10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
ใกล้เช้ามาทุกขณะกับมหกรรมการปั่นพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ ในงาน inthanon challenge 2018 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ เลยอยากจะขอรวบรวม 10 ข้อที่ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องเตรียมพร้อมแล้วตรวจสอบก่อนจะร่วมงาน เพื่อให้สามารถพิชิตยอดดอยอินทนนท์[homeimg=300,250]- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 เตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
1.ศึกษาเส้นทาง
ระยะทางในการปั่นพิชิตดอยอินทนนท์ มีระยะประมาณ 46 กิโลเมตร ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องปั่นไต่ระดับขึ้นแนวดิ่ง 2,176 เมตร เพื่อขึ้นสู่ยอดดอย โดยตลอดเส้นทางจะมีความชันของเส้นทางหลายรูปแบบให้ปั่นผ่าน มีทั้งขึ้นทั้งลง แต่ส่วนใหญ่ก้คือปันขึ้น ดังนั้นการศึกษาเส้นทางไว้ จะทำให้ท่านสามารถประมาณความสามารถของตัวเองได้
รูปแสดงแผนที่เส้นทางในการปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
รูปแสดงความชันของเส้นทางในการปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
ท่านสามารถศึกษาเส้นทางในการปั่นขึ้นดอยอินทนนท์ได้จากการทู้นี้
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1686347
ระยะทางในการปั่นพิชิตดอยอินทนนท์ มีระยะประมาณ 46 กิโลเมตร ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องปั่นไต่ระดับขึ้นแนวดิ่ง 2,176 เมตร เพื่อขึ้นสู่ยอดดอย โดยตลอดเส้นทางจะมีความชันของเส้นทางหลายรูปแบบให้ปั่นผ่าน มีทั้งขึ้นทั้งลง แต่ส่วนใหญ่ก้คือปันขึ้น ดังนั้นการศึกษาเส้นทางไว้ จะทำให้ท่านสามารถประมาณความสามารถของตัวเองได้
รูปแสดงแผนที่เส้นทางในการปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
รูปแสดงความชันของเส้นทางในการปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
ท่านสามารถศึกษาเส้นทางในการปั่นขึ้นดอยอินทนนท์ได้จากการทู้นี้
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1686347
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 เตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
2.วางแผนกำหนดเป้าหมาย
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง เป็นสุภาษิตว่าด้วยการทำสงคราม เช่นเดียวกับการปั่นจักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ในปีนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องมีการวางแผน และ ติดตามผล เนื่องจากกิจกรรมีข้อจำกัดทางด้านเวลา หากไปถึงยอดดอยเย็นมาก อากาศจะหนาว หรือ ถ้ามากกว่านั้นอาจจะมืดค่ำได้
ซึ่งนักปั่นก็ต้องมีการวางแผนและกำหนดเป้าหมายของตัวเองไว้ เช่นในช่วงการปั่นจากจุดสต๊าท มาถึงที่ทำการกิโลเมตรที่ 31 ควรจะต้องทำเวลาให้อยู่ค่าที่ไม่ช้าเกินไป จากนั้นช่วงที่ทำหารถึงด่านสอง เป็นช่วงที่บางช่วงมีความชันมาก ช่วงนี้ทำเวลาได้ไม่เร็วนัก จากนั้นช่วงด่านสองถึงยอดดอย จะเป็นช่วงที่โหดสุด เพราะเส้นทางมีความชัน และ นั่งปั่นเหนื่อยมากจากการปั่นมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นท่านจะต้องวางแผนและกำหนดเวลาในการปั่นคร่าวๆไว้ด้วย ทั้งนี้ก็ต้องเผื่อเวลาสำหรับพักผ่อนด้วย สำหรับท่านที่ทักษะการขึ้นเขายังไม่เก่งพอ
แนะนำว่าไม่ควรจะถึง กิ่วแม่ปาก ช้ากว่า 15.30 น. เพราะอาจจะทำให้ถึงยอดดอยค่ำได้
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง เป็นสุภาษิตว่าด้วยการทำสงคราม เช่นเดียวกับการปั่นจักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ในปีนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องมีการวางแผน และ ติดตามผล เนื่องจากกิจกรรมีข้อจำกัดทางด้านเวลา หากไปถึงยอดดอยเย็นมาก อากาศจะหนาว หรือ ถ้ามากกว่านั้นอาจจะมืดค่ำได้
ซึ่งนักปั่นก็ต้องมีการวางแผนและกำหนดเป้าหมายของตัวเองไว้ เช่นในช่วงการปั่นจากจุดสต๊าท มาถึงที่ทำการกิโลเมตรที่ 31 ควรจะต้องทำเวลาให้อยู่ค่าที่ไม่ช้าเกินไป จากนั้นช่วงที่ทำหารถึงด่านสอง เป็นช่วงที่บางช่วงมีความชันมาก ช่วงนี้ทำเวลาได้ไม่เร็วนัก จากนั้นช่วงด่านสองถึงยอดดอย จะเป็นช่วงที่โหดสุด เพราะเส้นทางมีความชัน และ นั่งปั่นเหนื่อยมากจากการปั่นมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นท่านจะต้องวางแผนและกำหนดเวลาในการปั่นคร่าวๆไว้ด้วย ทั้งนี้ก็ต้องเผื่อเวลาสำหรับพักผ่อนด้วย สำหรับท่านที่ทักษะการขึ้นเขายังไม่เก่งพอ
แนะนำว่าไม่ควรจะถึง กิ่วแม่ปาก ช้ากว่า 15.30 น. เพราะอาจจะทำให้ถึงยอดดอยค่ำได้
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 เตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
3.เช็คความพร้อมของรถ
[align=center][/align]
จะรับศึกหนักรถต้องพร้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์ ต้องเพียงพอสำหรับทักษะของผู้ขี่ และ ความชันของเส้นทาง จำไว้เลยน่ะครับ ถ้าปั่นไม่ไหวก็ลงเข็นก็ได้ไม่มีใครว่า เพราะการซอยขาขึ้นเขาด้วยเกียร์เบานั้น ผู้ขี่จะต้องใช้สมาธิและการทรงตัวเป็นอย่างมาก บางคนอาจจะใช้การขี่เลื้อยเป็นงูเผื่อลดความชัน อันนี้ก็ต้องระวังรถคันอื่นด้วยน่ะครับ
การเปลี่ยนเกียร์ควรจะเปลี่ยนเผื่อไว้สำหรับความชันของเส้นทาง เพราะยังไงเหลือก็กีกว่าขาด ไม่ใช่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาโซ่ขาดได้ การเปลี่ยนเกียร์ก็ต้องรอให้โซ่ลงเฟืองหลังให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะออกแรงกดบันไดได้อย่างเต็มที่
ในการขี่ขึ้นดอย ปัญหายางแตกอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรจะพกยางใน ที่งัดยาง และ สูบติดตัวไปด้วย เพื่อรถยางแตกกลางทางจะได้ซ่อมเองได้
เบรกเป็นสิ่งสำคัญในกิจกรรมครั้งนี้ ต้องตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกว่ามีเหลือพอที่จะใช้งานได้ใหม แนะนำให้มีเหลือไว้มากกว่า 50 % ของความหนา ถ้าน้อยไปว่านี้อาจจะเกิดปัญหาเบรกหมดกลางทางขึ้นได้ เพราะตอนลงจากดอยนั้นนักปั่นจะต้องขี้ลงจากยอดดอยมาที่ลานจอด เฮลิคอปเตอร์ กม 42 ซึ่งเส้นทางมีความชันพอสมควร อาจจะทำให้ใช้เบรกทำงานหนักกว่าปกติ อันเป็นสาเหตุให้ผ้าเบรกหมดได้ ซึ่งตรงจุดนี้หากใครผ้าเบรกเหลือน้อย เหนื่อย หรือ ทักษะการขี่ลงเขายังไม่ชำนาญพอ แนะนำเข็นรถเดินลงดอยจะปลอดภัยกว่าครับ
[align=center]
คลิปแนะนำการปรับแต่งระยะกำเบรกของมือเบรกเสือหมอบ[/align]
[align=center][/align]
จะรับศึกหนักรถต้องพร้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์ ต้องเพียงพอสำหรับทักษะของผู้ขี่ และ ความชันของเส้นทาง จำไว้เลยน่ะครับ ถ้าปั่นไม่ไหวก็ลงเข็นก็ได้ไม่มีใครว่า เพราะการซอยขาขึ้นเขาด้วยเกียร์เบานั้น ผู้ขี่จะต้องใช้สมาธิและการทรงตัวเป็นอย่างมาก บางคนอาจจะใช้การขี่เลื้อยเป็นงูเผื่อลดความชัน อันนี้ก็ต้องระวังรถคันอื่นด้วยน่ะครับ
การเปลี่ยนเกียร์ควรจะเปลี่ยนเผื่อไว้สำหรับความชันของเส้นทาง เพราะยังไงเหลือก็กีกว่าขาด ไม่ใช่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาโซ่ขาดได้ การเปลี่ยนเกียร์ก็ต้องรอให้โซ่ลงเฟืองหลังให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะออกแรงกดบันไดได้อย่างเต็มที่
ในการขี่ขึ้นดอย ปัญหายางแตกอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรจะพกยางใน ที่งัดยาง และ สูบติดตัวไปด้วย เพื่อรถยางแตกกลางทางจะได้ซ่อมเองได้
เบรกเป็นสิ่งสำคัญในกิจกรรมครั้งนี้ ต้องตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกว่ามีเหลือพอที่จะใช้งานได้ใหม แนะนำให้มีเหลือไว้มากกว่า 50 % ของความหนา ถ้าน้อยไปว่านี้อาจจะเกิดปัญหาเบรกหมดกลางทางขึ้นได้ เพราะตอนลงจากดอยนั้นนักปั่นจะต้องขี้ลงจากยอดดอยมาที่ลานจอด เฮลิคอปเตอร์ กม 42 ซึ่งเส้นทางมีความชันพอสมควร อาจจะทำให้ใช้เบรกทำงานหนักกว่าปกติ อันเป็นสาเหตุให้ผ้าเบรกหมดได้ ซึ่งตรงจุดนี้หากใครผ้าเบรกเหลือน้อย เหนื่อย หรือ ทักษะการขี่ลงเขายังไม่ชำนาญพอ แนะนำเข็นรถเดินลงดอยจะปลอดภัยกว่าครับ
[align=center]
คลิปแนะนำการปรับแต่งระยะกำเบรกของมือเบรกเสือหมอบ[/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
4.บริหารกล้ามเนื้อ แล ะมอนิเตอร์ร่างกาย
[align=center] [/align]
ตะคริว เป็นปัญหาที่พบกันทุกปีสำหรับงานนี้ เพราะว่ากล้ามเนื้อต้องทำงานหนัก และ นักปั่นหลายคนหักโหมในการปั่น ต้องขอบอกเลยว่าท่านจะต้องสังเกตุกล้ามเนื้อของท่านว่า ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากการใช้เกียร์หนักเป็นเวลานานๆ ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนไปใช้เกียร์ทีเบากว่า(เฟืองหลังใหญ่ขึ้น) เพื่อลดแรงกดบันได แล้วมาเน้นทีการใช้รอบขาที่เกียร์เบาแทน ซึ่งจะต้องเลือกใช้เกียร์ที่ น้ำหนักการกดบันได รอบขา และ ความเร็วสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม หากพบว่ากล้ามเนื้อเริ่มมีอาการตะคริวแล้ว ควรจะหยุดพัก เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อย่าฝืนหักโหมขี่ไปต่อ เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหุตได้
[align=center] [/align]
นอกจากตะคริวแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจ(ฮาร์ทเรท) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักปั่นจะต้องเผ้าดู ไม่ให้หัวใจเต้นเร็วเกินไป ท่านที่ใช้ฮาร์ทเรทมอนิเตอร์ก็จะง่ายหน่อย เพราะมีฮาร์ทเรทช่วยบอกหากหัวใจเต้นเร็ว แต่สำหรับท่านที่ไม่มีก็ให้สังเกตุการหายใจเข้าออกของตัวเองก็แล้วกัน หากหายใจเข้าออกเร็วเกินไป ก็อาจจะทำให้เหนื่อยง่าย ดังนั้นการเลือกใช้เกียร์ / การออกแรงกดบันได / การเลือกใช้รอบขา / และ อัตราการหายใจจะต้องเลือกให้สัมพันธ์กัน เน้นเบาๆให้ขี่ได้นานๆจะดีกว่าจะกดหนักๆแป็บเดียวเหนื่อย
[align=center] [/align]
ตะคริว เป็นปัญหาที่พบกันทุกปีสำหรับงานนี้ เพราะว่ากล้ามเนื้อต้องทำงานหนัก และ นักปั่นหลายคนหักโหมในการปั่น ต้องขอบอกเลยว่าท่านจะต้องสังเกตุกล้ามเนื้อของท่านว่า ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากการใช้เกียร์หนักเป็นเวลานานๆ ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนไปใช้เกียร์ทีเบากว่า(เฟืองหลังใหญ่ขึ้น) เพื่อลดแรงกดบันได แล้วมาเน้นทีการใช้รอบขาที่เกียร์เบาแทน ซึ่งจะต้องเลือกใช้เกียร์ที่ น้ำหนักการกดบันได รอบขา และ ความเร็วสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม หากพบว่ากล้ามเนื้อเริ่มมีอาการตะคริวแล้ว ควรจะหยุดพัก เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อย่าฝืนหักโหมขี่ไปต่อ เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหุตได้
[align=center] [/align]
นอกจากตะคริวแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจ(ฮาร์ทเรท) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักปั่นจะต้องเผ้าดู ไม่ให้หัวใจเต้นเร็วเกินไป ท่านที่ใช้ฮาร์ทเรทมอนิเตอร์ก็จะง่ายหน่อย เพราะมีฮาร์ทเรทช่วยบอกหากหัวใจเต้นเร็ว แต่สำหรับท่านที่ไม่มีก็ให้สังเกตุการหายใจเข้าออกของตัวเองก็แล้วกัน หากหายใจเข้าออกเร็วเกินไป ก็อาจจะทำให้เหนื่อยง่าย ดังนั้นการเลือกใช้เกียร์ / การออกแรงกดบันได / การเลือกใช้รอบขา / และ อัตราการหายใจจะต้องเลือกให้สัมพันธ์กัน เน้นเบาๆให้ขี่ได้นานๆจะดีกว่าจะกดหนักๆแป็บเดียวเหนื่อย
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
5.เลือกรองเท้า
ในการขี่ทางรายปกติ การควงขาจะมีประสิทธิ์ภาพ การใช้คลิปเลสจึงมีประสิทธิผล แต่ในการขี่ดอยรอบขาแทบจะไม่กระดิกกันเลย เพราะใช้รอบขาต่ำ และ เน้นการกดบันไดมากกว่ากดแล้วดึงช่วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่างานดอยอินทนนท์ในแต่ละปี มีคนถอดรองเท้าคลิปเลสเดินขึ้นดอย หรือ บางคนก็ใส่รองเท้าคลิปเลสลากยาวเดินขึ้นดอย ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุจากความลื่นได้ หรือ ถ้าลากยาวๆอาจจะทำให้ครีทพังได้ เพราะตัวคลีท ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้เดินไกลๆ
ปัญหานี้นักปั่นแต่ละคนจะต้องประเมินทักษะการขึ้นเขาของตัวเองเอาเอง หากท่านมีทักษะการขึ้นเขาดีการใช้คลิปเลสก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากท่านเป็นสิงห์ทางเรียบ หมูทางเขา แนะนำใช้บันไดธรรมดา กับรองเท่าผ้าใบจะสะดวกกว่า
หรือหากไม่มั่นใจ ก็อาจจะใช้คลิปเลส แล้วพกรองเท้าแตะขอบฟ้าติดตัวไปอีกสักคู่สำรองไว้ก็ไม่ผิดกติกา หากหมดแรงต้องเดินยาวก็เปลี่ยนมาใส่แตะแทน
ในการขี่ทางรายปกติ การควงขาจะมีประสิทธิ์ภาพ การใช้คลิปเลสจึงมีประสิทธิผล แต่ในการขี่ดอยรอบขาแทบจะไม่กระดิกกันเลย เพราะใช้รอบขาต่ำ และ เน้นการกดบันไดมากกว่ากดแล้วดึงช่วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่างานดอยอินทนนท์ในแต่ละปี มีคนถอดรองเท้าคลิปเลสเดินขึ้นดอย หรือ บางคนก็ใส่รองเท้าคลิปเลสลากยาวเดินขึ้นดอย ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุจากความลื่นได้ หรือ ถ้าลากยาวๆอาจจะทำให้ครีทพังได้ เพราะตัวคลีท ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้เดินไกลๆ
ปัญหานี้นักปั่นแต่ละคนจะต้องประเมินทักษะการขึ้นเขาของตัวเองเอาเอง หากท่านมีทักษะการขึ้นเขาดีการใช้คลิปเลสก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากท่านเป็นสิงห์ทางเรียบ หมูทางเขา แนะนำใช้บันไดธรรมดา กับรองเท่าผ้าใบจะสะดวกกว่า
หรือหากไม่มั่นใจ ก็อาจจะใช้คลิปเลส แล้วพกรองเท้าแตะขอบฟ้าติดตัวไปอีกสักคู่สำรองไว้ก็ไม่ผิดกติกา หากหมดแรงต้องเดินยาวก็เปลี่ยนมาใส่แตะแทน
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
6.เตรียมอุปกรณ์กันหนาว
[align=center] [/align]
อากาศบนยอดดอยเหนือ กิ่วแม่ปาน คาดเดาลำบาก แนะนำให้นักปั่นติดเสื้อกันลมไปด้วย เพื่อใส่สร้างความอบรุ่นร่างกาย กรณีอากาศบนยอดดอยหนาว หรือ ถ้าไม่มีก็อาจจะใช้ถุงดำขนาดใหญ่ พกติดรถไปด้วย ถ้าจะใช้ขึ้นมาก็เจาะถุงทำให้สอดหัวและแขนได้ ทำเป้นเสื้อกันหนาวเฉพาะกิจก็สามารถแก้ปัญหาไปได้
[align=center] [/align]
อากาศบนยอดดอยเหนือ กิ่วแม่ปาน คาดเดาลำบาก แนะนำให้นักปั่นติดเสื้อกันลมไปด้วย เพื่อใส่สร้างความอบรุ่นร่างกาย กรณีอากาศบนยอดดอยหนาว หรือ ถ้าไม่มีก็อาจจะใช้ถุงดำขนาดใหญ่ พกติดรถไปด้วย ถ้าจะใช้ขึ้นมาก็เจาะถุงทำให้สอดหัวและแขนได้ ทำเป้นเสื้อกันหนาวเฉพาะกิจก็สามารถแก้ปัญหาไปได้
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
7.มารยาทในการใช้ถนนร่วมกัน
เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และ ต้องมีรถยนต์ขนคน ขึ้น-ลงดอยอีกๆไม่น้อย ดังนั้นในการร่วมกิจกรรมจะต้องเผื่อทางให้คนอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนที่จะขึ้นดอย หรือ คนที่ลงดอย นอกจากนั้น การขี่เลื้อยเป้นงูระต้องดูสภาพการจราจรด้วยว่าโล่งพอให้ หรือ อยู่ในจุดเสียงจากการที่คนอื่นมองไม่เห็น
ในการขี่จักรยานลงดอย จะต้องขี่ด้วยความระมัดระวังไม่ขี่เร็วเกินไป อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ จากการเสียการควบคุม ซึ่งก็อาจจะไปชนคนที่กำลังขึ้นดอยได้ งานนี้ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันน่ะครับ
เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และ ต้องมีรถยนต์ขนคน ขึ้น-ลงดอยอีกๆไม่น้อย ดังนั้นในการร่วมกิจกรรมจะต้องเผื่อทางให้คนอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนที่จะขึ้นดอย หรือ คนที่ลงดอย นอกจากนั้น การขี่เลื้อยเป้นงูระต้องดูสภาพการจราจรด้วยว่าโล่งพอให้ หรือ อยู่ในจุดเสียงจากการที่คนอื่นมองไม่เห็น
ในการขี่จักรยานลงดอย จะต้องขี่ด้วยความระมัดระวังไม่ขี่เร็วเกินไป อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ จากการเสียการควบคุม ซึ่งก็อาจจะไปชนคนที่กำลังขึ้นดอยได้ งานนี้ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันน่ะครับ
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
8.เลือกใช้ท่านั่งที่เหมาะสม
เพราะงานนี้เส้นทางส่วนใหญ่เป็นการขี่ขึ้นเขา นอกจากการใช้เกียร์ และ รอบขาที่เหมาะสม กันจะช่วยลดความเหนื่อยแล้ว ท่านั่งในการปันที่เหมาะสมยังมีส่วนให้ลดความเหนื่อยในการปั่น การโน้มตัวไปข้างหน้า และ การเลือกตำแหน่งการนั่งไปด้านหน้ามากกว่าปกติ ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยทีจะช่วยให้การขึ้นเขาทำได้ดีขึ้น
นอกจากนั้นการใช้แรงกันลมยางที่อ่อนกว่าแรงดันลมยางปกติเล็กน้อย ยังช่วยให้การเกาะยึดถนนของล้อทำได้ดีขึ้นอีกด้วย
เพราะงานนี้เส้นทางส่วนใหญ่เป็นการขี่ขึ้นเขา นอกจากการใช้เกียร์ และ รอบขาที่เหมาะสม กันจะช่วยลดความเหนื่อยแล้ว ท่านั่งในการปันที่เหมาะสมยังมีส่วนให้ลดความเหนื่อยในการปั่น การโน้มตัวไปข้างหน้า และ การเลือกตำแหน่งการนั่งไปด้านหน้ามากกว่าปกติ ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยทีจะช่วยให้การขึ้นเขาทำได้ดีขึ้น
นอกจากนั้นการใช้แรงกันลมยางที่อ่อนกว่าแรงดันลมยางปกติเล็กน้อย ยังช่วยให้การเกาะยึดถนนของล้อทำได้ดีขึ้นอีกด้วย
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
9.การรักษาความสะอาดในอุทยาน
คนมากก็มีขยะมากตามฉันใด แต่ถ้าคนมีวินัยการจัดการขยะก็ง่ายขึ้น งานนี้มีจุดให้น้ำอยู่ 9 จุดตลอดเส้นทาง คงจะต้องขอความร่วมมือจากทางนักปั่น ช่วยกันทิ้งขยะเป็นที่เป้นทาง เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดของอุทยาน จะให้ง่ายก็เก็บพวกขวดน้ำหรือซองเจลที่กินแล้ว พกติดตัวมาทิ้งถังขยะเป็นการดีไม่น้อย
คนมากก็มีขยะมากตามฉันใด แต่ถ้าคนมีวินัยการจัดการขยะก็ง่ายขึ้น งานนี้มีจุดให้น้ำอยู่ 9 จุดตลอดเส้นทาง คงจะต้องขอความร่วมมือจากทางนักปั่น ช่วยกันทิ้งขยะเป็นที่เป้นทาง เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดของอุทยาน จะให้ง่ายก็เก็บพวกขวดน้ำหรือซองเจลที่กินแล้ว พกติดตัวมาทิ้งถังขยะเป็นการดีไม่น้อย
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมขึ้นดอยอินทนนท์
10.ประมาณตน
[align=center] [/align]
ข้อนี้คงกล่าวโดยรวมๆ คือ เท่าที่เจอมาคือหลายตนเครื่องน็อคเพราะหักโหมเกินกำลัง งานนี้อยากจะให้ขี่กันแบบสบายๆเหนือยก็พัก แต่ก็ไม่ใช่เอ้อระเหยลอยชาย จอดนอนข้างทางตื่นขึ้นมาแล้วก็ปั่นต่อ สำหรับขาแรง และ คนที่มีทักษะการขี่ขึ้นเขาดี การทำเวลาต่ำกว่า 5 ชั่วโมงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำหรับขาอ่อนหรือมือใหม่ คนไปครั้งแรกก็ขอให้ประมาณตนเอง ทั้งแรง กล้ามเนื้อ และ องค์ประกอบอื่น เพราะยังไงวันจันทร์ก็ต้องทำงานกัน หากเกิดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ หรือ ประสบอุบัติเหตุจากการขี่ย่อมไม่ดีแน่ๆ
สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนสมหวังในการพิชิตยอดดอยอินทนนท์ครับ ไม่ต้องแข่งกับใครแข่งกับใจตัวเองก็สุดยอดแล้วครับ
แถมด้วยคลิป ข้อผิดพลาด 5 อันดับแรกที่ควรหลีกเลี่ยงในการปั่นขึ้นเขาจาก GCN
[align=center] [/align]
ข้อนี้คงกล่าวโดยรวมๆ คือ เท่าที่เจอมาคือหลายตนเครื่องน็อคเพราะหักโหมเกินกำลัง งานนี้อยากจะให้ขี่กันแบบสบายๆเหนือยก็พัก แต่ก็ไม่ใช่เอ้อระเหยลอยชาย จอดนอนข้างทางตื่นขึ้นมาแล้วก็ปั่นต่อ สำหรับขาแรง และ คนที่มีทักษะการขี่ขึ้นเขาดี การทำเวลาต่ำกว่า 5 ชั่วโมงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำหรับขาอ่อนหรือมือใหม่ คนไปครั้งแรกก็ขอให้ประมาณตนเอง ทั้งแรง กล้ามเนื้อ และ องค์ประกอบอื่น เพราะยังไงวันจันทร์ก็ต้องทำงานกัน หากเกิดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ หรือ ประสบอุบัติเหตุจากการขี่ย่อมไม่ดีแน่ๆ
สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนสมหวังในการพิชิตยอดดอยอินทนนท์ครับ ไม่ต้องแข่งกับใครแข่งกับใจตัวเองก็สุดยอดแล้วครับ
แถมด้วยคลิป ข้อผิดพลาด 5 อันดับแรกที่ควรหลีกเลี่ยงในการปั่นขึ้นเขาจาก GCN
- phantom
- ขาประจำ
- โพสต์: 287
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 22:56
- Tel: 0819820282
- Bike: Giant Tcr sl Giant xtc
- ติดต่อ:
-
- สมาชิก
- โพสต์: 69
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ต.ค. 2015, 07:30
- Tel: 0819387859
- Bike: Canyon Ultimate CF SLX8.0
Re: 10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
เยี่ยมเลยครับ เจอกันวันอาทิตย์นี้
-
- สมาชิก
- โพสต์: 71
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2015, 22:11
- Tel: 0813843851
- team: น้องใหม่ใจเกินร้อย
- Bike: Mosso750cb
Re: 10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
โดยทั่วไปทดเฟืองหลังกี่ฟันกันครับสำหรับการปั่นพิชิตอินทนท์
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: 10 ข้อแนะนำเตรียมพร้อมปั่นขึ้นดอยอินทนนท์
แล้วแต่ทักษะของแตะละคนครับ ส่วนใหญ่ก็ 30 + ถ้าผ่อนแรงหน่อยก็ 40+ ครับvatcharin chuea-in เขียน:โดยทั่วไปทดเฟืองหลังกี่ฟันกันครับสำหรับการปั่นพิชิตอินทนท์