รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
- nbt
- Site Admin
- โพสต์: 2713
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 23:44
- Tel: 0882160166
- team: thaimtb , osk
- Bike: Trek Procaliber, Bianchi OrtheXR2 , cBroadman CX , Canyon Enduro
- ติดต่อ:
รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
[align=center][/align]
[align=center]Giant TCR 2016
Total Race bike / All new design[/align]
สัปดาห์ที่แล้ว ทาง Giant Inc ได้เชิญผมไปร่วมงานเปิดตัว New TCR ร่วมกับสื่อในเอเซีย พร้อมทั้งเยี่ยมชมขบวนการผลิตเฟรมคาร์บอนที่น้อยคนนักจะได้มีโอกาสเข้าชม ได้สัมภารณ์ผู้บริหารและหัวหน้าทีมงานผู้ออกแบบเฟรมตัวนี้ ถึงแง่มุมแนวคิดและคุณสมบัติของคาร์บอนที่เคยสงสัย แนวโน้มตลาดและการพัฒนาอนาคต ได้ความรู้กลับมาเพียบๆ และสุดท้ายได้ทดสอบปั่นอย่างเต็มอิ่มกับเจ้า New TCR ตัวนี้มาแล้วในเส้นทางที่สวยงามอย่าง Sun moon Lake และ WuLing ที่สูงกว่ายอดดอยอินทนน์เสียอีก ได้รู้ซึ้งถึงคุณสมบัติที่ดีของเฟรมนักไต่เขาที่ควรจะเป็นเลยครับ ตามมาดูเจาะลึกรีวิวกันเลยครับ...
[align=center][/align]
[align=center][/align]
งานนี้เป็นการเชิญสื่อจากเอเชียประมาณ 20 คน สังเกตจะมีประเทศชั้นนำอย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลี มากันหลายคน ประเทศอื่นๆไม่เห็น จากไทยมีเราไปคนเดียว ทราบภายหลังว่า ไทยมียอดขายอันดับต้นๆของเอเชียและของโลกเลยล่ะครับ !!!
วีดิโอเปิดตัวเจ้า Giant New TCR กันก่อนเลยครับ
[align=center][/align]
คำแรกที่ทาง Giant พรีเซ็นให้ฟัง เขาบอกก่อนเลยครับ จุดหมายแรกไม่ได้ต้องการทำเฟรมที่เบาที่สุดในตลาด TCR ตัวเดิม อยู่ในตลาดมากว่า 3 ปีแล้ว เมื่อทำการออกแบบ TCR ตัวใหม่นี้ ทางทีมให้ความสำคัญกับหัวใจของการออกแบบที่สร้างสมดุลระหว่าง “น้ำหนักเบา” และ “ความสติฟ” (หรือความแข็งของเฟรม) ที่เหมาะสมที่สุด เพราะจักรยานในโลกนี้ใครๆก็ทำให้เบาได้ หากแต่จะเสียความสติฟจนเกิดเป็นสมรรถนะที่ไม่ดี Giant ไม่สนใจจะทำ ในทางกลับกันใครๆก็สามารถทำจักรยานให้สติฟได้ด้วยการใช้วัสดุเสริมเข้าไปมากๆซึ่งส่งผลให้เกิดเป็นจักรยานที่มีน้ำหนักมากเกินไป
[align=center][/align]
ซึ่งการสร้างจักรยานที่มีความสมดุลย์ของปัจจัยทั้งสองนี้ ต้องได้มาจากการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างชาญฉลาดและการออกแบบด้วยวิศวกรรมชั้นยอด รวมถึงการผลิตที่มีคุณภาพสูง
[align=center][/align]
Giant TCR Advanced SL ปี 2016 สามารถลดน้ำหนักลงไปจากรุ่นปี 2012-2015 (เฟรมตัวเดียวกัน) ได้ถึง 12% คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 181g (แตกต่างกันไปแล้วแต่ไซส์ของเฟรม) ซึ่งที่มาของการลดน้ำหนักลงไปไม่ได้มาจากการลดวัสดุเพื่อรีดน้ำหนัก หากแต่เป็นการออกแบบจุดสำคัญต่างๆใหม่ทั้งหมด สามารถจำแนกได้ดังนี้
[align=center]
[/align]
ทีมงานนักออกแบบของ Giant เลือกใช้ท่อคอแบบเทเปอร์ขนาดพิเศษของ Giant ด้านบนขนาด 1¼ นิ้ว ส่วนด้านล่างมีขนาด 1½ นิ้ว และใช้ทรงท่อที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการรับแรงที่ดี พร้อมทั้งได้เปรียบด้านอากาศพลศาสตร์(แอโร่ไดนามิคส์) ทำให้สามารถลดปริมาณวัสดุที่ใช้ได้แต่มีความแข็งแรงไม่แตกต่างจากทรงปกติ
[align=center]
ลักษณะของท่อคอที่ใช้ stem ใหญ่กว่าปกตืที่เรียกว่า overdrive2[/align]
[align=center]
รูปจากรถทดสอบที่ผมได้ขี่ภายหลัง จะเห็นว่าไม่สามารถติดตั้ง garmin ที่stem ได้เลย[/align]
ออกแบบระบบการเดินสายแบบใหม่
ระบบการเดินสายซ่อนภายในเฟรมเป็นแนวทางการออกแบบเฟรมจักรยานในปัจจุบันนี้ซึ่งส่งผลที่ดีหลายๆด้านกับการใช้งาน ทว่าในการออกแบบ ช่องทางเดินสายต่างๆเหล่านี้ส่งผลกับความแข็งแรงของคาร์บอนที่นำมาประกอบกันเป็นเฟรมจักรยานเป็นอย่างยิ่ง การเลือกตำแหน่งและรูปแบบการร้อยสายที่ดีสามารถลดผลกระทบจากช่องเหล่านี้ได้ TCR 2016 เปลี่ยนตำแหน่งร้อยสายไปเป็นท่อคอฝั่งซ้ายและด้านใต้ท่อนอนหลังท่อคอ ซึ่งไม่ส่งผลใดเลยกับโครงสร้างของเฟรม
[align=center][/align]
สายเบรกหลัง จะสอดในตำแหน่งท่อบน และถ้าเป็นระบบเกียร์ไฟฟ้า Di2 สายไฟจะสอดไปตำแหน่งใต้ท่อบน
[align=center][/align]
มุมมองจากท่อบน สวยงาม เรียวลู่ลมไปด้านหลัง สายเบรกหลังโผล่ในตำแหน่งที่เหมาะสมไม่ต้านลม เพราะมีเฟรมด้านบนช่วยบังลม
[align=center][/align]
เลือกใช้หลักอานแบบเสากระโดงทรงใหม่ (Integrated Seatpost) (เฉพาะรุ่น TCR Advance SL)
หลักอานแบบกระโดงเป็นการออกแบบที่ช่วยลดรอยต่อของหลักอานกับท่อนั่งให้เป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้เกิดความแข็งแรงสูงที่สุด และสามารถลดการใช้คาร์บอนลงได้ ในขณะที่ทั้งการส่งแรงและซับแรงสะเทือนก็ทำได้ดีขึ้นเช่นกัน และหลักอานทรงใหม่ที่เพรียวกว่าเดิม สามารถช่วยลดแรงสะเทือนจากถนนที่มีผลกับผู้ขี่โดยตรงได้ดียิ่งขึ้น แต่หลักอ่านแบบนี้ต้องวัดระยะท่อนั่งให้ใกล้เคียง เพราะถ้าตัดแล้วจะปรับระยะได้ไม่มาก
[align=center][/align]
ประกอบกับทางของหางหลัง (Seatstay) แบบใหม่และการออกแบบเลือกใช้วัสดุพิเศษแตกต่างกันในแต่ละจุด
[align=center][/align]
ระบบส่งกำลังที่เป็นยอด
ไม่เพียงพัฒนาให้มีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม Giant TCR Advanced SL ยังถูกสร้างให้มีการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น มีความสติฟในทุกแนวมากกว่าเดิมและช่วยให้แรงกระทำทุกวัตต์ ที่ส่งลงไปยังเฟรมจักรยานถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความเร็วอย่างเต็มประสิทธิภาพ
[align=center][/align]
จากสไลด์ TCR ของ Giant ที่มีการทดสอบกับเฟรมคู่แข่งสำคัญในตลาด โดยเฟรม TCR จะมีความ Stiff สูงกว่าเฟรมหลายๆเฟรมชั้นนำในตลาด ทั้งที่เบามากๆและ stiff มากๆ จะเห็นว่าเฟรม TCR เป็นรองเพียงเฟรมแบรนด์ที่3 ที่ได้ชื่อว่ามีความ stiff สูงมากกว่าเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีน้ำหนักที่หนักกว่ากันถึง 310g และถ้าทำ TCR ไปเทียบกลับเฟรมที่ได้ชื่อว่าเบามากๆในตลาด จะเห็นว่า TCR จะหนักกว่าเฟรมที่ขึ้นชื่อว่าเบาๆที่สุดในตลาดเพียงขีดเดียว แต่ข้อมูลที่ทางgiant อ้างการทดสอบมา เฟรมที่เบาๆก็จะมีความ stiff ที่ต่ำมาก
ซึ่งการที่เฟรม stiff กว่าแต่ถ้ามีน้ำหนักมากกว่าก็กลับจะทำให้มีความรู้สึกว่าพุ่งได้น้อยลง เมื่อรวมค่าความแข็งต่อน้ำหนัก(stiffness-to-weight ratio) เฟรม TCR ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเป็นอันดับ 1 นั่นแปลว่า TCR ใหม่นี้มีการส่งกำลังที่ดีที่สุด หรือขี่แล้วรู้สึกว่าพุ่งได้ดีที่สุดนั่นเอง
Admin note: ปกติข้อมูลการทดสอบเป็นการเคลมของผู้ผลิตที่ไม่ใช่คนกลาง ปกติเราก็ต้องฟังหูไว้หูครับ เพราะแต่ละรายมักจะเลือกขบวนการทดสอบที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง (และตามมารยาทผมขอเซนเซอร์ชื่อยี่ห้ออื่นไว้นะครับ แค่นำมาอ้างอิงเพื่อให้เห็นแนวคิดในการออกแบบของ Giant)
[align=center][/align]
ในกระบวนการทดสอบเพื่อประเมินผลของทีมงานออกแบบ Giant สร้างระบบตรวจสอบที่จำลองการใช้งานและการรับแรงในมาตรฐานที่ใกล้เคียงปัจจัยในการจำแนกสมรรถนะของเฟรมที่สุด ด้วยการนำเฟรมและล้อขึ้นไปบนเครื่องทดสอบที่ทดสอบด้วยการจำลองผลของเฟรมที่เกิดจากแรงกระทำต่างๆเพื่อวัดประสิทธิภาพของการใช้งานที่สูงทีสุด
[align=center][/align]
การบังคับรถที่เป็นยอด
จักรยานแข่งขันไม่เพียงต้องมีน้ำหนักเบาและการส่งกำลังที่ดีเท่านั้น แต่การควบคุมบังคับรถต้องทำได้อย่างมั่นคงและมีสมรรถนะที่ดีด้วย ซึ่งทีมงาน Giant ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการควบคุมบังคับด้วยหัวใจในการออกแบบจากองศารถแบบคอมแพ็คที่สร้างบุคลิกภาพของเฟรมที่ควบคุมได้ง่ายและความสติฟของตะเกียบหน้าอันเป็นหัวใจของการเข้าโค้งที่ดี
[align=center]
[/align]
ในการบังคับควบคุมรถที่ดี เฟรมต้องมีส่วนหน้าของรถที่รองรับความแข็งของแรงบิดที่กระทำได้ดี หรือมีความ stiff รองรับแรงบิดได้ (torsion stiffness) ใน TCR Advanced SL 2016 ใช้การออกแบบให้ท่อนอน ท่อคอ และท่อล่างมีการเชื่อมต่อโค้งมนต่อนื่องกันตลอดเพื่อให้ทั้งสามส่วนมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม ที่ด้านหลังเลือกใช้การเชื่อมต่อท่อทั้งสามทางด้านหลังแบบใหม่พัฒนาขึ้นจากปี 2015 ด้วยการส่งแรงที่ตรงจาก seatstay ไปยังท่อนอน ส่งผลให้เฟรมโดยรวมมีการบิดตัวน้อยลงกว่าเดิม ท่อทั้งหมดเป็นโครงสร้างที่ต่อนเองกัน เพิ่มความสติฟได้มากกว่าการเชื่อมต่อแบบเดิมที่เคยใช้
และที่ขาดไม่ได้หัวใจของการควบคุมที่ยอดเยี่ยมมาจากท่อคอแบบเทเปอร์พิเศษหรือ OverDrive2 (OD2) ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ช่วยให้ช่วงหน้าของรถมีความสติฟสูงมาก เหมาะสำหรับการเข้าโค้งและรองรับการสปรินท์ที่หนักหน่วงได้เป็นอย่างดี และเมื่อได้รับการออกแบบให้มีมิติของเฟรมไหลลื่นต่อเนื่องรับกับทรงท่ออื่นๆที่แข็งแกร่ง ทำให้ระบบ Megadrive หรือการทำงานสอดประสานกันของท่อทั้งสามรองรับกำลังได้สมบูรณ์แบบที่สุด
การออกแบบตะเกียบแบบใหม่ ที่ช่วยส่งเสริม Torsion Stiffness ได้มากที่สุด เป็นเคล็ดลับของสมรรถนะรถที่ดีในการเข้าโค้งและการสปรินท์อย่างรุนแรง รูปทรงตะเกียบใหม่ถูกออกแบบให้เรียวลงเพื่อให้สามารถส่งแรงต่อเนื่องไปยังท่อคอที่บึกบึนได้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม ตัวตะเกียบบางลงก็จริงแต่มีความหนามากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ได้มากที่สุด
[align=center][/align]
เมื่อนำค่า Torsion Stiffness มาทดสอบเฟรมตัวอย่างของหลายๆยี่ห้อในระดับแข่งขันเหมือนกันผลทดสอบที่ได้เป็นที่น่าสังเกตุว่า TCR Advanced SL ถือเป็นเฟรมที่มี Torsion Stiffness สุงที่สุด และเมื่อเทียบกับน้ำหนักเฟรมก็ได้ค่าอัตราส่วนน้ำหนักต่อความสติฟมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะเฟรมหลายๆตัวมุ่งเน้นที่ความเบาหรือสร้างความสติฟในด้านหลังมากจนเสียความสติฟด้านหน้าที่สำคัญนี้ไป แต่ทีมนักออกแบบของ Giant เล็งเห็นว่ารถจักรยานที่ดีต้องดีทั้งความแรงของรถและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงตามไปด้วยนั่นเอง
[align=center][/align]
จากความเป็นจริงของนักแข่งจักรยานที่ต้องการรถที่ขี่แล้วไม่ก่อให้เกิดความล้าจากแรงสะเทือนของถนนมากจนเกินไป เพราะความล้านี้ส่งผลบั่นทอนสมรรถนะในการปั่นยิ่งกว่าอย่างอื่นทั้งหมด และลดประสิทธิภาพของนักจักรยานลงอย่างมากนั่นเอง
[align=center]
[/align]
รูปทรงหลักอานแบบใหม่เกิดจากการรวมตัวกันของหลักอานทรง D-Fuse ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Giant สามารถลดแรงสะเทือนของถนนได้มาก กับหลักอานทรง Vector หรือรูปทรงที่เป็นจุดลงตัวระหว่างความแอโร่ไดนามิคส์และความสติฟสูงที่สุด เกิดเป็นหลักอานใหม่ที่รวมเอาสมดุลระหว่างความสบาย ความแอโร่ฯ และความสติฟเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันในหลักอานและท่อนั่งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์คุณสมบัติพิเศษของเฟรมที่สามารถให้ตัวได้นิดหน่อยในแนวตรงเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนจากถนนได้มากกว่าการออกแบบปกติ ในขณะที่ยังไม่เสียความสติฟทางด้านข้างไปด้วยซึ่งถือว่าเป็นจุดสมดุลย์ระหว่างคงามสติฟด้านข้างที่เป็นหัวใจของการส่งกำลังและความให้ตัวในแนวตรงอันเป็นหัวใจของการซึมซับแรงสั่นสะเทือนของถนนที่เหมาะสมที่สุด
เยี่ยมชมโรงงาน
[align=center][/align]
วันนี้ทาง Giant ได้พาเยี่ยมชมโรงงานผลิตจักรยานคาร์บอนที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งจะไขปัญหาที่ผมสงสัยมานานแล้วว่าเฟรมจักรยานยี่ห้อดีๆ ทำไมถึงมีราคาแพงกว่าเฟรมจีนที่ราคาถูกๆ
[align=center]
ปกติโรงงานส่วนใหญ่จะซื้อแผ่น carbon fiber sheet สำเร็จรูปมาผลิต มีโรงงานน้อยมากที่จะผลิตแผ่น carbon fiber sheet ได้เอง เพราะต้องมีปริมาณการผลิตมากพอสมควร economy of scale จึงจะเพียงพอ สำหรับ Giant จะมีการผลิตแผ่นคาร์บอนนี่ด้วยตัวเอง จึงสามารถควบคุมการผลิตได้ตั้งแต่ระดับวัสถุดิบกันเลย
[/align]
Carbon fiber sheet หน้าตาอาจจะเหมือนการทอผ้า โดยจะเป็นดึงเส้นใยไฟเบอร์มาทอเป็นผืนโดยอัดด้วยความร้อนกับเลซินและกระดาษชนิดพิเศษเป็นคาร์บอนชีต โดย giant นั้นจะใช้วัสดุสำคัญอย่าง Toray แอบสังเกตว่าเป็นเส้นใยผลิตในญี่ปุ่นซึ่งมีคุณภาพดีกว่า
[align=center][/align]
จุดสำคัญที่ทาง Giant เล่าให้ฟังคือแผ่น carbon sheet เมื่อนำออกมาใช้งาน จะมีอายุอยู่ได้เพียง 35 วัน ถ้าหมดอายุจะทำให้คุณสมบัติแย่ลงไม่สามารถรักษาคุณภาพได้ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่โรงงานผลิตเฟรมคาร์บอนขนาดเล็กถ้าไม่สามารถควบคุม Lifetime ของคาร์บอนชีตได้ คุณภาพก็อาจจะออกมาแย่มากกว่าที่ควรจะเป็น โดยเมื่อผลิตแผ่น carbon sheet ออกมาแล้ว ทางโรงงาน Giant จะมีระบบพิมพ์วันเดือนปีที่ผลิตลงไปทันที ถ้าอายุเกินก็จะไม่นำมาใช้
เมื่อได้ผลิตแผ่น carbon sheet มาแล้ว จะมีลักษณะคล้ายกระดาษสติกเกอร์ ในห้อง kitchen จะทำการตัด carboon sheet เป็นชิ้นส่วนต่างๆ ตามรูปทรงและจำนวนต่างๆ ไม่ใช่เป็นการใช้แผ่น carbon เพียงแผ่นเดียวมาหุ้มตามโครง mold เท่านั้น
โดยเฟรม TCR แต่ละเฟรม จะถูกออกแบบให้ใช้ carboon sheet เป็นจำนวนถึง 328 ชิ้น โดยจะมีถึง 200รูปทรง ต้องผ่านการประกอบโดยคนงานถึง 110 คน นั่นคือการผลิตเฟรมคาร์บอนถึงมีความซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด เพราะมีการคำนวณการเสริมแรงแต่ละส่วนตามความเหมาะสมของการรับแรงในแต่ละส่วนที่ต่างกัน
ซึ่งในช่วงสัมภารณ์ผู้ออกแบบเฟรม ผมได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าเฟรม TCR จะใช้ carbon เกรด T800 เป็นโครงสร้างหลักและเสริมส่วนต่างๆเพิ่มความแข็งแรงด้วย T1000 (M16) นั่นคือการออกแบบเฟรมจะใช้วัสดุที่เหมาะสมในจุดต่างๆมากที่สุด
เมื่อได้ตัด carbon sheet ในขนาดต่างๆกัน เมื่อลอกกระดาษออกก็จะลักษณะคล้ายสติกเกอร์เป็นแผ่น carbon นิ่มๆ เมื่อนำมาประกอบหุ้มเข้ากับรูปทรงต่างๆที่ห้อง layup room ออกมาเป็นชิ้นส่วนรูปทรงชิ้นส่วนต่างๆของเฟรม
จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบเข้ากับ mold แล้วนำไปอบด้วยอุณภูมิและความดันตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะออกมาเป็นโครงคาร์บอนเฟรมที่มีความแข็งแรง
เมื่อได้เฟรมคาร์บอนที่แข็งแรงแล้ว ทุกเฟรมจะต้องนำไปผ่านเข้าเครื่อง xray เพื่อตรวจสอบว่าเฟรมมี wrinkle & bubble ซึ่งหมายถึงมีฟองอากาศและรอยยับภายในหรือไม่ ซึ่งทาง giant พยายามเน้นว่าถ้าเฟรม xray แล้วภายในมีปัญหาจะต้องนำไปทำลายทิ้ง เพราะจะมีผลเสียอย่างมากต่อการใช้งาน ซึ่งถ้าดูภายนอกจะไม่มีทางรู้ได้เลย จากนั้นจึงไปผ่านขั้นตอน inspection ต่างๆอีก 44 station เพื่อวัดความแข็งแรง,วัดระยะความแม่นยำต่างๆ,และองศาของเฟรมในจุดต่างๆ เรื่องการนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่เฟรมจากโรงงานคาร์บอนราคาถูกๆจะไม่มีระบบตรวจสอบที่เข็มงวดเช่นนี้ ราคาก็จะต่างกันเป็นอย่างมาก เฟรมทุกเฟรมของ giant จึงกล้ารับประกันแบบ life time warantee
Test Ride
ช่วงที่รอคอยมาถึงแล้ว! Giant ได้พาออกไป Test Ride เพื่อจับอาการของเจ้า TCR กัน โดยทางโรงงานได้ขอข้อมูลนักปั่นเพื่อเตรียมเซตรถตามขนาดที่เหมาะสมตามคนขี่แต่ละคนล่วงหน้าแล้ว โดยรถที่ได้จัดเตรียมให้ผมเป็นรถ TCR สีดำน้ำเงิน size M อุปกรณ์ Duraace Di2 โดยน้ำหนักทั้งคันเพียง 6.2kg.
เส้นทางวันนี้เป็นการปั่นรอบทะเลสาบ Sun moon lake ที่ทาง CNN ได้ขนานนามให้เป็นเส้นทาง Best 10 cycling route in the world กันเลย โดยเส้นทางจะเป็นทางขึ้นๆลงๆและมีโค้งมากมายให้เราได้ทดสอบขับขี่ได้อย่างเต็มที่
เส้นทางแบบนี้ ถ้ารถไม่ดีจริง Giant คงไม่กล้าให้มาทดสอบกันขนาดนี้แน่ ความรู้สึกผมการขับขี่เจ้า TCR ผมรู้สึกรถ stiff และพุ่งมากๆ และควบคุมรถเพื่อเข้าโค้งต่างๆมีเสถียรภาพการทรงตัวก็ตามที่ giant อ้างถึงจริงๆ
Test Ride วันที่ 2
วันที่สองนี้ ทาง Giant แบ่งเป็นกลุ่มปั่นชมวิวและปั่นหนักหรือถ่ายรูป แต่ส่วนใหญ่นักข่าวที่ไปด้วยเห็นจะไปปั่นหนักกันหมด แสดงว่าเป็นนักปั่นกันจริงๆทั้งนั้น วันนี้เขาพาผมไปปั่นขึ้นยอดเขา WuLing ซึ่งมีความสูงกว่า 3250 เมตร ซึ่งสูงกว่ายอดดอยอินทนนท์อีก แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัดเราจึง start กันที่ระยะความสูง 2000 เมตร ไปถึงยอดเขาเป็นระยะทางประมาณ 20กม. โดยที่นี่เป็นเส้นทางที่มีชื่อเสียงของไต้หวันถ้ามีการจัดแข่งจากระยะ 0 เมตรจะมีระยะทางถึง 80กม.เลยทีเดียว ลักษณะทางขึ้นตลอดเวลาแต่ก็มีความชันช่วงทางโค้งให้พักตลอด ไม่ถึงกับขึ้นชันยาวๆแบบอินทนนท์ และความชันโดยเฉลี่ยก็ไม่ค่อยจะเกิน 10% จะไม่โหดเท่าขึ้นดอยอินทนนท์ที่เคยผ่านมากแล้ว ปั่นเส้นนี้จึงไปได้อย่างสบายๆ โดยมีจุดชันและวิวสวยให้ทีมสื่อได้ถ่ายรูปตลอดทาง โดยมีระยะเวลาทดสอบกว่า 3-4 ชม.
ความรู้สึกการปั่นวันนี้ จะต่างกับวันแรกที่เน้นทดสอบการควบคุมรถ แต่วันนี้จะเป็นการปั่นขึ้นเขาล้วนๆ จึงได้ทดสอบการกดและยื่นโยกต่างๆ รู้ได้เลยว่ารถมันมีความ stiff และมีความรู้สึกว่าพุ่งสูงมากจริงๆ จนมีความรู้สึกอยากนำกลับมาขี่ต่อเมืองไทยจริงๆ
บทสรุป
Giant TCR เป็นรถ All around ที่ทาง Giant เรียกว่า Total Race Bike คือทำมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ รูปทรงเฟรมอาจจะไม่ได้เป็นเฟรม Aero เหมือนกระแสแนวโน้มแบรนด์อื่นๆที่มักจะออกเฟรมมาเป็นแบบ All around Aero frame , แต่ทาง Giant ให้เหตุผลว่านี่เป็นความลงตัวของความต้องการจากการแข่งจริงๆมากกว่า เพราะการขี่กลุ่มใน peloton ความเป็น aero ไม่มีผลมากเท่าไหร่ อาจจะดีขึ้นสำหรับนักปั่นที่ชอบหนีกลุ่ม break away ปั่นคนเดียว ซึ่งเฟรม aero อาจจะทำเวลาดีขึ้นในหลักวินาที แต่เมื่อถึงช่วงขึ้นเขา-ลงเขา เฟรมที่เบาและ stiff แบบ TCR จะเป็นเฟรมที่ลงตัวและให้ความรู้สึกในการขี่ได้ดีกว่ามาก สามารถนำเวลาเหนือคู่แข่งได้เป็นนาทีๆ ความเหมาะสมโดยรวมจะดีกว่า
ถ้าเป็นผู้ที่ชอบเฟรม Aero ทาง Giant ก็จะมีเฟรมรุ่น Propel ที่จะเป็นทรง Aero ซึ่งกลับเป็นที่นิยมในเมืองไทยสูงมาก โดยประเทศไทยมียอดสั่งซื้อ Propel สูงที่สุดในโลก! แปลกไหมละครับ ทาง Giant ก็ถามผมถึงแนวโน้มความนิยมของคนไทยเหมือนกัน ต้องยอมรับว่าค่านิยมการซื้อรถของไทย จะเน้นไปทาง Aero เกินความจำเป็น ทั้งๆที่บางคนยังขี่ความเร็วไม่สูง แต่ก็ยังต้องเฟรม Aero เพราะเน้นความสวยงามเป็นหลัก อันนี้ก็ถือเป็นความชอบของแต่ละคนกันเองนะครับ ชอบอย่างไรก็ขี่ไปเถอะครับ ถ้ามันสามารถทำให้เรามีความรู้สึกอยากออกไปปั่นได้มากขึ้น[homeimg=300,200]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 118705.jpg[/homeimg]
[align=center]Giant TCR 2016
Total Race bike / All new design[/align]
สัปดาห์ที่แล้ว ทาง Giant Inc ได้เชิญผมไปร่วมงานเปิดตัว New TCR ร่วมกับสื่อในเอเซีย พร้อมทั้งเยี่ยมชมขบวนการผลิตเฟรมคาร์บอนที่น้อยคนนักจะได้มีโอกาสเข้าชม ได้สัมภารณ์ผู้บริหารและหัวหน้าทีมงานผู้ออกแบบเฟรมตัวนี้ ถึงแง่มุมแนวคิดและคุณสมบัติของคาร์บอนที่เคยสงสัย แนวโน้มตลาดและการพัฒนาอนาคต ได้ความรู้กลับมาเพียบๆ และสุดท้ายได้ทดสอบปั่นอย่างเต็มอิ่มกับเจ้า New TCR ตัวนี้มาแล้วในเส้นทางที่สวยงามอย่าง Sun moon Lake และ WuLing ที่สูงกว่ายอดดอยอินทนน์เสียอีก ได้รู้ซึ้งถึงคุณสมบัติที่ดีของเฟรมนักไต่เขาที่ควรจะเป็นเลยครับ ตามมาดูเจาะลึกรีวิวกันเลยครับ...
[align=center][/align]
[align=center][/align]
งานนี้เป็นการเชิญสื่อจากเอเชียประมาณ 20 คน สังเกตจะมีประเทศชั้นนำอย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลี มากันหลายคน ประเทศอื่นๆไม่เห็น จากไทยมีเราไปคนเดียว ทราบภายหลังว่า ไทยมียอดขายอันดับต้นๆของเอเชียและของโลกเลยล่ะครับ !!!
วีดิโอเปิดตัวเจ้า Giant New TCR กันก่อนเลยครับ
[align=center][/align]
คำแรกที่ทาง Giant พรีเซ็นให้ฟัง เขาบอกก่อนเลยครับ จุดหมายแรกไม่ได้ต้องการทำเฟรมที่เบาที่สุดในตลาด TCR ตัวเดิม อยู่ในตลาดมากว่า 3 ปีแล้ว เมื่อทำการออกแบบ TCR ตัวใหม่นี้ ทางทีมให้ความสำคัญกับหัวใจของการออกแบบที่สร้างสมดุลระหว่าง “น้ำหนักเบา” และ “ความสติฟ” (หรือความแข็งของเฟรม) ที่เหมาะสมที่สุด เพราะจักรยานในโลกนี้ใครๆก็ทำให้เบาได้ หากแต่จะเสียความสติฟจนเกิดเป็นสมรรถนะที่ไม่ดี Giant ไม่สนใจจะทำ ในทางกลับกันใครๆก็สามารถทำจักรยานให้สติฟได้ด้วยการใช้วัสดุเสริมเข้าไปมากๆซึ่งส่งผลให้เกิดเป็นจักรยานที่มีน้ำหนักมากเกินไป
[align=center][/align]
ซึ่งการสร้างจักรยานที่มีความสมดุลย์ของปัจจัยทั้งสองนี้ ต้องได้มาจากการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างชาญฉลาดและการออกแบบด้วยวิศวกรรมชั้นยอด รวมถึงการผลิตที่มีคุณภาพสูง
[align=center][/align]
Giant TCR Advanced SL ปี 2016 สามารถลดน้ำหนักลงไปจากรุ่นปี 2012-2015 (เฟรมตัวเดียวกัน) ได้ถึง 12% คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 181g (แตกต่างกันไปแล้วแต่ไซส์ของเฟรม) ซึ่งที่มาของการลดน้ำหนักลงไปไม่ได้มาจากการลดวัสดุเพื่อรีดน้ำหนัก หากแต่เป็นการออกแบบจุดสำคัญต่างๆใหม่ทั้งหมด สามารถจำแนกได้ดังนี้
[align=center]
[/align]
ทีมงานนักออกแบบของ Giant เลือกใช้ท่อคอแบบเทเปอร์ขนาดพิเศษของ Giant ด้านบนขนาด 1¼ นิ้ว ส่วนด้านล่างมีขนาด 1½ นิ้ว และใช้ทรงท่อที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการรับแรงที่ดี พร้อมทั้งได้เปรียบด้านอากาศพลศาสตร์(แอโร่ไดนามิคส์) ทำให้สามารถลดปริมาณวัสดุที่ใช้ได้แต่มีความแข็งแรงไม่แตกต่างจากทรงปกติ
[align=center]
ลักษณะของท่อคอที่ใช้ stem ใหญ่กว่าปกตืที่เรียกว่า overdrive2[/align]
[align=center]
รูปจากรถทดสอบที่ผมได้ขี่ภายหลัง จะเห็นว่าไม่สามารถติดตั้ง garmin ที่stem ได้เลย[/align]
ออกแบบระบบการเดินสายแบบใหม่
ระบบการเดินสายซ่อนภายในเฟรมเป็นแนวทางการออกแบบเฟรมจักรยานในปัจจุบันนี้ซึ่งส่งผลที่ดีหลายๆด้านกับการใช้งาน ทว่าในการออกแบบ ช่องทางเดินสายต่างๆเหล่านี้ส่งผลกับความแข็งแรงของคาร์บอนที่นำมาประกอบกันเป็นเฟรมจักรยานเป็นอย่างยิ่ง การเลือกตำแหน่งและรูปแบบการร้อยสายที่ดีสามารถลดผลกระทบจากช่องเหล่านี้ได้ TCR 2016 เปลี่ยนตำแหน่งร้อยสายไปเป็นท่อคอฝั่งซ้ายและด้านใต้ท่อนอนหลังท่อคอ ซึ่งไม่ส่งผลใดเลยกับโครงสร้างของเฟรม
[align=center][/align]
สายเบรกหลัง จะสอดในตำแหน่งท่อบน และถ้าเป็นระบบเกียร์ไฟฟ้า Di2 สายไฟจะสอดไปตำแหน่งใต้ท่อบน
[align=center][/align]
มุมมองจากท่อบน สวยงาม เรียวลู่ลมไปด้านหลัง สายเบรกหลังโผล่ในตำแหน่งที่เหมาะสมไม่ต้านลม เพราะมีเฟรมด้านบนช่วยบังลม
[align=center][/align]
เลือกใช้หลักอานแบบเสากระโดงทรงใหม่ (Integrated Seatpost) (เฉพาะรุ่น TCR Advance SL)
หลักอานแบบกระโดงเป็นการออกแบบที่ช่วยลดรอยต่อของหลักอานกับท่อนั่งให้เป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้เกิดความแข็งแรงสูงที่สุด และสามารถลดการใช้คาร์บอนลงได้ ในขณะที่ทั้งการส่งแรงและซับแรงสะเทือนก็ทำได้ดีขึ้นเช่นกัน และหลักอานทรงใหม่ที่เพรียวกว่าเดิม สามารถช่วยลดแรงสะเทือนจากถนนที่มีผลกับผู้ขี่โดยตรงได้ดียิ่งขึ้น แต่หลักอ่านแบบนี้ต้องวัดระยะท่อนั่งให้ใกล้เคียง เพราะถ้าตัดแล้วจะปรับระยะได้ไม่มาก
[align=center][/align]
ประกอบกับทางของหางหลัง (Seatstay) แบบใหม่และการออกแบบเลือกใช้วัสดุพิเศษแตกต่างกันในแต่ละจุด
[align=center][/align]
ระบบส่งกำลังที่เป็นยอด
ไม่เพียงพัฒนาให้มีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม Giant TCR Advanced SL ยังถูกสร้างให้มีการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น มีความสติฟในทุกแนวมากกว่าเดิมและช่วยให้แรงกระทำทุกวัตต์ ที่ส่งลงไปยังเฟรมจักรยานถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความเร็วอย่างเต็มประสิทธิภาพ
[align=center][/align]
จากสไลด์ TCR ของ Giant ที่มีการทดสอบกับเฟรมคู่แข่งสำคัญในตลาด โดยเฟรม TCR จะมีความ Stiff สูงกว่าเฟรมหลายๆเฟรมชั้นนำในตลาด ทั้งที่เบามากๆและ stiff มากๆ จะเห็นว่าเฟรม TCR เป็นรองเพียงเฟรมแบรนด์ที่3 ที่ได้ชื่อว่ามีความ stiff สูงมากกว่าเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีน้ำหนักที่หนักกว่ากันถึง 310g และถ้าทำ TCR ไปเทียบกลับเฟรมที่ได้ชื่อว่าเบามากๆในตลาด จะเห็นว่า TCR จะหนักกว่าเฟรมที่ขึ้นชื่อว่าเบาๆที่สุดในตลาดเพียงขีดเดียว แต่ข้อมูลที่ทางgiant อ้างการทดสอบมา เฟรมที่เบาๆก็จะมีความ stiff ที่ต่ำมาก
ซึ่งการที่เฟรม stiff กว่าแต่ถ้ามีน้ำหนักมากกว่าก็กลับจะทำให้มีความรู้สึกว่าพุ่งได้น้อยลง เมื่อรวมค่าความแข็งต่อน้ำหนัก(stiffness-to-weight ratio) เฟรม TCR ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเป็นอันดับ 1 นั่นแปลว่า TCR ใหม่นี้มีการส่งกำลังที่ดีที่สุด หรือขี่แล้วรู้สึกว่าพุ่งได้ดีที่สุดนั่นเอง
Admin note: ปกติข้อมูลการทดสอบเป็นการเคลมของผู้ผลิตที่ไม่ใช่คนกลาง ปกติเราก็ต้องฟังหูไว้หูครับ เพราะแต่ละรายมักจะเลือกขบวนการทดสอบที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง (และตามมารยาทผมขอเซนเซอร์ชื่อยี่ห้ออื่นไว้นะครับ แค่นำมาอ้างอิงเพื่อให้เห็นแนวคิดในการออกแบบของ Giant)
[align=center][/align]
ในกระบวนการทดสอบเพื่อประเมินผลของทีมงานออกแบบ Giant สร้างระบบตรวจสอบที่จำลองการใช้งานและการรับแรงในมาตรฐานที่ใกล้เคียงปัจจัยในการจำแนกสมรรถนะของเฟรมที่สุด ด้วยการนำเฟรมและล้อขึ้นไปบนเครื่องทดสอบที่ทดสอบด้วยการจำลองผลของเฟรมที่เกิดจากแรงกระทำต่างๆเพื่อวัดประสิทธิภาพของการใช้งานที่สูงทีสุด
[align=center][/align]
การบังคับรถที่เป็นยอด
จักรยานแข่งขันไม่เพียงต้องมีน้ำหนักเบาและการส่งกำลังที่ดีเท่านั้น แต่การควบคุมบังคับรถต้องทำได้อย่างมั่นคงและมีสมรรถนะที่ดีด้วย ซึ่งทีมงาน Giant ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการควบคุมบังคับด้วยหัวใจในการออกแบบจากองศารถแบบคอมแพ็คที่สร้างบุคลิกภาพของเฟรมที่ควบคุมได้ง่ายและความสติฟของตะเกียบหน้าอันเป็นหัวใจของการเข้าโค้งที่ดี
[align=center]
[/align]
ในการบังคับควบคุมรถที่ดี เฟรมต้องมีส่วนหน้าของรถที่รองรับความแข็งของแรงบิดที่กระทำได้ดี หรือมีความ stiff รองรับแรงบิดได้ (torsion stiffness) ใน TCR Advanced SL 2016 ใช้การออกแบบให้ท่อนอน ท่อคอ และท่อล่างมีการเชื่อมต่อโค้งมนต่อนื่องกันตลอดเพื่อให้ทั้งสามส่วนมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม ที่ด้านหลังเลือกใช้การเชื่อมต่อท่อทั้งสามทางด้านหลังแบบใหม่พัฒนาขึ้นจากปี 2015 ด้วยการส่งแรงที่ตรงจาก seatstay ไปยังท่อนอน ส่งผลให้เฟรมโดยรวมมีการบิดตัวน้อยลงกว่าเดิม ท่อทั้งหมดเป็นโครงสร้างที่ต่อนเองกัน เพิ่มความสติฟได้มากกว่าการเชื่อมต่อแบบเดิมที่เคยใช้
และที่ขาดไม่ได้หัวใจของการควบคุมที่ยอดเยี่ยมมาจากท่อคอแบบเทเปอร์พิเศษหรือ OverDrive2 (OD2) ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ช่วยให้ช่วงหน้าของรถมีความสติฟสูงมาก เหมาะสำหรับการเข้าโค้งและรองรับการสปรินท์ที่หนักหน่วงได้เป็นอย่างดี และเมื่อได้รับการออกแบบให้มีมิติของเฟรมไหลลื่นต่อเนื่องรับกับทรงท่ออื่นๆที่แข็งแกร่ง ทำให้ระบบ Megadrive หรือการทำงานสอดประสานกันของท่อทั้งสามรองรับกำลังได้สมบูรณ์แบบที่สุด
การออกแบบตะเกียบแบบใหม่ ที่ช่วยส่งเสริม Torsion Stiffness ได้มากที่สุด เป็นเคล็ดลับของสมรรถนะรถที่ดีในการเข้าโค้งและการสปรินท์อย่างรุนแรง รูปทรงตะเกียบใหม่ถูกออกแบบให้เรียวลงเพื่อให้สามารถส่งแรงต่อเนื่องไปยังท่อคอที่บึกบึนได้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม ตัวตะเกียบบางลงก็จริงแต่มีความหนามากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ได้มากที่สุด
[align=center][/align]
เมื่อนำค่า Torsion Stiffness มาทดสอบเฟรมตัวอย่างของหลายๆยี่ห้อในระดับแข่งขันเหมือนกันผลทดสอบที่ได้เป็นที่น่าสังเกตุว่า TCR Advanced SL ถือเป็นเฟรมที่มี Torsion Stiffness สุงที่สุด และเมื่อเทียบกับน้ำหนักเฟรมก็ได้ค่าอัตราส่วนน้ำหนักต่อความสติฟมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะเฟรมหลายๆตัวมุ่งเน้นที่ความเบาหรือสร้างความสติฟในด้านหลังมากจนเสียความสติฟด้านหน้าที่สำคัญนี้ไป แต่ทีมนักออกแบบของ Giant เล็งเห็นว่ารถจักรยานที่ดีต้องดีทั้งความแรงของรถและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงตามไปด้วยนั่นเอง
[align=center][/align]
จากความเป็นจริงของนักแข่งจักรยานที่ต้องการรถที่ขี่แล้วไม่ก่อให้เกิดความล้าจากแรงสะเทือนของถนนมากจนเกินไป เพราะความล้านี้ส่งผลบั่นทอนสมรรถนะในการปั่นยิ่งกว่าอย่างอื่นทั้งหมด และลดประสิทธิภาพของนักจักรยานลงอย่างมากนั่นเอง
[align=center]
[/align]
รูปทรงหลักอานแบบใหม่เกิดจากการรวมตัวกันของหลักอานทรง D-Fuse ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Giant สามารถลดแรงสะเทือนของถนนได้มาก กับหลักอานทรง Vector หรือรูปทรงที่เป็นจุดลงตัวระหว่างความแอโร่ไดนามิคส์และความสติฟสูงที่สุด เกิดเป็นหลักอานใหม่ที่รวมเอาสมดุลระหว่างความสบาย ความแอโร่ฯ และความสติฟเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันในหลักอานและท่อนั่งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์คุณสมบัติพิเศษของเฟรมที่สามารถให้ตัวได้นิดหน่อยในแนวตรงเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนจากถนนได้มากกว่าการออกแบบปกติ ในขณะที่ยังไม่เสียความสติฟทางด้านข้างไปด้วยซึ่งถือว่าเป็นจุดสมดุลย์ระหว่างคงามสติฟด้านข้างที่เป็นหัวใจของการส่งกำลังและความให้ตัวในแนวตรงอันเป็นหัวใจของการซึมซับแรงสั่นสะเทือนของถนนที่เหมาะสมที่สุด
เยี่ยมชมโรงงาน
[align=center][/align]
วันนี้ทาง Giant ได้พาเยี่ยมชมโรงงานผลิตจักรยานคาร์บอนที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งจะไขปัญหาที่ผมสงสัยมานานแล้วว่าเฟรมจักรยานยี่ห้อดีๆ ทำไมถึงมีราคาแพงกว่าเฟรมจีนที่ราคาถูกๆ
[align=center]
ปกติโรงงานส่วนใหญ่จะซื้อแผ่น carbon fiber sheet สำเร็จรูปมาผลิต มีโรงงานน้อยมากที่จะผลิตแผ่น carbon fiber sheet ได้เอง เพราะต้องมีปริมาณการผลิตมากพอสมควร economy of scale จึงจะเพียงพอ สำหรับ Giant จะมีการผลิตแผ่นคาร์บอนนี่ด้วยตัวเอง จึงสามารถควบคุมการผลิตได้ตั้งแต่ระดับวัสถุดิบกันเลย
[/align]
Carbon fiber sheet หน้าตาอาจจะเหมือนการทอผ้า โดยจะเป็นดึงเส้นใยไฟเบอร์มาทอเป็นผืนโดยอัดด้วยความร้อนกับเลซินและกระดาษชนิดพิเศษเป็นคาร์บอนชีต โดย giant นั้นจะใช้วัสดุสำคัญอย่าง Toray แอบสังเกตว่าเป็นเส้นใยผลิตในญี่ปุ่นซึ่งมีคุณภาพดีกว่า
[align=center][/align]
จุดสำคัญที่ทาง Giant เล่าให้ฟังคือแผ่น carbon sheet เมื่อนำออกมาใช้งาน จะมีอายุอยู่ได้เพียง 35 วัน ถ้าหมดอายุจะทำให้คุณสมบัติแย่ลงไม่สามารถรักษาคุณภาพได้ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่โรงงานผลิตเฟรมคาร์บอนขนาดเล็กถ้าไม่สามารถควบคุม Lifetime ของคาร์บอนชีตได้ คุณภาพก็อาจจะออกมาแย่มากกว่าที่ควรจะเป็น โดยเมื่อผลิตแผ่น carbon sheet ออกมาแล้ว ทางโรงงาน Giant จะมีระบบพิมพ์วันเดือนปีที่ผลิตลงไปทันที ถ้าอายุเกินก็จะไม่นำมาใช้
เมื่อได้ผลิตแผ่น carbon sheet มาแล้ว จะมีลักษณะคล้ายกระดาษสติกเกอร์ ในห้อง kitchen จะทำการตัด carboon sheet เป็นชิ้นส่วนต่างๆ ตามรูปทรงและจำนวนต่างๆ ไม่ใช่เป็นการใช้แผ่น carbon เพียงแผ่นเดียวมาหุ้มตามโครง mold เท่านั้น
โดยเฟรม TCR แต่ละเฟรม จะถูกออกแบบให้ใช้ carboon sheet เป็นจำนวนถึง 328 ชิ้น โดยจะมีถึง 200รูปทรง ต้องผ่านการประกอบโดยคนงานถึง 110 คน นั่นคือการผลิตเฟรมคาร์บอนถึงมีความซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด เพราะมีการคำนวณการเสริมแรงแต่ละส่วนตามความเหมาะสมของการรับแรงในแต่ละส่วนที่ต่างกัน
ซึ่งในช่วงสัมภารณ์ผู้ออกแบบเฟรม ผมได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าเฟรม TCR จะใช้ carbon เกรด T800 เป็นโครงสร้างหลักและเสริมส่วนต่างๆเพิ่มความแข็งแรงด้วย T1000 (M16) นั่นคือการออกแบบเฟรมจะใช้วัสดุที่เหมาะสมในจุดต่างๆมากที่สุด
เมื่อได้ตัด carbon sheet ในขนาดต่างๆกัน เมื่อลอกกระดาษออกก็จะลักษณะคล้ายสติกเกอร์เป็นแผ่น carbon นิ่มๆ เมื่อนำมาประกอบหุ้มเข้ากับรูปทรงต่างๆที่ห้อง layup room ออกมาเป็นชิ้นส่วนรูปทรงชิ้นส่วนต่างๆของเฟรม
จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบเข้ากับ mold แล้วนำไปอบด้วยอุณภูมิและความดันตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะออกมาเป็นโครงคาร์บอนเฟรมที่มีความแข็งแรง
เมื่อได้เฟรมคาร์บอนที่แข็งแรงแล้ว ทุกเฟรมจะต้องนำไปผ่านเข้าเครื่อง xray เพื่อตรวจสอบว่าเฟรมมี wrinkle & bubble ซึ่งหมายถึงมีฟองอากาศและรอยยับภายในหรือไม่ ซึ่งทาง giant พยายามเน้นว่าถ้าเฟรม xray แล้วภายในมีปัญหาจะต้องนำไปทำลายทิ้ง เพราะจะมีผลเสียอย่างมากต่อการใช้งาน ซึ่งถ้าดูภายนอกจะไม่มีทางรู้ได้เลย จากนั้นจึงไปผ่านขั้นตอน inspection ต่างๆอีก 44 station เพื่อวัดความแข็งแรง,วัดระยะความแม่นยำต่างๆ,และองศาของเฟรมในจุดต่างๆ เรื่องการนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่เฟรมจากโรงงานคาร์บอนราคาถูกๆจะไม่มีระบบตรวจสอบที่เข็มงวดเช่นนี้ ราคาก็จะต่างกันเป็นอย่างมาก เฟรมทุกเฟรมของ giant จึงกล้ารับประกันแบบ life time warantee
Test Ride
ช่วงที่รอคอยมาถึงแล้ว! Giant ได้พาออกไป Test Ride เพื่อจับอาการของเจ้า TCR กัน โดยทางโรงงานได้ขอข้อมูลนักปั่นเพื่อเตรียมเซตรถตามขนาดที่เหมาะสมตามคนขี่แต่ละคนล่วงหน้าแล้ว โดยรถที่ได้จัดเตรียมให้ผมเป็นรถ TCR สีดำน้ำเงิน size M อุปกรณ์ Duraace Di2 โดยน้ำหนักทั้งคันเพียง 6.2kg.
เส้นทางวันนี้เป็นการปั่นรอบทะเลสาบ Sun moon lake ที่ทาง CNN ได้ขนานนามให้เป็นเส้นทาง Best 10 cycling route in the world กันเลย โดยเส้นทางจะเป็นทางขึ้นๆลงๆและมีโค้งมากมายให้เราได้ทดสอบขับขี่ได้อย่างเต็มที่
เส้นทางแบบนี้ ถ้ารถไม่ดีจริง Giant คงไม่กล้าให้มาทดสอบกันขนาดนี้แน่ ความรู้สึกผมการขับขี่เจ้า TCR ผมรู้สึกรถ stiff และพุ่งมากๆ และควบคุมรถเพื่อเข้าโค้งต่างๆมีเสถียรภาพการทรงตัวก็ตามที่ giant อ้างถึงจริงๆ
Test Ride วันที่ 2
วันที่สองนี้ ทาง Giant แบ่งเป็นกลุ่มปั่นชมวิวและปั่นหนักหรือถ่ายรูป แต่ส่วนใหญ่นักข่าวที่ไปด้วยเห็นจะไปปั่นหนักกันหมด แสดงว่าเป็นนักปั่นกันจริงๆทั้งนั้น วันนี้เขาพาผมไปปั่นขึ้นยอดเขา WuLing ซึ่งมีความสูงกว่า 3250 เมตร ซึ่งสูงกว่ายอดดอยอินทนนท์อีก แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัดเราจึง start กันที่ระยะความสูง 2000 เมตร ไปถึงยอดเขาเป็นระยะทางประมาณ 20กม. โดยที่นี่เป็นเส้นทางที่มีชื่อเสียงของไต้หวันถ้ามีการจัดแข่งจากระยะ 0 เมตรจะมีระยะทางถึง 80กม.เลยทีเดียว ลักษณะทางขึ้นตลอดเวลาแต่ก็มีความชันช่วงทางโค้งให้พักตลอด ไม่ถึงกับขึ้นชันยาวๆแบบอินทนนท์ และความชันโดยเฉลี่ยก็ไม่ค่อยจะเกิน 10% จะไม่โหดเท่าขึ้นดอยอินทนนท์ที่เคยผ่านมากแล้ว ปั่นเส้นนี้จึงไปได้อย่างสบายๆ โดยมีจุดชันและวิวสวยให้ทีมสื่อได้ถ่ายรูปตลอดทาง โดยมีระยะเวลาทดสอบกว่า 3-4 ชม.
ความรู้สึกการปั่นวันนี้ จะต่างกับวันแรกที่เน้นทดสอบการควบคุมรถ แต่วันนี้จะเป็นการปั่นขึ้นเขาล้วนๆ จึงได้ทดสอบการกดและยื่นโยกต่างๆ รู้ได้เลยว่ารถมันมีความ stiff และมีความรู้สึกว่าพุ่งสูงมากจริงๆ จนมีความรู้สึกอยากนำกลับมาขี่ต่อเมืองไทยจริงๆ
บทสรุป
Giant TCR เป็นรถ All around ที่ทาง Giant เรียกว่า Total Race Bike คือทำมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ รูปทรงเฟรมอาจจะไม่ได้เป็นเฟรม Aero เหมือนกระแสแนวโน้มแบรนด์อื่นๆที่มักจะออกเฟรมมาเป็นแบบ All around Aero frame , แต่ทาง Giant ให้เหตุผลว่านี่เป็นความลงตัวของความต้องการจากการแข่งจริงๆมากกว่า เพราะการขี่กลุ่มใน peloton ความเป็น aero ไม่มีผลมากเท่าไหร่ อาจจะดีขึ้นสำหรับนักปั่นที่ชอบหนีกลุ่ม break away ปั่นคนเดียว ซึ่งเฟรม aero อาจจะทำเวลาดีขึ้นในหลักวินาที แต่เมื่อถึงช่วงขึ้นเขา-ลงเขา เฟรมที่เบาและ stiff แบบ TCR จะเป็นเฟรมที่ลงตัวและให้ความรู้สึกในการขี่ได้ดีกว่ามาก สามารถนำเวลาเหนือคู่แข่งได้เป็นนาทีๆ ความเหมาะสมโดยรวมจะดีกว่า
ถ้าเป็นผู้ที่ชอบเฟรม Aero ทาง Giant ก็จะมีเฟรมรุ่น Propel ที่จะเป็นทรง Aero ซึ่งกลับเป็นที่นิยมในเมืองไทยสูงมาก โดยประเทศไทยมียอดสั่งซื้อ Propel สูงที่สุดในโลก! แปลกไหมละครับ ทาง Giant ก็ถามผมถึงแนวโน้มความนิยมของคนไทยเหมือนกัน ต้องยอมรับว่าค่านิยมการซื้อรถของไทย จะเน้นไปทาง Aero เกินความจำเป็น ทั้งๆที่บางคนยังขี่ความเร็วไม่สูง แต่ก็ยังต้องเฟรม Aero เพราะเน้นความสวยงามเป็นหลัก อันนี้ก็ถือเป็นความชอบของแต่ละคนกันเองนะครับ ชอบอย่างไรก็ขี่ไปเถอะครับ ถ้ามันสามารถทำให้เรามีความรู้สึกอยากออกไปปั่นได้มากขึ้น[homeimg=300,200]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 118705.jpg[/homeimg]
ThaiMTB facebook -> facebook.com/ThaiMTB
nbt facebook -> facebook.com/nbt.thaimtb
สงสัยอะไรดูที่นี่ก่อนนะครับ -> ประกาศสำคัญของเวบ / เทคนิคการใช้งานเวบ / คำถามที่พบบ่อย
nbt facebook -> facebook.com/nbt.thaimtb
สงสัยอะไรดูที่นี่ก่อนนะครับ -> ประกาศสำคัญของเวบ / เทคนิคการใช้งานเวบ / คำถามที่พบบ่อย
- yod.patipat
- สมาชิก
- โพสต์: 38
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2014, 10:47
- Tel: 0855119748
- team: ชมรมปั่นจักรยานทุ่งลม เพชรบุรี
- Bike: Bianchi : Sempre Pro / 2014
- ติดต่อ:
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
ยอดเยี่ยมไปเลยคร้าบ ... ^^
รับงานติดตั้งแผ่นฟิล์มใสป้องกันรอย " นอกสถาณที่ "
ด้วยแผ่นฟิล์มกันรอยแท้ ORAGUARD STONEGUARD MADE IN GERMANY
ติดตั้งด้วยวิธีการ WARP ( ห่อหุ้มเฟรม )
FaceBook : patipat yodto
LINE ID : KLA_patipat โทร. 0855119748 ( กล้า )
ด้วยแผ่นฟิล์มกันรอยแท้ ORAGUARD STONEGUARD MADE IN GERMANY
ติดตั้งด้วยวิธีการ WARP ( ห่อหุ้มเฟรม )
FaceBook : patipat yodto
LINE ID : KLA_patipat โทร. 0855119748 ( กล้า )
- ngoa
- ขาประจำ
- โพสต์: 1512
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2012, 02:13
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
เฟรมAero ล้อขอบสูง กรุ๊ปเซ็ท เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของชาวไทยจริงๆ
เหมาะหรือเปล่าค่อยว่ากันอีกที 5555
ไม่รู้emondaที่หนัก4โลกว่าสติฟน้อยกว่าตัวนี้หรือเปล่า
เหมาะหรือเปล่าค่อยว่ากันอีกที 5555
ไม่รู้emondaที่หนัก4โลกว่าสติฟน้อยกว่าตัวนี้หรือเปล่า
- MERIDAMATTS
- ขาประจำ
- โพสต์: 333
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 08:41
- Tel: 0863457218
- Bike: RIT touring,, Dahon Formula s18
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
อยากได้สักเฟรม
คลิก megear
หรือ
https://www.facebook.com/megear.bikerepair
โทร : 086 345 7218, 098 270 1338
Megear Line ID : 10949345
พิกัด GPS :ลองติจูด:100.48859 ละติจูด:13.953998
ธนาคารกสิกรไทย 418-2-84580-4
ชื่อบัญชี มีเกียร์ โดย นายเทพฤทธิ์ ปิยพันธุ์วรขจร
หรือ
https://www.facebook.com/megear.bikerepair
โทร : 086 345 7218, 098 270 1338
Megear Line ID : 10949345
พิกัด GPS :ลองติจูด:100.48859 ละติจูด:13.953998
ธนาคารกสิกรไทย 418-2-84580-4
ชื่อบัญชี มีเกียร์ โดย นายเทพฤทธิ์ ปิยพันธุ์วรขจร
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3751
- ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2011, 21:18
- ติดต่อ:
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
สาวกไจแอนท์อย่างผมนี่ เก็บเงินรอเลยคร้าบบ
ปั่นให้เป็น เย็นเรื่อยไป อย่าให้ใครแซง....
- O2
- ขาประจำ
- โพสต์: 763
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 07:42
- Tel: 0998185288
- Bike: Argon Krypton / Pinarello Razha/Focus Cayo / Giant TCR Advanced / Specialized Tarmac SL2 / Giant TCR Composite / Giant TCR Aluxx / Cannondale CADD 10 / Cannondale F500 / Jamis XC Pro / Merida Espresso
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
โดนๆ อีกแล้วคร๊าบบบ
Line ID: booksland
Facebook: https://www.facebook.com/wasin.booksland
Facebook: https://www.facebook.com/wasin.booksland
-
- สมาชิก
- โพสต์: 3
- ลงทะเบียนเมื่อ: 21 เม.ย. 2015, 22:33
- Tel: 0944963442
- team: ROHM CYCLING
- Bike: Giant.Bianchi.
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
สุดยอด.รอจำหน่ายครับจัดแน่.
- Aoba
- ขาประจำ
- โพสต์: 589
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 18:29
- Tel: หาเอาเองนะจ๊ะ
- team: UBRU team, Arnon Ubon Racing Team & Nhong Service Team
- Bike: Bianchi 928 Carbon L & GIOS A90 Ultralite
- ติดต่อ:
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
ว้าว!!!
ถึงสูงศักดิ์ อัครฐาน สักปานไหน
ถึงวิไล เลิศฟ้า สง่าศรี
ถึงเก่งกาจ ฉลาดกล้า ปัญญาดี
ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน
...........................................
พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ถึงวิไล เลิศฟ้า สง่าศรี
ถึงเก่งกาจ ฉลาดกล้า ปัญญาดี
ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน
...........................................
พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
- Newteerawat
- ขาประจำ
- โพสต์: 2383
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ม.ค. 2011, 21:34
- team: HCCT(HuaHin Chaam Cycle Team)
- Bike: Giant propel sl/Giant Trinity/GIANT TCR SL
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
เกบเงินรอเลยครับ
HCCT : https://www.facebook.com/pages/HCCT-Hua ... 6323523714
Line ID : newteerawat
Line ID : newteerawat
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1067
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2013, 13:03
- Tel: 0874719905
- Bike: Model one fm066
- pranbeach
- ขาประจำ
- โพสต์: 166
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ม.ค. 2014, 20:26
- Bike: Trek 1.1, Masi PC3, Java Skeggia, Araya Federal, Dahon Route
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
Thanks
AortoLock & AortoLock Alarm
http://www.aortolock.com/index.php
http://www.aortolock.com/index.php
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1791
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 11:05
- team: คูคต
- Bike: จักรยาน
- ตำแหน่ง: รังสิต-นครนายก20 ปทุมธานี
- JOOEY
- ขาประจำ
- โพสต์: 136
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2014, 14:53
- Bike: Crius Smart 3.0 / Giant TCR SLR
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
อยากได้น้องมะนาวมากขึ้นไปอีก..
No music No Ride ..
- Nong
- ขาประจำ
- โพสต์: 1552
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 21:53
- Tel: 096-8585-869
- Bike: Pheasant Voodoo Bizango Spacialized S-work M4 Giant TCR/NRS/ATX870/ BMC Bianchi Panasonic Miyata Fila Wheeler
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
ทำโครสร้างมาดีมากครับ
หลักอานกระโดง ISP อย่างนี้เหมือนจะน่ากังวลเรื่องการตัด
แต่พอได้ลองแล้ว โครงสร้างตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขี่ดีมากๆ ความ stiff การซับแรงสะเทือน การสปริงตัว และการทำน้ำหนัก
ดีกว่าตัวที่ใข้หลักอานสวมชัดเจน
นี่ขนาดตัวเก่านะนี่ ยังว่าพุ่ง ขี่สนุกแล้ว
ตัวใหม่ยิ่งดีขึ้นไปอีก เจ๋งมากครับ พัฒนามา ไม่ต้องเบาที่สุด แต่ให้เป็นรถที่ขี่ได้ดีครบเครื่อง
หลักอานกระโดง ISP อย่างนี้เหมือนจะน่ากังวลเรื่องการตัด
แต่พอได้ลองแล้ว โครงสร้างตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขี่ดีมากๆ ความ stiff การซับแรงสะเทือน การสปริงตัว และการทำน้ำหนัก
ดีกว่าตัวที่ใข้หลักอานสวมชัดเจน
นี่ขนาดตัวเก่านะนี่ ยังว่าพุ่ง ขี่สนุกแล้ว
ตัวใหม่ยิ่งดีขึ้นไปอีก เจ๋งมากครับ พัฒนามา ไม่ต้องเบาที่สุด แต่ให้เป็นรถที่ขี่ได้ดีครบเครื่อง
บริการจักรยาน หมอบ ภูเขา พับ
เชิญชมที่ https://www.facebook.com/wakeonbike
"Extreme Fitting and Service"
- จักรยาน อะไหล่
- ฟิตติ้ง ให้เข้ากับสรีระ
- ซ่อม เกียร์ ช๊อคอัพ ประกอบย้ายอะไหล่ อัพเกรด
GIANT ZIPP MAVIC SRAM AVID ROCKSHOX Truvativ TOPEAK VELO
Tel 096-8585-869
เชิญชมที่ https://www.facebook.com/wakeonbike
"Extreme Fitting and Service"
- จักรยาน อะไหล่
- ฟิตติ้ง ให้เข้ากับสรีระ
- ซ่อม เกียร์ ช๊อคอัพ ประกอบย้ายอะไหล่ อัพเกรด
GIANT ZIPP MAVIC SRAM AVID ROCKSHOX Truvativ TOPEAK VELO
Tel 096-8585-869
- NO.7
- ขาประจำ
- โพสต์: 123
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2015, 17:17
- team: 500 million dolly
- Bike: Masi, Merida, Bianchi, Luis Garneau, Giant, Trek, Infinite
- ตำแหน่ง: Bangkok Thailand
Re: รีวิว Giant TCR 2016 “ความลงตัวของเฟรมเบาและเน้นสมรรถนะ” / เยี่ยมชมโรงงานคาร์บอนเฟรม / Test Ride !!
อย่างนี้ต้องจัดสักเฟรม ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล