ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
ด่วน!!!! หมดแล้วหมดเลยนะคัฟ
การเลือกซื้อจักรยาน เสือหมอบ/hybrid/touring
เนื่องด้วยจากว่า เดี๋ยวนี้มีจักรยานประเภทล้อ 700c ออกมาให้เลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสือหมอบ ทัวร์ริ่ง หรือ ไฮบริด/คอมมิวเตอร์ การเลือกเฟรมให้เข้ากับลักษณะการขี่ (หรือการอยากขี่) น่าจะทำให้ขี่จักรยานได้สนุกมากยิ่งขึ้น วันนี้เลยมาแนะนำการเลือกรถแบบง่ายๆครับ
1. องศาแบบ Relaxed Position (โน้มตัวแบบ 1 นาฬิกา)
- ท่านั่งแบบนี้ จะเหมาะสำหรับมือใหม่เริ่มหมอบ เพราะท่อคอจะสูง ทำให้ไม่ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเยอะ หลังจะตรงนิดๆ ท่อบนจะลาดลงเล็กน้อย ทำให้ขึ้นรถได้สะดวก ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้กระด้างน้อยกว่าประเภทที่ 2 ข้อเสียคือ จะเกิดแรงต้านลมเยอะกว่าพวกเสือหมอบแบบ traditional/aggressive racing
- ถ้าเป็น Trek ก็เป็น design แบบ H2/H3 fitting | Bianchi คือรถพวก C2C | Felt จะเป็นพวก Z series หรือถ้าเป็น BMC ก็เป็นตระกูล GF ครับ
2. องศารถแข่ง หรือ Aggressive Position
- องศาแบบนี้ รถจะ stiff กว่าแบบแรก (แข็งและกระด้างกว่า) แต่ก็แลกมาด้วยกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นได้ง่าย ลู่ลมมากกว่า เร็วกว่า แต่ก็ก้มเยอะกว่า (พวกมีพุงจะเหนื่อยมากกับการขี่รถแบบนี้) และต้องมีความหยืดยุ่นที่ค่อนข้างสูงครับ
- รถองศาแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นสูงๆของแต่ละยี่ห้อ เช่น H1 geometry ของ Trek หรือ B4P ของ Bianchi ครับ
3. องศารถลู่ หรือ TT (Aero Position)
- คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับรถประเภทนี้ ทำความเร็วได้ง่าย และได้ดีเอามากๆ ลู่ลมแบบสุดๆ แต่ก็ขี่ลำบากกว่า (ไม่ได้ทำมาเพื่อสบาย) ค่อนข้างกระด้าง แข็ง และไม่เหมาะกับการปั่นยาวๆซักเท่าไหร่
- รถในกลุ่มประเภทนี้คือรถ Time Trial/Triathlon ครับ
4. องศารถ hybrid/commuter/touring
- เน้นขี่สบาย ขี่ได้ยาวๆ ไม่ได้เน้นทำความเร็ว แต่เน้นการปั่นเพื่อออกกำลังทั่วๆไปมากกว่า เป็นรถที่เหมาะสำหรับการขี่ในช่วง weekend หรือเดินทางจาก A ไป B หรือกระทั่งทำรถทัวร์ริ่งสำหรับเดินทางไกลๆครับ
- รถแนะนำในกลุ่มนี้ คงเป็น Bianchi Cielo (น่าจะ Roma ด้วย แต่ไม่เคยจำ spec ได้เลย) และก็มี LG Chasse, Fuji Palette หรือรถ touring ทั้งหลายแหล่ะครับ (หรือกระทั่ง Tokyo Bike ก็อยู่กลุ่มนี้เช่นกัน)
