บางบทสำหรับผู้เริ่มต้น

[เสือ Spectrum]

ถึลตอนนี้ก็ประมาณเดือนแล้วผมขยายการปั้นถึง30กมแล้วครับแต่ไม่หัโหมค่อย ๆ เพิ่มครับแต่หน้าดำนีซิทาครีมกันแดดค่าเท่าไรดีครับถ้าหน้าโดนแดดเผากร้านแล้วจะแก้ยังงัยดีครับ(ยังห่วงหล่ออยู่แม้มันจะเหลือน้อยเต็มที)ขอบคุณทุกคำตอบเลยครับ

ตอนนี้แดดฤดูร้อนแรงมากครับ ครีมกันแดดก็อาจจะเอาไว้ไม่อยู่เนื่องจากเหงื่อจะละลายครีมกันแดดออกไปหลังปั่นฯ เกินกว่า 1 - 2 ชั่วโมงแล้วครับ

อีกทางเลือกหนึ่งคือ ผ้า Buff ตอนนี้ฮิตมากในกระดานซื้อ-ขายครับ ลองตามหาอ่านรายละเอียดดูครับ

ทางเลือกอื่นๆ ที่เคยเห็นใช้กันก็คือใส่หมวกใหมพรมแบบไอ้โม่ง แต่ก็จะร้อนและหายใจไม่ค่อยออกเวลาเหนื่อยครับ แล้วก็ห้ามปั่นฯ ไปหน้าธนาคารนะครับ เดี๋ยวจะโดนข้อหาว่าเตรียมการมาปล้น

ล่าสุดเห็นเพื่อนผมใช้หมวกคลุมหน้าของ BB Gun ครับเพราะมีช่องหายใจตรงจมูกทำให้หายใจได้ง่ายหน่อยครับ และผ้าก็เบาทำให้ไม่รำคาญมากครับ

[เฒ่า mtb]

ผมสิ..ยิ่งแก่ 68 ปี ปั่นจักรยานมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ใช้จักรยาน MEREDA MATTS SUB 5 ปั่นเพื่อสุขภาพ
เช้า 1 ชั่วโมง เย็น 1 ชั่วโมง บนทางเรียบ ความเร็วถัวเฉลี่ย 19 - 20 นน. จานหน้า 6 จานหลัง 2 ก่อนปั่น นน.82 ตอนนี้เหลือ 71
ขอถาม ลูกๆ หลานๆ น้องๆ หน่อย ขนาดที่ว่ามา หนักไป หรือเบาไป เพราะมาปั่นจักรยาน ไม่เคยรู้เรื่องเลย ไปซื้อจักรยาน แค่บอกร้านขาย จะซื้อจักรยานไปปั่นเพื่อสุขภาพ เขาก็ขายรุ่นนี้ให้ ซื้อจักรยานที่ชมรมเสือภูเขา

[เสือ Spectrum]

ขอถาม ลูกๆ หลานๆ น้องๆ หน่อย ขนาดที่ว่ามา หนักไป หรือเบาไป เพราะมาปั่นจักรยาน ไม่เคยรู้เรื่องเลย ไปซื้อจักรยาน แค่บอกร้านขาย จะซื้อจักรยานไปปั่นเพื่อสุขภาพ เขาก็ขายรุ่นนี้ให้ ซื้อจักรยานที่ชมรมเสือภูเขา

ร่างกายเราจะบอกตัวเองครับ

กลับมาบ้าน "แทบสลบ" หรือยังทำกิจกรรมอื่นต่อได้อีกละครับ แล้วมีอาการปวดเมื่อย หรือปวดหัวเข่าหรือไม่ครับ ถ้าไม่มีก็ "สบาย" ครับ ไม่ต้องกังวลอะไร

กิจกรรมการซ้อมในแต่ละวันจะไม่ค่อยเหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับความฟิตของร่างกาย สภาพถนนและสภาพอากาศ บ้างฤดูลมแรงมาก ปั่นฯ แค่ครึ่งชั่วโมงก็แทบหมดแรงแล้วครับ

เมื่อ กลางสัปดาห์ที่แล้วมีรายการ "ไทยมุง" สถานี ThaiPBS คุยกันเรื่องการออกกำลังเพื่อสุขภาพครับ มีแง่มุมที่น่าสนใจดี แต่ผมก็จำสาระไม่ได้ทั้งหมด และก็ไม่ทราบชื่อผู้บรรยายรับเชิญเพราะมาเปิดดูตอนช่วงกลางรายการแล้ว

จำได้บ้างนิดหน่อยว่า

- การออกกำลังแบบ Aerobic (เน้นความ "อึด" มากกว่าเน้นความ "แรง") จะเหมือนการฟอกเลือดให้สะอาดและสภาพเลือดที่ดีนั้นจะอยู่ได้ประมาณ 48 ชั่วโมง ดังนั้นการออกกำลังเพื่อสุขภาพจะทำแบบ "วันเว้นวัน" ก็ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม :- หากมีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เอ็น ชนิดไม่รุนแรง ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้ถายใน 72 ชั่วโมง (ประมาณ 3 วัน) ดังนั้นหากปั่นฯ แล้วเจ็บกล้ามเนื้อก็ควรจะเว้นเวลาพักฟื้นประมาณ 3 วันครับ

พิธีกรถามว่าออกกำลังวันเว้นวันดีหรือออกกำลังทุกวันดีกว่า

คำตอบ :- ร่างกายเปรียบได้กับเครื่องยนต์ รถยนต์คันที่ "ขับทุกวัน" เทียบกับรถยนต์ที่ "ขับวันเว้นวัน" คันหลังย่อมอยู่ได้นานกว่าครับ

[techhno]

555 และ 555 ผมนึกว่าตัวแก่ที่ไหนใด้ยังมีคนชราอยู่นะที่สนใจด้านนี้ พันธมิตรที่ต้องรวมกลุ่ม เพื่อสุขภาพ สำหรับผมแล้วถือว่าคงต้องศึกษาอีกมาก เพิ่งปั่นเดือนกว่าใด้สมาชิกกลุ่มหนึ่งที่สนใจ คงต้องหาเวลาเห็นมีลูกศิษย์หลายคนที่เดยเล่นทีมชาติ มาแนะนำอย่างถูกวิธีต่อไป ขอบคุณสำหรับ คนชราที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

[จอห์น ไดมอนด์]

ขอบคุณข้อมูลครับ...ถึงผมยังหนุ่มๆอยู่ แต่กระทู้นี้ข้อมูลแน่นปึ้กเลยครับ

ผมเพิ่งเริ่มปั่นฯครับ ได้จักรยานมาจากพี่ที่รู้จักอีกที พอได้ลองนั่นอ่านเว็บบอร์ดนี้ รู้สึกว่าที่นี่ก็อบอุ่นไม่แพ้ที่อื่นๆเหมือนกัน
อยากออกกำลังกายบ้าง ปกตินั่งทำงานOfficeและเล่นดนตรีงานนอกบ้างบางวัน ช่วงนี้วันไหนไม่ได้ขึ้นเวรที่ทำงาน ไม่ได้เล่นดนตรี
ผมก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะออกกำลังการโดยการปั่นฯ เท่าที่ทบทวนดูBalanceชีวิตน่าจะดีขึ้น เสริมกัน3ด้าน 1.งาน(หาเลี้ยง)2.ศิลปะ+งานเสริม(ดนตรี)3.สุขภาพ(ปั่นฯ)
การปั่นฯนั้นน่าสนใจมาก เท่าที่ทราบดีกว่าวิ่งตรงที่ข้อเข่าไม่เสีย และได้ชมบรรยายกาศของข้างทาง มีลมเย็นๆปะทะตลอดเวลา

ยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

[เสือ Spectrum]

การปั่นฯนั้นน่าสนใจมาก เท่าที่ทราบดีกว่าวิ่งตรงที่ข้อเข่าไม่เสีย

มีข้อแม้ว่าต้องไม่เพลินจนลืมดูอาการของร่างกายครับ ที่ความเร็วสูง (30 กม./ชม. ขึ้นไป) บางทีแรงกดที่ใช้กับบันใดนั้นมันหนักเอาเรื่องครับ แต่วิว 2 ข้างทาง ลมเย็นๆ และความสนุกที่ได้ปั่นฯ เร็วก็ทำให้เราลืมไปครับ

หากสังเกตุดีๆ จะพบอาการตึงๆ ที่หัวเข่าครับ หากเกียร์ที่ใช้แล้วมีอาการอย่างนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้เกียร์นั้นเหมือนกันครับ

เกียร์ที่ไม่ทรมาณหัวเข่ามาก เวลาปั่นฯ จะรู้สึกเบา สบายครับ

[tpc]

ช่วงของการฝึกฝน
TRAINING ZONES

1.Healthy Heart Zone (Warm up) --- 50 - 60% of maximum heart rate: The easiest zone and probably the best zone for people just starting a fitness program. It can also be used as a warm up for more serious walkers. This zone has been shown to help decrease body fat, blood pressure and cholesterol. It also decreases the risk of degenerative diseases and has a low risk of injury. 85% of calories burned in this zone are fats!

2.Fitness Zone (Fat Burning) --- 60 - 70% of maximum heart rate: This zone provides the same benefits as the healthy heart zone, but is more intense and burns more total calories. The percent of fat calories is still 85%.

3.Aerobic Zone (Endurance Training) --- 70 - 80% of maximum heart rate: The aerobic zone will improve your cardiovascular and respiratory system AND increase the size and strength of your heart. This is the preferred zone if you are training for an endurance event. More calories are burned with 50% from fat.

4.Anaerobic Zone (Performance Training) --- 80 - 90% of maximum heart rate: Benefits of this zone include an improved VO2 maximum (the highest amount of oxygen one can consume during exercise) and thus an improved cardiorespiratory system, and a higher lactate tolerance ability which means your endurance will improve and you'll be able to fight fatigue better. This is a high intensity zone burning more calories, 15 % from fat.

5.Red Line (Maximum Effort) --- 90 - 100% of maximum heart rate: Although this zone burns the highest number of calories, it is very intense. Most people can only stay in this zone for short periods. You should only train in this zone if you are in very good shape and have been cleared by a physician to do so.

สำหรับผม ไต่จากzone1. 2. 3. แล้วค้างที่zone4. แล้วไต่ลง3. 2. 1.
ส่วน zone5.ไม่คิดลองเพราะว่าผมไม่ใช่นักกีฬา ซึ่งต้องอยู่ในการควบคุมทั้งเครื่องมือและผู้เชี่ยวชาญ

[meepoo]

ใครพอจะช่วยแปลให้หน่อยดิ..
เผื่อเป็นวิทยาทาน องค์ความรู้ .. สักนิด