.....การหายใจโดยส่วนมาก คนเรามักจะหายใจเข้าในระยะเวลาสั้นแล้วหายใจออกทำให้การนำเอาอ๊อกซิเจนไปใช้ได้ไม่สมบูรณ์ถ้าเราหัดฝึกลมหายใจเข้าช้าๆๆและยาวๆโดยตอนหายใจเข้าให้ลมเข้าไปในช่องท้อง (ไม่ใช่หน้าอกนะครับ) ตอนนี้ท้องจะพองขึ้น หลายคนเมื่อเจออากาศบริสุทธ์มักจะหายใจเข้าแล้วหน้าอกยกขึ้น วิธีนี้จะไม่ทำให้อากาศเข้าไปแลกเปลี่ยน กับอากาศเสียที่อยู่ในร่างกายได้มากเท่ากับการหายใจโดยใช้หน้าท้อง หลังจากหายใจเข้าแล้วให้ให้กลั้นลมหายใจสักครู่แล้วผ่อนลมหายใจออก จะรู้สึกว่าลมที่ออกมาอุ่นๆ เพราะอากาศได้ช่วยระบายความร้อนในร่างกายออกมาและยังระบายลมในช่องท้องออกมาด้วย ควรฝึกหายใจแบบนี้ในตอนเช้าวันละประมาณ 20-30 รอบหายใจ หรือในตอนที่ว่างๆตอนทำงานก็ได้ครับ แล้วคุณลองมาสังเกตุหลังจากที่เราหัดหายใจมาแล้วสัก 5-6วัน อาการของคนที่เหนื่อยง่าย หรือหายใจไม่ทัน จะมีอาการดีขึ้น และสมาธิในการทำงาน หรือสมาธิการปั่นของเราจะดีขึ้นครับและในการชีวิตประจำวัน หากเราหายใจให้ลึกกว่าเดิมที่เป็นอยู่สักนิดหนึ่งในทุกๆครั้งที่เราหายใจ แต่ต้องอาศัยการฝึกนะครับ ตอนแรกๆอาจจะอึดอัดบ้าง แต่หลังๆจะชินครับ ให้ลองจับลมหายใจของเราใน 1 นาที ดูในตอนแรกก่อนฝึกจะอยู่ที่ประมาณ 17-24 ครั้ง (นับลมหายใจเข้าหรือออกอย่างเดียวนะครับ)หลังจากที่เราฝึกแล้วลมหายใจปกติบางคนอาจทำได้ถึง 10 หรือน้อยกว่าครับ หากเราหายใจยาวขึ้นในทุกๆลมหายใจ เราย่อมได้เปรียบคนอื่นแน่นอนครับอย่างน้อยก็สุขภาพของคุณเองนะครับ ลองหัดดูนะครับ หากใครมีความรู้เพิ่มเติมจะแนะนำชาวสมาชิกขอขอบคุณมากนะครับ................. ต่อไปจะได้หายใจกันเต็มปอดซะที
เอามาฝากดอก 3

Re: โกยาว & เจ๊ณี

โพสต์: 04 มี.ค. 2013, 14:54
โดย panom_cat
ภาพคุณ hindo
รูปภาพ