Trialbikes , Biketrial ,Bikestrial ,จักรยานกระโดด , จักรยานไต่หิน , จักรยานผาดโผน ,....
มันเอาไว้ทำอะไร แล้วเล่นยังไง ทุกคำถามมีคำตอบครับ...
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลการเล่น,แหล่งซื้อ,เทคนิคต่างๆ ZHI Bionic (089-843-7655 อาร์ต)
ดูรูปเพิ่มอะไหล่ Trialbikes
ZHI, Echo, Bionic, Neon
กดตรงนี้ >>> https://www.facebook.com/TrialbikeZ
>>>ดูรูปเพิ่ม กดตรงนี้<<<
Review Trialbike NEON WING 20"
*******************************************************************************************
****ต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมเองก็ไม่ใช่โปร....ที่เล่นเก่งกาจ องอาจ สามารถอะไร****
แต่อยากให้เพื่อนๆได้รู้จัก Trialbikes ให้มากขึ้นครับกว่านี้ครับ อยากให้เพื่อนๆสนใจแล้วมาเล่นกันเยอะๆ คงสนุกดี.....
เอาหละมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
***ประวัติความเป็นมาของจักรยาน Trialbikes***
(credit by http://www.Maxrider.com)
(credit by http://en.wikipedia.org/wiki/Mountain_bike_trials)
(credit by http://es.wikipedia.org/wiki/Ot_Pi)
สวัสดีเดือนมิถุนายนช่วงที่ปนกันของอากาศร้อนบ้างฝนบ้างก็ว่ากันไป ฝนมาก็เย็นฉ่ำดับร้อนที่ร้อนกันมานาน
เทคนิคการขับขี่แต่ละสภาพก็ต่างกันไปเช่นกัน ทำให้ได้ทักษะใหม่ๆ กับการขี่ท่ามกลางสายฝน
ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคในการขี่ลุยโคลน เลน หรือ การขี่บนท้องถนนที่เปียกลื่น ที่ต้องใช้ทักษะการทรงตัวเป็นสำคัญ
ทำให้อยากจะพูดถึงการขี่จักรยานประเภทหนึ่งที่เราเรียกกันสั้นๆ ติดปากว่า "จักรยาน ไทร์อัล" ซึ่งการขี่จักยานประเภทนี้
จัดเป็นกีฬาผาดโผนชนิดหนึ่ง ที่ต้องใช้สมาธิสูง และการทรงตัวระดับเทพ เพื่อไม่ให้เท้าสัมผัสกับพื้น จะได้ไม่เปื้อนโคลนยังไงหละ!!
อันที่จริงแล้ว กีฬาชนิดนี้กำเนิดขึ้นโดย คุณ Ot Pi Isern ที่พัฒนามาจาการขับขี่โมโตครอส ชนิด ไทร์อัล ในประเทศเสปน
เนื่องจากคุณพ่อของเขา คือคุณ Derived ที่เป็นแชมป์โลกในการขี่จักรยานยนต์ผาดโผน Trial
จึงให้ลูกชายคือคุณ Ot pi ฝึกจากการขี่จักรยานเพื่อพัฒนาสู่การขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อเรียนรู้เทคนิคพื้นฐาน
การกระโดดขึ้น ลง การทรงตัว การใช้เบรก บนอุปสรรค์ต่างๆ
Video แชมป์โลก Ot Pi Isern ใช้่จักรยาน Montrymoto เขียน:ขอเพิ่มนะครับเท่าที่รู้และที่ผมทราบ ผมว่าชื่อน่าจะกลับกันนะ
เพราะ"Otpi"เขาเป็นเชมป์โลกbiketrialsในระดับตำนานในค่ายMontyอยู่ในยุกแรกของBikestrials
ซึ่งจักยานที่เขาใช้ก็BMXธรรมดานี่เหระแล้วก็ค่อยๆพัฒนาในส่วนของชุดขับเคลื่อนก่อนแล้วก็เรื่องของหลักอานที่มันไม่จำเป็นเลยเอาออกซะอิอิ
เขาไม่ได้เป็นเชม์Mototrialsครับ แต่คุณคุณ "Derived"ผมไม่คุ้นแต่ก็นานแล้วก็น่าจะมีแต่คงไม่ไช่เชมป์โลกMototrialsแน่ๆ
[youtube]j63s_nbpFpg&feature=related[/youtube]
การขี่แบบ Trial ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และแพร่หลายในกลุ่มเพื่อนฝูงของ Derived ซึ่งริเริ่มจัดสร้างอุปสรรค์ใหม่ๆ มาให้ท้าประลองฝีมือ
เทคนิค ท่าทางพิสดารก็ได้ถูกพัฒนาตามกันไป จากเดิม อุปสรรค์เกิดจากการเข้าไปขี่ตามพื้นที่ธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน ขอนไม้
เมื่อแพร่หลายมากขึ้น ด่าน อุปสรรค์ต่างๆได้ถูกดัดแปลงมาสู่เมือง การนำเอา รถยนต์เก่า ลังไม้พัสดุ ราวเหล็ก
วัสดุต่างพื้นผิวย่อมส่งผลต่อการทรงตัว เมื่อออกสู่สายตาสาธารณะชน ผู้คนสนใจมากขึ้น เริ่มบรรจุในกีฬา European Sport
จัดทำตั้งกฎอย่างจริงจัง การกำหนดค่าคะแนนขึ้นอยู่กับความยากของการเลือกอุปสรรค์ หรือจะเป็น ลีลาท่าทาง
เทคนิคการ Tracking Stand คือการหยุดนิ่งบนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง โดยห้ามมิให้เท้าสัมผัสพื้น
ผลที่ตามมาก็คือแบรนด์ต่างๆ เริ่มมีการผลิตรถจักรยาน Trial ออกมาสู่ท้องตลาดมากมาย
ส่วนประกอบสำคัญของจักรยานก็คือ เบรกที่หนึบที่สุด แต่ส่วนใหญ่นักแข่งจะเลือกใช้วีเบรกกัน เนื่องจากมีน้ำหนักเบา
และเบรกมีผลต่อการบังคับรถเป็นอย่างมากเพราะต้องใช้ในการหยุดความเร็วเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นผิวของอุปสรรค์ให้มากที่สุด
และเพื่อการทรงตัวบนสิ่งกีดขวาง Handle Bar ที่กว้างเพื่อการควบคุมล้อหน้า และการดึงรถข้ามอุปสรรค์ เกียร์เป็นเกียร์ Single Speed
เพื่อแรงกระชาก ถ้าใส่ตีนผีแรงกระชากจะถูกลดลงจาสปริง และแรงเหวี่ยงของเจ้าตีนผี เกียร์ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่เป็นเกียร์ต่ำ Low Gearing
แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และรอบขา กำลังขาของแต่ล่ะบุคคล จักรยานประเภทนี้จะไม่มีเบาะเนื่องจากลดส่วนที่กีดขวางการทรงตัว
เลยทำให้รูปทรงจักรยานดูเป็นเอกลักษณ์ และแปลกตา ต่อไปคือเทคนิคที่นักจักรยานทุกประเภททำก็คือการเลือกสรร อุปกรณ์ตกแต่งที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตัวอย่างขนาด 26"
Echo mark Ti II 26"
ZOO!! 2012 26"
Echo Mark II 26"
ตัวอย่างขนาด 24"
ECHO URBAN 24" TR
Echo mark II 24"
SAFA street trial 24 "
ตัวอย่างขนาด 20"
Echo mark Ti II 20"
ZOO!! 2012 20"
Echo Mark II 20"
***กฎกติกาการแข่งขัน***
.......กฎกติกาการแข่งขัน มีอยู่สองลักษณะคือ การแข่งขันในระบบสากล UCI ( Union Cycling International )
สหพันธ์กีฬาจักรยานนานาชาติ เป็นองกรที่จัดการแข่งขันจักรยานทั่วโลกทุกชนิด
มาตรฐานที่สองคือ BIU ( Bike Trial International Union ) เป็นสมาพันธ์จักการแข่งขันของจักรยานประเภท Trial โดยเฉพาะ
แต่สองอย่างนี้มีข้อแตกต่างเรื่องการให้คะแนนและจุดประสงค์ของการจัดการแข่งขัน
........การแข่งขันของชาว Trial ให้นักกีฬาเลือก Section คือตำแหน่งหรืออุปสรรค์สิ่งกีดขวางได้ด้วยตนเอง
ให้ทำการแข่ง 2 รอบใน 10 Sections หรือ 3 รอบใน 7 Sections ผู้ที่ทำแต้มเสียน้อยที่สุด บวกกับลีลาท่าทาง
การเลือกอุปสรรคที่ยาก ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของการขี่ตลอดเส้นทาง ทำคะแนนสูงสุดและคะแนนต่ำสุดออก หาค่ากลาง แหม๋!
คล้ายกับการให้คะแนนนักกีฬากระโดดน้ำเลยแฮะ ก็มันเป็นเกณฑ์การให้กีฬาทุกชนิดที่ออกท่าทางสวยงาม และท่วงท่าสมบูรณ์
.......การ Dabs คือการวางเท้าในส่วนที่ให้พักแต่ก็มีเวลากำหนดถ้าพักเกินเวลาที่กำหนดจะถูกปรับคะแนน 5 แต้มตามกฎของ BIU
ส่วนกฎของ UCI พักเกิน15 วินาที จะโดนปรับ 5 – 10แต้ม เราจะสังเกตได้จากสัญญาณมือของกรรมการ โดยการชี้นิ้วหัวแม่มือขึ้น
แต่ในส่วนนอกเหนือพื้นที่ที่ให้พักจะถูกปรับแต้มทันทีเมื่อเท้าสัมผัสพื้น
.......อีกอย่างหนึ่งที่เป็นกฎของ UCI ห้ามส่วนใดของจักรยานเช่น บันได ขาจาน ตัวถัง ตะเกียบ สัมผัสกับสิ่งกีดขวาง
เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทั้งสมาธิ และพละกำลังเป็นอย่างมาก ส่วน BIU สามารถนำบางส่วนสัมผัสกับอุปสรรค์ได้
เนื่องจากการแข่งขันมีจุดประสงเพื่อพัฒนานักเรียน นักศึกษา เพื่อก้าวสู่ระบบ UCI
***ประเภทการแข่งขัน***
การแบ่งคลาสการแข่งขัน ขึ้นอยู่กับขนาดของวงล้อ มี 3 คลาสด้วยกัน ล้อขนาด 20 นิ้ว 24 นิ้ว แล 26 นิ้ว
ขนาดล้อที่เล็กที่สุดจะขับขี่ง่ายที่สุด แต่สำหรับท่านที่ขี่เสือภูเขาที่ปรับเปลี่ยนวิถีทางมาสนุกกับ Trial ก็คงต้องเป็นเจ้าล้อใหญ่จากความคุ้นเคย
แต่จักรยานประเภทนี้ยังไม่ค่อยมีการจัดการแข่งขันในประเทศไทยแต่มีชาว Trial มากมายในประเทศไทยที่หลงใหลในความท้าทายจาก กีฬาชนิดนี้อยู่
........สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวสองล้อประเภทใดก็ขอให้ท่านสนุกกับสิ่งที่เรากำลังควบมันอยู่ด้วยกำลังของเราเอง