ขอคำปรึกษาการควงบันไดอย่างมีประสิทธิภาพและ Power Meter ครับ

[Mahasanook]

รบกวนขอคำปรึกษาการควงบันไดอย่างมีประสิทธิภาพและ Power Meter ครับ

ที่มา: ผมกำลังคิดจะปรับรูปแบบการควงบันไดของตัวเองครับ โดยได้ศึกษาบทความต่างประเทศบ้าง Youtube บ้าง
ก็มีวิธีต่างๆกันไป บางท่านก็ให้ใช้การแบ่ง Pedal Stroke เป็น 4 ส่วนใน 1 รอบ / บางท่านก็บอกว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน
คือ กด - ลาก - ดึง - ไส รวมไปถึงการควงด้วยรอบขาที่มากกว่า 100 RPM และวิธีการควงด้วยขาข้างเดียว ฯลฯ
ข้อสงสัยของผมที่ขอคำปรึกษาคือ

1.หากมองจานหน้าเป็นหน้าปัทม์นาฬิกา การควงบันไดนั้น เริ่มจากกดเท้าที่ 1 นาฬิกา ไปยัง 5 นาฬิกา
และจาก 5 นาฬิกาลากไปถึง 8 นาฬิกา และจาก 8 นาฬิกา ดึงขา(แทงเข่า) ขึ้นมา ช่วงขึ้นมานี่แหละ
ที่มีการแย้งกันคือ (บทความจากโค้ช และนักกีฬาไตรกีฬาระดับนานาชาติ)

1.1 ตำราที่ 1 ท่านว่าให้แทงเข่าเหวี่ยงข้อเท้าสูงให้เลย 12 นาฬิกาแล้วค่อยกดลงมาที่ 1 นาฬิกา
1.2 ตำราที่ 2 ท่านว่าพอถึง 10 นาฬิกาให้บดเท้าส่งไปยัง 1 นาฬิกาเลยจะได้แรงเยอะๆ

อยากทราบว่าหากไม่มี Power Meter วัดค่า โดยใช้ความรู้สึกล้วนๆ ระยะยาวอย่างไหนจะได้ประสิทธิภาพมากกว่ากัน
และกล้ามเนื้ออ่อนล้าน้อยกว่า

2.หากท่านที่มี Power Meter ขอรบกวนทดลองให้ด้วยครับว่าอย่างไหนจะได้วัตต์มากกว่ากัน เพราะจากความรู้สึกของผม
ว่าน่าจะบดบันไดตั้งแต่ 10 นาฬิกา ไปยัง 1 นาฬิกา แต่ใน Youtube เครื่อง Spin Scan ตอน Fitting ให้เหวี่ยงขาสูงขึ้นเมื่อ
ผ่านศูนย์ตายบนคือ 12 นาฬิกา จะได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าครับ

https://www.youtube.com/watch?v=mmsCezzP-rw

3.Power Meter ตอนนี้มีราคาแพง-ถูกต่างกันไป แลัวของราคาถูกๆ หากไม่มองถึงความแม่นยำมากนัก
สามารถดูค่าแรงบิด และประสิทธิภาพของการควงขาบันได มีตัวไหนที่แนะนำครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้าทุกท่านครับ

[Bowser]

ผมเคยตั้งกระทู้ถามไว้ครับ หลังจากลองใช้โปรแกรมที่มากับ Rotor inpower แต่ยังไม่มีผู้รู้มาตอบเท่าไหร่สงสัยตัว inpower มันเพิ่งออกน่ะครับ

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1285838

ส่วนตัวผมคิดว่ามีอุปกรณ์บอกก็ดีครับ เพราะส่วนตัวก็คิดว่าควงขาได้เเล้วนะ แต่พอวัดผลด้วย power meter กลับเป็นคนละเรื่องกันเลย

[zzzz]

power พอมี Spin Scan ยังไม่มี
แต่ถ้าถามเรื่อง วงในการปั่นจักรยาน
มั่นใจว่า ตอบสิ่งที่ถามได้ในมิติที่ง่ายต่อการเข้าใจและมิติของการใช้งานครับ

ที่ถามยังไม่สามารถอธิบายเป็นตัวหนังสือให้ง่ายต่อการเข้าใจแบบจริงๆได้
เพราะมันซ้อนทับกันอยู่ในหลายตัวแปร...เลยไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ครอบคลุม...
เช่น รอบขานี้ วัตนี้ วงแบบนี้ดี แต่พอวัตสูงขึ้น รอบเดิม วงเดิมกลับไม่เหมาะเสียแล้ว
หากแม้ว่า ทุกอย่างเป็นเช่นเดิม วัตเดิม รอบขาเดิม แต่ขาล้า วงที่ว่าดี มันก็ดันไม่ดีขึ้นมาสะอีก...
เพราะมันไม่มี สิ่งใด อันใด ที่เหมาะกับทุกกาล...

แต่ถ้าลองทำจริง จัดจริง
อธิบายกันแบบวงต่อวง เอาหลักคิดไปเป็นแก่น
ทำแป็บเดียวก็เข้าใจครับ
เพราะมันเป็นเรื่องของมโนล้วนๆที่เห็นผลกันจะๆ.
ยิ่งถ้ามีเครื่อง Spinscan ดูไปด้วย ก็จะยิ่งเร็ว.
กำลังหาซื้ออยู่เหมือนกัน แต่หมด stock
ต้องรอเดือนสิ้นหน้า...



มาเที่ยวบางแสนไหมคับ...