????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: บ่ายวันหนึ่งของก่อนปีใหม่ ประวิทย์ขับรถไปเที่ยวนอกเมืองกับเพื่อน พอจอดรถที่ลานวัด ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินถือถุงผักเข้ามาเสนอขาย

แต่ผักในมือของชายชรา เหมือนจะช้ำน้ำและดูไม่น่าซื้อเลย ประวิทย์ตัดสินใจซื้อผักของชายชรา 3 ถุง

เมื่อชายชราได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกเกรงใจว่า "ผักกาดพวกนี้ตาเป็นคนปลูกเอง แต่ว่าช่วงก่อนฝนตกหนัก ผักถูกน้ำแช่ไว้หลายวัน เลยดูช้ำไปหน่อย ต้องขออภัยพ่อหนุ่มนะ!"

หลังจากชายชราเดินจากไป เพื่อนของเขาได้เอ่ยขึ้นว่า "ลื้อจะเอาผักกาดไปแกงจริงเหรอ?" "บ้าเหรอ! ผักช้ำจนกินไม่ได้ นายก็เห็นอยู่!" ประวิทย์ตอบ "แล้วลื้อซื้อทำไมวะ?" เพื่อนถามด้วยความไม่เข้าใจ "เพราะอั้วเชื่อว่าผักช้ำน้ำแบบนี้ไม่มีใครซื้อหรอก แต่หากอั๊วไม่ซื้อ ตาแก่คงไม่มีเงิน"

เมื่อเพื่อนเขาได้ฟังดังนั้น ก็วิ่งตามชายชราพร้อมตะโกนเรียกให้หยุด และขอซื้อผักกาดจำนวน 3 ถุงที่เหลือ

ชายชรายิ้มขึ้นมาอีกครั้งและพูดว่า "ตาเอาผักมาขายตั้งแต่เช้า ไม่มีใครซื้อเลย มีแต่พ่อหนุ่มและเพื่อนที่ซื้อผักของตา ขอบคุณจริง ๆ ขอให้พ่อหนุ่มและเพื่อนจงมีความเจริญนะ"

ในวันที่คุณตกอับ สิ่งที่ยังพอทำให้คุณอยู่รอด อาจเป็นเพียงสิ่งด้อยค่าในสายตาใคร ๆ คุณในขณะนั้น รอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นสักครั้ง แต่ในขณะที่คุณมีพละกำลัง คุณยินดีสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดกับชีวิตของคนอื่นหรือไม่?

เราต่างเป็นผู้อุปถัมภ์

นุสนธิ์บุคส์
:idea: :idea:

:) :D บทความข้างต้นซึ้งและกินใจ ผมอ่านทบทวนหลาย ๆ ครั้งน้ำตาซึมครับ ชีวิตผมช่างเหมือนกับชายชรา โชคชะตายามอับจนขัดสนแทบล้มทั้งยืน ถูกกระทำซ้ำเติม ยังมีนายและเพื่อน ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทำให้ชีวิตเดินต่อไปได้ ไม่ถึงทางตัน ถ้ามันถึงทางตันไม่รู้ว่าชีวิตจะจบอย่างไร ขอบคุณนายที่คิดถึงผมจดจำไว้ติดใจไม่มีวันลืมแม้ท่านจะจากไปแล้ว แต่ผมก็ทดแทนพระคุณท่านด้วยการทำงานอย่างเต็มความสามารถแล้วนะครับ :) :D
ไฟล์แนบ
ซานฟงคาเฟ เป็นร้านกาแฟที่มีอาหารให้ทานเยอะแยะมากมายหลากหลายเมนู เจ้าของร้านใจดีเป็นกันเอง นั่งจิบกาแฟชมวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านชนเผ่าเย้า เรียกว่าได้อรรถรสคุ้มค่าคุ้มราคา การันตีครับ<br /><br />ที่อยู่: 15 ตำบล แจ้ซ้อน อำเภอ เมืองปาน ลำปาง 52240 เวลาทำการ: ⋅ เปิด 07:00 โทรศัพท์: 062 232 4647
ซานฟงคาเฟ เป็นร้านกาแฟที่มีอาหารให้ทานเยอะแยะมากมายหลากหลายเมนู เจ้าของร้านใจดีเป็นกันเอง นั่งจิบกาแฟชมวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านชนเผ่าเย้า เรียกว่าได้อรรถรสคุ้มค่าคุ้มราคา การันตีครับ

ที่อยู่: 15 ตำบล แจ้ซ้อน อำเภอ เมืองปาน ลำปาง 52240 เวลาทำการ: ⋅ เปิด 07:00 โทรศัพท์: 062 232 4647
229449.jpg (93.91 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229450.jpg
229450.jpg (110.31 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229451.jpg
229451.jpg (116.14 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229453.jpg
229453.jpg (135.58 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229457.jpg
229457.jpg (78.2 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229458.jpg
229459.jpg
229459.jpg (65.45 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229460.jpg
229461.jpg
229462.jpg
229462.jpg (129.37 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229463.jpg
229463.jpg (90.58 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229464.jpg
229464.jpg (145.08 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229465.jpg
229465.jpg (140.54 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229467.jpg
229467.jpg (115.85 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229468.jpg
229468.jpg (143.83 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229469.jpg
229470.jpg
229470.jpg (125.87 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229473.jpg
229473.jpg (130.34 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229476.jpg
ออกจากซานฟงคาเฟ เราขับรถล่องไปถึง บ.แจ๋ม ไปเยี่ยมชมรีสอร์ท &quot;หนุนนอน&quot; ที่แสนจะอลังการ ตั้งอยู่ที่ ๒๐๒ ม.๑ บ้านแม่แจ๋ม ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โทร ๐๙๔ ๕๑๓ ๑๕๓๙<br /><br />เราไม่ได้ไปพักแต่เราไปเที่ยวชมเพราะข่าวลือว่าสถานที่สวยเหมาะแก่การพักผ่อน เมื่อไปถึงก็สวยสมกับที่ลือ พนักงานต้อนรับดีมาก ๆ ราคาห้องต่อคืนน่าจะประมาณ ๒ - ๓๐๐๐ บาท แต่คิดว่าเหมาะสม
ออกจากซานฟงคาเฟ เราขับรถล่องไปถึง บ.แจ๋ม ไปเยี่ยมชมรีสอร์ท "หนุนนอน" ที่แสนจะอลังการ ตั้งอยู่ที่ ๒๐๒ ม.๑ บ้านแม่แจ๋ม ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โทร ๐๙๔ ๕๑๓ ๑๕๓๙

เราไม่ได้ไปพักแต่เราไปเที่ยวชมเพราะข่าวลือว่าสถานที่สวยเหมาะแก่การพักผ่อน เมื่อไปถึงก็สวยสมกับที่ลือ พนักงานต้อนรับดีมาก ๆ ราคาห้องต่อคืนน่าจะประมาณ ๒ - ๓๐๐๐ บาท แต่คิดว่าเหมาะสม
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D
ไฟล์แนบ
229479.jpg
229480.jpg
229483.jpg
229483.jpg (115.86 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
พอสมควรแก่เวลาเราก็พากันกลับที่พักของเราครับ
พอสมควรแก่เวลาเราก็พากันกลับที่พักของเราครับ
ขากลับน้าเยาว์พาแวะชมรีสอร์ท แฟเมี่ยง ซึ่งเป็นหลานของน้านงเยาว์ ที่พักรับรองน่าพักมากเรียกว่าได้ใจแน่นอน ราคากันเองเบา ๆ พร้อมอาหารเช้า อาหารเย็นจะเป็นชุดซาสิมิ ๑ ชุดต่อห้อง น่าสนใจไปชมบรรยากาศครับ
ขากลับน้าเยาว์พาแวะชมรีสอร์ท แฟเมี่ยง ซึ่งเป็นหลานของน้านงเยาว์ ที่พักรับรองน่าพักมากเรียกว่าได้ใจแน่นอน ราคากันเองเบา ๆ พร้อมอาหารเช้า อาหารเย็นจะเป็นชุดซาสิมิ ๑ ชุดต่อห้อง น่าสนใจไปชมบรรยากาศครับ
229490.jpg
229490.jpg (128.54 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229492.jpg
229492.jpg (123.33 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229493.jpg
229493.jpg (134.37 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229494.jpg
229495.jpg
229495.jpg (97.01 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229496.jpg
229497.jpg
229498.jpg
229501_0.jpg
229501_0.jpg (88.73 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229502_0.jpg
229502_0.jpg (107.67 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
229503.jpg
229503.jpg (118.2 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
กลับถึงที่พักเกือบ  ๖ โมงเย็น เรียกว่าเที่ยวเพลินเลยละครับ อากาศเย็นวันที่ ๓๑ ไม่ธรรมดาถ้าไม่มีน้ำอุ่นคงอาบน้ำกันไม่ได้แน่นอน กลับถึงที่พักก็รีบทำภารกิจ ทานข้าวร่วมกันสนทนากันตามประสาที่ไม่ได้พบปะกันมานาน กว่าจะแยกย้ายกันเข้านอนก็ดึกพอสมควร<br /><br />รุ่งเช้า ๑ ม.ค.๒๕๖๖ ปีใหม่ สวัสดีปีใหม่กันด้วยกาแฟสนุกสนานก่อนที่จะเก็บข้าวของเดินทางกลับบ้านสารภี ปีใหม่ปีนี้ราบรื่นหวังใจว่าชีวิตคงจะเดินทางไปด้วยความสุข สงบ ร่มเย็นไปตลอดทั้งปี ขออำนวยอวยพรให้ทุก ๆ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมจงมีแต่ความสุข สนุกสนาน เบิกบาน ร่มเย็น แคล้วคาดจากภยันตรายทั้งทั้งปวงทุกท่านทุกคนนะครับ<br /><br />หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าของ จอห์น เลนน่อน ศิลปินชื่อดังว่า ในชั้นเรียนครูให้โจทย์นักเรียนในชั้นว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กบางคนตอบว่าอยากเป็นนักบินอวกาศ บางคนว่าอยากเป็นศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง แต่เมื่อครูเปิดอ่านคำตอบของนักเรียนคนหนึ่งกลับเจอคำตอบว่า &quot;เป็นคนมีความสุข&quot;<br /><br /> ครูเดินเข้าไปหาเด็กคนนี้แล้วกล่าวว่า จอห์น เธอไม่เข้าใจสิ่งที่ครูถามนะ แต่จอห์น กลับตอบไปว่า ครูต่างหากที่ไม่เข้าใจชีวิต<br /><br />แล้วทุกท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรครับ ?
กลับถึงที่พักเกือบ ๖ โมงเย็น เรียกว่าเที่ยวเพลินเลยละครับ อากาศเย็นวันที่ ๓๑ ไม่ธรรมดาถ้าไม่มีน้ำอุ่นคงอาบน้ำกันไม่ได้แน่นอน กลับถึงที่พักก็รีบทำภารกิจ ทานข้าวร่วมกันสนทนากันตามประสาที่ไม่ได้พบปะกันมานาน กว่าจะแยกย้ายกันเข้านอนก็ดึกพอสมควร

รุ่งเช้า ๑ ม.ค.๒๕๖๖ ปีใหม่ สวัสดีปีใหม่กันด้วยกาแฟสนุกสนานก่อนที่จะเก็บข้าวของเดินทางกลับบ้านสารภี ปีใหม่ปีนี้ราบรื่นหวังใจว่าชีวิตคงจะเดินทางไปด้วยความสุข สงบ ร่มเย็นไปตลอดทั้งปี ขออำนวยอวยพรให้ทุก ๆ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมจงมีแต่ความสุข สนุกสนาน เบิกบาน ร่มเย็น แคล้วคาดจากภยันตรายทั้งทั้งปวงทุกท่านทุกคนนะครับ

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าของ จอห์น เลนน่อน ศิลปินชื่อดังว่า ในชั้นเรียนครูให้โจทย์นักเรียนในชั้นว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กบางคนตอบว่าอยากเป็นนักบินอวกาศ บางคนว่าอยากเป็นศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง แต่เมื่อครูเปิดอ่านคำตอบของนักเรียนคนหนึ่งกลับเจอคำตอบว่า "เป็นคนมีความสุข"

ครูเดินเข้าไปหาเด็กคนนี้แล้วกล่าวว่า จอห์น เธอไม่เข้าใจสิ่งที่ครูถามนะ แต่จอห์น กลับตอบไปว่า ครูต่างหากที่ไม่เข้าใจชีวิต

แล้วทุกท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรครับ ?
229505_0.jpg (36.8 KiB) เข้าดูแล้ว 1045 ครั้ง
FB_IMG_1672653319651.jpg
FB_IMG_1672653319651.jpg (116.9 KiB) เข้าดูแล้ว 1031 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:o :o 27 พฤศจิกายน 2565 – ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม รายงานว่าภายหลังสถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลาย อีกทั้งมีการปลดล็อกด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่ง ที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ตลอดจนจุดผ่อนปรน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ในพื้นที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีประชาชนทั้งชาวไทยชาวลาวเดินทางผ่านแดน ข้ามไปมาเพื่อท่องเที่ยว ระหว่างนครพนม กับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาวกันจำนวนมากส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในสองประเทศ

โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด จะคึกคักเป็นพิเศษ นอกจากนักท่องเที่ยวหลังได้กราบไหว้ขอพรองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อายุเก่าแก่ กว่า 2,500 ปีที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม ซึ่งภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ยังได้ไปกราบขอโชคลาภจากองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพราะมีผู้โชคดีจากการเสี่ยงโชคมาแล้วหลายราย อีกทั้งยังเชื่อว่าพญาศรีสัตตนาคราช นอกจากจะโดดเด่นด้านโชคลาภแล้ว เรื่องหน้าที่การงานก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มีจำนวนมากที่มาขอพรให้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก็สัมฤทธิ์ผล ดังนั้นรอบบริเวณดังกล่าวจึงมีโต๊ะบวงสรวงตั้งเรียงรายอยู่หลายจุด

ล่าสุดช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ มีรถทัวร์ รถตู้นำพานักท่องเที่ยวมาเป็นหมู่คณะ ตลอดจนรถยนต์ส่วนตัวเดินทางมากราบไหว้ขอพรต่อองค์พญาศรีสัตตนาคราชอย่างเนืองแน่น ในขณะที่ทางเทศบาลเมืองนครพนม ได้ให้เทศกิจร่วมกับ สภ.เมืองนครพนม จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกรวมถึงความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และมีรถรางรองรับเพื่อพานักท่องเที่ยวชมเมืองอีกด้วย

จาก นสพ.ไทยโพสต์ 27 พฤศจิกายน 2565 เวลา 7:19 น.
:) :)

:) :D อรุณสวัสดิ์ท่านผู้มีเกียรตืที่เคารพ ได้อ่านข่าวข้างต้นแล้ว คิดนะครับว่า เราสองคนโชคดีสุด ๆ เพราะ นครพนมเราไปก่อนที่จะเกิดกระแส นทท.แห่กันมาเที่ยว เราไปตั้งแต่ ๘ - ๒๐ พ.ย.๖๕ ตามอุดมการณ์และปณิธานที่ตั้งไว้ว่า "จะเที่ยวเมืองรองให้หมด" เราท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ แบบมีความสุขตลอดเส้นทางไม่ต้องแย่งที่กิน แย่งที่พัก ที่เที่ยว ไม่แออัด ชิลล์ ๆ สนุกสนานเบิกบานหัวใจ

กลับถึงบ้านไม่กี่วันนครพนมกลายเป็นที่ท่องเที่ยวติดเทรนด์ นทท.แห่กันไปเที่ยวดังกล่าว ดีใจมาก ๆ เหมือนเราได้ทำหน้าที่นำร่องไปด้วย ส่วนการกลับมาแล้วนำมาเล่าเรื่องราวสู่ท่านผู้มีเกียรติ ครั้งนี้ถือว่าช้า เนื่องจากภารกิจเยอะมากเอาใกล้ ๆ เราก็พึ่งกลับถึงบ้านเมื่อวานตอนเย็น ไปร่วมงานแต่งของลูกเพื่อน ดารา ๒ ที่ กทม.(๘ - ๑๐ ม.ค.๖๖) นอกนั้นก็มีงาน งานขาวดำขึ้นบ้านใหม่ ฯ และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เราก็หลบไปวิเวกที่ บ.ปางไฮ ซึ่งได้กลับมาเล่าพึ่งจบไป

จากนี้ไปผมก็จะนำเสนอ นครพนม ตามที่เรา ๒ คนได้ไปยลไปเยี่ยมไปสัมผัสมา ติดตามให้กำลังใจกันเหมือนเดิมนะครับ ขอบคุณมากครับ
:) :D
ไฟล์แนบ
จริง ๆ นะครับชีวิตเราเหลือน้อยลงทุกวัน ๆ เมืองรองที่เราตั้งใจไว้จะไปหมดไหมนี่ ยังเป็นคำถามแต่ผมจะต้องไปให้จนครบครับให้ได้ คงไม่ตายเสียก่อน ๕๕๕๕
จริง ๆ นะครับชีวิตเราเหลือน้อยลงทุกวัน ๆ เมืองรองที่เราตั้งใจไว้จะไปหมดไหมนี่ ยังเป็นคำถามแต่ผมจะต้องไปให้จนครบครับให้ได้ คงไม่ตายเสียก่อน ๕๕๕๕
99723.jpg (76.21 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
3297.jpg
3297.jpg (49.35 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221108190848.jpg
IMG20221108190848.jpg (17.18 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221108191225.jpg
IMG20221108191225.jpg (114.37 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221108191254.jpg
IMG20221108191254.jpg (91.86 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
พยากรณ์ปรากฏการณ์ของธรรมชาติสมัยนี้ แม่ยำมาก ๆ วันที่ ๘ พ.ย.เราจะมีโอกาสเห็นจันทรุปราคาเต็มดวง ก็ได้เห็นจริง ๆ วันนั้นให้ลูกชายพาเราไปส่งที่อาเขตเพื่อขึ้นรถไปนครพนมโดยบริษัทเพชรประเสริฐไปถึงอาเขตได้ยินเสียงคนเคาะหม้อไหกะลามัง ตามความเชื่อเรานึกขึ้นได้ รีบแหงนดูท้องฟ้า ก็เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ จริง ๆ นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นปรากฏการณ์นี้ และเหตุการณ์เช่นนี้ผมมักไม่พลาดเสมอ ๆ ครับ<br /><br />รถออกเวลา ๑๙.๓๐ น.คนแน่นนี่ถ้าไม่จองล่วงหน้า &quot;อด&quot; ปัจจุบันนี้จะไปไหนมาไหนอย่าชล่าใจนะครับ จองตั๋วก่อนกันพลาดครับ
พยากรณ์ปรากฏการณ์ของธรรมชาติสมัยนี้ แม่ยำมาก ๆ วันที่ ๘ พ.ย.เราจะมีโอกาสเห็นจันทรุปราคาเต็มดวง ก็ได้เห็นจริง ๆ วันนั้นให้ลูกชายพาเราไปส่งที่อาเขตเพื่อขึ้นรถไปนครพนมโดยบริษัทเพชรประเสริฐไปถึงอาเขตได้ยินเสียงคนเคาะหม้อไหกะลามัง ตามความเชื่อเรานึกขึ้นได้ รีบแหงนดูท้องฟ้า ก็เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ จริง ๆ นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นปรากฏการณ์นี้ และเหตุการณ์เช่นนี้ผมมักไม่พลาดเสมอ ๆ ครับ

รถออกเวลา ๑๙.๓๐ น.คนแน่นนี่ถ้าไม่จองล่วงหน้า "อด" ปัจจุบันนี้จะไปไหนมาไหนอย่าชล่าใจนะครับ จองตั๋วก่อนกันพลาดครับ
IMG20221108192500.jpg (113.36 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109011802.jpg
IMG20221109011802.jpg (81.62 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109062730.jpg
IMG20221109062730.jpg (70.06 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109070700.jpg
IMG20221109070700.jpg (92.72 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109071610.jpg
IMG20221109071610.jpg (78.26 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109103041.jpg
IMG20221109103041.jpg (97.52 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109105604.jpg
IMG20221109105604.jpg (97.96 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109112826.jpg
IMG20221109112826.jpg (98.39 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109112914.jpg
IMG20221109112914.jpg (64.75 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109113342.jpg
IMG20221109113342.jpg (95.68 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109114609.jpg
IMG20221109114614.jpg
ถึงนครพนมเที่ยงกว่า ๆ เกิดอาการหิวเล็ก ๆ โชคดีที่คุณนายเป็นคนรอบคอบไปไหนมาไหน จะซื้อตุนขนมนมเนยไว้เสมอ ๆ ทำให้ความหิวไม่ทำให้เราเสียความรู้สึก ลงรถก็ประกอบรถและเครื่องสัมภาระต่าง ๆ เมื่อเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปยัง รร.ที่คุณนายจองไว้ก่อนเดินทาง แต่สิ่งแรกเราต้องไปหาก่อนคือร้านอาหารเพื่อเติมพลังให้กับร่างกาย คิดถึงร้านเจก็ตรงไปที่ร้านอาหารเจโดยปักหมุดที่ GPS พอไปถึงปรากฏว่าอาหารหมดก่อนเวลาเขากำลังล้างจานล้างหม้อเตรียมปิดร้าน ก็ต้องหาที่ใหม่ต่อไป
ถึงนครพนมเที่ยงกว่า ๆ เกิดอาการหิวเล็ก ๆ โชคดีที่คุณนายเป็นคนรอบคอบไปไหนมาไหน จะซื้อตุนขนมนมเนยไว้เสมอ ๆ ทำให้ความหิวไม่ทำให้เราเสียความรู้สึก ลงรถก็ประกอบรถและเครื่องสัมภาระต่าง ๆ เมื่อเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปยัง รร.ที่คุณนายจองไว้ก่อนเดินทาง แต่สิ่งแรกเราต้องไปหาก่อนคือร้านอาหารเพื่อเติมพลังให้กับร่างกาย คิดถึงร้านเจก็ตรงไปที่ร้านอาหารเจโดยปักหมุดที่ GPS พอไปถึงปรากฏว่าอาหารหมดก่อนเวลาเขากำลังล้างจานล้างหม้อเตรียมปิดร้าน ก็ต้องหาที่ใหม่ต่อไป
IMG20221109121155.jpg (139.04 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
IMG20221109122930.jpg
ร้านครัวเวียตนาม เป็นร้านที่คุณนายมั่นใจว่าต้องทำมัง ฯ ได้ เพราะจำได้เมื่อครั้งที่เราปั่นไปเวียตนาม สองสามครั้งไม่ผิดหวังเรื่องอาหารมังสวิรัติเลย เพราะคนเวียตนามก็นับถือพุทธศาสนาสายมหายาน นิยมกินเจกันเหมือนชาวจีน นับถือเจ้าแม่กวนอิมเช่นกัน จอดรถหน้าร้านก่อนที่จะเข้าไปในร้าน เห็นทิวทัศน์ในร้านแล้วเราถูกใจมาก ๆ มีการตกแต่งประดับประดาสวยงาม ไม่ต่างกับภัตตราคาร และทีนี่เราก็ได้พบกับกัลญาณมิตรของเราด้วย เรียกว่าเป็นอะไรที่ ฟ้าประทาน จริง ๆ เหลือเชื่อและก็ต้องเชื่อครับ
ร้านครัวเวียตนาม เป็นร้านที่คุณนายมั่นใจว่าต้องทำมัง ฯ ได้ เพราะจำได้เมื่อครั้งที่เราปั่นไปเวียตนาม สองสามครั้งไม่ผิดหวังเรื่องอาหารมังสวิรัติเลย เพราะคนเวียตนามก็นับถือพุทธศาสนาสายมหายาน นิยมกินเจกันเหมือนชาวจีน นับถือเจ้าแม่กวนอิมเช่นกัน จอดรถหน้าร้านก่อนที่จะเข้าไปในร้าน เห็นทิวทัศน์ในร้านแล้วเราถูกใจมาก ๆ มีการตกแต่งประดับประดาสวยงาม ไม่ต่างกับภัตตราคาร และทีนี่เราก็ได้พบกับกัลญาณมิตรของเราด้วย เรียกว่าเป็นอะไรที่ ฟ้าประทาน จริง ๆ เหลือเชื่อและก็ต้องเชื่อครับ
IMG20221109123050.jpg (145.13 KiB) เข้าดูแล้ว 985 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 19 ม.ค. 2023, 07:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:o :o อรุณสวัสดิ์ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ นครพนมแตกแล้วครับเมื่อ นทท.ต่างแห่กันไปเที่ยวอย่างเนืองแน่นติดตามชมคลิปที่ผมนำเสนอต่อไปนี้ครับ :o :o

:) :D แตกแล้ว!! นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดคนหลั่งไหลมาที่นี่..Nakhonphanom Winter Festival 2023#นครพนม :) :D

:idea: :idea: มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้ ในสังคมย่อมมีผู้นำ นำดี สังคมก็เจริญรุ่งเรืองนำไม่ดีก็พากันทุกข์ระทมดังพุทธภาษิตที่กล่าวไว้ว่า :

เมื่อฝูงโคข้ามน้ำ
ถ้าโคจ่าฝูงไปคดเคี้ยว
โคทั้งฝูงก็ไปคดเคี้ยวตามกัน
ในเมื่อโคจ่าฝูงไปคดเคี้ยว

ในหมู่มนุษย์ก็เหมือนกัน
ผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้เป็นใหญ่
ถ้าผู้นั้นประพฤติไม่เป็นธรรม ประชาชนชาวเมืองนั้นก็จะประพฤติไม่เป็นธรรมตามไปด้วย
หากพระราชาไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ชาวเมืองนั้นก็อยู่เป็นทุกข์

เมื่อฝูงโคข้ามน้ำไป
ถ้าโคจ่าฝูงไปตรง
โคทั้งฝูงก็ไปตรงตามกัน
ในเมื่อโคจ่าฝูงไปตรง

ในหมู่มนุษย์ก็เหมือนกัน
ผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้เป็นใหญ่
ถ้าผู้นั้นประพฤติชอบธรรม
ประชาชนชาวเมืองนั้นก็จะประพฤติชอบธรรมตามไปด้วย
หากพระราชาตั้งอยู่ในธรรม
ชาวเมืองนั้นก็อยู่เป็นสุข

จาก อธัมมิกสูตร อังคุตตรนิกาย จตุกกานิบาต พระสุตตันตปิฏก ฉบับมหาจุฬา ฯ
:idea: :idea:
ไฟล์แนบ
IMG20221109124411.jpg
IMG20221109124411.jpg (122.95 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
ครัวเวียตนามทำอาหารมังสวิรัติได้อร่อยมาก ๆ  ครับไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้เจอร้านที่ถูกใจ ไม่ต้องสงสัยนะครับผมและคุณนายฝากท้องไว้ที่ร้านนี้แน่นอนในช่วงที่อยู่นครพนม ยังไม่พอนะครับเจ้าของร้านเสนอเมนูกาแฟ เป็นกาแฟสดน้ำมะพร้าว ปกติผมจะเป็นคนที่ดื่มกาแฟ(ติดเลย อิอิ)ไม่นิยมดื่มแบบผสมอะไรให้เสียรส แต่เจ้าของร้านการันตีรับรองจะติดใจ ผมก็เลยตัดใจทดทอง(ฝืน ๆ ) ที่ไหนได้เป็นเช่นเจ้าของร้าแนะนำจริงอร่อยกลมกล่อมหอม ชื่นใจ (ไม่แนน่ ๕๕ ใจเริ่มเหแล้ว เออ..ต่อไปสงสัย สงสัยจะเปลี่ยนใจไปตามกระแส ซะแล้ว)
ครัวเวียตนามทำอาหารมังสวิรัติได้อร่อยมาก ๆ ครับไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้เจอร้านที่ถูกใจ ไม่ต้องสงสัยนะครับผมและคุณนายฝากท้องไว้ที่ร้านนี้แน่นอนในช่วงที่อยู่นครพนม ยังไม่พอนะครับเจ้าของร้านเสนอเมนูกาแฟ เป็นกาแฟสดน้ำมะพร้าว ปกติผมจะเป็นคนที่ดื่มกาแฟ(ติดเลย อิอิ)ไม่นิยมดื่มแบบผสมอะไรให้เสียรส แต่เจ้าของร้านการันตีรับรองจะติดใจ ผมก็เลยตัดใจทดทอง(ฝืน ๆ ) ที่ไหนได้เป็นเช่นเจ้าของร้าแนะนำจริงอร่อยกลมกล่อมหอม ชื่นใจ (ไม่แนน่ ๕๕ ใจเริ่มเหแล้ว เออ..ต่อไปสงสัย สงสัยจะเปลี่ยนใจไปตามกระแส ซะแล้ว)
IMG20221109133256.jpg (71.04 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (34).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (34).jpg (71.71 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (37).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (37).jpg (93.61 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (41).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (41).jpg (100.64 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (42).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (42).jpg (124.73 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (46).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (46).jpg (135.27 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
บิลลงขนมเบี้ยงญวนหมู อย่าเข้าใจผิดครับ ความจริงคือขนมเบื้อง มังสวิรัติครับ ไม่ใช่หมูคงเป็นความเคยขินของเด็กที่คิดเงิน
บิลลงขนมเบี้ยงญวนหมู อย่าเข้าใจผิดครับ ความจริงคือขนมเบื้อง มังสวิรัติครับ ไม่ใช่หมูคงเป็นความเคยขินของเด็กที่คิดเงิน
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (48).jpg (85.63 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เจ้าของร้าน เจ๊อารีย์ เป็นนักปั่นด้วย คุยกันถูกคอ แกแนะนำอาหารต่าง ๆ มากมายที่สำคัญจิตใจดีงามมาก ๆ (เมื่อ ๘-๑๐ เธอขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือ เสียดายผมและคุณนายติดงานแต่งหลานที่ กทม.เลยไม่ได้อยู่ต้อนรับ)
เจ้าของร้าน เจ๊อารีย์ เป็นนักปั่นด้วย คุยกันถูกคอ แกแนะนำอาหารต่าง ๆ มากมายที่สำคัญจิตใจดีงามมาก ๆ (เมื่อ ๘-๑๐ เธอขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือ เสียดายผมและคุณนายติดงานแต่งหลานที่ กทม.เลยไม่ได้อยู่ต้อนรับ)
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (49).jpg (96.06 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
IMG20221109135115.jpg
ก่อนจะอำลาไปหาที่พัก ปรากฏว่าที่พักของเราที่จองไว้อยู่ใกล้ ๆ กับร้านครัวเวียตนามพอดิบพอดี อะไรจะมาโชคดีขนาดนี้ ทริปนี้ต้องมีความสุขไม่ผิดหวังแน่นอน คุณอารีย์และคุณนายแลกเบอร์โทร ฯ และคิวอาร์โคดไลน์ เพื่อไปติดต่อกันและกัน เราได้กัลญาณมิตรที่นครพนมครับ โชคดีสุด ๆ
ก่อนจะอำลาไปหาที่พัก ปรากฏว่าที่พักของเราที่จองไว้อยู่ใกล้ ๆ กับร้านครัวเวียตนามพอดิบพอดี อะไรจะมาโชคดีขนาดนี้ ทริปนี้ต้องมีความสุขไม่ผิดหวังแน่นอน คุณอารีย์และคุณนายแลกเบอร์โทร ฯ และคิวอาร์โคดไลน์ เพื่อไปติดต่อกันและกัน เราได้กัลญาณมิตรที่นครพนมครับ โชคดีสุด ๆ
IMG20221109135918.jpg
IMG20221109135918.jpg (140.23 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (51).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (51).jpg (39.32 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (52).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (52).jpg (39.7 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
รร.ตองเจ็ด เป็น รร.ที่มี นทท.นิยมมาพักกันครับเพราะใกล้น้ำโขงไม่ถึงกับติดริมโขง ราคาจึงเบากว่าอีกอย่างออกทางหลัง รร.ก็จะเป็นร้านรวงเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญร้านครัวเวียตนามอยู่ไม่ไกลหลัง รร.ไปอีกนิดเดียวครับหากินง่าย สบายมาก รร.ไม่ถึงกับหรูแต่สะอาดสะอ้านมาก เงียบ สงบดีครับ<br /><br />เรานำสัมภาระเข้าเก็บในห้องพัก และไม่รอช้าเอาเจ้าตัวเล็กออกตระเวน ปั่นชมเลาะริมโขงก่อนเลย บอกทุกท่านครับ ชีวิตผมอยู่ดอยมาเกือบทั้งชีวิต ไม่เคยเห็นดอยที่ไหนสวยงามประทับใจเท่าวิวดอยของลาว ที่เห็นจากฝั่งไทยริมโขงที่นครพนม สวยงามจริง เทือกเขาทอดตัวยาวขนานไปกับลำน้ำโขงที่กั้นดินแดน ไทย-ลาว น้ำ เขา ฟ้า สีสันตัดกันลงตัว สวยงามเกินจะบรรยายได้ครับ ไปนั่งชมเป็นนาน จับจิต ไอ้ชด (ตชด.) จริง ๆ
รร.ตองเจ็ด เป็น รร.ที่มี นทท.นิยมมาพักกันครับเพราะใกล้น้ำโขงไม่ถึงกับติดริมโขง ราคาจึงเบากว่าอีกอย่างออกทางหลัง รร.ก็จะเป็นร้านรวงเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญร้านครัวเวียตนามอยู่ไม่ไกลหลัง รร.ไปอีกนิดเดียวครับหากินง่าย สบายมาก รร.ไม่ถึงกับหรูแต่สะอาดสะอ้านมาก เงียบ สงบดีครับ

เรานำสัมภาระเข้าเก็บในห้องพัก และไม่รอช้าเอาเจ้าตัวเล็กออกตระเวน ปั่นชมเลาะริมโขงก่อนเลย บอกทุกท่านครับ ชีวิตผมอยู่ดอยมาเกือบทั้งชีวิต ไม่เคยเห็นดอยที่ไหนสวยงามประทับใจเท่าวิวดอยของลาว ที่เห็นจากฝั่งไทยริมโขงที่นครพนม สวยงามจริง เทือกเขาทอดตัวยาวขนานไปกับลำน้ำโขงที่กั้นดินแดน ไทย-ลาว น้ำ เขา ฟ้า สีสันตัดกันลงตัว สวยงามเกินจะบรรยายได้ครับ ไปนั่งชมเป็นนาน จับจิต ไอ้ชด (ตชด.) จริง ๆ
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (53).jpg (41.7 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
หลานต้อม ลูกชายท่าน ด.ต.อินพล อุดมศรี ตชด.รุ่น ๒ ดารารัศมี หลานชายลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแถมเป็นอภิชาติบุตรด้วย เป็น ตร.นักเรียนนายร้อยรุ่น ๕๖ ปัจจุบันยศ พ.ต.อ.ครับแต่งงานกับเจ้าสาวคนราชบุรี แขก ๆ บรรดาเพื่อนฝูงมากันล้นงาน ต้อนรับกันทั้งแขกพ่อแขกแม่แขกเพื่อนแขก ๆ ๆ งานนี้พ่อเจ้าบ่าวแม่เจ้าบ่าวยิ้มแก้มปริ ชื่นใจครับ<br /><br />เราไปกัน ๒ คันรถตู้ไปร่วมงานเดินทางจากเชียงใหม่แต่ ๘ ม.ค.งานเริ่ม ๙ ม.ค.ทั้งแห่ขันหมากหมั้นหมาย มีพิธียกชาด้วย (เจ้าสาวลูกคนจีน นักธุรกิจราชบุรี ไม่ธรรมดา) ต้องจิบชาที่คู่บ่าวสาวนำมาคำนับเป็นครั้งแรกของเราทั้งสองที่ร่วมในพิธีจีนแบบนี้<br /><br />ภาคกลางคืนสนุกสนานกันมาก เราแอบดีใจภูมิใจกับหลานที่เป็นที่รักของทุกคน อยู่กันจนดึกแต่เราคนแก่รุ่งเช้า (๑๐ ม.ค.ต้องเดินทางกลับ) สามสี่ทุ่มต้องขึ้นนอนแล้วปล่อยเด็ก ๆ เขาสนุกสนานกันต่อพวกเด็ก ๆ อยู่กันจนสว่างก็มี OMG.เหล้า ไวน์ เลี้ยงกันแบบไม่อั้น ชีวิตหนึ่งหนเดียวถือว่าคุ้ม<br /><br />ก็ขออวยพรให้หลานทั้งสองจงประสบผลสำเร็จในชีวิตคู่ และขอให้เจริญในหน้าที่การงานมีลูกมีหลานให้คุณปู่ คุณย่า เร็ว ๆ ก็แล้วกัน
หลานต้อม ลูกชายท่าน ด.ต.อินพล อุดมศรี ตชด.รุ่น ๒ ดารารัศมี หลานชายลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแถมเป็นอภิชาติบุตรด้วย เป็น ตร.นักเรียนนายร้อยรุ่น ๕๖ ปัจจุบันยศ พ.ต.อ.ครับแต่งงานกับเจ้าสาวคนราชบุรี แขก ๆ บรรดาเพื่อนฝูงมากันล้นงาน ต้อนรับกันทั้งแขกพ่อแขกแม่แขกเพื่อนแขก ๆ ๆ งานนี้พ่อเจ้าบ่าวแม่เจ้าบ่าวยิ้มแก้มปริ ชื่นใจครับ

เราไปกัน ๒ คันรถตู้ไปร่วมงานเดินทางจากเชียงใหม่แต่ ๘ ม.ค.งานเริ่ม ๙ ม.ค.ทั้งแห่ขันหมากหมั้นหมาย มีพิธียกชาด้วย (เจ้าสาวลูกคนจีน นักธุรกิจราชบุรี ไม่ธรรมดา) ต้องจิบชาที่คู่บ่าวสาวนำมาคำนับเป็นครั้งแรกของเราทั้งสองที่ร่วมในพิธีจีนแบบนี้

ภาคกลางคืนสนุกสนานกันมาก เราแอบดีใจภูมิใจกับหลานที่เป็นที่รักของทุกคน อยู่กันจนดึกแต่เราคนแก่รุ่งเช้า (๑๐ ม.ค.ต้องเดินทางกลับ) สามสี่ทุ่มต้องขึ้นนอนแล้วปล่อยเด็ก ๆ เขาสนุกสนานกันต่อพวกเด็ก ๆ อยู่กันจนสว่างก็มี OMG.เหล้า ไวน์ เลี้ยงกันแบบไม่อั้น ชีวิตหนึ่งหนเดียวถือว่าคุ้ม

ก็ขออวยพรให้หลานทั้งสองจงประสบผลสำเร็จในชีวิตคู่ และขอให้เจริญในหน้าที่การงานมีลูกมีหลานให้คุณปู่ คุณย่า เร็ว ๆ ก็แล้วกัน
239548.jpg (158.73 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
239828.jpg
239828.jpg (58.23 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
บ่ายวันนั้นกับเจ้าตัวเล็กที่เราพากันปั่นเลาะริมโขงไปชื่นชมบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน จนติดใจไม่อยากจะกลับเชียงใหม่เอาเลยทีเดียว ติดตามกันนะครับจะมีที่ใดบ้างผมจะนำมาเล่าให้ฟังและให้ชมสำหรับภาพที่ผมเก็บมาด้วยถึงไม่มือโปรแต่ก็พอดูได้ ๕๕๕
บ่ายวันนั้นกับเจ้าตัวเล็กที่เราพากันปั่นเลาะริมโขงไปชื่นชมบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน จนติดใจไม่อยากจะกลับเชียงใหม่เอาเลยทีเดียว ติดตามกันนะครับจะมีที่ใดบ้างผมจะนำมาเล่าให้ฟังและให้ชมสำหรับภาพที่ผมเก็บมาด้วยถึงไม่มือโปรแต่ก็พอดูได้ ๕๕๕
239827.jpg (72.63 KiB) เข้าดูแล้ว 939 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อรุณสวัสดิ์ท่านผู้มีเกียรติตลอดจนญาติธรรมที่เคารพทุกท่าน เช้าวันนี้ช่างสดชื่นแจ่มใสกว่าทุกวัน(เนื่องจากหลาย ๆ วันที่ผ่านขุ่น ๆ ต้องอาศัยสมาธิช่วยตลอด) ชีวิตคนเชื่อเถอะมีแต่ทุกข์เท่านั้นเกิดดับ ๆ น่าเบื่อนะ ตลอดห้วงเวลาตั้งแต่เดือน ส.ค.๖๕- ม.ค.วันนี้ ผมเจอแบบทดสอบทางธรรม เรียกว่าเจอโจทย์หินจริง ๆ ประคับประคองตัวเองไม่ให้สติแตก อดทน อดกลั้น อดใจ ฝืนใจ ฯ อาศัยทำภาวนารักษาก็ได้แค่บรรเทา

เรื่องไม่เป็นเรื่องครับจะเล่าให้ฟัง "การนั่งสมาธิภาวนาซึ่งปฏิบัติมานานนมสี่สิบกว่าปีมาถึงทุกวันนี้ สมัยก่อนที่เริ่มฝึกสมาธิภาวนา ใจก็อยากเห็นสวรรค์และนรก หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ใจปรารถนาซึ่งสามารถทำได้ยกเว้นนรกยังไม่เคยครับ มีครั้งหนึ่งขอเรียกว่าได้เจริญในธรรมสุด ๆ ได้อธิษฐานจิตเลิกเรื่องราวอิทธิฤทธิ์ สวรรค์นรกทั้งหมดทั้งสิ้นเพราะมันเนิ่นช้าเผลอ ๆ จะลงนรกฟรี ๆ จึงขอมุ่งตรงสู่ความหลุดพ้นอย่างเดียวไม่แวะซ้ายแวะขวาอีกแล้ว

จากนั้นมาก็พบโจทย์ต่าง ๆ มากมายให้ได้แก้ไข สังเกตุเมื่อได้โจทย์ใหม่ ๆ แก้ไขได้ สภาวะจิตของเราจะได้ธรรมะ เห็นธรรมะแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น ๆ (ซาโตริคือรู้) แต่เมื่อ ส.ค.๖๕ เป็นต้นมา เกิดเหตุการณ์ประหลาดจิตลงท่องนรกเฉยเลย ซึ่งไม่เคยมาก่อน จากวันนั้นถึงวันนี้ในสมาธิและชีวิตจริงผมเจอสภาพ นรก คือทุกข์ใจ หงุดหงิดใจ เหงาใจ เรียกว่าแก้ไขแทบไม่ได้ (ใกล้ บ้า ต้องประคับประคอง) ในสมาธิก็ใช้ เอกัคคตาจิต คือสงบ นิ่งอารมณ์เดียวแค่นั้น เมื่อจิตจะท่องนรกต้องรีบดึงกลับด้วย สติปัฏฐาน ๔ ให้เห็นแต่ กาย เวทนา จิต ธรรมแค่นั้น ในชีวิตจริงก็ใช้ ขันติ เมตตา กรุณา อุเบกขา บางครั้งต้องหลบหนีหลีกเล้น ไม่ปะทะเป็นตัวแก้ไข ยังไม่ดีขึ้นครับจะอีกนานไหม?? "

ขอกุศลผลบุญที่ได้สั่งสมมาขอให้ผ่านโจทย์มหาหินครั้งนี้ ไปได้ ด้วยดี อย่าให้ต้องให้มีอันเป็นไปต้องลง นรก ไปเสียก่อน (เสียดายที่ประพฤติปฏิบัติธรรมมาอย่างยาวนาน) ผมเชื่อใน พุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ ต้องผ่านโจทย์หรือวิกฤตนี้ครับ

มาร่วมสร้างบุญกุศลกันครับ เช้านี้จะพาท่านไปศึกษาภาวะผู้นำที่ดี ควรทำอย่างไร มีคลิปมาให้ อย่ามองหรือสนใจว่าคลิปเป็นของใครผู้ใด แต่ขอให้สนใจเนื้อหาที่นำเสนอเป็นความรู้เน้น ๆ ท่านฟังจบท่านได้ความรู้ได้บุญ ผมก็ได้สร้างกุศลผลบุญ เพราะการให้ธรรมะเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ ผมก็จะได้ออกจากนรกเร็วยิ่ง ๆ ขึ้น ฟังจบแล้วแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ไปฟังกันครับ
:( :(

:idea: :idea: ผู้นำที่ดี | ข้อคิดรอบตัว | EP 217 | 19-10- 63 | ThanavuddhoStoryOfficial พระมหาสมชาย :idea: :idea:
ไฟล์แนบ
ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อเรามาดูเรื่องราวของเมืองนครพนมกันก่อนครับ<br /><br />นครพนมเป็นจังหวัดชายแดนตั้งเลียบตามชายฝั่งขวาของแม่น้ำโขงตรงข้ามกับเมืองท่าแขกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่นับเป็นพระธาตุคู่เมืองนครพนม และเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและชาวลาวทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนมมีพื้นที่ประมาณ ๕,๕๑๒.๖๖๘ ตารางกิโลเมตร ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๗๔๐ กิโลเมตร<br /> <br />นครพนม เป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเคียงคู่อยู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีพื้นที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และต่อมาก็ได้ย้ายมาอยู่ฝั่งขวาตำนานแห่งประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชตีกรุงเวียงจันทน์ได้ ชื่อของดินแดนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น “มรุกขนคร” และต่อมาได้โปรดฯให้เป็น “นครพนม” เพื่อความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่ด้วยเป็นเมืองที่มีพื้นที่ติดต่อกับเทือกเขามากมาย ด้วยความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อนประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งวัฒนธรรมของมนุษย์ชาติ ดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถานและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มาก<br /><br />อาณาเขต<br /><br />- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเซกา จังหวัด หนองคาย<br />- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอดงหลวง กิ่งอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร<br />- ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงคำม่วนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน<br />- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกุสุมาลย์ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร<br /><br />คำขวัญประจำจังหวัดนครพนม<br /><br />     &quot; พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง &quot;
ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อเรามาดูเรื่องราวของเมืองนครพนมกันก่อนครับ

นครพนมเป็นจังหวัดชายแดนตั้งเลียบตามชายฝั่งขวาของแม่น้ำโขงตรงข้ามกับเมืองท่าแขกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่นับเป็นพระธาตุคู่เมืองนครพนม และเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยและชาวลาวทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนมมีพื้นที่ประมาณ ๕,๕๑๒.๖๖๘ ตารางกิโลเมตร ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๗๔๐ กิโลเมตร

นครพนม เป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเคียงคู่อยู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีพื้นที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และต่อมาก็ได้ย้ายมาอยู่ฝั่งขวาตำนานแห่งประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชตีกรุงเวียงจันทน์ได้ ชื่อของดินแดนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น “มรุกขนคร” และต่อมาได้โปรดฯให้เป็น “นครพนม” เพื่อความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่ด้วยเป็นเมืองที่มีพื้นที่ติดต่อกับเทือกเขามากมาย ด้วยความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อนประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งวัฒนธรรมของมนุษย์ชาติ ดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถานและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มาก

อาณาเขต

- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเซกา จังหวัด หนองคาย
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอดงหลวง กิ่งอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงคำม่วนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกุสุมาลย์ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร

คำขวัญประจำจังหวัดนครพนม

" พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง "
IMG20221108190145.jpg (83.89 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
ก่อนออกจาก รร.ที่พัก ไม่ลืมที่จะขอแผนที่สังเขปที่ รร.เขาจะมีไว้ให้ นทท.เป็นของชำร่วย ส่วนใหญ่คนไม่ค่อยนิยมสำหรับผมถือว่าจำเป็นเพราะจะได้เป็นไกด์ไลน์ในการปั่นเที่ยวครับ
ก่อนออกจาก รร.ที่พัก ไม่ลืมที่จะขอแผนที่สังเขปที่ รร.เขาจะมีไว้ให้ นทท.เป็นของชำร่วย ส่วนใหญ่คนไม่ค่อยนิยมสำหรับผมถือว่าจำเป็นเพราะจะได้เป็นไกด์ไลน์ในการปั่นเที่ยวครับ
IMG20221109140441.jpg (142.45 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3292.JPG
DSC_3292.JPG (86.48 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3293.JPG
DSC_3293.JPG (71.86 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3294.JPG
DSC_3294.JPG (109.43 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
ก่อนอื่นเราออกจาก รร.ก็ดิ่งไปยังแม่น้ำโขงก่อนเลย โอ้....วิวทิวทัศน์ น้ำ เขา ฟ้า ตัดกันที่ผมบอกไว้แต่ต้นว่า ชีวิต ตชด.อยู่ป่าเขามานานเป็นสิบ ๆ ปีไม่เคยเห็นภูเขาสวยเลย มาวันนี้ที่ริมโขงสวยมาก ๆ เรียกว่าหลงใหลเลยละครับ ผมยืนจ้องมองไล่เรียงมองซ้ายไปขวา ขวามาซ้าย ซึมซับความสวยงามภูเขาฝั่งลาวอย่างฉงนสนเท่ห์ใจ ลาวมีสิ่งสวยงามแบบนี้ด้วย คนนครพนมโชคดีจัง ทุกข์ใจเมื่อไหร่มานั่งชม น้ำ เขา ฟ้า ปล่อยอารมณ์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หลุด แน่ คือ หายทุกข์ใจไปได้ เผลอ ๆ ถ้ารู้จักการเพ่งสมาธิหายขาดแน่นอน (คิดแล้วอยากกลับไปนครพนมเดี๋ยวนี้เวลานี้จัง)
ก่อนอื่นเราออกจาก รร.ก็ดิ่งไปยังแม่น้ำโขงก่อนเลย โอ้....วิวทิวทัศน์ น้ำ เขา ฟ้า ตัดกันที่ผมบอกไว้แต่ต้นว่า ชีวิต ตชด.อยู่ป่าเขามานานเป็นสิบ ๆ ปีไม่เคยเห็นภูเขาสวยเลย มาวันนี้ที่ริมโขงสวยมาก ๆ เรียกว่าหลงใหลเลยละครับ ผมยืนจ้องมองไล่เรียงมองซ้ายไปขวา ขวามาซ้าย ซึมซับความสวยงามภูเขาฝั่งลาวอย่างฉงนสนเท่ห์ใจ ลาวมีสิ่งสวยงามแบบนี้ด้วย คนนครพนมโชคดีจัง ทุกข์ใจเมื่อไหร่มานั่งชม น้ำ เขา ฟ้า ปล่อยอารมณ์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หลุด แน่ คือ หายทุกข์ใจไปได้ เผลอ ๆ ถ้ารู้จักการเพ่งสมาธิหายขาดแน่นอน (คิดแล้วอยากกลับไปนครพนมเดี๋ยวนี้เวลานี้จัง)
IMG20221109150325.jpg (103.81 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3296.JPG
DSC_3296.JPG (65.08 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3297.JPG
DSC_3297.JPG (83.05 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3298.JPG
DSC_3298.JPG (62.9 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3299.JPG
DSC_3299.JPG (80.03 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3300.JPG
DSC_3300.JPG (93.1 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3302.JPG
DSC_3302.JPG (80.62 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3303.JPG
DSC_3303.JPG (84.06 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3304.JPG
DSC_3304.JPG (100.38 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (66).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (66).jpg (84.13 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (68).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (68).jpg (127.8 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (69).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (69).jpg (135.25 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (71).jpg
เที่ยวเมืองรองมนครพนม-สกลนคร (71).jpg (133.13 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
DSC_3305.JPG
DSC_3305.JPG (86.83 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
ผมและคุณนายชื่นชมซึมซับบรรยากาศริมโขงจนอิ่มใจ ก็พากันย้อนกลับมาเก็บภาพ Land Mark ที่นิยมมาเก็บภาพไปอวดกันในสื่อต่าง ๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน และเมื่อเราเก็บภาพแต่ละจุดก็เคลื่อนตัวไปตามถนนเรื่อย ๆ จะเห็นวัดเรียงรายไปริมโขงตลอดสาย ปั่นไปชมโขงไป ชมวัดไปเรียกเพลิดเพลินเจริญใจ สนุกมาก ๆ ครับ
ผมและคุณนายชื่นชมซึมซับบรรยากาศริมโขงจนอิ่มใจ ก็พากันย้อนกลับมาเก็บภาพ Land Mark ที่นิยมมาเก็บภาพไปอวดกันในสื่อต่าง ๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน และเมื่อเราเก็บภาพแต่ละจุดก็เคลื่อนตัวไปตามถนนเรื่อย ๆ จะเห็นวัดเรียงรายไปริมโขงตลอดสาย ปั่นไปชมโขงไป ชมวัดไปเรียกเพลิดเพลินเจริญใจ สนุกมาก ๆ ครับ
DSC_3306.JPG (113.61 KiB) เข้าดูแล้ว 893 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D สวัสดียามเช้าครับ เมื่อวันวานเป็นวันครู ผมขอกราบรำลึกพระคุณครูไว้ ณ ที่นี้ พร้อมนี้ขอนำคำสอนของหลวงปู่แหวนที่กล่าวไว้ดังนี้ :

"...ครู 8 คน ในชีวิตเรา..."

๑. ครูคนแรกที่สอนให้เราเป็นคนดี  คือ คนแรกที่เราเรียกว่า แม่

๒. ครูคนที่สอง ที่สอนให้เราเป็นคนเก่ง คือพ่อ

๓. ครูคนที่สามที่สอนเราให้อ่านออกเขียนได้คือ ครูในโรงเรียน

๔. ครูคนที่สี่ ที่สอนให้เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมคือ เพื่อน

๕. ครูคนที่ห้า ที่สอนให้เราใช้ชีวิตคู่คือ คู่ครอง

๖. ครูคนที่หก ที่สอนให้เรารู้จักในการให้คือ ลูก

๗. ครูคนที่เจ็ด ที่สอนให้เรารู้จักคำว่าอภัยคือ ศัตรู

๘. และครูคนสุดท้าย ที่สอนให้เราเรียนรู้ชีวิต คือ ตัวเราเอง

โอวาทธรรม หลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
:idea: :idea:

:) :D ครูบนดอย - ฝน ธนสุนทร :) :D
ไฟล์แนบ
DSC_3233.JPG
DSC_3233.JPG (29.13 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3231.JPG
DSC_3231.JPG (28.72 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
พ่อแม่พี่น้องครับ ตชด.เรายังเหลือครูที่กำลังทำหน้าที่สอนหนังสือ แต่ครู ตชด.วันนี้ เวลานี้ อาจจะไม่เหมือนครูในสมัยพ่อผมและสมัยผมไปแล้ว (ความเจริญที่ต้องปรับตัว) ครู ตชด.สมัยก่อนสุดแสนจะลำบาก ดังที่ พ.ต.ท.ปริญญา ทับกล่ำ ได้เล่าเรื่องราวครู ตชด.ไว้ในเพจนี้แล้ว แต่ถึงแม้จะไม่เหมือนแต่ก็ไม่แตกต่าง ครู ตชด.ยังคงเสียสละความสุขส่วนตัวมุ่งทำงานในหน้าที่ครู เพื่อผลักดันให้ลูกศิษย์ของตัวเองไปได้ดิบได้ดี ไม่แตกต่างกับครู ตชด.สมัยก่อนครับ<br /><br />ผมขอฝากครู ตชด.ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพ่อแม่พี่น้องคนไทย อยากจะบอกว่าศักดิ์ศรี ตชด.ที่พอจะเชิดหน้าชูตาได้คงเหลือเพียง ครู ตชด.เท่านั้นละครับ นอกนั้นหลาย ๆ หน่วยงามเข้ามาแย่งซีน ตชด.ไปเกลี้ยง ตชด.วันนี้รอการถูกยุบ (ไม่แน่) เพราะเคยมีการจะยุบ ตชด.มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพ่อหลวง ร.๙ ที่เปรยขึ้นมาว่า &quot;ปล่อยให้ตำรวจป่าเขาทำหน้าทีในป่าไปเถอะอย่าไปยุ่งกับเขาเลย&quot; จึงยังคงมี ตชด.ถึงทุกวันนี้ (อนาคตไม่แน่) และคำว่า ตร.ป่าก็เป็นอีกชื่อหนึ่งที่พวกเรา ตชด.ภาคภูมิใจ ครับ
พ่อแม่พี่น้องครับ ตชด.เรายังเหลือครูที่กำลังทำหน้าที่สอนหนังสือ แต่ครู ตชด.วันนี้ เวลานี้ อาจจะไม่เหมือนครูในสมัยพ่อผมและสมัยผมไปแล้ว (ความเจริญที่ต้องปรับตัว) ครู ตชด.สมัยก่อนสุดแสนจะลำบาก ดังที่ พ.ต.ท.ปริญญา ทับกล่ำ ได้เล่าเรื่องราวครู ตชด.ไว้ในเพจนี้แล้ว แต่ถึงแม้จะไม่เหมือนแต่ก็ไม่แตกต่าง ครู ตชด.ยังคงเสียสละความสุขส่วนตัวมุ่งทำงานในหน้าที่ครู เพื่อผลักดันให้ลูกศิษย์ของตัวเองไปได้ดิบได้ดี ไม่แตกต่างกับครู ตชด.สมัยก่อนครับ

ผมขอฝากครู ตชด.ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพ่อแม่พี่น้องคนไทย อยากจะบอกว่าศักดิ์ศรี ตชด.ที่พอจะเชิดหน้าชูตาได้คงเหลือเพียง ครู ตชด.เท่านั้นละครับ นอกนั้นหลาย ๆ หน่วยงามเข้ามาแย่งซีน ตชด.ไปเกลี้ยง ตชด.วันนี้รอการถูกยุบ (ไม่แน่) เพราะเคยมีการจะยุบ ตชด.มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพ่อหลวง ร.๙ ที่เปรยขึ้นมาว่า "ปล่อยให้ตำรวจป่าเขาทำหน้าทีในป่าไปเถอะอย่าไปยุ่งกับเขาเลย" จึงยังคงมี ตชด.ถึงทุกวันนี้ (อนาคตไม่แน่) และคำว่า ตร.ป่าก็เป็นอีกชื่อหนึ่งที่พวกเรา ตชด.ภาคภูมิใจ ครับ
DSC_3229.JPG (42.15 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
เมื่อ ๑๕ ม.ค.๖๖ ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดของผมบังเอิญพบภาพเก่าใน fb.ก็ขอเก็บมาเล่าให้ท่านที่ยังไม่เคยได้ยินได้ฟัง ว่า เมื่อปลายปี ๒๕๔๙ ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อร้ายไปตรวจ สรุป ผมเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังผ่าตัดก็ต้องทำคีโม ระยะนั้นร่างกายผมแย่มาก ๆ แทบตายน้ำหนักลดสุด ๆ ผอมมากใครเห็นเขาคิดว่าผมเป็นเอดส์ครับ วันที่ทำการรักษาที่ รพ.ศรีพัฒน์ผมมีเพื่อนเป็นมะเร็งเหมือนกันนอนห้องพิเศษติด ๆ กัน ๕ ห้องผลตายหมดเหลือผมคนเดียว<br /><br />ที่น่าอัศจรรย์มีคนเหมือนจะมาตายแทนผม (เป็นข่าวหน้า ๑ นสพ.ทุกฉบับ) ชื่อ นามสกุล เหมือน เด๊ะสกดก็ใช่ เพื่อน ๆ ต่างจังหวัดตกใจสอบถามคุณนายให้วุ่นไป แต่หลังจากที่ผมเห็นข่าวแล้วไม่นาน ร่างกายก็กลับฟื้นหายวันหายคืนและออก รพ.ได้ในที่สุด แต่ต้องพบหมอทุก ๓ วัน จากนั้นก็ค่อย ๆ ห่าง เป็น ๗ วัน ๑ เดือน ๓ เดือน ๖ เดือน ๑ ปี และเมือปี ๒๕๖๓ หมอก็ฟันธงว่า &quot;มะเร็งน้ำเหลืองของผมหายเด็ดขาด ไม่ต้องมาพบหมออีกแล้ว&quot; <br /><br />ขอบพระคุณหมอ บุญสม ฯ (รพ.ศรีพัฒน์) ที่ให้ความเอาใจใส่และดูแลรักษาผมอย่างดีจนมีผมที่ยังมีลมหายใจเช่นทุกวันนี้ และอีกทางหนึ่งคือจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่สั่งให้ผมไป &quot;นำศีลธรรมกลับมา&quot; การที่ผมมีเจตนาทำตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สั่ง จึงเป็นแนวทางการสร้างมหากุศล ผมเผยแพร่พระธรรมคำสอนตามประสบการณ์ที่ผมได้ ผมมี เป็นวิทยาทาน และสำคัญที่สุดขอบคุณ Thaimtb.ที่เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ สร้างกุศลผลบุญด้วย &quot;ธรรมทาน&quot;  <br /><br />บอกตรง ๆ บางครั้งผมก็ท้อครับ เนื่องจากผมเล่าเรื่องของผมใน Thaimtb.มานานนับ ๑๐ ปี สังเกตุว่า  fc.ลดน้อยถดถอยไปทุกวัน ๆ คิดจะเลิก ๆ หลายครั้ง แต่พอเข้าไปดูผลการติดตามก็พบว่า ยังมีคนเข้าไปติดตามเป็นกำลังใจอยู่พอสมควร และนี่ก็ทำให้กำลังใจที่จะยังคงอยู่ไป จนกว่าจะหมดไฟหรือถูก cancel ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามใจเป็นกำลังใจครับ
เมื่อ ๑๕ ม.ค.๖๖ ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดของผมบังเอิญพบภาพเก่าใน fb.ก็ขอเก็บมาเล่าให้ท่านที่ยังไม่เคยได้ยินได้ฟัง ว่า เมื่อปลายปี ๒๕๔๙ ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อร้ายไปตรวจ สรุป ผมเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังผ่าตัดก็ต้องทำคีโม ระยะนั้นร่างกายผมแย่มาก ๆ แทบตายน้ำหนักลดสุด ๆ ผอมมากใครเห็นเขาคิดว่าผมเป็นเอดส์ครับ วันที่ทำการรักษาที่ รพ.ศรีพัฒน์ผมมีเพื่อนเป็นมะเร็งเหมือนกันนอนห้องพิเศษติด ๆ กัน ๕ ห้องผลตายหมดเหลือผมคนเดียว

ที่น่าอัศจรรย์มีคนเหมือนจะมาตายแทนผม (เป็นข่าวหน้า ๑ นสพ.ทุกฉบับ) ชื่อ นามสกุล เหมือน เด๊ะสกดก็ใช่ เพื่อน ๆ ต่างจังหวัดตกใจสอบถามคุณนายให้วุ่นไป แต่หลังจากที่ผมเห็นข่าวแล้วไม่นาน ร่างกายก็กลับฟื้นหายวันหายคืนและออก รพ.ได้ในที่สุด แต่ต้องพบหมอทุก ๓ วัน จากนั้นก็ค่อย ๆ ห่าง เป็น ๗ วัน ๑ เดือน ๓ เดือน ๖ เดือน ๑ ปี และเมือปี ๒๕๖๓ หมอก็ฟันธงว่า "มะเร็งน้ำเหลืองของผมหายเด็ดขาด ไม่ต้องมาพบหมออีกแล้ว"

ขอบพระคุณหมอ บุญสม ฯ (รพ.ศรีพัฒน์) ที่ให้ความเอาใจใส่และดูแลรักษาผมอย่างดีจนมีผมที่ยังมีลมหายใจเช่นทุกวันนี้ และอีกทางหนึ่งคือจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่สั่งให้ผมไป "นำศีลธรรมกลับมา" การที่ผมมีเจตนาทำตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สั่ง จึงเป็นแนวทางการสร้างมหากุศล ผมเผยแพร่พระธรรมคำสอนตามประสบการณ์ที่ผมได้ ผมมี เป็นวิทยาทาน และสำคัญที่สุดขอบคุณ Thaimtb.ที่เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ สร้างกุศลผลบุญด้วย "ธรรมทาน"

บอกตรง ๆ บางครั้งผมก็ท้อครับ เนื่องจากผมเล่าเรื่องของผมใน Thaimtb.มานานนับ ๑๐ ปี สังเกตุว่า fc.ลดน้อยถดถอยไปทุกวัน ๆ คิดจะเลิก ๆ หลายครั้ง แต่พอเข้าไปดูผลการติดตามก็พบว่า ยังมีคนเข้าไปติดตามเป็นกำลังใจอยู่พอสมควร และนี่ก็ทำให้กำลังใจที่จะยังคงอยู่ไป จนกว่าจะหมดไฟหรือถูก cancel ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามใจเป็นกำลังใจครับ
CSC_3235.JPG (115.57 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
วัดโอกาสเดิมชื่อวัดศรีบัวบาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม มีพื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน 28 วา เป็นวัดที่เก่าแก่สุดวัดหนึ่ง สร้างเมื่อ พ.ศ.1994 ในสมัยที่อาณาจักรศรีโคตรบูรยัง เจริญรุ่งเรืองอยู่และได้รับพระราชทานวิสุงคาบสีมาเมื่อ พ.ศ.2281 ด้วยเนื้อที่กว้าง 12 เมตร ยาว 17 เมตร
วัดโอกาสเดิมชื่อวัดศรีบัวบาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม มีพื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน 28 วา เป็นวัดที่เก่าแก่สุดวัดหนึ่ง สร้างเมื่อ พ.ศ.1994 ในสมัยที่อาณาจักรศรีโคตรบูรยัง เจริญรุ่งเรืองอยู่และได้รับพระราชทานวิสุงคาบสีมาเมื่อ พ.ศ.2281 ด้วยเนื้อที่กว้าง 12 เมตร ยาว 17 เมตร
DSC_3306.JPG (113.61 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3307.JPG
DSC_3307.JPG (109.21 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3308.JPG
DSC_3308.JPG (101.96 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3309.JPG
DSC_3309.JPG (122.66 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3310.JPG
DSC_3310.JPG (128.14 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3311.JPG
DSC_3312.JPG
DSC_3312.JPG (107.34 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
พระติ้ว พระเทียม เป็นพระพุทธรูปไม้ ปางมารวิชัย สร้างในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งมีราชธานีตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำโขงเล่ากันว่าพระเจ้าศรีโคตรบูรณ์หลวงสั่งให้นายช่างชาวบ้านกองลอ ในประเทศลาว ไปดำเนินการหาไม้มาต่อเรือ ช่างเดินทางข้ามแม่น้ำโขงมายังดงเซกา ได้พบไม้ตะเคียนจึงลงมือขุดเจาะเป็นรูปเรือแล้วเตรียมชักลากลงสู่แม่น้ำ ให้ลูกมือไปหาไม้ท่อนที่ดงติ้วมาหนุนเป็นล้อเพื่อชักลาก เมื่อชักลากเรือไปจนถึงท่าน้ำบ้านโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันคือวัดโอกาส ในขณะนั้นไม้ท่อนหนึ่งกระเด็นออกมา ไม่ยอมให้เรือทับทำให้คนลากเรือได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน นายช่างได้นำความไปกราบทูลฯ พระเจ้าศรีโคตรบูรณ์หลวงทรงทราบ เห็นว่าไม้ท่อนนี้เป็นพญาไม้จึงไม่ยอมให้เรือทับ โปรดให้นายช่างนำไม้ท่อนนั้นไปแกะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓๐ เซนติเมตร สูง๖๐ เซนติเมตร แล้วลงรักปิดทอง ตรงกับวันอังคาร เดือน 7 แรม 8 ค่ำ ปีกุน พุทธศักราช 1328 และโปรดให้มีพุทธาภิเษกสมโภชพระพุทธรูปเป็นพระมิ่งบ้านมิ่งเมือง
พระติ้ว พระเทียม เป็นพระพุทธรูปไม้ ปางมารวิชัย สร้างในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งมีราชธานีตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำโขงเล่ากันว่าพระเจ้าศรีโคตรบูรณ์หลวงสั่งให้นายช่างชาวบ้านกองลอ ในประเทศลาว ไปดำเนินการหาไม้มาต่อเรือ ช่างเดินทางข้ามแม่น้ำโขงมายังดงเซกา ได้พบไม้ตะเคียนจึงลงมือขุดเจาะเป็นรูปเรือแล้วเตรียมชักลากลงสู่แม่น้ำ ให้ลูกมือไปหาไม้ท่อนที่ดงติ้วมาหนุนเป็นล้อเพื่อชักลาก เมื่อชักลากเรือไปจนถึงท่าน้ำบ้านโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันคือวัดโอกาส ในขณะนั้นไม้ท่อนหนึ่งกระเด็นออกมา ไม่ยอมให้เรือทับทำให้คนลากเรือได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน นายช่างได้นำความไปกราบทูลฯ พระเจ้าศรีโคตรบูรณ์หลวงทรงทราบ เห็นว่าไม้ท่อนนี้เป็นพญาไม้จึงไม่ยอมให้เรือทับ โปรดให้นายช่างนำไม้ท่อนนั้นไปแกะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓๐ เซนติเมตร สูง๖๐ เซนติเมตร แล้วลงรักปิดทอง ตรงกับวันอังคาร เดือน 7 แรม 8 ค่ำ ปีกุน พุทธศักราช 1328 และโปรดให้มีพุทธาภิเษกสมโภชพระพุทธรูปเป็นพระมิ่งบ้านมิ่งเมือง
DSC_3313.JPG (113.27 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
คติความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้อง<br /><br />พระติ้ว พระเทียม เป็นพระมิ่งบ้านมิ่งเมืองที่ชาวบ้านต่างเคารพศรัทธา ถ้าหากมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นที่เมืองใด เมื่ออัญเชิญพระติ้ว พระเทียมไปบ้านเมืองนั้น โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายก็จะหายไป ด้วยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพระติ้ว พระเทียมทำให้ชาวบ้านต่างมีความเลื่อมใสศรัทธามาจนปัจจุบัน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวเมืองนครพนมจะจัดงานนมัสการสรงน้ำขอพรพระติ้ว พระเทียม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว
คติความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้อง

พระติ้ว พระเทียม เป็นพระมิ่งบ้านมิ่งเมืองที่ชาวบ้านต่างเคารพศรัทธา ถ้าหากมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นที่เมืองใด เมื่ออัญเชิญพระติ้ว พระเทียมไปบ้านเมืองนั้น โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายก็จะหายไป ด้วยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพระติ้ว พระเทียมทำให้ชาวบ้านต่างมีความเลื่อมใสศรัทธามาจนปัจจุบัน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวเมืองนครพนมจะจัดงานนมัสการสรงน้ำขอพรพระติ้ว พระเทียม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว
DSC_3314.JPG (130.76 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3315.JPG
DSC_3315.JPG (83.54 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3316.JPG
DSC_3316.JPG (92.31 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3317.JPG
DSC_3317.JPG (62.03 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3318.JPG
DSC_3319.JPG
DSC_3319.JPG (85.82 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
DSC_3320.JPG
DSC_3320.JPG (60.2 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
ตรงข้ามวัดโอกาสเราก็แวะริมโขงเก็บภาพต่อเนื่องไปครับ เจอตลาดอินโดจีน เราสองคนจำแทบไม่ได้เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เรามาไม่ได้เป็นแบบนี้ เดี๋ยวนี้เจริญจัดระเบียได้ดีเยี่ยมมาก ๆ ชาวบ้านเล่าว่ามีการแบ่งสินค้าขายเป็นโซน ๆ น่าสนใจ คุณนายตาร้อนเลยครับ แต่ผมขอไว้เป็นวันต่อไป ช่วงนี้ปั่นไปกราบสักการะวัดวาอารามกันก่อนดีกว่า ติดตามกันต่อนะคร๊าบ.
ตรงข้ามวัดโอกาสเราก็แวะริมโขงเก็บภาพต่อเนื่องไปครับ เจอตลาดอินโดจีน เราสองคนจำแทบไม่ได้เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เรามาไม่ได้เป็นแบบนี้ เดี๋ยวนี้เจริญจัดระเบียได้ดีเยี่ยมมาก ๆ ชาวบ้านเล่าว่ามีการแบ่งสินค้าขายเป็นโซน ๆ น่าสนใจ คุณนายตาร้อนเลยครับ แต่ผมขอไว้เป็นวันต่อไป ช่วงนี้ปั่นไปกราบสักการะวัดวาอารามกันก่อนดีกว่า ติดตามกันต่อนะคร๊าบ.
DSC_3321.JPG (89.08 KiB) เข้าดูแล้ว 838 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: สวัสดียามเย็นญาติธรรมและท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ ขออนุญาตุนำเสนอเรื่องราวของ จ.นครพนมก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวกันต่อนะครับ จ.นครพนม สำคัญที่สุดก็ตรงพญานาคที่สวยงามและอลังการ เราตั้งใจจะไปชมจุดนี้มาก ๆ เพราะตั้งแต่สร้างเรายังไม่เห็นเลย แต่ก่อนอื่นไปศึกษาประวัตินครพนมก่อนนะครับ

ศรีโคตรบูรณ์ มรุกขนคร นครพนม

จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพมหานครด้วยระยะทาง ๗๕๐ กิโลเมตร เป็นเมืองชายแดนติดริมแม่น้ำโขงตรงข้ามเมืองคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีประวัติสืบทอดยาวนานมาหลายร้อยปี เดิมเคยเป็นมหานครของ อาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ที่รุ่งเรืองในอดีต ประมาณราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๒ เป็นอาณาจักรอิสระไม่ขึ้นกับใคร ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ อาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ได้เสื่อมอำนาจลงตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรขอม ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ชื่อของ “ศรีโคตรบูรณ์”สืบราชสมบัติมาได้หลายองค์ ต่อมาย้ายเมืองมาตั้งที่ ป่าไม้รวกห้วยศรีมัง ริมแม่น้าโขงฝั่งซ้าย (คือเมืองเก่าใต้เมืองท่าแขกในปัจจุบัน) ถึงปี พ.ศ. ๒๒๙๗ มีพระนครานุรักษ์ครองเมืองศรีโคตรบูรณ์ มีความเห็นว่าเมืองมิได้ตั้งอยู่ที่ปากห้วยแล้ว จึงได้เปลี่ยนนามเมืองใหม่ว่า “เมืองมรุกขนคร” เพราะถือว่าสร้างขึ้นในดงไม้รวก นามเมืองศรีโคตรบูรณ์ จึงเปลี่ยนไปตั้งแต่ครั้งนั้น

ปี พ.ศ.๒๓๓๐ ย้ายเมืองมาตั้งทางฝั่งขวาแม่น้าโขงที่ปากห้วยบังฮวกบรรจบกับแม่น้ำโขง(ปัจจุบันอยู่ระหว่างบ้านดอนนางหงส์ท่า ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม เลยลงไปถึงบ้านธาตุน้อยศรีบุญเรือง ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม) เมืองมรุกขนคร เมื่อได้ย้ายมาตั้งที่ปากห้วยบังฮวก โดยประมาณ ๒๐ ปี น้ำได้กัดเซาะตลิ่งพังลงมามาก จึงได้ย้ายเมืองมาตั้งที่ “บ้านหนองจันทร์” (ห่างจากตัวเมืองนครพนมไปทางทิศใต้ ๔ กิโลเมตร) ตั้งชื่อเมืองใหม่ว่า “นครบุรีราชธานี”

ปี พ.ศ.๒๓๓๗ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนนามเมืองเสียใหม่ว่า “เมืองนครพนม” ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร การที่พระราชทานนามว่า “เมืองนครพนม” สันนิษฐานได้ว่าอาจจะเนื่องด้วยเดิมเมืองนี้เป็นเมืองลูกหลวงมาก่อนเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงให้ใช้คาว่า “นคร” หรืออีกนัยหนึ่งคาว่า “นคร” นี้ อาจรักษาชื่อเมืองเดิมคือเมือง นครบุรีราชธานีไว้ ส่วนคำว่า “พนม” อาจจะเนื่องด้วยจังหวัดนี้มี “องค์พระธาตุพนม” ประดิษฐานอยู่ หรืออาจจะเนื่องจากเดิมมีอาณาเขตไกลไปถึงดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงคือบริเวณเมืองท่าแขกซึ่งมีภูเขาสลับซับซ้อนมากมายไปจนถึงดินแดนของประเทศเวียดนาม จึงใช้คาว่า “พนม” เพราะแปลว่า “ภูเขา”

จังหวัดนครพนมมีพื้นที่มีลักษณะเลียบยาวตามแนวชายฝั่งขวาของแม่น้ำโขงประมาณ ๑๗๔ กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ๓.๔๔ ล้านไร่ แบ่งการปกครอง เป็น ๑๒ อำเภอ โดยมียุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด คือ เมืองน่าอยู่ ประตูเศรษฐกิจ สู่อาเซียนและจีนตอนใต้ – ตะวันออก โดยมี สะพานมิตรภาพ ๓ นครพนม - คำม่วน เป็นสะพานที่รองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เหตุด้วยมีศักยภาพด้านการคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงเส้นทางที่ใกล้ที่สุด สู่ภาคกลางของประเทศ สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ที่ สำคัญคืออยู่ในแนวเส้นทางการค้าสายใหม่ (New Trade Lane) ตามเส้นทาง R12 เริ่มจากสะพานมิตรภาพ ๓ (นครพนม- ม่วน) เมืองท่าแขกไปถึงตอนกลางประเทศเวียดนามที่จังหวัดฮาติงห์ ที่ตั้งของท่าเรือหวุ่งอ๋าง ท่าเรือน้ำลึกของเวียดนามได้สั้นที่สุด ด้วยระยะทางเพียง ๓๓๐ กิโลเมตร และตามถนนสาย 1A ในเวียดนาม สามารถเดินทางไปยังกรุงฮานอย ด้วยระยะทางเพียง ๖๕๐ กิโลเมตร เข้าสู่ ด่านชายแดนผิงเสียงของประเทศจีน ด้วยระยะทาง 831กิโลเมตร และเข้าสู่มณฑลหนานหนิง ระยะทางเพียง ๑,๐๒๙ กิโลเมตร

จึงเป็นเส้นทางที่สั้น และสะดวกกว่าเส้นทาง R9 และ R3E (ทางหลวงคุณหมิง-กรุงเทพฯ) ที่เชื่อมโยงจากเชียงของไปคุณหมิง ปัจจุบันจึงได้มีการจัดตั้ง “สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจนครพนม” ( Office of The Nakhon Phanom Special Economic Development Zone) เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการข้อมูลด้านการค้า การลงทุน และการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน (One Stop Service) : OSS นอกจากนี้ยังมีสนามบินที่สามารถยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติได้ อีกด้วย

จังหวัดนครพนมยังได้วางเป้าประสงค์ในการเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวในลุ่มแม่น้ำโขง” และให้ความสำคัญยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ ๒ จากยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดจาก ๕ ลำดับ เนื่องด้วยมีศักยภาพเพียบพร้อมทั้งธรรมชาติ วิถีวัฒนธรรม ประเพณี และทางศาสนา โดยเฉพาะ พระธาตุพนม และพระธาตุประจำวันเกิด อีกทั้งยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติ อันมีความโดดเด่น ด้านวัฒนธรรมประเพณีและชาติพันธุ์ ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น จึงทำให้มีศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นสืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยง ประตูสู่อาเซียน ที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีจุดผ่านแดนถาวรถึง ๒ แห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ ๓ (นครพนม-คำม่วน) และจุดผ่านแดนถาวร ท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม โดยจัดให้มีกลยุทธ์การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว และพัฒนาการบริการด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวก การพัฒนาและฟื้นฟูองค์ความรู้ด้านศาสนา ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว การส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวและสร้างตลาดเชิงรุก การพัฒนาและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สินค้าของจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความต่อเนื่อง

Cr.Tourism Directory Thailand

:idea: :idea:
ไฟล์แนบ
DSC_3322.JPG
DSC_3322.JPG (101.46 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
DSC_3323.JPG
DSC_3323.JPG (111.15 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
DSC_3324.JPG
DSC_3324.JPG (79.34 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
DSC_3325.JPG
DSC_3325.JPG (60.19 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
DSC_3326.JPG
DSC_3326.JPG (71.73 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
พญาศรีสัตตนาคราช  แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม ประดิษฐานบน ริมฝั่งแม่น้ำโขง บนลานศรีสัตตนาคราช  หน้าสำนักงาน ป่าไม้ ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม  เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน  มีความสวยงาม โดดเด่น องค์พญาศรีสัตตนาคราช หล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปด เหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้ ตามที่ทราบกันว่าพี่น้องชาวไทย-ลาว มีความเชื่อผูกพัน อยู่กับองค์พญานาค เช่นเดียวกับความผูกพันในลำน้ำโขง ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาค ในฐานะที่เป็น ผู้ดูแลปักปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม   วัตถุประสงค์การก่อสร้างครั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อเกี่ยวต่อเรื่องพญานาคของชาวไท และชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกทั้งยังต้องการยกระดับ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งใหม่อีกจุดหนึ่งของภูมิภาคนี้
พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม ประดิษฐานบน ริมฝั่งแม่น้ำโขง บนลานศรีสัตตนาคราช หน้าสำนักงาน ป่าไม้ ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน มีความสวยงาม โดดเด่น องค์พญาศรีสัตตนาคราช หล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปด เหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้ ตามที่ทราบกันว่าพี่น้องชาวไทย-ลาว มีความเชื่อผูกพัน อยู่กับองค์พญานาค เช่นเดียวกับความผูกพันในลำน้ำโขง ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาค ในฐานะที่เป็น ผู้ดูแลปักปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม วัตถุประสงค์การก่อสร้างครั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อเกี่ยวต่อเรื่องพญานาคของชาวไท และชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกทั้งยังต้องการยกระดับ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งใหม่อีกจุดหนึ่งของภูมิภาคนี้
DSC_3327.JPG (105.09 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
DSC_3328.JPG
DSC_3328.JPG (82.77 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
พญาศรีสัตตนาคราช มีความเด่นสง่าเพราะมี 7 เศียร ลำตัวเดียว ถือได้ว่าเป็น ตระกูลพญานาค ที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวง   ซึ่งต่างร่ำลือว่า หากใคร มาขอพรหรือบนบานองค์พญาศรีสัตตนาคราช อาจสัมฤทธิ์ผลเพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์  ทำให้บรรยากาศ บริเวณนี้คักคักไปด้วย ผู้คนแน่นขนัดจากทั่วสารทิศทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  สำหรับใครที่มาถึงนครพนมต้องไม่พลาดแวะมากราบไหว้ของพร องค์พญาศรีสัตตนาคราช  เพื่อความเป็นสิริมงคล
พญาศรีสัตตนาคราช มีความเด่นสง่าเพราะมี 7 เศียร ลำตัวเดียว ถือได้ว่าเป็น ตระกูลพญานาค ที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งต่างร่ำลือว่า หากใคร มาขอพรหรือบนบานองค์พญาศรีสัตตนาคราช อาจสัมฤทธิ์ผลเพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้บรรยากาศ บริเวณนี้คักคักไปด้วย ผู้คนแน่นขนัดจากทั่วสารทิศทุกวัน โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ สำหรับใครที่มาถึงนครพนมต้องไม่พลาดแวะมากราบไหว้ของพร องค์พญาศรีสัตตนาคราช เพื่อความเป็นสิริมงคล
DSC_3329.JPG (99.51 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
DSC_3330.JPG
DSC_3331.JPG
DSC_3331.JPG (120.77 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
IMG20221109153446.jpg
IMG20221109153446.jpg (133.48 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
ตำนานพญานาคไทย-ลาว<br /><br />จากความเชื่อในเรื่อง “พญานาค” สำหรับชาวพุทธแล้วถือเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานกันมานานทั้งในพุทธประวัติก็ดี ตลอดจนเรื่องราวจาก บรรดาเกจิอาจารย์ หลายรูปก็ดี จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะกล่าวว่า “พญานาค” ถือเป็นส่วนหนึ่งสำหรับชีวิตของคนไทยและอีกหลาย กรณีที่เกิดขึ้นจากความเชื่อความศรัทธา จากความเชื่อและความศรัทธาของทั้งพี่น้องชาวไทยและชาวลาวเกี่ยวกับองค์พญานาค ที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม กล่าวคือ ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวต่างมี กษัตริย์แห่งนาคราช หรือ นาคาธิบดี แยกปกครองดูแล  ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะ แตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือ มีลักษณะตัวเป็นงู ตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง  เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี ๗ สี และที่สำคัญคือ  ตระกูลธรรมดำองค์ท่านจะมีเศียรเดียว แต่ถ้ำตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมี  ๓  เศียร ๕ เศียร ๗ เศียร และ ๙ เศียร  พญานาคจำพวกนี้องค์ท่านจะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของ องค์พระวิษณะนารายณ์ ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร อนันตนาคราช เล่ากันว่าองค์ท่านจะมีกายที่ใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด  มี ๑๐๐๐ เศียร ท่านเกิด ทั้งในน้ำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่  มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ และท่านสามารถจะแปลงร่างเป็นเทพบุต รหรือเทพธิดารูปร่างสวยงาม<br /><br />ฝั่งลาว คือ พญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว เป็นพญานาคเจ็ดเศียร<br /><br />ฝั่งไทย คือ พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย เป็นพญานาคหนึ่งเศียรพญาศรีสุทโธ ท่านชอบ จำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรม มีนิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ชอบมาปฏิบัติธรรม ที่พระธาตุพนม โดยมอบหมาย ให้เหล่าพญานาค 6 อำมาตย์ดูแลแทน ในระหว่างที่หลบมาจำศีลภาวนา <br /><br />พญาศรีสัตตนาคราช เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงในฝั่งลาว เป็นพญานาคที่ทรงฤทธิ์ ท่านเป็นพญานาคที่ชอบจำศีลและประพฤติ ปฏิบัติธรรมเหมือนพญาศรีสุทโธนาคราช โดยชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน  ทำให้พญานาคทั้ง 2 องค์ กลายเป็นเพื่อนที่สนิท สนมกัน ตามคำกล่าวของหลวงปู่คำพันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุมหาชัยกล่าว่า ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร หรือหากมีพิธีกรรม อันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาค พิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก  จึงเป็นที่มาของพญาศรีสัตตนาคราช ริมโขง เพื่อคุ้มครองปกปักษ์รักษาพี่น้องชาวนครพนม<br /><br />Cr.ไปด้วยกันดอทคอม
ตำนานพญานาคไทย-ลาว

จากความเชื่อในเรื่อง “พญานาค” สำหรับชาวพุทธแล้วถือเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานกันมานานทั้งในพุทธประวัติก็ดี ตลอดจนเรื่องราวจาก บรรดาเกจิอาจารย์ หลายรูปก็ดี จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะกล่าวว่า “พญานาค” ถือเป็นส่วนหนึ่งสำหรับชีวิตของคนไทยและอีกหลาย กรณีที่เกิดขึ้นจากความเชื่อความศรัทธา จากความเชื่อและความศรัทธาของทั้งพี่น้องชาวไทยและชาวลาวเกี่ยวกับองค์พญานาค ที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม กล่าวคือ ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวต่างมี กษัตริย์แห่งนาคราช หรือ นาคาธิบดี แยกปกครองดูแล ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะ แตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือ มีลักษณะตัวเป็นงู ตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี ๗ สี และที่สำคัญคือ ตระกูลธรรมดำองค์ท่านจะมีเศียรเดียว แต่ถ้ำตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมี ๓ เศียร ๕ เศียร ๗ เศียร และ ๙ เศียร พญานาคจำพวกนี้องค์ท่านจะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของ องค์พระวิษณะนารายณ์ ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร อนันตนาคราช เล่ากันว่าองค์ท่านจะมีกายที่ใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มี ๑๐๐๐ เศียร ท่านเกิด ทั้งในน้ำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ และท่านสามารถจะแปลงร่างเป็นเทพบุต รหรือเทพธิดารูปร่างสวยงาม

ฝั่งลาว คือ พญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว เป็นพญานาคเจ็ดเศียร

ฝั่งไทย คือ พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย เป็นพญานาคหนึ่งเศียรพญาศรีสุทโธ ท่านชอบ จำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรม มีนิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ชอบมาปฏิบัติธรรม ที่พระธาตุพนม โดยมอบหมาย ให้เหล่าพญานาค 6 อำมาตย์ดูแลแทน ในระหว่างที่หลบมาจำศีลภาวนา

พญาศรีสัตตนาคราช เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงในฝั่งลาว เป็นพญานาคที่ทรงฤทธิ์ ท่านเป็นพญานาคที่ชอบจำศีลและประพฤติ ปฏิบัติธรรมเหมือนพญาศรีสุทโธนาคราช โดยชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน ทำให้พญานาคทั้ง 2 องค์ กลายเป็นเพื่อนที่สนิท สนมกัน ตามคำกล่าวของหลวงปู่คำพันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุมหาชัยกล่าว่า ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร หรือหากมีพิธีกรรม อันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาค พิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก จึงเป็นที่มาของพญาศรีสัตตนาคราช ริมโขง เพื่อคุ้มครองปกปักษ์รักษาพี่น้องชาวนครพนม

Cr.ไปด้วยกันดอทคอม
IMG20221109153529.jpg (70.59 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
IMG20221109153625.jpg
IMG20221109153652.jpg
IMG20221109153652.jpg (113.75 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
IMG20221109153653.jpg
IMG20221109153653.jpg (115.55 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
IMG20221109154300.jpg
IMG20221109154300.jpg (132.75 KiB) เข้าดูแล้ว 785 ครั้ง
IMG20221109154305.jpg
IMG20221109154306.jpg
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
ลุงเนตร
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 19852
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 19:20
Tel: 0898133936
team: อิสระ
Bike: Trek 3900, Dark Rock ทัวร์ริ่ง
ตำแหน่ง: ๔๖๕ ซอยจ่าโสด ถนนทางรถไฟเก่า แขวง,เขตบางนา กทม.๑๐๒๖๐
ติดต่อ:

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย ลุงเนตร »

..ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ผมไปหลายครั้ง ไม่ได้ค้นคว้าสืบทราบประวัติศาสตร์เลย ครานี้ท่านน้องนำมาให้จึงได้ทราบความเป็นมาอย่างละเอียด ขอบคุณครับ.
*..ยิ่งปั่น..ยิ่งแข็ง..แรงยิ่งดี..โรคไม่ค่อยมี..ไม่ทุกข์..*
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

ลุงเนตร เขียน: 20 ม.ค. 2023, 06:34..ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ผมไปหลายครั้ง ไม่ได้ค้นคว้าสืบทราบประวัติศาสตร์เลย ครานี้ท่านน้องนำมาให้จึงได้ทราบความเป็นมาอย่างละเอียด ขอบคุณครับ.
:) :D อรุณสวัสดิ์ท่านพี่ที่เคารพและญาติธรรมที่รักทุกท่าน ขอบพระคุณท่านพี่เป็นอย่างสูงที่เมตตา เข้ามาให้กำลังใจ ช่วงนี้ท่านพี่คงเดินทางแสวงบุญตามแบบของท่านพี่ ก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยคนครับ การสร้างกุศลผลบุญเป็นไปตามถนัดของใครของมัน แต่ทุกการกระทำที่เป็นกุศลล้วนเสริมส่งบารมีของตน ๆ แน่นอน "ใครทำใครได้" สาธุ สาธุ ครับ

ก่อนจะไปเที่ยวต่อเราไปชมคลิปเกี่ยวกับพญาศรีนาคคราชกันก่อนนะครับ
:) :)

:idea: :idea: #ตำนานพญานาค #พญาศรีสัตนาคราช พญาศรีสัตตนาคราช จอมนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แห่งฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (นาคราชแห่งประเทศลาว) :idea: :idea:
ไฟล์แนบ
เสียดายเราเที่ยวไม่เป็นระบบระเบียบไม่ได้วางแผน ปั่นไปอยากเข้าตรงไหนก็เข้า เข้าไม่ได้ก็ผ่านจึงไม่ได้เรียงลำดับ รร.นี้อยู่บริเวณสามแยกตรงข้ามอนุเสารีย์พญานาค ตั้งโดเด่นเป็นคล้าย Landmark <br /><br />จะมีให้ได้เห็นจะ ๆ ติดตาไปเรื่อย ๆ ละกันครับ เช่นกันวัดของนครพนมจะเรียงกันไปตามถนน วัดโอกาส วัดโพธ์ศรี วัดพระธาตุ ฯ แต่วัดโพธิศรีเราข้ามไปค่อยย้อนกลับมาครับ
เสียดายเราเที่ยวไม่เป็นระบบระเบียบไม่ได้วางแผน ปั่นไปอยากเข้าตรงไหนก็เข้า เข้าไม่ได้ก็ผ่านจึงไม่ได้เรียงลำดับ รร.นี้อยู่บริเวณสามแยกตรงข้ามอนุเสารีย์พญานาค ตั้งโดเด่นเป็นคล้าย Landmark

จะมีให้ได้เห็นจะ ๆ ติดตาไปเรื่อย ๆ ละกันครับ เช่นกันวัดของนครพนมจะเรียงกันไปตามถนน วัดโอกาส วัดโพธ์ศรี วัดพระธาตุ ฯ แต่วัดโพธิศรีเราข้ามไปค่อยย้อนกลับมาครับ
DSC_3333.JPG (88.64 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3334.JPG
DSC_3335.JPG
DSC_3335.JPG (119.19 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3338.JPG
DSC_3338.JPG (113.98 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3342.JPG
DSC_3342.JPG (115.08 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3343.JPG
DSC_3343.JPG (77.08 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3344.JPG
DSC_3344.JPG (47.11 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3345.JPG
DSC_3345.JPG (60.47 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
วัดมหาธาตุ (จังหวัดนครพนม)<br /><br />วัดมหาธาตุ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน 79 ตารางวา<br /><br />วัดมหาธาตุตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 1150 สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองนครพนม[1] ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2464 เดิมชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ต่อมาชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดธาตุ เนื่องจากมีพระธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ ภายในวัดยังมีเจดีย์น้อยใหญ่หลายสิบองค์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ชาวบ้านได้สร้างธาตุเจดีย์ ไว้เป็นที่บรรจุอัฐิของบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ภายหลังที่มีการสร้างพระธาตุขึ้น พระครูพนมนครคณาจารย์ ได้ทำการบันทึกเสนอขอตั้งชื่อวัดเป็น &quot;วัดมหาธาตุ&quot;<br /><br />เมื่อ พ.ศ. 2462 ได้มีการรื้อถอนองค์เล็กองค์น้อยออกแล้วสร้าง พระธาตุนคร สร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2465 ผู้สร้างคือ พระยามหาอำมาตย์ (ป้อม) แม่ทัพใหญ๋ที่มาจากเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว เป็นพระธาตุทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ 4.85 เมตร สูงประมาณ 24 เมตร มีลักษณะตามแบบพระธาตุพนมองค์เดิม มีการประกอบพิธีฉลองสมโภชและบรรจุอรหันตสารีริกธาตุ วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2465[2]
วัดมหาธาตุ (จังหวัดนครพนม)

วัดมหาธาตุ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน 79 ตารางวา

วัดมหาธาตุตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 1150 สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองนครพนม[1] ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2464 เดิมชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ต่อมาชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดธาตุ เนื่องจากมีพระธาตุเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ ภายในวัดยังมีเจดีย์น้อยใหญ่หลายสิบองค์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ชาวบ้านได้สร้างธาตุเจดีย์ ไว้เป็นที่บรรจุอัฐิของบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ภายหลังที่มีการสร้างพระธาตุขึ้น พระครูพนมนครคณาจารย์ ได้ทำการบันทึกเสนอขอตั้งชื่อวัดเป็น "วัดมหาธาตุ"

เมื่อ พ.ศ. 2462 ได้มีการรื้อถอนองค์เล็กองค์น้อยออกแล้วสร้าง พระธาตุนคร สร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2465 ผู้สร้างคือ พระยามหาอำมาตย์ (ป้อม) แม่ทัพใหญ๋ที่มาจากเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว เป็นพระธาตุทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ 4.85 เมตร สูงประมาณ 24 เมตร มีลักษณะตามแบบพระธาตุพนมองค์เดิม มีการประกอบพิธีฉลองสมโภชและบรรจุอรหันตสารีริกธาตุ วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2465[2]
DSC_3346.JPG (29.73 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
วัดกลาง<br /><br />วัดกลางก็เป็นวัดที่สวย และเด่นที่สุดเมื่อมองมาจากฝั่งท่าแขกของประเทศลาว(เขาเล่าว่านะ) ตามประวัติกล่าวว่า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๒๐๐ ภายในอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อองค์ตื้อ” ซึ่งจากคำบอกเล่า มีความเชื่อว่า ผู้ใดได้กราบไหว้หลวงพ่อองค์ตื้อแล้วเชื่อกันว่าหากมีของหาย ถูกใส่ความ ใส่ร้าย จะได้รับความเป็นกลางเป็นธรรม ทำให้ชีวิตครอบครัว ตลอดจนการทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองมั่นคง
วัดกลาง

วัดกลางก็เป็นวัดที่สวย และเด่นที่สุดเมื่อมองมาจากฝั่งท่าแขกของประเทศลาว(เขาเล่าว่านะ) ตามประวัติกล่าวว่า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๒๐๐ ภายในอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อองค์ตื้อ” ซึ่งจากคำบอกเล่า มีความเชื่อว่า ผู้ใดได้กราบไหว้หลวงพ่อองค์ตื้อแล้วเชื่อกันว่าหากมีของหาย ถูกใส่ความ ใส่ร้าย จะได้รับความเป็นกลางเป็นธรรม ทำให้ชีวิตครอบครัว ตลอดจนการทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองมั่นคง
DSC_3348.JPG (112.05 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3349.JPG
DSC_3349.JPG (98.22 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3350.JPG
DSC_3350.JPG (100.97 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3351.JPG
DSC_3351.JPG (119.19 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3352.JPG
DSC_3352.JPG (99.71 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3353.JPG
DSC_3353.JPG (102.05 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3354.JPG
DSC_3354.JPG (69.92 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3355.JPG
DSC_3355.JPG (103.92 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
DSC_3356.JPG
DSC_3356.JPG (97.59 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
ออกจากวัดกลางเราก็ปั่นไปต่อ ชมความสวยงามของเมืองนครพนมกันแบบเพลิดเพลินเจริญใจ จะเป็นวัดไหนก็ติดตามไปเรื่อย ๆ  นครพนมใครไปก็จะรู้ว่าบรรยากาศแสนโรแมนติกครับ ไม่มีใครไม่ติดใจตรงนี้ผมการันตี แค่เดินเล่นริมโขงยามเย็นหรือรับแสงยามเช้าก็คุ้มแล้วครับ
ออกจากวัดกลางเราก็ปั่นไปต่อ ชมความสวยงามของเมืองนครพนมกันแบบเพลิดเพลินเจริญใจ จะเป็นวัดไหนก็ติดตามไปเรื่อย ๆ นครพนมใครไปก็จะรู้ว่าบรรยากาศแสนโรแมนติกครับ ไม่มีใครไม่ติดใจตรงนี้ผมการันตี แค่เดินเล่นริมโขงยามเย็นหรือรับแสงยามเช้าก็คุ้มแล้วครับ
DSC_3357.JPG (84.59 KiB) เข้าดูแล้ว 721 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อรุณสวัสดิ์ท่านที่เคารพ เช้านี้เรามาศึกษาเรื่องราวของพญานาคกันนะครับ

ตำนานพญานาค

นาค หรือ พญานาค งูใหญ่มีหงอน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และนาคยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล นาคเป็นเทพเจ้าแห่งท้องน้ำ บางแห่งก็ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งฟ้า

ตำนานความเชื่อเรืองพญานาคมีความเก่าแก่มาก ดูท่าว่าจะเก่ากว่าพุทธศาสนาอีกด้วย สืบค้นได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียใต้ ด้วยเหตุจากภูมิประเทศทางอินเดียใต้เป็นป่าเขาจึงทำให้มีงูอยู่ชุกชุม และด้วยเหตุที่งูนั้นลักษณะทางกายภาพคือมีพิษร้ายแรง งูจึงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ให้การนับถือว่ามีอำนาจ ชาวอินเดียใต้จึงนับถืองู

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีตำนานเรื่องพญานาคอย่างแพร่หลาย ชาวบ้านในภูมิภาคนี้มักเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือเมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษาโดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่ และเมื่อไปเล่นน้ำในแม่น้ำโขงควรยกมือไหว้เพื่อเป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี7สี และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช(อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียณสมุทร อนันตนาคราชนั้นเล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในนำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม

ความเชื่อเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณสมบัติ

พญานาค หรือ งูใหญ่มีหงอน ในตำนานของฝรั่ง หรือชาวตะวันตก ถือว่าเป็นตัวแทนของกิเลส ความชั่วร้าย ตรงข้ามกับชาวตะวันออก ที่ถือว่า งูใหญ่ พญานาค มังกร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลังอำนาจ ชาวฮินดูถือว่า พญานาคเป็นผู้ใกล้ชิดกับเทพองค์ต่างๆ เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ เช่น อนันตนาคราช ที่เป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ตรงกับความเชื่อของลัทธิพราหมณ์

พญานาค งูใหญ่ มีหงอน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และ บันไดสายรุ้งสู่จักรวาล เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ จากการจำศีล บำเพ็ญภาวนา ศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เราจะพบเห็น เป็นรูปปั้นหน้าโบสถ์ ตามวัดต่างๆบันไดขึ้นสู่วัดในพุทธศาสนา ภาพเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง กับศาสนาพุทธอีกมากมาย

พญานาคแปลงกายได้ ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไรก็ได้ แต่ในสภาวะ 5 อย่างนี้ จะต้องปรากฏเป็นงูใหญ่เช่นเดิม คือ ขณะเกิด ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับ โดยไม่มีสติ และที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม

พญานาค อาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก ก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆ กัน ชั้นสูงๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์

พญานาค สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร สามารถขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลก จนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้นๆ จะเห็นว่า พญานาค หรือ งูใหญ่ นั้นมีความเป็นมาและถิ่นที่อยู่เป็นสัดส่วนในภพหนึ่งต่างหาก จะมีเป็นบางครั้งที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ พญานาค เป็นทั้งเอกลักษณ์ของความดี และความไม่ดี

ความเชื่อเกี่ยวพันกับชีวิต น้ำ ธรรมชาติ

พญานาค เป็นสัญลักษณ์แห่งธาตุน้ำ "นาคให้น้ำ" เป็นเกณฑ์ที่ชาวบ้านรู้และเข้าใจดี ที่ใช้วัดในแต่ละปี จำนวนนาคให้น้ำมีไม่เกิน 7 ตัว ถ้าปีไหนอุดมสมบูรณ์มีน้ำมากเรียกว่า "นาคให้น้ำ 1 ตัว" แต่หากปีไหนแห้งแล้งเรียกว่าปีนั้น "มีนาคให้น้ำ 7 ตัว" จะวัดกลับกันกับจำนวนนาค ก็คือที่น้ำหายไป เกิดความแห้งแล้งนั้นก็เพราะ พญานาคเกี่ยงกันให้น้ำ แต่ละตัวจึงกลืนน้ำไว้ในท้องไม่ยอมพ่นน้ำลงมา

เกี่ยวข้องกับคนไทย

เรามักจะเห็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับนาคได้เสมอ ในงาน จิตรกรรม ประติมากรรม และหัตถกรรม นาคเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะตามอาคารวัดต่างๆ หลังคาอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถานบันศาสนสถาน ตามคตินิยมที่ว่า นาคยิ่งใหญ่คู่ควรกับสถาบันอันสูงส่ง เช่น นาคสะดุ้ง ที่ทอดลำตัวยาวตามบันได นาคลำยอง ที่ทำเป็นป้านลมหลังคาโบสถ์ ที่ต่อเชื่อมกับนาคสะดุ้ง นาคเบือน นาคจำลอง และนาคทันต์ คันทวยรูปพญานาค

พญานาคกับตำนานในพระพุทธศาสนา

ตามตำนาน พญานาค มีอยู่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าแล้ว ดังเช่น หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้ว ได้เสด็จไปตามเมืองต่างๆ เพื่อแสดงธรรมเทศนา มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ "มุจลินท์" ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข อยู่ 7 วัน คราวเดียวกันนั้นมีฝนตกพรำๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด 7 วัน ได้มีพญานาคชื่อ "มุจลินท์" เข้ามาวงด้วยขด 7 รอบพร้อมกับแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้ว คลายขนดออก แปลงเพศเป็นมานพมายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า

ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวพุทธสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก แต่มักจะสร้างแบบพระนั่งบนตัวพญานาค ซึ่งดูเหมือนว่าเอาพญานาคเป็นบัลลังก์ เพื่อให้เกิดความสง่างาม และทำให้คิดว่า พญานาค คือผู้คุ้มครองพระศาสดา

นาคสะดุ้ง...ที่ราวบันไดโบสถ์นั้นได้สร้างขึ้นตามความเชื่อถือ "บันไดนาค" ก็ด้วยความเชื่อดังกล่าว แม้ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ก็โดยบันไดแก้วมณีสีรุ้ง ที่เทวดาเนรมิตขึ้นและมีพญานาคจำนวน 2 ตน เอาหลังหนุนบันไดไว้

ความเชื่อในดินแดนต่างๆ ของไทย

รูปพญานาคแกะสลัก ประดับราชรถพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่โรงเมี้ยนโกศ วัดเชียงทอง หลวงพระบางในด้านของดินแดนสยามหรือประเทศไทยของเรานั้น ก็มีความเชื่อเรื่องนาคปรากฏอยู่มากมาย

ภาคเหนือ

มีตำนานเกี่ยวกับพญานาคอยู่เช่นกัน ดังในตำนานสิงหนวัติซึ่งเป็นตำนานเก่าแก่ของทางภาคเหนือเอง "เมื่อเจ้าเมืองสิงหนวัติอพยพคนมาจากทางเหนือ พญานาคแปลงกายมาช่วยชี้ที่ตั้งเมืองใหม่ และขอให้อยู่ในทศพิธราชธรรม พอตกกลางคืนก็ขึ้นมาสร้างคูเมืองเป็นเมืองนาคพันธุ์สิงหนวัติ ต่อมายกทัพปราบเมืองอื่นได้และรวมดินแดนเข้าด้วยกันจึงเปลี่ยนชื่อเป็น แคว้นโยนกนคร ต้นวงศ์ของพญามังรายผู้ก่อกำเนิดอาณาจักรล้านนานั่นเอง"

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นาคล้วนมีส่วนร่วมในตำนานอย่างชัดเจน เช่น ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงเชื่อว่า แม่น้ำโขงเกิดจากการแถตัวของพญานาค นอกจากนี้ยังรวมถึงบั้งไฟพญานาค โดยมีตำนานว่าในวันออกพรรษาหรือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พญานาคแห่งแม่น้ำโขงต่างชื่นชมยินดี จึงเฮ็ด(จุด)บั้งไฟถวายการเสด็จกลับของพระพุทธเจ้าจนกลายเป็นประเพณีทุกปี และเนื่องจากเชื่อว่าพญานาคเป็นเจ้าบาดาล เป็นผู้ให้กำเนิดน้ำ ดังนั้นเมื่อชาวนาจะทำพิธีแรกไถนา จึงต้องดูวัน เดือน ปี และทิศที่จะบ่ายหน้าควายเพื่อไม้ให้ควายลากไถไปในทิศที่ทวนเกล็ดนาค ไม่อย่างนั้นการทำนาจะเกิดอุปสรรคต่างๆ ขึ้น

นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่แท้จริง เพราะลูกไฟประหลาดหรือที่เรียกว่า "บั้งไฟพญานาค" นี้เกิดขึ้นเฉพาะในเขต จ.หนองคายเท่านั้น ตามแนวแม่น้ำโขง ไม่มีขึ้นที่อื่นแม้จะอยู่ตามริมแม่น้ำโขงเช่นกัน จึงนับได้ว่าหนองคายกับเวียงจันทน์ สมัยก่อนนั้นการปกครองและการสร้างเมืองโดยพญานาค จึงได้รับอิทธิพลนี้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะถูกแยกการปกครอง และแยกประเทศออกจากกัน แต่ในความเป็นจริงทางภูมิศาสตร์ก็เป็นพื้นที่เดียวกัน ตำนานประเพณีต่างๆ ของคนแถบลุ่มแม่น้ำโขง จะเกี่ยวข้องกับพญานาคกันทั้งนั้น เพราะพญานาค หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของมนุษย์

ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia , www.amulet.in.th
:idea: :idea:
ไฟล์แนบ
DSC_3358.JPG
DSC_3358.JPG (103.67 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3359.JPG
DSC_3359.JPG (137.75 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3360.JPG
DSC_3360.JPG (105.87 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
IMG20221109163515.jpg
IMG20221109163515.jpg (111.31 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
IMG20221109163626.jpg
“วัดโพธิ์ศรี” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ใกล้กับพญาศรีสัตตนาคราช เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าตั้งขึ้นพร้อมกับเมืองนครพนม  โดยบริเวณตรงข้ามกับวัดมีต้นโพธิ์ใหญ่ตระหง่าน จึงได้ตั้งชื่อวัดตามต้นโพธิ์นั้น ต่อมาต้นโพธิ์ได้หักโค่นลงตามอายุขัย เจ้าอาวาสในขณะนั้นได้นำหน่อมาปลูกข้างกำแพงวัดด้านทิศเหนือของโบสถ์ และยังอยู่ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน<br /><br />เมื่อลอดผ่านซุ้มประตู(ประตูโขง)หน้าวัด มีวิหารอยู่ตรงหน้า เป็นที่ประดิษฐาน”พระทอง” พระพุทธรูปสกุลช่างล้านช้าง ปางมารวิชัย ประทับนั่งเหนือฐานอาสนบัลลังก์บัวชั้นเดียว ฐานล่างประกอบด้วยฐาน 8 เหลี่ยม จำนวน 3 ชั้น พระรัศมีมีเปลวพระศกเม็ด มีไรพระศก ฐานล่างด้านหน้ามีอักษร 2 บรรทัด  โดยบรรทัดแรกเป็นอักษรไทยอีสาน และบรรทัดที่สองเป็นอักษรไทย ธรรมอีสาน  เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการหนังสือตัวเขียนและจารึก กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้ถอดความไว้ดังนี้ บรรทัดที่หนึ่ง สร้างเมื่อปีมะแม พ.ศ.2066 ตรงกับสมัยพระเมืองแก้วครองเมืองเชียงใหม่ และตรงกับรัชสมัยพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา นับถือปี 2562 พระทองมีอายุถึง 496 ปี<br /><br />มีตำนานเล่าขานว่า มีพี่น้อง 4 คน เป็นชายสองชื่อนายเกิ้นกับนายแก้น และหญิงอีกสองชื่อนางต้อกับนางตั้น โดยขณะกำลังขุดดิน ถากถาง ในแปลงการเกษตรของพวกตน เกิดลมฝนตั้งเค้าทะมึนมาแต่ไกล นางต้อและนางตั้นจึงรีบกลับบ้านก่อน ระหว่างทางเห็นรุ้งกินน้ำ กำลังใช้ขันทองคำตักน้ำกิน จึงเกิดความโลภอยากได้ขันทองคำนั้น นางต้อจึงถอดผ้าซิ่นเปลือยกายถือไม้ไล่รุ้ง รุ้งก็ตกใจทิ้งขันไว้แล้วสลายตัวไป สองพี่น้องแอบนำขันทองคำดังกล่าวไปซ่อนไว้ โดยไม่ยอมบอกเล่าให้ใครฟัง<br /><br />อยู่มาก็มีคนในบ้านมีอันเป็นไป เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นประจำ จึงคิดว่าเป็นเพราะแย่งขันทองคำมาจากรุ้ง และไม่มีบุญวาสนาที่จะครอบครองขันทองคำ จึงนำขันทองคำไปฝากไว้กับพระ ปรากฏว่าคนที่ป่วยก็หาย แต่สองพี่น้องยังกังวลอยู่ จึงคิดจะนำขันทองใบนี้หล่อเป็นพระพุทธรูป ในสมัยนั้นมีช่างหล่อพระฝีมือดีอยู่บ้านกูบกองหล่อ แถวลำน้ำหินปูน ประเทศลาว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในปัจจุบัน
“วัดโพธิ์ศรี” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ใกล้กับพญาศรีสัตตนาคราช เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าตั้งขึ้นพร้อมกับเมืองนครพนม โดยบริเวณตรงข้ามกับวัดมีต้นโพธิ์ใหญ่ตระหง่าน จึงได้ตั้งชื่อวัดตามต้นโพธิ์นั้น ต่อมาต้นโพธิ์ได้หักโค่นลงตามอายุขัย เจ้าอาวาสในขณะนั้นได้นำหน่อมาปลูกข้างกำแพงวัดด้านทิศเหนือของโบสถ์ และยังอยู่ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

เมื่อลอดผ่านซุ้มประตู(ประตูโขง)หน้าวัด มีวิหารอยู่ตรงหน้า เป็นที่ประดิษฐาน”พระทอง” พระพุทธรูปสกุลช่างล้านช้าง ปางมารวิชัย ประทับนั่งเหนือฐานอาสนบัลลังก์บัวชั้นเดียว ฐานล่างประกอบด้วยฐาน 8 เหลี่ยม จำนวน 3 ชั้น พระรัศมีมีเปลวพระศกเม็ด มีไรพระศก ฐานล่างด้านหน้ามีอักษร 2 บรรทัด โดยบรรทัดแรกเป็นอักษรไทยอีสาน และบรรทัดที่สองเป็นอักษรไทย ธรรมอีสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการหนังสือตัวเขียนและจารึก กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้ถอดความไว้ดังนี้ บรรทัดที่หนึ่ง สร้างเมื่อปีมะแม พ.ศ.2066 ตรงกับสมัยพระเมืองแก้วครองเมืองเชียงใหม่ และตรงกับรัชสมัยพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา นับถือปี 2562 พระทองมีอายุถึง 496 ปี

มีตำนานเล่าขานว่า มีพี่น้อง 4 คน เป็นชายสองชื่อนายเกิ้นกับนายแก้น และหญิงอีกสองชื่อนางต้อกับนางตั้น โดยขณะกำลังขุดดิน ถากถาง ในแปลงการเกษตรของพวกตน เกิดลมฝนตั้งเค้าทะมึนมาแต่ไกล นางต้อและนางตั้นจึงรีบกลับบ้านก่อน ระหว่างทางเห็นรุ้งกินน้ำ กำลังใช้ขันทองคำตักน้ำกิน จึงเกิดความโลภอยากได้ขันทองคำนั้น นางต้อจึงถอดผ้าซิ่นเปลือยกายถือไม้ไล่รุ้ง รุ้งก็ตกใจทิ้งขันไว้แล้วสลายตัวไป สองพี่น้องแอบนำขันทองคำดังกล่าวไปซ่อนไว้ โดยไม่ยอมบอกเล่าให้ใครฟัง

อยู่มาก็มีคนในบ้านมีอันเป็นไป เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นประจำ จึงคิดว่าเป็นเพราะแย่งขันทองคำมาจากรุ้ง และไม่มีบุญวาสนาที่จะครอบครองขันทองคำ จึงนำขันทองคำไปฝากไว้กับพระ ปรากฏว่าคนที่ป่วยก็หาย แต่สองพี่น้องยังกังวลอยู่ จึงคิดจะนำขันทองใบนี้หล่อเป็นพระพุทธรูป ในสมัยนั้นมีช่างหล่อพระฝีมือดีอยู่บ้านกูบกองหล่อ แถวลำน้ำหินปูน ประเทศลาว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในปัจจุบัน
IMG20221109164410.jpg (121.14 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
IMG20221109164416.jpg
IMG20221109164658.jpg
IMG20221109164658.jpg (121.92 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3362.JPG
DSC_3362.JPG (50.12 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
ออกจากวัดโพธิ์ศรีเป็นเวลาเย็นเราจึงคิดว่าควรจะหาไฟฉายติดเจ้าตัวเล็กของเรา เพราะไม่ได้เตรียมมาเนื่องจากหาไม่เจอเก็บรักษาดีเกินประกอบกับระยะนี้เราไม่ได้ออกปั่นตระเวนไกล ๆ กันเลย DIY เป็นร้านขายของจิปาถะอยากจะพูดว่า สากกะเบือยันเรือรบ ๕๕๕ มีทุกอย่างครับของเล็ก ๆ ไปถึงของใหญ่ ๆ ที่เชียงใหม่ก็มีอยู่หลายที่ ร้านนี้พึ่งเกิดได้ไม่กีปีมานี้ เราเข้าไปเลือกหาไฟฉายที่ติดรถจักรยาน ก็ได้เรียกว่าพอแก้ขัดครับ
ออกจากวัดโพธิ์ศรีเป็นเวลาเย็นเราจึงคิดว่าควรจะหาไฟฉายติดเจ้าตัวเล็กของเรา เพราะไม่ได้เตรียมมาเนื่องจากหาไม่เจอเก็บรักษาดีเกินประกอบกับระยะนี้เราไม่ได้ออกปั่นตระเวนไกล ๆ กันเลย DIY เป็นร้านขายของจิปาถะอยากจะพูดว่า สากกะเบือยันเรือรบ ๕๕๕ มีทุกอย่างครับของเล็ก ๆ ไปถึงของใหญ่ ๆ ที่เชียงใหม่ก็มีอยู่หลายที่ ร้านนี้พึ่งเกิดได้ไม่กีปีมานี้ เราเข้าไปเลือกหาไฟฉายที่ติดรถจักรยาน ก็ได้เรียกว่าพอแก้ขัดครับ
DSC_3364.JPG (99.38 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
เราปั่นย้อนกลับเพื่อจะไปหาของอร่อยบำรุงร่างกาย จากนี้ไปก็จะเป็นบรรยายกาศยามเย็นของนครพนมครับ
เราปั่นย้อนกลับเพื่อจะไปหาของอร่อยบำรุงร่างกาย จากนี้ไปก็จะเป็นบรรยายกาศยามเย็นของนครพนมครับ
DSC_3366.JPG (76.28 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3367.JPG
DSC_3367.JPG (76.21 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3368.JPG
DSC_3368.JPG (53.59 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3369.JPG
DSC_3369.JPG (95.73 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3370.JPG
DSC_3370.JPG (78.67 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3371.JPG
DSC_3371.JPG (66.89 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3372.JPG
DSC_3372.JPG (67.93 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3373.JPG
DSC_3373.JPG (90.35 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3374.JPG
DSC_3374.JPG (79.12 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
DSC_3375.JPG
DSC_3375.JPG (65.67 KiB) เข้าดูแล้ว 675 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :) :D ริมฝั่งโขงยามเย็นและค่ำคืน สุดบรรยายครับสวยงาม ลมเย็นปะทะหน้าเราปั่นไปมองซ้ายมองขวาและตรงหน้า ซึมซับบรรยากาศที่ "รู้ซึ้งถึงความสุข" ที่หวนกลับมาอีกครั้ง หลังจากเจ้าโรคร้ายอาละวาดหลายปี มันซาบซ่านเข้าสู่จิตวิญญาณ (แต่อย่างไรก็ไม่เท่ากับจิตสงบเมื่ออยู่ในสมาธินะครับ) เสมือนเราอยู่ในโลกนี้คนเดียวจริง ๆ (ในช่วงเวลานั้นนะ อิอิ) มันเพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูก ผมก็ไม่ถามคุณนายว่ามีความรู้สึกอย่างไร ของใครของมันแล้วแต่บุญวาสนา ใครจะซึมซับอะไรอย่างไร แต่รู้ได้ว่าคุณนายก็ Happy สุด ๆ เช่นกันครับ :lol: :lol:
ไฟล์แนบ
DSC_3376 - Copy.JPG
DSC_3376 - Copy.JPG (55.03 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3377 - Copy.JPG
DSC_3377 - Copy.JPG (69.71 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3378 - Copy.JPG
DSC_3378 - Copy.JPG (48.15 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3380.JPG
DSC_3380.JPG (81.08 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3381.JPG
DSC_3381.JPG (87.91 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3382.JPG
DSC_3382.JPG (68.79 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3383.JPG
DSC_3383.JPG (76.62 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3384.JPG
DSC_3384.JPG (58.02 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3385.JPG
DSC_3385.JPG (88.57 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3386.JPG
DSC_3386.JPG (42.01 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3390.JPG
DSC_3390.JPG (43.09 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3391.JPG
DSC_3391.JPG (78.94 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3392.JPG
DSC_3392.JPG (55.63 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3393.JPG
DSC_3393.JPG (64.69 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3394.JPG
DSC_3394.JPG (64.13 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3395.JPG
DSC_3395.JPG (41.92 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3396.JPG
DSC_3396.JPG (36.05 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3397.JPG
DSC_3397.JPG (42.33 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3398.JPG
DSC_3398.JPG (46.55 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
DSC_3399.JPG
DSC_3399.JPG (56.07 KiB) เข้าดูแล้ว 674 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 23 ม.ค. 2023, 07:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D ปั่นเข้าตลาดโต้รุ่งหาซื้ออาหารการกิน เยอะมากแต่ของเราหากินลำบากนิดนึง ถ้าธรรมดาหมูเห็ด เป็ด ไก่ ปลา ฯ เยอะแยะมากมาย เราก็เดินชมไปเรื่อย ๆ มาภาคอีสานอย่างน้อยข้าวจี่มันต้องมี(ของชอบ) สุดท้ายเราก็เจอครับคนเดินตลาดการันตีอร่อยแน่นอน เราซื้อมาคนละ ๒ ก้อน ไม่ลืมผลไม้ โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง กลับ รร.ที่พักชำระร่างกาย ทานมื้อเย็นใน รร.คุณนายยังไม่สาใจ ชวนออกไปเดินชมวิวกลางคืน เพื่อซึมซับบรรยากาศอีก "ให้ใจ เอาใจ ตามใจ" (ตามสูตรนะ) อย่าขัดใจ "ไปก็ไป" คืนนั้นกว่าจะกลับก็น่าจะใกล้สี่ทุมครับ ดีนะที่ รร.อยู่เกือบติดริมโขงสดวกสบายชิว ๆ กลับมาไม่ต้องอาบน้ำอีก (อากาศเริ่มจะหนาวเย็นด้วย)

ไม่ลืม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก่อนนอน หลับฝันดีตลอดรุ่ง จบภารกิจวันที่ ๙ พ.ย.๖๕ ติดตามรุ่งเช้าของวันที่ ๑๐ จะพาท่านตระเวนนครพนม ซึงมีสิ่งดี ๆ มากมายครับ
:) :D
ไฟล์แนบ
DSC_3401.JPG
DSC_3401.JPG (62.16 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
DSC_3402.JPG
DSC_3402.JPG (72.27 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
DSC_3403.JPG
DSC_3403.JPG (89.71 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
DSC_3404.JPG
DSC_3404.JPG (107.55 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
DSC_3405.JPG
DSC_3405.JPG (118.9 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
DSC_3406.JPG
DSC_3406.JPG (56.54 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
DSC_3407.JPG
DSC_3407.JPG (63.88 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109205655.jpg
IMG20221109205655.jpg (118.79 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109205820.jpg
IMG20221109205820.jpg (69.69 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109210017.jpg
IMG20221109210017.jpg (76 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109210057.jpg
IMG20221109210057.jpg (122.18 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109210109.jpg
IMG20221109210109.jpg (114.56 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109210311.jpg
IMG20221109210311.jpg (75 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109210335.jpg
IMG20221109210335.jpg (114.18 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109210634.jpg
IMG20221109210634.jpg (89.46 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109211939.jpg
IMG20221109211939.jpg (81.56 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109211941.jpg
IMG20221109211941.jpg (90.11 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109212023.jpg
IMG20221109212023.jpg (80.3 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109212127.jpg
IMG20221109212127.jpg (64.51 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109212238.jpg
IMG20221109212238.jpg (94.4 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Deang-sarapee เมื่อ 23 ม.ค. 2023, 07:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :) :D :D
ไฟล์แนบ
IMG20221109212322.jpg
IMG20221109212322.jpg (78.02 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109212442.jpg
IMG20221109212442.jpg (78.97 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109212515.jpg
IMG20221109212515.jpg (90.08 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109212627.jpg
IMG20221109212710.jpg
IMG20221109212814.jpg
IMG20221109212814.jpg (87.8 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109213020.jpg
IMG20221109213020.jpg (133.78 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109213037.jpg
IMG20221109213037.jpg (136.89 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109213302.jpg
IMG20221109213302.jpg (73.95 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109213407.jpg
IMG20221109213407.jpg (83.81 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109221643.jpg
IMG20221109221643.jpg (78.33 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109221749.jpg
IMG20221109221749.jpg (70.6 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109222054.jpg
IMG20221109222054.jpg (114.1 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
IMG20221109222122.jpg
IMG20221109222122.jpg (70.49 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
อิ่มอก อิ่มใจ ก็พากันกลับ รร.พักผ่อน รุ่งเช้าเราจะได้ตระเวนก้นต่อ ติดตามเป็นกำลังใจนะครับ นครพนมถือว่าสุดยอดจริง ๆ ใครก็ตามที่ชอบการท่องเที่ยว ห้ามพลาดยิ่งปัจจุบันกลายเป็นอันดับหนึ่งก็ว่าได้ นทท.หลั่งไหลตามข่าว แนะนำคนไทยถ้าจะไปหาช่วงที่ปลอด นทท.หรือช่วงเทศกาลวันหยุด จะดีที่สุด แต่ใครที่สนคนเยอะ ๆ วุ่นวายถือเป็นอีกสีสันหนึ่ง ก็แนะนำไปช่วงวันหยุดหรือเทศกาล รับรองสมใจครับ
อิ่มอก อิ่มใจ ก็พากันกลับ รร.พักผ่อน รุ่งเช้าเราจะได้ตระเวนก้นต่อ ติดตามเป็นกำลังใจนะครับ นครพนมถือว่าสุดยอดจริง ๆ ใครก็ตามที่ชอบการท่องเที่ยว ห้ามพลาดยิ่งปัจจุบันกลายเป็นอันดับหนึ่งก็ว่าได้ นทท.หลั่งไหลตามข่าว แนะนำคนไทยถ้าจะไปหาช่วงที่ปลอด นทท.หรือช่วงเทศกาลวันหยุด จะดีที่สุด แต่ใครที่สนคนเยอะ ๆ วุ่นวายถือเป็นอีกสีสันหนึ่ง ก็แนะนำไปช่วงวันหยุดหรือเทศกาล รับรองสมใจครับ
IMG20221109222257.jpg (76.54 KiB) เข้าดูแล้ว 673 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อรุณสวัสดิ์ท่านผู้มีเกียรติและญาติธรรมที่เคารพทุกท่าน เช้าวันนี้ผมขอนำเรื่อง "ศรัทธาหรืองมงาย" มาฝากทุกท่าน ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าผมเลือกคลิปยาว ๒๑ นาที แทนที่จะเป็นคลิปสั้นเพียง ๕-๘ นาทีมาให้ เพราะพิจารณาแล้วคลิปยาวน่าจะได้ประโยชน์เยอะกว่า กรุณาฟัง-พิจารณาให้จบนะครับ อย่าเป็นแบบว่า "คุยเรื่องศีลกับพระคุยเรื่องธรรมะกับโยม ชาติหน้าบ่าย ๆ ถึงจะรู้เรื่อง" ขออย่าเป็นแบบนั้น ขอทุกท่านได้กุศลผลบุญจากการฟังธรรมะในเช้านี้จงทุกท่านทุกคนเทอญ ขอบคุณและโคดีครับ :idea: :idea:

:idea: :idea: 331 ข้อคิดรอบตัว | ศรัทธาหรืองมงาย | 04-06-60 | ThanavuddhoStory Officialพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ThanavuddhoStoryOfficial :idea: :idea:
ไฟล์แนบ
เมื่อวาน(๒๔ ม.ค.๖๖)ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงเพื่อนฮุยที่เรียนหนังสือมาด้วยกันสมัยมัธยม ที่ รร.ยุพราช พวกเรารุ่น ยว.๐๘ เรียนห้อง ก.มาด้วยกัน เพื่อนฮุยพูดน้อยขรึม นาน ๆ พูดเรียกเสียงฮา กับ งง วันนี้เพื่อนจากไปแล้วขอให้ดวงวิญญาณเพื่อนสู่สุคติภพ ไม่นานก็จะทะยอยตามกันไป
เมื่อวาน(๒๔ ม.ค.๖๖)ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงเพื่อนฮุยที่เรียนหนังสือมาด้วยกันสมัยมัธยม ที่ รร.ยุพราช พวกเรารุ่น ยว.๐๘ เรียนห้อง ก.มาด้วยกัน เพื่อนฮุยพูดน้อยขรึม นาน ๆ พูดเรียกเสียงฮา กับ งง วันนี้เพื่อนจากไปแล้วขอให้ดวงวิญญาณเพื่อนสู่สุคติภพ ไม่นานก็จะทะยอยตามกันไป
DSC_3227.JPG (176.91 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
ช่วง ๑๖-๒๓ ม.ค.๖๖ เป็นช่วงที่แสนทรมาน ต้องไปรักษารากฟัน ๒ ซี่พร้อมกัน ยอมรับยาม ฒ ชรามาเยือนโรคต่าง ๆ ก็รุมเร้าเข้ามาตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มันไปหมดทุกส่วนครับ ก็ต้องรักษากันไป ขอบคุณหลวงที่ยังเมตตาดูแลพวกเราข้าราชการบำนาญ หมดไปหมื่นกว่า เบิกได้สี่พัน(ก็ยังดี)<br /><br />มีหลายคนที่ไม่เข้าใจระบบสังคมอย่างชัดเจน สังคมต้องพึ่งพากันนะครับ อยากจะบอกว่ากว่าจะได้เป็นข้าราชการบำนาญไม่ง่ายนะครับ เพื่อน ตชด.หลายร้อยหลายพันนายที่สละชีวิตเพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไว้ เหมือนผมเช่นกันที่รอดตายมาได้หลายหน จนวันนี้มีคำถามในใจว่า &quot;เราโชคดีหรือโชคร้ายที่รอดตาย&quot; หลายคนยามแก่ชราลุกก็โอย-นั่งก็โอย มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า &quot;กูน่าจะตายเสียตอนนั้น&quot; <br /><br />อย่ารังเกียจข้าราชการบำนาญเลยนะครับ ระบบมันเป็นมาอย่างนี้ อีกไม่นานระบบบำนาญก็จะหมดไปช่วงนี้รอ ๆ ไปก่อนให้พวกผมตายไปก่อนนะครับ ลูกหลานเอ้ย ทุกวันนี้หากไม่มีบำนาญ ลำบากแน่.
ช่วง ๑๖-๒๓ ม.ค.๖๖ เป็นช่วงที่แสนทรมาน ต้องไปรักษารากฟัน ๒ ซี่พร้อมกัน ยอมรับยาม ฒ ชรามาเยือนโรคต่าง ๆ ก็รุมเร้าเข้ามาตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มันไปหมดทุกส่วนครับ ก็ต้องรักษากันไป ขอบคุณหลวงที่ยังเมตตาดูแลพวกเราข้าราชการบำนาญ หมดไปหมื่นกว่า เบิกได้สี่พัน(ก็ยังดี)

มีหลายคนที่ไม่เข้าใจระบบสังคมอย่างชัดเจน สังคมต้องพึ่งพากันนะครับ อยากจะบอกว่ากว่าจะได้เป็นข้าราชการบำนาญไม่ง่ายนะครับ เพื่อน ตชด.หลายร้อยหลายพันนายที่สละชีวิตเพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไว้ เหมือนผมเช่นกันที่รอดตายมาได้หลายหน จนวันนี้มีคำถามในใจว่า "เราโชคดีหรือโชคร้ายที่รอดตาย" หลายคนยามแก่ชราลุกก็โอย-นั่งก็โอย มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "กูน่าจะตายเสียตอนนั้น"

อย่ารังเกียจข้าราชการบำนาญเลยนะครับ ระบบมันเป็นมาอย่างนี้ อีกไม่นานระบบบำนาญก็จะหมดไปช่วงนี้รอ ๆ ไปก่อนให้พวกผมตายไปก่อนนะครับ ลูกหลานเอ้ย ทุกวันนี้หากไม่มีบำนาญ ลำบากแน่.
DSC_3228.JPG (115.62 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
IMG20221110063638.jpg
DSC_3236.JPG
DSC_3236.JPG (121.55 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3241.JPG
DSC_3241.JPG (112.84 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3242.JPG
DSC_3242.JPG (82.56 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3245.JPG
DSC_3245.JPG (45.54 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
๑๐ พ.ย.๖๕ เช้าเราออกจาก รร.๐๖.๓๐ ปั่นไปริมโขงเพื่อชมบรรยากาศยามเช้าของนครพนม และไปหาร้านเจทานมื้อเช้าก่อนจะเริ่มตระเวนเที่ยวในนครพนมกันต่อ ยามเช้าที่นครพนมก็เป็นบรรยากาศที่ประทับใจมาก ๆ อากาศเย็นลมหนาวอ่อน ๆ โชยปะทะกาย บรรยายยากมากต้องไปสัมผัสครับ
๑๐ พ.ย.๖๕ เช้าเราออกจาก รร.๐๖.๓๐ ปั่นไปริมโขงเพื่อชมบรรยากาศยามเช้าของนครพนม และไปหาร้านเจทานมื้อเช้าก่อนจะเริ่มตระเวนเที่ยวในนครพนมกันต่อ ยามเช้าที่นครพนมก็เป็นบรรยากาศที่ประทับใจมาก ๆ อากาศเย็นลมหนาวอ่อน ๆ โชยปะทะกาย บรรยายยากมากต้องไปสัมผัสครับ
DSC_3237.JPG (114.17 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3419.JPG
DSC_3419.JPG (93.87 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3420.JPG
DSC_3420.JPG (115.4 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3421.JPG
DSC_3422.JPG
DSC_3423.JPG
DSC_3424.JPG
DSC_3424.JPG (145.15 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3425.JPG
DSC_3425.JPG (76.37 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
DSC_3426.JPG
เราผ่านไปทางสำนักงาน ททท.พอดีเลยแวะเพื่อขอเอกสารการท่องเที่ยวของนครพนม ได้รับการต้อนรับดีมากครับ ได้เอกสารประกอบการตัดสินใจหลายรายการ ง่ายกับการที่จะหาสถานที่ท่องเที่ยวครับอย่าลืมไปเมืองไหนก็จะมีศูนย์การท่องเที่ยวทุกเมืองเข้าไปคุยไปหาความรู้ สอบถาม จนท.ได้นะครับ
เราผ่านไปทางสำนักงาน ททท.พอดีเลยแวะเพื่อขอเอกสารการท่องเที่ยวของนครพนม ได้รับการต้อนรับดีมากครับ ได้เอกสารประกอบการตัดสินใจหลายรายการ ง่ายกับการที่จะหาสถานที่ท่องเที่ยวครับอย่าลืมไปเมืองไหนก็จะมีศูนย์การท่องเที่ยวทุกเมืองเข้าไปคุยไปหาความรู้ สอบถาม จนท.ได้นะครับ
DSC_3427.JPG (131.23 KiB) เข้าดูแล้ว 620 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ????...คุณลุงแดง- คุณป้าอ๋อย พา เที่ยว ...???

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:( :( สวัสดียามสาย ๆ ใกล้เที่ยงครับ ๒-๓ สัปดาห์มานี้สังเกตุไหมครับทั้งการบ้านการเมือง ในบ้านเมืองของเรามันวุ่นวายจริง ๆ ทะเลาะกันไม่ซาลงเลย ทั้งหัวหงอกหัวดำเละเป็นโจ๊ก ที่สำคัญ..ก..จะเชื่อฝั่งไหนดี บางคนกอดหัวจมท้ายกันมานับสิบปี มาตอนนี้ถอนหงอกกันให้วุ่น สาวไส้ลากไส้กันออกมาย่่ำขยี้อย่างเมามัน แต่ก่อนรักใคร่กันดีพอมีฝักมีฝ่าย ล่อกันเละเลยไม่นึกความหลังครั้งหวานชื่น ที่น่าสมเพชก็บรรดาผู้ใหญ่ระดับ ดร.ด้วย ออกมาสำแดงเดชเล่นเอาลูกหลาน งง เต๊ก

หรือว่าประชาชนคนเดินดินกินข้าวแกง ปั้นข้าวเปิบกับมืออย่างเรา ๆ ยังโง่อยู่ ตามพวกมันทัน ???? สาย ๆ วันนี้จะนำพุทธคำสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาของเรามาย้ำเตือนทุกท่านทุกคน โปรดยั้งคิดพิจารณาก่อนที่จะเชื่ออะไรลงไปง่าย ๆ โลกทุกวันนี้อยู่ยากไปทุกวัน ๆ ต้องระมัดระวัง "อย่าประมาท" เป็นอันขาด ไปฟังกันครับ
:) :D

:idea: :idea: หลักความเชื่อตามหลักกาลามสูตร :idea: :idea:

:) :) เป็นความโชคดีที่เราตัดสินใจแวะที่ ททท.เราไปได้แผ่นพับและโบชัวร์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนครพนมและอีกหลายเมือง เมื่อไปนั่งอ่านนั่งพิจารณา เออ..ถูกจริตเราที่ตั้งใจไว้แต่แรกที่มาเที่ยวนครพนมว่าเราตั้งใจจะไปกราบพระธาตุพนม และอีกหลาย ๆ ธาตุใน จ.นครพนมเป็นโอกาสดีที่เช้าวันนั้นเราจะไปยังท่าอุเทนเพื่อไปกราบพระธาตุอุเทนกัน และระหว่างทางก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเวียนอีกหลาย ๆ แห่ง ตามไปครับ :) :D
ไฟล์แนบ
ขออนุญาตุโชว์หน่อยครับ เมื่อ ๒๙ เม.ย.๖๕ เวลา ๐๔๐๐ ซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องตื่นขึ้นมาทำสมาธิภาวนาเดินจงกรมตามปกตินิสัยของผมนับ ๓๐ ปีกว่ามาแล้ว เช้าวันนั้นได้ความรู้ในญานขั้นอัปปนาสมาธิ ซึ่งพิจารณาแล้วสมควรที่จะนำมาฝากญาติธรรมทุกท่านทุกคนครับดังนี้<br /><br />แนวทางที่ ๑ คนเราทุกคนที่เกิดมายังไม่พบพุทธศาสนาหรือพบแต่ไม่สนใจใยดี คงอยากมีชีวิตไปตามกระแสโลก อยากร่ำอยากรวยอยากมีชีวิตที่ดี บางครั้งบ้าพอที่จะ ไปนั่งไหว้สัตว์เดรฉานขอให้บรรดาลให้รวย ไปขูดต้นไม้ขอเลขขอเบอร์ ฯลฯ ถ้าเชื่อผมให้สร้างนิสัยดังนี้ครับ รู้จักกตัญญูผู้มีพระคุณ และมีความซื่อสัตย์สุจริต แล้วหมั่นให้ทานเป็นประจำ รับรอง &quot;รวย&quot; ครับ<br /><br />แนวทางที่ ๒ สำหรับผู้ที่เข้าสู่สายธรรมบ้างแล้วและมีแนวความคิดที่อยากจะกลับมาเป็นมนุษย์เพื่อเสริมส่งบารมีของตนให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้น ให้ปฏิบัติดังนี้ครับ กตัญญู ซื่อสัตย์สุจริต รักษาศีล รับรอง &quot;ได้เกิดเป็นมนุษย์&quot; แน่นอน<br /><br />แนวทางที่ ๓ สำหรับท่านที่เดินทางสายธรรมอย่างจริงจัง(ใฝ่ธรรม) ให้ปฏิบัติดังนี้ กตัญญู ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัตตนในแนวทางของ ทศบารมี (บารมี ๑๐ ทัศ) รับรองไม่กลับมาเกิดอีกแน่นอน<br /><br />สำหรับผมอธิษฐานจิต ถือปฏิบัติในแนวทาง ทศบารมี มาได้ปีกว่า ๆ แล้วและกำลังเจอโจทย์ใหญ๋ ให้แก้ไม่รู้ว่าจะสามารถผ่านด่านที่เรียกว่า &quot;หิน&quot; สุด ๆ ตั้งแต่ปฏิบัติธรรมมาได้หรือไม่ อันนี้ต้องแล้วแต่วาสนาแล้วล่ะ กราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์อย่าทิ้งลูกศิษย์คนนี้นะครับ
ขออนุญาตุโชว์หน่อยครับ เมื่อ ๒๙ เม.ย.๖๕ เวลา ๐๔๐๐ ซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องตื่นขึ้นมาทำสมาธิภาวนาเดินจงกรมตามปกตินิสัยของผมนับ ๓๐ ปีกว่ามาแล้ว เช้าวันนั้นได้ความรู้ในญานขั้นอัปปนาสมาธิ ซึ่งพิจารณาแล้วสมควรที่จะนำมาฝากญาติธรรมทุกท่านทุกคนครับดังนี้

แนวทางที่ ๑ คนเราทุกคนที่เกิดมายังไม่พบพุทธศาสนาหรือพบแต่ไม่สนใจใยดี คงอยากมีชีวิตไปตามกระแสโลก อยากร่ำอยากรวยอยากมีชีวิตที่ดี บางครั้งบ้าพอที่จะ ไปนั่งไหว้สัตว์เดรฉานขอให้บรรดาลให้รวย ไปขูดต้นไม้ขอเลขขอเบอร์ ฯลฯ ถ้าเชื่อผมให้สร้างนิสัยดังนี้ครับ รู้จักกตัญญูผู้มีพระคุณ และมีความซื่อสัตย์สุจริต แล้วหมั่นให้ทานเป็นประจำ รับรอง "รวย" ครับ

แนวทางที่ ๒ สำหรับผู้ที่เข้าสู่สายธรรมบ้างแล้วและมีแนวความคิดที่อยากจะกลับมาเป็นมนุษย์เพื่อเสริมส่งบารมีของตนให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้น ให้ปฏิบัติดังนี้ครับ กตัญญู ซื่อสัตย์สุจริต รักษาศีล รับรอง "ได้เกิดเป็นมนุษย์" แน่นอน

แนวทางที่ ๓ สำหรับท่านที่เดินทางสายธรรมอย่างจริงจัง(ใฝ่ธรรม) ให้ปฏิบัติดังนี้ กตัญญู ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัตตนในแนวทางของ ทศบารมี (บารมี ๑๐ ทัศ) รับรองไม่กลับมาเกิดอีกแน่นอน

สำหรับผมอธิษฐานจิต ถือปฏิบัติในแนวทาง ทศบารมี มาได้ปีกว่า ๆ แล้วและกำลังเจอโจทย์ใหญ๋ ให้แก้ไม่รู้ว่าจะสามารถผ่านด่านที่เรียกว่า "หิน" สุด ๆ ตั้งแต่ปฏิบัติธรรมมาได้หรือไม่ อันนี้ต้องแล้วแต่วาสนาแล้วล่ะ กราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์อย่าทิ้งลูกศิษย์คนนี้นะครับ
DSC_3226.JPG (88.66 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
ใน จ.นครพนมผมทึ่งมากครับเพราะมีพระธาตมากมายถึง ๑๙ พระธาตุ (เราจะไปครบไหม?) ตอนนี้เรากำลังมุ่งตรงไปที่ท่าอุเทนเพื่อนมัสการพระธาตุอุเทนครับ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ๘ พระธาตุที่สำคัญประจำปีเกิดครับ<br /><br />1. พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร<br />2. พระธาตุเรณูนคร วัดธาตุเรณู<br />3. พระธาตุศรีคุณ วัดพระธาตุศรีคุณ<br />4. พระธาตุมหาชัย วัดธาตุมหาชัย<br />5. พระธาตุมรุกขนคร วัดมรุกขนคร<br />6. พระธาตุประสิทธิ์  วัดธาตุประสิทธิ์<br />7. พระธาตุท่าอุเทน  วัดพระธาตุท่าอุเทน<br />8. พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ
ใน จ.นครพนมผมทึ่งมากครับเพราะมีพระธาตมากมายถึง ๑๙ พระธาตุ (เราจะไปครบไหม?) ตอนนี้เรากำลังมุ่งตรงไปที่ท่าอุเทนเพื่อนมัสการพระธาตุอุเทนครับ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ๘ พระธาตุที่สำคัญประจำปีเกิดครับ

1. พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
2. พระธาตุเรณูนคร วัดธาตุเรณู
3. พระธาตุศรีคุณ วัดพระธาตุศรีคุณ
4. พระธาตุมหาชัย วัดธาตุมหาชัย
5. พระธาตุมรุกขนคร วัดมรุกขนคร
6. พระธาตุประสิทธิ์ วัดธาตุประสิทธิ์
7. พระธาตุท่าอุเทน วัดพระธาตุท่าอุเทน
8. พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ
DSC_3250.JPG (105.02 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3429.JPG
DSC_3429.JPG (119.45 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3430.JPG
DSC_3430.JPG (133.68 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3431.JPG
DSC_3431.JPG (95.6 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
ศาสนาคริสต์ได้เข้ามามีบทบาทในภาคอีสานเมื่อราวร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยราวปีพ.ศ. ๒๔๒๔ คุณพ่อยอห์นบัปติสต์ โปรดม และคุณพ่อซาเวียร์ เกโก และคณะมิสชันนารีจากกรุงปารีส ได้เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในพื้นที่แถบนครพนม อุบลราชธานี และหนองคาย ซึ่งกลุ่มคริสตศาสนิกชนกลุ่มแรกที่นครพนมเป็นชาวเวียดนามจำนวน ๑๓ คน และได้มีการเผยแพร่ศาสนาต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ อีกหลายสิบปีจนมีจำนวนคริสตศาสนิกชนเพิ่มขึ้นมากมายและหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย เวียดนาม ลาว และจีน<br /><br />             โบสถ์นักบุญอันนาเป็นโบสถ์คริสต์ที่ตั้งอยู่ริมถนนเลียบแม่น้ำโขง ในอำเภอเมืองนครพนม  โดยโบสถ์หลังที่เห็นกันในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๕ หลักจากที่โบสถ์เดิมได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดจากสงครามอินโดจีน ตัวโบสถ์สร้างด้วยรูปแบบที่คล้ายคลึงกับโบสถ์หลังเก่าโดยใช้สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของคริสตศาสนิกชนในพื้นที่และจากภาคส่วนต่างๆ ในส่วนของชื่อโบสถ์ตั้งตามชื่อของนักบุญอันนาซึ่งเป็นพระมารดาของพระแม่มารี โดยมีแท่นรูปปั้นของนักบุญอันนาและพระแม่มารีอยู่บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ หลังจากสร้างโบสถ์แห่งนี้เสร็จแล้วได้มีพิธีเสกและพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมใจของคริสตศาสนิกชนหลากหลายเชื้อชาติมาจนถึงทุกวันนี้
ศาสนาคริสต์ได้เข้ามามีบทบาทในภาคอีสานเมื่อราวร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยราวปีพ.ศ. ๒๔๒๔ คุณพ่อยอห์นบัปติสต์ โปรดม และคุณพ่อซาเวียร์ เกโก และคณะมิสชันนารีจากกรุงปารีส ได้เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในพื้นที่แถบนครพนม อุบลราชธานี และหนองคาย ซึ่งกลุ่มคริสตศาสนิกชนกลุ่มแรกที่นครพนมเป็นชาวเวียดนามจำนวน ๑๓ คน และได้มีการเผยแพร่ศาสนาต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ อีกหลายสิบปีจนมีจำนวนคริสตศาสนิกชนเพิ่มขึ้นมากมายและหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย เวียดนาม ลาว และจีน

โบสถ์นักบุญอันนาเป็นโบสถ์คริสต์ที่ตั้งอยู่ริมถนนเลียบแม่น้ำโขง ในอำเภอเมืองนครพนม โดยโบสถ์หลังที่เห็นกันในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๕ หลักจากที่โบสถ์เดิมได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดจากสงครามอินโดจีน ตัวโบสถ์สร้างด้วยรูปแบบที่คล้ายคลึงกับโบสถ์หลังเก่าโดยใช้สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของคริสตศาสนิกชนในพื้นที่และจากภาคส่วนต่างๆ ในส่วนของชื่อโบสถ์ตั้งตามชื่อของนักบุญอันนาซึ่งเป็นพระมารดาของพระแม่มารี โดยมีแท่นรูปปั้นของนักบุญอันนาและพระแม่มารีอยู่บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ หลังจากสร้างโบสถ์แห่งนี้เสร็จแล้วได้มีพิธีเสกและพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมใจของคริสตศาสนิกชนหลากหลายเชื้อชาติมาจนถึงทุกวันนี้
DSC_3432.JPG (108.68 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3433.JPG
DSC_3433.JPG (128.03 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3434.JPG
DSC_3434.JPG (117.17 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3435.JPG
DSC_3435.JPG (82.08 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3436.JPG
DSC_3436.JPG (106.61 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3437.JPG
DSC_3437.JPG (111.3 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3438.JPG
DSC_3438.JPG (112.2 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3439.JPG
DSC_3439.JPG (117 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3440.JPG
DSC_3440.JPG (127.95 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
DSC_3441.JPG
DSC_3441.JPG (83.88 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
cats๑.jpg
cats๑.jpg (145.12 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
cats๒.jpg
cats๒.jpg (139.02 KiB) เข้าดูแล้ว 1028 ครั้ง
IMG20221110084243.jpg
IMG20221110084317.jpg
IMG20221110084334.jpg
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ทัวร์ริ่ง (Touring)”