nbt เขียน:แล้วเจอกันครับ เตรียมเดินทางพรุ่งนี้เช้าแล้ว
ปีนี้ผมกะไปล้างตา แค้นนี้ 10 ปียังมิลางลืม บันทึกที่ผมปั่นขึ้นเมื่อปี 46 http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=14586
ฝากคลิปบรรยากาศปีที่แล้วครับ
ความเห็นที่ 11
ปีนี้สบักสบอมกว่าปีที่แล้วเยอะครับ จำได้ดีว่าวันปีใหม่ที่แล้วผมปั่นขึ้นมาแบบเหนื่อยสุดๆพักนับไม่ถ้วนกว่าจะปั่นขึ้นถึงยอดเขา ปีนี้กะมาล้างตาให้ได้ ซ้อมปั่นขึ้นเขาใหญ่บ่อยครับเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ
วันนั้นเราเริ่มปั่นจากแยกน้ำตกแม่กลาง 13 คนเท่าที่จำได้คือ คุณตั๊ม velocity ,ฟาง, พิน ,แคน,แจ๊ค,ฟิว,โบอิ่ง,อ้วน velo ,และจากกทมคือ nbt,สุบิน,พี่วิริ,พี่ kirk และก็เจอคุณมัดหวาและลูกชายที่ที่ทำการด้วยครับ
ขอโม้ให้ฟังก่อนว่า ไมล์ติดรถผมที่ใช้วันนี้คือ specialize SpeedZone Pro เป็นรุ่นเดียวที่แสดงค่าความชันได้เป็น GR% (โดยค่านี้ถ้าแสดงค่า 10% ก็หมายถึงความสูงก็เพิ่มขึ้น 10 เมตรที่ระยะทางปั่น 100 เมตร ) ดังนั้นผมจะรายงานค่านี้บ่อยหน่อยนะครับ เพื่อเป็นข้อมูลของผู้ที่อยากมาปั่นที่นี่
เราเริ่มปั่นกัน 10:00 โดยเราจะไปพักทานกลางวันที่ที่ทำการ ระยะทางประมาณ 24 กม. โดยสภาพเส้นทางแรกๆก็ไปเรื่อยๆ พอช่วงกลางๆเริ่มขึ้นเรื่อยๆยาวๆหลายกิโลระดับ 10% พอถึงช่วงใกล้ที่ทำการอุทยานที่เราจะพักกินข้าวกัน ทางเริ่มชันขึ้นยาวๆระดับ 12-14% ทางช่วงท้ายชันขึ้น ผมจำได้ว่าปีที่แล้ว ผมยังต้องหยุดพักสองครั้งและใช้เวลาถึงที่ทำการกว่าสองชั่วโมงเศษ แต่ปีนี้ผมปั่นได้รวดเดียวขาไม่ต้องแตะพื้นใช้วลาประมาณ 1:50 ชั่วโมง อ้า..เริ่มใจชื้นขึ้นแล้ว ปีนี้คงฟิตมากขึ้นเยอะ คงจะปั่นถึงยอดแบบสบายๆแน่ๆ ....(มารู้ทีหลังว่าแทบตายยย)
พอเราพักทานข้าวกันเรียบร้อย 13:00 ก็เริ่มปั่นขึ้นกัน ช่วงหลังนี้แหละครับ ไครแมกซ์ของเส้นทาง ระยะทาง 16กม. แต่ทางชันและยาวๆๆกันตลอดครับ ผมออกทีหลังสุดเพราะมัวเสียเวลากับเจ้า GPS ทางช่วงแรกๆนี้ก็เริ่มชันกันที่ 12-13% ยืนพื้นเลยครับ บางช่วงก็ชันขึ้นถึง 15% ไม่นานผมก็เริ่มแซงบรรดาเสือภูเขามาเรื่อยๆเพราะเสือหมอบมันเกียร์เบาสุดมันก็หนักกว่าเสือภูเขาแหละครับ ปั่นช้ากว่านี้ไม่ได้ อ้อ ลืมบอกไปผมเซตรถเหมือนปีที่แล้วใช้เฟืองท้ายเสือภูเขา 34ฟัน ส่วนจานหน้าสองใบปกติ เกียร์เบาสุดก็ 39-34 ครับ
ปีนี้ผมเริ่มรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาเก่าเยอะ ผมผ่านจุดที่ชันที่สุดที่จุดชมวิว ความชันระดับ 17-18% ได้อย่างไม่ยากเย็น เทียบกับที่ปีแล้วเคยต้องมาจอดนั่งพักปาดเหงื่อกันแฮกๆ ปั่นผ่านพระธาตุที่ชันพอๆกันที่ 16-17% วันนี้ผมตั้งใจปั่นให้ถึงยอดโดยขาไม่แตะพื้นให้ได้ แต่ทางมันทำไมชันกันไม่หยุดเลยเนี่ย ช่วงหลังผ่านพระธาตุมาก็ไม่ชันมากนักประมาณ 11-13% ปั่นมาสองชั่วโมงกว่า ขาผมเริ่มล้าเล็กน้อย ส่วน heartrate ยังสบายไม่ค่อยเหนื่อยขึ้นไม่เกิน 85%เท่านั้น
แต่อีกแค่ 2กิโลเท่านั้นก็จะถึงยอดแล้ว ต้นขาซ้ายผมเริ่มกระตุกจะเป็นตะคริวแล้วดิเว้ย ต้องเปลี่ยนมาใช้ขาขวากดและดึงแทน กัดฟันสู้เต็มที่ ช่วงท้ายๆนั้หมอกลงจัดและหนาวมาก ในระยะ20 เมตรก็มองไม่เห็นรถข้างหน้าแล้ว รถยนต์ที่ผ่านไปมาให้กำลังใจกันเยอะมากครับ หลายคนคงตกใจและรู้สึกสมเพศที่ผมปั่นไปด้วย พร้อมกับใช้มือซ้ายช่วยกดที่หัวเข่าแทนขาซ้าย เกือบจะถึงแล้วๆๆ แล้วขาขวาก็เริ่มเป็นตะคริวตามมาอีก จนในที่สุดผมต้องยอมแพ้ยอมเอาขาแตะพื้นจนได้ นั่งพักนั่งนวดอยู่ซักยี่สิบนาที ก็เจอพี่วิริเข็นแซงไปนิ่มๆ พอตะคริวมันขึ้นแล้วเนี่ย จะเริ่มปั่นก็ลำบากไปหมด เพราะทางมันชันแล้วบันไดเสือหมอบมันก็ใส่ยากด้วยซิ ปั่นซิกแซกประคองตัวกันสุดชีวิตกับระยะกิโลเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ จนในที่สุดก็ปั่นถึงยอดด้วยระยะเวลาเกือบสามชั่วโมงแบบสะบักสะบอมที่สุดในชีวิตเลยแหละครับ ... เหอๆๆๆ
สรุปแล้วดอยอินทนนท์ก็ยังถือว่าเป็นสุดยอดทางขึ้นเขาโหดและท้าทายที่สุดเท่าที่ผมเคยไปปั่นมาจริงๆครับ ปีนี้ถึงผมจะฟิตขึ้น แต่ยังแข็งไม่พอที่จะปั่นรวดเดียวโดยไม่พัก คงทรมานขามันมากจนมันทนไม่ไหว ไม่เหมือนปีแล้ว ไม่รู้เส้นทางมาก่อน อยากพักก็พักไม่คิดมาก บนยอดอุณหภูมิ 13 องศา ฝนตกปรอยๆถนนลื่นด้วย ขาลงมีคุณตั๊มปั่นลงคนเดียว นับถือจริงๆปั่นได้ไง หนาวและอันตรายขนาดนั้น ที่เหลือนั่งรถตู้กันหมดครับ ขึ้นรถก็หลับกันหมดเลยแหละครับ .... สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณตั๊ม veocity และครอบครัวมากครับ ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี และให้ความรู้เรื่องจักรยานขึ้นอีกหลายอย่าง ใครผ่านมาเชียงใหม่ อย่าลืมมาแวะที่ร้าน velocity นะครับ ไม่ผิดหวัง
From : nbt [ 2 ม.ค. 46 - 23:24:05 น. ]
http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=14586