เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

giro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3092
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
Tel: 0865040751
team: Team Bike And Body Cycoling
Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
ติดต่อ:

เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย giro »

"โปร" ดูจะเป็นคำที่ทรงคุณค่าและเปี่ยมไปด้วยพลัง เมื่อถูกนำมาขึ้นก่อนชื่อของใครสักคนหนึ่งแสดงถึงความเป็นมืออาชีพบนเส้นทางต่างๆ แต่สำหรับโลกของกีฬาจักรยานในบ้านเรา คำว่า"โปร" เป็นอะไรที่มีความหมายแอบแฝงมามากมาย สำหรับใครอีกหลายๆคน คำๆนี้คือความฝันและหนทางสู่จุดหมายที่ตั้งเอาไว้ และวันนี้ผมได้มีโอกาสได้นั่งสนทนากับ "โปร" คนหนึ่งซึ่งผมเชื่อว่าแทบจะไม่มีใครรู้จักเค้าเลยด้วยซ้ำ แต่จากที่คุยแล้ว คำว่า "โปร" ของเค้า มีนัยสำคัญที่มากไปกว่าฐานะทางสังคมหรือสิ่งเชิดชูจากคนรอบข้าง เพราะเค้าได้ตามล่าความฝัน จนได้เป็นโปรอย่างแท้จริง
รูปภาพ
อากิโนริ ยามามูระ
หนุ่มญี่ปุ่นอายุ 21 ปี จากเมืองนางาซากิ เมืองที่ไม่มีทีมจักรยานอาชีพ ไม่มีแม้แต่โรงเรียนมัธยมที่ส่งทีมจักรยานแข่งในรายการจักรยานระดับนักเรียนของญี่ปุ่น เริ่มต้นขี่จักรยานด้วยความสนุกสนาน บนท้องถนนแห่งนางาซากิ หนึ่งในเมืองที่มีเนินเขามากที่สุดเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น ใครจะไปคิดล่ะครับว่าตอนนี้ เค้าไปไล่ล่าความฝันอยู่ที่ถนนของยุโรป ผ่านเทือกเขาสำคัญต่างๆร่วมกับนักจักรยานอาชีพของจริงที่ยุโรปได้สำเร็จ พร้อมทั้งยังพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีมอย่างเต็มภาคภูมิ เส้นทางของเค้าเป็นอย่างไร โลกของจักรยานอาชีพหรือโปรของแท้แตกต่างจากที่เราคิดมากแค่ไหน อะไรคือข้อคิดจากมุมมองของโปรตัวจริง และคำแนะนำอันทรงคุณค่าของหนุ่มคนนี้ในฐานะของนักจักรยานคนหนึ่งมีอะไรบ้าง ลองอ่านถอดความบทสัมภษณ์ดูได้เลยครับ
เรื่อง-ภาพ Thaimtb.com

รูปภาพ
คุณอากิโนริเริ่มขี่จักรยานได้ยอ่างไรครับ?
ผมมาจากครอบครัวที่ชอบปั่นจักรยานอยู๋แล้ว พ่อของผมก็ปั่นจักรยาน ในนางาซากิไม่ค่อยมีค่นขี่จักรยานกันมากนัก เราไม่มีทีมอาชีพ ไม่มีทีมโรงเรียน ไม่มีทีมสมัครเล่นจริงจังของนางาซากิ แต่ผมกับครอบครัวขี่จักรยานกันกับคุณพ่อ ซึ่งซื้อจักรยานให้ผมตั้งแต่เด็ก และเริ่มแข่งจักรยานเสือหมอบจริงจังตั้งแต่เข้ามัธยมปลาย ผมเป็นเด็กมัธยมปลายที่คลั่งไคล้จักรยาน อ่านเว็บไซท์จักรยาน อ่านหนังสือจักรยาน ดูการแข่งจักรยาน และค้นหาวิธีการฝึกซ้อม พัฒนาด้วยตนเองมาตลอด จนได้มีโอกาสร่วมกับทีมสมัครเล่นของเมืองใกล้ๆ และเริ่มต้นแข่งจักรยานในระดับสูงขึ้นเรื่อยๆเป็นต้นมา จนถึงระดับชิงแชมป์ญี่ปุ่นในระดับยุวชน แต่เนื่องจากโรงเรียนของผมไม่มีทีมจัรกยาน ผมจึงไม่มีโอกาสได้ร่วมในรายการอินเตอร์ไฮฯ ซึ่งเป็นที่สุดของการแข่งจักรยานระดับมัธยมของญี่ปุ่น เหมือนกับตูร์เดอฟร็องซ์ของเด็กๆก็ว่าได้ เป็นที่น่าเสียดายมาก เพราะการจะเข้าร่วมอินเตอร์ไฮฯ ต้องสังกัดในทีมโรงเรียน ที่สังกัดในสมาพันธ์จักรยานยุวชนระดับมัธยมปลายและผ่านการคัดเลือกแล้วเท่านั้นจึงจะมีสิทธิร่วม น่าเสียดายนะ (หัวเราะ) แต่ก็ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจมากขึ้นที่จะก้าวขึ้นไปให้เทียบเท่ากับนักปั่นรุ่นเดียวกันที่มีชื่อเสียงให้ได้



คุณอากิโนริฝันอยากเป็นนักจักรยานอาชีพตั้งแต่นั้นเลยหรือเปล่าครับ?
ผมชอบจักรยานมากและสนุกที่ได้แข่งจักรยาน ในญี่ปุ่นมีทีมจักรยานอาชีพ แต่ผมอยากเป็นนักจักรยานอาชีพที่ไปถึงความฝันได้สำเร็จ ผมฝันอยากแข่งในยุโรป ผมเริ่มได้สปอนเซอร์ตั้งแต่อยู่ระดับมัธนมปลาย เมื่อผมชนะรายการแข่งในระดับยุวชน ก็ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์จักรยาน และเริ่มได้รายได้จากเงินสปอนเซอร์ที่เข้ามา และเริ่มคิดว่าผมสามารถเป็นนักจักรยานอาชีพได้จริงๆ และเริ่มที่จะวางแผนไปสู่เส้นทางที่ต้องการให้ได้ เมื่อจบมัธยมปลาย ก็เริ่มลงมือทันที


รูปภาพ
คุณอากิโนริไปเป็นโรปที่ยุโรปได้อย่างไร คุณเข้าร่วมโปรทีมของญี่ปุ่นมาก่อนมั้ย?
ผมไม่เคยเป็นโปรในญี่ปุ่นหรือเอเชียเลย (หัวเราะ) ที่ญี่ปุ่นมีทีมจักรยานอาชีพ ทีมใหญ่ๆอย่างทีมอุเคียว(UKYO Zenrin) ซึ่งทุกคนแข็งแรงมาก แต่ผมตัดสินใจลองไปยุโรปหลังจากได้สปอนเซอร์มาก้อนหนึ่ง เพื่อย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศส ประเทศที่เหมือนศูนย์กลางแห่งกีฬาจักรยาน ผมไปอยู่ที่นั่น ลงแข่งและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แข่งในรายการสมัครเล่นต่างๆ เริ่มมีเพื่อนนักจักรยานรุ่นเดียวกัน เริ่มรู้จักกับคนมากขึ้น และในที่สุด ผมก็ได้ย้ายไปอยู่ที่สาธารณะรัฐเช็คหลังจากอยู่ฝรั่งเศสได้ไม่กี่เดือน เพราะเพื่อนผมชวนไป ผมไปอยู่บ้านเพื่อน (หัวเราะ) และเข้าไปร่วมทดสอบทางกายภาพและผ่านการทดสอบ จนมีโอกาสได้เข้าไปรู้จักกับทีมอาชีพระดับคอนติเน็นตัล(ดิวิชั่นสาม)ของเช็ค จนในที่สุด ผมก็ได้สัญญาเป็นนักแข่งอาชีพกับทีมในเช็คฯนี่เอง



ครั้งแรกที่ได้เซ็นต์สัญญาเป็นโปร คุณอากิโนริรู้สึกอย่างไรครับ
ผมตื่นเต้นมาก (หัวเราะ) ทางทีมให้เอกสารสัญญามา ผมตั้งใจอ่านมันอย่างละเอียด แต่ใช้เวลานานมากเพราะเป็นภาษาเช็คฯ(หัวเรา) ผมต้องค่อยๆใช้โทรศัพท์แปลไปทีละนิดจนครบยี่สิบกว่าหน้า แล้วเซ็นต์สัญญา 1 ปีกับทีม นักจักรยานอาชีพส่วนมากจะได้รับสัญญาปีต่อปี นอกจากดาราดังๆหรือทีมใหญ่ๆถึงจะได้รับสัญญา 2-3 ปี แต่เพียงแค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้ว เพราะในเวลาไม่นาน ผมก็ได้เป็นนักจักรยานอาชีพอย่างที่ฝัน แม้จะเป็นทีมระดับเล็กและไม่เคยรู้จักมาก่อน


รูปภาพ
คุณอยู่ในเช็คด้วยค่าจ้างการเป็นนักปั่นเท่านั้นเลยหรือ?
ใช่ครับ ผมมีเพื่อนที่ดีมากๆในเช็คฯ เค้ามีพี่ชายอยู่ในทีมอิติกซ์-ควิกเสต็ป เค้าช่วยผมจนได้รับสัญญา ผมได้รับเงินสปอนเซอร์จากญี่ปุ่นพอจะอยู่ได้แค่ 1 ปี หลังจากนั้นผมต้องอยู่ด้วยตนเอง ด้วยค่าแรงที่ได้จากการเป็นของนักจักรยานอาชีพเท่านั้น



อะไรคือความประทับใจแรกของการเป็นโปร?
ผมได้รับสัญญากับทีม พอเดือนธันวาคม ผมได้รับจักรยานจากทีม ได้ชุดทีม อุปกรณ์ต่างๆ กล่องใหญ่มากๆ (หัวเราะ) มีเสื้อยืด รองเท้า ถุงเท้า ซึ่งผมต้องใส่ตลอดในการปั่นจักรยาน ผมได้รับจักรยานมาซ้อม 1 คัน และมีจักรยานสำหรับแข่งอีก 1 คัน พร้อมทั้งจักรยานสำรองและไทม์ไทรอัลอีกอย่างละคัน รวมแล้ว 4 คัน แต่ทุกคันไม่ใช่ของผม เป็นสมบัติของทีม ต้องส่งคืนให้ทีมเมื่อสิ้นสุดสัญญา การเป็นนักจักรยานอาชีพ แปลว่าคุณไม่มีจักรยานของตัวเองซักคัน (หัวเราะ) ผมนำจักรยานไปด้วยตอนย้ายจากญี่ปุ่นไปฝรั่งเศส แต่มันพังไปเรียบร้อยแล้ว (หัวเราะ)


รูปภาพ
งานแข่งแรกในฐานะนักแข่งอาชีพเป็นอย่างไรครับ
เป็นงานแข่งอาชีพเล็กๆภายในประเทศของเช็คฯ มีเฉพาะทีมในระดับคอนติเน็นตัลร่วมเท่านั้น ไม่เฉพาะทีมจากเช็คฯ แต่มีทีมจากเยอรมัน ออสเตรีย และประเทศต่างๆ ผมค่อนข้างประหม่ามาก เพราะผมเป็นคนญี่ปุ่นคนแรกที่ได้เ)็นนักปั่นอาชีพในเช็คฯ และลงแข่งกับทีมอาชีพในรายการนี้ มันเป็นการแข่งแรกที่รอบๆตัวมีแต่โปรทั้งสิ้น มีแต่ชาวยุโรป ไม่มีทีมสมัครเล่น ไม่มีชาวเอเชียเลยแม้แต่คนเดียว ผมกลัวนิดหน่อย แต่ก็ตื่นเต้นมากๆ การแข่งครั้งนั้นมันเลวร้ายมากๆสำหรับผม เช็คฯเป็นประเทศที่หนาวมาก วันนั้นอุณหภูมิ 0 องศาเกือบตลอดการแข่ง ผมแทบจะขยับขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ



หน้าที่ของคุณในทีมคืออะไรครับ? เป็นนักไต่เขา สปรินท์เตอร์ โดเมสทีค หรือไทม์ไทรอัล
แน่นอนครับผมเป็นโดเมสทีค(ผู้ช่วย) ผมชอบไต่เขามาก แต่เมื่อไปยุโรปแม้แต่สปรินท์เตอร์ก็ไต่เขาได้ไม่ได้แย่ไปกว่าผม ทำให้ผมไม่มีความเด่นในด้านความสามารถพิเศษ หน้าที่หลักของผมในทีมคือเป็นผู้ช่วยทุกอย่าง แต่เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือน ในการแข่งหนึ่ง ผมเป็นเพียงคนเดียวของทีมที่เข้าเส้นชัยจบการแข่งได้ในเวลาที่กำหนดไว้ ทำให้ทีมมีความเชื่อมั่นในตัวผมมาก การแข่งครั้งต่อมาผมจึงได้เป็นลีดเดอร์หรือกัปตันทีม ผมตื่นเต้นและกดดันมาก เพราะทุกคนในทีมช่วยผมอย่างเต็มที่ ทำทุกอย่างเพื่อผม ผมต้องทำให้ได้ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้สวยงามมากนัก ผมจบอันดับที่ยี่สิบกว่าๆของการแข่ง และเป็นแรงผลักดันให้ผมต้องพัฒนาต่อไปให้ได้


รูปภาพ
ในหลายๆรายการคุณคงได้มีโอกาสแข่งกับทีมในระดับที่สูงกว่าด้วยใช่มั้ยครับ?
ใช่ครับ หลายๆรายการเราต้องลงแข่งกับทีมระดับโปรคอนติเน็นตัล(ดิวิชั่นสอง) และเวิลด์ทัวร์ทีม(ดิวิชั่นหนึ่ง) ทีมระดับสูงสุดทีมแรกที่ผมเจอในการแข่งคือทีมอีติกซ์-ควิกเสต็ป เพราะทีมอีติกซ์ฯมีความสัมพันธ์อันดีมากกับเช็คฯ พวกเค้ามีทีมสำรองสำหรับปั้นนักแข่งหน้าใหม่ฐานอยู๋ในเช็คฯ ครั้งนั้นผมได้ลงแข่งร่วมกับ เซ็ดเดอริค สตีบาร์ และปีเตอร์ ซากาน ซึ่งโด่งดังมาก ร่วมกับนักแข่งระดับแถวหน้าของเช็คฯก็เข้าร่วมด้วย ผมต้องเซ็นต์ชื่อบนกระดานลงทะเบียน ที่มีลายเซ็นต์ของนักแข่งระดับโลก ผมเซ็นต์ลายเซ็นต์ผมเป็นภาษาญี่ปุ่น (หัวเราะ) การแข่งครั้งนั้นพวกเค้าแข็งแรงมาก เหมือนสัตว์ประหลาดจากอีกโลก(หัวเราะ) ทีมระดับเวิลด์ทัวร์อยู๋ข้างหน้าตลอดเวลา ความเร็วสูงมาก พวกเราซึ่งเป็นทีมระดับคอนติเน็นตัลทำอะไรพวกเค้าแทบไม่ได้เลย กลายเป็นเหมือนเด็กๆเมื่อเทียบกับเค้า ซากาน กับสตีบาร์ แค่สองคน บนทางราบ แต่พวกเราทีมคอนติเน็นตัล 11 คนช่วยกันไล่พวกเค้าแต่ก็ไม่สำเร็จ (หัวเราะ)



ระดับของทีมดิวิชั่นสาม เทียบกับดิวิชั่นสูงกว่าต่างกันขนาดนั้นเลยหรือครับ?
นักแข่งดังๆพวกเค้ามีพรสวรรค์มาก แต่ผมคิดว่าครึ่งๆของนักแข่งระดับเวิลด์ทัวร์ ก็มีความแข็งแรงพอๆกับนักแข่งคอนติเน็นตัลแถวหน้าๆ หรือแปลว่าโปรระดับดิวิชั่นสามแถวหน้าๆจริงๆก็ไม่ได้แตกต่างจากระดับมาตรฐานของระดับดิวิชั่นสูงสุด เพื่อนร่วมทีมผมในปีที่แล้วสามคน ปีนี้ก็ย้ายไปอยู๋กับทีมดิวิชั่นสอง และได้ลงแข่งในรายการระดับโลกหลายๆรายการ ปีนี้ก็น่าจะได้มีโอกาสลงในแกรนด์ทัวร์ด้วย


รูปภาพ
คุณอยู่ในเช็คฯนานเท่าไหร่และย้ายไปออสเตรียได้ยอ่างไรครับ?
ผมอยู่กับทีมแช็คฯและอยู่ในเช็คฯประมาณหนึ่งปี เมื่อหมดสัญญา ผมย้ายมาร่วมกับทีมโวเรลเบิร์กในออสเตรียม (จนปัจจุบัน) เรารู้จักกันจากรายการแข่งต่างๆที่พบกัน ทางทีมสนใจในตัวผมเนื่องจากทีมมีสปอนเซอร์รายหนึ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่นและคิดว่าผมน่าจะมีความสามารถพอที่จะปั่นกับทีมได้ ผมจึงย้ายมา ในกีฬาจักรยานส่วนมากเราติดต่อกับทีมต่างๆโดยตรง ยกเว้นนักแข่งระดับดาราดังๆจะมีตัวแทนในการทำสัญญากับทีมใหญ่ๆ แต่ส่วนมากเป็นเรื่องเรียบง่ายที่รู้จักพูดคุยทาบทามกันเมื่อสัญญาจะหมด ก็สามารถย้ายทีมได้ โวเรลเบิร์กเป็นทีมคอนตินเน็นตัลที่ใหญ่กว่าทีมในเช็คฯ ผมจึงไม่ลังเลที่จะย้ายไปออสเตรีย การที่มีผมอยู่ในทีม ช่วยให้ทีมสามารถได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ของญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้นด้วย (หัวเราะ)



คุณต้องลงแข่งบ่อยแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีครับ บางช่วงผมไม่มีแข่งตลอดทั้งเดือนเพราะตารางแข่งทางทีมเป็นคนจัดการว่าใครจะลงในรายการไหน ทำหน้าที่อะไร บางเดือนผมแข่งบ่อยมาก ช่วงที่ถี่ที่สุดสัปดาห์นึงผมต้องแข่งประมาณ 3 รายการติดต่อกันตลอดเดือน แต่ตลอดทั้งปีผมลงแข่งประมาณ 40-50 รายการ ซึ่งถือว่าปกติสำหรับนักจักรยานอาชีพ บางคนอาจมากหรือน้อยกว่านี้ ดาราดังๆบางคนลงแข่งน้อยกว่านี้ ส่วนบางคนแข่งเยอะกว่านี้มาก ร่างกายของแต่ละคนไม่เมหือนกัน หน้าที่และความสามารถในทีมก็แตกต่างกันไปด้วย รายการสำคัญของเราคือทัวร์ออฟออสเตรีย เป็นรายการระดับ 2.HC ประกอบด้วยทีมระดับสูงสุดครึ่งหนึ่ง และทีมระดับดิวิชั่นสองและสามรวมกันอีกครึ่งหนึ่ง เป็นรายการที่สำคัญมากของทีม


รูปภาพ[/img][/img]
เป้าหมายต่อไปของคุณคืออะไร?
ผมรับรู้ได้ถึงระดับความต่างของผมกับเพื่อนร่วมทีมยังแตกต่างกัน เพื่อให้เป็นไปอย่างเป็นขั้นตอน ผมตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาตนเองให้อยู๋ในระดับเดียวกันกับทีมให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่าผมอยากได้สัญญากับทีมระดับสูงสุดเป็นความฝัน แต่ก็ยังห่างไกลอย่างที่รู้สึกได้ ดังนั้นในตอนนี้ก็ตั้งเป้าหมายของการเป็นนักแข่งแนวหน้าของทีมให้ได้ ลบช่องว่างของความแข็งแรงและทักษะให้ได้ก่อน



คุณเป็นชาวญี่ปุ่น แล้วคุณมีความฝันในการติดทีมชาติหรือเป็นแชมป์ญี่ปุ่นหรือไม่?
ผมไม่ค่อยสนใจนะ (หัวเราะ) น่าแปลกใจที่ญี่ปุ่นเป็นเมืองที่ธุรกิจจักรยานแข็งแรงมาก มีชิมาโน่ แต่จักรยานและกีฬาต่างๆได้รับการสนับสนุนไม่มากเท่าที่คิด มีทีมอาชีพแต่ก็ได้รับเงินและความสนใจน้อยกว่า สำหรับการเป็นแชมป์ของญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแม้ว่าผมจะได้เป็นนักแข่งอาชีพ ยูกิย่า อาราชิโร่ แชมป์ญี่ปุ่นที่ตอนนี้เป็นโปรในทีมระดับโปรคอนติเน็นตัลเองก็แข็งแรงมากๆ ขยันซ้อมมากๆ และมีพรสวรรค์ ผมเคยซ้อมร่วมกับเค้าในประเทศไทย เค้าแข็งแรงมาก และเนื่องจากผมแข่งและอยู่ที่ยุโรปมากกว่า หากผมไปแข่งชิงแชมป์ญี่ปุ่น ผมต้องลงแข่งคนเดียว ในขณะที่คนอื่นๆ มีเพื่อน มีการช่วยเหลือกัน โอกาสของผมก็จะน้อยมาก ดังนั้นผมจึงมุ่งความสนใจอยู่ที่การพัฒนาตัวเองให้อยู๋ในมาตรฐานของการแข่งในยุโรปให้ได้เต็มที่มากกว่า



อะไรคือความแตกต่างระหว่างโปรทีมในเอเชียและโปรทีมในยุโรป?
ผมว่าสิ่งที่แตกต่างมากที่สุดคือจำนวนการแข่งขันของทีม ทีมในเอเชียและการแข่งต่างๆกระจัดกระายกันทั้งหมด ในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และประเทศไทย แต่ในยุโรปการแข่งอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆกัน เดินทางด้วยรถของทีม ไม่ต้องบินไปแข่งที่ต่างๆแบบทีมเอเชีย ทำให้งบประมาณไม่เสียไปกับการเดินทาง ผมมีเพื่อนนักแข่งในทีมอาชีพเอเชียหลายคน พวกเค้าหลายๆคนแข็งแรงกว่าผมด้วยซ้ำ แต่พวกเค้ามีการแข่งน้อยกว่ามาก ครั้งหนึ่งทีมไอซาน มาแข่งที่ฝรั่งเศสและผมก็ไปแข่งรายการเดียวกัน พวกเค้าแข็งแรงและแกร่งกว่าผม แต่เมื่อแข่งเสร็จ พวกเค้ากลับไปญี่ปุ่นและไม่มีตารางแข่งเว้นว่างไปอีกเดือนเต็มๆ มันส่งผลต่อการสร้างแรงจูงใจ และการพัฒนาตัวเอง ในยุโรปเราแข่งบ่อย พัฒนาได้เร็ว และมีเป้าหมายที่ชัดเจนต้องมุ่งมั่นตลอดเวลา อีกประการที่แตกต่างคือแฟนๆจักรยานที่มาชม ในเอเชียอาจแทบไม่มีคนดูการแข่งจักรยานเลย แต่ในยุโรปมีคนติดตามชมการแข่งเยอะมาก ในฝรั่งเศสครั้งหนึ่งมีแฟนๆเดินมาหาผมและขอให้ผมเซ็นต์บนรูปภาพให้เค้า ผมตกใจมาก และประหลาดใจมากเช่นกัน แต่นั่นคือสิ่งสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้เราต้องมุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้ได้



ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องของความแข็งแรง คนเอเชียสามารถแข่งในยุโรปได้สินะครับ?
ใช่ครับ มันแน่นอนว่าโปรในเอเชีย แม้กระทั่งนักแข่งสมัครเล่นก็แข็งแรงกว่าผม มีโปรอีกหลายคนในเอเชียที่แข็งแรงกว่าผมมากๆ แต่สิ่งที่ผมได้จากการเป็นโปรในยุโรปคือประสบการณ์ ทักษะ และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมพัฒนาได้เร็วกว่าอยู๋ในเอเชียมาก การแข่งบ่อยๆทำให้เราได้พัฒนา การได้อยู๋ร่วมกับชาวยุโรปที่มีพื้นฐานจักรยานดีกว่าทำให้เราได้ฝึกฝนในสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า และต้องปรับตัวเองให้อยู่ในระดับมืออาชีพให้ได้เต็มภาคภูมิ ได้ลงแข่งในรายการใหญ่ที่เจอกับนักแข่งระดับโลก ทีมใหญ่ๆ ก็สอนให้ผมได้เรียนรู้ ผมเคยแข่งกับโปรเอเชีย ทีมเอเชียที่ไปที่ยุโรป พวกเค้าแข็งแรงกว่าผมเยอะ อายุมากกว่าผม แต่สุดท้ายผมทำผลงานได้ดีกว่า อยู๋ในการแข่งได้ เพราะผมมีประสบการณ์ที่มากกว่า เรียนรู้การแข่งอาชีพมามากกว่า อยู๋ในยุโรป 1 ปี ได้แข่งพอๆกับเป็นโปรในทีมเอชีย 2-3 ปีด้วยซ้ำ และได้เจอกับทีมและนักแข่งที่ระดับสูงกว่า (หัวเราะ)


รูปภาพ
มันยากแค่ไหนครับ การที่จะเป็นคนเอเชียที่จะแข่งในทีมยุโรป?
ในด้านความแข็งแรงมันไม่ยากเลย แต่ในด้านสังคม การปรับตัวมันไม่ง่ายเช่นกัน คุณต้องเริ่มจากการย้ายมาอยู่และลงแข่งในรายการใหญ่ๆของยุโรปที่ให้นักแข่งสมัครเล่นร่วมได้ ต้องปรับตัวกับวัฒณธรรมที่แตกต่าง ยุโรปเป็นที่ๆมีวัฒณธรรมหลากหลายและเราต้องเคารพในบ้านเมืองของเค้า หลายๆคนมาอยู่แล้วปรับตัวไม่ได้ ไม่มีเพื่อน ก็ไม่สามารถอยู่และแสดงความสามารถได้เต็มที่ ผมก็บอกไม่ได้ว่าทำไมผมจึงปรับตัวได้ ด้านภาษาก็เช่นกัน การแข่งจักรยานทุกวันนี้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในเปโลตอง อย่างน้อยต้องสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และถ้าคุณอยู่ในทีมของบางประเทศ คุณก็ต้องพูดภาษาของประเทศนั้นๆได้เช่นกัน เช่นฟูมิยูกิ เบปปุ สามารถพูดฝรั่งเศสได้เพราะเค้าอยู๋กับทีมฝรั่งเศส ยูกิย่า อาราชิโร่ พูดได้หลายภาพษาแต่ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วง นักแข่งเอเชียหลายๆคนไม่ประสบความสำเร็จเพราะการสื่อสารด้วย ผมคิดว่า ผมพยายามที่จะเคารพในวัฒณธรรมของทุกที่ และพยายามคิด และกินอยู่อย่างคนยุโรป เพราะผมเป็นคนต่างถิ่น มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆเช่นการกินอาหาร แต่เรื่องเล็กๆก็เป็นโอกาสสำคัญได้เช่นกัน



ในการแข่งรายการใหญ่ๆของเอเชียเช่นทัวร์ลังกาวี, ชิงไห่เลค นักแข่งโปรทีมของเอเชียพยายามทำผลงานให้เข้าตาทีมยุโรปที่มาร่วมเพื่อให้ได้โอกาสย้ายไปแข่งยุโรป คุณคิดว่ามันเป็นไปได้หรือไม่?
ไม่ง่ายเลยครับ เพราะถ้าคุณไม่ได้ย้ายไปอยู๋ยุโรปจริงๆ และพิสูจน์ได้ว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของวัฒณธรรมนักแข่งจักรยานยุโรป คุณมีโอกาสได้รับความสนใจน้อยมาก นักแข่งเอเชียในทีมยุโรปส่วนมากเริ่มก้าวขึ้นมาเป็นที่ยอมรับได้จริงๆหลังจากย้ายมายุโรปแล้วทั้งสิ้น มันเป็นวิธีทางลัดก็ว่าได้(หัวเราะ) คำแนะนำของผมสำหรับคนที่มีความฝันคือย้ายมาอยู๋ยุโรปครับ แต่ผมเข้าใจว่ามันไม่ง่ายและกดดันมากสำหรับการทำเช่นนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับความกดดันในการออกมาอยู๋แบบนี้ได้ จักรยานมีสัญญาปีต่อปี อนาคตไม่แน่นอน



คุณก้าวออกมาจากญี่ปุ่น มาฝรั่งเศสคุณคิดอย่างไรในตอนนั้น?
ผมมีเงินสนับสนุนมาฝรั่งเศสก้อนหนึ่งอยู่ได้ประมาณหนึ่งปี หากผมไม่ได้รับสัญญาอาชีพก็คงต้องกลับบ้าน ผมจบระดับมัธยมปลาย กลับไปก็คงต้องเรียนหนังสือ หรือไปเป็นโปรกับทีมเอเชีย แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเอาไว้เลย (หัวเราะ) ผมแค่ออกมาทำในสิ่งที่ผมฝันอยากทำหนึ่งปี มันค่อนข้างเสี่ยงเพราะสังคมญี่ปุ่นหากคุณกลับไปแล้วไม่มีการศึกษาที่ดี อายุที่มากขึ้น ก็จะหางานทำได้ยาก ผมอาจเป็นช่างซ่อมจักรยาน แต่ก็ไม่ใช่งานที่ดีนัก (หัวเราะ) ดังนั้นผมต้องพยายามเต็มที่ โชคดีที่ผมได้โอกาสร่วมทีมอาชีพได้เร็ว และเลือกทางเดินจากก้าวเล็กๆค่อยๆไต่ลำดับขึ้นไป จากนี้ก็ต้องพัฒนาและพัฒนาให้ได้อีกเพื่อให้เป็นโปรได้เรื่อยๆ กลับญี่ปุ่นอายุ 23 แต่เรียนไม่จบผมคงหางานทำดีๆไม่ง่าย (หัวเราะ) มันเป็นเหมือนวัฒณธรรมญี่ปุ่น ที่จะออกไปตามความฝัน ค้นหาตัวเองก่อนสัก 1 ปี ไม่ได้คิดอะไรมากกว่าแคค่นั้น


รูปภาพ
รายได้จากการเป็นโปรระดับคอนติเน็นตัล คุณอยู่ได้อย่างสบายหรือไม่?
ออสเตรียเป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าครองชีพสูงของยุโรป ต้องบอกว่าเงินที่ได้จากการเป็นนักปั่นไม่ค่อยพอหรอก ได้รายได้น้อยกว่าเงินเดือนมาตรฐานของการทำงานในออสเตรียด้วยซ้ำ ผมน่าจะหาเงินได้มากกว่านี้หลายเท่าหากทำงานในญี่ปุ่น หรือแม้แต่เป็นโปรในเอเชีย มันเป็นเรื่องยาก ภาษีของที่นี่ก็สูงมาก และผมเป็นชาวต่างชาติอีกด้วย ทำให้ชีวิตการเป็นโปรจักรยานไม่ใช่คนรวย แต่เป็นคนจน (หัวเราะ) แต่ผมมันไม่สำคัญ ผมอยากแข่งจักรยานามากกว่าเป็นคนรวย ถ้าผมชนะบางรายการ และพัฒนาตัวเองให้มีบทบาทมากขึ้นก็จะได้รับค่าจ้างมากขึ้น หรือหากผมสามารถได้สปอนเซอร์จากญี่ปุ่นมาให้ผม หรือให้ทีม ผมก็จะได้รับค่าจ้างมากเช่นกัน ผมว่าสำหรับนักปั่นคนไทย รุ่นใหม่ๆ น่าจะมีโอกาสสูงกว่าที่จะร่วมทีมยุโรปได้ จักรยานในไทยพัฒนาและโตเร็วมากๆ น่าจะมีโอกาสได้รับการสนับสนุนให้มาแข่งและแสดงฝีมือในยุโรปได้ แต่ต้องแข็งแรงแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมเรียนภาษาอังกฤา เพราะคุณจะพูดกับเค้าไม่รู็เรื่อง



จบภาคแรก อย่าเพิ่งไปไหนนะครับ เพราะตอนหน้าเราจะมาคุยกับเค้าเรื่องของการฝึกซ้อมกันบ้าง อากิโนริ ยามามูระคนนี้ น้ำหนักประมาณ 60 กก. มี FTP ประมาณ 350 วัตต์ คิดแล้วเกือบๆ 6.0 วัตต์ต่อกิโลกรัม นี่เป็นค่ายวัตต์ที่ไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ? เค้าฝึกอย่างไร ซ้อมแบบไหน และมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างไรเพื่อเป็นนักแข่งโปรแท้ๆที่ต่อยอดไปข้างหน้าได้เพราะอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น ที่สำคัญคือ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เป็นนักแข่งที่ดีได้ รวมถึงเรื่องของการใช้วัตต์ที่เหมาะสมก็เช่นกัน

ขอขอบคุณความเอื้อเฟื้อจากเวโลแฟ็บบริค และสามารถติดตามกิจกรรมต่างๆเกี่ยวกับคุณอากิโนริ ยามามูระ ซึ่งจะมาฝึกซ้อมและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 1 เดือน พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆได้ทาง
https://www.facebook.com/Velofabric
ซึ่งเดี๋ยวจะมีการออกปั่นจักรยานร่วมกับนักปั่นชาวไทย ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์จากโปรหนุ่มคนนี้แบบใกล้ชิดถึงเนื้อต้องตัว และพลาดไม่ได้กับการ Live ถ่ายทอดสดการซ้อมของเค้าในแต่ละวัน ซึ่งวันพุธหน้า ผมจะหอบจักรยาน ไปร่วมปั่นคอ์สของโปรคนนี้ครับว่าเค้าซ้อมอะไรบ้าง อย่างไร และจะนำความทรมานบันเทิงมาเล่าสู่กันฟังแบบสดๆบน Facebook ด้วย ติดตามได้เร็วๆนี้แน่นอน

พบกันกับตอนต่อไปครับ
รูปภาพ[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 794981.jpg[/homeimg]
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
narm_me
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 47
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:03
Tel: 0958101313
team: -
Bike: BLUE DRAGON
ตำแหน่ง: พนัสนิคม

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย narm_me »

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ ชอบมากๆเลย
รออ่านบทความต่อไปครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
kuraenai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 180
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ธ.ค. 2012, 13:27
Tel: 0876760470
Bike: Bianchi Impulso,Bianchi Sempre Pro,Neilpryde ALIZE,
ตำแหน่ง: มหาชัย
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย kuraenai »

ชอบมากๆขอบคุณจริง ๆ ครับ
พูดคุยเรื่องจักรยาน เส้นทางปั่น วิธีการฝึกซ้อมได้นะฮะ
Follow My Instragram @papsipapsi
Follow My Strava Follow My Strava Papsi Papsi
รูปประจำตัวสมาชิก
zefer111
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1217
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 23:32
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย zefer111 »

เกือบๆ 6watt/kg. ขึ้นเขายังกับติดมอเตอร์แน่ๆเลย

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ ติดตามชมตอนต่อไป
Endurance & Durable !!!~~
aobbyx
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 540
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:41
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย aobbyx »

ชอบครับ อ่านเพลินเลย คนญี่ปุ่นนี่เค้าถ่อมตนจริงๆ
โอนไว ส่งไว บริการประทับใจ วางใจผม :lol:
Jackoto
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2009, 19:48
Tel: +66825156392
team: Platong Cycling Club by Operator กากๆ
Bike: ไอ้ม้าเยอรมันดำๆ ไฟฟ้า แรงควาย
ตำแหน่ง: ทะเลมีคลื่นเป็นส่วนมากกก บนฝั่งนานๆได้อยู่ซักที
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย Jackoto »

ติดตามๆ
Line ID: jackoto
แรงไม่มี รถดีไว้ก่อน
สูงสุดสู่สามัญ สิ่งที่ดีที่สุดอาจจะไม่เหมาะสมที่สุด
มีปัญหาโทรมาไม่ติด PM มาก้อได้
โดดเดี่ยว เดียวดาย
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 313
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 23:22
team: ทีมเขี้ยวตัน-นวนคร
Bike: merida scultura 400
ตำแหน่ง: แถวตลาดไท
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย โดดเดี่ยว เดียวดาย »

ตามครับ
สองล้อพอเพียง อิๆ
เณรแอร์
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2798
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 01:57
team: โรงพยาบาลสกลนคร
Bike: MOSSO
ตำแหน่ง: ร.พ.สกลนคร ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร 47000
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย เณรแอร์ »

:idea:
sompukaaa
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2015, 00:39
Tel: 0614084552
Bike: Madone 5.9
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย sompukaaa »

อ่านแล้ว หึกเหิมเลย ต้องขยันให้มากขึ้นละเรา
ความพยายามอยู่ที่นั่น ความสำเร็จอยู่ที่ไหน? :o
รูปประจำตัวสมาชิก
daen
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2011, 16:34
Tel: 0892764464
team: ชมรมจักรยาน จ.หนองบัวลำภู
Bike: เสือลุ่มภู

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย daen »

อ่านแล้วประทับใจ อยากได้จักรยานใหม่เลย 555
รูปประจำตัวสมาชิก
novemberman
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มี.ค. 2016, 09:10
Tel: -
team: -
Bike: Axman Team C1 Road Bike

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย novemberman »

ดีมากๆครับ อ่านแล้วได้สัมผัสถึงวิถีการเป็นนักแข่งในยุโรปจริงๆ
รูปประจำตัวสมาชิก
Permkiat
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 506
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2014, 13:40
ตำแหน่ง: กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

Re: เรื่องเล่าจากปากโปร ตอนที่ 1 ความฝัน เส้นทาง และก้าวเดินจากเด็กหนุ่มที่มีฝันสู่สัญญาโปรทีมในยุโรป

โพสต์ โดย Permkiat »

สู้ต่อไป ...ทาเคชิ
มุ่งมั่น ฝึกซ้อม อัพของ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”