++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
ผู้ดูแล: narongrama4, โกโร่
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ทย่อย ของกลุ่มพระรามสี่ ครับ
ที่อยู่ชมรม ร้านก๋วยเตี๋ยวนายพล ถ.ราชพฤกษ์ตัดกับชัยพฤกษ์ ใกล้สะพานพระรามสี่
ผุ้ดุแลบอร์ท - narongrama4 กับ โกโร่
โทร.0816131073
บอร์ทย่อย ของกลุ่มพระรามสี่ ครับ
ที่อยู่ชมรม ร้านก๋วยเตี๋ยวนายพล ถ.ราชพฤกษ์ตัดกับชัยพฤกษ์ ใกล้สะพานพระรามสี่
ผุ้ดุแลบอร์ท - narongrama4 กับ โกโร่
โทร.0816131073
- ม้าเหล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 287
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:07
- Tel: 0818403665
- team: พระราม4
- Bike: Trek
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
เรื่องการจากไปของคุณโต้งเป็นเรื่องกระทันหันเพราะว่ายังหนุ่มแน่นอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น ทำให้อยากรู้ความเป็นไป จึงติดตามจากลิงค์ที่แม่ต่ายโพสไว้ ทำให้รู้สาเหตุคร่าว ๆ ว่าเป็นเรื่องหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจและเสียดายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะวงการนักปั่นจักรยานด้วยกัน ทำให้ฉุกคิดขึ้นว่า อะไรเป็นสาเหตุ และจะมีวิธีการอย่างไรในการป้องกัน เพราะว่าในบรรดานักออกกำลังกายด้วยกัน ส่วนใหญ่จะห่วงใยและคอยดูแลสุขภาพของตนให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ไม่น่าจะมีอาการของโรคหัวอย่างแน่นอน ดังนั้น สาเหตุการเป็นนั้นเกิดจากอะไร ใครที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยากขอข้อมูลทั่ว ๆ ไปด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องวิชาการขั้นสูงครับ
[ "GOODSTART"การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง"WELL BEGUN IS HALF DONE"
-
- สมาชิก
- โพสต์: 82
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2008, 16:12
- team: bikecrazyclub
- Bike: bianchi
- ติดต่อ:
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
....รายละเอียด เรื่องราวของโต้งนิดหน่อยครับ....
http://www.bikecrazyclub.com/board/view ... ?f=2&t=169
http://www.bikecrazyclub.com/board/view ... ?f=2&t=169
- ม้าเหล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 287
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:07
- Tel: 0818403665
- team: พระราม4
- Bike: Trek
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
เท่าที่รู้มา มีนักกีฬาดัง ๆ และนักฟุตบอลเป็นแบบนี้หลาย ๆ คนแล้วม้าเหล็ก เขียน:เรื่องการจากไปของคุณโต้งเป็นเรื่องกระทันหันเพราะว่ายังหนุ่มแน่นอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น ทำให้อยากรู้ความเป็นไป จึงติดตามจากลิงค์ที่แม่ต่ายโพสไว้ ทำให้รู้สาเหตุคร่าว ๆ ว่าเป็นเรื่องหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจและเสียดายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะวงการนักปั่นจักรยานด้วยกัน ทำให้ฉุกคิดขึ้นว่า อะไรเป็นสาเหตุ และจะมีวิธีการอย่างไรในการป้องกัน เพราะว่าในบรรดานักออกกำลังกายด้วยกัน ส่วนใหญ่จะห่วงใยและคอยดูแลสุขภาพของตนให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ไม่น่าจะมีอาการของโรคหัวใจอย่างแน่นอน ดังนั้น สาเหตุการเป็นนั้นเกิดจากอะไร ใครที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยากขอข้อมูลทั่ว ๆ ไปด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องวิชาการขั้นสูงครับ
[ "GOODSTART"การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง"WELL BEGUN IS HALF DONE"
- Neaw
- ขาประจำ
- โพสต์: 850
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 15:09
- team: พระราม 4
- Bike: Specialized , Trek , Cannondale
- ตำแหน่ง: INFANTRY ARMY
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
ขอแสดงความเสียใจครับ
ขอให้ดวงวิญญาณน้องโต้ง
ไปสู่สุคติ ณ สัมปรายภพ
ขอให้ดวงวิญญาณน้องโต้ง
ไปสู่สุคติ ณ สัมปรายภพ
- PUTT SCOTT
- ขาประจำ
- โพสต์: 618
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 16:39
- Tel: 0619563561
- team: กลุ่มเพื่อน-หนุกหนาน
- Bike: จัก-กะ-ยาน-คน-จน
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
อะไรคือสาเหตุการตายของนักกีฬาในระดับนี้?
มีบทความทางวิชาการทางการแพทย์ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และในทวีปยุโรป ที่ศึกษาถึงสาเหตุการตายของนักกีฬาระดับที่เล่นกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ (Elite Atheletes) หมายถึง มีความฟิต มีฝีมือในระดับมืออาชีพของโลก พบว่าสาเหตุที่พบได้บ่อย คือ Hypertrophic Cardio Myopalty (HMC) หมายถึง
กล้ามเนื้อของหัวใจโตขึ้นแบบผิดปกติโดยมีสาเหตุมาจากมีการกลายพันธุ์ของยีนส์ พบเป็นสาเหตุการตายของ
นักกีฬาที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี มากกว่า 50% นักกีฬาเหล่านี้อาจเคยมีประวัติเคยมีอาการใจสั่น มีอาการคล้ายจะเป็นลม หรือบางรายเคยเป็นลมหมดสติมาแล้วในระหว่างที่มีการเล่นกีฬา หัวใจต้องทำงานมากขึ้น ในบางรายงานพบว่าภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตขึ้นแบบผิดปกติ (HCM) นี้พบได้ 1 ใน 500 ของประชาชนทั่วไป ซึ่งนับว่าไม่น้อยทีเดียว สมมุติว่าเรามาดูว่าจะมีภาวะนี้ในประเทศไทยจำนวนเท่าใด พวกเรามีประชากร 60 ล้านคน คิดเป็นประชากรที่เล่นกีฬาหนักๆ ระหว่าง 15-30 ปี ประมาณ 10 ล้านคน ดังนั้นน่าจะมีคนมีกล้ามเนื้อหัวใจราวๆ 20,000 คน ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นนักกีฬาที่เล่นกีฬาหนักๆ ทุกคน ดังนั้นการเกิดอาการเสียชีวิตเนื่องจากการล้มเหลวของการทำงานของหัวใจที่มีกล้ามเนื้อหนาตัวผิดปกติ จึงมีไม่ได้มากนักเพราะจะต้องเป็นการประจวบเหมาะพอดี ที่พวกที่มีความผิดปกติแล้วเล่นกีฬาหนักๆ ได้ดีด้วย จึงจะนำคนเหล่านี้มาสู่ภาวะเสี่ยงในการเล่นกีฬาต่อมา
สถิติการเสียชีวิตในนักกีฬาเป็นอย่างไร?
มีบทความทางวิชาการของสถาบันโรคหัวใจมินเนอาโปลิส ได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตมีคนรวบรวมสถิติการเสียชีวิตของนักกีฬาวัยหนุ่มสาวว่ามีค่อนข้างต่ำประมาณปีละ 20 คน ซึ่งทำให้ไม่ค่อยมีผู้ที่สนใจที่จะศึกษาหาสาเหตุการตายที่แท้จริง แต่ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) มีการรวบรวมสถิติกันใหม่แล้วพบว่ามีสถิติมากขึ้นเป็น 7-10 เท่ากว่าแต่ก่อน มีการรวบรวมในแต่ละประเภทกีฬาพบว่าในกีฬาวิ่งเพื่อการออกกำลังกาย (Jogging) พบได้ 1 ใน 15,000 คน และพบได้ 1 ใน 50,000 คน ของนักวิ่งประเภทมาราธอน ซึ่งมีการประมาณการว่าจะมีคนตายหลายร้อยคนต่อปี โดยคำนวณคร่าวๆ ว่าในอเมริกามีนักวิ่งราวๆ 10 ล้านคน ซึ่งสถิติยังไม่มีความแน่นอนเท่าใด เพราะการเก็บข้อมูลต้องกระทำอย่างเป็นระบบ การเสียชีวิตของคนทั่วๆ ไป ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรก็อาจไม่เป็นที่สนใจเท่าที่ควร
มีบทความของแพทยสมาคมแห่งอเมริกา ในปี ค.ศ. 1996 รายงานผู้ที่เสียชีวิตที่เป็นนักกีฬาหนุ่มสาวพบว่ามี 158 ราย โดยรวบรวมสถิติ 10 ปี (1985 – 1995) พบว่าเป็นผู้หญิง 15% ผู้ชาย 85% ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้หญิงเล่นกีฬาหนักๆ น้อยกว่า หรือโอกาสที่ผู้หญิงจะเป็นโรคนี้น้อยกว่าก็ยังไม่เป็นข้อสรุป
ข้อแนะนำการตรวจคัดกรองที่น่าสนใจของยุโรป
จากเว็บไซด์www.medscape.com ได้นำเสนอการตรวจคัดกรอง (Screening) ที่เป็นมาตรฐานในยุโรปสำหรับนักกีฬาที่แข่งขันเพื่อความเป็นเลิศ จะต้องมีการซักประวัติส่วนตัวและครอบครัวอย่างละเอียด / มีการตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพยายามค้นหาสาเหตุที่อาจจะมีในนักกีฬาเหล่านั้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดการเสียชีวิตจาการเล่นกีฬาหนักๆ โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี จะต้องตรวจโดยแพทย์เวชศาสตร์การกีฬา หรือแพทย์โรคหัวใจที่ฝึกอบรมมาเพื่อการดูแลนักกีฬาโดยเฉพาะและต้องทำงานด้านนี้โดยเฉพาะในสถาบันที่ทำการทดสอบ
นักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ / การวัดความดันโลหิต / การตรวจคลื่นหัวใจ 12 หลีด (12-lead ECG) ซึ่งหากพบว่ามีความผิดปกติ จะต้องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถึ่สูง (Echocardiography), การวิ่งสายพาน (Exercise Stress Test), การติดเครื่องตรวจคลื่นหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง (24 Hour Holter Monitoring), การตรวจหัวใจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็ก (Cardiac MRI) หรือบางรายอาจต้องใช้การฉีดสีดูเส้นเลือดหัวใจด้วยสายสวน (Angiography)
การตรวจคัดกรองควรกระทำทุก 2 ปี เพื่อให้เกิดแน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติที่อาจตรวจไม่พบในตอนแรก และที่มีการเน้นอย่างมากจากประเทศทางยุโรป ก็คือ ความคุ้มค่าในการที่ต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 12 หลีด (12 lead ECG) ที่พบว่าได้ผลดีมากในการตรวจพบความผิดปกติของการทำงานของหัวใจ
การตรวจคัดกรองหรือการตรวจเพื่อป้องกันในฟุตบอลอาชีพของอังกฤษและยุโรป
ผมไม่ทราบว่ามีมาตรฐานอย่างไรในแต่ละสโมสรฟุตบอลอาชีพต่างๆ แต่จากการตายของนักฟุตบอลอาชีพคนแล้วคนเล่า หากผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพมีค่าตัวมากว่าปีละ 100 ล้านบาท (มักน้อย) หากสโมสรไม่มีมาตรการตรวจเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจเหล่านี้ ผมคงยอมที่จะเสียเงินเองเพื่อตรวจทุกอย่างให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการคัดกรองหรือเพื่อป้องกันความสูญเสียอันใหญ่หลวงที่สักวันหนึ่งมีเงินมากมาย แต่ต้องเสียชีวิตกระทันหันด้วยเรื่องเหล่านี้
ความจริงยังมีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับการตายของนักฟุตบอลอีกมาก ผมอาจขออนุญาติเขียนถึงในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง สวัสดีครับ
ผู้เขียน: นอ.(พิเศษ) นพ.ไพศาลจันทรพิทักษ์
มีบทความทางวิชาการทางการแพทย์ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และในทวีปยุโรป ที่ศึกษาถึงสาเหตุการตายของนักกีฬาระดับที่เล่นกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ (Elite Atheletes) หมายถึง มีความฟิต มีฝีมือในระดับมืออาชีพของโลก พบว่าสาเหตุที่พบได้บ่อย คือ Hypertrophic Cardio Myopalty (HMC) หมายถึง
กล้ามเนื้อของหัวใจโตขึ้นแบบผิดปกติโดยมีสาเหตุมาจากมีการกลายพันธุ์ของยีนส์ พบเป็นสาเหตุการตายของ
นักกีฬาที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี มากกว่า 50% นักกีฬาเหล่านี้อาจเคยมีประวัติเคยมีอาการใจสั่น มีอาการคล้ายจะเป็นลม หรือบางรายเคยเป็นลมหมดสติมาแล้วในระหว่างที่มีการเล่นกีฬา หัวใจต้องทำงานมากขึ้น ในบางรายงานพบว่าภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตขึ้นแบบผิดปกติ (HCM) นี้พบได้ 1 ใน 500 ของประชาชนทั่วไป ซึ่งนับว่าไม่น้อยทีเดียว สมมุติว่าเรามาดูว่าจะมีภาวะนี้ในประเทศไทยจำนวนเท่าใด พวกเรามีประชากร 60 ล้านคน คิดเป็นประชากรที่เล่นกีฬาหนักๆ ระหว่าง 15-30 ปี ประมาณ 10 ล้านคน ดังนั้นน่าจะมีคนมีกล้ามเนื้อหัวใจราวๆ 20,000 คน ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นนักกีฬาที่เล่นกีฬาหนักๆ ทุกคน ดังนั้นการเกิดอาการเสียชีวิตเนื่องจากการล้มเหลวของการทำงานของหัวใจที่มีกล้ามเนื้อหนาตัวผิดปกติ จึงมีไม่ได้มากนักเพราะจะต้องเป็นการประจวบเหมาะพอดี ที่พวกที่มีความผิดปกติแล้วเล่นกีฬาหนักๆ ได้ดีด้วย จึงจะนำคนเหล่านี้มาสู่ภาวะเสี่ยงในการเล่นกีฬาต่อมา
สถิติการเสียชีวิตในนักกีฬาเป็นอย่างไร?
มีบทความทางวิชาการของสถาบันโรคหัวใจมินเนอาโปลิส ได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตมีคนรวบรวมสถิติการเสียชีวิตของนักกีฬาวัยหนุ่มสาวว่ามีค่อนข้างต่ำประมาณปีละ 20 คน ซึ่งทำให้ไม่ค่อยมีผู้ที่สนใจที่จะศึกษาหาสาเหตุการตายที่แท้จริง แต่ในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) มีการรวบรวมสถิติกันใหม่แล้วพบว่ามีสถิติมากขึ้นเป็น 7-10 เท่ากว่าแต่ก่อน มีการรวบรวมในแต่ละประเภทกีฬาพบว่าในกีฬาวิ่งเพื่อการออกกำลังกาย (Jogging) พบได้ 1 ใน 15,000 คน และพบได้ 1 ใน 50,000 คน ของนักวิ่งประเภทมาราธอน ซึ่งมีการประมาณการว่าจะมีคนตายหลายร้อยคนต่อปี โดยคำนวณคร่าวๆ ว่าในอเมริกามีนักวิ่งราวๆ 10 ล้านคน ซึ่งสถิติยังไม่มีความแน่นอนเท่าใด เพราะการเก็บข้อมูลต้องกระทำอย่างเป็นระบบ การเสียชีวิตของคนทั่วๆ ไป ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรก็อาจไม่เป็นที่สนใจเท่าที่ควร
มีบทความของแพทยสมาคมแห่งอเมริกา ในปี ค.ศ. 1996 รายงานผู้ที่เสียชีวิตที่เป็นนักกีฬาหนุ่มสาวพบว่ามี 158 ราย โดยรวบรวมสถิติ 10 ปี (1985 – 1995) พบว่าเป็นผู้หญิง 15% ผู้ชาย 85% ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้หญิงเล่นกีฬาหนักๆ น้อยกว่า หรือโอกาสที่ผู้หญิงจะเป็นโรคนี้น้อยกว่าก็ยังไม่เป็นข้อสรุป
ข้อแนะนำการตรวจคัดกรองที่น่าสนใจของยุโรป
จากเว็บไซด์www.medscape.com ได้นำเสนอการตรวจคัดกรอง (Screening) ที่เป็นมาตรฐานในยุโรปสำหรับนักกีฬาที่แข่งขันเพื่อความเป็นเลิศ จะต้องมีการซักประวัติส่วนตัวและครอบครัวอย่างละเอียด / มีการตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพยายามค้นหาสาเหตุที่อาจจะมีในนักกีฬาเหล่านั้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดการเสียชีวิตจาการเล่นกีฬาหนักๆ โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี จะต้องตรวจโดยแพทย์เวชศาสตร์การกีฬา หรือแพทย์โรคหัวใจที่ฝึกอบรมมาเพื่อการดูแลนักกีฬาโดยเฉพาะและต้องทำงานด้านนี้โดยเฉพาะในสถาบันที่ทำการทดสอบ
นักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ / การวัดความดันโลหิต / การตรวจคลื่นหัวใจ 12 หลีด (12-lead ECG) ซึ่งหากพบว่ามีความผิดปกติ จะต้องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถึ่สูง (Echocardiography), การวิ่งสายพาน (Exercise Stress Test), การติดเครื่องตรวจคลื่นหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง (24 Hour Holter Monitoring), การตรวจหัวใจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็ก (Cardiac MRI) หรือบางรายอาจต้องใช้การฉีดสีดูเส้นเลือดหัวใจด้วยสายสวน (Angiography)
การตรวจคัดกรองควรกระทำทุก 2 ปี เพื่อให้เกิดแน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติที่อาจตรวจไม่พบในตอนแรก และที่มีการเน้นอย่างมากจากประเทศทางยุโรป ก็คือ ความคุ้มค่าในการที่ต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 12 หลีด (12 lead ECG) ที่พบว่าได้ผลดีมากในการตรวจพบความผิดปกติของการทำงานของหัวใจ
การตรวจคัดกรองหรือการตรวจเพื่อป้องกันในฟุตบอลอาชีพของอังกฤษและยุโรป
ผมไม่ทราบว่ามีมาตรฐานอย่างไรในแต่ละสโมสรฟุตบอลอาชีพต่างๆ แต่จากการตายของนักฟุตบอลอาชีพคนแล้วคนเล่า หากผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพมีค่าตัวมากว่าปีละ 100 ล้านบาท (มักน้อย) หากสโมสรไม่มีมาตรการตรวจเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจเหล่านี้ ผมคงยอมที่จะเสียเงินเองเพื่อตรวจทุกอย่างให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการคัดกรองหรือเพื่อป้องกันความสูญเสียอันใหญ่หลวงที่สักวันหนึ่งมีเงินมากมาย แต่ต้องเสียชีวิตกระทันหันด้วยเรื่องเหล่านี้
ความจริงยังมีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับการตายของนักฟุตบอลอีกมาก ผมอาจขออนุญาติเขียนถึงในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง สวัสดีครับ
ผู้เขียน: นอ.(พิเศษ) นพ.ไพศาลจันทรพิทักษ์
- แม่ต่าย
- ขาประจำ
- โพสต์: 4716
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 13:13
- Tel: 0813046607
- team: พระรามสี่
- Bike: รถกะบะปิดท้าย
- ตำแหน่ง: บางบัวทอง
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
ตอนนี้ยังไม่มีฝน แต่ลมแรง
โทร.เช็คกรมอุตุ บอก ฝนตกดึกๆ
มากันเร็วหน่อยก็ดีค่ะ เดี๋ยวจะอดปั่น
โทร.เช็คกรมอุตุ บอก ฝนตกดึกๆ
มากันเร็วหน่อยก็ดีค่ะ เดี๋ยวจะอดปั่น
- Neaw
- ขาประจำ
- โพสต์: 850
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 15:09
- team: พระราม 4
- Bike: Specialized , Trek , Cannondale
- ตำแหน่ง: INFANTRY ARMY
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
ผมขอให้ความเห็นเรื่องการเสียชีวิตของน้องโต้งสักหน่อยครับ เป็นการสันนิษฐานนะครับ ไม่ใช่วิชาการ เพราะผมไม่ใช่หมอ จากการอ่านกระทู้บรรยายเหตุการณ์ ทราบว่า น้องโต้ง เสียชีวิตจากการปั่น จกย. ภายหลังจากรับประทานอาหาร อย่างเต็มอิ่ม มื้อเที่ยง พอบ่าย ๆ ก็ปั่นขึ้นเขาใหญ่
ผมเคยมีรุ่นพี่ เป็นนักบิน ทอ. F 16 ซึ่งแข็งแรง ก้อมาเสียชีวิตลักษณะคล้าย ๆ กัน คือ หลังจากเมื่อรับประทานอาหารเสร็จ แต่นั่นอาจเป็นกรรมพันธุ์ เพราะคุณพ่อรุ่นพี่ผมคนนั้น ก้อเสียชีวิตแบบลูกชาย คือหลังรับประทานอาหาร
ที่มีสาเหตุดังกล่าว ผมคิดมานานพอสมควรว่า
1. อาจมีเหตุมาจากกรรมพันธุ์โรคหัวใจ
2. การรับประทานอาหารมาก กระเพาะ ต้องทำงานหนัก หัวใจต้องสูบฉีดเลือด ไปเลี้ยงกระเพาะอาหาร
เมื่อรับประทานอาหารมื้อหนักแล้ว เราควรไม่ปั่นหนัก เพราะหัวใจต้องรับภาระมาก ทั้งสูบฉีดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ , กระเพาะ , อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย หัวใจต้องบีบ ขยาย หนักขึ้น เป็นเท่า ๆ
ฉะนั้น ผมเห็นว่า เราควรจะทานอาหารพอประมาณ ที่จะมีพลังงานพอที่จะปั่น แล้วเติมเป็นระยะ ๆ ที่ล่ะเล็ก ล่ะน้อย เท่าที่เราต้องการใช้พลังงาน เมื่อเราจบทริพ เราก้อควรรับประทานพอให้หายโหย เมื่อร่างกายหายเหนื่อย เข้าภาวะปกติ จึงรับประทาน ตามต้องการ
วิธีของผม เมื่อจะออกทริพไกล ๆ ก่อนล้อหมุน 1 ชม ครึ่ง ผมจะทานข้าวเหนียวถุงละ 5 บาท เพียง 1 ถุง หรือ 1 ถุงครึ่ง
ยกตัวอย่าง ทริพไปลพบุรี 99 กม. พลังงานข้าวเหนียว อยู่ได้ถึงจบทริพ โดยไม่ต้องเติมอะไรเลย ปั่นก้อทันเพื่อน ๆ ร่วมทริพ
หรืออย่างที่ผมไปกะเป๊ปซี่ ปั่นไปกินกุ้งอยุธยา พอกินอิ่มตื้อ เราก้อนั่งรถกลับ ผมเองก้อไม่คิดจะปั่นกลับ เพราะผมคำนึงถึงภาระที่หนักของหัวใจ
ผมจึงสรุปแบบลูกทุ่ง ๆ ว่า เราไม่ควรปั่นหนัก หลังกินอิ่มมาก หรือ ถ้ากินอิ่มมาก เราก้อควรจะพักผ่อน
เมื่อจะออกทริพไกล ๆ ก็ควรกินแบบพอดี ๆ แล้วทยอยเติม เมื่อใกล้หมดพลัง
ความเห็นผม แค่ข้อคิดนะครับ
ขอให้ดวงวิญญาณ น้องโต้ง ไปสูสุคติ ณ สัมปรายภพครับ
ผมเคยมีรุ่นพี่ เป็นนักบิน ทอ. F 16 ซึ่งแข็งแรง ก้อมาเสียชีวิตลักษณะคล้าย ๆ กัน คือ หลังจากเมื่อรับประทานอาหารเสร็จ แต่นั่นอาจเป็นกรรมพันธุ์ เพราะคุณพ่อรุ่นพี่ผมคนนั้น ก้อเสียชีวิตแบบลูกชาย คือหลังรับประทานอาหาร
ที่มีสาเหตุดังกล่าว ผมคิดมานานพอสมควรว่า
1. อาจมีเหตุมาจากกรรมพันธุ์โรคหัวใจ
2. การรับประทานอาหารมาก กระเพาะ ต้องทำงานหนัก หัวใจต้องสูบฉีดเลือด ไปเลี้ยงกระเพาะอาหาร
เมื่อรับประทานอาหารมื้อหนักแล้ว เราควรไม่ปั่นหนัก เพราะหัวใจต้องรับภาระมาก ทั้งสูบฉีดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ , กระเพาะ , อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย หัวใจต้องบีบ ขยาย หนักขึ้น เป็นเท่า ๆ
ฉะนั้น ผมเห็นว่า เราควรจะทานอาหารพอประมาณ ที่จะมีพลังงานพอที่จะปั่น แล้วเติมเป็นระยะ ๆ ที่ล่ะเล็ก ล่ะน้อย เท่าที่เราต้องการใช้พลังงาน เมื่อเราจบทริพ เราก้อควรรับประทานพอให้หายโหย เมื่อร่างกายหายเหนื่อย เข้าภาวะปกติ จึงรับประทาน ตามต้องการ
วิธีของผม เมื่อจะออกทริพไกล ๆ ก่อนล้อหมุน 1 ชม ครึ่ง ผมจะทานข้าวเหนียวถุงละ 5 บาท เพียง 1 ถุง หรือ 1 ถุงครึ่ง
ยกตัวอย่าง ทริพไปลพบุรี 99 กม. พลังงานข้าวเหนียว อยู่ได้ถึงจบทริพ โดยไม่ต้องเติมอะไรเลย ปั่นก้อทันเพื่อน ๆ ร่วมทริพ
หรืออย่างที่ผมไปกะเป๊ปซี่ ปั่นไปกินกุ้งอยุธยา พอกินอิ่มตื้อ เราก้อนั่งรถกลับ ผมเองก้อไม่คิดจะปั่นกลับ เพราะผมคำนึงถึงภาระที่หนักของหัวใจ
ผมจึงสรุปแบบลูกทุ่ง ๆ ว่า เราไม่ควรปั่นหนัก หลังกินอิ่มมาก หรือ ถ้ากินอิ่มมาก เราก้อควรจะพักผ่อน
เมื่อจะออกทริพไกล ๆ ก็ควรกินแบบพอดี ๆ แล้วทยอยเติม เมื่อใกล้หมดพลัง
ความเห็นผม แค่ข้อคิดนะครับ
ขอให้ดวงวิญญาณ น้องโต้ง ไปสูสุคติ ณ สัมปรายภพครับ
- แม่ต่าย
- ขาประจำ
- โพสต์: 4716
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 13:13
- Tel: 0813046607
- team: พระรามสี่
- Bike: รถกะบะปิดท้าย
- ตำแหน่ง: บางบัวทอง
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
วันนี้มีเพื่อนๆมาปั่นกัน 16 คน
โหน่ง...พี่กี๋...พี่พจน์...พี่หมูopen...แป๊ปซี่...เพื่อนแป๊ป2คน....พี่ชาติ...อ.โล...หนุ่ม...ผา...
พี่สมมาศ...ก้องเล็ก...ที(ปากเกร็ด)...ประทีป...คุณกิจ
รถปิดท้าย - แม่ต่าย..พี่สุเมธ..
โหน่ง...พี่กี๋...พี่พจน์...พี่หมูopen...แป๊ปซี่...เพื่อนแป๊ป2คน....พี่ชาติ...อ.โล...หนุ่ม...ผา...
พี่สมมาศ...ก้องเล็ก...ที(ปากเกร็ด)...ประทีป...คุณกิจ
รถปิดท้าย - แม่ต่าย..พี่สุเมธ..
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 111
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 11:30
- Tel: 0816475564
- team: พระรามสี่
- Bike: trek
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
กำลังสร้างแรงอยู่
- ม้าเหล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 287
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:07
- Tel: 0818403665
- team: พระราม4
- Bike: Trek
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
เมื่อคืนตอนขากลับจากธุระที่ปทุมธานี ก็วิ่งผ่านครับ แต่ผมไม่ได้เตรียมรถไปจึงไม่ได้แว๊ะ (ผบ. ที่บ้านเขาอยากกลับบ้าน)
เสียดายโอกาส ทั้งที่ฝนไม่ตก แต่เจ้าตัวเบี้ยวซะอย่างงั้น
ขอบคุณเสฯ เหนี่ยวครับสำหรับข้อคิดเห็นครับ ซึ่งน่าจะเป็นอุธทาหรณ์และเป็นประโยชน์สำหรับนักปั่นทุก ๆ ท่าน อยากเสริมเหตุการณ์คล้าย ๆ กันที่เกิดกับนักวิ่งที่กำลังวิ่งไปได้ระยะทางหนึ่งแล้วและกำลังอยู่ในระยะสปิ้นความเร็วอยู่ แต่ต้องมาหยุดกระทันหันครับ เพราะ 8.00 น. พอดี แกยืนอยู่ดี ๆ ก็ล้มฟุบไป และก็เรียบร้อยฯ ด้วยสาเหตุเดียวกัน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคน สภาพร่างกาย การพักผ่อน การรับประทานอาหาร การเตรียมตัวก่อนฯ และความรุนแรงในการออกกำลัง และอื่น ๆ ซึ่งก็ยังไม่สามารถระบุถึงเหตุที่แท้จริงแน่นอน ก็ได้แต่คาดการณ์ไว้เท่านั้น ก็หวังให้อย่าได้เกิดอีกจะดีกว่า
เสียดายโอกาส ทั้งที่ฝนไม่ตก แต่เจ้าตัวเบี้ยวซะอย่างงั้น
ขอบคุณเสฯ เหนี่ยวครับสำหรับข้อคิดเห็นครับ ซึ่งน่าจะเป็นอุธทาหรณ์และเป็นประโยชน์สำหรับนักปั่นทุก ๆ ท่าน อยากเสริมเหตุการณ์คล้าย ๆ กันที่เกิดกับนักวิ่งที่กำลังวิ่งไปได้ระยะทางหนึ่งแล้วและกำลังอยู่ในระยะสปิ้นความเร็วอยู่ แต่ต้องมาหยุดกระทันหันครับ เพราะ 8.00 น. พอดี แกยืนอยู่ดี ๆ ก็ล้มฟุบไป และก็เรียบร้อยฯ ด้วยสาเหตุเดียวกัน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคน สภาพร่างกาย การพักผ่อน การรับประทานอาหาร การเตรียมตัวก่อนฯ และความรุนแรงในการออกกำลัง และอื่น ๆ ซึ่งก็ยังไม่สามารถระบุถึงเหตุที่แท้จริงแน่นอน ก็ได้แต่คาดการณ์ไว้เท่านั้น ก็หวังให้อย่าได้เกิดอีกจะดีกว่า
[ "GOODSTART"การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง"WELL BEGUN IS HALF DONE"
- แม่ต่าย
- ขาประจำ
- โพสต์: 4716
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 13:13
- Tel: 0813046607
- team: พระรามสี่
- Bike: รถกะบะปิดท้าย
- ตำแหน่ง: บางบัวทอง
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
หวัดดีตอนเช้าจ้า
วันนี้ไม่รู้จะได้เจอกันหรือเปล่า น้องฝนมาแต่เช้าเลย
วันนี้ไม่รู้จะได้เจอกันหรือเปล่า น้องฝนมาแต่เช้าเลย
- ม้าเหล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 287
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:07
- Tel: 0818403665
- team: พระราม4
- Bike: Trek
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
เรียนแม่ต่ายครับ วันนี้ขึ้นเดือนใหม่แล้วครับแม่ต่าย เขียน:หวัดดีตอนเช้าจ้า
วันนี้ไม่รู้จะได้เจอกันหรือเปล่า น้องฝนมาแต่เช้าเลย
ตอนนี้ฝนยังปอยอยู่เลย เย็นนี้จะได้ปั่นไหมน้อ...................
แก้ไขล่าสุดโดย ม้าเหล็ก เมื่อ 01 ต.ค. 2009, 21:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
[ "GOODSTART"การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง"WELL BEGUN IS HALF DONE"
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 4620
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 03:57
- team: รวมมิตร
- Bike: Wheeler Ti, CSK หมอบ
- ติดต่อ:
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
นี่คือสาเหตุที่วันอังคาร รอบสาม ตอนปั่นตามลมอัดเกิน 55 ผมเลยตัดสินใจฉีกตัวออกมาเข้ารอบเล็กปั่นแค่ 30 คนเดียว
เราต้องฟังร่างกายครับ ถ้าหัวใจมันบอกว่าหนักไป อย่าฝืนดีกว่า เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยออกทริปวันอาทิตย์แล้วครับ เพราะแก่แล้ว (57) กลัวนอน 4-5 ชม ไม่พอ
เมื่อปีก่อน นอนแค่ 4 ชม ปั่น 347 ไปอยุธยา หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ผมหยุดเลยครับ แล้วนอนศาลาข้างทาง 30 นาที แล้วปั่นกลับ ไม่ดันทุรัง เพราะก่อนหน้าปีกว่าแล้ว มีอาจารย์นอนน้อย ปั่นกับขาแรงแล้วตายครับ
อยากปั่นนานๆ กับพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้อง รุ่นหลานต่อไปครับ
เราต้องฟังร่างกายครับ ถ้าหัวใจมันบอกว่าหนักไป อย่าฝืนดีกว่า เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยออกทริปวันอาทิตย์แล้วครับ เพราะแก่แล้ว (57) กลัวนอน 4-5 ชม ไม่พอ
เมื่อปีก่อน นอนแค่ 4 ชม ปั่น 347 ไปอยุธยา หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ผมหยุดเลยครับ แล้วนอนศาลาข้างทาง 30 นาที แล้วปั่นกลับ ไม่ดันทุรัง เพราะก่อนหน้าปีกว่าแล้ว มีอาจารย์นอนน้อย ปั่นกับขาแรงแล้วตายครับ
อยากปั่นนานๆ กับพวกเพื่อนๆ และรุ่นน้อง รุ่นหลานต่อไปครับ
- ไฟล์แนบ
-
- 179350-105.jpg (39.45 KiB) เข้าดูแล้ว 902 ครั้ง
- กิต MERIDA
- ขาประจำ
- โพสต์: 204
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 17:43
- team: ไม่มีทีม แต่อยู่ตำบลบางตะไนย์
- Bike: MERIDA , TREK , GIANT
- ตำแหน่ง: บางตะไนย์ ปากเกร็ด นนทบุรี
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
ตอนนี้ที่ปากเกร็ดถนนแห้งรึยังครับ
- แม่ต่าย
- ขาประจำ
- โพสต์: 4716
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 13:13
- Tel: 0813046607
- team: พระรามสี่
- Bike: รถกะบะปิดท้าย
- ตำแหน่ง: บางบัวทอง
Re: ++ พระรามสี่ เชิญทางนี้ครับพี่น้อง (กย.52)++
รายงานสภาพอากาศตอนนี้ค่ะ
ตอนนี้ไม่มีฝน ท้องฟ้ามีเมฆกระจาย
โทร.เช็คกรมอุตุบอก โอกาสมีฝนแบบตกๆ หยุดๆ ไม่มีฝนหนัก
แต่ตอนนี้ยังไม่ตกจ้า รีบมากันหน่อยก็ดี
ตอนนี้ไม่มีฝน ท้องฟ้ามีเมฆกระจาย
โทร.เช็คกรมอุตุบอก โอกาสมีฝนแบบตกๆ หยุดๆ ไม่มีฝนหนัก
แต่ตอนนี้ยังไม่ตกจ้า รีบมากันหน่อยก็ดี