การเติมลมยางจักรยานเสือหมอบตามสภาพเส้นทางที่จะออกไปปั่นฉบับมือใหม่เข้าใจง่าย

คุณภาพสินค้ามาตรฐาน ต้อง Bike-Boulevard

ผู้ดูแล: B Team

กฏการใช้บอร์ด
คุณภาพสินค้ามาตรฐาน ต้อง Bike-Boulevard
ตอบกลับ
B Team
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 18:23
Tel: 092-452-6264

การเติมลมยางจักรยานเสือหมอบตามสภาพเส้นทางที่จะออกไปปั่นฉบับมือใหม่เข้าใจง่าย

โพสต์ โดย B Team »

content 25-11-63_201127_6.jpg
content 25-11-63_201127_6.jpg (150.67 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
เวลาที่นักปั่นอย่างเราซื้อยางกันสักเส้นเรามักจะดูหลายๆ อย่างประกอบ เช่น ราคา วัสดุ น้ำหนัก การ Rolling Resistance ความกว้างหน้ายาง ฯลฯ แต่สุดท้ายเหตุผลที่เราดูหลายเรื่องประกอบกันตอนเลือกยางสักเส้นก็เพื่อที่จะให้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ในการปั่นของเราได้ดีที่สุด อย่างเช่น อยากได้ความนุ่มนวล การเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ปั่นได้เร็วและไม่หน่วงเท้า เป็นต้น แต่ส่วนมากถ้าหากซ้อมปั่นจักรยานทั่วๆ ไปนักปั่นมักจะเลือกความนุ่มนวลความสบายไว้เป็นหลักก่อน นักปั่นหลายๆ คนเลยนิยมไปเลือกยางซ้อมที่มีความหนาและมีหน้ายางกว้างๆ กัน เพราะว่ามันจะช่วยในเรื่องความนุ่มและการเกาะถนนได้ดี แต่ความจริงแล้วมันมีอีกเรื่องที่หลายๆ คนไม่ค่อยคิดถึงมันสักเท่าไหร่ นั่นคือเรื่อง “การเติมลมยาง” ครับ
content 25-11-63_201127_0.jpg
content 25-11-63_201127_0.jpg (229.52 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
ทุกๆ คนได้อ่านหัวข้อของบทความนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าเราจะพูดถึงเรื่องของสภาพถนนที่เราปั่นด้วยไม่ใช่เพียงเรื่องการเติมลมยางอย่างเดียว เรามาเริ่มกันที่ความจุลมยางแต่ละประเภทก่อน เพราะอะไรทำไมถึงต้องพูดถึงเรื่องประเภทของยางก่อนที่จะไปเรื่องของการเติมลมยางและสภาพถนนที่ปั่น เพราะว่าลักษณะของยางแต่ละประเภทและหน้ายางที่ไม่เท่ากันมันก็จุลมยางได้เต็มที่ต่างกันนิดหน่อยแต่ไม่ได้ต่างกันมาก เพราะฉะนั้นจุดที่ยางจะแข็งและกลมได้เต็มที่ก็จะอยู่ที่ความดันลมที่ต่างกันตามประเภทยางและหน้ายางแต่ละขนาด ความจุลมของยางเราจะสังเกตได้ว่ายางแต่ละหน้านั้นจะจุลมได้แตกต่างกัน ยิ่งยางหน้ากว้างก็จะจุลมได้น้อยกว่ายางหน้าแคบ เช่น ยางงัดหน้ากว้าง 25 มม. จะจุลมได้น้อยกว่ายางงัดหน้ากว้าง 23 มม. ยางงัดหน้ากว้าง 28 มม. ก็จะจุลมได้น้อยกว่ายางงัดที่หน้ากว้าง 25 มม. และ 23 มม. หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อมันจุลมได้น้อยกว่ามันจะหน่วงขาเวลาปั่นมากกว่าใช่หรือไม่? คำตอบคือไม่ใช่ครับ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องความกลมของยาง ไม่ว่าจะเป็นความกว้างเท่าไหร่ก็ตามเมื่อเราเติมลมเต็มที่ตามค่าที่ยางแต่ละหน้ากำหนด ความกลมและพื้นหน้ายางที่จะสัมผัสกับถนนจะออกมาเท่ากัน จึงทำให้ยางที่หน้ากว้างไม่ได้หน่วงเท้ามากกว่ายางที่หน้าแคบเลย แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาในยางหน้ากว้างคือความนุ่มนวลและแก้มยางที่จะทำให้เราปั่นแล้วรู้สึกว่านุ่มและเกาะถนนได้ดีกว่าเข้าโค้งได้มั่นใจกว่าและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น นักปั่นหลายๆ คนที่ใช้ยางหน้าแคบมาก่อนพอเปลี่ยนมาใช้ยางหน้ากว้างเลยจะรู้สึกว่ามันหน่วงขามากกว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่แต่เป็นเพราะมันได้ความนุ่มเพิ่มขึ้นจนเราอาจจะคิดไปว่ามันหน่วงขาแค่นั้นเอง ในกรณีนี้ยังรวมถึงยางฮาร์ฟและยางทูปเลสด้วยครับ
content 25-11-63_201127_1.jpg
content 25-11-63_201127_1.jpg (213.03 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
ผ่านเรื่องของการเติมลมในหน้ายางแต่ละขนาดไปแล้วคราวนี้เรามาพูดถึงในเรื่องของสภาพถนนกันบ้าง ความจริงแล้วค่า p.s.i ของลมยางที่มักจะเขียนไว้ที่แก้มยางนั้นมีความหมายแอบแฝงเอาไว้อยู่ เรามักจะเห็นว่ายางมักจะไม่กำหนดค่า p.s.i มาแค่ค่าเดียวเลยแต่กลับกำหนดมาให้จากค่าหนึ่งไปถึงอีกค่าหนึ่ง เช่น 700x23C 6-10 bar (90-130 p.s.i) ค่า bar ก็เป็นค่าความดันลมเช่นเดียวกับ p.s.i แต่ว่าในประเทศไทยนั้นนิยมใช้ค่า p.s.i มากกว่า จากที่เราให้ตัวเลขไปด้านบนจะสามารถดูได้ดังนี้ 700 คือ ขนาดของล้อจักรยาน 23C คือขนาดหน้ายาง ถ้ารวมกันก็จะหมายความว่ายางที่มีหน้ากว้าง 23 มม. ใช้กับล้อขนาด 700 (ขนาดมาตรฐานล้อจักรยานเสือหมอบ) ในส่วนของค่าจุลมเราสามารถดูได้ตามที่สูบลมเลยจะมีบอกเวลาสูบว่าเราสูบเข้าไปเท่าไหร่ ทำไมเขาถึงเขียนว่า 90-130 p.s.i ก็เพราะว่ามันมีเหตุผลหนึ่งที่สามารถเลือกเติมน้อยๆ ได้
content 25-11-63_201127_2.jpg
content 25-11-63_201127_2.jpg (229.89 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
เช่นเติมตามสภาพเส้นทางหากเติมลมสูงสุดตามค่ากำหนดเราจะสังเกตได้ว่ายางจะมีความแข็งและกลมมากมันจะทำให้รถเรามีผิวที่สัมผัสกับถนนน้อยและไปได้ไว แต่ถ้าลมอ่อนก็จะทำให้ผิวสัมผัสกับถนนนั้นเยอะขึ้นจะทำให้รถเราไปช้าและหน่วงขานิดหน่อย ถ้าเติมเกินกว่าค่าที่กำหนดจะทำให้ยางแข็งมากหน้าสัมผัสน้อยลงผลที่ออกมาคือไม่หน่วงแต่แรงสะเทือนจะเยอะกว่าแต่ไม่แนะนำให้เติมลมเกินตามค่า p.s.i ที่กำหนดเพราะจะทำให้ยางแข็งเกินไปและอาจจะเกิดการแตกหรือเนื้อยางฉีกขาดได้ง่าย
content 25-11-63_201127_3.jpg
content 25-11-63_201127_3.jpg (204.76 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
เรามาดูกันที่ตัวอย่างแรกคือสภาพเส้นทางที่ถนนมีหินกรวดหรือทางที่มีผิวขรุขระ การที่ค่า p.s.i บอกให้เราเติมลมยางที่ 90-130 p.s.i นั้นหมายความว่าเราไม่ต้องเติมเต็ม 130 p.s.i ก็ได้ แต่เราสามารถเลือกเติมลมที่ 90 p.s.i ให้ความแข็งของยางนั้นลดลงและหน้าสัมผัสเพิ่มขึ้นก็จะช่วยในเรื่องของการลดแรงสั่นสะเทือนที่จะส่งผ่านตะเกียบมาถึงแขนและไหล่ได้ กลับกันหากเราลองเติมลมอยู่ที่ 130 p.s.i ตามกำหนด หรือมากกว่านั้นยางของเราจะแข็ง ก็จริงอยู่ที่เราอาจจะใช้ยางหน้ากว้างแต่ความแข็งของยางก็ทำให้แรงสั่นสะเทือนส่งผ่านมาอยู่ดี เพราะฉะนั้นการเลือกเติมลมยางก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยลดปัญหาในการปั่นจักรยานได้นั่นเอง
content 25-11-63_201127_4.jpg
content 25-11-63_201127_4.jpg (227.59 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
อีกกรณีหนึ่งคือเราต้องการจะทำความเร็วและพื้นผิวของเส้นทางที่เราปั่นเป็นทางเรียบหรือปั่นจักรยานลู่ เมื่อสภาพถนนเรียบ และ เราต้องการปั่นทำความเร็ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเติมลมยางอ่อนๆ เพราะเมื่อลมยางอ่อนๆ เนื้อสัมผัสของหน้ายางจะเยอะขึ้นและทำให้มันมีความหน่วงขาเวลาปั่นมากขึ้น เมื่อต้องการทำความเร็วเราจึงมักจะเติมลมยางให้เต็มตามที่ค่า p.s.i กำหนด เพื่อให้หน้ายางนั้นสัมผัสกับพื้นได้น้อยส่งผลให้แรงเสียดสีของหน้ายางกับพื้นนั้นลดลง ก็จะสามารถปั่นได้เร็วขึ้นและไม่มีอาการหน่วงขาในขณะที่เราปั่นครับ
content 25-11-63_201127_5.jpg
content 25-11-63_201127_5.jpg (205.02 KiB) เข้าดูแล้ว 1255 ครั้ง
ก่อนจะจบคอนเทนต์กันไปเราอยากฝากในเรื่องค่า p.s.i ไว้อีกอย่างหนึ่ง การเติมลมนั้นเป็นเรื่องของความสัมผัสและความรู้สึกที่พี่ๆ แต่ละคนนั้นจะสัมผัสได้และชื่นชอบแบบไหน บางคนอาจจะรู้สึกว่าการเติมลมยางที่ 90 p.s.i มันอาจจะหน่วงขาเกินไปแต่ปั่นสบายจริง เราอาจจะลองเติมลมยางเพิ่มเป็นสัก 100 p.s.i หรือ 120 p.s.i ก็ได้ เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่พี่ๆ นักปั่นนั้นต้องการ ส่วนเรื่องของหน้ายางนั้นก็สามารถเลือกได้ตามที่ชอบแต่อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าถึงหน้ากว้างจะจุลมได้น้อยกว่าหน้าแคบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหน้ากว้างจะปั่นหน่วงขาหรือปั่นแล้วสะเทือนน้อยกว่าแต่อย่างใด เป็นเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ แต่ถ้าหากพูดตามหลักทั่วไปแล้วจะประมาณนี้ครับผม
รูปภาพ
ติดต่อ 092-452-6264
sales@bike-boulevard.com
Line: @bike-boulevard
คลิกเพื่อดู facebook
ตอบกลับ

กลับไปยัง “Bike-Boulevard”