ปั่นอย่างไรให้ได้วัตต์สูง

[Bkkbikelove]

Ebay เลยครับ เห็วแว๊ปๆ รวมภาษี 40000

[virus4985]

ขอบคุณมากครับ จะลองเพิ่มแรงกด และคุมรอบขาดูครับ ล่าสุดลองเทสดูได้ประมาณ 2.6 w/kg เท่านั้นเองครับ (CP20)

และก่อนหน้านี้ผมลองค้นหาเรื่อง torque effectiveness / pedal smoothness แต่หาไม่เจอจริงๆ ว่าคืออะไร และเราต้องการค่าเท่าไหร่จึงเหมาะสม และได้วัตต์สูงสุด ออกแรงน้อยสุด เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้

ป๋าลูครับตอนนี้ผมใช้ของ Elite อยู่ เงียบดีครับ แต่ความหนืดยังไม่เท่าบนถนนจริง จะเปลี่ยนไปใช้ Lemond ก็เกรงเสียงจะดังไป เพราะปั่นกลางคืนครับ อยากขอความกรุณาแนะนำสักตัวได้ไหมครับ

torque effectiveness / pedal smoothness จะแสดงได้ก็ต่อเมื่อใช้ Power meter ที่มีเซนเซอร์วัดแยก 2 ขาเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีแค่ 2 ตัว คือ Power Rotor ( ตัว Top ) กับ Garmin Vector ( ตัว Top ) นอกนั้นจะไม่สามารถแสดงได้ บางตัวอาจจะแสดง Balance ได้ โดยเฉพาะตัวที่วัดจาก crank เช่น Quarq และ Power2Max แต่ก็เป็น Balance ที่เกิดจากการคำนวณ โดยเทียบแรงถีบข้างซ้าย+แรงดึงข้างขา กับ แรงถีบข้างขวา+แรงดึงข้างซ้าย โดยใช้Cadence sensor ของมันเองทำหน้าที่เป็น crank angle senser

Elite มันไม่สามารถปรับแรงกดของลูกกลิ้งได้ ดังนั้นเรื่องที่มันหนืดไม่มากจึงเป็นเรื่องที่เขาออกแบบเช่นนั้น
ต้องการหนืดๆ เงียบๆ ก็ต้องใช้ระบบ fluid ( ระบบกังหันลม จะยี่ห้อไหนๆก็ส่งเสียงทั้งนั้นครับ ) มีหลายยี่ห้อในท้องตลาด บ้านเราตัวที่ขายกันแพร่หลายก็มี 2 ค่ายใหญ่คือ Kurt Kinetic นำเข้าโดย TAB group กับ Powertap หรือ CycleOps นำเข้าโดยโปรไบค์

ส่วนตัวใช้ Rock'n Roll ครับ แบบว่าซื้อไว้นานแล้ว ชอบตรงใส่ ถอด รถเข้าออกจากเทรนเนอร์ด้วยการโยกแค่ทีเดียว ระบบfluidของKurtKinetic ออกแบบมาฉลาดมากๆครับ ทนทานไม่รั่วง่ายๆ สีสันอาจจะดูเพลนๆบ้าง ตัวรองลงมาคือ Road machine ใช้ตัวหนืดชุดเดียวกัน ต่างกันแค่ให้ตัวโยกไม่ได้เท่านั้นแหละครับ

torque effectiveness / pedal smoothness ค่าพวกนี้ควรอยู่ที่เท่าไหร่ครับ

[giro]

พลาดกระทู้นี้ไปได้ เช่นไรหนอ...
เดือนนึงที่ผ่านมา ผมทำบทความ บรรยาย พูด สอน เปิด อธิบาย สารพัดเรื่องวัตต์รวมกันน่าจะเกินร้อยรอบแน่นอนครับ จนวินาทีแรกผมถึงกับจี๊ดใจว่า ...มีให้อ่านเยอะขนาดนี้ ปักหมุดขึ้นไปแล้วก็เถอะ ทำไมไม่อ่านก่อนตั้งคำถาม??

พอไล่อ่านมาเรื่อยๆก็ทุเลาอาการเหวี่ยงลง ... พร้อมร่วมเสวนาได้
ผมขอตอบเลยครับว่า ... เหมือนเนื้อหาที่กล่าวมาทั้งหมด และที่หลายท่านได้อธิบาย ติดวัตต์มา ถ้าไม่เอามาซ้อมก็ไม่ได้ประโยชน์ ได้วิธีซ้อมมาถ้าเลือกใช้ไม่เป็นก็ไม่ได้ประโยชน์ เลือกใช้ตารางซ้อมแต่วางไม่เหมาะสมก็ตัน สรุปคือ ... มันเป็นศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่มีรายละเอียดเยอะครับ ไม่ได้แปลว่าเอามาติด ดูวัตต์สวยๆสูงๆ ขี่กราฟงามๆลงเฟสฯคนชม หรือทดสอบ FTP มาเยอะๆแปลว่าขี่ดี เพราะทั้ง FTP และ Power to Weight มันก็แค่ค่าอ้างอิงครับ สิ่งสำคัญที่สุดที่อย่าลืมคือ effective ผมมักพูดเสมอว่า เครื่องยนต์ดีใช้พลังงานได้ดี น้ำมันเชื้อเพลิงดี แต่ระบบส่งกำลัง เพลา ช่วงล่าง สายพาน หล่อเย็น ทำงานห่วย วัตต์หลายๆร้อยก็เท่านั้นครับ

ผมกำลัง"พยายาม" เรียบเรียงวิธีการซ้อม ยังไงดีนะ ให้เข้าใจง่าย สั้น และเหมาะกับคนทั่วไปใช้ได้จริงให้ได้ ไม่ได้วางตารางให้ แต่แนะแนวทางไปหาวางกันเอง บอกได้เลยว่า มันทำยากครับ เพราะหนึ่งในกฏเหล็กของการซ้อมคือ แต่ละคนต้องการสูตรการปรุงต่างกัน คุณกับผมมันกุ้งคนละที่ จับมาจากน้ำคนละสาย ผมอาจจะเหม็นคาวหน่อยต้องใส่เครื่องยเอะๆจะอร่อย ของคุณน้ำใส เนื้อหวานใส่เครื่องเยอะก็ไม่อร่อยเสียของ คุณอาจจะเหมาะเป็นกุ้งลวกจิ้ม ขอแค่ทำน้ำจิ้มสูตรเด็ดๆ อย่างผมมันคงเป็นพวกกระทะร้อนฉ่าพริกไทดำขิงข่ามาครบ
เอาเข้าจริงๆ เนื้อหารวมกันทั้งหมอลูฯ ผม และอีกหลายๆท่านเขียนเรื่องวัตต์ รวมๆกันผมว่าเรารวมหนังสือกันได้มากกว่าสองเล่มแล้ว และเชื่อเลยครับถ้าตามอ่านหมด .... กระจ่างแน่

รอบขา... เห็นด้วยทุกประการ เพราะผมมีความเชื่อว่ารอบขาที่เหมาะมีต่างกันไปในแต่ละคนด้วยซ้ำ แต่ผมก็เชื่ออีกว่า หากคุณต้องการ"เอาดี" คุณต้องซ้อมและพัฒนาแก้ปัญหาให้ได้ ถ้ารอบขาสูงแล้วเปลืองพลังงาน หัวใจสูงแต่ได้แรงบิดลดลง แล้วคุณจำเป็นต้องใช้แน่ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือ คุณต้องไปหาตำรา วิชา คอร์ส กระบวนการในการพัฒนารอบขาขึ้นมาให้ได้ ถ้าคนอีกแบบ(ตรงข้าม) รอบขาดีมาก สวยเลยควงยิกกลมเรียวหัวใจต่ำแรงบิดดี แต่พอลดรอบขาลงมาเหลลือ 80-85 เท่านั้นแหละ ผ่านไป 7 นาทีหน้าเบี้ยว กดไม่ไป ล้าไปหมด พวกนี้เจอเขายอมกราบ แต่มันต้องใช้ ต้องทำไงล่ะครับ ก็หาทางแก้มัน ซ้อมมัน ไปหาคอร์สมา วางตารางล่วงหน้าให้รวมเนื้อหาการแก้ทั้งหมด ซึ่ง "โค้ช" เข้ามามีประโยชน์และบทบาทตรงนี้ไงครับ ถ้าคุณจะ"โค้ช"ตัวเอง คุณต้องมีพื้นฐานความเข้าใจอย่างสำคัญก่อน ไม่งั้นไปเสียเงินจ้างโค้ช หรือไปเข้าร่วมฝึกกับสถาบันต่างๆง่ายกว่าครับ แต่ถ้าไม่สะดวก ต้องขยันอ่านและหาข้อมูล

ระวังอย่าไปเอาตารางซ้อมใดๆมาใช้เองมั่วๆนะครับ ... งงเลย ทั้งๆที่ผมทำโครงการซ้อมสาธิตแจกตารางซ้อมให้เล่นได้ แต่ผมเตือนเอาไว้ว่าตารางซ้อมส่วนมากเป็นการออกแบบมาเฉพาะบุคคล และเฉพาะจุดมุ่งหมายหลักของแต่ละคน ความหนักและรูปแบบมันเฉพาะ ไม่ได้โฆษณาว่าของที่ทำลงเอาไว้ ใช้ได้ดีนะครับ แต่มันคือ "ตารางซ้อมกลางๆ" ของค่าเฉลี่ยทั่วไป เหมือนมาม่าครับ สำเร็จรูป เอาไปปรับไปปรุงเอาเอง ใส่เครื่องปรุงดีๆก็อร่อย ได้ประโยชน์ แต่หวังให้มาม่าอร่อยเป็นอาหารเหลาคงต้องให้เชฟกระทะเหล็กมาแข่งกันทำล่ะครับ ความรู้บ้านๆแบบผมก็ทำได้แค่ลวกมาม่าแจกให้ได้ขิมกัน

ไหนๆก็ขายของขนาดนี้แล้ว ..ผมก็ขอขายต่อเลยแล้วกัน ในโครงการมีนักปั่นที่เริ่มขาดซ้อม เริ่มมีคนมีปัญหาเฉพาะตัวเช่นกดไม่ลง ควงไม่ไป หัวใจสูงเกินในบางบริบท ซึ่งเริ่มกระบวนการแก้ จากนี้จะรวบรวมปัญหาของหนูทดลองคอร์สต่างๆเอาไว้ รวมถึงวิธีแก้ปัญหา และผล ประสิทธภาพของวิธีต่างๆให้ได้ดูเป็นแนวทางด้วย มาม่ามีใส่ไข่ ใส่หมูกันให้ดูว่ามันปรับแก้ได้ ในอนาคตพ้นช่วงฐานไปจะจับมาม่ามาทำมาม่าผัด มาม่ายำ มาม่าทอด

ดังนั้น จบด้วยการขายยาว่า อย่าบืมติดตามนะครับ 555+
สรุปเนื้อหาบรรยาย Intro to Cycling Training
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1241079
Bike and Body Training Community
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... p=12014975
ข่าวสารโครงการฝึกซ้อมสาธิต Bike and Body
viewtopic.php?f=60&t=1241157&p=12019248#p12019248

ลืมไปเรื่อง L/R Balance .. การซ้อมแบบเดียวที่ผมพอจะนึกออกว่ามันให้ประโยชน์ได้สุงมากจนเป็นประเด็นคื short burst หรือ matches boost ประเภท 3 วิ 5 วิ ที่สามารถดูได้ว่าขาสองข้างสร้างพลังระเบิดได้ต่างกันแค่ไหน เพราะบอกตามตรงว่าในการปั่นปกติสามัญ ขนาดตั้งใจย่ำให้มันเี้ยวแบบขี่จริงเบี้ยวจริง มันยังออกมาต่างกันไม่เกิน 5% เลยครับ ขี่้ให้ตายยังไงต่อให้ไม่เท่าก็ออกมา 48%-52% ถ้าจะสนใจค่านี้ ผมสนใจการวัดแยกแต่ละองศารอบวงของ Pioneer มากกว่าเยอะครับ ดังนั้นใครๆถามผมว่าทำไมไม่หาวัตต์วัดสองข้างไม่ดีกว่ารึ? คำตอบผมสั้นและง่ายคือ
...มีก็ดี เผื่อได้ใช้ ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไร

[virus4985]

ค่า2อันแรก ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่ครับ

[โดดเดี่ยว เดียวดาย]

ความรู้ทั้งนั้น

[robyrd]

โดนใจ เจอเขาที่ไรเหวอตลอด

ถ้าเป็นไปได้ ขอติดตามโปรแกรมการซ้อม ตามวัตถุประสงค์ต่อไปนะครับ อาทิ โปรแกรมซ้อมตะลุยอินทนนท์

รอบขา... เห็นด้วยทุกประการ เพราะผมมีความเชื่อว่ารอบขาที่เหมาะมีต่างกันไปในแต่ละคนด้วยซ้ำ แต่ผมก็เชื่ออีกว่า หากคุณต้องการ"เอาดี" คุณต้องซ้อมและพัฒนาแก้ปัญหาให้ได้ ถ้ารอบขาสูงแล้วเปลืองพลังงาน หัวใจสูงแต่ได้แรงบิดลดลง แล้วคุณจำเป็นต้องใช้แน่ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือ คุณต้องไปหาตำรา วิชา คอร์ส กระบวนการในการพัฒนารอบขาขึ้นมาให้ได้ ถ้าคนอีกแบบ(ตรงข้าม) รอบขาดีมาก สวยเลยควงยิกกลมเรียวหัวใจต่ำแรงบิดดี แต่พอลดรอบขาลงมาเหลลือ 80-85 เท่านั้นแหละ ผ่านไป 7 นาทีหน้าเบี้ยว กดไม่ไป ล้าไปหมด พวกนี้เจอเขายอมกราบ แต่มันต้องใช้ ต้องทำไงล่ะครับ ก็หาทางแก้มัน ซ้อมมัน ไปหาคอร์สมา วางตารางล่วงหน้าให้รวมเนื้อหาการแก้ทั้งหมด ซึ่ง "โค้ช" เข้ามามีประโยชน์และบทบาทตรงนี้ไงครับ ถ้าคุณจะ"โค้ช"ตัวเอง คุณต้องมีพื้นฐานความเข้าใจอย่างสำคัญก่อน ไม่งั้นไปเสียเงินจ้างโค้ช หรือไปเข้าร่วมฝึกกับสถาบันต่างๆง่ายกว่าครับ แต่ถ้าไม่สะดวก ต้องขยันอ่านและหาข้อมูล

ผมใช้ Rotor LT ถ้าเกียร์หนักทำได้ TE 85% - 100% เกียร์เบา 60 - 80% Smoothness ค่อนข้างกว่าง คือ 18 - 37% ไม่รู้ว่าถูกต้องแค่ไหน พยายามให้สองค่านี้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

ค่า2อันแรก ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่ครับ

[o_extreme]

ถึงไม่มีให้ใช้ แต่ก็ขอขอบคุณที่สละเวลาพิมพ์ให้ความรู้มากครับ

[jiabhooligan]