@@ ขอเปิดกระทู้แรกของ บอร์ดกลุ่มเมืองจักรยาน นะครับ @@

Nathan

เอาไว้ลงข้อมูลที่ได้รับเวลาที่ออกทริปปั่นกันนักปั่นที่ใช้จักรยานในการเดินทาง ทำงาน(ทำงานจริงๆไม่ได้ปั่นไปทำงาน) มุมมอง แง่คิด ที่ได้รับ

ฺ. .

sookchat

สวัสดี และยินดีกับบอร์ดใหม่นี้ด้วย ผมเองก็ใช้จักรยานปั่นไปทำงานตั้งแต่ 10 ม.ค.52 จนถึงวันนี้ก็ได้4ปีแล้ว แต่ผมปั่นอยู่แถวถนนรามอินทรา แถวสวนสยาม และแยกมีนบุรี เพื่อมีประสบการณ์อะใรดีๆจะได้นำมาแลกเปลี่ยนกันขอบคุณครับ

naigod

ปั่นไปกลับจากบ้านไปทำงาน จากที่ทำงานกลับบ้านวันละประมาณ 10 กิโลเมตร จากวัดนครอินทร์ใต้สะพานพระราม 5 ไป ซอยข้างๆ เซ็ลทรัลรัตนาธิเบศร์ บางทีก็ปั่นเป็นวงกลม บางทีก็ปั่นกลับทางเดิม

Charles

ปั่นไปทำงานทุกวันเหมือนกันครับ

ระยะทางอาจไม่เยอะ แต่ได้เหงื่อดี
ดีกว่าไปรอรถ คนแน่น รอนาน ปั่นไปเรื่อยๆ บางทีถึงเร็วกว่านั่งรถอีกครับ

Clare Dakkini

ปั่นจากมีนบุรีเข้าเมือง และเดินทางทั่วไปค่ะ

jomavox

Nathan เขียน:เอาไว้ลงข้อมูลที่ได้รับเวลาที่ออกทริปปั่นกันนักปั่นที่ใช้จักรยานในการเดินทาง ทำงาน(ทำงานจริงๆไม่ได้ปั่นไปทำงาน) มุมมอง แง่คิด ที่ได้รับ

ฺ. .

ผมขอตีความเปิดกระทู้ว่าใช้จักรยานในการทำงาน ไม่ใช่ปั่นไปทำงาน ( หรือป่าวครับงง)??

ส่วนผมปั่นไป-กลับ ทำงานเจริญนคร-สยาม
14โล เจริญนคร-ข้ามสะพานตากสิน-สาธร-นราธิวาส-สุรวงศ์-อังรีดูนังต์-สยาม
อุบัติเหตุ : เกือบร่วงไปหนึ่งครั้ง ขากลับบ้าน ลงตากสิน เลี้ยวเข้าเจริญนคร

นายมาด

สวัสดีครับ เข้ามาดักหาความรู้ ขอบคุณครับ

umbabab

ปั่นไปทำงาน ลาดพร้าว71 ไป มักสัน ทุกวันครับ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต วันไหนไม่ได้ปั่นนอนไม่หลับ
ใช้เวลาราวๆ30-40นาทีแล้วแต่เลือกเส้นทาง บางทีก็พักกลางทางที่ดินแดง
จุดไหนโล่งจริงๆก็ซิ่ง แต่ถ้าไม่ ก็จะปั่นช้าๆเอาชีวิตไว้ก่อน
เพราะไม่ใช่คนเก่งเรื่องถนนกับจราจร ทางแยกส่วนใหญ่ ใช้วิถีเข็นผ่านเอา คนชอบมองขำๆว่าเราไม่ใจเล้ย
ไม่ได้ใช้จักรยานทำงาน แต่เพราะความอยากสนุก หลายๆครั้งตลอดสามปี เวลาเกิดงานน๊อค รถเสีย คนงานลาหยุด หรือช่วงหยุดยาวปีใหม่ สงกราน ตรุจจีน หรือฉุกเฉิน
ผมจะเอาจักรยานที่ติดตะแกรงข้าง ทั้งหน้าหลัง ออกส่งของทีละ40-50กิโลกรัม กลางถนนใหญ่นี่หละ คนมองผมเหมือนคนบ้า แต่มีความสุขหลายเหอะๆ
ต้องแข่งกับเวลาเพราะคิวลูกค้าเยอะเลยต้องซิ่งทั้งๆที่บรรทุกหนัก กระเป๋าทัวรริ่งขาดไปสองใบ เปลี่ยนเป็นตะแกรงเหล็กแทนเลย
ส่งต่อเนื่องตั้งแต่ตี2ยันเที่ยง ปั่นจักรยานไปเคี้ยวซาละเปาไปแทนข้าวเลย สนุกมาก (ผมติดตะกร้าหน้าเพื่อวางของกินนี่หละ)
แต่ถ้าให้ทำเป็นอาชีพเลยคงไม่ไหว
ส่วนใหญ่จะนิยมปั่นโดยใช้รอบเท้า มากกว่าเกียร์หนักครับ เพราะเริ่มต้นปั่นด้วยรถ20นิ้วที่อัตตราทดไม่เยอะ แล้วมันเคยชิน
ปัญหาที่เป็นมากเวลาต้องปั่นส่งของต่อเนื่องหกเจ็ดชม.ก็คือ ขอบกางเกงในกดทับจนเนื้อก้นช้ำ ตูดด้านก็ช่วยอะไรไม่ได้
แล้วก็ถนนเมืองไทย พอทำสะพานลอยให้คนข้ามแล้ว ทางม้าลายที่มีก็เป็นอันเหมือนไม่มี จักรยานข้ามฟากได้ลำบากเหลือเกิน
บางทีต้องยอมปั่นไปจนถึง4แยกไฟแดงเลย เพื่อจะได้ข้ามไปฝั่งตรงข้าม ใครมีทางออกเรื่องนี้วานบอก

อ้อยหวานบ้านบึง

ผมปั่นอย่ชลบุรี บ้านบึง อากาศดี รถใหญ่น้อย ยินดีต้อนรับทุกชมรม

Nathan

Concept ที่อยากนำเสนอตามที่ได้ระบุเอาไว้ว่า "การใช้จักรยาน ปั่น ทำงาน" นั้นครอบคลุมการปั่นไปทำงานด้วยเพียงแต่ของเสริมรายละเอียดนอกเหนือจากการปั่นปกติ

.

ผมลองทำรายละเอียดแบบนี้นะครับ

.

วันวานนี้ต้องเอารถไปเข้าศูนย์ให้คุณนายที่บ้าน ด้วยความที่อยากลองทำ concept ก้เลยขอคุณนายไม่ต้องไปรับ แต่จะปั่นจักรยานกลับบ้านเอง

วันนั้นผมตัดสินใจเอา BS Transit Compect X bike ล้อ 12 นิ้วออกมาใช้งานเนื่องจากตั้งใจว่า ร้อยละ 95-98 อยู่บนฟุตบาท ตรอก ซอก ซอย แน่ๆ

เส้นทางจากบ้านถึงศูนย์บริการนั้นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ผมออกเดินทางตามเวลาที่ระบุเอาไว้ในรูป (เสียดายที่ resize ผิดพลาดทำให้รูปออกมาเล็กเกินไป ไว้แก้ตัวโอกาสหน้า)

นี่คือเวลาที่ออกเดินทาง

.

เริ่มต้นวัดระยะทางที่ใช้จาก 00

.

ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 18 นาที

.

กับระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เท่ากับว่าผมใช้ความเร็วเฉลี่ย ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเท่ากับการใช้จักรยานปั่นแบบขออ่อน

.

จากนั้นก็ใช่เวลาในการประสานงานแล้วก็เดินทางกลับบ้านที่ห่างออกไป 6 กิโล เวลาในการเริ่มต้นการเดินทางกลับ

.

ผมยังเน้นที่การเดินทางบนฟุตบาทแบบย้อนศร ไม่ลงถนนเพราะยังยึดหลักการไม่ปั่นย้อนศรซึ่งอาจจะเป็นการก่อให้เกิดอันตรายในการใช้จักรยานและผู้ร่วมทาง

.

อุปสรรคแรกที่เจอเลยคือท่านผู้ว่าและผู้สมัครผู้ว่าสมัยหน้า ปัญหาคือท่านติดป้ายในลักษณะนี้ สังเกตุเห้นอะไรไหมครับ . . ขณะที่ผมปั่นจักรยานผ่านมาก็มีความรู้สึกว่า "ใครมาเคาะหัวผม" จึงหยุดรถแล้วหันไปมองหน้า กะว่าจะหาเรื่องเต็มๆ พอหันไปเท่านั้น ไม่กล้าหาเรื่องครับ เพราะเป็นท่านผู้ว่าฯนั่นเอง ป้านหาเสียงที่ติดตั้งในลักษณะนี้ มีอันตรายต่อการใช้งานจักรยานเพราะเวลาที่เราใช้จักรยาน ส่วนสูงจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 20-30 เซ็นติเมตร ทีนี้ขาของป้ายที่ไม่ได้ "ตัดออก" นั้นมันยื่นลงมา "เคาะหัว " ผู้ผานไปผ่านมา ผมก็คนหนึ่งละที่โดน อย่างไรฝากให้ผู้สมัครทุกๆท่านกรุณา "มอง" ให้ออกนะครับ ไม่งั้นเสียคะแนนไม่รู้ด้วย

.

จากนั้นก็ปั่นเลียบทางมาเรื่อยๆกระทั่งถึงบริเวณทางเบี่ยงที่จะเบี่ยงเข้าสูงถนนเลียบด่วน บริเวณนั้นมีเสาไฟต้นสูงๆ งบเยอะๆ ตั้งตระหง่านเอาไว้ มีช่องทางให้เดิน เลี่ยง เบี่ยงได้เพียงเล็กน้อยไม่เกิน 30 เซ็นติเมตร จุดนี้ต้องเข็นรถผ่านอย่างเดียว ไม่กล้าเสี่ยงปั่นเพราะด้านข้างๆนั้นไม่มีพื้นที่รองรับการล้ม

.

รูปชัดๆเหมือนใหญ่ แต่ไม่ใหญ่ครับ

.

จากนั้นก็มีกระถางที่เอาไว้น่าจะเพื่อความปลอดภัยว่าเป็นการแบ่งระหว่าง ฟุตบาท กับ พื้นถนนเพื่อป้องกันรถยนต์สับสนขับขึ้นมาบนทางเท้า แต่ผมว่ามันใหญ่ไปหน่อย กินพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทางเท้า ดีว่าเอาล้อ 12 มานะครับ ไม่งั้น มีล้ม

.

ปัญหาต่อมาจากปากทางนวลจันทร์สามแยกตรงกันข้ามกับปั๊ม Esso ที่กลุ่ม 99 นัดรวมพลกันทุกๆวันอาทิตย์นั้น ตลอดเส้นทางมี Big Foot หรือแปลเป็นภาไทยว่า "ขาใหญ่" จอดใช้บริการทั้งเหลื่อมและบน ทางเท้า ในลักษณะกีดขวางการจราจรซึ่งผมไม่เข้าใจว่าใครจะเป็นผู้ควบคุมการจอดในลักษณะนี้ได้ (กรณีนี้ web จราจรตาเพชรก็ไม่ยอมให้ user ทั่วๆไปส่ง แจ้ง ข่าวเพราะกลัวงานจะเยอะ เอ๊ย ! ! กลัวว่าจะมีการกลั่นแกล้งทางรุปภาพ แต่ทีทางเท้าโดนไม่เห้นสนใจ) ส่วนแท่งปูนหน้าโรงเรียน เป็นแท่งขนาดใหญ่ไม่ทราบที่มา ที่ไป (เพราะถ้าทราบที่ไป แท่งปูนนี้คงไปดี แล้ว ว ว) ซึ่งการจอดรถบนทางเท้าส่วนใหญ่ไม่สามารถผ่านไปได้เพราะระยะยนั้นไม่พ้นความกว้างของแฮนด์รถแน่ๆ ขนาดคนเดินยังต้องเบี่ยง (คนอ้วนเดินผ่านไม่ได้ต้องลงเดินถนนเหมือนกัน)

.

ขากลับผมใช้เส้นทางอ้อมสักเล้กน้อยเพราะไม่อยากไปเบียดกับรถบนถนนที่บริเวณเชิงสะพานลอยแยก กม.8 ที่ไม่มีพื้นทางเท้าให้ปั่น จึงเลี้ยวอ้อมไปทางถนนนวมินทร์ เลยได้ระยะเพิ่มอีกประมาณ 1 กิโล
สรุปว่าปั่นกลับบ้านใช้เวลาไป 42 นาที ต่อระยะทาง 7 กิโลเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับขาไปแล้ว ใช้เวลามากกว่าเป็น 2 เท่า แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การ burn อาหารเช้าที่ไม่ต้องแปลงเป้นไขมันเก้บสะสมเอาไว้ , ค่าน้ำมันรถที่ใช้ในระยะทาง 6 กิโลเมตรประมาณ 35 บาท ยังไม่รวมค่าการสึกหรอ , ค่ามลพิษที่เพิ่มขึ้นซึ่งไม่สามารถวัดออกมาเป็นมูลค่าได้ กับข้อสุดท้าย กับการได้เห็นสภาพพื้นผิวการจราจรที่ ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้จักรยานเท่าที่ควร . .

.
.

หมายเหตุ : ไม่มีเจตนา post รถที่จอดกีดขวางบนทางเท้านะครับ กล้องผมมันถ่ายการเดินทางติดมาเอง

.
.