ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

chanchaip
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1837
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 15:17
Tel: 0850550647
team: พระราม 2
Bike: Trex Madone, Specialize Tarmac Pro, Bianchi Nirone 7. Olmo Vintage
ติดต่อ:

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย chanchaip »

เข้ามาเป็นกำลังใจก่อน แล้วกันครับ

จักรยาน ปั่นบ่อยๆ จะช่วยได้มากครับ
อุปกรณ์น้อง gift นั้น เพียงพอแล้วครับ ไม่น่าจะต้องเปลี่ยนอะไร เพิ่มช่วงนี้ ครับ เอาไว้ เก่งๆ กว่านี้ก่อน

เสือหมอบ ตัวเบา สูบลม ได้ถึง 120 Psi ก็สูบ ประมาณ 110 ก็ได้ครับ
เรื่อง รอบขา ก็สำคัญครับ ช่วยได้ มาก มัีกจะมีคนพูดกันบ่อยๆ
ของผมเอง จะ ถนัด อยู่ ประมาณ 85 - 90 รอบ ต่อนาที เกินกว่านั้นมักจะทำได้ไม่ดี
แต่การมี รอบขาสูง จะมีส่วนช่วยพัฒนา ในการปั่น ให้ดี ครับ
ค่อยๆ อ่าน แล้ว ก็ ขยันปั่นด้วยครับ ไม่นาน ก็จะดีขึ้นเองครับ
ปั่นไป เรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ชีวิตมันก็เท่านั้น
Yoshio
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 25
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 16:33
Bike: Giant TCR

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Yoshio »

ผมปั่น Giant TCR3 รถเดิมๆ ความเร็วเฉลี่ย 22Km/H ความเร็วสูงสุด 51Km/H (ได้แค่ 30 วินาที มีรถให้ดูด)
ใช้รอบขาสูงๆหน่อย เอาแบบที่กำลังดีอะครับ

ชุดขับเคลื่อนถ้าเงินเหลือก็อัพไปเลยมันก็ดีขึ้นนิดนึงแน่นอนหละ แต่มันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปหรอ
ของแบบนี้มันอยู่ที่แรงครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Gift
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 783
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:29
team: 347 cycling team
Bike: ......
ตำแหน่ง: หลักสี่, บางกอก

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Gift »

ขอบคุณทุกท่านค่ะ..สาระน่ารู้ น่าอ่านทั้งนั้นเลย..
จากที่บางท่านบอกว่าหาอ่านได้โดยการ search google ก็ลองทำเหมือนกันค่ะ..แต่บางทีไม่ตรงกับที่เราอยากรู้ พออ่านไปอ่านมาแล้วงงค่ะ..เพราะอุปกรณ์บางอย่าง ศัพท์บางคำ เรายังไม่รู้จัก..วันนี้เพิ่งจะรู้ว่าตีนผี คือตรงไหน..แต่กระทู้เก่าๆ ของบอร์ดเก่าก็มีน่าสนใจเยอะนะคะ..อ่านตอนเริ่มปั่นใหม่ กับอ่านตอนผ่านไปแล้ว 2 เดือนนี่ ความรู้สึกแตกต่างกันเลยค่ะ..

พี่ไชยวัฒน์คะ..ตัวเล็กๆอย่างกิฟท์พอจะบังลมให้พี่ไหวมั้ยคะ...ปล. ถ้าน้องปั่นไม่ไหว เนือ่งจากไม่ได้ซ้อม น้องขออนุญาตใช้บริการรถเซอร์วิสนะคะ..เกรงใจรถเค้าที่ต้องมาปิดท้ายกิฟท์ เพราะปั่นทิ้งท้ายเยอะเกินไป..ไม่งั้นเดี๋ยวต้องปล่อยให้รถเซอร์วิสแซงเราไปอีกคะ...เห็นท่าทางน้องไม่ไหวก็ส่งสัญญาณขึ้นรถเซอร์วิสกันโลด!..

ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดเดียวนะคะ..ชุดขับเคลื่อน ตอนนี้คนนิยมค่ายไหนมากกว่ากันคะ..campag หรือ shimano (ไม่แน่ใจว่าถามเยอะเกินไปหรือเปล่า..ถือซะว่ากิฟท์เริ่มจากศูนย์แล้วกันนะคะ..ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ค่ะ..)
แก้ไขล่าสุดโดย Gift เมื่อ 30 ส.ค. 2008, 14:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
กิฟท์
รูปประจำตัวสมาชิก
Gift
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 783
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:29
team: 347 cycling team
Bike: ......
ตำแหน่ง: หลักสี่, บางกอก

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Gift »

ตามที่ทุกท่านแนะนำว่าปั่นซ้อมเยอะๆ แรงจะได้ดีขึ้น..อยากรู้ว่าส่วนใหญ่แล้ว ช่วงปั่นแรกๆ ทำความเร็วกันได้เท่าไหร่คะ..แล้วใช้เวลานานมั้ยกว่าจะทำความเร็วได้เยอะๆ..ส่วนท่านที่ปั่นได้ความเร็ว 40++ นั้น..ซ้อมและปั่นนานแค่ไหนคะถึงจะทำได้..
กิฟท์
รูปประจำตัวสมาชิก
otto55
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 50
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 04:15
team: Freedom
Bike: Scott scale40

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย otto55 »

ไม่รู้ว่าคุณกิ๊ฟมีโอกาสปั่นอาทิตย์ละกี่วัน ถ้าให้ดีได้สัก 3-4 วันต่อวีคก็จะดี แรกๆผมปั่นก็ทำความเร็วเฉลี่ยได้แค่ 20-21.5 กม/ชม ที่ระยะทาง 20 กม (เสือภูเขานะครับ) แต่ปั่นวีคละ 3-4 วัน ตอนนี้ทำได้เกือบ 25 แล้ว แต่หลังๆเพิ่มระยะทางเป็น 30-35 กม ก็ลดลงมาหน่อย แต่ทั้งนั้ทั้งนั้นระยะทางไม่ต้องเน้นก็ได้ครับ แต่ให้ใช้เกียร์หนักๆ สลับกับเกียร์เบาบ้างเวลาหมด เพื่อฝึกกำลังขา ผมว่าถ้าทำได้ประจำ ไม่นานหรอกครับแรงมาแน่ๆ

:P :P :P
ปล. ตอนนี้กำลังเล็งหาหมอบมาเล่นครับ อยากเร็วบ้าง
สังคมจะดีต้องเริ่มที่ตัวเราเอง
รูปประจำตัวสมาชิก
sapONE
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 13:33
Tel: 0909898539
team: KRS
Bike: Specialized

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย sapONE »

ต้องขอบคุณน้องกิฟท์ที่ตั้งคำถามได้โดนใจมาก ผมพลอยได้ความรู้ไปด้วยเลย

สำหรับความคิดผม ผมคิดว่าปั่นรถเดิมๆ หนักๆ ของเราสัก 6 เดือนให้คุ้นชินความรู้สึกนี้ไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยอัพอุปกรณ์ ทีนี้ล่ะเราจะได้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าอุปกรณ์ที่เราอัพไปนั้นคุ้มค่าเพียงใด เพราะถ้าเรารีบอัพบางทีเราอาจยังไม่รู้ถึงความแตกต่างก็ได้ครับ

มีความเห็นแค่นี้ครับ :D :D

สำหรับทริปเบียงคี่พรุ่งนี้อดไปเพราะติดธุระ ขอให้ชาวเบียงคี่สนุกกับการปั่นและไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Anakee99
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1457
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 16:09
Tel: 089-XXXXXXX
Bike: ลืมหวะ555

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Anakee99 »

ขอถามหน่อยครับ ถ้าปั่นซ้อม คนเดียว ความเร็วเท่าไรถึงจะตามกลุ่มทันครับ
>_<"" !!

" ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน " ^_^
giro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3092
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
Tel: 0865040751
team: Team Bike And Body Cycoling
Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
ติดต่อ:

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย giro »

ปั่นคนเดียว 60 กิโล ใช้เวลาประมาณสองขั่วโมงบวกลบนิดหน่อย ตามกลุ่ม A ที่ไม่มีการกระชากเล่นกันรุนแรงได้ แต่ถ้าทางเป็นสลับเนินเขาและมีการกระชากกลุ่มหนี-ไล่กันบ่อยๆ คิดว่าไม่น่าจะรอด เพราะมันจะหนักกว่าที่ซ้อมมาก

ถ้าเอาแบบสบายๆ 60 กิโล ใช้เวลาซักสองชั่วโมงครึ่งสบายๆ ปั่นเล่นกับพลุ่ม B ที่ยืนความเร็ว 25-30 ตลอดไม่แรงกว่านั้น ไม่หลุด ไม่หายแน่นอนครับ ผลัดขึ้นหน้าได้ด้วย

สำหรับ
"แต่ทั้งนั้ทั้งนั้นระยะทางไม่ต้องเน้นก็ได้ครับ แต่ให้ใช้เกียร์หนักๆ"

คำแนะนำจากผู้รู้ส่วนมากแนะนำขัดกันครับ แรกๆให้เน้นรอบขาที่ดีก่อนควบคู่กับการเล่นเวทหรือสร้างความแข็งแกร่งของกลุ้ามเนื้อสอดแทรก ดังนั้นน่าจะกลับกันมากกว่าคือใช้เกียร์ที่สามารถปั่นคงที่ 95-100 รอบต่อนาทีได้ตลอดการซ้อม ไม่มีการเร่งและผ่อนรอบการปั่นเป็นช่วงๆ และซ้อมแบบนี้นานกว่า 1 ชั่้่วโมง ผ่อนคลายร่างกายท่อนบน ทำตัวให้นิ่งแต่ไม่เกร็ง ควงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกระตุ้นหัวใจให้สูง ไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อจนเครียด สลับกับการเวทขา หรือ ปั่นด้วยเกียร์หนักๆรอบขา 50-60 รอบต่อนาที แต่ไม่ยืนระยะนาน เป็นเซทๆแล้วพัก อัตราส่วนการซ้อมไม่เกินหนึ่งในสามส่วนของการซ้อมทั้งหมด

พูดง่ายๆคือ สมมุติปั่นสัปดาห์ละ 3 ชั่้วโมง 2 ชั่้วโมงควรจะเป็นการปั่นเบาๆรอบขาสูงหน่อย และ 1 ชั่วโมงควรเป็นการเล่นเซทความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ทั้งหมดนี้ไม่กระตุ้นหัวใจเกินระบบการเผาผลาญพลังงานแบบแอโรบิค จะได้ผลดีในระยะเบื้องต้น

บางคนที่ร่างกายดี 1 เดือนก็สามารถเรียกความฟิตได้แล้ว ในขณะที่บางคนต้องซ้อมแบบนี้ไป 3 เดือน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี มันแปลว่า การปั่นพื้นฐานแรกสุดนั้น ใช้เวลาปั่นต่อครั้งไม่มาก ไม่หนัก เน้นรอบ เสริมความแข็งแรง ต่อเนื่องมากกว่าโหม พักผ่อนเยอะ และ อดทนใช้เวลานาน เพราะมันจะสร้างทุกอย่างตั้งแต่ระบบแอโรบิคที่ดี หลอดเลือดฝอยตามมัดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ทั้งหลายทั้งปวงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเล่นขั้นต่อไป การกำจัดกรดแล็คติค การเผาผลาญพลังงานแบบอะแนโรบิค และ การระเบิดพลังงานมหาศาลเพื่อสร้างแรงบิดมากๆอย่างรวดเร็ว

อาหารที่เหมาะสมก็รวมทั้งคาร์โบไฮเดรทและโปรตีนอย่างสม่ำเสมอ
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
รูปประจำตัวสมาชิก
Tao_merida
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 18:08
Tel: 0851333926
Bike: Merida sub 5 2008
ตำแหน่ง: นสพ.มติชน

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Tao_merida »

ขอบคุณ "คุณกิฟท์" ที่ตั้งกระทู้โดนใจ
และขอบคุณ "พี่เพื่อนน้อง" ที่ตอบคำถามให้ความรู้ครับผม
รูปภาพ
~:รถไม่แพง แถมแรงไม่มี:~
รูปประจำตัวสมาชิก
Anakee99
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1457
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 16:09
Tel: 089-XXXXXXX
Bike: ลืมหวะ555

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Anakee99 »

ขอบคุณพี่ giro มากครับ

:D :) :oops:
>_<"" !!

" ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน " ^_^
รูปประจำตัวสมาชิก
Gift
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 783
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:29
team: 347 cycling team
Bike: ......
ตำแหน่ง: หลักสี่, บางกอก

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Gift »

มีสาระน่าอ่านทั้งนั้นเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ.. คุณ Giro นอนดึกอย่างนี้ มีแรงมาปั่นทริปเบียงคี่อีก..แรงดีจริงๆ..
พี่ super one เสียดายพี่ไม่ได้ไปเป็นไก่ถูกปิ้งด้วยกัน...(ทริปเบียงคี่ อาทิตย์ที่ 31) ร้อนจากตัวดำตอนนี้กลายเป็นสีม่วงไปเลย.. :lol:
กิฟท์
ก้อย
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 5493
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 22:29
Tel: 0909094825/0896896722
team: K-45
Bike: เสือหมอบtrek madone /mtb ritchey/fix fuji/touring darkrock
ตำแหน่ง: ทรงกลด สงขกุล 1141ม.7 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ10270
ติดต่อ:

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย ก้อย »

ขอคุยตามคำถาม แต่ก่อนผมให้คะแนนล้ออันดับแรก รองมาก็เฟรม ล่าสุดวันนี้ เพิ่งถึงบางอ้อจากการประกอบรถใหม่เฟรมใช้ได้ค่อนข้างดี ล้อปานกลาง อะไหล่เกือบต่ำสุด(ประหยัดงบ) ปรากฎว่า ปั่นไม่ออกเลยครับโดยเฉพาะจานหน้าใช้แบบ3ใบรุ่นtiagra หนักแบบควงไม่ออก ต้องออกแนวกระทืบ สรุปว่า ตามจุดหมุนเช่นเฟืองหลัง และจานหน้าก็เกี่ยวด้วยอย่างมาก แม้topspeed จะทำได้ใกล้เคียงอะไหล่ดีๆ แต่อัตราเร่งลดลง และเสียแรงอย่างมาก ไปล่ะครับ
อยู่ไปone one
รูปประจำตัวสมาชิก
Gift
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 783
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:29
team: 347 cycling team
Bike: ......
ตำแหน่ง: หลักสี่, บางกอก

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Gift »

พี่ก้อยคะ..ขอบคุณค่ะ..
กิฟท์ต้องขอโทษที ไม่แน่ใจว่ากิฟท์ตีความหมายที่พี่ก้อยแนะนำถูกหรือเปล่า..
พี่ก้อยหมายถึงเฟรมนี่มีความสำคัญอันดับท้ายๆหรือเปล่าคะ..แล้วชุดขับเคลื่อนน่าจะใช้ของดีๆ จะช่วยได้เยอะ...
อ่านของพี่ก้อยแล้วน่าสนใจค่ะ..เพราะมีประสบการณ์ตรง..หากตีความหมายผิดขออภัยค่ะ...

แล้วส่วนตัวพี่ก้อย ชอบ campag หรือ shimano มากกว่ากันคะ..แล้วชอบแบบ 3 จาน หรือ 2 จาน มากกว่ากันคะ..
กิฟท์
รูปประจำตัวสมาชิก
Gift
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 783
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:29
team: 347 cycling team
Bike: ......
ตำแหน่ง: หลักสี่, บางกอก

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย Gift »

travota เขียน:ไม่รู้ว่าคุณกิ๊ฟมีโอกาสปั่นอาทิตย์ละกี่วัน ถ้าให้ดีได้สัก 3-4 วันต่อวีคก็จะดี แรกๆผมปั่นก็ทำความเร็วเฉลี่ยได้แค่ 20-21.5 กม/ชม ที่ระยะทาง 20 กม (เสือภูเขานะครับ) แต่ปั่นวีคละ 3-4 วัน ตอนนี้ทำได้เกือบ 25 แล้ว แต่หลังๆเพิ่มระยะทางเป็น 30-35 กม ก็ลดลงมาหน่อย แต่ทั้งนั้ทั้งนั้นระยะทางไม่ต้องเน้นก็ได้ครับ แต่ให้ใช้เกียร์หนักๆ สลับกับเกียร์เบาบ้างเวลาหมด เพื่อฝึกกำลังขา ผมว่าถ้าทำได้ประจำ ไม่นานหรอกครับแรงมาแน่ๆ

:P :P :P
ปล. ตอนนี้กำลังเล็งหาหมอบมาเล่นครับ อยากเร็วบ้าง
อัยหยา..เพิ่งเห็นข้อความนี้..ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ...
เรื่องเสือหมอบ....หาหมอบมาปั่นเลยค่ะ..ยุยงส่งเสริมค่ะ..กิฟท์ติดใจมากเลยตอนนี้..เหตุผลคือ มันสวย เท่ห์ ดี..เรื่องอื่นๆ ไม่แน่ใจค่ะว่าดีกว่าภูเขาอย่างไร..
:lol:
เรื่องปั่นซ้อม เมื่อก่อน..ประมาณเดือนที่แล้วก็ซ้อมเยอะอยู่ค่ะ..แต่โดนเหงื่อบวกแดดมาก สิวขึ้นเยอะ..เลยหาเทรนเนอร์มาปั่นแทน..ช่วงแรกๆก็ปั่นได้ประมาณชั่วโมงกว่า..ถัดมาก็เหลือ ชั่วโมงเดียว..ถัดมาอีกก็เหลือครึ่งชั่วโมง..ล่าสุดเหลือ 15 นาที ค่ะ...(พัฒนาการในการปั่นดีมากๆ.. :oops: )
กิฟท์
ก้อย
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 5493
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 22:29
Tel: 0909094825/0896896722
team: K-45
Bike: เสือหมอบtrek madone /mtb ritchey/fix fuji/touring darkrock
ตำแหน่ง: ทรงกลด สงขกุล 1141ม.7 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ10270
ติดต่อ:

Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?

โพสต์ โดย ก้อย »

ไม่เคยใช้campagครับ ถ้าเงินเหลือก็อยากลอง ส่วนที่ว่าอันดับแรกก็คือล้อ รองมาก็เฟรม หมายถึงถ้าจะอัพหรือเปลี่ยน สุดท้ายอะไหล่ครับ ในส่วนอะไหล่ผมให้ เฟืองหลังเบาไว้ก่อน ตามมาด้วยจานหน้า+กะโหลก และโซ่ ส่วนมือเกียร+ตีนผีให้เรื่องความแม่นยำมากกว่าอัตราเร่ง และการคุมความเร็ว อันนี้มาทีหลังสุด ได้ของดีก็ดีแต่ไม่ทำให้ปั่นได้เร็วขึ้น อันนี้ในกรณีที่อัพป็นชิ้นๆนะครับ ส่วนล้อนั้นเบามาทีหลังความลื่นไหล เฟรมผมชอบความนิ่งๆ แล้วปลายไหลๆ มากกว่าพุ่งตอนต้นแต่ต้องเติมตลอด (ส่วนใหญ่ก็เป็นอาการนี้ในฟูลคาร์บอน เพิ่งรู้เหมือนกัน) ส่วนใหญ่ก็ประสบการ์ณตรงลองผิดลองถูก อย่าเพิ่งถือเป็นบรรทัดฐานครับ อ่านประกอบกับหลายๆท่าน แต่สรุปแล้วก็ต้องซ้อมถึงๆนะแหละครับ มีคนรู้จักหลายคนที่ปั่นเสือภูเขาแล้วผมไล่ไม่ทันก็หลายท่านครับ ไปจริงๆแล้ว
อยู่ไปone one
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”