สวัสดี พี่ เพื่อนสมาชิก ทุกท่านครับ
ผมขออนุญาตนำภาพ จักรยานในจักรยานที่ประเทศจีน หรือสาธารณรัฐประชาชนจีน (เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง) ผมมีโอกาสไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ ซึ่งเป็นฤดูหนาว (Winter) ซึ่งมีอากาศเย็นมาก มาฝากให้เพื่อนสมาชิกชม ภาพถ่ายส่วนใหญ่ถ่ายบนรถขณะผ่านเมืองตามสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างเซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง และทริปนี้ผมใช้รูปที่มีขนาดใหญ่ขึ้น น่าจะดูได้สยายตา ขาดตกบกพร่องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ...เก่ง Baja
ที่ผ่านมา
กระทู้แรก : จักรยานที่ประเทศออสเตรเลีย http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=558992
กระทู้สอง : จักรยานที่ประเทศญี่ปุ่น
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1730694
กระทู้สาม : จักรยานที่ประเทศเวียดนาม
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1744175)
กระทู้สี่ : จักรยานที่ฮอกไกโด (ฮาโกดาเตะ , โอตารุ, ซัปโปโระ ;ประเทศญี่ปุ่น)
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1768402
กระทู้ห้า : จักรยานที่ไต้หวัน (ไถจง, กรุงไทเป)
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1790862
เริ่มจากเมืองเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) หรือ ช่างไห่ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเมืองนี้มีความเจริญมาก และสถานที่เป็นที่นิยม คือ หาดไว่ทาน (Waitan) จัดว่าเป็นไฮไลท์สำคัญในการมาเยือนเซี่ยงไฮ้ เป็นทางเดินเลียบแม่น้ำแสนโรแมนติก มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร รอบๆ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปอันงดงาม และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่กว่าร้อยปี ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมมากๆ จึงได้ฉายาว่าเป็นปารีสแห่งตะวันออก
ภาพแรกเป็นที่นิยมมาถ่ายภาพกันของนักท่องเที่ยว หาดไว่ทาน (Waitan) ซึ่งมีไฮไลท์สำคัญเป็น หอไข่มุก ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
บรรยากาศ และสภาพบ้านเมืองของเซียงไฮ้ มีผู้คนใช้จักรยาน และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเยอะมากๆ สังเกตแล้ว มอเตอร์ไซค์ใช้เครื่องยนต์เบนซิน หายไปหมดแล้ว (ผมเห็นแค่คันเดียวจริงๆ) และตามซอยมีจักรยานให้เช่าจอดเรียงรายได้เห็นกันตลอดทั้งสาย
ภาพต่อไปถ่ายบริเวณวัดวัดหลงหัว (Longhua Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้ด้วยความยาวนานของประวัติศาสตร์กว่า 1,700 ปี
ภาพนี้ถ่ายบริเวณตลาด 100 ปี เฉินหวังเมี่ยว เป็นตลาดเก่าของผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้ อาคารบ้านเรือนบริเวณนี้เป็นสถาปัตยกรรมโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ตกแต่งสไตล์สถาปัตยกรรมแบบโบราณจีน และเก่ากว่าร้อยปี ที่ยังคงความงดงาม ทั้งร้านขายอาหาร ร้านขนมพื้นเมืองอาหารขึ้นชื่อของที่นี่
ภาพถัดไปเป็นหน้าร้านกาแฟชื่อดัง ซึ่งเป็นที่นิยมของคนจีนและนักท่องเที่ยวเข้าไปแวะชิม ภายในมีการโชว์ผลิตเมล็ดกาแฟให้ลูกค้าดูกันครับ ราคาไม่ห่างบ้านเราเท่าไรพอนั่งจิบชิวๆ ได้ครับ
สองวันถัดมา ผมได้ย้ายเมืองมากรุงปักกิ่ง โดยนั่งรถไฟความเร็วสูงรถไฟความเร็วสูง (High-speed Train/Bullet Train) เส้นทางปักกิ่ง (Beijing) ไปเซี้ยงไฮ้ (Shanghai) มีระยะทางประมาณ 1,318 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง ซึ่งในรถไฟความเร็วสูงนี้ สะดวกสบาย สะอาด มีของกินมาขายโดย จนท.ของการรถไฟเอง และรถไฟฟ้าความเร็วสูงนี้ จะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆ เท่านั้น
ความเร็วที่ใช้ เร็วทันใจมาก ต่อไประหว่างจังหวัดใหญ่ๆ ในบ้านเราน่าจะเป็นแบบนี้นะครับ
ผ่านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งสามารถมองเห็นระหว่างทาง ประเทศนี้พึ่งพาพลังงานไฟฟ้าชนิดนี้ นำไปใช้คมนาคมการขนส่งสินค้า โดยไม่แปรผันกับราคาน้ำมันที่ขึ้นๆ ลงๆ ตามราคาตลาดโลก ซึ่งอันจะส่งผลกระทบกับราคาสินค้าที่ต้องบวกค่าต้นทุนภาคขนส่งเข้าไปด้วย อย่างบ้านเรา
ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ ปักกิ่งเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่ง และวัฒนธรรมและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อดังทั้งในประเทศจีน และระดับโลกด้วย แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมีกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม เป็นต้น ที่นี่จะเป็นเมืองหลวงเก่ามาตั้งแต่อดีตหลายๆราชวงศ์ และมีสลับไปเมืองอื่น บ้าง แต่ปัจจุบันเป็นเมืองหลวง ซึ่งเราจะเห็นภาพ เวลาวันชาติจีน จะมีการสวนสนามที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่จัดได้อย่างยิ่งใหญ่มากและเป็นที่จับตามองของชาวโลก
วันที่ผมไปปักกิ่ง คืนที่สองมีหิมะตกพอดี ภาพเลยออกขาวๆ เกือบทั้งเมืองซึ่งแปลกตาสำหรับผม และทริปผ่านๆมา ครับ
หนาวแค่ไหน วิถีชีวิตประจำวันคงดำเนินต่อไป จักรยานยังปั่นให้เห็นทั่วเมือง
สายๆ เริ่มมีแสงแดด เพิ่มความอบอุ่น
ภาพต่อไปถูกจอดหน้าทางเข้าพระราชวังฤดูร้อนซูซีไทเฮาพระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) หรือ อี๋เหอ-ยฺเหวียน เป็นพระราชวัง ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 8 กิโลเมตร
ภาพต่อไปถ่ายได้หลังพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) หรือพระราชวังกู้กง ซึ่งรอบๆ วังมีคูน้ำกว้างไว้ป้องกันข้าศึก ในฤดูหนาวน้ำเป็นน้ำแข็งเลย
อากาศที่นั่น เย็นสบาย เส้นทางน่าปั่นครับ มีทางคู่ขนานสำหรับรถความเร็วต่ำ แยกกับรถยนต์ชัดเจน ทั้งในเมือง และนอกเมือง ไม่ต้องกลัวรถเร็วสอย บ้านเราเห็นหลายๆ จังหวัดเริ่มทำแล้ว ผมเคยเห็นของจังหวัดชัยนาท จากตัวเมืองชัยนาท ไป อ.มโนรมย์ (ขึ้นไปทางนครสวรรค์) มีให้เห็นแล้ว ส่วนตัวผมชื่นชมแนวคิดของผู้บริหารจังหวัดดังกล่าวมาก น่าจะเป็นตัวอย่างไปใช้หลายๆ ที่ในบ้านเรา ขอขอบคุณมากครับ
