ยังไงเป็นเสือก็ต้องมีลายครับ แต่จะได้จากทางเรียบหรือลูกรังก็สุดแล้วแต่จะเลือกเอาเสือสองแคว เขียน:สรุปช่วยลงรายละเอียดการเดินทางด้วยครับว่า สมาชิกท่านใดที่จะไปแพร่ หรือ บ้านกง เพราะว่าตอนนี้ผมก็สับสนอยู่เหมือนกัน เพราะว่าที่บ้านกงไม่มีรุ่นแห้งศักดิ์เลย ถ้ามีใครไปแพร่อาจไปด้วยครับ อีกอย่างไม่ค่อยถนัดเรียบ ๆ อย่างนี้สักเท่าไร กลัวเกี่ยวกันล้ม โดยเฉพาะเวลาสปิ๊นหน้าเส้นอันตรายสุด ๆ
คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
ผู้ดูแล: จ่าเยิ้ม
กฏการใช้บอร์ด
ชื่อกลุ่ม ...."เสืออู่ทอง พิษณุโลก"
ผู้ดูแล......พ.อ.อ.มานะชัย เดชาสิริบูรณ์ (จ่าเยิ้ม)
ที่อยู่........9/42 ม.4 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 (โทร. 086-705-1600)
ชื่อกลุ่ม ...."เสืออู่ทอง พิษณุโลก"
ผู้ดูแล......พ.อ.อ.มานะชัย เดชาสิริบูรณ์ (จ่าเยิ้ม)
ที่อยู่........9/42 ม.4 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 (โทร. 086-705-1600)
- เสืoเo 511
- ขาประจำ
- โพสต์: 939
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 15:17
- Tel: 089-9583669
- team: เด็กโรงกลึง พิษณุโลก
- Bike: S-Works
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
ล้มแล้วจงลุกใหม่ จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์
- pun
- ขาประจำ
- โพสต์: 243
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 21:40
- Tel: -
- team: AIRPORT GROUP PHITSANULOK
- Bike: CANNONDALE
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
มิตร เขียน:โอยปวดหัว เลือกไม่ถูกว่าจะไปโขทัย หรือไปแพร่ดี โอย...โอย....โอย...เลือกไม่ถูกนอนอยู่บ้านดีกว่า
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3991
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 13:31
- Tel: 09-0505-3111
- team: Phitsanulok
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
ใช่เลย เสือต้องมีลาย ตามแขน ตามขา ลายเพียบจากไม่เคยมีลาย ก็ต้องมีลายเสืoเo 511 เขียน:ยังไงเป็นเสือก็ต้องมีลายครับ แต่จะได้จากทางเรียบหรือลูกรังก็สุดแล้วแต่จะเลือกเอาเสือสองแคว เขียน:สรุปช่วยลงรายละเอียดการเดินทางด้วยครับว่า สมาชิกท่านใดที่จะไปแพร่ หรือ บ้านกง เพราะว่าตอนนี้ผมก็สับสนอยู่เหมือนกัน เพราะว่าที่บ้านกงไม่มีรุ่นแห้งศักดิ์เลย ถ้ามีใครไปแพร่อาจไปด้วยครับ อีกอย่างไม่ค่อยถนัดเรียบ ๆ อย่างนี้สักเท่าไร กลัวเกี่ยวกันล้ม โดยเฉพาะเวลาสปิ๊นหน้าเส้นอันตรายสุด ๆ
- จ่าเยิ้ม
- ขาประจำ
- โพสต์: 8698
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 14:15
- Tel: 0613635515
- team: Cyclemania-Trek-Probike
- Bike: TREK Madone 9 / TREK Superfly AL
- ตำแหน่ง: 68/2 ถ.วิสุทธิกษัติย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
- ติดต่อ:
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
แพร่ สนามเป็นทางไม่ยาก รถยนต์วิ่งได้ รอบเดียว เส้นทางแบบถูกใจเด็กโรงกลึงเลยครับ
มีใครเปลี่ยนใจบ้างมั้ย ตอนนี้ที่ไปคือ อ.ธี พี่ใหญ่ พี่สมชายกำลังตัดสินใจ
มีใครเปลี่ยนใจบ้างมั้ย ตอนนี้ที่ไปคือ อ.ธี พี่ใหญ่ พี่สมชายกำลังตัดสินใจ
Cyclemania Phitsanulok
- ธีระวัฒน์ สิทธิวงศ์
- ขาประจำ
- โพสต์: 329
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 22:16
- Tel: 0814755968
- team: ชมรมจักรยานเทศบาลนครพิษณุโลก
- Bike: specialized m-5
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
หากใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปไหนดี..โทรหาหนูสิคะ 081-357-11-38มิตร เขียน:โอยปวดหัว เลือกไม่ถูกว่าจะไปโขทัย หรือไปแพร่ดี โอย...โอย....โอย...เลือกไม่ถูกนอนอยู่บ้านดีกว่า
- ไฟล์แนบ
-
- โทร.มานะคะ
- เด็ก1.jpg (30.29 KiB) เข้าดูแล้ว 534 ครั้ง
- เสือสองแคว
- ขาประจำ
- โพสต์: 2120
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 11:07
- Tel: 096-9488-099
- team: อิสระ
- Bike: giant xtc team
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
รถยนต์วิ่งได้นี่ไม่ใช่ทางราดยางนะครับเดี๋ยวจะกลายเป็นหนีทางราบไปเจอทางเรียบ ถ้างั้นผมขอเปลี่ยนใจไปแพร่ก็แล้วกันครับ ออกเดินทางกันวันไหนเช้าวันเสาร์เลยหรือเปล่า ผม+แห้งศักดิ์ ครับ เผื่อที่นั่งไว้ให้ด้วยจ่าเยิ้ม เขียน:แพร่ สนามเป็นทางไม่ยาก รถยนต์วิ่งได้ รอบเดียว เส้นทางแบบถูกใจเด็กโรงกลึงเลยครับ
มีใครเปลี่ยนใจบ้างมั้ย ตอนนี้ที่ไปคือ อ.ธี พี่ใหญ่ พี่สมชายกำลังตัดสินใจ
- เสือสองแคว
- ขาประจำ
- โพสต์: 2120
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 11:07
- Tel: 096-9488-099
- team: อิสระ
- Bike: giant xtc team
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
สงสัยว่าทำใมถึงตั้งชื่อว่าถ้ำผานางคอย ลองไปหาในกู๊กเกิล ได้มาเท่านี้ลองอ่านดูครับ ไม่รู้ว่าคนสมัยนี้จะมีความรักที่เหนียวแน่น เหมือนเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์องค์นี้หรือเปล่า
อรัญญานี..จะคอยพี่...อยู่ที่นี่
แม้ร้อยปี....นานเท่านาน....ยังคงหวัง
ขอเฝ้าคอย...แม้จะสิ้น....ลมพลัง
ชาติหน้ายัง...คงคอยพี่...อยู่ที่เดิม
ถ้ำผานางคอยอยู่ที่บ้านผาหมู อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่นี้มีความสวยงาม มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำนางคอย ปัจจุบันจึ่งมักนิยมเรียกว่า ถ้ำผานางคอย ตัวถ้ำอยู่บนผาสูงประมาณ 50 เมตร หน้าถ้ำมีลานหินกว้าง ตัวถ้ำมีความลึก ที่มีลักษณะยาวขนานไปในระดับพื้นดินประมาณ 150 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ภายในถ้ำเป็นพี้นดินเรียบ บางตอนมีเหวลึก ผนังถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ส่งแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อต้องแสงสว่างไปตลอดความยาวของถ้ำ เมื่อเกือบถึงปากสุดของถ้ำที่ทะลุมีทางออกกว้าง ปริเวณกลางถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน เรียกว่า ผานางคอย เป็นจุดสำคัญของถ้ำนี้ เกือบถึงปลายถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ให้ประชาชนได้นมัสการ
ตำนานที่ ๑
ณ ถ้ำแห่งนี้เองที่มีตำนานความรักระหว่างทหารต่ำศักดิ์กับเจ้าหญิง(เจ้านาง)สูงศักดิ์คู่หนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ พ.ศ.1700 อาณาจักรแสนหวีมีความเจริญรุ่งเรืองมาก(สันนิษฐานว่าแสนหวีในที่นี้คือแสนหวีที่สิบสองปันนาหรือที่เชียงรุ่ง ไม่ใช่แสนหวีหลวงเมืองเงี้ยว) กษัตริย์ปกครองอย่างสงบสุข พระองค์ทรงมีราชธิดาองค์หนึ่งมีสิริโฉมงดงามมาก มีน้ำพระทัยดี มีพระนามว่า เจ้าหญิงอรัญญานี ครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงได้เสด็จโดยชลมารคแล้วเรือล่ม หัวหน้าฝีพายได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงไว้ได้ ทั้งสองจึงเกิดรักกัน จนเจ้าหญิงทรงครรภ์ พระราชบิดาทราบเรื่องก็ทรงพิโรธ จึงได้ขังเจ้าหญิงไว้ แต่ฝ่ายชายก็หาโอกาสช่วยพาหนีลงมาทางใต้ โดยมีกองทหารไล่ตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อมาทันที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงถูกยิงด้วยธนู ฝ่ายชายจึงพาไปหลบซ่อนในถ้ำเพื่อรักษาพยาบาล เจ้าหญิงเห็นว่าทหารกำลังตามมา จึงให้ฝ่ายชายหนีไปก่อน และบอกว่าจะคอยฝ่ายชายอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไป ถ้ำนี้จึงได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย หรือถ้ำนางคอย
ตำนานที่ ๒
อีกตำนานบอกว่า หัวหน้าฝีพายพานางหนีไปอยู่ในถ้ำ และออกไปหาอาหาร เคราะห์ร้ายทหารตามมาพบและจัดการสังหารเขาเสีย องค์หญิงรู้ว่า สามีคงเสียชีวิตแล้ว จึงตั้งอธิษฐานว่า จะรอคอยให้สามีกลับมาตลอดไป ด้วยอานุภาพสัจจะ นางจึงกลายเป็นหิน เงยหน้ามองปากถ้ำ รอคอยการกลับมาของชายคนรักจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้.
ตำนานที่ ๓
อีกตำนานบอกว่า เมื่อเจ้าครองนครทรงทราบก็สั่งให้ทหารออกติดตามคนทั้งสอง ทหารขี่ม้าทันทั้งสองคนที่ซอกเขาแห่งหนึ่ง และยิงธนูไปหมายจะเอาชีวิตชายหนุ่ม แต่ธนูพลาดไปถูกนางอรัญญนีได้รับบาดเจ็บสาหัส สามีของนางจึงพานางเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ นางอรัญญนีรู้ตัวว่า คงไม่รอดชีวิต จึงขอร้องให้สามีหนีเอาตัวรอดโดยให้สัญญาว่าจะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ชาย หนุ่มจึงจำใจต้องจากไปตามคำขอร้องของนาง ส่วนนางอรัญญนีก็นั่งมองดูสามีควบม้าหนีห่างไปจนลับตา และสิ้นใจตายอยู่ในถ้ำแห่งนั้นลานที่นางนั่งดูสามีควบม้าจากไปนั้น ต่อมาเรียกว่า ลาน นางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานาง
อรัญญานี..จะคอยพี่...อยู่ที่นี่
แม้ร้อยปี....นานเท่านาน....ยังคงหวัง
ขอเฝ้าคอย...แม้จะสิ้น....ลมพลัง
ชาติหน้ายัง...คงคอยพี่...อยู่ที่เดิม
ถ้ำผานางคอยอยู่ที่บ้านผาหมู อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่นี้มีความสวยงาม มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำนางคอย ปัจจุบันจึ่งมักนิยมเรียกว่า ถ้ำผานางคอย ตัวถ้ำอยู่บนผาสูงประมาณ 50 เมตร หน้าถ้ำมีลานหินกว้าง ตัวถ้ำมีความลึก ที่มีลักษณะยาวขนานไปในระดับพื้นดินประมาณ 150 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ภายในถ้ำเป็นพี้นดินเรียบ บางตอนมีเหวลึก ผนังถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ส่งแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อต้องแสงสว่างไปตลอดความยาวของถ้ำ เมื่อเกือบถึงปากสุดของถ้ำที่ทะลุมีทางออกกว้าง ปริเวณกลางถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน เรียกว่า ผานางคอย เป็นจุดสำคัญของถ้ำนี้ เกือบถึงปลายถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ให้ประชาชนได้นมัสการ
ตำนานที่ ๑
ณ ถ้ำแห่งนี้เองที่มีตำนานความรักระหว่างทหารต่ำศักดิ์กับเจ้าหญิง(เจ้านาง)สูงศักดิ์คู่หนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ พ.ศ.1700 อาณาจักรแสนหวีมีความเจริญรุ่งเรืองมาก(สันนิษฐานว่าแสนหวีในที่นี้คือแสนหวีที่สิบสองปันนาหรือที่เชียงรุ่ง ไม่ใช่แสนหวีหลวงเมืองเงี้ยว) กษัตริย์ปกครองอย่างสงบสุข พระองค์ทรงมีราชธิดาองค์หนึ่งมีสิริโฉมงดงามมาก มีน้ำพระทัยดี มีพระนามว่า เจ้าหญิงอรัญญานี ครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงได้เสด็จโดยชลมารคแล้วเรือล่ม หัวหน้าฝีพายได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงไว้ได้ ทั้งสองจึงเกิดรักกัน จนเจ้าหญิงทรงครรภ์ พระราชบิดาทราบเรื่องก็ทรงพิโรธ จึงได้ขังเจ้าหญิงไว้ แต่ฝ่ายชายก็หาโอกาสช่วยพาหนีลงมาทางใต้ โดยมีกองทหารไล่ตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อมาทันที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงถูกยิงด้วยธนู ฝ่ายชายจึงพาไปหลบซ่อนในถ้ำเพื่อรักษาพยาบาล เจ้าหญิงเห็นว่าทหารกำลังตามมา จึงให้ฝ่ายชายหนีไปก่อน และบอกว่าจะคอยฝ่ายชายอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไป ถ้ำนี้จึงได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย หรือถ้ำนางคอย
ตำนานที่ ๒
อีกตำนานบอกว่า หัวหน้าฝีพายพานางหนีไปอยู่ในถ้ำ และออกไปหาอาหาร เคราะห์ร้ายทหารตามมาพบและจัดการสังหารเขาเสีย องค์หญิงรู้ว่า สามีคงเสียชีวิตแล้ว จึงตั้งอธิษฐานว่า จะรอคอยให้สามีกลับมาตลอดไป ด้วยอานุภาพสัจจะ นางจึงกลายเป็นหิน เงยหน้ามองปากถ้ำ รอคอยการกลับมาของชายคนรักจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้.
ตำนานที่ ๓
อีกตำนานบอกว่า เมื่อเจ้าครองนครทรงทราบก็สั่งให้ทหารออกติดตามคนทั้งสอง ทหารขี่ม้าทันทั้งสองคนที่ซอกเขาแห่งหนึ่ง และยิงธนูไปหมายจะเอาชีวิตชายหนุ่ม แต่ธนูพลาดไปถูกนางอรัญญนีได้รับบาดเจ็บสาหัส สามีของนางจึงพานางเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ นางอรัญญนีรู้ตัวว่า คงไม่รอดชีวิต จึงขอร้องให้สามีหนีเอาตัวรอดโดยให้สัญญาว่าจะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ชาย หนุ่มจึงจำใจต้องจากไปตามคำขอร้องของนาง ส่วนนางอรัญญนีก็นั่งมองดูสามีควบม้าหนีห่างไปจนลับตา และสิ้นใจตายอยู่ในถ้ำแห่งนั้นลานที่นางนั่งดูสามีควบม้าจากไปนั้น ต่อมาเรียกว่า ลาน นางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานาง
- จ่าเยิ้ม
- ขาประจำ
- โพสต์: 8698
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 14:15
- Tel: 0613635515
- team: Cyclemania-Trek-Probike
- Bike: TREK Madone 9 / TREK Superfly AL
- ตำแหน่ง: 68/2 ถ.วิสุทธิกษัติย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
- ติดต่อ:
- เสืoเo 511
- ขาประจำ
- โพสต์: 939
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 15:17
- Tel: 089-9583669
- team: เด็กโรงกลึง พิษณุโลก
- Bike: S-Works
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
ล้มแล้วจงลุกใหม่ จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์
- ธีระวัฒน์ สิทธิวงศ์
- ขาประจำ
- โพสต์: 329
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 22:16
- Tel: 0814755968
- team: ชมรมจักรยานเทศบาลนครพิษณุโลก
- Bike: specialized m-5
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
สรุป..สมาชิกที่ไปแพร่มี 5 คน รถยนตร์ 2 คัน..ดังนี้
รถยนตร์คันที่ 1 มีเสือใหญ่/เสือมิตร/เสือสองแควและแห้งศักดิ์
รถยนตร์คันที่ 2 มีสอธ.(ไปคนเดียวเพราะขากลับจะแวะรับญาติที่อุตรดิตถ์)ยังรับสมาชิกร่วมเดินทางไปได้อีก 2-3 คน
จุดนัดพบ..ปากซอยจัสแม็ค05.00 น. / ล้อหมุนเวลา 05.30 น.(ตื่นทันหรือเปล่าก็ไม่รู้/ไม่เหมือนกลุ่มสว.เขาตื่นกันเช้า)
นอกนั้น..ไปบ้านกง ครับ
ขอให้โชคดีทุกคน..ครับ
รถยนตร์คันที่ 1 มีเสือใหญ่/เสือมิตร/เสือสองแควและแห้งศักดิ์
รถยนตร์คันที่ 2 มีสอธ.(ไปคนเดียวเพราะขากลับจะแวะรับญาติที่อุตรดิตถ์)ยังรับสมาชิกร่วมเดินทางไปได้อีก 2-3 คน
จุดนัดพบ..ปากซอยจัสแม็ค05.00 น. / ล้อหมุนเวลา 05.30 น.(ตื่นทันหรือเปล่าก็ไม่รู้/ไม่เหมือนกลุ่มสว.เขาตื่นกันเช้า)
นอกนั้น..ไปบ้านกง ครับ
ขอให้โชคดีทุกคน..ครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3991
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 13:31
- Tel: 09-0505-3111
- team: Phitsanulok
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
อ.ลือ ก็จะไปด้วย 50-50 (อยู่ระหว่างการขออนุญาต/ยื่นใบลาขอออกนอกพื้นที่ ไม่ทราบว่าจะผ่านหรือเปล่า กลุ่มเสือทุกคนกำลังเอาใจช่วยอยู่นะครับ/ขอให้ผ่า่น)ธีระวัฒน์ สิทธิวงศ์ เขียน:สรุป..สมาชิกที่ไปแพร่มี 5 คน รถยนตร์ 2 คัน..ดังนี้
รถยนตร์คันที่ 1 มีเสือใหญ่/เสือมิตร/เสือสองแควและแห้งศักดิ์
รถยนตร์คันที่ 2 มีสอธ.(ไปคนเดียวเพราะขากลับจะแวะรับญาติที่อุตรดิตถ์)ยังรับสมาชิกร่วมเดินทางไปได้อีก 2-3 คน
จุดนัดพบ..ปากซอยจัสแม็ค05.00 น. / ล้อหมุนเวลา 05.30 น.(ตื่นทันหรือเปล่าก็ไม่รู้/ไม่เหมือนกลุ่มสว.เขาตื่นกันเช้า)
นอกนั้น..ไปบ้านกง ครับ
ขอให้โชคดีทุกคน..ครับ
- จ่าเยิ้ม
- ขาประจำ
- โพสต์: 8698
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 14:15
- Tel: 0613635515
- team: Cyclemania-Trek-Probike
- Bike: TREK Madone 9 / TREK Superfly AL
- ตำแหน่ง: 68/2 ถ.วิสุทธิกษัติย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
- ติดต่อ:
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
ลูกชายป่วยอยู่ รพ.จะได้ไปหรือเปล่ายังไม่รู้เลย...เง้งงง
Cyclemania Phitsanulok
- ธีระวัฒน์ สิทธิวงศ์
- ขาประจำ
- โพสต์: 329
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 22:16
- Tel: 0814755968
- team: ชมรมจักรยานเทศบาลนครพิษณุโลก
- Bike: specialized m-5
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
ประกาศข่าวด่วน..[/size]
ขอรบกวนพี่น้องชาวเด็กโรงกลึงทุกท่านปั่นจักรยานเพื่อถ่ายรูปประกวดเมืองน่าอยู่ประชาชนมีความสุขขององค์การอนามัยโลก...ในวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553 เวลา 06.00 น. ณสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติฯ..แล้วปั่นข้ามสะพานนเรศวร.ไปตามถนนมิตรภาพถึงสี่แยกวัดคูหาสวรรค์..เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหลังราชภัฎ..ถึงสี่แยกไฟแดงเลี้ยวขวาไปตามถนนประชาอุทิศ..เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานสุพรรณกัลยาถึงสามแยกไฟแดงร.ร.วัดจันทร์ตะวันออก..เลี้ยวซ้ายไปตามถนนบรมไตรโลกนารถ..กลับสวนชมน่านแล้วแยกย้ายกลับภูมิลำเนา..ครับ(ใส่ชุดเด็กโรงกลึงครับ)
ขอรบกวนพี่น้องชาวเด็กโรงกลึงทุกท่านปั่นจักรยานเพื่อถ่ายรูปประกวดเมืองน่าอยู่ประชาชนมีความสุขขององค์การอนามัยโลก...ในวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553 เวลา 06.00 น. ณสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติฯ..แล้วปั่นข้ามสะพานนเรศวร.ไปตามถนนมิตรภาพถึงสี่แยกวัดคูหาสวรรค์..เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหลังราชภัฎ..ถึงสี่แยกไฟแดงเลี้ยวขวาไปตามถนนประชาอุทิศ..เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานสุพรรณกัลยาถึงสามแยกไฟแดงร.ร.วัดจันทร์ตะวันออก..เลี้ยวซ้ายไปตามถนนบรมไตรโลกนารถ..กลับสวนชมน่านแล้วแยกย้ายกลับภูมิลำเนา..ครับ(ใส่ชุดเด็กโรงกลึงครับ)
- เสือสองแคว
- ขาประจำ
- โพสต์: 2120
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 11:07
- Tel: 096-9488-099
- team: อิสระ
- Bike: giant xtc team
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
จุดนัดพบ..ปากซอยจัสแม็ค05.00 น.
จุดนัดพบอยู่บริเวณไหนของพิษณุโลกครับกระผม อย่านัดให้ไกลนักเน้อเดี๋ยวจะปั่นไปไม่ทัน จ่าแล้วลูกป่วยเป็นไร น่าจะเป็นหวัดธรรมดาเพราะอากาศช่วงนี้มันแปลก ๆ
จุดนัดพบอยู่บริเวณไหนของพิษณุโลกครับกระผม อย่านัดให้ไกลนักเน้อเดี๋ยวจะปั่นไปไม่ทัน จ่าแล้วลูกป่วยเป็นไร น่าจะเป็นหวัดธรรมดาเพราะอากาศช่วงนี้มันแปลก ๆ
- lineinline
- ขาประจำ
- โพสต์: 1423
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 22:21
- Tel: 0615456524
- team: BIKE COLOGY
Re: คุยกันเฮฮาประสา"เด็กโรงกลึง"(PBCพิษณุโลก) @ มิ.ย.53
พี่จ่าไม่ไปก็หมดสนุกกันพอดี หลานชายหายเลยเดี๋ยวนี้.....เพี้ยง
จำหน่ายจักรยาน อะไหล่และอุปกรณ์ เสือหมอบเสือภูเขา ทั้งใหม่และเก่า