????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D
ไฟล์แนบ
ออกจากโบสถ์คริสต์เราก็มุ่งหน้ายังเป้าหมายของเราต่อไปคือพระธาตุท่าอุเทน ระหว่างทางก็มีสิ่งต่าง ๆ ให้ได้ชื่มชมมากมายคุ้มค่าคุ้มราคากับการมาครั้งนี้ครับ
ออกจากโบสถ์คริสต์เราก็มุ่งหน้ายังเป้าหมายของเราต่อไปคือพระธาตุท่าอุเทน ระหว่างทางก็มีสิ่งต่าง ๆ ให้ได้ชื่มชมมากมายคุ้มค่าคุ้มราคากับการมาครั้งนี้ครับ
IMG20221110085109.jpg (111.2 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เป็นแลนด์มาร์คอีกที่ของนครพนม ครับ อุโมงค์นาคราช เรียกว่าพอจะเชิดหน้าชูตาการท่องเที่ยวได้ ด้วยทางปั่นจักรยานที่เยี่ยมมาก ๆ จำลองมาจากลำตัวของพญานาค ทอดตัวไปตามลำน้ำโขง ยาว ๆ เลยครับ หลายกิโล ปั่นจักรยานเข้าไปจนสุดทาง คือเพลินมาก นักปั่นทั้งหลายต้องไปกันแล้ว ยอมรับ "ฟิน" จริงครับ
เป็นแลนด์มาร์คอีกที่ของนครพนม ครับ อุโมงค์นาคราช เรียกว่าพอจะเชิดหน้าชูตาการท่องเที่ยวได้ ด้วยทางปั่นจักรยานที่เยี่ยมมาก ๆ จำลองมาจากลำตัวของพญานาค ทอดตัวไปตามลำน้ำโขง ยาว ๆ เลยครับ หลายกิโล ปั่นจักรยานเข้าไปจนสุดทาง คือเพลินมาก นักปั่นทั้งหลายต้องไปกันแล้ว ยอมรับ "ฟิน" จริงครับ
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (146).jpg (130.55 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (157).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (157).jpg (105.83 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (158).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (160).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (161).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (162).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (165).jpg
IMG20221110090140.jpg
IMG20221110090202.jpg
IMG20221110090216.jpg
IMG20221110090330.jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (166).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (166).jpg (114.29 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (168).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (168).jpg (117.5 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (174).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (175).jpg
สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย (นครพนม) กับประเทศลาว (คำม่วน) พื้นที่ฝั่งไทย ที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้า และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีความยาวรวม 780 เมตร มีช่องลอดกว้าง 60 เมตร สูง 10 เมตร 2 ช่วง ความกว้างสะพาน 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง และไม่มีทางรถไฟ <br /><br />ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552 ณ มณฑลพิธี บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และเสด็จทรงเป็นประธานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการร่วมกับสหายบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 11.11 น. จังหวัดนครพนม และแขวงคำม่วน สปป.ลาว ได้ฤกษ์เปิดสะพาน มิตรภาพแห่งที่ 3 ซึ่งเชื่อมระหว่างจังหวัดนครพนมของไทยกับแขวงคำม่วนของสปป.ลาว โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นกลางสะพาน ในวันที่ 11 เดือน พฤศจิกายน ปี 2011 ซึ่งทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันที่จะใช้ตัวเลข 11-11-11เป็นตัวเลขแห่งความทรงจำ โดยได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานในพิธี ร่วมกับฝ่ายลาวคือ พณฯ บุญยัง วอระจิต รองประธานประเทศของลาว <br /><br />โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นโครงการที่รัฐบาลไทย และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีนโยบายร่วมกันที่จะส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในลักษณะเมืองคู่แฝด ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ (ไทย-ลาว) ตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ในปัจจุบันมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงในลักษณะเมืองคู่แฝดแล้ว 2 แห่ง <br /><br />แห่งแรก คือ สะพานมิตรภาพ (หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์) สะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-แขวงสะหวันนะเขต) และสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-แขวงคำม่วน) ซึ่งจะเป็นเมืองคู่แฝดแห่งที่ 3 ต่อไป สำหรับสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย หรือ Asian Highway สาย AH 15 เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม เมืองท่าแขก เมืองหลักซาวของลาว ถึงเมืองวินท์ และเมืองกวางบิงของประเทศเวียดนาม สะพานมิตรภาพ 3 นี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรจะไปแวะเวียนเยี่ยมชมสักครั้งเพราะถือว่าเป็นสะพานที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย (นครพนม) กับประเทศลาว (คำม่วน) พื้นที่ฝั่งไทย ที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้า และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีความยาวรวม 780 เมตร มีช่องลอดกว้าง 60 เมตร สูง 10 เมตร 2 ช่วง ความกว้างสะพาน 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง และไม่มีทางรถไฟ

ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552 ณ มณฑลพิธี บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และเสด็จทรงเป็นประธานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการร่วมกับสหายบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 11.11 น. จังหวัดนครพนม และแขวงคำม่วน สปป.ลาว ได้ฤกษ์เปิดสะพาน มิตรภาพแห่งที่ 3 ซึ่งเชื่อมระหว่างจังหวัดนครพนมของไทยกับแขวงคำม่วนของสปป.ลาว โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นกลางสะพาน ในวันที่ 11 เดือน พฤศจิกายน ปี 2011 ซึ่งทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันที่จะใช้ตัวเลข 11-11-11เป็นตัวเลขแห่งความทรงจำ โดยได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานในพิธี ร่วมกับฝ่ายลาวคือ พณฯ บุญยัง วอระจิต รองประธานประเทศของลาว

โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นโครงการที่รัฐบาลไทย และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีนโยบายร่วมกันที่จะส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในลักษณะเมืองคู่แฝด ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ (ไทย-ลาว) ตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ในปัจจุบันมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงในลักษณะเมืองคู่แฝดแล้ว 2 แห่ง

แห่งแรก คือ สะพานมิตรภาพ (หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์) สะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-แขวงสะหวันนะเขต) และสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-แขวงคำม่วน) ซึ่งจะเป็นเมืองคู่แฝดแห่งที่ 3 ต่อไป สำหรับสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย หรือ Asian Highway สาย AH 15 เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม เมืองท่าแขก เมืองหลักซาวของลาว ถึงเมืองวินท์ และเมืองกวางบิงของประเทศเวียดนาม สะพานมิตรภาพ 3 นี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรจะไปแวะเวียนเยี่ยมชมสักครั้งเพราะถือว่าเป็นสะพานที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (177).jpg (138.41 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (179).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (179).jpg (120.6 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (186).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (188).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (188).jpg (120.31 KiB) เข้าดูแล้ว 1011 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: ชีวิตมนุษย์ กับ จตุราริยสัจ

มนุษย์เป็นอันมาก ได้ยึดถือเอาที่พึ่งผิด ๆ

มนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก ถูกความกลัวคุกคามเอาแล้ว ย่อม ยึดถือเอาภูเขาบ้าง ป่าไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง สวนศักดิ์สิทธิ์บ้าง รุกขเจดีย์บ้าง ว่าเป็นที่พึ่งของตน ๆ : นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันทำความเกษมให้ได้เลย, นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันสูงสุด ; ผู้ใดถือเอาสิ่งนั้นๆ เป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมไม่หลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง ได้.

ส่วนผู้ใด ที่ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งแล้วเห็นอริยสัจทั้งสี่ ด้วยปัญญาอันถูกต้อง คือ เห็นทุกข์, เห็นเหตุเป็นเครื่องให้เกิดขึ้นของทุกข์, เห็นความก้าวล่วงเสียได้ซึ่งทุกข์, และเห็นมรรคประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐ ซึ่งเป็นเครื่องให้ถึงความเข้าไปสงบรำงับแห่งทุกข์ : นั่นแหละคือ ที่พึ่งอันเกษม, นั่นคือ ที่พึ่งอันสูงสุด ; ผู้ใดถือเอาที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมหลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง ได้แท้. ( ธ. ขุ ๒๕/๔๐/๒๔.)
:idea: :idea:

:) :D เมืองไทยเป็นเมืองพุทธศาสนาที่ชาวพุทธไม่ได้ฟังคำสั่งสอน ขององค์พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่จะไปเชื่อในเรื่องที่พระพุทธองค์ไม่ทรงสอนสั่ง เช่นไหว้ผีสางนางไม้ เทวบุตรเทวดา รูปปั้นต่าง ๆ ฯ ซึ่งศาสตร์เหล่านั้นไม่ใช่หนทางที่ทำให้หลุดพ้น พระพุทธองค์สอนไม่ให้งมงาย ให้เชื่ออย่างมีเหตุมีผล ศาสตร์ทั้งหลายในโลกล้วนมีจริง แต่ยิ่งทำให้คนเป็นทุกข์ พระพุทธองค์สอนให้พ้นจากทุกข์ แต่สานุศิษย์กลับวิ่งไปเอาทุกข์ "แปลก"

ก่อนไปเที่ยวกันต่อเรามาฟังเรื่อราวของพระธาตุอุเทนกันก่อน ไปครับ
:) :D

:) :D วัดพระธาตุท่าอุเทน :) :D
ไฟล์แนบ
cats๔.jpg
cats๔.jpg (125.19 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
cats๕.jpg
cats๕.jpg (119.85 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
cats๗.jpg
วัดพระธาตุท่าอุเทน  จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br />วัดพระธาตุท่าอุเทน ตั้งอยู่ใน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม วัดมีองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม สร้างเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 66 เมตร <br /><br />พระอาจารย์ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2454 ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 ปี จึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459 เมื่อปี พ.ศ. 2540 ส่วนซุ้มประตูชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง กรมศิลปากรจึงได้ทำการบูรณะจนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งได้ทำการเสริมคานคอนกรีตภายในเพื่อป้องกันองค์พระธาตุพังทลาย วัดพระธาตุท่าอุเทน ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ และกำหนดขอบเขตโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 115 ตอนพิเศษ 4ง หน้า 2 ลงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2541 มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 2 งาน 89.48 ตารางวา <br /><br />พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง จะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ และเชื่อกันว่าผู้ที่เกิดวันนี้เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รักอิสระ รักสวยรักงาม คือพระธาตุหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ
วัดพระธาตุท่าอุเทน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วัดพระธาตุท่าอุเทน ตั้งอยู่ใน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม วัดมีองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม สร้างเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 66 เมตร

พระอาจารย์ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2454 ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 ปี จึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459 เมื่อปี พ.ศ. 2540 ส่วนซุ้มประตูชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง กรมศิลปากรจึงได้ทำการบูรณะจนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งได้ทำการเสริมคานคอนกรีตภายในเพื่อป้องกันองค์พระธาตุพังทลาย วัดพระธาตุท่าอุเทน ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ และกำหนดขอบเขตโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 115 ตอนพิเศษ 4ง หน้า 2 ลงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2541 มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 2 งาน 89.48 ตารางวา

พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง จะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ และเชื่อกันว่าผู้ที่เกิดวันนี้เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รักอิสระ รักสวยรักงาม คือพระธาตุหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ
cats๖.jpg (131.43 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
DSC_3505.JPG
DSC_3505.JPG (122.46 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
DSC_3509.JPG
DSC_3509.JPG (123.9 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
DSC_3512.JPG
DSC_3512.JPG (143.61 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
DSC_3516.JPG
DSC_3516.JPG (114.83 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
DSC_3517.JPG
DSC_3517.JPG (96.73 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
DSC_3518.JPG
DSC_3518.JPG (111.47 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
IMG20221110114403.jpg
IMG20221110114403.jpg (54.61 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
IMG20221110115430.jpg
IMG20221110115430.jpg (102.06 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
IMG20221110115454.jpg
IMG20221110115454.jpg (100.67 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (209).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (209).jpg (118.08 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (210).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (210).jpg (96.41 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (211).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (211).jpg (50.56 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (213).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (213).jpg (117.45 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (214).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (214).jpg (107.13 KiB) เข้าดูแล้ว 970 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: ผู้ไม่รู้อริยสัจ ย่อมหลงสร้างเหวแห่งความทุกข์เพื่อตัวเอง อยู่ร่ำไป

ภิกษุ ท. ! บุคคลเหล่าใด จะเป็นสมณะหรือพราหมณ์ ก็ตาม ไม่รู้ อยู่ตามเป็นจริง ว่า “นี้เป็นทุกข์, นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, นี้เป็นความดับไม่เหลือของทุกข์ และนี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ;” ดังนี้แล้ว ; เขาเหล่านั้น ย่อม ยินดีอย่างยิ่ง ในเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดที่เป็นไป พร้อมเพื่อความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับใจ.

เขาผู้ยินดีในเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดนั้น ๆ แล้ว ย่อมก่อสร้างอยู่ ซึ่งเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดที่เป็นไปพร้อมเพื่อความเกิด เป็นต้น นั้น ๆ. ครั้นเขาก่อสร้างเหตุปัจจัยนั้น ๆ แล้วเขาก็ตกลงในเหวแห่งความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับใจ นั่นเอง. เราย่อมกล่าวบุคคลเหล่านั้นว่า “เขา ไม่พ้นไปจากทุกข์ ทั้งหลาย คือความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศกความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับใจ ไปได้,” ดังนี้. ( มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๐/๑๗๒๙.)
:idea: :idea:

:) :D สวัสดียามบ่าย ๆ ของต้นเดือนแห่งความรัก "๑๔ กุมภา ฯ วันวาเลนไทม์" อย่างไรเสียก็อย่าลืมนะครับ ที่ไหนมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์ ควบคู่กันไปเสมอ ๆ รักได้แต่อย่างมงาย ไปฟังเพลงกันครับ :) :D

:roll: :roll: วาเลนไทน์ปีนี้-[เนื้อเพลง]-Am Seatwo :roll: :roll:
ไฟล์แนบ
DSC_3523.JPG
DSC_3523.JPG (101.08 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3524.JPG
DSC_3524.JPG (53.16 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
cats๘.jpg
cats๘.jpg (137.14 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
cats๙.jpg
cats๙.jpg (98.36 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
เราเก็บภาพต่าง ๆ ที่พระธาตุท่าอุเทนและกราบสักการะองค์พระธาตุเรียบร้อย ก็พากันปั่นกลับมาทานมื้อเที่ยงที่ร้าน ๗-๑๑ ริมโขงซึ่งมีชั้นลอยเป็นที่ทานอาหารและชมวิวไปด้วย เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งของ ๗-๑๑ (เข้าใจทำธุรกิจ) หลังจากที่เรียบร้อยกับมื้อเที่ยงเราไม่ลืมที่จะดิ่งไป บ.นาจอก ซึ่งเป็นทีจารึกประวัติศาสตร์สองเชื้อชาติ ไทย-เวียตนาม ซึ่งกัลญาณมิตร (คุณอารีย์ เจ้าของครัวเวียตนาม) ของเราเชียร์นักเชียร์หนาห้ามพลาดเด็ดขาด<br /><br />สำหรับบ้านนาจอกหรือบ้านลุงโฮหรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าบ้านท่านโฮจิมินห์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474
เราเก็บภาพต่าง ๆ ที่พระธาตุท่าอุเทนและกราบสักการะองค์พระธาตุเรียบร้อย ก็พากันปั่นกลับมาทานมื้อเที่ยงที่ร้าน ๗-๑๑ ริมโขงซึ่งมีชั้นลอยเป็นที่ทานอาหารและชมวิวไปด้วย เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งของ ๗-๑๑ (เข้าใจทำธุรกิจ) หลังจากที่เรียบร้อยกับมื้อเที่ยงเราไม่ลืมที่จะดิ่งไป บ.นาจอก ซึ่งเป็นทีจารึกประวัติศาสตร์สองเชื้อชาติ ไทย-เวียตนาม ซึ่งกัลญาณมิตร (คุณอารีย์ เจ้าของครัวเวียตนาม) ของเราเชียร์นักเชียร์หนาห้ามพลาดเด็ดขาด

สำหรับบ้านนาจอกหรือบ้านลุงโฮหรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าบ้านท่านโฮจิมินห์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474
cats๑๐.jpg (108.76 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
cats๑๒.jpg
cats๑๒.jpg (106.83 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
cats๑๓.jpg
cats๑๓.jpg (97.02 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
cats๑๔.jpg
cats๑๔.jpg (131.6 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
cats๑๑.jpg
cats๑๑.jpg (82.79 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3548.JPG
DSC_3548.JPG (76.13 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3549.JPG
DSC_3549.JPG (75.52 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3552.JPG
DSC_3552.JPG (77.34 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3553.JPG
DSC_3553.JPG (81.75 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3554.JPG
DSC_3554.JPG (69.92 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3555.JPG
DSC_3555.JPG (75.01 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3556.JPG
DSC_3556.JPG (58.41 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3557.JPG
DSC_3557.JPG (68.4 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3558.JPG
DSC_3558.JPG (70.27 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3559.JPG
DSC_3559.JPG (67.46 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3560.JPG
DSC_3560.JPG (68.76 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 01 ก.พ. 2023, 13:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D :)
ไฟล์แนบ
DSC_3562.JPG
DSC_3562.JPG (80.1 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3563.JPG
DSC_3563.JPG (82.39 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3566.JPG
DSC_3566.JPG (123.64 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3567.JPG
DSC_3567.JPG (130.59 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3568.JPG
DSC_3568.JPG (145.39 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3569.JPG
DSC_3569.JPG (130.85 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
เราออกจากจุดอนุสรณ์สถานโฮจิมินห์เพื่อเดินทางต่อไปยังบ้านลุงโฮซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าแก่ เรียกว่าคนละแห่งกัน(แย่งซีนกันตามธรรมเนียมคนโลก ๆ ) จุดอนุสรณ์สถานเป็นการหางบมาสร้าง ส่วนบ้านลุงโฮมีอยู่ก่อนแล้วเพียงแค่ดูแลรักษาให้คงอยู่ น่าจะเพราะ งป.จึงทำให้เกิดการแยกตัวออกไป
เราออกจากจุดอนุสรณ์สถานโฮจิมินห์เพื่อเดินทางต่อไปยังบ้านลุงโฮซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าแก่ เรียกว่าคนละแห่งกัน(แย่งซีนกันตามธรรมเนียมคนโลก ๆ ) จุดอนุสรณ์สถานเป็นการหางบมาสร้าง ส่วนบ้านลุงโฮมีอยู่ก่อนแล้วเพียงแค่ดูแลรักษาให้คงอยู่ น่าจะเพราะ งป.จึงทำให้เกิดการแยกตัวออกไป
DSC_3570.JPG (103.25 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3573.JPG
DSC_3573.JPG (133.04 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3574.JPG
DSC_3574.JPG (97.26 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3575.JPG
บ้านนาจอกหรือบ้านลุงโฮหรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าบ้านท่านโฮจิมินห์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474 ลุงโฮได้ย้านมาอยู่ที่จังหวัดนครพนมโดยมาอาศัยอยู่เป็นเพื่อนที่มาจากเวียดนามเช่นเดียวกันที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์ แต่ในครานั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างสงครามที่ต้องหนีออกมาจากเวียดนาม ต่างคนจึงได้ต่างหลบหนีแยกย้ายกันไปหลบภัยต่างถิ่นกัน  <br /><br /><br />ลุงโฮเองก็ได้เดินทางโดยเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยมารวมทั้งได้เปลี่ยนชื่อเรียกไปตามนั้นด้วยเพื่อเป็นการซ่อนตัวและไม่ให้ผู้ใดจำตนเองได้  สำหรับเพื่อนสนิทของลุงโฮนั้นเองก็ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยและมีครอบครัวที่ประเทศไทย  ซึ่งปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทย  ในส่วนของบริเวณภายในบ้านนั้นเองจะมีต้นไม้นานาชนิดที่ลุงโฮได้ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย และชา ซึ่งมีบรรยากาศอันร่มรื่น รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ของลุงโฮ อาทิเช่นโต๊ะทำงาน และเครื่องตำข้าวที่ลุงโฮใช้ในการตำข้าว  หมู่บ้านนาจอกแห่งนี้ได้รับการจัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม โดยได้มีการจัดนิทรรศการแสดงประวัติการทำงานและเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆของท่านโฮจิมินห์ <br /><br />ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
บ้านนาจอกหรือบ้านลุงโฮหรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าบ้านท่านโฮจิมินห์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474 ลุงโฮได้ย้านมาอยู่ที่จังหวัดนครพนมโดยมาอาศัยอยู่เป็นเพื่อนที่มาจากเวียดนามเช่นเดียวกันที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์ แต่ในครานั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างสงครามที่ต้องหนีออกมาจากเวียดนาม ต่างคนจึงได้ต่างหลบหนีแยกย้ายกันไปหลบภัยต่างถิ่นกัน


ลุงโฮเองก็ได้เดินทางโดยเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยมารวมทั้งได้เปลี่ยนชื่อเรียกไปตามนั้นด้วยเพื่อเป็นการซ่อนตัวและไม่ให้ผู้ใดจำตนเองได้ สำหรับเพื่อนสนิทของลุงโฮนั้นเองก็ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยและมีครอบครัวที่ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทย ในส่วนของบริเวณภายในบ้านนั้นเองจะมีต้นไม้นานาชนิดที่ลุงโฮได้ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย และชา ซึ่งมีบรรยากาศอันร่มรื่น รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ของลุงโฮ อาทิเช่นโต๊ะทำงาน และเครื่องตำข้าวที่ลุงโฮใช้ในการตำข้าว หมู่บ้านนาจอกแห่งนี้ได้รับการจัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม โดยได้มีการจัดนิทรรศการแสดงประวัติการทำงานและเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆของท่านโฮจิมินห์

ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
DSC_3578.JPG
DSC_3578.JPG (46.08 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3579.JPG
DSC_3579.JPG (75.46 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3581.JPG
DSC_3581.JPG (71.43 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3583.JPG
DSC_3583.JPG (67.51 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3584.JPG
DSC_3584.JPG (126.54 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3586.JPG
DSC_3586.JPG (95.8 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3587.JPG
DSC_3587.JPG (136.6 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3588.JPG
DSC_3588.JPG (90.68 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
DSC_3589.JPG
DSC_3589.JPG (92.37 KiB) เข้าดูแล้ว 925 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: ผู้รู้อริยสัจ หาหลงสร้างทุกข์ขึ้นเพื่อตัวเองไม่

ภิกษุ ท. ! ส่วนบุคคลเหล่าใดแล จะเป็นสมณะหรือพราหมณ์ ก็ตามรู้อยู่ตามเป็นจริง ว่า “นี้เป็นทุกข์, นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, นี้เป็นความดับไม่เหลือของทุกข์ และนี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ;” ดังนี้แล้ว ;เขาเหล่านั้น ย่อม ไม่ยินดี ในเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดที่เป็นไปพร้อมเพื่อความ เกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับใจเลย.

เขาผู้ไม่ยินดีแล้ว ในเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดนั้น ๆ ก็ ไม่ก่อสร้างขึ้น ซึ่งเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดที่เป็นไปพร้อมเพื่อความเกิด เป็นต้น นั้น ๆ. ครั้นเขาไม่ก่อสร้างเหตุปัจจัยเครื่องปรุงแต่งชนิดนั้นแล้ว ก็ ไม่ตกจมลงในเหว แห่งความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ และความคับใจได้เลย. เราย่อมกล่าวบุคคลเหล่านั้น ว่า “เขา พ้นไปจากทุกข์ ทั้งหลาย มีความเกิด ความแก่ เป็นต้น ไปได้” ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึง ทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามเป็นจริง ว่า “นี้เป็นทุกข์, นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, นี้เป็นความดับไม่เหลือของทุกข์ และนี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ;” ดังนี้.( มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๑/๑๗๓๐.)
:idea: :idea:
ไฟล์แนบ
เก็บตกภาพจากกล้องคุณนาย ณ อนุสรณ์สถานลุงโฮครับ
เก็บตกภาพจากกล้องคุณนาย ณ อนุสรณ์สถานลุงโฮครับ
cats๒๑.jpg (176.45 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
cats๒๒.jpg
cats๒๒.jpg (137.82 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
เช่นกันครับภาพจากกล้องคุณนาย ณ บ้านลุงโฮครับ
เช่นกันครับภาพจากกล้องคุณนาย ณ บ้านลุงโฮครับ
cats๒๓.jpg (130.09 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
cats๒๔.jpg
cats๒๔.jpg (179.07 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
cats๑๙.JPG
cats๑๙.JPG (125.21 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
cats๒๐.jpg
cats๒๐.jpg (126.18 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
cats๑๖.jpg
cats๑๗.jpg
cats๑๗.jpg (160.74 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
cats๑๘.jpg
cats๑๘.jpg (136.92 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
DSC_3610.JPG
DSC_3610.JPG (110.68 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
DSC_3611.JPG
DSC_3611.JPG (96.23 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
กลับเข้าเมืองได้เวลาก็ล่วงเข้า ๕ โมงเย็นเป็นเวลาที่ต้องเติมพลังให้กับร่างกายก่อนจะได้ไปพักผ่อนกัน ไม่ลืมที่จะตรงดิ่งไปยัง ร้านครัวเวียตนามครับ เพราะที่นี่สามารถทำอาหารมังสวิรัติอร่อย ๆ ให้เราได้หลากหลายเมนูครับ
กลับเข้าเมืองได้เวลาก็ล่วงเข้า ๕ โมงเย็นเป็นเวลาที่ต้องเติมพลังให้กับร่างกายก่อนจะได้ไปพักผ่อนกัน ไม่ลืมที่จะตรงดิ่งไปยัง ร้านครัวเวียตนามครับ เพราะที่นี่สามารถทำอาหารมังสวิรัติอร่อย ๆ ให้เราได้หลากหลายเมนูครับ
DSC_3612.JPG (94.8 KiB) เข้าดูแล้ว 875 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 03 ก.พ. 2023, 13:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D
ไฟล์แนบ
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (301).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (301).jpg (123.17 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (303).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (303).jpg (128.68 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (305).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (305).jpg (146.48 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
IMG20221110172155.jpg
IMG20221110172202.jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (306).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (306).jpg (101.28 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (309).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (310).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (310).jpg (83.25 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
IMG20221110170936.jpg
IMG20221110170936.jpg (125.61 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
IMG20221110171102.jpg
IMG20221110171102.jpg (94.27 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
IMG20221110171716.jpg
IMG20221110171716.jpg (141.68 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
อาหารเย็นวันนั้นมีข้าวโซ้ย  ข้าวเกรียบปากหม้อมัง ฯ แหนมเนียงแบบมัง ฯ อร่อยมาก ๆ ครับ
อาหารเย็นวันนั้นมีข้าวโซ้ย ข้าวเกรียบปากหม้อมัง ฯ แหนมเนียงแบบมัง ฯ อร่อยมาก ๆ ครับ
IMG20221110172116.jpg (114.91 KiB) เข้าดูแล้ว 873 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ พตท.๒๓๒๔ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ พ.ต.ท.2324 อยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคำไปประมาณ 2 กิโลเมตรเป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูลวีรกรรมของพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ได้พลีชีพในการสู้รบเพื่อรักษาอธิปไตยในพื้นที่ชายแดนจังหวัดพะเยา และเชียงราย ตั้งอยู่ที่ค่ายขุนจอมธรรม (ที่ตั้ง ร.17 พัน 4) อ.เชียงคำ จ.พะเยา จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ ประชาชน พลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค. ระหว่างปี พ.ศ. 2510–2525) จารึกนามผู้เสียชีวิต จำนวน 399 นาย

อนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท. 2324 มีลักษณะเป็นเสาห้าเหลี่ยมสีเขียว ด้านหน้าเป็นลานครึ่งวงกลม ด้านหลังเป็นพื้นที่อาคารนิทรรศการ เป็นอาคารชั้นเดียว จัดแสดงภาพถ่ายชุดแต่งกายทหาร อาวุธปืน ระเบิด และเครื่องเวชภัณฑ์ของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) พร้อมทั้งแสดงรายชื่อประชาชน พลเรือน ตำรวจ ทหาร จำนวน 399 คน ที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ในปี พ.ศ. 2510–2525 ในเขตพื้นที่จังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงราย

โดยบริเวณภายในอาคารนิทรรศการมีการจำลองสถานที่สนามรบ แสดงให้เห็นการต่อสู้กันอย่างดุเดือด ให้เห็นลักษณะภูมิประเทศในเขตต่างๆ เช่น อำเภอปงและอำเภอเชียงม่วน มีฐานที่มั่นสำคัญคือ ดอยผาจิและดอยผาช้างน้อย ฐานที่มั่นบนดอยภูลังกาและดอยน้ำสา เป็นต้น

สถานที่แห่งนี้เป็นที่ศึกษาประวัติศาสตร์การสู้รบกับคอมมิวนิสต์เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของประชาชนพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ตั้งอยู่ห่างจาก อ.เชียงคำ บนทางหลวงหมายเลข 1021 ไปทางอำเภอจุน อนุสรณ์สถาน ตั้งอยู่ทางซ้ายมือหน้าค่ายขุนจอมธรรม เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.

ในช่วงฤดูหนาว ประมาณปลายเดือนมกราคมจะมีการจัดงานพิธีรำลึกถึงวีรกรรมของวีรชนที่เสียสละชีวิตจากการต่อสู้ระหว่าง ประชาชน พลเรือน ตำรวจ ทหาร กับกลุ่มคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยเพื่อรักษาอธิปไตย เป็นประจำทุกปี :) :D


:) :D สวัสดียามบ่าย ๆ ท่านผู้มีเกียรติและญาติธรรมที่รักทุกท่าน ผมได้นำเรื่องราวของอนุสรณ์สถาน พตท.๒๓๒๔ มานำเสนอเพื่อที่จะให้ท่านผู้มีเกียรติได้ตระหนักถึงชีวิตของคนไทยผู้รักผืนแผ่นดิน ได้เสียสละความสุขส่วนตัวไปทำหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักของพวกเรา ท่านจำได้ไหม? อยุธยาแตกเสียเมืองให้กับศัตรูเพราะเหตุใด มิใช่เนื่องจากกษัตริย์อ่อนแอ ข้าราชบริพารต่างชิงอำนาจประจบสอพลอ ฯลฯ สรุปแตกความรักความสามัคคี วันนี้เวลานี้ชนในชาติกำลังเดินตามรอยกรุงแตกไม่มีผิด "ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน" น่าสะอิดสะเอียนมีให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง เพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี ฯ

ผมได้ไปทำหน้าที่ ผบ.มว.ที่ บ.ปางค่า เกือบเอาชีวิตไปสังเวย ณ ที่ปางค่าถึง ๓ ครั้ง ผมต้องสูญเสียลูกน้องที่รักไปและอีกหลายคนต้องพิการ ครั้งที่รุนแรงก็ตอนไปถูก ผกค.ซุ่มโจมตีที่ บ.ห้วยจะยิน ห่างจากฐานปางค่าประมาณ ๓ กม.โชคดีที่การสนับสนุนทางอากาศดีมาก ๆ และได้พี่ ทายาท คล่องตรวจโรค ผบ.ฐานทหาร ส่งกำลังลงจากฐานไปช่วยจึงได้รอดปลอดภัย แต่อีกไม่นานพี่ ทายาท ฯ ก็ต้องถูก ผกค.ถล่มฐานและถูกยิงเสียชีวิตคาฐานที่มั่น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด ผมเจอคลิปที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ผกค.ซึ่งผมเคยนั่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเพื่อชี้เป้า ให้บินเข้าถล่มฐานที่มั่นของ ผกค.เทือกเขาผาแดง คิดถึงวันนั้นยัง งง "เราฆ่ากันทำไม?" ฟังให้จบนะครับ :cry: :cry:

:idea: :idea: ย้อนรอย พตท.2324 อ.เชียงคำ จ.พะเยา :idea: :idea:

ไฟล์แนบ
263745.jpg
263745.jpg (86.81 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
๓๑ ม.ค. มีพิธีวางพวงมาลาที่ระลึกถึงวีรกรรมของพี่น้องทหาร ตำรวจ  อาสาสมัคร และประชาชน ที่สละชีวิตต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ที่อนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท.๒๓๒๔ อ.เชียงคำ จ.พะเยา<br /><br />ถ้าเราย้อนหลังกลับไปเมื่อ ๓๑ ม.ค.๒๕๒๕ วันนี้เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตพระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ทรงเปิดอนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท.๒๓๒๔ ที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา<br /><br />ขอทบทวนความเป็นมาของอนุสรณ์แห่งนี้ว่าในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ที่ จ.เชียงรายและพะเยาซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้ก่อการร้ายขึ้นครั้งแรกด้วยการโจมตีฐาน ตชด.ที่บ.ห้วยคุ อ.เชียงของ จ.เชียงรายเมื่อ ๑๗ เม.ย.๒๕๑๑ การปะทะกันทำให้ ตชด.เสียชีวิต ๑๕ คน<br /><br />ต่อมา ผกค.ได้ปฏิบัติการรุนแรงมากยิ่งขึ้น ในวันที่ ๒๐ ก.พ.๒๕๑๓ ผกค.ได้ลอบสังหาร นายประหยัด สมานมิตร ผวจ.เชียงราย, พ.ต.อ.ศรีเดช ภูมิประหมัน, พ.อ.จำเนียร มีสง่า ในขณะเดินทางไปรับมอบตัวที่ บ.แซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย<br /><br />เมื่อเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น บก.ทหารสูงสุดได้เปิดยุทธการผาลาด ยุทธการครั้งนี้ทหารของเราเสียชีวิต ๒๒ นาย และบาดเจ้บ ๗๘ นาย ฐานที่มั่น ผกค.ถูกฝ่ายเราทำลายเสียหายยับเยิน ผกค.ตายมากถึง /คจ คน ต่อมา บก.ทหารสูงสุดได้เปิดยุทธการผาภูมิขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ฝ่ายเราเสียชีวิต ๑๕ นายและบาดเจ็บ ๘๓ นาย<br /><br />แต่ถึงแม้ว่าฝ่ายเราจะกวาดล้างหนักเพียงไรฝ่าย ผกค.ก็ยังไม่ลดละการก่อการร้าย ยังคงปฏิบัติการหนักมือยิ่งขึ้น กลางดึกวันที่ ๒ มี.ค.๒๕๒๑ ผกค.ได้ซุ่มโจมตีสมาชิกเสียงชาวบ้านซึ่งเดินทางจาก อ.แม่สรวยมาร่วมปิดการฝึกสมาชิกเสียงชาวบ้านที่ บ.ปางค่า อ.เทิง จ.เชียงราย จากการซุ่มโจมตีด้วยอาร์พีจี.ปืนอาร์ก้า และวัตถุระเบิดนานาชนิด ทำให้สมาชิกเสียงชาวบ้าน อ.แม่สรวย ที่นั่งแออัดอยู่บนรถโดยสารเสียชีวิตไปถึง ๒๗ ศพ<br /><br />ในปี ๒๕๒๒ รัฐบาลได้ก่อสร้างถนนสาย ๑๑๕๕ เส้นทางเพื่อความมั่นคง จาก บ.ปางต่า-อ.เชียงของ เลาะตามแนวชายแดนผ่านดอยยาว-ดอยผาหม่นฐานที่มั่น ผกค.ในระหว่างการก่อสร้าง ผกค.ได้ซุ่มยิงคนงานก่อสร้าง ก่อวินาศกรรม ระเบิดสะพาน เผาหมู่บ้านผาแล หมู่บ้านปางหัด วางกับระเบิดไว้ตลอดเส้นทาง เรียกว่าก่อการร้ายทุกชนิดเพื่อไม่ให้การก่อสร้างทางเส้นนี้สำเร็จ<br /><br />วันที่ ๑๗ มี.ค.๒๕๒๒ เป็นวนที่ ร.ท.ทายาท คล่องตรวจโรค ผบ.ร้อย ร.๔๗๓, ร.ท.ปิยะวิพากย์ เปี่ยมญาติ ผบ.หมวด และนายชางกรมทางหลวง นำทหารลาดตระเวนตรวจการสร้างทางจนถึงหัวงานใกล้เนินห้วยตีนตก ได้ถูก ผกค.ระดมโจมตีด้วย ปรส.อย่างหนัก ร.ท.ทายาทฯ ได้วิทยุขอความช่วยเหลือจากหน่วยเหนือแต่วิทยุถูกกระสุน ปรส.เสียหายใช้การไม่ได้ ขณะนั้น ร.ท.ทายาทฯ ถูกกระสุนของ ผกค.ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา ร.ท.ทายาทฯ ตะโกนสั่งให้ทหารถอยถอนตัวหนีออกไปโดยตนเองกับ ร.ท.ปิยะวิพากย์ฯ จะยิงต่อสู้ยันข้าศึกไว้เอง ขณะนั้นกระสุนหมดเหลือแต่ระเบิดมือคนละลูกเท่านั้น พอ ผกค.วิ่งเข้ามาถึงจึงขว้างออกไปสุดแรงเกิดถูก ผกค.๔-๕ คนล้มกลิ้งเลือดสาด ไอ้พวกที่เหลือกระโจนเข้ากระหน่ำยิงอย่างบ้าคลั่ง ร.ท.ทายาทฯถูกจ่อยิงที่ศีร์ษะ ร.ท.ปิยะวิพากย์ฯ ถูกยิงทะลุหน้าอก เลือดทะลักเสียชวิตทั้งสองคน นี่คือวีรกรรมอันโดดเด่นของนักรบทั้งสองแห่ง พัน ร.๔๗๓<br /><br />จากการขัดขวางการสร้างทางสาย ๑๑๕๕ ของ ผกค.ที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น การรบหนักติดพันมาตั้งแต่สมัย ฉก.พล. ๔ มี พลต.สีมา ปาณิกบุตร เป็น ผบ.ฉก.พล.๔ จนกระทั่งเป็น พตท.๒๓๒๔ มี พล.ต.พร้อม ผิวนวล เป็น ผบ.พตท.๒๓๒๔<br /><br />จากการปะทะกันอย่างรุนแรง ที่ทำให้ ร.ท.ทายาทฯ กับ ร.ท.ปิยะวิพากย์ฯเสียชีวิตที่เนินห้วยตีนตก พตท.๒๓๒๔ จึงให้ พัน ร.๔๗๓ ส่งกำลัง ๓ กองร้อยเข้ายึดเนินห้วยตีนตกเมื่อ ๒ พ.ค.๒๕๒๒ การยึดเนินห้วยตีนตกครั้งนี้ฝ่ายเราเสียชีวิต ๗ นาย บาดเจ็บ ๑๙ นาย<br /><br />การเปิดยุทธการเพื่อกวาดล้าง ผกค.ที่ขัดขวางการสร้างเส้นทางสายยุทธศาสตร์สายนี้ พตท.๒๓๒๔ ได้เปิดขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนี้-<br /><br />๓ ก.ค.๒๕๒๒ เปิดยุทธการยึดห้วยตีนตก ฝ่ายเราเสียชีวิต ๘ นาย บาดเจ็บ ๒๘ นาย<br /><br />๓ ก.พ.๒๓ เปิดยุทธการสหายศึกยึดเนิน ๘๒๔ ยึดเนินนี้ได้ ฝ่ายเราเสียชีวิต ๕ นาย บาดเจ็บ ๑๒ นาย<br /><br />๘ พ.ค.๒๓ เปิดยุทธการสหายศึก ๒ กวาดล้าง ผกค.ที่เนิน ๗๖๐,เนิน ๘๖๐ ,เนิน ๘๐๐ รอยต่อระหว่าง อ.เทิง-อ.เชียงของ ปะทะกันอย่างหนัก เราเสียชีวิต ๗ นาย บาดเจ็บ ๒๗ นาย<br /><br />ยุทธการใหญ่ครั้งสุดท้ายของ พตท.๒๓๒๔ ก็คือส่งกำลัง พัน ร.๔๗๑ เปิดยุทธการเกรียงไกรที่ดอยพญาพิภักดิ์เมื่อ ๑๙ พ.ค.๒๕๒๔ ยุทธการนี้เราเสียชีวิต ๑๐ นาย บาดเจ็บ ๒๐ นาย<br /><br />ยุทธการเกรียงไกรนับเป็นยุทธการสุดท้ายของ พตท.๒๓๒๔ หลังยุทธการปรากฏว่าไม่มีเสียงปืนปรากฏขึ้นอีกเลย การก่อสร้างถนนสาย ๑๑๕๕ ที่ถูก ผกค.ขัดขวางสามารถสร้างต่อไปได้จนสำเร็จ ผกค.และมวลชนในฐานที่มั่นดอยยาว-ดอยผาหม่นกว่า ๓,๐๐๐ คนออกมอบตัวพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก เสียงปืนได้สงบตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ผมเชื่อแน่ว่าดวงวิญญาณของวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ทั้ง ๓๙๙ คนรวมทั้งวิญญานของชุดคุ้มกันจากดอยแม่สลองกว่า ๒๐๐ คน คงจะภูมิใจในชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ พตท.๒๓๒๔ ด้วยอย่างแน่นอนครับ
๓๑ ม.ค. มีพิธีวางพวงมาลาที่ระลึกถึงวีรกรรมของพี่น้องทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และประชาชน ที่สละชีวิตต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ที่อนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท.๒๓๒๔ อ.เชียงคำ จ.พะเยา

ถ้าเราย้อนหลังกลับไปเมื่อ ๓๑ ม.ค.๒๕๒๕ วันนี้เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตพระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ทรงเปิดอนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท.๒๓๒๔ ที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา

ขอทบทวนความเป็นมาของอนุสรณ์แห่งนี้ว่าในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ที่ จ.เชียงรายและพะเยาซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้ก่อการร้ายขึ้นครั้งแรกด้วยการโจมตีฐาน ตชด.ที่บ.ห้วยคุ อ.เชียงของ จ.เชียงรายเมื่อ ๑๗ เม.ย.๒๕๑๑ การปะทะกันทำให้ ตชด.เสียชีวิต ๑๕ คน

ต่อมา ผกค.ได้ปฏิบัติการรุนแรงมากยิ่งขึ้น ในวันที่ ๒๐ ก.พ.๒๕๑๓ ผกค.ได้ลอบสังหาร นายประหยัด สมานมิตร ผวจ.เชียงราย, พ.ต.อ.ศรีเดช ภูมิประหมัน, พ.อ.จำเนียร มีสง่า ในขณะเดินทางไปรับมอบตัวที่ บ.แซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

เมื่อเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น บก.ทหารสูงสุดได้เปิดยุทธการผาลาด ยุทธการครั้งนี้ทหารของเราเสียชีวิต ๒๒ นาย และบาดเจ้บ ๗๘ นาย ฐานที่มั่น ผกค.ถูกฝ่ายเราทำลายเสียหายยับเยิน ผกค.ตายมากถึง /คจ คน ต่อมา บก.ทหารสูงสุดได้เปิดยุทธการผาภูมิขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ฝ่ายเราเสียชีวิต ๑๕ นายและบาดเจ็บ ๘๓ นาย

แต่ถึงแม้ว่าฝ่ายเราจะกวาดล้างหนักเพียงไรฝ่าย ผกค.ก็ยังไม่ลดละการก่อการร้าย ยังคงปฏิบัติการหนักมือยิ่งขึ้น กลางดึกวันที่ ๒ มี.ค.๒๕๒๑ ผกค.ได้ซุ่มโจมตีสมาชิกเสียงชาวบ้านซึ่งเดินทางจาก อ.แม่สรวยมาร่วมปิดการฝึกสมาชิกเสียงชาวบ้านที่ บ.ปางค่า อ.เทิง จ.เชียงราย จากการซุ่มโจมตีด้วยอาร์พีจี.ปืนอาร์ก้า และวัตถุระเบิดนานาชนิด ทำให้สมาชิกเสียงชาวบ้าน อ.แม่สรวย ที่นั่งแออัดอยู่บนรถโดยสารเสียชีวิตไปถึง ๒๗ ศพ

ในปี ๒๕๒๒ รัฐบาลได้ก่อสร้างถนนสาย ๑๑๕๕ เส้นทางเพื่อความมั่นคง จาก บ.ปางต่า-อ.เชียงของ เลาะตามแนวชายแดนผ่านดอยยาว-ดอยผาหม่นฐานที่มั่น ผกค.ในระหว่างการก่อสร้าง ผกค.ได้ซุ่มยิงคนงานก่อสร้าง ก่อวินาศกรรม ระเบิดสะพาน เผาหมู่บ้านผาแล หมู่บ้านปางหัด วางกับระเบิดไว้ตลอดเส้นทาง เรียกว่าก่อการร้ายทุกชนิดเพื่อไม่ให้การก่อสร้างทางเส้นนี้สำเร็จ

วันที่ ๑๗ มี.ค.๒๕๒๒ เป็นวนที่ ร.ท.ทายาท คล่องตรวจโรค ผบ.ร้อย ร.๔๗๓, ร.ท.ปิยะวิพากย์ เปี่ยมญาติ ผบ.หมวด และนายชางกรมทางหลวง นำทหารลาดตระเวนตรวจการสร้างทางจนถึงหัวงานใกล้เนินห้วยตีนตก ได้ถูก ผกค.ระดมโจมตีด้วย ปรส.อย่างหนัก ร.ท.ทายาทฯ ได้วิทยุขอความช่วยเหลือจากหน่วยเหนือแต่วิทยุถูกกระสุน ปรส.เสียหายใช้การไม่ได้ ขณะนั้น ร.ท.ทายาทฯ ถูกกระสุนของ ผกค.ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา ร.ท.ทายาทฯ ตะโกนสั่งให้ทหารถอยถอนตัวหนีออกไปโดยตนเองกับ ร.ท.ปิยะวิพากย์ฯ จะยิงต่อสู้ยันข้าศึกไว้เอง ขณะนั้นกระสุนหมดเหลือแต่ระเบิดมือคนละลูกเท่านั้น พอ ผกค.วิ่งเข้ามาถึงจึงขว้างออกไปสุดแรงเกิดถูก ผกค.๔-๕ คนล้มกลิ้งเลือดสาด ไอ้พวกที่เหลือกระโจนเข้ากระหน่ำยิงอย่างบ้าคลั่ง ร.ท.ทายาทฯถูกจ่อยิงที่ศีร์ษะ ร.ท.ปิยะวิพากย์ฯ ถูกยิงทะลุหน้าอก เลือดทะลักเสียชวิตทั้งสองคน นี่คือวีรกรรมอันโดดเด่นของนักรบทั้งสองแห่ง พัน ร.๔๗๓

จากการขัดขวางการสร้างทางสาย ๑๑๕๕ ของ ผกค.ที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น การรบหนักติดพันมาตั้งแต่สมัย ฉก.พล. ๔ มี พลต.สีมา ปาณิกบุตร เป็น ผบ.ฉก.พล.๔ จนกระทั่งเป็น พตท.๒๓๒๔ มี พล.ต.พร้อม ผิวนวล เป็น ผบ.พตท.๒๓๒๔

จากการปะทะกันอย่างรุนแรง ที่ทำให้ ร.ท.ทายาทฯ กับ ร.ท.ปิยะวิพากย์ฯเสียชีวิตที่เนินห้วยตีนตก พตท.๒๓๒๔ จึงให้ พัน ร.๔๗๓ ส่งกำลัง ๓ กองร้อยเข้ายึดเนินห้วยตีนตกเมื่อ ๒ พ.ค.๒๕๒๒ การยึดเนินห้วยตีนตกครั้งนี้ฝ่ายเราเสียชีวิต ๗ นาย บาดเจ็บ ๑๙ นาย

การเปิดยุทธการเพื่อกวาดล้าง ผกค.ที่ขัดขวางการสร้างเส้นทางสายยุทธศาสตร์สายนี้ พตท.๒๓๒๔ ได้เปิดขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนี้-

๓ ก.ค.๒๕๒๒ เปิดยุทธการยึดห้วยตีนตก ฝ่ายเราเสียชีวิต ๘ นาย บาดเจ็บ ๒๘ นาย

๓ ก.พ.๒๓ เปิดยุทธการสหายศึกยึดเนิน ๘๒๔ ยึดเนินนี้ได้ ฝ่ายเราเสียชีวิต ๕ นาย บาดเจ็บ ๑๒ นาย

๘ พ.ค.๒๓ เปิดยุทธการสหายศึก ๒ กวาดล้าง ผกค.ที่เนิน ๗๖๐,เนิน ๘๖๐ ,เนิน ๘๐๐ รอยต่อระหว่าง อ.เทิง-อ.เชียงของ ปะทะกันอย่างหนัก เราเสียชีวิต ๗ นาย บาดเจ็บ ๒๗ นาย

ยุทธการใหญ่ครั้งสุดท้ายของ พตท.๒๓๒๔ ก็คือส่งกำลัง พัน ร.๔๗๑ เปิดยุทธการเกรียงไกรที่ดอยพญาพิภักดิ์เมื่อ ๑๙ พ.ค.๒๕๒๔ ยุทธการนี้เราเสียชีวิต ๑๐ นาย บาดเจ็บ ๒๐ นาย

ยุทธการเกรียงไกรนับเป็นยุทธการสุดท้ายของ พตท.๒๓๒๔ หลังยุทธการปรากฏว่าไม่มีเสียงปืนปรากฏขึ้นอีกเลย การก่อสร้างถนนสาย ๑๑๕๕ ที่ถูก ผกค.ขัดขวางสามารถสร้างต่อไปได้จนสำเร็จ ผกค.และมวลชนในฐานที่มั่นดอยยาว-ดอยผาหม่นกว่า ๓,๐๐๐ คนออกมอบตัวพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก เสียงปืนได้สงบตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ผมเชื่อแน่ว่าดวงวิญญาณของวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ทั้ง ๓๙๙ คนรวมทั้งวิญญานของชุดคุ้มกันจากดอยแม่สลองกว่า ๒๐๐ คน คงจะภูมิใจในชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ พตท.๒๓๒๔ ด้วยอย่างแน่นอนครับ
263746.jpg (83.76 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
263747.jpg
263747.jpg (113.91 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
239829.jpg
239829.jpg (48.86 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
วันที่ ๑๐ พ.ย.๖๕ เราปั่นเที่ยวและไปกราบพระธาตุท่าอุเทนชมสะพานข้ามโขงแห่งที่ ๓ แขวงคำม่วนไปกลับได้ระยะทาง ๘๐ กม.ชิว ๆ ครับ ขากลับแวะทานมื้อเย็นที่แสนอร่อยที่ครัวเวียตนาม คุณอารีย์ ฯ เจ้าของร้านได้นัดแนะขอปั่นร่มด้วยในเช้าที่ ๑๑ พ.ย.เพื่อแนะนำสถานที่เที่ยวและออกกำลังของคนนครพนม เรารับปากหลังจากที่มื้อเย็นเรียบร้อยเราก็กลับ รร.พักหลับเป็นตาย ใจยังนึกว่าคุณนายจะชวนออกไปเดินกินลมชมวิวเหมือนคืนก่อนไหม? (ไม่ยักกะชวน ชำระร่างกายสวดมนต์ได้ก็นอนเลย ๕๕๕)
วันที่ ๑๐ พ.ย.๖๕ เราปั่นเที่ยวและไปกราบพระธาตุท่าอุเทนชมสะพานข้ามโขงแห่งที่ ๓ แขวงคำม่วนไปกลับได้ระยะทาง ๘๐ กม.ชิว ๆ ครับ ขากลับแวะทานมื้อเย็นที่แสนอร่อยที่ครัวเวียตนาม คุณอารีย์ ฯ เจ้าของร้านได้นัดแนะขอปั่นร่มด้วยในเช้าที่ ๑๑ พ.ย.เพื่อแนะนำสถานที่เที่ยวและออกกำลังของคนนครพนม เรารับปากหลังจากที่มื้อเย็นเรียบร้อยเราก็กลับ รร.พักหลับเป็นตาย ใจยังนึกว่าคุณนายจะชวนออกไปเดินกินลมชมวิวเหมือนคืนก่อนไหม? (ไม่ยักกะชวน ชำระร่างกายสวดมนต์ได้ก็นอนเลย ๕๕๕)
239830.jpg (44.2 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๒๖.jpg
cats๒๖.jpg (110.84 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๒๒๕.jpg
cats๒๒๕.jpg (123.28 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๒๗.jpg
cats๒๗.jpg (151.29 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๒๘.jpg
cats๒๘.jpg (119.47 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๒๙.jpg
cats๒๙.jpg (89.8 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๓๐.jpg
cats๓๐.jpg (83.9 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๓๑.jpg
cats๓๑.jpg (112.31 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๓๒.jpg
cats๓๒.jpg (127.07 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
cats๓๓.jpg
cats๓๓.jpg (117.26 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
DSC_3723.JPG
DSC_3723.JPG (84.49 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
เช้าวันนั้นมีเพื่อน ๆ ของคุณอารีย์ปั่นมารอเรา ๒ คนตามนัดเราได้ปั่นเลาะโขงเก็บภาพสวย ๆ ยามเช้า สนุกสนานในการแลกเปลี่ยนข้อคิดความเห็นกันอย่างออกรส จนได้เวลาซึ่งแต่ละคนก็จะต้องกลับไปทำหน้าที่ คุณอารีย์ก็ต้องไปเปิดร้านครัว เวียตนาม คุณเล็ก คุณนก ก็ต้องกลับบ้านไปทำหน้าที่แม่บ้าน ส่วนเรากลับ รร.เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังพระธาตุพนมต่อไป สัญญาว่าวันหนึ่งเราจะได้ปั่นไกล ๆ ร่วมกันสักครั้ง
เช้าวันนั้นมีเพื่อน ๆ ของคุณอารีย์ปั่นมารอเรา ๒ คนตามนัดเราได้ปั่นเลาะโขงเก็บภาพสวย ๆ ยามเช้า สนุกสนานในการแลกเปลี่ยนข้อคิดความเห็นกันอย่างออกรส จนได้เวลาซึ่งแต่ละคนก็จะต้องกลับไปทำหน้าที่ คุณอารีย์ก็ต้องไปเปิดร้านครัว เวียตนาม คุณเล็ก คุณนก ก็ต้องกลับบ้านไปทำหน้าที่แม่บ้าน ส่วนเรากลับ รร.เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังพระธาตุพนมต่อไป สัญญาว่าวันหนึ่งเราจะได้ปั่นไกล ๆ ร่วมกันสักครั้ง
DSC_3733.JPG (103.56 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 07 ก.พ. 2023, 15:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D
ไฟล์แนบ
IMG20221111082117.jpg
IMG20221111082117.jpg (95.91 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
กลับ รร.ก็ชำระร่างกายเก็บสัมภาระ ชำระค่าเสียหายให้ รร.เมื่อพร้อมก็ออกเดินทางโดยมุ่งไปหาร้าน เจ เพื่อทานมื้อเช้าและตุนเป็นเสบียงเดินทางเนื่องจากระยะทางถึงพระธาตุพนมหลายสิบ กม.
กลับ รร.ก็ชำระร่างกายเก็บสัมภาระ ชำระค่าเสียหายให้ รร.เมื่อพร้อมก็ออกเดินทางโดยมุ่งไปหาร้าน เจ เพื่อทานมื้อเช้าและตุนเป็นเสบียงเดินทางเนื่องจากระยะทางถึงพระธาตุพนมหลายสิบ กม.
IMG20221111082125.jpg (134.37 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
IMG20221111083721.jpg
IMG20221111084716.jpg
IMG20221111084716.jpg (100.86 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
IMG20221111084729.jpg
IMG20221111084729.jpg (86.11 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
คุณอารีย์ เจ้าของครัวเวียตนาม โทร ฯ ตามตัวให้เรากลับไปรับอาหารที่แกเตรียมไว้ให้ติดตัวไปด้วย บอกแกแล้วเราเรียบร้อยแล้วที่ร้านเจ แกไม่ยอมแกเตรียมให้ตั้งแต่เช้านึกว่าเราจะแวะมาหาก่อนเดินทางต่อ จำเป็นเราสองคนต้องปั่นกลับไปรับของฝากเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ ก็ได้อำลากันอีกครั้งที่ร้านครัวเวียตนาม ขอบคุณมาก ๆ
คุณอารีย์ เจ้าของครัวเวียตนาม โทร ฯ ตามตัวให้เรากลับไปรับอาหารที่แกเตรียมไว้ให้ติดตัวไปด้วย บอกแกแล้วเราเรียบร้อยแล้วที่ร้านเจ แกไม่ยอมแกเตรียมให้ตั้งแต่เช้านึกว่าเราจะแวะมาหาก่อนเดินทางต่อ จำเป็นเราสองคนต้องปั่นกลับไปรับของฝากเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ ก็ได้อำลากันอีกครั้งที่ร้านครัวเวียตนาม ขอบคุณมาก ๆ
IMG20221111092502.jpg (110.85 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
IMG20221111093724.jpg
IMG20221111093739.jpg
IMG20221111093739.jpg (132.67 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
IMG20221111093817.jpg
IMG20221111093851.jpg
DSC_3749.JPG
DSC_3749.JPG (116.7 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
DSC_3750.JPG
DSC_3750.JPG (112.63 KiB) เข้าดูแล้ว 810 ครั้ง
DSC_3751.JPG
IMG20221111095227.jpg
IMG20221111105221.jpg
IMG20221111105230.jpg
IMG20221111115959.jpg
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D สวัสดียามสาย ๆ ใกล้เที่ยงครับ เราปั่นจากนครพนมเที่ยวมาเรื่อย ๆ ชิว ๆ อยากพักที่ไหนอยากชมอะไรก็แวะไปเรื่อยไม่เร่งรีบถือว่าเรามาเที่ยว จนเวลาเที่ยงกว่า ๆ เราก็มาถึงเมืองมรุกนครซึ่งมีวัดชื่อว่าวัดมรุกขนคร ที่วัดนี้ก็มีพระธาตุชื่อว่าพระธาตุมรุกนคร พระธาตุมรุกขนครนี้เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพระธาตุประจำวันเกิดของจังหวัดนครพนม

ประวัติเมืองมรุกขนคร เมืองมรุกขนคร เดิมชื่อ เมืองศรีโคตรบูร ครั้งแรกตั้งอยู่ที่ปากห้วยหินบูร ฝั่งประเทศลาว ตรงกันข้ามอำเภอท่าอุเทน ครั้งที่สองย้ายมาตั้งที่ปากห้วยศรีมัง คือ เมืองท่าแขกในประเทศลาว พญานาครานุรักษ์ (คำสิงห์) ได้เปลี่ยนเป็นชื่อเมืองมรุกขนคร พระบรมราชา (กู่แก้ว) ผู้ครองเมืองรุกขนนคร ได้ย้ายจากเมืองท่าแขกมาตั้งที่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงตรงปากห้วยบังฮวก เมื่อ พ.ศ.๒๓๐๐ ได้สร้างวัดในเมือง ๑ วัด ให้ชื่อวัดตามชื่อเมืองว่า "มรุกขนคร" เป็นวัดใหญ่ตั้งอยู่กลางเมือง เจริญรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันเหลือแต่ฐานอุโบสถอยู่บริเวณโรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ ทิศเหนือของห้วยบังฮวก เมื่อก่อนเป็นเขตพุทธาวาส ฝั่งทิศใต้เป็นเขตสังฆาวาส (เป็นที่ตั้งวัดมรุกขนครในปัจจุบัน ที่ดินของวัดจึงเหลือเพียงส่วนเดียว)

พระธาตุมรุกขนคร เป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนมองค์ที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาพระธาตุบริวารทั้งเจ็ดองค์ สร้างมายังไม่ถึงยี่สิบปี ตั้งอยู่ที่บ้านดอนนางหงส์ท่า ต ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม วัดมรุกขนครที่ประดิษฐานพระธาตุองค์นี้มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว สร้างโดยพระบรมราชาเจ้าแอวก่าน เจ้าเมืองมรุกขนคร วัดนี้เป็นวัดประจำเมืองที่มีความเจริญมากต่อมาจึงร้างไป ซากเดิมตั้งอยู่ที่โรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ตรงข้ามที่ตั้งวัดเดิมในปัจจุบัน กั้นด้วยห้วยบังฮวกซึ่งเป็นห้วยที่ไหลมาจากแม่นำโขง หลังจากนั้นจึงได้ย้ายเมืองไปตั้งที่บ้านโพธิ์ (บริเวณที่เป็นตัวเมืองนครพนมในปัจจุบัน)

องค์พระธาตุมรุกขนคร ประดิษฐานที่วัดมรุกขนคร อ.ธาตุพนม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๔๐ กม. องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังสี่เหลี่ยม ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม แต่เล็กกว่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ พระมหาธาตุเจดีย์ สูง ๕๐.๙ เมตร ฐานกว้างด้านละ ๒๐ เมตร สิ้นค้าก่อสร้าง ๓๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ได้รับการอุปถัมภ์จากหม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ ราชเลขาธิการ และคุณหญิงแม่บุญศรีสนธยางกูล พร้อมด้วยศรัทธาญาติโยมจากทั่วสารทิศ พระธาตุสูง๕๐.๙ เมตร มีความหมายว่าสร้างขึ้นเพื่อสิริราชสมบัติในหลวงทรงครองราชย์ ๕๐ ปี และ จุด ๙ นั้นหมายถึงราชกาลที่ ๙
:idea: :idea:

:idea: :idea: “อ.ลักษณ์” เปิดตำนานวัดมรุกขนคร เมืองแห่งพญานาค | มูไนท์ | 15-05-61 | 2/3 :idea: :idea:
ไฟล์แนบ
cats๓๕.jpg
cats๓๕.jpg (111.1 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
ปั่นกันมาชิว ๆ ภาษา Touring ที่ไม่เร่งรีบชนิดหลังสู้ฟ้าหน้ามองแต่ถนนเอากิโลเมตรเป็นมาตรฐานแบบนักแข่งทั่ว ๆ ไป ผมปล่อยให้คุณนายแกปั่นไปข้างหน้าส่วนผมตามเก็บภาพสวย ๆ ถูกใจไปข้างหลัง บังเอิญมาเจอป้ายเป็นฐานที่ตั้ง ตชด.อยากจะเรียกคุณนายให้ย้อนกลับเพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียนพี่น้อง ตชด.แต่มาคิดอีกทีคุณนายคงไม่ย้อนมาแน่ ๆ เพราะคงปั่นนำไปเป็นกิโล ๆ ก็เลยตัดใจ หักใจ ไปต่อดีกว่า ใจก็เสียดายมาทั้งทีน่าจะได้เข้าเยี่ยมดูว่าจะเหมือนสมัยที่เรายังเป็นผู้บังคับหมวด??
ปั่นกันมาชิว ๆ ภาษา Touring ที่ไม่เร่งรีบชนิดหลังสู้ฟ้าหน้ามองแต่ถนนเอากิโลเมตรเป็นมาตรฐานแบบนักแข่งทั่ว ๆ ไป ผมปล่อยให้คุณนายแกปั่นไปข้างหน้าส่วนผมตามเก็บภาพสวย ๆ ถูกใจไปข้างหลัง บังเอิญมาเจอป้ายเป็นฐานที่ตั้ง ตชด.อยากจะเรียกคุณนายให้ย้อนกลับเพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียนพี่น้อง ตชด.แต่มาคิดอีกทีคุณนายคงไม่ย้อนมาแน่ ๆ เพราะคงปั่นนำไปเป็นกิโล ๆ ก็เลยตัดใจ หักใจ ไปต่อดีกว่า ใจก็เสียดายมาทั้งทีน่าจะได้เข้าเยี่ยมดูว่าจะเหมือนสมัยที่เรายังเป็นผู้บังคับหมวด??
cats๓๖.jpg (120.38 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
cats๓๗.JPG
cats๓๘.jpg
cats๓๘.jpg (150.09 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
เรามาถึงวัดก็เวลาล่วงเลยไปเป็นเที่ยงกว่า ๆ แล้ว ก็ได้เสบียงที่กัลญาณมิตร (คุณอารีย์ ฯ) เจ้าของร้านครัวเวียตนานที่นครพนม เตรียมไว้ให้เราผ่านไปอีกมื้อสบาย ๆ ก่อนที่จะพากันเดินชมวัดครับ
เรามาถึงวัดก็เวลาล่วงเลยไปเป็นเที่ยงกว่า ๆ แล้ว ก็ได้เสบียงที่กัลญาณมิตร (คุณอารีย์ ฯ) เจ้าของร้านครัวเวียตนานที่นครพนม เตรียมไว้ให้เราผ่านไปอีกมื้อสบาย ๆ ก่อนที่จะพากันเดินชมวัดครับ
DSC_3794.JPG (126.33 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
263745.jpg
263745.jpg (55.96 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
263746.jpg
cats๓๙.jpg
cats๓๙.jpg (153.46 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
cats๔๐.jpg
cats๔๐.jpg (127.43 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
cats๔๑.jpg
cats๔๑.jpg (144.36 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
cats๔๒.jpg
cats๔๒.jpg (176.39 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
cats๔๓.jpg
cats๔๓.jpg (200.49 KiB) เข้าดูแล้ว 764 ครั้ง
บ่ายโมงกว่า ๆ เราก็กราบลาพระธาตุมรุกขนคร เดินทางต่อไปเป้าหมายคือพระธาตุพนม เหลือระยะทางอีกไม่กี่ กม.ก็จะถึงคาดว่าคงถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินครับ
บ่ายโมงกว่า ๆ เราก็กราบลาพระธาตุมรุกขนคร เดินทางต่อไปเป้าหมายคือพระธาตุพนม เหลือระยะทางอีกไม่กี่ กม.ก็จะถึงคาดว่าคงถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินครับ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D
ไฟล์แนบ
อากาศวันนั้นร้อนมาก ๆ คิดนะครับโอกาศข้างหน้าโอกาสที่จะเห็นนักปั่นแบบ Touring คงจะน้อยมากครับ เพราะความเจริญของบ้านเมืองถนนหนทางกว้าง ๔ เลน ๘ เลน ต้นไม้สองข้างทางที่เคยร่มรื่นเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาพวก Slowlifes หมดไปกับความเจริญที่ซึมแทรกเข้าทุกซอกซอย เรียกว่าเจริญแล้ว ๕๕๕๕
อากาศวันนั้นร้อนมาก ๆ คิดนะครับโอกาศข้างหน้าโอกาสที่จะเห็นนักปั่นแบบ Touring คงจะน้อยมากครับ เพราะความเจริญของบ้านเมืองถนนหนทางกว้าง ๔ เลน ๘ เลน ต้นไม้สองข้างทางที่เคยร่มรื่นเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาพวก Slowlifes หมดไปกับความเจริญที่ซึมแทรกเข้าทุกซอกซอย เรียกว่าเจริญแล้ว ๕๕๕๕
DSC_3815.JPG (130.06 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
cats๔๔.jpg
cats๔๔.jpg (125.4 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
น้ำแข็งไสข้างทางคือสวรรค์ของเรา เห็นปุ๊บไม่รอช้าแวะเลยครับ แม่ค้าก็ใจดี๊ ใจดี คุยสนุก สอบถามการเดินทางสนใจอยากจะไปอย่างพวกเรา ติดที่ภาระหน้าที่ต้องดูแลทั้งลูกทั้งหลาน ฯ นี่ละครับภาระที่หนักอึ้ง คุยไปคุยมาทราบปัญหาที่แก้ไขไม่ตก เป็นความโชคดีที่เจอเราก็พาคุยย้อนไปตั้งแต่ เกิดมาแทรกด้วยธรรมะที่คนส่วนใหญ่ลืมกันหมดนั่นคือ &quot;ชีวิตมีแต่ทุกข์&quot; พระพุทธเจ้าท่านก็สอนแต่เรื่องทุกข์ ไม่เคยสอนให้เราเห็นสุขกันเลย &quot;เห็นทุกข์จึงเห็นธรรม&quot; จึงบอกสองสามีภรรยาว่า เขาทั้ง ๒ โชคดีแล้วที่เห็นธรรมะเรียกว่าดวงตาเห็นธรรมแล้ว อย่าท้อจงสู้ต่อไปด้วย สัมมาอาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำบุญ ให้ทาน ฝึกจิตฝึกใจด้วยการภาวนาบ้าง คุยกันเพลินจนเวลาล่วงเลยและหน้าตาแม่ค้าสดใส ยิ้มได้ เราก็เดินทางต่อมุ่งหน้าพระธาตุพนมต่อไป
น้ำแข็งไสข้างทางคือสวรรค์ของเรา เห็นปุ๊บไม่รอช้าแวะเลยครับ แม่ค้าก็ใจดี๊ ใจดี คุยสนุก สอบถามการเดินทางสนใจอยากจะไปอย่างพวกเรา ติดที่ภาระหน้าที่ต้องดูแลทั้งลูกทั้งหลาน ฯ นี่ละครับภาระที่หนักอึ้ง คุยไปคุยมาทราบปัญหาที่แก้ไขไม่ตก เป็นความโชคดีที่เจอเราก็พาคุยย้อนไปตั้งแต่ เกิดมาแทรกด้วยธรรมะที่คนส่วนใหญ่ลืมกันหมดนั่นคือ "ชีวิตมีแต่ทุกข์" พระพุทธเจ้าท่านก็สอนแต่เรื่องทุกข์ ไม่เคยสอนให้เราเห็นสุขกันเลย "เห็นทุกข์จึงเห็นธรรม" จึงบอกสองสามีภรรยาว่า เขาทั้ง ๒ โชคดีแล้วที่เห็นธรรมะเรียกว่าดวงตาเห็นธรรมแล้ว อย่าท้อจงสู้ต่อไปด้วย สัมมาอาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำบุญ ให้ทาน ฝึกจิตฝึกใจด้วยการภาวนาบ้าง คุยกันเพลินจนเวลาล่วงเลยและหน้าตาแม่ค้าสดใส ยิ้มได้ เราก็เดินทางต่อมุ่งหน้าพระธาตุพนมต่อไป
cats๔๕.jpg (51.56 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3817.JPG
DSC_3817.JPG (102.03 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3818.JPG
DSC_3818.JPG (145.38 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3819.JPG
DSC_3819.JPG (134.75 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3820.JPG
DSC_3820.JPG (86.9 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3821.JPG
DSC_3821.JPG (84.15 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
เจออีกพระธาตุหนึ่งแต่เนื่องจากเวลาเกรงว่าจะไปถึงพระธาตุพนมเย็นเกินไปตกลงกันว่าเราค่อยย้อนกลับมาในวันต่อไปก็ได้
เจออีกพระธาตุหนึ่งแต่เนื่องจากเวลาเกรงว่าจะไปถึงพระธาตุพนมเย็นเกินไปตกลงกันว่าเราค่อยย้อนกลับมาในวันต่อไปก็ได้
DSC_3824.JPG (92.6 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3825.JPG
DSC_3825.JPG (103 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3827.JPG
DSC_3827.JPG (81.03 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
เอาอีกแล้ว.....เจอกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่  ๒๓๕ ผมเคยมาแวะเที่ยวและมาทำแผนสมัยที่เรียนฝ่ายเสนาธิการเป็นกองร้อยริมน้ำโขงที่มีสถานการณ์ให้ต้องติดตาม โดยเฉพาะกัญชา ๕๕ ไม่ได้แวะครับคุุณนายแกปั่นเร่งอยากให้ถึงพระธาตุพนมเร็ว ๆ เพราะเราไม่ได้จองที่พักเกรงว่าจะหาที่พักติดริมโขงไม่ได้ ไม่ว่ากันครับ &quot;เอาไหนเอากัน&quot;
เอาอีกแล้ว.....เจอกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓๕ ผมเคยมาแวะเที่ยวและมาทำแผนสมัยที่เรียนฝ่ายเสนาธิการเป็นกองร้อยริมน้ำโขงที่มีสถานการณ์ให้ต้องติดตาม โดยเฉพาะกัญชา ๕๕ ไม่ได้แวะครับคุุณนายแกปั่นเร่งอยากให้ถึงพระธาตุพนมเร็ว ๆ เพราะเราไม่ได้จองที่พักเกรงว่าจะหาที่พักติดริมโขงไม่ได้ ไม่ว่ากันครับ "เอาไหนเอากัน"
DSC_3832.JPG
DSC_3832.JPG (86.84 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3833.JPG
DSC_3833.JPG (86.69 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3834.JPG
DSC_3834.JPG (97.66 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3837.JPG
DSC_3837.JPG (132.4 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3838.JPG
DSC_3838.JPG (113.43 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3839.JPG
DSC_3839.JPG (99.38 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3838.JPG
DSC_3838.JPG (113.43 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
DSC_3839.JPG
DSC_3839.JPG (99.38 KiB) เข้าดูแล้ว 762 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D จากนครพนมถึงพระธาตุพนมระยะทางตามทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ ประมาณ ๕๕ กม.แต่เราปั่นท่องเที่ยวได้ระยะทางเกือบ ๘๐ กม.ก็สนุกสนานตาม Style Touring ในที่สุดก็ถึงพระธาตุพนมจนได้ สำหรับพระธาตุพนมนี้ เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก เป็นพระธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครพนม ภายในพระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังบรรจุของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น :roll: :roll:

:idea: :idea: จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้คำบรรยายว่า วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ปัจจุบันมี พระเทพวรมุนี เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า (เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม
:idea: :idea:

:idea: :idea: ตำนานพระธาตุพนม โดยหลวงตา :) :D
ไฟล์แนบ
cats๗.jpg
cats๗.jpg (79.55 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
cats๕๓.jpg
cats๕๓.jpg (74.52 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
เราเที่ยวกันเพลินไม่คิดว่าจะถึงเมื่อไหร่ เวลาไหนเรียกว่าเอาที่สบายใจ แต่สังเกตุคุณนายกังวลนิด ๆ เพราะไม่ได้จองที่พักเกรงว่าเราจะหาที่พักที่ถูกใจไม่ได้ เมื่อเราเข้าเขตุพระธาตุพนม (ถนนมุ่งตรงถึงพระธาตุ) เราจอดอยู่ภายนอกพระธาตุกราบรำลึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ช่วงนั้นเวลาเกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว เราตกลงไปหาที่พักกันก่อนเมื่อได้ที่พักช่วงกลางคืนเราค่อยออกมาสักการะพระบรมธาตุอีกครั้ง
เราเที่ยวกันเพลินไม่คิดว่าจะถึงเมื่อไหร่ เวลาไหนเรียกว่าเอาที่สบายใจ แต่สังเกตุคุณนายกังวลนิด ๆ เพราะไม่ได้จองที่พักเกรงว่าเราจะหาที่พักที่ถูกใจไม่ได้ เมื่อเราเข้าเขตุพระธาตุพนม (ถนนมุ่งตรงถึงพระธาตุ) เราจอดอยู่ภายนอกพระธาตุกราบรำลึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ช่วงนั้นเวลาเกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว เราตกลงไปหาที่พักกันก่อนเมื่อได้ที่พักช่วงกลางคืนเราค่อยออกมาสักการะพระบรมธาตุอีกครั้ง
cats๔๖.jpg (122.78 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
ที่ติดกับริมโขงหาไม่ได้แล้วครับ &quot;เต็ม&quot; นึกแล้วที่เหลือก็เป็น รร.ระดับ ๕ ดาวราคาเวอร์มาก ๆ เราวนไปในรัศมี ๑-๒ กม.แล้ววกเข้าเส้นในห่างริมโขงออกไปอีกประมาณ ๑ ช่วงถนน ในที่สุดก็ได้ที่พักที่ถูกใจเจ้าของเป็นครูเกษียณคุยดีมาก ที่สำคัญราคาแตะต้องได้แถมอาหารเช้าอีกมื้อ ที่พักเป็นแบบบ้านก็มีแบบห้องชุดก็มี เราเลือกบ้านเป็นหลังสดวกสบายครับ
ที่ติดกับริมโขงหาไม่ได้แล้วครับ "เต็ม" นึกแล้วที่เหลือก็เป็น รร.ระดับ ๕ ดาวราคาเวอร์มาก ๆ เราวนไปในรัศมี ๑-๒ กม.แล้ววกเข้าเส้นในห่างริมโขงออกไปอีกประมาณ ๑ ช่วงถนน ในที่สุดก็ได้ที่พักที่ถูกใจเจ้าของเป็นครูเกษียณคุยดีมาก ที่สำคัญราคาแตะต้องได้แถมอาหารเช้าอีกมื้อ ที่พักเป็นแบบบ้านก็มีแบบห้องชุดก็มี เราเลือกบ้านเป็นหลังสดวกสบายครับ
cats๔๘.jpg (180.61 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
cats๔๗.jpg
cats๔๗.jpg (137.46 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
cats๔๙.jpg
cats๔๙.jpg (115.91 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
เมื่อเราได้ที่พักเก็บของต่าง ๆ ขึ้นบ้านพักรีบอาบน้ำชำระร่างกายและพักผ่อนกันนิดหน่อย ช่วงเย็นเราก็ออกไปเที่ยวตลาดหาซื้ออาหารการกินซึ่งตลาดยามค่ำใกล้ ๆ พระธาตุมีสาระพัดชนิด เมื่อได้สิ่งที่ต้องการก็พากันกลับมาทานที่บ้านพัก ก่อนที่จะเริ่มตระเวนบามค่ำคืนและไม่ลืมที่จะไปกราบสักการะพระบรมธาตุก่อน
เมื่อเราได้ที่พักเก็บของต่าง ๆ ขึ้นบ้านพักรีบอาบน้ำชำระร่างกายและพักผ่อนกันนิดหน่อย ช่วงเย็นเราก็ออกไปเที่ยวตลาดหาซื้ออาหารการกินซึ่งตลาดยามค่ำใกล้ ๆ พระธาตุมีสาระพัดชนิด เมื่อได้สิ่งที่ต้องการก็พากันกลับมาทานที่บ้านพัก ก่อนที่จะเริ่มตระเวนบามค่ำคืนและไม่ลืมที่จะไปกราบสักการะพระบรมธาตุก่อน
cats๕๐.jpg (111.15 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
cats๕๑.JPG
cats๕๑.JPG (71.04 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
cats๕๒.jpg
cats๕๒.jpg (40.4 KiB) เข้าดูแล้ว 696 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 11 ก.พ. 2023, 09:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :Dเป็นความรู้เพิ่มเติมไปอ่านพบจากเพจของอีจัน ๕ ได้กล่าวเล่าตำนานพระธาตุพนมดังนี้ :

ตำนานพระธาตุพนมยุคปฐมเหตุ ในอุรังคนิทานตำนานพระธาตุพนมได้กล่าวถึงพระพุทธประวัติช่วงปัจฉิมโพธิกาลว่า ...

ครั้งสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระอานนท์เป็นปัจฉาสมณะ ได้เสด็จเหาะมายังดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโขง ทรงบรรทมที่ภูกำพร้า 1 ราตรีโดยมีวิษณุกรรมเทพบุตรคอยอุปัฏฐากรับใช้ รุ่งเช้าก็เสด็จไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูรและทรงพักระหว่างทางใต้ต้นรัง (พระธาตุอิงฮัง เมืองสุวรรณเขต ประเทศลาว) แล้วเสด็จกลับมาเสวยที่ภูกำพร้าโดยทางอากาศ ทรงตรัสถามพระอินทร์ที่เสด็จมาเข้าเฝ้าขณะนั้น ถึงสาเหตุที่พระองค์เสด็จมาค้างแรม ณ สถานที่แห่งนี้ พระอินทร์ได้ทูลตอบว่า เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านมาแล้วถึง 3 พระองค์ เมื่อสดับคำตรัสตอบจากพระอินทร์แล้วก็เสด็จไปยังหนองหานหลวง แล้วเสด็จกลับพระเชตะวัน

เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้วจะถวายพระเพลิงไฟก็ไม่ลุกเผาไหม้ ต่อเมื่อพระมหากัสสปเถระมาถึงและได้นำหมู่สงฆ์ ทำทักษิณาวัฎฎ์ 3 รอบ เสร็จแล้วก็ได้อธิษฐานว่า “พระบรมธาตุองค์ใดที่จะให้ข้าพระบาทนำประดิษฐาน ณ ภูกำพร้าขอพระบรมธาตุนั้นจงเสด็จมาสถิตอยู่บนฝ่ามือของข้าพระบาท ณ บัดนี้เถิด” สิ้นคำอธิษฐานพระอุรังคบรมธาตุก็เสด็จมาประดิษฐานอยู่บนฝ่ามือขวา แล้วเตโชธาตุก็ลุกเผาไหม้พระสรีระของพระบรมศาสดาอย่างอัศจรรย์ โดยไม่มีใครจุด

ต่อมาพระเถระพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 รูปก็ได้นำพระอุรังคบรมธาตุเสด็จโดยทางอากาศเหาะลงที่ดอยแท่น (ภูเพ็ก อ.พรรณานิคม เมืองสกลนคร) เพื่อแจ้งข่าวการเสด็จของพระอุรังคบรมธาตุต่อพญาสุวรรณภิงคาร ผู้ครองเมืองหนองหาน เมื่อพญาอีก 4 เมือง อันประกอบด้วย พญาอินทปัตรนครแห่งศรีโคตรบูร (ตั้งอยู่ใต้ลำน้ำเซบั้งไฟ ในประเทศลาว) พญาจุลมณีพรหมทัตแห่งเมืองจุลมณี (หลวงพระบาง) พญาอินทปัตรนครแห่งเมืองอินทปัตถ์ (ประเทศกัมพูชา) และพญาคำแดง (ตั้งอยู่ที่อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี) ทราบข่าวถึงการเสด็จมาของพระบรมสารีริกธาตุที่จะประดิษฐาน ณ ภูกำพร้าต่างก็ทรงโสมนัสปิติยินดีได้นำกำลังพลมาต้อนรับ และได้ร่วมสร้างองค์พระธาตุพนม เพื่อประดิษฐานพระอุรังคบรมธาตุจนถึงทุกวันนี้ ล่วงเลยมากว่า 2,550 ปี

ตำนานพระธาตุพนม กล่าวไว้ว่า องค์พระธาตุพนมเริ่มสร้างในปีพุทธศักราช 8 ในยุคสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรกำลังเจริญรุ่งเรือง โดยท้าวพญาทั้ง 5 เป็นผู้ก่อสร้างพระธาตุในแต่ละทิศ โดยใช้ดินดิบก่อขึ้นเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 2 วา สูง 2 วา (วาของพระมหากัสสปะเถระ) ข้างในเป็นโพรงมีประตู 4 ด้าน แล้วเผาให้สุก เมื่อสร้างเสร็จได้อัญเชิญพระอุรังคบรมธาตุเข้าประดิษฐานภายใน :idea: :idea:


ภายในองค์พระธาตุบรรจุด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของมีค่ามากมาย เราไปชมกันครับภายในองค์พระธาตุ ซึ่งโอกาสที่จะชมคงหาไม่ได้ ต้องขอบคุณท่านผู้สร้างสรรค์คลิปนี้ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณมากครับ
:) :D

:o :o สุดทึ่ง! ภายในพระธาตุพนม | ไทยทึ่ง เรื่องเด็ดเกร็ดเมืองไทย :o :o
ไฟล์แนบ
cats๕๔.jpg
cats๕๔.jpg (95.6 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
cats๕๕.jpg
cats๕๕.jpg (137.12 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
DSC_3863.JPG
DSC_3863.JPG (61.2 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
DSC_3864.JPG
DSC_3864.JPG (74.98 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
สักการะพระบรมธาตุเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะสงบจิตสงบใจภาวนาคนละ ๑๐ นาทีก่อนที่จะอำลาไปยังริมโขงเพื่อซึมซับบรรยากาศยามค่ำคืนว่า &quot;จะเหมือนนครพนม&quot; ที่เราผ่านมาแล้วหรือไม่<br /><br />พระธาตุพนมเราสองคนเคยมาหลายหน แต่มาหนนี้ดูสะอาดตา สบายใจกว่าทุก ๆ ครั้ง มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบระบียบ จัดความสวยงามได้ลงตัวดีมาก ชื่นชมครับ
สักการะพระบรมธาตุเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะสงบจิตสงบใจภาวนาคนละ ๑๐ นาทีก่อนที่จะอำลาไปยังริมโขงเพื่อซึมซับบรรยากาศยามค่ำคืนว่า "จะเหมือนนครพนม" ที่เราผ่านมาแล้วหรือไม่

พระธาตุพนมเราสองคนเคยมาหลายหน แต่มาหนนี้ดูสะอาดตา สบายใจกว่าทุก ๆ ครั้ง มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบระบียบ จัดความสวยงามได้ลงตัวดีมาก ชื่นชมครับ
DSC_3865.JPG (67.09 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
IMG20221111194611.jpg
IMG20221111194611.jpg (61.56 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
IMG20221111194811.jpg
IMG20221111194811.jpg (94.62 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
IMG20221111194855.jpg
IMG20221111194855.jpg (14.47 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (493).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (493).jpg (71.37 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (507).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (507).jpg (85.37 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (508).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (508).jpg (35.52 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (511).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (511).jpg (78.81 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
ความสุขที่ได้รับไม่แตกต่างกับที่นครพนมเลย อากาศเย็นนิด ๆ ค่อนไปทางหนาวหน่อย ๆ ผู้คนเป็นมิตรไมตรียิ้มแย้มทักทายคุยกันเสมือนพี่น้อง ถนนเรียบริมโขงก็สะอาดสะอ้าน สบายใจปั่นได้สะบายไม่ต้องกังวล เราซึมซับกับบรรยากาศนานพอสมควรก็กลับที่พัก แต่ก่อนกลับที่พักต้องย้อนเข้าในพระธาตุอีกครั้งเพื่อเตรียมอาหารแห้งสำหรับใส่บาตรรุ่งเช้าครับ
ความสุขที่ได้รับไม่แตกต่างกับที่นครพนมเลย อากาศเย็นนิด ๆ ค่อนไปทางหนาวหน่อย ๆ ผู้คนเป็นมิตรไมตรียิ้มแย้มทักทายคุยกันเสมือนพี่น้อง ถนนเรียบริมโขงก็สะอาดสะอ้าน สบายใจปั่นได้สะบายไม่ต้องกังวล เราซึมซับกับบรรยากาศนานพอสมควรก็กลับที่พัก แต่ก่อนกลับที่พักต้องย้อนเข้าในพระธาตุอีกครั้งเพื่อเตรียมอาหารแห้งสำหรับใส่บาตรรุ่งเช้าครับ
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (517).jpg (35.38 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
IMG20221111193338.jpg
IMG20221111193338.jpg (83 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
DSC_3866.JPG
DSC_3866.JPG (58.25 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
DSC_3867.JPG
DSC_3867.JPG (55.8 KiB) เข้าดูแล้ว 695 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D เราสองคนไปกราบนมัสการพระธาตุและไปชมพระจันทร์ริมโขง จนอิ่มใจก็พากันกลับมาพักผ่อนยังที่พัก หลับเป็นตายครับ ก่อนนอนเราคุยกันว่าเราจะพากันไปยังพระธาตุเรณูตามโปรแกรม ได้รับคำแนะนำจากเจ้าของรีสอร์ถึงเส้นทาง ก็คือต้องย้อนกลับทางเดิมไปเลี้ยวซ้ายตรงที่วัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ซึ่งเราไม่ได้แวะชมเมื่อก่อนจะเข้าพระธาตุพนม เรียกว่ายังมีบุญได้กลับไป ได้ศึกษาประวัติแล้วมีตำนานไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ :) :D

:idea: :idea: ประวัติพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง(องค์เก่า) พระธาตุน้อยศรีบุญเรืองนั้นสร้างขึ้นตามหลังองค์พระธาตุพนมเมื่อ พ.ศ. 8 หลังจากที่พระมหากัสสปะมาประกาศศาสนาพุทธในแถบดินแดนสุวรรณภูมิจนมาถึงบริเวรภูกำพร้า ได้ชักชวนเจ้าเมืองทั้ง 5 พระองค์ มาสร้างพระธาตุพนม อันได้แก่ พญานันทเสน แห่งเมืองศรีโคตบูร พญาจุลณีพรหมทัต พญาอินทปัตถนคร พญาคำแดง แห่งเมืองหนองหารน้อย และพญาสุวรรณพิงคาระ แห่งเมืองหนองหารหลวง

พญานันทเสน แห่งเมืองศรีโคตรบูร ประกาศให้ชาวเมืองได้รู้ว่าจะมีการก่อสร้างพระธาตุพนมที่บริเวณภูกำพร้า ชาวเมืองก็เกิดศรัทธาได้นำข้าวของมีค่าเดินทางมาเพื่อจะนำไปบรรจุในองค์พระธาตุพนม ครั้นเดินทางมาถึง ณ บ้านธาตุน้อย ก็ได้รับข่าวสารว่าองค์พระธาตุพนมได้ปิดอุโมงค์ ไปแล้ว แต่ด้วยความศรัทธาจึงพากันก่อสร้างพระธาตุน้อยศรีบุญเรืองขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ณ วัดธาตุน้อยศรีบุญเรืองแห่งนี้

พระธาตุน้อยล้มเมื่อใดนั้นไม่ปรากฏเช่นกันแต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านเล่าสืบๆกันมาว่า ช้างพระแก้วโกมล เจ้าเมืองเรณูนคร ( เจ้าเมืองเรณูชื่อตำแหน่งพระแก้วโกมล มี ๕ องค์ พ.ศ. ๒๓๘๗ – ๒๔๔๖ )ได้เลี้ยงไว้ที่บ้านดงมะเอกสมัยนั้นได้ปล่อยออกมาหากิน จึงได้มาชนกับองค์พระธาตุน้อย ทำให้พระธาตุน้อยพังทลายล้มลงไปทางทิศตะวันออก

ในปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้มีชาวบ้านอพยบมาจากเมืองลาว ได้มาตั้งถิ่นฐานใกล้กับบริเวณพระธาตุน้อย ต่อมาหลวงปู่วงแหวนเดินธุดงค์มาเห็นว่าเป็นที่ร่มรื่นได้ปักกลดอยู่ที่นั้น ชาวบ้านที่อยู่ที่นั้นจึงได้นิมนต์ท่านอยู่ และปรึกษากันตั้งวัดและหมู่บ้านขึ้นให้ชื่อว่าวัดธาตุน้อย และบ้านธาตุน้อย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙

พระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ได้มีการบูรณะแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จได้พังทลายเพราะช่างสมัยนั้นยังขาดความรู้ความชำนาญในการก่อสร้าง ประกอบกับเจอพายุฝนกระหน่ำทำให้เกิดน้ำขังในบริเวณองค์พระธาตุน้อยศรีบุญเรือง จนน้ำฝนดันพระธาตุน้อยศรีบุญเรืองให้แตกพังทลายลงมาตามเดิม

ปัจจุบัน บริเวณพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2526 เพื่อรักษาวัตถุโบราณ ภายใต้องค์พระธาตุน้อยศรีบุญเรืองเอาไว้ มิให้ผู้ใดมาขุดค้นหาวัตถุโบราณ และเป็นศูนย์รวมจิตใจใสศรัทธาของชาวบ้านในอำเภอธาตุพนมเช่นกัน
:idea: :idea:
ไฟล์แนบ
263746.jpg
263746.jpg (130.19 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
ค่ำคืนริมโขง ณ พระธาตุพนม เราสองคนเพลิดเพลินเจริญใจกับธรรมชาติยามค่ำคืน ที่ไม่แพ้นครพนมเลยอากาศเย็นที่ค่อนข้างหนาวนิด ๆ กับพระจันทร์ที่โผล่เหนือน้ำเรียกว่าเหนือคำบรรยาย ต้องไปประสบพบกับตัวเองจึงจะรู้ได้เรียกว่าเป็น &quot;ปัจจัตตัง&quot; คือรู้ได้เฉพาะตน สำหรับผมนั้นขอบอกว่านครพนม พระธาตุพนม ควรจะเป็นแหล่งพำนักพักพิงอีกแห่งหนึ่ง ว่างเมื่อไหร่ต้องหาโอกาสกลับไปอีกแน่นอนครับ
ค่ำคืนริมโขง ณ พระธาตุพนม เราสองคนเพลิดเพลินเจริญใจกับธรรมชาติยามค่ำคืน ที่ไม่แพ้นครพนมเลยอากาศเย็นที่ค่อนข้างหนาวนิด ๆ กับพระจันทร์ที่โผล่เหนือน้ำเรียกว่าเหนือคำบรรยาย ต้องไปประสบพบกับตัวเองจึงจะรู้ได้เรียกว่าเป็น "ปัจจัตตัง" คือรู้ได้เฉพาะตน สำหรับผมนั้นขอบอกว่านครพนม พระธาตุพนม ควรจะเป็นแหล่งพำนักพักพิงอีกแห่งหนึ่ง ว่างเมื่อไหร่ต้องหาโอกาสกลับไปอีกแน่นอนครับ
cats๖๕.jpg (76.28 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
ตี ๕ กว่าเจ้าของรีสอร์ทมาปลุกให้เราเตรียมตัวใส่บาตร เช้านี้ (๑๒/๑๑/๖๕) จะมีพระมารับบิณฑบาตรหลายคณะแล้วแต่เราจะทันคณะใด เตรียมของใส่มากน้อยตามแรงศรัทธา เรารีบชำระร่างกายและเตรียมไปใส่บาตร ทันชุดแรกพอดี มีหลวงตาองค์หนึ่งหลังที่ใส่บาตรท่านเสร็จ ท่านเมตตาหยิบขนมในบาตรส่งให้ผม ๒ ชิ้นและพูดว่า &quot;เอา..เอาไปกินให้ร่างกายแข็งแรงมีแฮงอยู่นาน ๆ เด้อ&quot;
ตี ๕ กว่าเจ้าของรีสอร์ทมาปลุกให้เราเตรียมตัวใส่บาตร เช้านี้ (๑๒/๑๑/๖๕) จะมีพระมารับบิณฑบาตรหลายคณะแล้วแต่เราจะทันคณะใด เตรียมของใส่มากน้อยตามแรงศรัทธา เรารีบชำระร่างกายและเตรียมไปใส่บาตร ทันชุดแรกพอดี มีหลวงตาองค์หนึ่งหลังที่ใส่บาตรท่านเสร็จ ท่านเมตตาหยิบขนมในบาตรส่งให้ผม ๒ ชิ้นและพูดว่า "เอา..เอาไปกินให้ร่างกายแข็งแรงมีแฮงอยู่นาน ๆ เด้อ"
cats๕๖.jpg (168.66 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
ขนมที่หลวงตาเมตตาหยิบยื่นให้ อร่อยครับอยากบอกหลวงตาให้น้อยไปหน่อย ๕๕๕๕
ขนมที่หลวงตาเมตตาหยิบยื่นให้ อร่อยครับอยากบอกหลวงตาให้น้อยไปหน่อย ๕๕๕๕
cats๖๑.jpg (62.82 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๕๗.jpg
cats๕๗.jpg (103.35 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
หลังจากที่เราใส่บาตรชุดแรกเสร็จ สังเกตุพระทิ้งช่วงห่าง หลังจากนี้ครูกนก ฯ เจ้าของรีสอร์ทบอกว่ายังมีคณะใหญ่จากวัดพระธาตุพนม จะเดินมารับบิณฑบาตรประมาณเจ็ดโมงกว่านิด ๆ เราจึงถือโอกาสเดินออกไปปากซอยไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมโขง พบว่ามีบรรดานักท่องเที่ยวและชาวบ้านพากันรอใส่บาตรอยู่ริมถนนกันเยอะเลย อนุโมทนาสาธุ สาธุ ครับ
หลังจากที่เราใส่บาตรชุดแรกเสร็จ สังเกตุพระทิ้งช่วงห่าง หลังจากนี้ครูกนก ฯ เจ้าของรีสอร์ทบอกว่ายังมีคณะใหญ่จากวัดพระธาตุพนม จะเดินมารับบิณฑบาตรประมาณเจ็ดโมงกว่านิด ๆ เราจึงถือโอกาสเดินออกไปปากซอยไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมโขง พบว่ามีบรรดานักท่องเที่ยวและชาวบ้านพากันรอใส่บาตรอยู่ริมถนนกันเยอะเลย อนุโมทนาสาธุ สาธุ ครับ
cats๕๘.jpg (96.47 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๕๙.jpg
cats๕๙.jpg (170.88 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
เราไปชมพระอาทิตย์ขึ้นริมโขงยามเช้าและได้เห็นนักท่องเที่ยวมารอใส่บาตร ชื่นใจ พระพุทธศาสนาจะต้องอยู่คู่แผ่นดินไปตราบนานเท่านาน ขออธิษฐานให้ชาวพุทธเมืองไทยจงกลับมาเป็นพุทธแท้ ๆ ที่ไม่อิงกับสิ่งไร้สาระนอกรีตนอกรอยคำสอน ขูดเลข ไหว้ผีสางนางไม้ ฯลฯ ขอให้ยึดพระธรรมคำสอนอันได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา เอา พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่แท้จริงแค่นี้พอ ส่วนใครที่อยากจะพ้นทุกข์จริง ๆ ก็ขอให้ปรับเปลี่ยนการปฏิบัติให้เข้มขึ้น ได้แก่ ศีล สมาธิ ภาวนา หรือใครที่เจริญในธรรมยิ่งแล้วก็ขอให้เพิ่มเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา ต่อไปนะครับ...สาธุ สาธุ สาธุ .<br /><br />เสร็จจากการใส่บาตรเราก็มากินมื้อเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ เราสองคนบอกว่าเรากินมังสวิรัติ เจ้าของใจดีมากทำให้เราเป็นไข่กะทะสองฟองปาท่องโก๋ ขนมปัง อิ่มครับ จากนั้นเราก็ไปเตรียมตัวออกเดินทางไปตามโปรแกรมของเรา ไม่ลืมที่จะผ่านออกไปทางพระธาตุ ไปกราบนมัสการสักการะเป็นศิริมงคลก่อนออกเดินทางครับ
เราไปชมพระอาทิตย์ขึ้นริมโขงยามเช้าและได้เห็นนักท่องเที่ยวมารอใส่บาตร ชื่นใจ พระพุทธศาสนาจะต้องอยู่คู่แผ่นดินไปตราบนานเท่านาน ขออธิษฐานให้ชาวพุทธเมืองไทยจงกลับมาเป็นพุทธแท้ ๆ ที่ไม่อิงกับสิ่งไร้สาระนอกรีตนอกรอยคำสอน ขูดเลข ไหว้ผีสางนางไม้ ฯลฯ ขอให้ยึดพระธรรมคำสอนอันได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา เอา พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่แท้จริงแค่นี้พอ ส่วนใครที่อยากจะพ้นทุกข์จริง ๆ ก็ขอให้ปรับเปลี่ยนการปฏิบัติให้เข้มขึ้น ได้แก่ ศีล สมาธิ ภาวนา หรือใครที่เจริญในธรรมยิ่งแล้วก็ขอให้เพิ่มเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา ต่อไปนะครับ...สาธุ สาธุ สาธุ .

เสร็จจากการใส่บาตรเราก็มากินมื้อเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ เราสองคนบอกว่าเรากินมังสวิรัติ เจ้าของใจดีมากทำให้เราเป็นไข่กะทะสองฟองปาท่องโก๋ ขนมปัง อิ่มครับ จากนั้นเราก็ไปเตรียมตัวออกเดินทางไปตามโปรแกรมของเรา ไม่ลืมที่จะผ่านออกไปทางพระธาตุ ไปกราบนมัสการสักการะเป็นศิริมงคลก่อนออกเดินทางครับ
cats๖๐.jpg (141.98 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๒.jpg
cats๖๒.jpg (142.69 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๓.JPG
cats๖๓.JPG (97.54 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๔.jpg
cats๖๔.jpg (125.93 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๖.jpg
cats๖๖.jpg (144.18 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๗.jpg
cats๖๗.jpg (103.64 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
กฎของธรรมชาติ ความไม่เที่ยง เจดีย์องค์เก่าที่ล่มล้มลง และศรัทธาชาวบ้านก็ได้ย้ายไปสร้างที่ใหม่ใกล้ ๆ กันพระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างทดแทนองค์เดิม ลักษณะพระธาตุคล้ายกับพระธาตุพนม ด้านหน้าพระธาตุจะมีรูปปั้นปู่สุวรรณนาคราช และ ปู่ภุชงค์นาคราช เลื้อยล้อมพระธาตุโดยรอบ เป็นรูปปั้นที่ปั้นได้ดูอ่อนช้อยสวยงามมาก
กฎของธรรมชาติ ความไม่เที่ยง เจดีย์องค์เก่าที่ล่มล้มลง และศรัทธาชาวบ้านก็ได้ย้ายไปสร้างที่ใหม่ใกล้ ๆ กันพระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างทดแทนองค์เดิม ลักษณะพระธาตุคล้ายกับพระธาตุพนม ด้านหน้าพระธาตุจะมีรูปปั้นปู่สุวรรณนาคราช และ ปู่ภุชงค์นาคราช เลื้อยล้อมพระธาตุโดยรอบ เป็นรูปปั้นที่ปั้นได้ดูอ่อนช้อยสวยงามมาก
DSC_3901.JPG (112.84 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๘.jpg
cats๖๘.jpg (108.61 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
cats๖๙.jpg
cats๖๙.jpg (158.26 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
DSC_3902.JPG
DSC_3902.JPG (93.92 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
DSC_3903.JPG
DSC_3903.JPG (94.25 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
DSC_3906.JPG
DSC_3906.JPG (81.84 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
DSC_3907.JPG
DSC_3907.JPG (105.09 KiB) เข้าดูแล้ว 646 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 13 ก.พ. 2023, 11:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D
ไฟล์แนบ
IMG20221112100419.jpg
IMG20221112100440.jpg
IMG20221112100706.jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (575).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (577).jpg
อำเภอเรณูนคร จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<br /><br />คำขวัญ: เรณูนคร ดอนดินถิ่นผู้ไทย สาวสวยรวยน้ำใจ เลิศวิไลในวัฒนธรรม<br /><br />ที่ตั้งที่ว่าการ	ที่ว่าการอำเภอเรณูนคร เลขที่ 104<br />หมู่ที่ 9 ตำบลโพนทอง อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม 48170<br /><br />เรณูนคร เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครพนม เดิมเป็นท้องที่ของอำเภอธาตุพนม ประกาศจัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอ โดยแยกตำบลเรณู ตำบลโพนทอง และตำบลท่าลาด จากอำเภอธาตุพนมในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2513[1] และได้ยกฐานะเป็นอำเภอในวันที่ 21 สิงหาคม 2518[2]<br /><br />ประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2369 (ก่อนสงครามเจ้าอนุวงศ์) ตรงกับในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่เมืองวังมีความวุ่นวาย เกิดขัดแย้งภายในของกลุ่มผู้ไท ที่มีเมืองวังเป็นเมืองหลัก ได้มีไทครัวผู้ไทกลุ่มหนึ่งอพยพมาตั้งบ้านเรือนในฝั่งขวาแม่น้ำโขง มีนายไพร่ รวม 2,648 คน ต่อมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านบุ่งหวาย ในปี พ.ศ. 2373 พระสุนทรราชวงษา เจ้าเมืองยโสธร ว่าราชการอยู่เมืองนครพนมได้มีใบบอกขอตั้งบ้านดงหวายเป็นเมือง &quot;เรณูนคร&quot; <br /><br />ต่อมา ร.3 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านบุ่งหวาย ขึ้นเป็นเมืองเรณูนคร และตั้งให้ ท้าวสาย หัวหน้าไทครัวผู้ไทเป็น &quot;พระแก้วโกมล&quot; เจ้าเมืองเรณูนคร คนแรก ขึ้นเมืองนครพนม(ในปี พ.ศ. 2387) ซึ่งคือท้องที่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนมในปัจจุบันนั่นเอง (จากเอกสาร ร.3 จ.ศ.1206 เลขที่ 58 หอสมุดแห่งชาติ) ชาวผู้ไทเรณูนคร จึงเป็นชาวผู้ไทกลุ่มแรกที่อพยพมาอยู่ในเขตฝั่งขวาแม่น้ำโขง(หมายถึงผู้ไทที่เป็นบรรพบุรุษของคนผู้ไทในอิสานปัจจุบัน)
อำเภอเรณูนคร จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คำขวัญ: เรณูนคร ดอนดินถิ่นผู้ไทย สาวสวยรวยน้ำใจ เลิศวิไลในวัฒนธรรม

ที่ตั้งที่ว่าการ ที่ว่าการอำเภอเรณูนคร เลขที่ 104
หมู่ที่ 9 ตำบลโพนทอง อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม 48170

เรณูนคร เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครพนม เดิมเป็นท้องที่ของอำเภอธาตุพนม ประกาศจัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอ โดยแยกตำบลเรณู ตำบลโพนทอง และตำบลท่าลาด จากอำเภอธาตุพนมในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2513[1] และได้ยกฐานะเป็นอำเภอในวันที่ 21 สิงหาคม 2518[2]

ประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2369 (ก่อนสงครามเจ้าอนุวงศ์) ตรงกับในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่เมืองวังมีความวุ่นวาย เกิดขัดแย้งภายในของกลุ่มผู้ไท ที่มีเมืองวังเป็นเมืองหลัก ได้มีไทครัวผู้ไทกลุ่มหนึ่งอพยพมาตั้งบ้านเรือนในฝั่งขวาแม่น้ำโขง มีนายไพร่ รวม 2,648 คน ต่อมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านบุ่งหวาย ในปี พ.ศ. 2373 พระสุนทรราชวงษา เจ้าเมืองยโสธร ว่าราชการอยู่เมืองนครพนมได้มีใบบอกขอตั้งบ้านดงหวายเป็นเมือง "เรณูนคร"

ต่อมา ร.3 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านบุ่งหวาย ขึ้นเป็นเมืองเรณูนคร และตั้งให้ ท้าวสาย หัวหน้าไทครัวผู้ไทเป็น "พระแก้วโกมล" เจ้าเมืองเรณูนคร คนแรก ขึ้นเมืองนครพนม(ในปี พ.ศ. 2387) ซึ่งคือท้องที่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนมในปัจจุบันนั่นเอง (จากเอกสาร ร.3 จ.ศ.1206 เลขที่ 58 หอสมุดแห่งชาติ) ชาวผู้ไทเรณูนคร จึงเป็นชาวผู้ไทกลุ่มแรกที่อพยพมาอยู่ในเขตฝั่งขวาแม่น้ำโขง(หมายถึงผู้ไทที่เป็นบรรพบุรุษของคนผู้ไทในอิสานปัจจุบัน)
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (580).jpg (112.87 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
IMG20221112100811.jpg
DSC_3913.JPG
DSC_3913.JPG (92.08 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3914.JPG
DSC_3914.JPG (96.83 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3915.JPG
DSC_3915.JPG (73.14 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3918.JPG
DSC_3918.JPG (103 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3919.JPG
DSC_3919.JPG (82.96 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3920.JPG
DSC_3920.JPG (91.74 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3921.JPG
DSC_3921.JPG (69.42 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3922.JPG
DSC_3922.JPG (57.24 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3923.JPG
DSC_3923.JPG (76.84 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
DSC_3924.JPG
DSC_3924.JPG (120.84 KiB) เข้าดูแล้ว 644 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4352
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อรุณสวัสดิ์ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ เช้านี้เราไปกราบสักการะพระธาตุเรณู และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธาตุเรณู พร้อมชมภาพสวย ๆ กันต่อใครที่เกิดวันจันทร์ไม่ควรพลาด เพราะเป็นพระธาตุประจำปีเกิดนะครับ :) :D

:idea: :idea: พระธาตุเรณู สร้างราวปี พ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๖๓ องค์พระธาตุจำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เต็ม ก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้ามา บูรณะในปี พ.ศ.๒๔๙๓ แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยา และเจ้าเมือง และของมีค่าที่ประชาชนมีศรัทธาบริจาค ต่อมาได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในปี พ.ศ.๒๕๕๙ ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระองค์แสน พระคู่บ้านคู่เมืองเรณูนคร พระพุทธรูปศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ พุทธลักษณะสวยงามมาก บริเวณวัดมีลานวัฒนธรรม ผู้ไทยเรณูนคร โรงละครเมืองเว ไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและนักท่องเที่ยว ทั้งยังมีร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และผ้าพื้นเมืองที่ ไม่ควรพลาดเลือกชมเลือกอุดหนุนอย่างยิ่ง

พระธาตุเรณูนอกจากเป็นพระธาตุประจำเมืองเรณูนครแล้ว ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์ด้วย ซึ่งเชื่อว่าสอดคล้องกับสักษณะอ่อนช้อย สีสันนุ่มละมุนสบายตา แต่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ตามรูปแบบศิลปะล้านช้าง เปรียบดังอาชาไนยต้นพาหนะประจำพระจันทร์ และนอกจากนี้ตัวของพระธาตุเองยังหันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศ ประจำของผู้ที่เกิดวันจันทร์ เรณูนครยังเป็นที่ร่ำลือวัฒนธรรม ศิลปหัตถกรรม เครื่องแต่งกายต่างๆ การฟ้อนรํา กิจกรรมต่างๆ ของชาวบ้าน ล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่นขึ้นชื่อ สวยงาม ผ่องใส เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้ที่ได้รู้จัก เปรียบเสมือนพระจันทร์บนท้องนภา ที่ไม่ว่าใครก็อยากจะหมายปอง

พระอรหันต์ประจําทิศได้แก่ พระอัญญาโกณฑัญญะ” ซึ่งถือเป็นผู้รู้แจ้งเห็นธรรมมาช้านาน แผ่นดินนี้จึงมีแต่ ความมีสงบสุข จากอิทธิพลของเทวดาประจําวันได้ส่งผลให้ผู้ที่ถือกําเนิดขึ้นในวันจันทร์ เป็นผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยน มีเมตตากรุณา ขี้สงสารต่อ ผู้ที่ด้อยกว่า เป็นผู้เปี่ยมด้วยความกตัญญู มีจิตใจผ่องใส มีความรักในเพื่อนมนุษย์ มีความออนโยน ยามที่ตกทุกข์มักจะมีคน มาช่วยเหลือ รูปร่างหน้าตาแต่งแต้มไปด้วยเสน่ห์ ช่างคิด ช่างฝัน หวั่นไหวง่าย แต่ที่เข้มแข็งเมื่อสถานการณ์บีบบังคับ

ที่มา : หนังสือไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ๗ วัน ๘ พระธาตุ โครงการพัฒนาและส่งเสรฺมการท่องเที่ยวพระธาตุสำคัญจังหวัดนครพนม
:idea: :idea:

:) :D วัดพระธาตุเรณู ตำบลเรณู อำเภอเรณู จังหวัดนครพนม :) :D
ไฟล์แนบ
เมื่อคืนที่ผ่านมาเรา ยว.๐๘ ได้ไปร่วมงานขาวดำเพื่อน อุดม จันทะมาศ ที่เคยเรียนมาด้วยกันต้องมาลาโลกไปด้วยวัย ๗๓ จะเห็นได้ว่ารุ่นเราเริ่มป่วย เริ่มลาโลกทะยอยไปกันทีละคน ๆ อีกไม่นานก็คงถึงคิวของเรา ขอให้เพื่อนสู่สุคติสัมปรายภพ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินก็อโหสิกรรมให้กันและกันนะครับ
เมื่อคืนที่ผ่านมาเรา ยว.๐๘ ได้ไปร่วมงานขาวดำเพื่อน อุดม จันทะมาศ ที่เคยเรียนมาด้วยกันต้องมาลาโลกไปด้วยวัย ๗๓ จะเห็นได้ว่ารุ่นเราเริ่มป่วย เริ่มลาโลกทะยอยไปกันทีละคน ๆ อีกไม่นานก็คงถึงคิวของเรา ขอให้เพื่อนสู่สุคติสัมปรายภพ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินก็อโหสิกรรมให้กันและกันนะครับ
263745.jpg (167.05 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
cats๗๐.jpg
cats๗๐.jpg (128.68 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
cats๗๑.jpg
cats๗๑.jpg (131.64 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
cats๗๕.jpg
cats๗๕.jpg (143.57 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
cats๗๘.jpg
cats๗๓.jpg
cats๗๓.jpg (139.36 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
cats๗๔.jpg
cats๗๔.jpg (156.02 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
คนแคระชายนั่งขายถั่วดินคั่ว เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครอุดหนุนเลย ผมเข้าไปนั่งคุยด้วย คุยน่ารักเป็นชาวบ้านต่างอำเภอแกมีเรื่องเล่าเยอะแยะมากมาย ความรู้ประสบการณ์ดีมาก ๆ  แกไปรับถั่วจากแม่ค้าแล้วนำมาขายต่อสอบถามวัน ๆ ได้สักกี่มากน้อย แกบอกขายไม่ค่อยได้แย่เลย ก่อนที่จะจากกันคุณนายก็อุดหนุนเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป อนุโมทนาสาธุ สาธุ ครับ
คนแคระชายนั่งขายถั่วดินคั่ว เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาไม่มีใครอุดหนุนเลย ผมเข้าไปนั่งคุยด้วย คุยน่ารักเป็นชาวบ้านต่างอำเภอแกมีเรื่องเล่าเยอะแยะมากมาย ความรู้ประสบการณ์ดีมาก ๆ แกไปรับถั่วจากแม่ค้าแล้วนำมาขายต่อสอบถามวัน ๆ ได้สักกี่มากน้อย แกบอกขายไม่ค่อยได้แย่เลย ก่อนที่จะจากกันคุณนายก็อุดหนุนเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป อนุโมทนาสาธุ สาธุ ครับ
cats๗๒.jpg (133.98 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
cats๗๖.jpg
cats๗๖.jpg (119.27 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
ผมคนเกิดวันจันทร์ แต่ก่อนผมเชื่อเพียงว่า พระประจำวันจันทร์ ได้แก่ ปางห้ามพยาธิ, ปางห้ามญาติ และปางห้ามสมุทร โดยปางห้ามพยาธิ และปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงข้างพระกาย พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) แบฝ่าพระหัตถ์ตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าเป็นกิริยาห้าม และปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าเสมอพระอุระ เป็นกิริยาห้ามเช่นกัน ตอนนี้เพิ่มเป็นพราตุประจำวันเกิดอีก ๑ ครับ  เป็น ความรู้ใหม่ตอนนี้ผมมีพระธาตุประจำปีเกิดแล้วครับคือ “พระธาตุเรณู”
ผมคนเกิดวันจันทร์ แต่ก่อนผมเชื่อเพียงว่า พระประจำวันจันทร์ ได้แก่ ปางห้ามพยาธิ, ปางห้ามญาติ และปางห้ามสมุทร โดยปางห้ามพยาธิ และปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงข้างพระกาย พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) แบฝ่าพระหัตถ์ตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าเป็นกิริยาห้าม และปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าเสมอพระอุระ เป็นกิริยาห้ามเช่นกัน ตอนนี้เพิ่มเป็นพราตุประจำวันเกิดอีก ๑ ครับ เป็น ความรู้ใหม่ตอนนี้ผมมีพระธาตุประจำปีเกิดแล้วครับคือ “พระธาตุเรณู”
DSC_3938.JPG
DSC_3938.JPG (79.51 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
DSC_3940.JPG
DSC_3940.JPG (94.21 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
เสร็จจากการกราบสักการะพระธาตุเรณู ซึ่งเป็นพระธาตุประจำววันเกิดของตัวผมเอง เราก็ออกเดินทางมุ่งไปยัง อ.นาแก ไปเยี่ยมชมพระธาตุที่ อ.นาแกกันต่อไปครับ
เสร็จจากการกราบสักการะพระธาตุเรณู ซึ่งเป็นพระธาตุประจำววันเกิดของตัวผมเอง เราก็ออกเดินทางมุ่งไปยัง อ.นาแก ไปเยี่ยมชมพระธาตุที่ อ.นาแกกันต่อไปครับ
DSC_3943.JPG (103.39 KiB) เข้าดูแล้ว 906 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ทัวร์ริ่ง (Touring)”