ผมก็มือใหม่นะครับ ดูภายนอกอาจเหมือนจะแข็งแรง แต่จริงๆแล้ว Y_Y
เรื่องเล่า
เช้าวันหนึ่งผมปั่นจักรยานเล่น ที่สนามกีฬา ปั่นรอบสนามราชมังคลา ปั่นๆๆๆอยู่ก็เจอลุงคนนึง อายุน่าจะ50กว่าได้แล้วขี่เสือหมอบ ผมก็กะว่าจะปั่นตามลุงไปเรื่อยๆ แต่ที่ไหนได้ครับลุงปั่นเอาๆ ผมได้แค่ 3รอบก็เริ่มตะคริวจะกินแล้ว สุดท้ายลุงก็น๊อกรอบผม ผมก็ถามลุงว่า *** กี่รอบแล้วครับ***
เสียงลุงตะโกนบอก *************21 รอบแล้ว**************
( คิดในใจ ต้องสู้ๆ ) ด้วยความมุ่งมั่นของผม
จากวันนั้นถึงวันนี้ ผมได้เจอลุงอีก คราวนี้ลุงปั่นมากับชายหนุ่มคนนึงซึ่งปั่นเร็วมากๆ (เขาปั่นมาก่อนหน้าผมแล้วหลายรอบแล้วแหละ) พอผมมาถึงผมก็พยามปั่นๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ตามทั้งสองคนให้ได้ใกล้ที่สุดให้ๆได้ โดยในใจคิดไว้ว่าอย่าง่น้อยๆ
ก็อย่าน๊อกรอบผมก็แล้วกัน และแล้ว จากความที่ผมมุ่งมั่นและตั้งใจก็ ก็ ก็ โดนลุงและชายหนุ่มคนนั้นน๊อกรอบอีกจนได้ แฮะๆๆ (อ้าว นึกว่าจะทำสำเร็จ ที่ไหนได้ เหมือนเดิมนี่หว่า ) อิอิ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ของทุกอย่างมันต้องใช้เวลาครับ ^_^V
(รู้สึกว่าอ่านแล้วจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนะเนี่ย)
ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
- R0TWEILER
- ขาประจำ
- โพสต์: 132
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 00:38
- team: ยังไม่มีกลุ่มเลยก๊าบ
- Bike: GIANT MCM CARBON
- Gift
- ขาประจำ
- โพสต์: 783
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:29
- team: 347 cycling team
- Bike: ......
- ตำแหน่ง: หลักสี่, บางกอก
Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?
คุณ Rotweiler เขียนข้อความได้น่าอ่าน..อ่านสนุกดีค่ะ..
กิฟท์
- Ya_Mong
- ขาประจำ
- โพสต์: 533
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:36
- team: St@dium I3ike
- Bike: RedI3ike & CarryMe.
- ตำแหน่ง: BaNgKok
Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?
สงสัยจังครับชายหนุ่มคนนั้นขี่เมอริด้ามั้ย ถ้าใช่สงสัยจะเพื่อนผม แบบนี้ต้องปั่นไปเยี่ยมเยือนบ้างแล้ว
S T A D I U M_I3 I K E
You'll never ride alone.
You'll never ride alone.
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3183
- ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 16:51
- Tel: 0947963336
- team: kNightBIKE
- Bike: oltre, cervelo s5, super6 evo, canyon ult slx
- ติดต่อ:
Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?
ซื้อคันแรก ที่ร้านถามว่าเอาจักรยานไปทำอะไร
ก็บอกไปว่าออกกำลังกาย
เค้าเลยจัดภูเขาให้ บอกว่าถ้าอยากปั่นถนนก็เปลี่ยนยางเอา ใช้ออกกำลังกายพอ ไม่ใช่แข่งขันอะไร
ผ่านไป2เดือน
ถอยหมอบมาคัน ไปลง100km แต่ไม่จบนะครับ ได้แค่60km หลังๆต้องฝืนเอาภูเขามาปั่นมั่ง ไม่งั้นฝุ่นเกาะ
ก็บอกไปว่าออกกำลังกาย
เค้าเลยจัดภูเขาให้ บอกว่าถ้าอยากปั่นถนนก็เปลี่ยนยางเอา ใช้ออกกำลังกายพอ ไม่ใช่แข่งขันอะไร
ผ่านไป2เดือน
ถอยหมอบมาคัน ไปลง100km แต่ไม่จบนะครับ ได้แค่60km หลังๆต้องฝืนเอาภูเขามาปั่นมั่ง ไม่งั้นฝุ่นเกาะ
วัยทำงาน มีแรง มีตังค์ ไม่มีเวลา
-
- สมาชิก
- โพสต์: 1
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2021, 11:20
- Bike: BMC Timemachine TMR02
Re: ส่วนใดของรถที่ทำให้ปั่นแล้วไหลลื่น..ล้อ? ชุดขับเคลื่อน?
ขอบคุณเฮีย giro มากครับgiro เขียน: ↑30 ส.ค. 2008, 22:46 ปั่นคนเดียว 60 กิโล ใช้เวลาประมาณสองขั่วโมงบวกลบนิดหน่อย ตามกลุ่ม A ที่ไม่มีการกระชากเล่นกันรุนแรงได้ แต่ถ้าทางเป็นสลับเนินเขาและมีการกระชากกลุ่มหนี-ไล่กันบ่อยๆ คิดว่าไม่น่าจะรอด เพราะมันจะหนักกว่าที่ซ้อมมาก
ถ้าเอาแบบสบายๆ 60 กิโล ใช้เวลาซักสองชั่วโมงครึ่งสบายๆ ปั่นเล่นกับพลุ่ม B ที่ยืนความเร็ว 25-30 ตลอดไม่แรงกว่านั้น ไม่หลุด ไม่หายแน่นอนครับ ผลัดขึ้นหน้าได้ด้วย
สำหรับ
"แต่ทั้งนั้ทั้งนั้นระยะทางไม่ต้องเน้นก็ได้ครับ แต่ให้ใช้เกียร์หนักๆ"
คำแนะนำจากผู้รู้ส่วนมากแนะนำขัดกันครับ แรกๆให้เน้นรอบขาที่ดีก่อนควบคู่กับการเล่นเวทหรือสร้างความแข็งแกร่งของกลุ้ามเนื้อสอดแทรก ดังนั้นน่าจะกลับกันมากกว่าคือใช้เกียร์ที่สามารถปั่นคงที่ 95-100 รอบต่อนาทีได้ตลอดการซ้อม ไม่มีการเร่งและผ่อนรอบการปั่นเป็นช่วงๆ และซ้อมแบบนี้นานกว่า 1 ชั่้่วโมง ผ่อนคลายร่างกายท่อนบน ทำตัวให้นิ่งแต่ไม่เกร็ง ควงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกระตุ้นหัวใจให้สูง ไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อจนเครียด สลับกับการเวทขา หรือ ปั่นด้วยเกียร์หนักๆรอบขา 50-60 รอบต่อนาที แต่ไม่ยืนระยะนาน เป็นเซทๆแล้วพัก อัตราส่วนการซ้อมไม่เกินหนึ่งในสามส่วนของการซ้อมทั้งหมด
พูดง่ายๆคือ สมมุติปั่นสัปดาห์ละ 3 ชั่้วโมง 2 ชั่้วโมงควรจะเป็นการปั่นเบาๆรอบขาสูงหน่อย และ 1 ชั่วโมงควรเป็นการเล่นเซทความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ทั้งหมดนี้ไม่กระตุ้นหัวใจเกินระบบการเผาผลาญพลังงานแบบแอโรบิค จะได้ผลดีในระยะเบื้องต้น
บางคนที่ร่างกายดี 1 เดือนก็สามารถเรียกความฟิตได้แล้ว ในขณะที่บางคนต้องซ้อมแบบนี้ไป 3 เดือน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี มันแปลว่า การปั่นพื้นฐานแรกสุดนั้น ใช้เวลาปั่นต่อครั้งไม่มาก ไม่หนัก เน้นรอบ เสริมความแข็งแรง ต่อเนื่องมากกว่าโหม พักผ่อนเยอะ และ อดทนใช้เวลานาน เพราะมันจะสร้างทุกอย่างตั้งแต่ระบบแอโรบิคที่ดี หลอดเลือดฝอยตามมัดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ทั้งหลายทั้งปวงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเล่นขั้นต่อไป การกำจัดกรดแล็คติค การเผาผลาญพลังงานแบบอะแนโรบิค และ การระเบิดพลังงานมหาศาลเพื่อสร้างแรงบิดมากๆอย่างรวดเร็ว
อาหารที่เหมาะสมก็รวมทั้งคาร์โบไฮเดรทและโปรตีนอย่างสม่ำเสมอ