การปรับระยะของจักรยานอินดอร์ให้เข้ากับตัวเองแบบเบื้องต้น

คุณภาพสินค้ามาตรฐาน ต้อง Bike-Boulevard

ผู้ดูแล: B Team

กฏการใช้บอร์ด
คุณภาพสินค้ามาตรฐาน ต้อง Bike-Boulevard
ตอบกลับ
B Team
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 18:23
Tel: 092-452-6264

การปรับระยะของจักรยานอินดอร์ให้เข้ากับตัวเองแบบเบื้องต้น

โพสต์ โดย B Team »

Bikefit_201201_5.jpg
Bikefit_201201_5.jpg (166.28 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
จากที่เราได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ StagesBike SB20 กันไปทำให้พี่ๆ หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับการปรับระยะต่างๆ ของเจ้าจักรยานอินดอร์ตัวนี้ บางท่านถามว่ามันใช้ทำไบค์ฟิตติ้งได้หรือไม่ คำตอบที่ทาง Stages Cycling ให้กับเรามาคือมันสามารถใช้ทำไบค์ฟิตติ้งได้ และแน่นอนว่าเมื่อมันสามารถทำไบค์ฟิตติ้งได้มันก็สามารถนำค่าที่พี่ๆ เคยไปทำมาจำลองใส่ใน StagesBike ได้เช่นกัน แต่ในกรณีของผู้ปั่นมือใหม่ที่สนใจอยากจะซื้อ ก็คงมีความกังวลนิดหน่อยเกี่ยวกับการหาระยะที่เหมาะสม และผู้ปั่นที่มีจักรยานเสือหมอบอยู่แล้วก็คงสงสัยว่าถ้าไม่เคยทำไบค์ฟิตติ้งเราจะวัดระยะของจักรยานเรามาใส่ใน StagesBike ได้อย่างไร วันนี้เรามีตัวอย่างแบบคร่าวๆ มาบอกกันครับ
Bikefit_201201_0.jpg
Bikefit_201201_0.jpg (129.01 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
ในกรณีที่พี่ๆ มีจักรยานเสือหมอบอยู่แล้วและอยากเซ็ตออกมาให้ตรงกับรถของพี่ๆ นั้นสามารถทำได้ไม่ยากแต่อาจจะต้องใช้อุปกรณ์นิดหน่อย โดยเครื่องมือเป็นเครื่องมือทั่วไป เช่น ตัววัดระดับน้ำ ไม้บรรทัด ตลับเมตร และ ไม้รูปตัวที ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือไม้รูปตัวทีที่จะสามารถทำให้เราจำลองเส้นเซนเตอร์ของจักรยานได้ครับ หรือ ถ้าหากไม่มีไม้รูปตัวทีก็สามารถใช้กระดาษลังหรือกระดาษแข็งๆ แปะเทปกาวให้เป็นรูปตัวทีความยาวด้านแนวตั้งให้วัดยาวจากกระโหลกจักรยานถึงด้านบนสุดของเบาะจักรยาน และ ด้านกว้างให้มีความยาวอยู่ตั้งแต่ปลายเบาะจักรยานจนถึงปลายของสเต็มจักรยาน ทำไมถึงต้องมีอุปกรณ์นี้ เพราะว่าเราจะใช้ตัวนี้เป็นเส้นอ้างอิงในการวัดเบื้องต้น ถ้าหากไม่มีเราจะไม่สามารถรู้ได้ว่าเราวัดด้วยตลับเมตรไปแล้วมันจะตรงจริงหรือไม่ หรือระยะมันแน่นอนหรือเปล่า
Bikefit_201201_1.jpg
Bikefit_201201_1.jpg (118.19 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
เมื่อเรามีอุปกรณ์ที่เป็นรูปตัวทีเรียบร้อย ให้เราใช้ตลับเมตรวัดจากจุดกึ่งกลางกระโหลกจักรยานถึงด้านบนของเบาะจักรยานก่อนว่าสูงเท่าไหร่ และให้เรานำค่านั้นไปตั้งระยะความสูงของท่อนั่งในจักรยานอินดอร์โดยใช้ตลับเมตรวัดจากจุดแกนกลางขาจานไปถึงด้านบนของเบาะเทียบให้ได้ระยะเท่ากัน จากนั้นตั้งฉากอุปกรณ์รูปตัวทีให้ตรงโดยปลายด้ามจะอยู่ที่จุดกึ่งกลางกระโหลกและฉากแนวนอนจะนาบตรงอยู่ในระยะของเบาะพอดีเพราะเราวัดระยะอุปกรณ์รูปตัวทีมาจากจักรยาน เราจะทำแบบนี้กับจักรยานเสือหมอบของพี่ๆ ก่อน เมื่อตั้งฉากเสร็จแล้วให้ใช้ไม้บรรทัดวัดระยะว่าจากปลายจมูกเบาะถึงจุดกึ่งกลางไม้ตัวทีว่าได้ระยะห่างกี่มิลลิเมตรหรือกี่เซนติเมตร นำไม้ตัวทีไปเทียบกับจักรยานอินดอร์และปรับให้ระยะจากจมูกเบาะห่างเท่ากันกับแกนกลางไม้ตามระยะที่เราเทียบจากจักรยานเสือหมอบ เท่านี้เราก็จะจำลองระยะความสูงของท่อนั่งและระยะเลื่อนหน้าถอยหลังของเบาะได้แล้ว โดยสังเกตว่าตำแหน่งที่เท้าจะวางลงที่บันไดจักรยานนั้นเป็นระยะที่คุ้นชินเลย
Bikefit_201201_4.jpg
Bikefit_201201_4.jpg (100.86 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
คราวนี้เมื่อได้ระยะความสูงท่อนั่งและตำแหน่งเบาะแล้วก็จะค่อนข้างวัดอะไรง่ายขึ้นแล้ว เราจะเริ่มเทียบส่วนที่เหลือคือท่อคอจักรยานและระยะสเต็ม โดยเราก็จะยังใช้ไม้รูปตัวทีเหมือนเดิมเพื่อเป็นเซนเตอร์เริ่มเทียบจากที่จักรยานเสือหมอบก่อนเหมือนเดิม ตั้งไม้รูปตัวทีให้ตรงปลายอยู่ที่จุดกึ่งกลางกระโหลกจะสังเกตได้ว่าปลายรูปตัวทีด้านซ้ายจะนาบกับเบาะไปแล้วแต่ไม่ได้นาบกับสเต็มเพราะฉะนั้นให้เราใช้ไม้บรรทัดหรือตลับเมตรวัดจากปลายหัวตัวทีด้านขวาลงมาถึงด้านบนของสเต็มเมื่อได้ค่าแล้วให้นำไม้รูปตัวทีไปเทียบกับจักรยานอินดอร์ของเราและวัดจากปลายหัวตัวทีด้านขวาถึงสเต็มให้ได้ระยะเท่ากันเราก็จะได้ระยะก้มที่เท่ากับจักรยานเสือหมอบของเรา เหลือเพียงแค่ระยะเอื้อม ระยะเอื้อมให้เราเทียบเหมือนเดิมแต่ว่าเราจะวัดจากแกนกลางของไม้ตัวทีไปถึงปลายของสเต็มแล้วเราจะได้ระยะเอื้อมไปเทียบวัดในจักรยานอินดอร์ของเราให้เท่ากัน สิ่งที่อยากเน้นย้ำในการเทียบค่าทุกครั้งคือเราไม่สามารถรู้ได้ว่าไม้รูปตัวทีที่เราตั้งไปมันตรงได้ฉากหรือตอนเราวัดนั้นได้ฉากหรือไม่ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องใช้ระดับน้ำในการวัดควบคู่กันไปด้วย
Bikefit_201201_2.jpg
Bikefit_201201_2.jpg (209.7 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
เท่านี้เราก็จะได้ระยะคร่าวๆ มาแล้ว แต่ให้เราใช้ตลับเมตรลองวัดซ้ำอีกทีทุกจุดหากคลาดเคลื่อนให้เราปรับแก้ครับ แต่ถ้าหากอยากรู้ว่าจะมีตำแหน่งที่เราจะนั่งปั่นได้สบายกว่านี้หรือเปล่าให้เราจดค่าสเกลที่เราปรับเสร็จเรียบร้อยเอาไว้ในแต่ละจุดเป็นสเกลอ้างอิง จากนั้นให้เราลองปั่นและปรับจุดต่างๆ ขึ้นลงหรือเดินหน้าถอยหลังตามความรู้สึกของเราแนะนำว่าทีละ 1-2 มิลลิเมตร ลองไล่ระยะดูว่าถูกใจหรือไม่ถ้าเราปรับเดินหน้ารู้สึกปวดหลังไหมหรือสบายขึ้น ถ้ามันแย่ลงให้เราปรับคืนสู่ตำแหน่งที่เราจดไว้แล้วอาจจะลองไล่ระยะขึ้นลงเดินหน้าถอยหลังดูอีกรอบเพื่อให้เราจับความรู้สึกของเราได้ครับ
Bikefit_201201_6.jpg
Bikefit_201201_6.jpg (163.23 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
ในกรณีของนักปั่นมือใหม่ที่ไม่เคยมีจักรยานเสือหมอบและซื้อ StagesBike SB20 ไว้ปั่นที่บ้าน เราแนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการใส่บันไดจักรยานให้เหมาะสมกับความสูงของตัวเราก่อน และหลังจากนั้นให้เราลองนั่งบนจักรยานและทำท่าขาจานขนานพื้น คือเหยียบลงไปที่บันไดจักรยานและเอาด้านซ้ายหรือด้านขวาชี้ไปข้างหน้าก็จะได้ท่าขาจานขนานพื้น โดยจากตรงนี้เราจะสังเกตเห็นว่าหัวเข่าของเราอยู่กับตำแหน่งที่ตรงกับแกนบันไดจักรยานหรือไม่ถ้าหากมองจากด้านบนลงมา ถ้าหากหัวเข่าของเราเกินแกนบันไดจักรยานให้เราปรับท่อนั่งสูงขึ้นโดยค่อยๆไล่ที่ละ 2-3 มิลลิเมตร แต่ว่าอย่าปรับสูงจนรู้สึกว่าขาเราเหยียดสุดแล้ว ให้เราปรับเลื่อนหน้าหรือถอยหลังของเบาะประกอบด้วยจนเรารู้สึกว่าขาเราลงน้ำหนักที่บันไดได้เต็มที่และเวลาเหยียดขารู้สึกว่าเกือบสุดแล้วลองทำท่าขาจานขนานพื้นเช็คว่าเข่าของเราตรงกับแกนบันไดแล้วหรือยัง ถ้าหากทำท่าขาจานขนานพื้นแล้วเข่าตรงแกนบันไดจักรยานเวลาเราดิ่งขาจานลงขาเราเหยียดลงแล้วเข่าก็จะตรงกับแกนบันไดเช่นกัน
Bikefit_201201_3.jpg
Bikefit_201201_3.jpg (149.3 KiB) เข้าดูแล้ว 1300 ครั้ง
เมื่อได้ตำแหน่งท่อนั่งที่เหมาะสมกับการปั่นควงขาแล้ว เราจะมาดูกันต่อที่ส่วนหน้า คือ ระยะสเต็ม ความสูงของคอ ซึ่งจะเป็นผลทำให้องศาของตัวผู้ปั่นหมอบมากน้อยเพียงใดและสบายหรือไม่ ให้เราเริ่มปรับจากความสูงของคอจักรยานอินดอร์ก่อนโดยปรับขึ้นให้ลำตัวและแขนได้ฉากอยู่ประมาณ 90 องศา เสร็จแล้วปรับระยะของสเต็มให้องศาของแขนกับศอกอยู่ประมาณ 15 องศา จะเป็นองศาพื้นฐานที่จะใช้เป็นจุดอ้างอิงได้ เมื่อเราได้ระยะนี้แล้วเราจะเริ่มรู้สึกได้โดยทำการเช็คอาการร่างกายของตัวเองก่อน เริ่มจากดูว่าเรารู้สึกเกร็งหลังหรือปวดหลังหรือไม่ ถ้าหากมีอาการเกร็งหรือปวดให้ลองไล่ระยะความสูงของคอจักรยานอินดอร์ขึ้นให้รู้สึกว่าอยู่ในระยะที่เราสบายหลังแล้ว จากนั้นให้เราลองเช็คว่าน้ำหนักมันลงที่มือมากไปหรือไม่ เงยหน้ามองตรงแล้วรู้สึกว่าปวดคอหรือเปล่า หากรู้สึกว่าน้ำหนักลงที่มือจนปวดมือหรือข้อมือให้ลองปรับเลื่อนหน้าถอยหลังของสเต็มดูจนได้ระยะที่สบาย ถ้าหากปวดคอให้ลองปรับความสูงคอจักรยานเพิ่ม ถ้าหากอยู่ในจุดที่เรารู้สึกสบายแล้วให้เราลองปั่นไปเรื่อยๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมง ถ้าหากมีอาการไม่สบายที่จุดไหนให้ลองไล่ระยะตามอาการที่บอกไปข้างต้นเพิ่มเติมครับ
รูปภาพ
ติดต่อ 092-452-6264
sales@bike-boulevard.com
Line: @bike-boulevard
คลิกเพื่อดู facebook
ตอบกลับ

กลับไปยัง “Bike-Boulevard”