![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13495457_1092407000829572_892884189588998318_o.jpg)
ใครเล่นเฟสบุ๊คบ่อยๆ จะคุ้นหน้ากับจักรยานอยู่ตัวหนึ่ง ที่ออกมาเป็นข่าวมาได้สักพักใหญ่ๆ เรื่องแนวคิดการสร้างสรรค์ผสมระหว่าง การออกแบบจักรยานที่ยอดเยี่ยม กับเทคโนโลยีไอทีสมัยใหม่ ที่จับมารวมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบเกิดเป็นนจักรยานอัจฉริยะคันแรกของโลก ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ SpeedX Leopard ได้รับความสนใจจากนักปั่นสูงมากก็มาจากทั้งคุณสมบัติความฉลาดแบบไฮเท็คของโลกไอที และ ความสวยที่ลงตัวสุดเซ็กซี่ของรูปทรงเฟรม การซ่อนสาย และภาพของรถสำเร็จที่มีสง่าห์ราศีในระดับโปรทัวร์กันเลยก็ว่าได้
จุดน่าสนใจมาจากการเป็นแบรนด์จักรยานที่เน้นความล้ำหน้าด้วยกำเนิดมาเป็นโครงการคิ๊กสตาร์ทเตอร์ (Kickstarter) หรือการระดมทุนสร้างออกมาให้เป็นจริง ซึ่งเป็นกระแสนิยมล่าสุดของการออกนวัตกรรมใหม่ๆของโลกยุคหลังมิลเลเนี่ยม ที่ผลิตภัณฑ์ล้ำหน้าต่างๆไม่ต้องมัวรีรอนายทุนให้เงินสนับสนุนทำการผลิตออกมาแล้วจัดหาตลาดจัดจำหน่ายอีกต่อไป เมื่อผู้ออกแบบสามารถติดต่อสู่สังคมหมู่มาก ระดมทุนในกลุ่มของผู้ที่สนใจชื่นชอบอยากครอบครองสินค้าล้ำๆได้ก่อนใคร ช่วยกันลงขันสั่งซื้อกันจนเกิดเป็นการผลิตจริงได้สำเร็จ ซึ่ง SpeedX Leopard สร้างความฮือฮาด้วยผลการระดมทุนผลิตได้เกือบ 10 เท่าของทุนที่ต้องการภายในเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น
![รูปภาพ](http://b.fastcompany.net/multisite_files/fastcompany/imagecache/1280/poster/2016/03/3058309-poster-p-2-speedx-leopard-a-sexy-carbon-fiber-smart-bike-gets-980-funded-in-2-days.jpg)
จุดเด่นหลักด้านเทคโนโลยีไอทีของ SpeedX ได้แก่ระบบไมล์อัจฉริยะที่ประกอบสำเร็จมากับจักรยานได้เลย สามารถเก็บข้อมูลและแสดงผลบนหน้าจอที่ขึ้นรูปมาชิ้นเดียวได้อย่างครบถ้วน ไมล์จักรยานอื่นๆมีอะไร ก็มีได้ สามารถลงแอปพลิเคชั่นและพัฒนาอัพเดทต่อยอดได้ไม่หยุดยั้ง มีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆในตัวเอง รวมถึงเชื่อมโยงกับอุปกรณ์อื่นๆไร้สายได้ทั้งระบบ Bluetooth และ ANT+
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13483096_1092407037496235_2363299164781615974_o.jpg)
ไมล์ดังกล่าวถูกออกแบบมาให้เป็นชิ้นส่วนเดียวกับเสต็มอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีปุ่มกดที่เสต็มสามารถควบคุมหน้าจอได้ตามต้องการ ด้านบนของเสต็ม เป็นเซ็นเซอร์รับแสงที่จรวจจับความสว่าง เพื่อควบคุมไฟท้ายอัตฉรียะที่ติดมาสำเร็จให้ทำงานโดยอัตโนมัติ และไมล์นี้เองที่เป็นเหมือนส่วนสมองของ SpeedX ที่สามารถต่อยอดออกไปได้อีกมากมายแทบไม่มีวันจยบสิ้น เมื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13483289_1092406764162929_4054542470078944127_o.jpg)
เป็นที่น่าสเียดายที่รถคันที่ thaimtb ได้มาทดสอบเป็นรถตัวอย่างหรือ prototype ซึ่งไม่ได้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นทุกอย่างที่สำเร็จ เราจึงไม่ได้ทดลองเล่นระบบไมล์อัจฉรียะอย่างเต็มที่ แต่เป้าหมายของการมาลองขี่ในที่นี้ น่าจะเป็นการมาลองดูว่า SpeedX Leopard ในมุมมองของจักรยานเพียวๆ สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ดีแค่ไหน
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13475116_1092406817496257_2092362537223182530_o.jpg)
เสป็คโดยรวม
เฟรม SpeedX Leopard เป็นเฟรมคาร์บอนซ่อนสายทั้งหมด ทรงแอโร่ไดนามิคส์ วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผสมผสานกันระหว่างคาร์บอนโทเรย์ T800 และ T1000 เพื่อให้มีคุณสมบัติทั้งการส่งกำลังที่ดี น้ำหนักเบา และการขี่ที่นุ่มสบาย สำหรับระยะเฟรมที่ผมขี่ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่หลักอานไม่สามารถลงไปได้ต่ำสุดเนื่องจากติดสายเคเบิลภายใน ทำให้ไม่ได้ทดสอบที่ระยะความสูงเบาะที่ควรจะเป็น
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13458713_1092406774162928_3951303391082231950_o.jpg)
ชุดล้อสำเร็จติดมาสำหรับรถทดสอบเป็นล้ออลูมินั่มขอบสูงตามสมัยนิยม สวยงามโดดเด่นมาแต่ไกล ซึ่งผู้นำเข้ามาให้ข้อมูลว่าในรุ่นที่ขายจริงอาจไม่ใช่ล้อตัวนี้ก็ได้ เนื่องจากเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อนำมาทดสอบเท่านั้น สำหรับล้อชุดนี้ที่มากับรถทดสอบต้องบอกว่าเป็นตามสภาพมาตรฐานครับ เพราะล้ออลูมินั่มเน้นสวยจะมาคู่กับน้ำหนักที่ทำเอาใจหายได้ และโอกาสจะคาดหวังหาสมรรถนะที่ถึงใจก็น้อยหน่อย ผมเองไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ยิ่งรู็ว่าอาจไม่ใช่ล้อขายจตริงก็ไม่ได้ใส่ใจกับมัน ตอนหลังได้ลองเปลี่ยนล้อใส่ล้ออื่น ก็พบว่าทำเอารถขี่ดีขึ้นมาอีกหลายสิบเท่าเลย
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13495506_1092406860829586_194723961971330513_o.jpg)
ระบบเบรคซ่อนสายภายในตั้งแต่ชิฟท์เตอร์มาจนถึงแฮนด์ เข้าไปในเสต็มและเดินสายภายในทั้งหมดมาที่เบรค ซึ่งเลือกใช้ระบบดึงแทนคาลิเปอร์แบบมาตรฐาน ซ่อนอยู่ด้านหลังตะเกียบหน้าและใต้ตะเกียบโซ่เพื่อช่วยเรื่องแอโร่ไดนามิคส์
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13432254_1092406894162916_4773765577468394432_n.jpg?oh=63f5fb31d8e5cb835a0938d99486679e&oe=57CFD491)
ปัญหาพื้นฐานของเบรคแบบนี้ก็อยู่ที่ฟิลลิ่งเบรคและกำลังเบรค และแน่นอนว่าการปรับตั้งเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นั่นไม่ได้แปลว่ามันไม่ดีนะครับ อย่าลืมว่ารถแบรนด์เนมระดับแข่งขันโปรทัวร์อีกมากมายก็เลือกใช้เบรคแบบนี้กันทั้งนั้น เพราะในอุโมงค์ลมมันได้พิสูจน์แล้วว่าสัมประสิทธิที่ได้มามันคุ้มค่ากับการเสียอะไรไปบ้าง และเบรคใหม่ๆก็ได้ปรับการออกแบบจนมีคุณภาพไม่ได้หย่อนไปกว่าเบรคแบบมาตรฐานจนเป็นเรื่องดราม่าอีกต่อไป
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13510920_1092406907496248_1367679131876953140_n.jpg?oh=aeb803ebd97b3e24b114cb8022decdfe&oe=57C58C30)
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13497585_1092406877496251_8447856872526248276_o.jpg)
ชุดขับเคลื่อนมากับชิมาโน่ 105 จัดว่าเป็นมาตรฐานของกลุ่มราคานี้ แต่อย่าลืมว่าเฟรมที่ได้มีเกรดคาร์บอนและรูปทรงที่เหนือล้ำกว่าคู่แข่งในราคาเดียวกันอยู่โข ดังนั้นต้องบอกว่าการให้ 105 มาไม่ได้ทำให้รถคันนี้ด่างพร้อยลงไปแต่อย่างใด มันคือการให้ชุดขับพื้นฐานที่ตอบโจทย์ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในตลาดนักแข่งและตลาดนักปั่นเพื่อการออกกำลังกาย ซึ่งหากจะเอาจริงเอาจังกับมัน อนาคตไม่พ้นต้องรื้อไปสอยใหม่ตามความคันอยู่ดี เพราะเฟรม SpeedX รองรับระบบไฟฟ้า ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13510817_1092407014162904_3170031756332145909_n.jpg?oh=f96e47185630acfc58597727bd499d3f&oe=57C53016)
การออกแบบรูปทรงต่างๆทำได้เซ็กซี่สมสมัย ท่อนั่งทรงแอโร่บางลู่ลม ท่อล่างมีส่วนเว้าโค้งรับกับกระแสอากาศ ได้รับการวิจัยและพัฒนามาด้วยเครื่องจำลองกระแสอากาศเป็นอย่างดี เพราะเฟรม SpeedX ถูกออกแบบมาโดยบริษัทออกแบบสัญชาติอเมริกา ที่ศึกษามาตรฐานของเฟรมเสือหมอบแข่งขันอื่นๆมาเป็นเกณฑ์ในการพัฒนาแบบของตน การทำสีและลวดลาย เรียบแต่ทันสมัยด้วยเนื้อสีออกเมทัลลิคเล็กน้อย หรือสีมุก
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13501765_1092406730829599_8015747334932876832_n.jpg?oh=0983146e6ef0137f4b4e473166af4c62&oe=57DF6C99)
ความล้ำเด่นที่สุดคงต้องมองไปที่การซ่อนสายทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งสายเบรคและสายเกียร์ เข้าไปในแฮนด์และเสต็ม เข้าสู่เฟรม เฉกเช่นเดียวกับรถแบรนด์ดังระดับโลกที่ออกมาแล้ว 2 ค่าย (และกำลังตามมาอีกในเร็วๆนี้) ถ้ากระแส"ซ่อนสาย" จะมาในไม่ช้า SpeedX ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่ไม่ตกกระแสไปง่ายๆ อย่าดูถูกที่มาถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์จีน แต่ได้วิเคราะห์ทิศทางของตลาดและจับการออกแบบให้ตอบความต้องการได้รวดเร็ว การซ่อนสายทำได้ทั้งในระบบเกียร์สายทั่วไปและเกียร์ไฟฟ้า
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13495300_1092406734162932_5571711853235691492_n.jpg?oh=550e494451033d7a3c741a1c8f633063&oe=57CC642C)
เสต็มอลูมินั่ม มีช่องว่างภายในให้สายทั้งหมดเดินเข้าไปเข้าสู่เฟรมได้ และด้านล่างเปิดโล่งเพื่อความง่ายในการเซอร์วิส จุดนี้เป็นตัวที่มากับรถตัวอย่างนะครับ สำหรับตัวขายจริง ยังไม่ยืนยันว่าจะเป็นแบบนี้หรือไม่ เพราะ SpeedX มีจำหน่ายให้จองได้ทั้งในรุ่นทั่วไป(รุ่นที่ได้มาทดสอบ) และมีรุ่นบนซึ่งมากับแฮนด์คาร์บอนและชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า จึงยังไม่ทราบรายละเอียดเสป็คเต็มๆว่าเสต็มเป็นแบบเดียวกันหรือไม่
ลองปั่นกันเลยดีกว่า
เบื้องต้นทาง SpeedX จะนำมาให้ทดลองขี่กันวนๆสั้นๆดูว่ารถเป็นอย่างไรบ้าง รูปทรง สีสัน และการทำงานของระบบต่างๆ แต่ทางผมและ thaimtb มองว่า หากอยากจะรู้ว่ารถเป็นอย่างไร อย่างน้อยเพื่อสัมผัสคร่าวๆคงต้องขอเอาไปปั่นออกแรงกันพอสมควรจึงจะบอกได้ แม้ว่าการขี่ระยะสั้นๆเพียง 30-40 นาที อาจไม่สามารถบอกทุกอย่างในรายละเอียดได้ แต่ก็พอจะจำแนกบุคลิกภาพและลองเล่นอะไรแผลงๆกับมันได้ไม่มากก็น้อย แต่ไม่ได้บันทึกภาพระหว่างปั่นกันจริงจังเอาไว้ด้วย
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13434758_1092406944162911_535653249293091125_n.jpg?oh=97f03471e0258e0e273df905fca0f403&oe=57D46082)
พื้นฐานไม่มีอะไรมากครับ ลองปั่นกันดูว่าไล่ความเร็วตั้งไปเรื่อยๆจนถึงลาก 40 กม./ชม. สักพักหนึ่งตอบสนองแรงอย่างไรบ้าง เจอลมแรงๆทรงแอโร่ฯที่มาเป็นอย่างไรบ้าง กระชากเร่งความเร็วและสปรินท์กันสั้นๆดูซิว่าติดเท้ามากแค่ไหน เข้าโค้งบ้างตามเส้นทางบังคับไป ซึ่งก็ได้ผลการขี่ออกมาน่าพอใจสรุปกันคร่าวๆเป็นหัวข้อได้ดังนี้ครับ
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13433091_1092406964162909_45342082454561493_o.jpg)
แรงสะเทือนในการขี่
ขนาดล้อเ)็นอลูมินั่มขอบสูง สูบลม 120psi (มากกว่าปกติที่ผมสูบ) แต่เฟรมไม่ได้กระด้างเลย ออกจะขี่ได้นุ่มนวลสบายตัวเสียด้วยซ้ำ น่าจะมาจากองศาของท่อที่ออกแบบมาให้มี compliance น่าพอใจ รวมถึงเลือกใช้เนื้อคาร์บอนได้ดี ผม(เดา) เอาว่าไม่ได้ใช้เฉพาะคาร์บอนในรหัส T800 และ T1000 เท่านั้น น่าจะมีชนิดอื่นๆช่วยในการซับแรงสะเทือนได้ด้วย ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้ในรหัส T หรืออาจจะเป็นรหัส M ที่เป็นเนื้อคาร์บอนยอดนิยมในการกระจายแรงสะเทือน ที่สำคัญ น่าจะเชื่อได้ว่าการออกแบบทิศทางของคาร์บอนทำได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน เพราะในหมวดของความสติฟ ก็ทำได้ผ่านเกณฑ์เช่นกัน
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13482984_1092406967496242_4906669094924407794_o.jpg)
ความสติฟของเฟรม
เป็นจุดเด่นอีกด้านที่ทำได้ดีมากเช่นกัน แน่นอนเพราะว่าเฟรมใช้โทเรย์ T1000 มาซึ่งเดาไม่ยากเลยว่าต้องเป็นการเลือกใช้แบบ Uni Direction ในส่วนส่งกำลังเป็นหลักอย่างแน่นอน เฟรมตอบสนองแรงกระทำได้ดี ไม่ได้มีอาการให้ตัวแต่อย่างไร ทั้งบนการขี่ปกติ และผมลองเอาไปทั้งกระแทก กระโดด อัดพื้นโครมๆว่าที่ช่วงล่างของเฟรมตอสนองแค่ไหน แถมจับสลับให้คนตัวใหญ่ขี่ก็บอกเป็นเสียงตรงกันว่าแข็งดีสู้เท้าไม่บิดไปมาเวลาทิ้งน้ำหนักอัดลงไป ส่วนของเฟรมถือว่าผ่านอย่างสบาย คะแนนสวย (แต่ผมมักไม่ชอบให้คะแนน) มาดูส่วนที่สอบตกด้านความสติฟกันครับ
เสต็ม อย่างที่บอกว่านี่เป็นเสต็มต้นแบบซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นตัวจริงที่จะติดตั้งมาในตัวจำหน่ายหรือไม่นะครับ แต่เสต็มตัวนี้เป็นอลูมินั่มทรงตัว U คว่า กล่าวคือตามภาพเป็นแท่งสี่เหลี่ยมภายในมีสายเดิน ด้านล่างปล่อยโล่ง เพื่อความง่ายในการเซอร์วิส(ตามที่แจ้งมา) แต่นี่คือฝันร้ายของการออกแบบ เพราะสิ่งที่เสียไปคือความสติฟนั่นเอง ผมเอะใจตั้งแต่ตอนขี่ทดสอบแล้วว่าตัวเล็กๆแบบผมสามารถโยกสปรินท์จนรู้สึกได้ว่าด้านหน้าแฮนด์มีอาการให้ตัวได้ ซึ่งอนแรกก็นึกว่าเป็นแฮนด์และล้อ ซึ่งก็พบว่าล้อมีอาการยวบได้จริงๆนั่นแหละ จึเหมาะว่าจบลงที่ล้อ แต่ตอนหลังเปลี่ยนล้อ ไปลองบิด ลองกระโดดลงพื้นก็พบอยู๋ว่าด้านหน้ายังมีอาการดังกล่าว จึงต้องมาลองจับบิดกันดู ถึงได้พบว่าที่มาคือเสต็มนี่เอง ถ้าจะขี่เฉยๆ ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ แต่ถ้าจะโยก สปรินท์ ขึ้นเขา หรือยัดกันกระชากสุดตัว เสต็มนี้ไม่ใช่เสต็มที่เหมาะกับแนวที่ว่ามาเลย
![รูปภาพ](https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13502582_1092406987496240_4667537613925662360_o.jpg)
แอโร่ไดนามิคส์
บอกไม่ได้ครับเพราะผมไม่มีอุโมงค์ลม แต่สิ่งที่ผมบอกได้คือล้อชุดที่มากับเสป็ครถต้นแบบไม่ใช่ล้อที่เหมาะกับการใช้งานจริงจังมากนัก ล้อสวยเข้าชุดจริง แต่น่าจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เฟรมอันทรงคุณภาพ (ซึ่งผมเชื่อว่าแอโร่ฯได้ดีด้วย) ด้อยประสิทธิภาพลงไปอย่างน่าเจ็บใจ เพราะมันอาจจะขอบสูงก็จริง แต่ไม่ได้สู้อากาศได้ดีเท่าที่ควร ซี่ล้อเองก็ต้านลมและไม่ค่อยสติฟ ใครได้ลองให้ขึ้นไปขี่แล้วเอเียงรถไหลไปข้างหน้า เอียงมากๆ แล้วขย่มหนักๆดูนะครับ จะพบว่าล้อมีอาการยวบและมีเสียงซี่ล้อบิดตัวสีกันได้ยินชัดเจน ซึ่งเฟรมนี้ไม่มีอาการดังกล่าว ที่ความเร็วสูงมากๆ เหนื่อยพอสมควรเพราะล้อที่น่าจะช่วยกลับเป็นภาระสเียมากกว่า และพอเปลี่ยนล้อเท่านั้น รถก็ดูจะตอบสนองดีขึ้นทันตา กดไปรถก็มาทันที
![รูปภาพ](https://global.speedx.com/images/gallary/img_leopard_2.jpg)
สรุปข้อดี SpeedX Leopard
1.ไฮเท็ค ฉลาด ล้ำ
ไม่ต้องขยายความครับ มันต่อยอดไปได้อีกแบบไม่มีวันตันกับระบบที่ออกแบบมาให้มีหน่วยประมวลผลติดรถมาเลย แถมยังทำงานคู่กับสมาร์ทโฟนอีกด้วย หน้าจอสำเร็จใช้งานง่ายและเรียบง่าย อ่านสะดวก ไม่รกรุงรัง เชื่อว่าจะสามารถปรับหน้าจอให้ถูกใจได้เมื่อแอปพลิเคชั่นพัฒนามาสมบูรณ์แบบ เรื่องการเชื่อมต่ออื่นๆ วางใจไม่ยากครับ โลกไอที อะไรๆก็ทำได้
2.สวยมากตั้งแต่คลอดออกมา
SpeedX Leopard เป็นรถสำเร็จอีกหนึ่งคันที่ออกมาได้สวยสุดขีดไปแบบหาคนเมินหน้าหนีแทบจะไม่ได้เลย ทั้งรูปทรงของเฟรม จังหวะขององศาต่างๆ แถมยังซ่อนสายเรียบร้อยสวยงาม สีสัน ลวดลายเองก็ทันจนแทบจะแซงหน้าสมัยนิยมไปแล้วแต่ยังไม่ถึงกับล้น เพราะกระแสตลาดตอนนี้ก็ทำท่าว่าจะไปทางเทร็นด์นี้แหละครับ เอาเป็นว่าคันนี้ ซื้อมาแล้วถ่ายรูปลงโซเชียลวันแรก คุณต้องฟินกับการตอบรับอย่างแน่นอน เอามาขี่เพื่อนนักปั่นมีหันมองกันคอหมุน
3.เฟรมระดับแข่งขันได้
ไร้ข้อกังขาครับว่าเฟรมนี้ไม่ได้ทำออกมาเพื่อแค่ดูผ่านๆสบายตาเท่านั้น ไม่ใช่แค่จับเอาจุดเด่นของค่ายนี้ ค่ายนั้นมายัดรวมกัน แต่เฟรมสามารถรีดประสิทธิภาพได้เกินกว่ากลุ่มคู่แข่งในราคาเดียวกัน โดยเฉพาะในตัวรถสำเร็จ 105 ซึ่งแทบจะไม่มีทางหาเฟรมยี่ห้ออื่นในตลาดที่ให้บุคลิกภาพตอบสนองได้เท่ากับ ฆยำำก) ศำนยฟพก c]h; lesiy[i6jo[omuj,kdy[ Di2 เชื่อว่าน่าจะขี่ได้สนุกสนานจับใจเนื่องจากมากับล้อคาร์บอนและแฮนด์คาร์บอนจากโรงงาน (ตามข้อมูลที่ได้มา) ต่อให้ในระยะยาวๆ สิงห์นักอัพชาวนักปั่นขาแรงของแรง สามารถอัพและรีด SpeedX ไปถึงระดับนักแข่งได้ไม่ยากเย็นอะไร และน่าจะไม่มีทางตันจนกว่าจุสุดอะไหล่ทุกอย่างเรียบร้อย และเฟรมจักรยานเกิดนวัตกรรมใหม่มาเค้นเอาสมรรถนะโดดเด่นออกมาในกระแสหลักใหญ่ในอนาคต (ไม่น่าเร็วกว่า 5 ปี)
![รูปภาพ](http://cdn.hiconsumption.com/wp-content/uploads/2016/03/Speedx-Leopard-Smart-Bike-3.jpg)
สรุปข้อด้อย SpeedX Leopard
1.น้ำหนักรถสำเร็จ
รถสำเร็จคันทดสอบตัวต้นแบบนี้มีน้ำหนักชั่งแล้วได้เลข 2 หลัก เมื่อรวมเข้ากับบันไดวัตต์ Powertap P1 น้ำหนักมาจากล้ออย่างเดียวก็ทำเอาปวดหัวแล้ว เพราะเมื่อถอดล้อแยกมาถือ น่าจะเป็นล้อที่หนักที่สุดในชีวิตที่ผมเคยถือมาอย่างแน่นอน อีกประการที่ทำอะไรไม่ได้ (ล้อยังเปลี่ยนได้) คือเฟรมนี้ต้องมีแบทเตอรี่สำหรับชุดอัจฉรียะด้วยอีกชุดหนึ่ง ซึ่งไม่มากก็น้อย มันกลายเป็นภาระของเฟรมไป เราต้องยอมรับกันนะครับว่าแบทเตอรี่ของชิมาโน่นั้นทำได้เบามาก เพราะต้องอยู๋ในโจทย์ของจักรยานแข่งขันและกลายเป็นต้นทุนที่สูงมาก แต่ชุดอัจฉรียะของ SpeedX Leopard ไม่ได้พยายามรีดน้ำหนักแบทฯให้เบาขนาดนั้น เลยเป็นอุปสรรคของสายตาชั่งไป คาดว่าให้แต่งอย่างไรเสีย ใส่ล้อคาร์บอนก็แล้ว เกียร์เบาก็แล้ว น้ำหนักก็น่าจะบวก 7 กก. ไปจน 7.5 กันเลย ถ้าอยากต่ำกว่า 7 น่าจะต้องไปจับกับพวกล้อเบาเทพ และไปเล่นของแต่งกันโครงการใหญ่เลยล่ะครับ
2.เสต็มออกแบบมาค่อนข้างมีปัญหา
ข้อนี้ต้องรอชมกันว่าในรุ่นที่จำหน่ายและผลิตส่งให้กับลูกค้าเป็นเสต็มตัวดังกล่าวหรือไม่ เพราะทั้งรุ่นกลางและรุ่นบนก็น่าจะมาด้วยเสต็มเดียวกัน ทางแบรนด์ได้รับทราบปัญหาและหาทางแก้ไขไปแล้วครับ แต่ปัญหานี้ไม่สามารถเปลี่ยนได้ด้วยนักปั่นเองเพราะเสต็มต้องเป็นชุดพิเศษที่มากับรถเท่านั้น ก็ต้องฝากความหวังเอาไว้กับทางแบรนด์ว่าจะเร่งแก้ปัญหานี้ให้ได้ในรุ่นจัดจำหน่าย เพราะภาพลักษณ์ของ SpeedX Leopard ไม่ใช่รถแฟชั่นไฮเท็คล้ำหน้าอย่างเดียว แต่ยังคงเป็นจักรยานระดับสมรรถนะสูงตอบสนองได้อย่างจริงจังด้วย
![รูปภาพ](http://road.cc/sites/default/files/styles/main_width/public/speedx-leopard-pro-3.jpg?itok=IVjJNDbm)
SpeedX Leopard เหมาะกับใคร
คงต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับ หากจะนับเอาเสป็คของรถทดสอบนี้อย่างเดียว ต้องมองว่า SpeedX Leopard เป็นจักรยานที่เหมาะสำหรับคนชอบความล้ำหน้า สวย ดุดัน อาจไม่ใช่โจทย์สำหรับสายซิ่งแต่แรก แน่นอนว่าศักยภาพสามารถไปถึงระดับแข่งขันได้ แต่ด้วยเสป็คของรถต้นแบบ ที่ทำให้ฟิลลิ่งหลายๆอย่างดูด้อยกว่าการเป็นเสือหมอบซิ่งๆสักคัน หนักไปทางความฉลาดเพียงอย่างเดียว
แต่ถ้ามองในมุมของความเป็นไปได้ในอนาคต SpeedX Leopard มีศักยภาพเต็มที่ที่จะเป็นรถจักรยานเสือหมอบแรงๆ ที่มาพร้อมกับความล้ำสักคัน ในวินาทีนี้ เรามองตลาดสังคมปั่นจักรยานกันอย่างไรบ้างล่ะครับ? จำเป็นหรือไม่ที่เราต้องขี่จักรยานระดับโปรทัวร์ แบรนด์โปรขี่ รุ่นแชมป์เวิลด์ทัวร์กัน เพราะในความเป็นจริง จักรยานก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการออกกำลังกายได้เหมือนกัน และจักรยานที่ดีพอที่จะตอบโจทย์ความสนุกในความเร้าใจก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์ที่คุ้นหูกันเท่านั้น ถ้ามองทะลุไปแล้ว SpeedX Leopard สามารถเป็นในทุกอย่างที่ต้องการได้จากบนถนน และมากับความไฮเท็คของระบบอัจฉรียะที่พร้อมจะพัฒนาต่อไปแบบสุดเขตแห่งจินตนาการ[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 867487.jpg[/homeimg]