สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
สวัสดีพี่โอ่ง ครับ
มีภาพเสือชวนไปแข่งที่เชียงใหม่และท่องเที่ยว พิดโลก ต้องขอขอบคุณเสือพิดโลกมากๆที่ให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม
ขอขอบคุณอ.ไมตรี พี่ดาบพิทักษ์ พี่จุก พี่วีว่า พี่เสือเกาหลัง อ.นพ และกลุ่มเสือโรงกลึง กลุ่มเสือบ้านคลองด้วยครับ
มีภาพเสือชวนไปแข่งที่เชียงใหม่และท่องเที่ยว พิดโลก ต้องขอขอบคุณเสือพิดโลกมากๆที่ให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม
ขอขอบคุณอ.ไมตรี พี่ดาบพิทักษ์ พี่จุก พี่วีว่า พี่เสือเกาหลัง อ.นพ และกลุ่มเสือโรงกลึง กลุ่มเสือบ้านคลองด้วยครับ
แก้ไขล่าสุดโดย ตี๋ท่าบ่อ เมื่อ 14 พ.ย. 2008, 17:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
- prapon sukom
- ขาประจำ
- โพสต์: 369
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 08:31
- team: เสืออาทิตย์อุดรธานี
- Bike: เสือหมอบสับถังอิตาลี่-ญี่ปุ่น-เสือภูเขา
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
เหนือคำบรรยายครับพี่ตี๋ดีทุกอย่างครับ..ได้ทำอย่างที่เราชอบแล้วสำเร็จด้วยดีน่าอิจฉาเป็นที่สุดครับ..ติดตามชมกลุ่มท่าบ่อท่องเที่ยวเสมอครับ..(ช่างสรรหาเส้นทางท่องเที่ยวได้ดีจริงๆครับ)...ผมอ๊อดครับ
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
สวัสดีครับท่านอ๊อด วันที่ 6 ธ.ค. นี้มีเวลาก็มาร่วมแข่งสนุกๆ ที่ท่าบ่อด้วยนะครับ ทางเทศบาลเมืองท่าบ่อจัดเป็นครั้งแรกครับprapon sukom เขียน:เหนือคำบรรยายครับพี่ตี๋ดีทุกอย่างครับ..ได้ทำอย่างที่เราชอบแล้วสำเร็จด้วยดีน่าอิจฉาเป็นที่สุดครับ..ติดตามชมกลุ่มท่าบ่อท่องเที่ยวเสมอครับ..(ช่างสรรหาเส้นทางท่องเที่ยวได้ดีจริงๆครับ)...ผมอ๊อดครับ
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
ปั่นขึ้นดอยสุเทพต้องมีภาพ เสือชวนกับพระธาตุด้วย
กล้องชนกล้อง
ภาพพี่ดาบพิทักษ์
ภาพเสือเรศ
ภาพป้ายศ
ภาพหลาน มีนา
กล้องชนกล้อง
ภาพพี่ดาบพิทักษ์
ภาพเสือเรศ
ภาพป้ายศ
ภาพหลาน มีนา
แก้ไขล่าสุดโดย ตี๋ท่าบ่อ เมื่อ 15 พ.ย. 2008, 07:08, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
มีลิงค์ของกลุ่ม จักรยานที่เคยไปซำเหนือมาฝาก
ใช้เส้นทางปั่นคนละเส้นทางกัน
เมื่อปี 47 ของพี่เสือเทา http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/web ... &board=mtb
เมื่อปี 49http://www.pantown.com/board.php?id=129 ... ction=view
ใช้เส้นทางปั่นคนละเส้นทางกัน
เมื่อปี 47 ของพี่เสือเทา http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/web ... &board=mtb
เมื่อปี 49http://www.pantown.com/board.php?id=129 ... ction=view
แก้ไขล่าสุดโดย ตี๋ท่าบ่อ เมื่อ 16 พ.ย. 2008, 08:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
แหล่งทุ่งไหหิน 1 มีประมาณ 250 ใบ
ทุ่งไหหิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเชียงขวาง ชาวบ้านไปพบเข้าระหว่างไปหาของป่าและล่าสัตว์ ซึ่งภาชนะมีรูปทรงคล้ายไหทำด้วยหินทรายนี้มีขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ น้ำหนักมากที่สุดถึง 15 ตันและใบที่เล็กที่สุดหนักประมาณ 40 – 50 กิโลกรัมกระจัดกระจายอยู่ในระแวกของเมืองโพนสะหวัน และยังมีที่อื่นๆอีกในเมืองเชียงขวางอีกหลายแห่งด้วยกัน ไหหินส่วนใหญ่สกัดมาจากหินทรายที่หาง่ายในท้องถิ่น แต่มีอยู่หลายใบที่มีร่องรอยการชักลากมาจากที่อื่น บางไหมีลักษณะสกัดยังไม่เสร็จก็มี นอกจากนี้ยังค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ในไหบางลูก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันการใช้หินในพิธีศพได้อย่างดีส่วนแผ่นหินกลมๆคล้ายฝาปิดซึ่งพบอยู่ใกล้ๆ กับไหหินนั้นน่าจะเป็นแผ่นหินที่ใช้ปิดไหหินในขณะประกอบพิธีเสร็จสิ้นรอบๆไหหินพบลูกปัดจากจีน เครื่องประดับของชนเผ่าไท และรูปสำริดของเวียตนาม จึงพอจะคาดเดาได้ว่าชนเผ่าที่สร้างไหหินขึ้นมานี้จะต้องมีความเจริญและอารยธรรมสูง นักโบราณคดีรุ่นหลังๆลงความเห็นว่า เจ้าของอารยธรรมชิ้นนี้ อาจจะเป็นฝีมือของพวกจามในเวียตนามที่ล่มสลายไปแล้ว หรือเป็นฝีมือของชาวลาวเทิง ที่อาศัยอยู่ในแขวงอัตตะปือ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศลาว ติดกับชายแดนประเทศกัมพูชา สำหรับทุ่งไหหินนี้ถนนเข้าถึงสะดวก ในเมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง ซึ่งทางรัฐบาลได้กู้ระเบิดออกหมดแล้ว มีอยู่สามกลุ่มด้วยกันคือ
กลุ่มที่ 1 ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวัน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไปทางเมืองคูนเมืองหลวงเก่า ระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร มีไหหินกระจัดกระจายอยู่ในทุ่งหญ้าประมาณ 200 ใบและมีขนาดใหญ่กว่าในกลุ่มอื่นๆ ใบใหญ่ที่สุดตั้งอยู่เนินเขาทางด้านขวามือ ปากไหหันหน้าไปทางสนามบินทุ่งไหหินบริเวณที่ตั้งไหหินนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเพราะสามารถมองเห็นสนามบินทุ่งไหหิน กองบัญชาการกองทัพอากาศลาว ตัวเมืองโพนสะหวัน ส่วนทางด้านขวามือจะมีบันไดปูนเดินลงไปยังทุ่งไหหินอีกจุดหนึ่ง ซึ่งมีมากกว่าในจุดชมวิวแห่งนี้ ถ้ามองจากจุดชมวิวไปทางซ้ายมือจะแลเห็นจำนวนนับสิบๆใบวางเรียงรายอยู่เต็มทุ่งหญ้า ถัดมาทางด้านซ้ายมือของทุ่งไหหินจะพบถ้ำแห่งหนึ่งมีแสงแดดสาดส่องลงมา
ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นปล่องมีความสูงประมาณ 60 เมตร ลักษณะภายในถ้ำไม่ลึกมากนัก สามารถบรรจุคนได้ 50 –60 คน ถ้ำแห่งนี้เคยใช้เป็นที่หลบภัยสงครามของชาวเมืองเชียงขวางยามเมื่อเครื่องบินมาทิ้งระเบิด พร้อมกับใช้เป็นคลังเก็บอาวุธและเชื้อเพลิงเมื่อสงครามอินโดจีนที่ผ่านมา บริเวณโดยรอบทุ่งไหหินบนจุดชมวิวจะพบร่องรอยการขุดสนามเพลาะเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศ และหลุดระเบิดขนาดใหญ่หลายหลุม ตลอดจนร่องรอยที่ไหหินแตกกระจายอันเป็นผลมาจากฝูงเครื่องบิน บี 52 ของอเมริกา
กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มไหหินภูสลาโต อยู่ถัดมาจากเมืองโพนสะหวันลงมาทางทิศใต้ ประมาณ 25 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เนินเขาสองลูกจะมองเห็นไหหินกระจัดกระจายอยู่ในทุ่งหญ้าประมาณ 94 ใบ
กลุ่มที่ 3 กลุ่มไหหินลาดค่าย อยู่ถัดลงมาจากกลุ่มไหหินภูสลาโต ราว 10 กิโลเมตร ประกอบด้วยไหหินประมาณ 150 ใบกระจายอยู่บนเนินเขาลูกเล็ก มองลงมาแลเห็นวิวที่ราบของท้องทุ่งท้องนาของหมู่บ้านเชียงดี ซึ่งอยู่บนเนินเขาลูกต่อไปได้อย่างชัดเจน
สถานที่ตั้ง ห่างจากเมืองโพนสะหวันเมืองหลวงใหม่ของแขวงเชียงขวางประมาณ 5 กิโลเมตร
(ได้ข้อมูลจาก Sarthithttp://www.unlimit-travel.com/board/viewtopic.php?t=55)
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
ใบนี้ใหญ่สุดในทุ่งใหหิน 1 กว้าง1.5เมตร สูง 2 เมตร
ในปี พ.ศ. 2513 หรือเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา แขวงเชียงขวาง เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดนับครั้งไม่ถ้วน ในยุคสงครามอินโดจีน หรือสงครามเวียดนามที่ผ่านมา อาจเพราะว่าในอดีตเชียงขวางคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศลาว เพราะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 400 กิโลเมตรและจากเมืองโพนสะหวันซึ่งเป็นเมืองหลวงของเชียงขวาง ขวางข้ามเทือกเขอันสลับซับซ้อนบนทางหลวงหมายเลข 7 ไปสิ้นสุดที่ด่านน้ำกลั่น ชายแดนทางตอนเหนือของประเทศเวียตนามระยะทางเพียงแค่ 130 กิโลเมตรซึ่งในช่วงสงครามอินโดจีนเส้นทางสายนี้เคยใช้เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงรวมทั้งอาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆจากประเทศเวียตนามเหนือ สู่ขบวนการประเทศลาวซึ่งในขณะนั้นเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกันและเส้นทางสายนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเส้นทางโฮจิมินห์ ความที่อยู่ใกล้เวียตนามเหนือทำให้ขบวนการลาวตัดสินใจตั้งกองบัญชาการใหญ่ขึ้นที่นี่กองทัพอากาศอเมริกันจึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี 52 เข้ามาทิ้งระเบิดปูพรหมหมายทำลายล้างขบวนการลาวอย่างหนัก หมู่บ้านใหญ่น้อยหลายร้อยแห่งตลอดจนวัดวาอารามถูกทำลายแทบทั้งหมด ส่งผลให้ราษฏรและทหารฝ่ายขบวนการประเทศลาวต้องอพยพเข้าไปอยู่ตตตามถ้ำและหุบเขาทั่วไปในแขวงเชียงขวางและข้างเคียง
ในอดีตในสมัยช่วงทศวรรษที่ 1830 แขวงเชียงขวางถูกรวมเข้าอยู่กับเวียตนาม ชาวเชียงขวางในสมัยนั้นถูกบังคับให้แต่งกายและใช้ขนบธรรมเนียมของเวียตนาม แต่ความรักอิสระและทรนงในชาติพันธ์ของตนเองทำให้ชาวเชียงขวางทุกคนลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาความเป็นอธิปไตยของตนเองไว้อย่างสุดความสามารถ แต่ท้ายที่สุดชาวเชียงขวางก็ไม่อาจต้านทานกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านผู้ทรงอิทธิพลในขณะนั้นจึงตกเป้นเมืองขึ้นของเวียตนามอยู่ชั่วระยะหนึ่ง
แม้สงครามอินโดจีนจะผ่านพ้นไปสามสิบกว่าปีแล้ว แต่บาดแผลและร่องรอยจากสงครามยังคงอยู่สภาพของสิ่งปรักหักพังของเมืองคูน เมืองหลวงเก่ายังคงมีร่องรอยให้เห็นอยู่โดยทั่วไป ซึ่งจากซากปรักหักพังบางแห่งทางรัฐบาลลาวได้อนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงพิษภัยของสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อในอดีต ร่องรอยของหลุมระเบิดขนาดใหญ่จากฝูงบิน บี 52 ของอเมริกันยังคงมีให้เห็นกันอยู่ทั่วไป ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นบ่อเลี้ยงปลาในนาข้าว ซากของลูกระเบิดน้ำหนักหลายสิบตันถูกดัดแปลงมาเป็นรั้วบ้าน เสาบ้าน รางข้าวหมู ที่นั่งเล่น เตาปิ้งบาร์บีคิวสำหรับนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันเมืองเชียงขวางเริ่มฟื้นตัวเรื่อยๆค่อยเป็นค่อยไป มีสิ่งดีๆมอบเป็นของกำนัลแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเสมอ ชาวเชียงขวางไม่เคยลืมอดีตที่โหดร้ายของสงครามที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีอคติกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้มาเยี่ยมเยือนทุกคนช่วยกันก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ คือเมืองโพนสะหวันแทนเมืองคูนเมืองหลวงเก่าที่ถูกทำลายลงด้วยพิษสงคราม
เมืองโพนสะหวัน เมืองหลวงใหม่ของแขวงเชียงขวาง อยู่ห่างจากเมืองคูนเมืองหลวงเก่าที่ถูกทำลายลงไปเมื่อครั้งสงครามระยะทางห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากทุ่งไหหินหนึ่งระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร เมืองโพนสะหวันเดิมมีชื่อว่าเมืองแปก ซึ่งแปลว่าต้นสน สาเหตุเพราะว่าสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ประกอบกับมีเทือกเขาอันสลับซับซ้อน จึงเหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นสนสามใบ ซึ่งอยู่ในเทือกเขาตลอดทั้งสองข้างของถนนหมายเลข 7 ถนนยุทธศาสตร์เดิมในอดีตสู่ชายแดนประเทศเวียตนามตอนเหนือ ตลอดจนทุ่งดอกบัวตองชาวลาวเรียกว่าดอกบัวขม ออกดอกสีเหลืองอร่ามบานสะพรั่ง แซมด้วยดอกคริสต์มาสสีแดงสดที่ชาวลาวนิยมปลูกเป็นรั้วบ้านบานสะพรั่งต้อนรับลมหนาวของเดือนพศจิกายนของเส้นทางแห่งนี้
- ตี๋ท่าบ่อ
- ขาประจำ
- โพสต์: 7356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:42
- Tel: 086-5521599 856-20-54100356
- team: SDL บ้านคลอง มิตรภาพลำโขง เมืองท่าบ่อ หนองคาย
Re: สรุปทริปเพื่อนชวนเพื่อนเที่ยว เวียงจันทน์-ซำเหนือ
เมืองคูน เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของแขวงเชียงขวาง ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโพนสะหวัน เมืองหลวงใหม่ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งในปี พ.ศ.2512 ช่วงสงครามอินโดจีน เมืองคูนแห่งนี้ถูกอเมริการะดมทิ้งระเบิดอย่างหนัก จนวัดอารามที่สวยงามพังทลายจนหมดสิ้น ส่วนอาคารสถานทูตฝรั่งเศสนั้นแม้จะได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดไม่น้อยแต่ก็ยังคงอยู่รอดมาได้ ส่วนตึกบางแห่งที่เหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง ทางการลาวยังคงสภาพเดิมเอาไว้เพื่อให้ชาวลาวรุ่นหลังได้เห็นพิษภัยความหายนะของสงครามที่เกิดขึ้นในอดีต หลังสงครามอินโดจีนสิ้นสุดลง ทางการลาวได้ทำการย้ายเมืองหลวงจากเมืองคูนมาอยู่ที่เมืองโพนสะหวันในปัจจุบันนี้ ภายในตัวเมืองคูนเมืองหลวงเก่าของแขวงเชียงขวางจะเห็นวัดอยู่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ติดริมถนนทางด้านซ้ายมือมีชื่อว่าวัดเพีย มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี วัดเพียแปลเป็นภาษาไทยว่า วัดใหญ่ คำว่าเพียแปลว่าใหญ่
ตัวพระอุโบสถมีแต่เพียงซากปรักหักพัง ซึ่งเกิดจากพิษภัยของสงครามคงเหลือแต่พระพุทธรูปปางสมาธิที่ทำมาจากปูนความสูงประมาณ 10 เมตร ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองคูนและประชาชนลาวทั่วไป ด้านข้างมีกุฏิพระใช้เป็นที่จำพรรษาของภิกษุสามเณร ก่อนถึงวัดเพียประมาณ 100 เมตร จะมีทางแยกลูกรังซ้ายมือเข้าไปยังพระธาตุฝุ่น
ระยะทางประมาณ 200 เมตร เป็นพระธาตุเก่าแก่องค์หนึ่งในเมืองคูน รอบฐานองค์พระธาตุฝุ่นจะสมบูรณ์ไปด้วยดอกบัวตองหรือที่ชาวลาวเรียกว่า ดอกบัวขม ออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งรอบฐานองค์พระธาตุฝุ่น ริมถนนทางเข้าพระธาตุคือตลาดเมืองคูน เป็นตลาดขนาดเล็กที่มีชนเผ่าต่างๆ นำผลผลิตทางการเกษตรและของป่ามาวางขายริมถนนราคาถูก ชาวลาวในเมืองคูนมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันพอสมควร ตลอดสองข้างทางจากเมืองโพนสะหวันไปยังเมืองคูน(เมืองหลวงเก่า) ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะแลเห็นวิวทิวทัศน์ท้องทุ่งนา ลักษณะคล้ายขั้นบันได รวงข้าวสีทองเหลืองอร่ามรอการเก็บเกี่ยว สลับกับเทือกเขาหัวโล้นเป็นแนวยาวไปจนสุดสายตา ภาพวิถีชีวิตชาวนาลาวกำลังช่วยกันลงแขกเก็บเกี่ยวข้าวในท้องทุ่งนา ซึ่งเป็นประเพณีโบราณและเป็นภาพที่หาดูได้ยากแล้วในเมืองไทย ภาพของชาวนากำลังช่วยกันฟัดข้าวอยู่กลางท้องถิ่น โดยใช้เครื่องมือช่วยในการฟัดชนิดพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คือ ซากลูกระเบิดจากเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-52