+++ บันทึกการปั่น/การฝึกซ้อม/ส่งการบ้าน +++

[MinIClipX]

รอบขา 200++ โหหหหห โหดม๊วกกกกกกกกกกกกก

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

+++ ส่งการบ้านครับ +++

+++ Trip "พิชิต...ภูทับเบิก 05-05-56 +++

Bike type: Road

Timeride: 02.15 hour

Dst.: 43.07 km.

Sp.av.: 19.1

Sp.mx.: 70.9 (ไหลลงเนิน)

Av.cad.: 76


Hr.av.: 165 bpm. (83% mx.hr.)

Hr.mx.: 179 bpm. (90% mx.hr)

Kcal.: 2059 Kcal (ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เพราะคาร์โบโหลดดิ้งมาเต็มที่)



Remark: งานปั่นทะลุเมฆ "ภูทับเบิก 56" งานนี้ผมเอา "หมอบ" เข้าประกวดในรุ่น C (30-39) ครับ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเพราะเคยปั่น "ภูเขา" ปั่นเมื่อสามปีที่แล้ว ชุดขับเคลื่อนของผมยังคงใช้เดิมๆ จากโรงงานอยู่นั่นคือ หน้า 50-34, หลัง 12-30

...เส้นทางขึ้น "ภูทับเบิก" แห่งนี้เป็นเส้นทางที่สวยงามมากเส้นทางหนึ่งที่ผมได้เคยไปสัมผัสมา รวมไปถึงเป็นเส้นทางที่มี "เนิน" ยาวววววววว ติดต่อกันเป็นสิบกว่ากิโลเมตร (เรียกว่าขึ้นอย่างเดียวเป็นสิบกิโล) สามารถเผาผลาญพลังงานและกระตุ้นการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดีโดยอัตโนมัติ

...ถ้าจะให้เปรียบเทียบ "ภูทับเบิก" กับ "อินทนนท์" ต้องบอกว่า "เหนื่อยเหมือนกัน" แต่ทับเบิกจะเหนื่อยกว่า เพราะงัดเนินยาวววววโคตร แต่อินทนนท์เจอหนักๆ ช่วงสุดท้ายถ้าเฉลี่ยแรงไม่ดีเสร็จเหมือนกัน

...แต่ถ้าเรื่อง "ความสวยงาม" ของเส้นทางขึ้นเขาแล้วหล่ะก็ ขอยกให้ "ภูทับเบิก" ครับ

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

+++ Trip "ปั่นวัดใจฯ วิเศษชัยชาญ อ่างทอง 24-05-56 +++


Bike type: Road (racing)

Timeride: 01.37 hour

Dst.: 66.5 km. (ตามรายการเค้าบอก 70 กม. สงสัย ลดระยะทางให้ครับ)

Sp.av.: 40.9

Sp.mx.: 53.7 (พยายามเร่งความเร็ว เพื่อไปเชื่อมคันที่ยิงหนีไป...แต่ไม่ทัน) 555+

Av.cad.: 95


Hr.av.: 173 bpm. (87% mx.hr. เหนื่อยนะแต่ "เอาอยู่")

Hr.mx.: 191 bpm. (96% mx.hr)

Kcal.: 1595 Kcal (ก่อนปั่นโหลดพลังงานค่อนข้างดี ปั่นจบไม่หิวข้าวเลย กระหายแต่น้ำ เพราะร้อนมว๊ากกกกก











Remark: งานนี้เป็นงานประเภท "ปั่นวัดใจ" รูปแบบเดียวกับ "ใจเกินร้อย" ระยะทาง 70 กม. แบ่งเป็น 3 กลุ่ม A,B,C
...กลุ่ม A: ให้ระยะเวลา 1.50 ชม. (จำกัด 100 คน) , กลุ่ม B: ให้ระยะเวลา 2.30 ชม., กลุ่ม C: ให้เวลา 3.00 ชม.
...ผมดูรายละเอียดและคิดนวณความเร็วเฉลี่ย (sp.av.)ที่ใช้ในกลุ่ม A = 38.2+ ซึ่งผมไม่เคยทำได้ในการปั่นจึงคิดว่านี่คือสิ่งที่ "ท้าทาย" อย่างยิ่ง ก็เลยไปร่วมสนุกกับเค้าสักหน่อย

...ในเกมส์วันนั้นช่วงปล่อยตัว ผมอยู่กลางๆ กลุ่ม ยืนใกล้ๆ น้าแพท และ พี่โต้ง หลังจากปล่อยตัวไม่ถึง 1 กม. กลุ่มหน้าทำความเร็วเกิน 40 กม.ต่อชั่วโมง (ก่อนปั่นไม่ได้ วอร์มอัพ เส้นสายยังไม่เข้าที่ดี) ก็ขออนุญาติซุกๆ กับเค้าไปก่อน

...ความเร็วในการเดินทางของกลุ่มนี้แปรพันไปตามลมส่ง, ลมต้าน, การกระชากขึ้นลงของผู้ทำเกมส์ อยู่ที่ 38-45

...วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเจอ "น้าป้อม" จากห้อง 100 รอบ ใน peloton น้าป้อมยิงขึ้นไปข้างหน้า แล้วชวนผมไปด้วย แต่ผมยังไม่สามารถเพราะระบบร่างกายยังไม่ที่ ก็ได้ตามอง ตาจ๋อยๆ อยู่ด้านหลัง 555+ ผู้ที่ทำเกมส์ได้เด่นๆ ที่ผมเห็นวันนั้นก็มี น้าป้อม, น้านพดล (scott เหลือง), พี่จอบ@อยุธยา พี่ๆ จากทีม 347, TTL, และ SKB หลายๆ ท่านครับ ตลอดเกมส์ผมเองก็พยายามจะซุกตัวให้อยู่ภายใน 10 คนแรกให้ได้ บางจังหวะก็ขึ้นมาลากช่วยกลุ่ม (โดยจำเป็น เพราะเค้าลงไปกันหมด) 555+

...ในเกมส์วันนั้นเหมือนผมได้ยินเสียง "กลิ้ง" ดังโครมใหญ่ถึงสองครั้งจากด้านหลัง แต่ไม่ได้หันไปมอง เพราะกลัวจะเกี่ยวกับคันหน้า

...เดิมทีตั้งใจจะ "สะสมพลัง" เอาไว้ระเบิดหนีช่วง 5 กม. สุดท้าย แต่ผิดคลาดดด เป็นอย่างมาก เพราะลำพังปั่นตามหลังผู้นำในระดับความเร็ว 40-42 hrm. ก็อยู่ในช่วง 85% ++ แล้ว ไม่มีปัญญาที่จะสะสมพลังเลย

...ช่วงโค้งซ้ายก่อนข้ามสะพานเข้าเส้นชัย ในกลุ่มเริ่มเร่งความเร็วออกห่างเพื่อ sprint เข้าเส้นชัย จุดนี้เองผมใช้จังหวะ "ทิ้งกลุ่ม" (คือไม่ตามไปด้วย) 555+ ปั่น recory เข้าเส้นชัยไปอย่างนิ่มๆ แบบสุภาพเรียบร้อย เห็นน้าแพท ยืนเท่ห์อยู่บริเวณเกาะกลางถนนมีเจ้าหน้าที่ประกบอยู่ด้วย นึกว่าเค้ามสัมภาษณ์หรือแสดงความยินดีอะไรกับน้าแพท ก็ไม่ได้สนใจอะไร cool down ไปเรื่อยๆ วนกลับมาอีกทีถึงรู้ว่าน้าแพทกลิ้งที่หน้าเส้นซะแล้ว ก็เลยเข้าไปดูอาการ สภาพตอนนั้นไม่เป็นอะไรมาก มีบาดแผลนิดหน่อย แต่ช่วงเอว รู้สึกจะมีรอยช้ำ มองตาน้าแพทเหมือนจะไม่เป็นอะไร สมกับคำกล่าวที่ว่า "นักรบ...ย่อมมีบาดแผล"

...ปั่นจบทริปนี้ไม่หิวข้าวเลยครับ อาจจะเป็นเพราะโหลดพลังงานมาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว แต่กระหายน้ำเป็นอย่างมาก กินน้ำไปประมาณ 2 ปี๊บ ได้มั้ง 5555+

+++ จบการรายงาน +++

ปล. ทริปนี้ลืมหยิบกล้องถ่ายภาพไปด้วย เลยไม่ได้บันทึกภาพในระหว่างเกมส์เลยครับ

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

...แปะการบ้านประจำเดือน "มิถุนายน 2556" ครับ



...เดือนนี้เด็กๆ เปิดเทอม ไหนฝนจะตกอีก หาเวลาซ้อมได้ค่อนข้างจำกัด ปั่นพอรักษาสภาพครับ

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

...ส่งการบ้านครับ

...มาร่วมงาน "พิษณุโลก...ใจเกินร้อย"


+++ Pitsanulok finish 100 km. 28-07-56 +++

Bike type: Road bike (race group : A)

Timetrain: 2.05 hour

Dst.: 81.4 km. (ระยะทางไม่ครบ 100 กม. ตามโปรแกรม นักปั่นขาดทุนนะครับเนี่ยะ)

Sp.av.: 38.8

Sp.mx.: 53.5

Av.cad.: 89


Hr.av.: 161 bpm. (81% mx.hr.) (เหนื่อยแบบสุภาพ เหนื่อยกำลังดี)

Hr.mx.: 186 bpm. (94% mx.hr) (สงสัยขึ้นตอนเชื่อมกลุ่ม)

Kcal.: 1852 Kcal (จบเกมส์ไม่หิวเลย สะสมพลังไว้เย๊อะ: ตอนเช้ากินพิซซ่าถาดใหญ่ไปสองชิ้น ขนมปังอีก 4 แผ่น)

Remark: ...วันนี้มาร่วมงาน "ใจเกินร้อย" ที่จังหวัดพิษณุโลกครับ เริ่มปั่นที่บึงราชนก ขึ้นไปทาง อ.วัดโบสถ์ เลี้ยวเข้าเขื่อนแควน้อย ออกจากเขื่อนเข้าถนนใหญ่ ตรงมาที่จุดเริ่มต้น

...สภาพอากาศวันนี้ไม่ร้อน ไม่มีแดด แถมชุ่มฉ่ำอีกต่างหาก เพราะมีฝนโปรยปรายลงมาราวกับประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เย็นชื่นใจไปอีกแบบครับ จะมีอุปสรรคก็ตรงที่เวลาปั่นตามเพื่อนข้างหน้า น้ำมันจะกระเซ็นใส่หน้า ทำให้หน้างี๊ ลายยย ไปหมด

...วิวสองข้างทางก็เหลือบไปมองนิดหน่อย เพราะต้องสนใจกับผิวถนนมากกว่า เพราะว่ามีหลุม บ่อ ทางขรุขระให้ได้ "เร้าใจ" เป็นช่วงๆ ในเกมส์ก็น่าจะมีคนกลิ้งไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ขอให้หายเร็วๆ นะครับ

...ทีมงานเจ้าหน้าที่จัดงานฯ มีการวางแผนจัดงานได้เป็นอย่างดี มีระบบ ระเบียบครับน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง








...อันนี้ก่อนปล่อยตัว




...ดีใจที่ได้พบกับจอมยุทธ์ห้องร้อยรอบแห่งเมืองพิษณุโลกอีกหนึ่งท่าน พี่ "Kenc" ครับ

...คุยกันสักพักได้ความว่า พี่เค้าสะสมพลังงานไว้หลายเดือนแล้ว รอวัน "ปลดปล่อย"




...ช่วง rolling อบอุ่นร่างกาย (แต่แบบนี้แถวๆ บ้านผมไม่เรียก อบอุ่นร่างกายแล้วครับ นี่มัน "เผาเครื่อง" ชัดๆ




...แอบเก็บภาพตอนอยู่ในเกมส์ได้นิดหน่อย เพราะต้องระวังกับผิวถนน และ เพื่อนร่วมทางครับ






...ถึงเลยแร๊ะกัน เข้าเส้นชัยแร๊ะ




...ทริปนี้ได้โปรฯ จาก "เทือกเขาภูทับเบิก@เพชบูรณ์" พี่เอ๋ เสือเพชรละครเป็นบัดดี้ในเกมส์ครับ



... "ถ้วยขลัง" เป็นแบบนี้ครับ

...สมเด็จฯ พระนเรศวรหลั่งทักษิโนทก



จบข่าว...เสืออิฐ คนหลังอาน รายงาน

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

...แปะการบ้านเดือน "กรกฏาคม 2556"



...เดือนนี้พอจะแบ่งเวลามาฝึกซ้อมได้บ้าง (ช่วงก่อนไปทำงาน กับ หลังเลิกงาน) แต่บางวันฝนตกก็ต้องอยู่เฉยๆ

...ออกทริปปั่นไกล 1 ครั้ง ไปร่วมงานใจเกินร้อยที่พิษณุโลกอีก 1 ครั้ง

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

*** ค้นคบ...สถานที่ฝึกวรยุทธ์ "ไต่เขา" จังหวัด พะเยาครับ ***

...ก่อนจะไปชมภาพขออนุญาติ "โม้" เกี่ยวกับตัวเอง นิดนึงก่อนครับ

- ผมปั่นจักรยานขึ้น "เขาใหญ่ เขาเขียว"@นครนายก - ปราจีนบุรี : ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ไม่เคยพัก ไม่เคยจอด ระหว่างทางขึ้น

- ปั่นขึ้น "ภูทับเบิก"@เพชรบูรณ์ : 2 ครั้ง ไม่เคยจอด ไม่เคยพัก

- ปั่นขึ้น "ดอยอินทนนท์"(สูงสุดแดนสยาม)@เชียงใหม่ : 4 ครั้ง ไม่เคยพัก ไม่เคยจอด ขาไม่แตะพื้น

...แต่ที่นี่ "ปางปูเลาะ - ผาแดง" อุทยานแห่งชาติดอยหลวง@พะเยา : ครั้งแรก....เด๋วไปดูกัน

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

... "บ้านเย้าปางปูเลาะ - ผาแดง" ตั้งอยุ่ที่ ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา บ้านผาแดงอยู่ห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 15 กม.

...ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง (รึป่าว) ลักษณะทางขึ้นก็คล้ายๆ กับอุทยานแห่งชาติทั่วๆ ไป เหมือนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น








...ลักษณะเส้นทางแบบนี้ถ้าเป็นที่นครนายก ผมจะนึกถึงทางเข้าน้ำตกโกรกอีดก เพราะมีลักษณะเส้นทางคล้ายๆ กัน



...แต่เส้นทางนี้จะสูงชัน และสลับซับซ้อนค่อนข้างมาก


...เข้ามาข้างในเจอดอกไม้สวยๆ ด้วย

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

...กว่าจะถึง "บ้านเย้า ปางปูเลาะ" มีเนินให้เล่น ลูกแล้ว ลูกเล่า








...ปั่นไปก็คิดไปว่า ยอดเขา "ผาแดง" มันลูกไหนนะ ใช่ลูกนี้หรือเปล่า (ถ้าใช่หล่ะก็ ไส้หักในแน่ๆ เบยยยย)




...ก่อนถึง "บ้านเย้าปางปูเลาะ" ก็มีเนินชันๆ ระดับ 13-17% ให้ได้ยืนโยกยาวๆ 100 - 200 เมตร พอให้ได้หายใจแรงๆ

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

...เลยบ้านเย้า ปางปูเลาะมาแล้ว เริ่ม "ได้ใจ" คิดว่า ตัวเองแน่ ตัวเองเก่ง ไม่ต้องเติมน้ำ ไม่ต้องจอดพัก ชุดขับเคลื่อน จานหน้า 50-34, เฟือง หลัง 12-30 ยังใช้ไม่หมดเลย ใช้ใบใหญ่สุดแค่ 24-27 สลับกัน แป๊บเดียวเจอของจริงเลยยยยย

...ผมจำได้เป็นอย่างดี เนินนั้นเริ่มต้อนรับด้วยความชัน 12% แล้วเพิ่มขึ้นมาเป็น 14-15-17-20% อย่างรวดเร็ว ผมตัดสินใจเปลี่ยนเฟือง 30 รับมือทันที ต่อสู้กับเนินชันนี้ไปเรื่อยๆ คิดว่ามันคงสั้นๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมา แต่ตอนนั้นร่างกายเริ่มหมดแรงไม่สดชื่นเหมือนตอนขึ้นมาใหม่ๆ

...ผมก้มหน้า ก้มตา "งัด" เนินไป รอบขาอยู่ไม่เกิน 45 rpm. hrm. ไม่ต่ำกว่า 175 bpm. ความเร็วน่าจะพอๆ กับเดินทางเรียบ 4-5 km./ชั่วโมง เนินนี้มันยาวววววววว จริงๆ น่าจะเลย 500 เมตรได้แล้วมั้งอ่ะ ที่ความชัน 17%+ เนี่ยะ

...งัดต่อมาเรื่อยๆ จนเหลือบมองโค้งขวาก่อนสุดปลายเนิน ผมมองระยะกะเป้าหมายด้วยสายตาประมาณ 50 เมตร ผมตัดสินใจทุ่มเทพลังทั้งหมด "ยืนโยก" สู้ความชัน หวังว่ามันคงจะหมดเนินแค่นี้นะ....แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นครับ มันยัง "หน้าด้าน" ขึ้นต่อไปอีก

...ตอนนั้นหิวน้ำ คอแห้ง เหนื่อยมว๊ากกกก วินาทีนั้นตัดสินใจกระโดดลงจากรถทันที





...ผมรีบเติมพลัง เติมน้ำ เติมเกลือแร่ เป็นการเร่งด่วน

...ขนาดลงมายืนเฉยๆ แล้ว hrm. ยังไม่ค่อยอยากจะลงเร้ยยยยยย (ค้างอยู่ 170 bpm. แป๊บนึง)





...เริ่มหายเหนื่อย เริ่มเก็บหลักฐาน ว่าต่อไปต้องมา "แก้มือ" ตรงจุดไหน

...ชัดๆ เลย จาน 50-34, เฟือง 12-30 เอาไม่อยู่








...วันนี้ต้องยอม "สารภาพบาป" ตรงนี้เลยครับ

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

..ตอนแรกกะว่าจะเข็นขึ้น ให้มันรู้แล้ว รู้รอดไปเลยยยย แต่ก็พยายามขึ้นปั่นอีกครั้ง หลังจากเติมน้ำ เติมพลัง ก็มีแรงปั่นต่อ

...เลยมาอีกหน่อยก็เจอหนักๆ อีก แต่คราวนี้ใช้วิชา สลับฟันปลาเอาตัวรอดมาได้

...เลยขึ้นมาถึงด้านบนในที่สุด









...บันทึกภาพกับ ศาลาชมวิวด้านบนก่อนถึงหมู่บ้านผาแดง ไว้วันหลังจะมาแก้มือใหม่





...ถึงที่แล้วก็เริ่มปั่นเล่นชมหมู่บ้านครับ

...ข้างบนนี้วิวทิวทัศน์ แจ่มมว๊ากกก ครับ ชาวบ้านที่นี่ปลูกกาแฟอาราบิก้าด้วย






...ไม่แน่ใจว่าชาวบ้านแถวนี้เค้าปลูกพืชแบบไม่ใช่ดินหรือเปล่า ผมแอบเห็นตรงบริเวณไหล่เขา (มันจะถล่มลงมาเมื่อไหร่เนี่ยะ)





...อยากขึ้นไป "ชมวิว" บนยอดผาแดงเหมือนกันครับ แต่เห็นทางแล้ว "ปวดตับ" กลับบ้านดีกว่า





...ทริปนี้ใช้พลังงานประมาณ 4,000 Kcal. กลับถึงบ้านชดเชย เรียบร้อยยยยยยย




ฝากไว้ก่อน...เขาเหลียงซาน@พะเยา

[เสือดอนโพธิ์]

มันมี..เนินซ่อนเนิน เหมือนสมัยขึ้นเขาอีโต้ใหม่ๆ นึกว่าถึงแต่ไม่ถึง...ใจมันกระโดดลงจากรถก่อนถึงโค้งไปแล้ว

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

มันมี..เนินซ่อนเนิน เหมือนสมัยขึ้นเขาอีโต้ใหม่ๆ นึกว่าถึงแต่ไม่ถึง...ใจมันกระโดดลงจากรถก่อนถึงโค้งไปแล้ว

...แต่เนินนี้ความชันระดับ "วัดคีรีวัน" , ความยาว เหมือนเขาอีโต้ช่วงเลยเนินพิศวงไปด้านบน เรียงต่อกัน 2 ครั้งกว่าๆ อ่ะครับพี่

...ตั้งแต่ปั่นมา มีที่นี่หล่ะ "หยุดความ...คึกคะนองขึ้นเขา" ของกระผมได้

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

ส่งการบ้านครับ

+++ Racing Trip Tour De Pong-Neep 2013 27-10-2556 +++

Bike type: Road_team 6 riders (เสือหมอบประเภททีม 6 คน รวมอายุมากกว่า 180 ปี)

Timeride: 5.11.22 hour

Dst.: 182.1 km.

Sp.av.: 35.09

Sp.mx.: 76.21 (ไหลลงจุดชมวิว ช่องเขาขาด)

Av.cad.: 84


Hr.av.: 157 bpm. (79% mx.hr.)

Hr.mx.: 180 bpm. (91% mx.hr)

Kcal.: 4418 Kcal (ก่อนปั่น 2 ชั่วโมงเติมพลังงานเต็มที่ นมกล่อง, ขนมปัง, ระหว่างเกมส์ เกลือแร่, น้ำหวาน, ขนมปัง เป็นระยะๆ ทำให้ไม่หิว, หลังเกมส์ ตอนเย็น จัดหนัก สเต็กบุปเฟต์ อิ่มไปเกือบ 2 วัน )



Remark: ทริปนี้เป็นทริปทางไกล 180 กม. ที่ขอนแก่น ปีนี้เอาเสือหมอบปั่นประเภททีม 6 คน (Mr.v team A) รวมอายุมากกว่า 180 ปี ประเภทนี้มีทีมเข้าแข่งขัน 9 ทีม (54 คน)

...ลักษณะเส้นทาง เป็นทางเดียวกับปีที่แล้ว แต่ต่างกันที่ปีนี้ปั่นตามเข็มนาฬิกา ทำให้จุดที่ถือเป็น hightlihgt (จุดชมวิวเขาขาด) อยู่ที่ กม. ที่ 170 กว่าๆ กว่าจะมาถึงตรงนี้ ร่างกาย กล้ามเนื้อ ก็ล้า มากกก ผมงี้ขึ้นเขาราวกับเต่าคลาน ประคับประครองไม่ให้ตะคริวขึ้น

...ทริปนี้ "ยางแตก" ที่ กม. 130 กว่าๆ ทำให้หลุดกลุ่มนำ เพื่อนๆ ในทีมช่วยกันเปลี่ยนยาง เสร็จแล้วก็ไปต่อ

...เกมส์นี้ทีม A "ผิดแผน" ไปพอสมควร เพราะกลุ่มแตกไปตั้งแต่ ยังไม่ถึง กม. ที่ 40 อยู่กับกลุ่มนำ 3 คน และกลุ่มหลัง 3 คน แต่ก็ถือว่า "โชคดี" ที่ พี่ๆ น้องๆ สปิริตสูง ช่วยกันปั่นจนจบเกมส์ ทำให้มีที่ยืนบนโพเดี้ยมครับ

*** สรุป Mr.v team A: อันดับ 3 ครับ










...อันนี้เป็น Profile สำหรับงานนี้ครับ

[เสืออิฐ คนหลังอาน]

...ไม่ได้ส่งการบ้านห้องนี้หลายเดือนแร๊ะ เอาซะหน่อย





+++ Racing Trip: พิชิตอินทนนท์ 2557 (16-02-2557)+++

Bike type: Road

Timeride: 3.22.22 hour (จับเวลาเอง) เวลาอย่างเป็นทางการ_3.23.10

Dst.: 49 km.

Sp.av.: 14.51

Sp.mx.: 60.1 (ไหลลงเนินสักแห่งนี่หล่ะ)

Av.cad.: 62 (ช่วง 16 กม. สุดท้าย รอบขาหายไปเย๊อะ)


Hr.av.: 164 bpm. (83% mx.hr.)

Hr.mx.: 180 bpm. (91% mx.hr)

Kcal.: 3063 Kcal (ระหว่างเกมส์ไม่หิวเติมพลังเป็นระยะๆ)



Remark: ...การเตรียมตัวสำหรับอินทนนท์ปี 2557 ครั้งนี้ รู้สึกว่าจะ "ผิดแผน" ไปมากครับ เพราะว่าโหลดพลังงานสะสมอยู่ในมวลสารร่างกายค่อนข้างเยอะกว่าปีก่อน (ปีก่อน 2556 หนักเกือบๆ 80 กก.) ปีนี้น้ำหนักเกือบๆ 84 กก. หากมองโลกในแง่ดีนั่นหมายความว่าปีนี้มีพลังงานสะสม เพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 กก. ไม่น่าจะมีอาการหิวระหว่างทาง 555+

...สมรภูมิอินทนนท์ 2557 ครั้งนี้คนเยอะมว๊ากกกกกกกกกก นักปั่นทั้งหมด 2,200 กว่าคน เป็นเสือหมอบเข้าไปแล้ว 700 กว่าคัน ที่เหลือเป็น MTB และ ประเภทท่องเที่ยว (เที่ยวขึ้นเนิน...ไม่ใช่ไม่เหนื่อยนะครับ)


...วันนั้นผมตื่นประมาณ 05.00 น. หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ก็มานั่งโหลดพลังงานเพื่อที่จะเตรียมขึ้นสู่จุดสูงสุดแดนสยาม มื้อเช้าเท่าที่จำได้ก็กินขนมปังไปประมาณครึ่งปอนด์ (8-10 แผ่น) ขนมเปี๊ยะอีก 3-4 ชิ้น, กาแฟ 1 ถ้วยเล็กๆ แถมยังเอา power beng (แบง-แบง) ติดใส่กระเป๋าหลังไว้กินระหว่างทางอีก 3-4 อัน, เกลือแร่อีก 1 ขวด

...ประมาณ 06.15 น. ก็มาถึงจุดปล่อยตัวบริเวณวัดพระธาตุศรีจอมทอง โอ้โฮววววววว์ "มวลมหาประชาชนชาวจักรยาน" เพี๊ยบบบบบบเร้ยยยย อยู่กันอย่างเนืองแน่น เต็มพื้นที่ เลยออกไปทางหน้าวัด ล้นออกไปถึงถนน การจราจรค่อนข้างติดขัดอย่างหนัก


...เวลาประมาณ 07.15 (เลยเวลาเล็กน้อย) ก็ปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ท ตอนแรกวางแผนกับ แก๊งซ์ Mr.V ว่าจะไป "เปรี้ยว" & "ขายเสื้อ"อยู่กลุ่มหน้าแต่มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะตอนปล่อยตัว กลุ่ม Mr.v ก็กระจัดกระจายไปคนละทิศทาง ทำให้แต่ละคนต้องหาช่องของตัวเอง

...กว่าผมจะได้ออกตัว และตั้งความเร็วได้ โน้นนนนนน กลุ่มหน้า ไปไกลมากแล้ว แผนการ "ขายเสื้อ" จึงเป็นไปได้ค่อนข้างยากกกกส์

...แต่ก็ไม่ละทิ้งความพยายาม พอหลุดมาตรงที่การจราจรสะดวกสบาย ระหว่างสามแยก - ประตูด่านเก็บเงินที่1 stage แรกทางราบระยะทางประมาณ 10 กม. ผมเพิ่มความเร็ว 45+ ไล่ตามกลุ่มหน้าที่เห็นอยู่ลิบๆ ใส่พลัง, ใส่รอบขา ไม่ยั้ง ตามจนทัน แต่ก็หน้าแทบมืด พบว่า "ขาแรง โห๊สโคตร" จาก ปราจีนบุรี (พี่พรชัย, พี่บรรจบ) ขายเสื้อหมดไปแล้วหลายตัว 555+

...ผมตามได้แค่แป๊บเดียวก็ถึง stage ขึ้นเขาแร๊ะ ผมรู้สภาพตัวเองดีว่าไม่มีปัญญาตามไป ก็ได้แต่ประคองตัวเองต่อสู้กับเนินไปตามรอบขาและจังหวะของตัวเอง สักแป๊บเดียวกลุ่มที่ผมหนีมาก็เขมือบผมทีเดียว 20-30 คัน

...ช่วง 31 กม. แรกยัง "ไม่ใช่ของจริงของอินทนนท์" ผมคุม hrm. ไว้ที 165-170 bpm. รอบขา 70-80 rpm. พยายามมองหานักปั่นที่มี tempo ใกล้เคียงกันเกาะกันไป แต่คุณพระ !!! กลุ่มแล้วกลุ่มเล่าที่ผมพยายามไปเกาะนั้น ลากกก ผมไส้แทบแตก ผมต้องปั่นอยู่อย่างโดดเดี่ยว เดียวดายอยู่หลายครั้ง ที่เห็นพอจะเกาะได้ก็มีพี่ที่ปั่น mtb อยู่ 2-3 คน ชวนผมไปตลอด บางทีก็ไหว บางทีก็ไม่ไหว แต่ก็ประคับประคองกันไปสักแป๊บนึง

...เนินก่อนใกล้ถึงที่ทำการฯ (กม.31) ความชันประมาณ 13% ผมตัดสินใจใช้เกียร์เบา (เฟือง 30T)เพื่อพักขาหลังจากที่กดหนักมานานเริ่มปวดหลัง แต่คุณพระช่วย โชคชะตากลั่นแกล้ง !!! โซ่ดันตกเข้าไปในดุมล้อ ขาฟรี ปั่นต่อไม่ได้ ระหว่างนั้นมีเพื่อนปั่นตามมาข้างหลังด้วย ตะโกนบอกให้ผมระวังๆๆ แล้วก็เบี่ยงซ้ายออกไป ผมสะบัดคลีทออก แล้วลงมายืนตั้งหลักทันทีก่อนที่จะตบเฟือง ใส่โซ่เข้าไปใหม่ (โซ่ตกครั้งแรก...ยังไม่ได้ปรับแต่งอะไร)

...เอาใหม่หลังจากใส่โซ่เข้าไปแล้ว ก็ใส่เฟือง 27T ปั่นไปก่อน สักพักหนึ่งก็ลองใส่เฟือง 30T ต่อ เป็นเหมือนเดิม...โซ่ตกเหมือนเดิม...สะบัดคลีทออก แล้วก็ตบเฟืองใส่โซ่เหมือนเดิม (คราวนี้เริ่มรู้สึกแปลกๆ ผิดปกติ...แต่ก็ยังไม่ได้ปรับแต่งอะไร)

...หมดเนินสุดท้ายก่อนถึงที่ทำการ กม.31 ไหลลงเนิน ฟิ้วววววววววว (ตอนนี้นอกจากอาการ "ปวดหลัง" ยังมีความกังวลเกี่ยวกับ "โซ่ตก" ร่วมมาด้วย)

...16 กม. สุดท้าย จากที่ทำการถึงเส้นชัย ช่วงนี้หล่ะ "ของจริง"

...ระยะทาง 16 กม., ความชันเฉลี่ย 9%, เนินบางลูกชัน 20%











...หลังจากผ่าน กม.31 มาแล้ว เนินเริ่มทำการต้อนรับด้วยความชันเริ่มที่ 8-9-10% ตามลำดับ ขึ้นยาวๆๆ เนินแล้ว เนินเล่า สังเกตุแถวๆ นี้จะมีนักปั่นอยากสัมผัสธรรมชาติอย่างแนบแน่น ลงมาจูงกันมากขึ้น ช่วงนี้ผมใช้เฟือง 24-27 ต่อสู้กับเนินพอเอาตัวรอด (แต่ไม่มีรอบขาเหลือแร๊ะ) ก่อนถึงด่านเก็บเงินที่สองทางไป อ.แม่แจ่ม มีทางลงนิ๊สนึง พอให้ได้พักขาอยู่บ้างเล็กน้อย

...แต่หลังจากนั้นไปจนถึงเสาทวนสัญญา ทีโอที "อย่าหวัง" ที่จะได้เจอทางลง ที่จะทำให้พักขายาวๆ

...ตลอดทางผมไม่ได้บันทึกภาพเลย เพราะก้มหน้า ก้มตา "งัดเนิน" มาตลอด จนมาสะดุดตากับภาพนี้ พี่ท่านนี้มาพิชิตอินทนนท์ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ด้วยท่อนแขนที่ทรงพลังของเค้า (หวังว่าคง "จุดประกาย" หรือ "สร้างแรงบันดาลใจ" ให้กับใครหลายๆ คนได้ครับ)


...อืมมม อยากบอกว่า ตอนนี้หายใจทางเหงือกแล้ว 5555+



...หลังจากเลยด่านสองมา เนินเริ่มหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงความชัน 13% ผมตัดสินใจใช้เฟือง 30T อีกครั้ง พอตบเฟือง 30T ปุ๊บ อาการเหมือนเดิมเลย "โซ่ตก" แต่คราวนี้ผมทำการแก้ไข โดยปรับตัวดึงสายเกียร์ที่ตีนผี ให้ตึงขึ้นนิดหน่อย โอเครเลย ได้ผลชะงัก ไม่มีอาการโซ่ตกแร๊ะ (รู้งี้ปรับตั้งแต่ครั้งแรกที่โซ่ตกแร๊ะ)

...จากนั้นมาก็เริ่มนั่งกด & ยืนโยก อย่างสบายใจ มากยิ่งขึ้น เอาสมาธิมาทุ่มเทให้กับเนินอยู่ข้างหน้าดีกว่า เพราะเข้าสู่ช่วง Peak ที่สุดของทริปนี้แร๊ะ "พระธาตุนภเมทนีดล" และ "พระธาตุนภพลภูมิสิริ" อยู่ข้างหน้าตั้งอย่างสวยงาม แต่ผมเลือกที่จะมอง "พื้นถนน"

...ช่วงนี้ ถึงจะใช้เกียร์เบาสุด แต่รอบขา...ไม่มีนะครับ (ไม่เกิน 45 rpm.)hrm. โน้นเลย 165 - 170 bpm.+ ก้มหน้าก้มตางัดไป

..."โปรฯปืน" ใส่ชุด "มัสคอต" มาคอยกระตุ้น...แต่ขอโทษที่ พี่พยายามแล้ว แต่ บิ๊ว ไม่ขึ้นเลย นั่งงัดจนหลังจะหักอยู่แร้วววววว 555+



...ช่วงนี้ "หนังชีวิต" ที่สุด เหมือนกับพี่โต้งหลังอนามัย (ภูเก็ต) ให้บทประพันธ์ไว้ว่า..."ก่อนพระธาตุ...มหากาฬ กิ่วแม่ปาน...น้ำตาร่วง ช้ำในทรวง...ทวนสัญญาณ หมดสังขาร...ทีโอที"

...นับว่าโชคดียังพอจะเข้าข้างผม เมื่อ "ที่เก่าเวลาเดิม" ตะคริวที่มาเยี่ยมเยียนผมปีที่แล้ว ปีนี้ไม่มาตามนัด (แต่ก็แอบส่งสัญญาณมาเบาๆ ที่ต้นขาซ้ายไปทีหนึ่งเล่นเอาเสียวเหมือนกัน)

...ช่วงนี้อุณหภูมิเปลี่ยน อากาศค่อนข้างเย็น หายใจออกมาราวกับว่า "พ่นควัน" ได้เลยครับ


...หลังจากหมดเนินทีโอทีแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่ทางราบก่อนถึงเส้นชัย วันนั้นเส้นชัยถูกปกคลุมไปด้วยหมอก เป็นอีกภาพหนึ่งที่ประทับใจเหมือนกัน (แต่ถ้ามาช้ากว่านี้สัก 1-2 ชั่วโมง บริเวณเส้นชัยจราจรติดขัดเป็นอย่างมากครับ)


*** สรุป ***

เวลาอย่างเป็นทางการ : 03.23.10 ชั่วโมง
- อันดับที่ 88 (เฉพาะเสือหมอบ)
- อันดับที่ 114 (Overall)






"ดีใจ" ที่ประวัติไม่ซ้ำรอย ไม่โดนตีหัวก่อนเข้าเส้น เพราะ ดั๊บเบิ้ลแชมป์ เค้าแซงผมไปตั้งแต่ ก่อนถึง กม. 31 แร๊ะ 5555+








เก็บตก : วันนั้นอากาศข้างบนค่อนข้างหนาวเย็น นี่คือ "แฟชั่น" ในวันนั้น ณ บนยอดดอยอินทนน์






...รถเยอะ มว๊ากกกก การจราจร ติดขัด ผมปั่นลง แต่กว่าจะขึ้นปั่นได้ ต้องจูงออกมาเป็นกิโล