นักปั่น...ยี้ ตอนที่ 2 หัวลากน่า...ยี้
โพสต์: 25 ธ.ค. 2015, 18:07
นักปั่น...ยี้
ตอนที่ 2 หัวลากน่า...ยี้
ตอนที่แล้วเราคุยกันเรื่องพฤติกรรมน่าร้องยี้ของนักปั่นที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนนักปั่นทั้งภาระและความเหนื่อยโดยไม่จำเป็น ไปจนความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเสียหายหลายแสนเจ็บเนื้อเจ็บตัว ในฐานะของผู้ตาม เมื่อลองมองเลยมาที่หัวแถวกันบ้าง "หัวลาก" หรือผู้นำกลุ่มที่ส่วนมากมักจะเป็นขาแรง อย่างน้อยก็แรงมากกว่าเพื่อนที่ตาม ดูแล้วไม่น่าจะมีคนร้องยี้ แต่ลองอ่านบทความนี้ดูครับ แล้วจะรู้ว่า ถ้าไปนำลากเพื่อนแบบไม่ดี ไม่รู้เรื่อง ไม่คิดหน้าคิดหลัง อาจกลายเป็น"หัวลากยี้"ไปได้
1.ไม่ลาก...ยี้
เมื่อคนแรกอยากพักสลับเปลี่ยนมา คนที่สองแทนที่จะทำหน้าที่นำลาก กลับเบี่ยงออกลงมาด้วยเลย เป็นเหตุให้คนที่สามต้องงงว่าถึงคิวตัวเองแล้วรึ?? หรือบางคนอาศัยความหนาของหน้า ไม่ลากไม่ลง ฟรีขาเอาดื้อๆ ใครอยากขึ้นแซงมาเลย ... แบบนี้ร้องยี้กันสัน่น เพราะมันส่งผลกับความลื่นไหลของกลุ่มไปด้วย
ดังนั้น!.....ไม่ประสงค์จะขึ้นนำ ไม่ลาก อย่าเอาตัวเองไปอยู๋หัวแถว ถ้าอยากสบาย ไปอยู๋ท้ายๆแถวโน่นเลย หรือถ้าไม่อยากอยู่ท้ายเวลาเห็นคนหน้าเค้าลงมาพัก เปิดระยะรอเค้าไว้เลย ให้เค้าเข้ามาพักหน้าคุณ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะเป็นที่รู้กันว่าคุณไม่ลาก ดีกว่าไปจ่อรอจนถึงคิวแล้วทำเสียจังหวะ....ยี้
2.ทุ่มหมดใจ...ยี้
กลุ่มกำลังเดินหน้ามาด้วยความเร็ว 35 กม./ชมท. ถึงคิดของนายกระทาชายนักปั่นขึ้นนำบ้าง เมื่อเพื่อนคนแรกเบี่ยงออกและถึงคิวของตนเองก็ก้มหน้าก้มตาทุ่มเทพลังอัดลากหมายจะช่วยเพื่อนเต็มที่โดยลืมดูไปว่าความเร็วพุ่งไป 42 แล้ว ... ความซวยตกไปอยู๋ที่เพื่อนเค้าที่เพิ่งลากก่อนนั่นแหละ ตอนนี้หลุดไปอยู่ไหนไม่รู้ มันเหนื่อยอยู๋แล้วเล่นเร่งขึ้นไปเอาดื้อๆแบบนี้ แถวบ้านเรียกจะสะบัดกันใช่มั้ย
ดังนั้น!.....เมื่อต้องขึ้นไปลาก ทำความเร็วให้คงที่กับคนก่อนให้ได้ก่อน ถ้าแรงดีแรงเหลือ ลากนานๆก็ได้ไม่มีใครว่า แต่ถ้ากลุ่มหรือสถานการณ์มันต้องการเร่งเช่นกำลังร่วมใจกันไล่ตามและคุณอยากเร่งความเร็วให้ตามทันไวๆ ค่อยๆเพิ่มความเร็วแบบนิ่งๆขึ้นไป อย่าไปอัดพรวดๆตั้งแต่แรก เดี๋ยวคนจะร้อง ...ยี้ั
3.หมดคาหัว...ยี้
การร่วมกันเสียสละลงแรงช่วยกันนำนั้นเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แถมเป็นเสน่ห์ของกีฬาจักรยานอีกด้วย แต่การทุ่มกำลังจนหมด สุดขีดแล้วระเบิดตัวเองไปโดยไม่บอกไม่กล่าว คนตามมาอีกเป็นพรวนจะเสียก้นเอาได้ง่ายๆ หัวลากแบบนี้มักจะลากอย่างเต็มที่จนตัวเองหมดแรงแล้วฟรีขาเอาดื้อๆ กะว่าคนที่สองคงขึ้นมาแทนตัวเอง ในความเป็นจริงคนที่สองเดาใจคุณพี่ไม่ออกหรอกนะครับ กว่าจะรู้ว่าพี่ฟรีเพราะหมดความเร็วก็หล่นลงมา เป็นงานของคนที่สองต้องตั้งขึ่้นไปใหม่อีก ดีไม่ดีคนที่สองไม่รู้เรื่องรู้ราว เสยก้นกันล้มตั้งแต่หัวขบวน
ดังนั้น!.....จะลากก็ประมาณตัวเอง ดูความเร็ว ความเหนื่อย ถ้ารู้ตัวเองว่าคงไหวแค่ 3 นาทีแน่ อย่าไปจนหมด 3 นาทีแล้วค่อยออก เหลือแรงเอาไว้อีกสักหน่อย ค่อยๆเบี่ยงออก ส่งสัญญาณบอกคนหลัง กะให้แรงไปหมดเมื่อเข้าต่อแถวใหม่พอดีดีกว่า กลุ่มจะได้ต่อเนื่อง ไปแบบลื่นๆ ไม่คอยรู้สึก ...ยี้
4.ไม่พูดไม่จา...ยี้
พูดจาในที่นี้หมายถึงการสื่อสาร ส่งสัญญาณบอกกัน หัวลากประเภทใบ้กิน ไม่บอกอะไรเพื่อนเลยสักอย่าง มีหลุมก็ไม่พูด รถขวางก็ไม่บอก จะเบี่ยงออกซ้ายออกขวาก็ไปดื้อๆ เหมือนข้าขี่คนเดียว เอ็งมาเกาะก้นข้าเอง น้ำ ทราบ แก้ว หลุม ไม่บอก เป็นหน้าที่ของคนตามที่ต้องคอยส่องและตอบสนองการเปลี่ยนทิศทางของหัวลากเอาเอง แบบนี้ยี้แน่
ดังนั้น!.....หมั่นสื่อสารกับคนตามมากๆ สื่อสารเกินเอาไว้ก่อนดีกว่าขาด บอกให้หมด รถสวน รถมาซ้าย รถมาขวา เผื่อคนจะแซงจะขึ้น หัวลากที่ดีน่ารักบอกกระทั่งข้างหน้าเราจะเลี้ยวไปซ้ายหรือขวา บอกว่าจะชลอความเร็ว และเหลียวมามองหลังเมื่อออกจากโค้งเพื่อให้ทุกคนไปด้วยกัน คอยเตือนเพื่อนถึงสภาพเส้นทาง นี่คือหัวลากชั้นดี แรงดีไม่ดีไม่รู้ แต่รับรองว่าไม่มีใครมา ...ยี้
การเป็นหัวลากที่ดีนอกจากเรี่ยวแรงและการเสียสละ หมายถึงความรับผิดชอบและนึกตลอดเวลาว่ามีเพื่อนตามมาเสมอ การทำความเร็วหใ้คงที่ การสลับเปลี่ยนที่ปลอดภัยและต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญของการปั่นไปด้วยกันเป็นกลุ่มที่ปลอดภัย สิ่งต่างๆเหล่านี้ นอกจากได้มาเพราะการฝึกซ้อม ยังต้องอาศัยความสนใจ ใฝ่รู้ เรียนรู้ และช่างสังเกตุรุ่นพี่คนอื่นๆด้วย
ไม่ว่าจะเป็นขาแรง คนเก่งระดับไหน เชื่อได้เลยว่าทุกคนเคยทำตัวน่ายี้มาแล้วทั้งนั้น ทั้งตามและลาก ใครอ่านมาจนหมดแล้ว ลองทบทวนและหลีเกเลี่ยงพฤติกรรมน่ายี้เหล่านี้ เพื่อความสุข สนุก ปลอดภัยของเพื่อนๆนักปั่นทุกคน ลองคิดดูดีๆว่าหากตัดพฤติกรรมน่ายี้เหล่านี้ออกไปจนหมด เราจะขี่จักรยานกันอย่างเป็นสุขขนาดไหน? ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียวที่เราจะไม่รู้ แต่เมื่อได้รู้ต้องหมั่นระลึกถึง อย่าปล่อยให้ทุกอย่างไปตามร่างกายเมื่อเราเหนื่อยมากๆ พฤติกรรม นสัยติดตัวมักจะแสดงออกมาโดยลืมนึกถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ
ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ...
อยากรู้ต้องได้รู้ ไม่อยากรู้จะได้รู้[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 517982.jpg[/homeimg]
ตอนที่ 2 หัวลากน่า...ยี้
ตอนที่แล้วเราคุยกันเรื่องพฤติกรรมน่าร้องยี้ของนักปั่นที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนนักปั่นทั้งภาระและความเหนื่อยโดยไม่จำเป็น ไปจนความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเสียหายหลายแสนเจ็บเนื้อเจ็บตัว ในฐานะของผู้ตาม เมื่อลองมองเลยมาที่หัวแถวกันบ้าง "หัวลาก" หรือผู้นำกลุ่มที่ส่วนมากมักจะเป็นขาแรง อย่างน้อยก็แรงมากกว่าเพื่อนที่ตาม ดูแล้วไม่น่าจะมีคนร้องยี้ แต่ลองอ่านบทความนี้ดูครับ แล้วจะรู้ว่า ถ้าไปนำลากเพื่อนแบบไม่ดี ไม่รู้เรื่อง ไม่คิดหน้าคิดหลัง อาจกลายเป็น"หัวลากยี้"ไปได้
1.ไม่ลาก...ยี้
เมื่อคนแรกอยากพักสลับเปลี่ยนมา คนที่สองแทนที่จะทำหน้าที่นำลาก กลับเบี่ยงออกลงมาด้วยเลย เป็นเหตุให้คนที่สามต้องงงว่าถึงคิวตัวเองแล้วรึ?? หรือบางคนอาศัยความหนาของหน้า ไม่ลากไม่ลง ฟรีขาเอาดื้อๆ ใครอยากขึ้นแซงมาเลย ... แบบนี้ร้องยี้กันสัน่น เพราะมันส่งผลกับความลื่นไหลของกลุ่มไปด้วย
ดังนั้น!.....ไม่ประสงค์จะขึ้นนำ ไม่ลาก อย่าเอาตัวเองไปอยู๋หัวแถว ถ้าอยากสบาย ไปอยู๋ท้ายๆแถวโน่นเลย หรือถ้าไม่อยากอยู่ท้ายเวลาเห็นคนหน้าเค้าลงมาพัก เปิดระยะรอเค้าไว้เลย ให้เค้าเข้ามาพักหน้าคุณ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะเป็นที่รู้กันว่าคุณไม่ลาก ดีกว่าไปจ่อรอจนถึงคิวแล้วทำเสียจังหวะ....ยี้
2.ทุ่มหมดใจ...ยี้
กลุ่มกำลังเดินหน้ามาด้วยความเร็ว 35 กม./ชมท. ถึงคิดของนายกระทาชายนักปั่นขึ้นนำบ้าง เมื่อเพื่อนคนแรกเบี่ยงออกและถึงคิวของตนเองก็ก้มหน้าก้มตาทุ่มเทพลังอัดลากหมายจะช่วยเพื่อนเต็มที่โดยลืมดูไปว่าความเร็วพุ่งไป 42 แล้ว ... ความซวยตกไปอยู๋ที่เพื่อนเค้าที่เพิ่งลากก่อนนั่นแหละ ตอนนี้หลุดไปอยู่ไหนไม่รู้ มันเหนื่อยอยู๋แล้วเล่นเร่งขึ้นไปเอาดื้อๆแบบนี้ แถวบ้านเรียกจะสะบัดกันใช่มั้ย
ดังนั้น!.....เมื่อต้องขึ้นไปลาก ทำความเร็วให้คงที่กับคนก่อนให้ได้ก่อน ถ้าแรงดีแรงเหลือ ลากนานๆก็ได้ไม่มีใครว่า แต่ถ้ากลุ่มหรือสถานการณ์มันต้องการเร่งเช่นกำลังร่วมใจกันไล่ตามและคุณอยากเร่งความเร็วให้ตามทันไวๆ ค่อยๆเพิ่มความเร็วแบบนิ่งๆขึ้นไป อย่าไปอัดพรวดๆตั้งแต่แรก เดี๋ยวคนจะร้อง ...ยี้ั
3.หมดคาหัว...ยี้
การร่วมกันเสียสละลงแรงช่วยกันนำนั้นเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แถมเป็นเสน่ห์ของกีฬาจักรยานอีกด้วย แต่การทุ่มกำลังจนหมด สุดขีดแล้วระเบิดตัวเองไปโดยไม่บอกไม่กล่าว คนตามมาอีกเป็นพรวนจะเสียก้นเอาได้ง่ายๆ หัวลากแบบนี้มักจะลากอย่างเต็มที่จนตัวเองหมดแรงแล้วฟรีขาเอาดื้อๆ กะว่าคนที่สองคงขึ้นมาแทนตัวเอง ในความเป็นจริงคนที่สองเดาใจคุณพี่ไม่ออกหรอกนะครับ กว่าจะรู้ว่าพี่ฟรีเพราะหมดความเร็วก็หล่นลงมา เป็นงานของคนที่สองต้องตั้งขึ่้นไปใหม่อีก ดีไม่ดีคนที่สองไม่รู้เรื่องรู้ราว เสยก้นกันล้มตั้งแต่หัวขบวน
ดังนั้น!.....จะลากก็ประมาณตัวเอง ดูความเร็ว ความเหนื่อย ถ้ารู้ตัวเองว่าคงไหวแค่ 3 นาทีแน่ อย่าไปจนหมด 3 นาทีแล้วค่อยออก เหลือแรงเอาไว้อีกสักหน่อย ค่อยๆเบี่ยงออก ส่งสัญญาณบอกคนหลัง กะให้แรงไปหมดเมื่อเข้าต่อแถวใหม่พอดีดีกว่า กลุ่มจะได้ต่อเนื่อง ไปแบบลื่นๆ ไม่คอยรู้สึก ...ยี้
4.ไม่พูดไม่จา...ยี้
พูดจาในที่นี้หมายถึงการสื่อสาร ส่งสัญญาณบอกกัน หัวลากประเภทใบ้กิน ไม่บอกอะไรเพื่อนเลยสักอย่าง มีหลุมก็ไม่พูด รถขวางก็ไม่บอก จะเบี่ยงออกซ้ายออกขวาก็ไปดื้อๆ เหมือนข้าขี่คนเดียว เอ็งมาเกาะก้นข้าเอง น้ำ ทราบ แก้ว หลุม ไม่บอก เป็นหน้าที่ของคนตามที่ต้องคอยส่องและตอบสนองการเปลี่ยนทิศทางของหัวลากเอาเอง แบบนี้ยี้แน่
ดังนั้น!.....หมั่นสื่อสารกับคนตามมากๆ สื่อสารเกินเอาไว้ก่อนดีกว่าขาด บอกให้หมด รถสวน รถมาซ้าย รถมาขวา เผื่อคนจะแซงจะขึ้น หัวลากที่ดีน่ารักบอกกระทั่งข้างหน้าเราจะเลี้ยวไปซ้ายหรือขวา บอกว่าจะชลอความเร็ว และเหลียวมามองหลังเมื่อออกจากโค้งเพื่อให้ทุกคนไปด้วยกัน คอยเตือนเพื่อนถึงสภาพเส้นทาง นี่คือหัวลากชั้นดี แรงดีไม่ดีไม่รู้ แต่รับรองว่าไม่มีใครมา ...ยี้
การเป็นหัวลากที่ดีนอกจากเรี่ยวแรงและการเสียสละ หมายถึงความรับผิดชอบและนึกตลอดเวลาว่ามีเพื่อนตามมาเสมอ การทำความเร็วหใ้คงที่ การสลับเปลี่ยนที่ปลอดภัยและต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญของการปั่นไปด้วยกันเป็นกลุ่มที่ปลอดภัย สิ่งต่างๆเหล่านี้ นอกจากได้มาเพราะการฝึกซ้อม ยังต้องอาศัยความสนใจ ใฝ่รู้ เรียนรู้ และช่างสังเกตุรุ่นพี่คนอื่นๆด้วย
ไม่ว่าจะเป็นขาแรง คนเก่งระดับไหน เชื่อได้เลยว่าทุกคนเคยทำตัวน่ายี้มาแล้วทั้งนั้น ทั้งตามและลาก ใครอ่านมาจนหมดแล้ว ลองทบทวนและหลีเกเลี่ยงพฤติกรรมน่ายี้เหล่านี้ เพื่อความสุข สนุก ปลอดภัยของเพื่อนๆนักปั่นทุกคน ลองคิดดูดีๆว่าหากตัดพฤติกรรมน่ายี้เหล่านี้ออกไปจนหมด เราจะขี่จักรยานกันอย่างเป็นสุขขนาดไหน? ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียวที่เราจะไม่รู้ แต่เมื่อได้รู้ต้องหมั่นระลึกถึง อย่าปล่อยให้ทุกอย่างไปตามร่างกายเมื่อเราเหนื่อยมากๆ พฤติกรรม นสัยติดตัวมักจะแสดงออกมาโดยลืมนึกถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ
ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ...
อยากรู้ต้องได้รู้ ไม่อยากรู้จะได้รู้[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 517982.jpg[/homeimg]
