เสือ 2 วัย ศรีราชา

กระดานนี้จะรวมกระทู้กลุ่มย่อยต่างๆ ใครไร้สังกัดหรือกลุ่มตั้งใหม่ สามารถตั้งกระทู้คุยได้ที่ห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: ผู้ดูแลบอร์ดชมรมย่อย

กฏการใช้บอร์ด
กระดานนี้จะรวมกระทู้กลุ่มย่อยต่างๆ ใครไร้สังกัดหรือกลุ่มตั้งใหม่ สามารถตั้งกระทู้คุยได้ที่ห้องนี้ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

เรื่องของแบตเตอรี่ขนาด 9 Volts (ก้อนสี่เหลี่ยม)ไม่ดูก็ได้ แต่ชีวิตนี้อาจต้องเสียใจในภายหลัง
อันตรายสุดๆที่ไม่มีใครคาดถึง

http://www.youtube.com/embed/CnVDayI-gw ... detailpage

ช่วยเปิดดูให้ได้นะอันนี้น่ากลัวมาก
ที่บ้านอาจจะใช้ถ่านแบบนี้
กรุณาช่วยกันเผยแพร่ต่อไปด้วยค่ะ
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

เชื่อแน่ว่าทุกคนเกิน 90 % มีปัญหาสิวเสี้ยนตามจุดต่างๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะที่จมูก วันนี้มีวิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่จมูกแบบง่ายที่สุดมาบอก จงเตรียม....** ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ไม่ต้องเอาผ้าหนาๆ มาทำนะ ** เกลือเม็ดละเอียด อย่างของเกลือปรุงทิพย์ก็ได้ ** น้ำมะนาว 1 ซีก ** น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

1. เริ่มจากเอาผ้าขนหนูอุ่นโป๊ะที่จมูกซัก 10 นาทีนะ สิวเสี้ยนมันเป็นไขมันที่อยู่ในรูขุมขนที่โผล่ออกมาเจออากาศ ก็เลยกลายร่างเป็นก่อนแข็งๆ
ดำคาอยู่อย่างนั้น ไอ้จะบีบ เค้น ลอกออกมา ก็ทำให้ผิวหนังรอบๆแดง อักเสบอีก ทำบ่อยๆ รูขุมขนก็ยิ่งกว้างเป็นบ่อปลาสลิดนะตัวเทอว์ เพราะงั้น เราเลยต้องมาละลายไขมันอุดตันด้วยความร้อนจากผ้า
2. ไขมันก็จะเริ่มเหลวๆ ไหลออกมาเล็กน้อย รูขุมขนเปิดซะก่อน
3. ทีนี้แหละ เอาเกลือ น้ำมะนาว น้ำผึ้ง ที่ผสมกันแล้วมาโปะแล้วนวดแบบเบามือนะจ๊ะ คลึงเบาๆ ซัก 10 นาที
4. ใช้ผ้าขนหนูอุ่นตะกี้แหละเช็ดออกเบาๆ
5. ล้างหน้าด้วยน้ำปกติเพื่อให้รูขุมขนหดตัวลง
ง่ายๆ แบบนี้สามารถทำได้ทุกสัปดาห์ครับ แต่สำหรับคนผิวแห้ง แพ้ง่าย ก็อาจจะไม่เหมาะนะ
ปล. ถ้าไม่อยากให้มีสิวเสี้ยนก้ต้องหมั่นทำรูขุมขนให้สะอาด ใช้โฟม/ออย/ครีมล้างหน้าที่เหมาะสมต่อผิว และสครับทุกอาทิตย์ เป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายออกไป

ที่มา http://board.postjung.com/722000.html[b]
[/b]
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

เมื่อลูกค้าโทรแจ้ง สคบ. ร้องเรียนข้าวถ้วยละ 100 นี่คือผลลัพธ์...
โพสต์เมื่อ : 16 มกราคม 2558 เวลา 18:18:34

หนุ่มโวยร้านดัง ขายข้าวเปล่าถ้วยละ 100
ข้าวเปล่าถ้วยละ 100

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1970341 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ลูกค้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่เคยตั้งกระทู้โวยขายข้าวเปล่าถ้วยละ 100 บาท ล่าสุดโทรแจ้ง สคบ. แล้ว มาดูว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรต่อ

สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2557 คุณสมาชิกหมายเลข 1970341 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้ตั้งกระทู้โวยร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่คิดราคาข้าวเปล่าถ้วยละ 100 บาท โดยไม่แสดงราคาไว้ในเมนูอาหาร ซึ่งเมื่อเรียกผู้จัดการร้านมาสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า ข้าวเปล่านั้นเป็นข้าวเหนียวญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เจ้าของกระทู้ก็ต้องจำใจจ่ายเงินไป แต่ภายที่หลังกระทู้ดังกล่าวถูกแชร์ว่อน ก็ทำให้ร้านอาหารดังกล่าวออกมาขอโทษที่ไม่ได้แสดงราคาไว้ในเมนูอาหาร พร้อมระบุว่าจะเร่งดำเนินการติดราคาข้าวเปล่าลงในเมนู เพื่อให้ลูกค้าทราบก่อนสั่ง ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น (อ่านข่าว ร้านอาหารญี่ปุ่น ยอมรับผิด กรณีขายข้าวเปล่าถ้วยละ 100)

เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้ (16 มกราคม 2558) คุณสมาชิกหมายเลข 1970341 ได้ตั้งกระทู้อีกครั้ง ชื่อ "เมื่อคนทานข้าวถ้วยละร้อยโทรแจ้ง สคบ. ผลที่ได้คือ..." เพื่อรายงานความคืบหน้า หลังจากชาวเน็ตแนะนำให้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วย เนื่องจากเห็นว่าข้าวเปล่าถ้วยละ 100 บาทนั้นแพงเกินไป ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ได้โทรศัพท์ร้องเรียนไปยังสายด่วน สคบ. 1166 เพื่อให้เกิดประโยชน์ของผู้บริโภครายอื่น ๆ ตามบทสนทนาข้างล่างนี้

"ก่อนโทรผมก็เตรียมหลักฐานไว้หมดครับ ทั้งโหลดฟอร์มร้องเรียน ใบเสร็จ รูปถ่าย ข่าวจากสื่อต่าง ๆ ครบครับ เมื่อมีเจ้าหน้าที่รับสายปุ๊บ

เจ้าหน้าที่ : สวัสดีครับ ร้องเรียนเรื่องอะไรครับ

ผม : ไปทานอาหารแล้วร้านไม่ติดราคาครับ

เจ้าหน้าที่ : ติดต่อ 1569 กรมการค้าภายในเลยครับ

เรื่องแรกคือ ถ้าจะร้องเรียนเกี่ยวกับราคาสินค้าไม่เป็นธรรมทุกกรณี ต้องแจ้งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ครับ กด 1569

เจ้าหน้าที่ : สวัสดีครับ ร้องเรียนเรื่องอะไรครับ (ประโยคเดียวกัน)

ผม : ร้านอาหารไม่ติดราคาครับ

เจ้าหน้าที่ : ร้านชื่ออะไร อยู่ที่ไหน แล้วเหตุการณ์เป็นยังไงครับ

ผม : ร้านxxx อยู่ที่ xxx ครับ (เหตุการณ์ตามกระทู้เก่า) ผมเตรียมหลักฐานให้แล้วครับต้องใช้อะไรบ้าง

เจ้าหน้าที่ : ไม่ต้องครับ ขอชื่อผู้ร้องเรียนและเบอร์ติดต่อพอครับ

ผม : แค่นี้เหรอครับ?? (อารมณ์เหมือนโฆษณาสินเชื่อ สมัครง่ายอนุมัติไว)

เจ้าหน้าที่ : ทางเราไปตรวจสอบเสร็จแล้วจะแจ้งผลให้ทราบภายใน 7 วันครับ

ผมคิดในใจครับว่าถ้าราชการนี่คงต้องเผื่อใจไว้เลยว่า 7 วันอัพแหง ๆ แถมไม่รู้ด้วยว่าจะติดต่อมาหรือเปล่า เพราะช่องทางการติดตามผลก็ไม่มี วันที่โทรเป็นวันจันทร์ครับ

ถัดมาอีก 2 วัน มีเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในโทรมาครับ ตอนแรกผมติดสายอยู่เลยไม่ได้รับ (เพราะเห็นเป็นเบอร์แปลก) แต่พี่แกโทรกระหน่ำมากครับ เหมือนเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก (4 misscall) ผมเลยรีบโทรกลับครับ เมื่อรับสาย

เจ้าหน้าที่ : คุณxxx นะครับ ตอนนี้ทางผมเข้าไปตรวจสอบร้าน xxx มาแล้ว พบว่าไม่มีการติดราคาจริง เลยประสานงานให้ผู้มีอำนาจปรับไปดำเนินการเรียบร้อยแล้วครับ

โอ้โหหหหห สุดยอดเลยครับ !! ทีมกรมการค้าภายในทำงานเร็วมาก ๆ ตรวจปั๊บ ปรับ โทรแจ้งผลทันที

เจ้าหน้าที่ : ยอดเงินที่ปรับจำนวน 5,000 บาทครับ (ไม่ติดเมนูเดียว เลยปรับตามนี้) ทีนี้คุณ... มีสิทธิ์มาแสดงตัวเพื่อ "ขอรับสินบนนำจับ" 25% ครับ

นี่ละครับ !! ที่ผมอยากให้ผู้บริโภคทุกคนรับรู้ สรุปเป็นข้อ ๆ ตามนี้นะครับ

1. ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้เลยโดยที่ไม่ต้องมีหลักฐาน ขอแค่ชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่รู้ แล้วเค้าจะเข้าไปตรวจสอบเอง

2. ผู้แจ้งไม่ใช่แค่แจ้งเฉย ๆ แล้วจบกัน แต่มีสิทธิ์ได้รับสินบนนำจับด้วย 25% จากยอดปรับ (กรณีผมคือ 1,500 บาท)

3. ผู้แจ้งไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าทุกข์ครับ*** อันนี้ผมว่าสำคัญมาก เพราะแต่ก่อนเราจะเข้าใจว่าคนที่มีสิทธิ์ร้องเรียนต้องเป็นผู้เสียหายเท่านั้น เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาคนทั่วไปก็จะคิดว่าถ้าผู้เสียหายไม่เอาเรื่องขึ้นมาก็จบ แต่ไม่ใช่เลยครับ แค่เราเป็นเพื่อน คนรู้จัก หรือแค่คนหนึ่งที่รู้เรื่องก็สามารถโทรแจ้งกรมการค้าภายในได้เลย นอกจากจะได้ลงโทษคนผิดแล้วยังได้เงินด้วยนะเอ้อ !

หลังจากนี้ก็ตามขั้นตอนครับ คือผมต้องเข้าไปกรอกฟอร์มเพื่อรับสินบนนำจับ แล้วรออนุมัติเงินภายใน 2 อาทิตย์ก็เป็นอันเรียบร้อย

อีกนิดครับ ในกระบวนการทำงานของกรมการค้าภายในจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทุกวันแบบสุ่มตรวจอยู่แล้ว แต่ถ้ามีคนชี้เบาะแสให้จะเป็นประโยชน์กับเค้ามาก ๆ เพราะสามารถพุ่งเป้าได้เลย เจ้าหน้าที่เลยอยากฝากให้ผู้บริโภคทุกคนช่วยกันนะครับ พบเห็นร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภครีบโทรแจ้งทันที 1569 สายด่วนกรมการค้าภายในครับ ขอบคุณครับ"

งานนี้ชาวเน็ตเข้ามาปรบมือชื่นชมการทำงานที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในกันมากมาย พร้อมกับขอให้ทุกคนช่วยกันแชร์ว่า หากพบปัญหาเช่นนี้สามารถโทรแจ้ง 1569 สายด่วนกรมการค้าภายในได้เลย นอกจากจะได้จัดการกับผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภคแล้ว ยังมีสิทธิ์ได้รับสินบนนำจับอีกด้วย
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

:D :D :D ...เจอเพื่อนหลายคน บอกอยากให้เขียนเรื่องควรทำอะไรหลังเกษียณเพื่อเป็นแนวทางให้กับมือใหม่ ในฐานะที่มีประสบการณ์เกษียณมานานที่สุดในรุ่น...ก็ 16 ปีเข้าไปแล้ว เยอะเหมือนกัน...ตั้งใจมานานว่าจะเขียนเรื่องนี้ตอนเพื่อน ๆ ใกล้เกษียณซึ่งเวลานี้ก็เหมาะสม...แต่เมื่อสาระตะอย่างละเอียดแล้วก็บอกตัวเองว่าอย่าเขียนดีกว่า เพราะเขียนไปก็คงเขียนไม่จบ...เคยกำหนดโครงการแรกหลังเกษียณว่าจะเขียนเรื่องประสบการณ์ของผู้บริหารเมื่ออายุยังน้อย จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย...หลังเกษียณ แม้จะมีเวลาเยอะ แต่ต้องใช้ไปกับการลอกหัวโขนด้วยตนเองออกทีละชั้น ชั้นแล้วชั้นเล่า เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายจนแทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น...เห็นบางคนที่ไม่เต็มใจให้ลอก เมื่อถึงเวลามันก็ต้องหลุดร่วงไปเองอย่างเจ็บปวด...ตัวผมนั้น จนป่านนี้แล้ว ยังเหลือให้ลอกอีกตั้งหลายชั้น...เรื่องนี้ยกเว้นให้กับคนที่ไม่มีหัวโขนให้ลอก...แล้วพวกเราล่ะ ใครไม่มีหัวโขนให้ลอก...จริงหรือ

ผมเกริ่นเรื่องเอาไว้อย่างนี้...ก็มีเพื่อนฝูงคะยั้นคะยอให้เขียน...พอมาก ๆ เข้า ก็ใจอ่อน เอ้าเขียนก็เขียน...จบได้หรือไม่ได้ยังไม่รู้...จะขอไล่เรียงทำความเข้าใจกับการเกษียณก่อน แล้วค่อยมาว่าน่าจะทำอะไร เป็นข้อ ๆ ไป...อย่างนี้นะครับ


หนึ่ง...เมื่อเกษียณแล้ว...คนที่ไม่ค่อยรู้จัก กลายเป็นคนไม่รู้จัก...ร้อยละ 80 ของคนรู้จัก เลื่อนชั้นกลายเป็นคนไม่ค่อยรู้จัก...ข้อดี ไม่ต้องเสียเวลาไปกับคนอื่น มีเวลาให้ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น...ข้อเสีย ไม่มี


สอง...หลังเกษียณ...เมื่อไม่มีคนขับรถและเลขาส่วนตัวแล้ว...ต้องกลับมาหัดทำอะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเองอีกเยอะ...ได้ใช้เวลาที่คิดว่าเหลือมาก ให้เหลือไม่ค่อยมาก...เป็นจุดเริ่มต้นของการลอกหัวโขนชั้นแรก



ก่อนเกษียณ ผมยังกดตู้เอทีเอ็มไม่เป็นเลย...เดี๋ยวนี้เดินเข้าออกแบ้งค์ไปทำรายการเองได้อย่างคล่องปรื๋อ...

นอกจากเป็นคนขับรถแล้ว ยังต้องเป็นพ่อครัว เป็นคนสวน เป็นช่างประจำบ้าน บางครั้งก็ต้องไปจ่ายตลาดเองด้วย


สาม...หลังเกษียณ...งานสังคมจะน้อยลง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานในอดีต จะได้รับเชิญน้อยลงตามลำดับ จนไม่เหลือเลย...ข้อดี ไม่ต้องเสียเวลาปั้นหน้าต่อคนหมู่มาก ไม่ต้องจ่ายภาษีสังคม ไม่ต้องเปลืองชุดออกงาน มีเวลากินมื้อค่ำกับคนใกล้ชิดมากขึ้น...ข้อเสีย ไม่มี...เป็นการลอกหัวโขนชั้นที่สอง


สี่...หลังเกษียณ...ถือว่าท่อรายได้ประจำถูกปิดก๊อกแล้ว ให้สำรวจดูว่าทรัพย์ที่สะสมไว้จากการทำงานหรือจากมรดกมีเหลือให้ใช้จ่ายได้อีกเท่าไหร่...ต้องปรับวิถีชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือมีเท่าไหร่ก็ให้ใช้แบบสมฐานะ ไม่ให้เกินตัว...เพราะตายแล้วยังใช้ไม่หมด ยังดีกว่าใช้หมดแล้วแต่ยังไม่ตาย...เป็นการลอกหัวโขนชั้นที่สาม...ชั้นนี้ลอกยากหน่อย บางคนได้กลายเป็นความเคยชินถาวรไปซะแล้ว


ห้า...หลังเกษียณ...จะมีสิ่งที่เคยคิดอยากทำเยอะแยะไปหมด...อย่าละโมบ...ให้เลือกทำทีละอย่าง เอาอันง่าย ๆ ก่อน แล้วจะสำเร็จไปทีละอย่าง...เชื่อเหอะ ว่าสิ่งที่เคยอยากทำ จะได้ทำไม่ถึงหนึ่งในสิบหรอก...เพราะหลังเกษียณ สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน คนรอบข้างเปลี่ยน ความคิดก็จะเปลี่ยน พลอยทำให้ความต้องการและเป้าหมายเปลี่ยนไปด้วย...สิ่งที่อยากทำใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นและต่างไปจากเดิม...ตอนนี้แหละ จึงเป็นชีวิตจริงที่ไร้หัวโขน


หก...เมื่อมีวัยมากขึ้น...สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือสุขภาพ เพราะไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน...การออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง...เมื่อเกษียณแล้ว ก็หมดข้ออ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย หากจะอ้างว่าเล่นกีฬาไม่เป็นก็ฟังไม่ขึ้น เพราะคนเราทุกคนเดินและวิ่งเป็นมาตั้งแต่เด็ก...เข้ายิม โยคะ เต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เดิน วิ่ง หรือแม้แต่แกว่งแขนเฉย ๆ ที่บ้าน ก็เลือกเอา...ทำเพื่อใครต่อใครมามากแล้ว ก็ทำเพื่อตัวเองบ้างเถอะครับ...นั่นคือสิ่งที่ควรทำอันดับแรกหลังเกษียณ


เจ็ด...หลังเกษียณ...การเดินทางท่องเที่ยว ควรทำอย่างสม่ำเสมอ...เพื่อเปิดหู เปิดตา เปิดใจ และเปิดทัศนะคติใหม่ ๆ เมื่อได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย...จะสร้างความกระตือรือร้นให้จิตใจ ไม่ให้เหี่ยวเฉากับบรรยากาศเดิม ๆ...ควรเลือกท่องเที่ยวที่ไกล ๆ และลำบาก ๆ เป็นอันดับต้น เพราะยิ่งนานไป ความสามารถในการไปที่ไกลและลำบากจะลดน้อยลง จนถึงไปไม่ได้เลย...การท่องเที่ยวหลังเกษียณ ให้ความรู้สึกที่ต่างจากลาพักร้อนไปเที่ยว แม้เป็นสถานที่เดียวกัน...จะละเมียดกว่า ผ่อนคลายกว่า มีคุณค่ามากกว่า ไม่รีบร้อนและกังวล เพราะกลับมาแล้วไม่ต้องรีบงก ๆ ไปทำงาน


แปด...หลังเกษียณ...มีโอกาสในการเดินทางท่องเที่ยว ดูและสัมผัสสิ่งที่อยู่นอกตัวออกไป...ขณะเดียวกัน ก็ควรท่องเที่ยวภายในตัวเราด้วย คือการปฏิบัติธรรม...เพื่อสัมผัสกับสิ่งที่เรามองข้ามมาตั้งแต่จำความได้ จะได้รู้ว่าโลกภายในตัวเราน่าพิศวงและลึกล้ำเพียงใด...และเป็นการให้โอกาสแก่เราเอง คือเพิ่มทางเลือกว่าเมื่อได้รู้แล้วจะเลือกดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรจนจบ...เกิดมาชาตินี้ได้พบพระพุทธศาสนา ก็อย่าให้เสียชาติที่ได้เกิดมาเลยนะครับ


เก้า...หลังเกษียณ...ไปที่ชอบที่ชอบกันเถิดครับ...คนเราแต่ละคนมีที่ชอบไม่เหมือนกัน ต่างกันตามจริตและจิตเบื้องลึก...เมื่อเกษียณแล้ว ไม่มีหัวโขนแล้ว ไม่มีกรอบจำกัดทางสังคมแล้ว ชอบทางไหนก็ให้ไปทางนั้นกันเอง โดยไม่ต้องรอเพื่อน ไม่ต้องรอโอกาสและเหตุผล...และไม่ต้องรอให้ลูกหลานมาเคาะโลงเตือนว่าให้ไปที่ชอบที่ชอบเอาตอนที่ไปไม่ได้แล้ว


สิบ...หลังเกษียณ...เล่นเกมให้มากหน่อย...อย่าไปหาว่าเป็นของเล่นเด็ก ๆ เพราะก็ใช่จริง ๆ...เกษียณแล้ว ไม่มีหัวโขนให้ดำรงภาพลักษณ์แล้ว เติมชีวิตของเด็กให้ตัวเองบ้าง จะได้สดใสกระตือรือร้น ไม่เหี่ยวเฉาแห้งคาตอ...เกมช่วยให้คนวัยนี้กระฉับกระเฉง ได้ฝึกประสาทสัมผัส สายตา สมองและกล้ามเนื้อให้ทำงาน แถมความตื่นเต้นให้หัวใจสูบฉีดอีกด้วย...เดี๋ยวนี้เล่นเกมได้ง่าย มือถือก็มีเกมเยอะแยะ หรือลงทุนกับไอแพดซักตัว จะมีอะไรต่อมิอะไรให้เล่นอีกมาก...แก่แล้ว มาเล่นเกมกันเถอะ


สิบเอ็ด...หลังเกษียณ...ให้เขียนบันทึกทุกวัน...จะเรียกว่าไดอารี่ หรือบันทึกความทรงจำ หรือคำพร่ำเพ้อ หรืออะไรก็ได้...แต่ให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเมื่อวานเท่านั้น...จะเขียนในคอมพิวเตอร์ ในไอแพ็ด สมุด หรือกระดาษก็แล้วแต่ถนัด...เขียนแค่สองบรรทัด หรือหนึ่งหน้า A4 ก็ไม่ว่ากัน เพราะนาน ๆ เข้า มันจะปรับทั้งความยาว เนื้อหา และสำนวนเป็นของตนเอง...ไม่มีอะไรจะเขียน แค่เขียนว่าวันนี้กินข้าวกับอะไรก็ยังดี...สิ่งที่ได้จากการเขียน...หนึ่ง...ได้ฝึกทักษะการเขียนให้ดีขึ้นจากการเขียนทุกวัน...คนที่ไม่ค่อยอยากเขียนใน FB เพราะเขียนแล้วตัวเองอ่านเองยังบอกว่าไม่ได้เรื่อง ควรลองทำตามที่ว่านี้ด่วน...สอง...มีบันทึกให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าได้ทำอะไรไปแล้วมั่ง...เชื่อเหอะ อายุปูนนี้แล้ว รับรองว่าได้พลิกกลับไปตรวจสอบบ่อย ๆ แน่...สาม...อันนี้สำคัญ...เป็นเครื่องวัดคุณภาพชีวิตหลังเกษียณ...เมื่อไหร่ที่ยังมีเรื่องราวให้เขียนมากมาย ถือว่ายังสอบผ่าน...แต่ถ้าเมื่อไหร่เขียนได้แค่สองคำว่า "เหมือนเดิม"...อันนี้อาการน่าเป็นห่วง แปลว่าชีวิตหลังเกษียณคุณภาพตกต่ำจนถึงพื้นแล้ว...ต้องพิจารณาเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะสายเกินไปจนแก้ไม่ได้


สิบสอง...หลังเกษียณ...ไปนวดบ่อย ๆ...คนวัยเกษียณเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อจะแข็งตึง ขาดความยืดหยุ่นไม่เหมือนสมัยหนุ่มสาว...เป็นสาเหตุให้ปวดเมื่อย ก้มทีก็โอย ลุกทีก็โอย...ออกกำลังกายก็เป็น ทำสวนก็เป็น เล่นเกมก็เป็น แม้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ ดูทีวีก็ยังเป็น...การนวดช่วยให้ดีขึ้น นวดแผนไทยช่วยยืดเส้น นวดน้ำมันช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ...ตอนกำลังนวด จะเจ็บ ๆ มัน ๆ นวดเสร็จแล้วสบายตัว...จะนวดที่ไหนก็ได้ ร้านนวดแผนโบราณเอย สปาทั้งหลายที่เห็นอยู่เกลื่อนเมืองเอย หรือจะว่ามาให้นวดที่บ้านก็ไม่ผิดกติกา...ข้อสำคัญ สถานทีต้องถูกอุปนิสัยและต้องมีหมอนวดประจำตัว...เพราะแต่ละที่บรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างกัน หมอนวดแต่ละคนก็มีลีลาลูกเล่นไม่เหมือนกัน...แรก ๆ ให้เปลี่ยนสถานที่และคนนวดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอที่โดน ประเภทที่ไม่ต้องบอก แค่แตะตัวก็รู้แล้วว่าวันนี้ควรจะเน้นนวดตรงไหน...เมื่อถูกใจ ก็ผูกปีนวดกันไปเลย....สำหรับพวกผู้ชายที่ชอบนวดแผนปัจจุบันตั้งแต่หนุ่มเรื่อยมา ซึ่งก็ไม่ได้ชอบเพราะการนวดหรอก แต่ชอบของแถมมากกว่า ให้ลองมานวดแผนไทยและนวดน้ำมันที่ผมว่าดูมั่ง...จะได้อรรถรสมากกว่า และเบาสบายตัวกว่าจริง ๆ...ถ้าไม่รักกัน ไม่บอกนะเนี่ย


สิบสาม...หลังเกษียณ...ตรวจสอบตัวเองว่ารู้สึกหมดคุณค่าหรือรู้สึกเป็นอิสระ...ถ้าคุณรู้สึกเป็นอิสระ ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณจะได้เริ่มโบยบินไปสู่โลกกว้างโดยไม่มีข้อจำกัดและไร้แรงถ่วงใด ๆ...ทำงานทั้งชีวิตก็เพื่อมาถึงตรงนี้ไม่ใช่หรือ...แต่ถ้ารู้สึกหมดคุณค่า ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะคุณถูกจัดชั้นให้เป็นทาสที่ถูกปลดปล่อยแล้วไม่ยอมไป...ยังคุ้นและชินกับพันธนาการที่ผูกมัดรัดตัวมาตั้งแต่เริ่มทำงาน...เปิดตาให้สว่าง มองรอบตัวให้กว้างและไกลออกไปเถอะครับ...ความอิสระไม่ได้น่ากลัวและลำบากอย่างที่คิดหรอก


สิบสี่...หลังเกษียณ...อย่าเล่นหุ้น...คำเตือนสำหรับคนที่เพิ่งคิดมาหัดเล่นหุ้นเอาตอนเกษียณ...ฟังเหตุผลแล้ว มันฟังไม่ขึ้นด้วยประการทั้งพวง...เพราะ....ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ @ มีอีกเยอะเลยแหละที่น่าทำกว่าการนั่งเฝ้าจอทั้งวัน....อยากมีรายได้เพิ่ม @ เขาเตือนเสมอว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน" เกษียณแล้วจะไปเสี่ยงทำไม ปรับตัวเองให้เหมาะกับเงินที่มีอยู่ไม่ง่ายกว่าหรือ....อยากศึกษาเรื่องหุ้น @ ช้าไปแล้วต๋อย ศึกษาเรื่องธรรมะในวัยนี้ให้ประโยชน์มากกว่า....เพื่อนชวน @ เออ ก็โง่เชื่อเพื่อนนะ อายุปูนนี้คิดเองไม่เป็น....เห็นคนอื่นรวยเพราะเล่นหุ้น @ แล้วเคยเห็นสภาพของคนที่จนเพราะเล่นหุ้นไหม....อยากตื่นเต้น เร้าใจ @ มีอีกหลายอย่างให้เลือกทำที่ทั้งเสียวทั้งมันกว่าการเล่นหุ้นโดยไม่ต้องเสี่ยง....สมัยนี้ใคร ๆ ก็เล่น เดี๋ยวตกเทรนด์ @ ให้เป็นเรื่องของคนในวัยทำงานเขาเถอะลุง อยากทันสมัยก็มาหัดเล่น FB เล่น Line หรือเล่นเกมดีกว่า ไม่เครียด แถมเข้าสมัยและมีคนเล่นเยอะกว่าด้วย....ฯลฯลฯลฯ


สิบห้า...หลังเกษียณ...ถ้าลองทำอะไรแล้วไม่สำเร็จ ให้รีบเลิก....เวลามันเหลือน้อย เลือกทำอย่างอื่นในคิวต่อไปดีกว่า....เกษียณแล้ว ไม่ต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงานแล้ว จึงไม่ต้องฝึกวินัย ไม่ต้องฝึกความอดทนให้เป็นพื้นฐาน เพราะจนป่านนี้ถ้ายังไม่มี ก็คงฝึกไม่ทันแล้ว...สิ่งที่ได้ลองทำก็เพราะอยากทำ เมื่อได้ทำแล้วจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ...อย่าทู่ซี้ อย่ามีอัตตา ให้ยอมรับว่าเรื่องบางเรื่องเหมาะกับคนบางคนที่มีพรสวรรค์ เช่น อยากเล่นดนตรีให้เพราะ แต่จับบันไดเสียงไม่ได้ เคาะจังหวะไม่เป็น ก็ไปได้ไม่ไกล...คนวัยนี้ ลองเล่นอะไรแล้วไปไม่รอด...ไม่เสียหน้าหรอกครับ


สิบหก...หลังเกษียณ...อย่าคิดเลี้ยงหลานเป็นงานหลัก...เพราะสิทธิและหน้าที่เป็นของพ่อแม่เขา ส่วนเราได้ใช้สิทธิและทำหน้าที่ไปแล้ว...แล้วก็อย่าคิดเชียวว่า เคยเลี้ยงลูกมาหลายคน เลี้ยงหลานอีกซักคนสองคน จะเป็นไรไป...ลองนึกดูว่าตอนเลี้ยงลูกอายุเท่าไหร่ ตอนนี้อายุเท่าไหร่...ตอนนั้นก็แทบแย่ ตอนนี้จะไหวหรือ...ที่สำคัญ ความคิดและแนวทางการเลี้ยงลูกของคนแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน เดี๋ยวเกิดขัดแย้งสร้างปัญหาระหว่างรุ่นขึ้นในครอบครัว กลายเป็นละครน้ำเน่าไปเปล่า ๆ...เอาแค่หยิบฉวยมาครองเพื่อชื่นชมบ้างเป็นครั้งคราว...เล่นบทปู่ย่าตายายใจดีตามใจหลาน ให้พ่อแม่เขาหงุดหงิดเล่น...เป็นสุขกว่าเยอะ


สิบเจ็ด...หลังเกษียณ...ทำทุกวันให้เป็นวันพิเศษ...เมื่อได้ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากหน้าที่ ความรับผิดชอบ ภาระและหัวโขนแล้ว จะหายใจทิ้งนิ่งเฉยอยู่ทำไม ควรทำตัวกระตือรือร้นให้ชีวิตมีความหมายเหมือนได้พักร้อนตอนทำงาน...จำไว้ว่าเวลาเหลือน้อยแล้ว ถ้านับ 60 ถึง 80 ก็เหลือแค่ 7,300 วัน....มีเงิน 7,300 บาทในกระเป๋า ตื่นมาต้องหยอดมิเตอร์ชีวิตวันละบาท ใช้งานหรือไม่ก็วันละบาท แป๊บเดียวก็หมด...บางคนมิเตอร์เสีย ใช้งานไม่ครบ 80 ยิ่งเหลือน้อยเข้าไปใหญ่...จงใช้ทุกบาทที่เหลือให้คุ้มค่า ทุกวันที่เหลือให้มีความหมายเถิดครับ


สิบแปด...หลังเกษียณ...พึงยอมรับเสมอว่าหนึ่งวันยังมี 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม เที่ยงแท้และแน่นอน...คนที่รู้สึกว่ามันยาวนานเกินไป อยากให้เหลือน้อยกว่านี้ เพราะไม่รู้จะทำอะไร...จัดอยู่ในพวกหายใจทิ้ง น่าเป็นห่วง เพราะไม่มีความสุข ทิ้งไปนาน ๆ จะเครียดสะสมถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้...คิดใหม่ทำใหม่เถอะครับ คิดไม่ออกลองกลับไปอ่านที่ผมเขียนมาตั้งแต่ข้อ 1 อีกซักรอบก็ยังดี...แต่บางคนกลับคิดว่า มันสั้นไปหน่อย แป๊บ ๆ ยังไม่ทันทำอะไรก็หมดวันแล้ว ถ้ามีวันละ 30 ชั่วโมงก็จะดี...พวกนี้ก็กระดี๊กระด๊า มีความสุขกับการเกษียณเกินไป...ขอให้ลดกิจกรรมลงบ้างเถอะ พ่อคุณ


สิบเก้า...หลังเกษียณ...ติดตามข่าวสารบ้านเมืองให้น้อยลง รับรู้เรื่องราวของเทคโนโลยีให้มากขึ้น...เมื่อไม่ต้องใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการงาน จะหมกมุ่นอยู่กับข่าวสารบ้านเมืองทุกนาทีให้เกิดความเครียด และสะสมอารมณ์อันไม่พึงประสงค์ทำไม คนถึงวัยนี้แล้ว คิดจะทำอะไร ก็ทำไม่ได้มากหรอก...มาสนใจเรื่องราวของเทคโนโลยีและวิถีการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ดีกว่า เพราะมีแต่เรื่องตื่นตาตื่นใจให้ทึ่ง สร้างสีสันให้กับชีวิตที่กำลังเหี่ยวเฉา...จะลองใช้อุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ออกมาเกือบทุกวันดู หรือลองใช้สินค้าตระกูลไอเพื่อให้รู้ว่าโลกกำลังไปในทิศทางไหน หรือจะเข้าไปอยู่ในโซเชียลเน็ทเวิร์คทั้งหลายก็ไม่มีใครห้ามเพราะไม่ได้จำกัดอายุ...อ้อ..ข้อสำคัญ เวลาเข้าไปแล้วอย่างลืมศึกษา กฎ กติกา มารยาท ของแต่ละที่แล้วปรับตัวปรับใจปรับความคิดให้เข้ากับเขาด้วยนะ...จะได้ไม่เชย ไม่ถูกค่อนขอดว่าเป็นเต่าล้านปี


ยิ่สิบ...หลังเกษียณ...จริงจังกับงานอดิเรกให้มากขึ้น...งานอดิเรกที่ทำมาจนถึงวัยเกษียณ ย่อมเป็นสิ่งที่ชอบ เพลิดเพลินและมีความสุขที่ได้ทำ...มีเวลาแล้ว ควรยกระดับให้เข้มข้น ลึกซึ้ง แม้จะหมกมุ่นมากหน่อยก็ไม่เป็นไร...จะไปจนถึงขั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือมืออาชีพก็ไม่เสียหาย...แต่ห้ามทำเป็นอาชีพเด็ดขาด เพราะจะกลับเข้าสู่วังวนของคนทำงาน...หมดสภาพการเกษียณในวัยนี้ มันไม่สนุกนะครับ


ยี่สิบเอ็ด...หลังเกษียณ...พูดให้น้อย ฟังให้มาก...เกษียณแล้ว ที่ต้องสั่ง ต้องสอน ต้องชี้นำคนอื่น ก็เป็นเพียงอดีต...เมื่อไม่มีคนให้สั่ง สอน ชี้นำ การพูดเยอะ ๆ จึงไม่จำเป็น...เปลี่ยนบทมาเป็นคนฟังมั่งเหอะ ฟังแล้วคิด ตอบโต้ให้ช้า หัวเราะให้มาก...อยากใช้ปากอย่างที่เคยก็ให้ไปหัดร้องเพลงแทน เพราะมันไม่ทำร้ายจิตใจใคร...เมื่อคิดแล้วค่อยพูด ความผิดพลาดให้เสียใจภายหลังจะลด มิตรภาพมากขึ้น ชีวิตหลังเกษียณจึงสุขสงบ


ยี่สิบสอง...หลังเกษียณ...ฝึกใจให้ชินกับการแพ้...ต้องยอมรับว่าวัยนี้ของชีวิตเป็นช่วงขาลง...ขาดเป้าหมาย ไร้แรงฮึดที่จะเอาชนะ...การพ่ายแพ้จึงเกิดได้บ่อยเป็นธรรมดา...แน่ ๆ คือแพ้สังขาร อันเป็นสาเหตุหลักให้แพ้เรื่องอื่น ๆ ด้วย...ที่เคยทำได้ ก็ทำไม่ได้...ที่เคยแม่นยำ ฉับไว กลายเป็นเบ๊อะบ๊ะ งกเงิ่น...หลงลืมจนอยากเขกหัวตัวเองวันละหลายหน...โรคภัยไข้เจ็บก็มาเยือนกันจัง...การฝึกให้ชินกับการแพ้ เป็นทางแก้ที่หมดจด สู้ไม่ได้ก็เอาเป็นพวกเสียเลย...ผมยังจำที่หลวงพ่อปัญญา วัดชลประทานฯ เคยเทศน์สอนเรื่องนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ว่า...เมื่อโรคภัยไข้ชรามาเยือน ก็อย่าสัดส่ายดิ้นรนเป็นทุกข์เลย ให้ต้อนรับเขามาอยู่ด้วยอย่างเป็นมิตรเถอะ ทักทายด้วยว่า...อ้าว มาแล้วหรือ นี่รออยู่นะ


ยี่สิบสาม...หลังเกษียณ...จัดบ้านให้น่าอยู่...เมื่อไม่มีที่ทำงานให้สิงสถิต บ้านก็กลายเป็นสถานพักพิงหลัก...การจัดบ้านให้เป็นวิมานของเรา เป็นภารกิจต้น ๆ ที่ควรทำอย่างยิ่งยวด...ที่สึกหรอเสียหาย ให้ซ่อมแซมแก้ไข จะซ่อมใหญ่ ซ่อมเล็ก ก็ว่ากันไป...ที่ขาดตกบกพร่อง ก็เพิ่มเติมเสริมแต่งให้เต็ม ให้สว่างไสวมีชีวิตชีวา...ที่รกล้นเกินความจำเป็น ก็กำจัดตัดทิ้งให้เหลือแค่พอเหมาะ...อันหลังนี่ยากหน่อย คนมักก้าวไม่พ้นเส้นเสียดาย ทำใจทิ้งสัมภารกที่สะสมมานานไม่ได้...ให้คิดเสียใหม่ว่า ถ้าเขาเป็นประโยชน์กับคนอื่นมากกว่า ก็ตัดใจปล่อยเขาไปเถอะ...ขอแนะให้ใช้เกณฑ์ 6 เดือนตัดสิน...ถ้าพิจารณาเห็นว่าใน 6 เดือน ฉันคงไม่ได้ใช้เธอแน่ เธอก็ควรไปอยู่กับคนอื่นได้แล้ว...คืนที่ว่างอันมีค่าให้ฉันไปทำอย่างอื่นเถอะ...เวลาฉันเหลือน้อย


ยี่สิบสี่...หลังเกษียณ...เปลี่ยนวันเวลาทำกิจกรรม...เกษียณแล้ว อยู่นอกกรอบกำหนดของเวลาแล้ว...มีอิสระที่จะเลือกวันและเวลาตามใจชอบ...แล้วจะไปแออัด ยัดเยียด เบียดเสียด แย่งชิงทรัพยากรกับคนที่ยังไม่เกษียณซึ่งเป็นคนหมู่มากทำไม...จะทำกิจกรรมนอกบ้าน ให้เลือกเวลาที่ปลอดโปร่ง โล่งสะดวก หลีกเลี่ยงการจราจรแออัด หรือความโกลาหลของคนหมู่มากสิครับ...เช่น...ออกไปกินมื้อกลางวัน 11 โมง มื้อค่ำ 6 โมงเย็น...ดูหนัง ช้อปปิ้ง บ่ายวันธรรมดา...เดินทางท่องเที่ยวจันทร์ถึงศุกร์แทนวันหยุดยาว...อย่างนี้เป็นต้น...ในช่วงคนเยอะ ๆ รถติดมาก ๆ ก็เลือกอยู่กับบ้านให้สำราญใจ...แต่ข้อนี้ ยกเว้นสำหรับคนขี้เหงา ที่ชอบความครึกครื้น จอแจ...ก็ตามสะดวกเถอะครับท่าน"


ยี่สิบห้า...หลังเกษียณ...ให้เวลากับครอบครัว...หมดหน้าที่การงานแล้ว อย่าเพิ่งหลงระเริงกับเวลาที่ได้มาใหม่ให้หมดไปกับกิจกรรมสาระพันของตัว...หันไปมองคนรอบข้าง ที่หวังว่าเมื่อเราเกษียณ จะแบ่งเวลาให้กับเขาบ้าง...ข้ออ้างว่างานกำลังยุ่ง ใช้ไม่ได้อีกต่อไป...จงรีบใช้เวลาร่วมกับพวกเขาเสียเถิดในขณะที่เรามีเวลาให้เขา ก่อนที่พวกเขาจะไม่มีเวลาให้เรา...จะทำอะไรร่วมกันก็ทำไป คุณค่าไม่ได้อยู่ที่ทำอะไร แต่อยู่ที่ได้ร่วมกันทำต่างหาก


ยี่สิบหก...หลังเกษียณ...อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น...เมื่อเกษียณ เกมก็จบ การแข่งขันสิ้นสุด ไม่ต้องไขว่คว้าหาดวงดาวกันแล้ว...แรงบันดาลใจและการกระตุ้นให้ฮึกเหิมก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป...การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเอาตอนนี้ ไม่ว่ากับที่เหนือกว่าหรือด้อยกว่า ล้วนไม่เป็นผลดีต่อจิต รังแต่จะสะสมกิเลสทั้ง โลภ โกรธ หลง ให้เพิ่มขึ้น...มาถึงจุดนี้แล้ว ต้องยอมรับผลงานของตัวเองไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ก็ตาม เพราะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากแล้ว...มีความสุขกับมันเถอะครับ...จะเล่นเกมใหม่ ก็ต้องเป็นชาติหน้าโน่น


ยี่สิบเจ็ด...หลังเกษียณ...หมั่นเจริญมรณสติ ให้ระลึกถึงความตายสบายนัก...เพราะคืนนี้หลับไปแล้ว ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้หรือชาติหน้าจะมาก่อน...ถ้าเจริญสติอย่างถูกวิธี ไม่เพียงเตือนตนว่าต้องตายไม่ช้าก็เร็ว หากยังถามตนเองอยู่เสมอว่าพร้อมจะตายหรือยังหากหมดลมวันนี้...ทำให้ตระหนักว่าชีวิตและเวลาแต่ละนาทีที่ยังเหลืออยู่นั้นมีคุณค่าอย่างยิ่ง ไม่ควรใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า หรือปล่อยเวลาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์...เป็นการกระตุ้นให้เราจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตใหม่หมด...จะได้จัดการสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว...ข้อนี้ผมไม่ได้คิดครับ...พระไพศาล วิสาโล ท่านเขียน...สาธุ สาธุ สาธุ

:idea: :idea: :idea:
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

เหล้าที่ราคาแพงที่สุดในโลฏ 10 อันดับ

http://www.meepanda.com/top10-alcohol-high-price/
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

ประวัติศาสตร์ไทยการเสียดินแดนให้ต่างชาติจำนวน 14 ครั้ง ต้องดูให้จบนะ น้ำตาไหล
ผู้จัดทำควรได้รับคำยกย่องและชมเชย รวมทั้งผู้ประพันธ์เนื้อร้อง ทำนอง และ ผู้ขับร้องแหล่ด้วย ยอดเยี่ยม ไร้เทียมทานเลยครับ
ขอคารวะและขอปรบมือให้
สุดยอด สุดยอด สุดยอดมาก□
https://www.facebook.com/photo.php?v=422553067867952&se
... คนไทยหรือปล่าว เป็นไท. ต้องดู ครับ ท่าน ๆ ทั้งหลาย
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

8 เคล็ดลับการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพ
โพสต์เมื่อ : 8 มกราคม 2558 เวลา 10:54:37
การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพ
เคล็ดลับการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เคล็ดลับดี ๆ ในการดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ให้เสียสุขภาพ ที่คุณผู้ชายบางคนอาจยังไม่รู้

หนุ่ม ๆ หลายคนอาจกังวลว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เสียสุขภาพได้ จนทำให้ไม่กล้าดื่มไปเลยก็มี แม้ว่าจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ก็ตาม โดยวันนี้กระปุกดอทคอมได้หยิบเอาเคล็ดลับของการดื่มเหล้าที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจากเว็บไซต์ mensfitness มาฝากกันครับ

ลดปริมาณการดื่มเหล้าเพื่อสุขภาพ

แม้จะพบว่าเหล้ามีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ก็ไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เสียสุขภาพได้ ซึ่งผลวิจัยของ University of Western Ontario ชี้ว่า ควรหันมาดื่มเบียร์หรือไวน์แดงดีกว่า เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสองประเภทมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับหัวใจและโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี

เลือกเครื่องดื่มที่ไม่หนักมาก

หากหนุ่ม ๆ ชอบดื่มเหล้าผสมกับมิกเซอร์แล้วละก็ ควรเลี่ยงไปดื่มวอดก้าหรือเหล้าเพียว ๆ กับน้ำแข็งจะดีกว่า เพราะพวกมิกเซอร์ส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำตาลและแคลอรีสูง ซึ่งจะทำให้การเติบโตของกล้ามเนื้อลดลง ไม่เพียงเท่านี้ เหล้าที่มีความเข้มข้นสูงจะมีสารพิษที่เกิดจากขั้นตอนการหมัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเมาค้างนั่นเอง

การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพ

ดื่มไวน์แดงดีกว่าไวน์ขาว

เหตุผลที่ควรเลือกดื่มไวน์แดงมากกว่าไวน์ขาว เพราะมีงานวิจัยจาก Harvard Medical School ในปี 2013 ที่เผยว่าสารเรสเวอราทรอลที่พบในไวน์แดง จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายและป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย

ดื่มไวน์วันละนิดช่วยไม่ให้เป็นไข้หวัด

ไม่ว่าหนุ่ม ๆ จะดูแลสุขภาพตัวเองดีแค่ไหน ก็ยังเป็นไข้หวัดได้อยู่ดี แต่หากหันมาดื่มไวน์ในปริมาณที่พอดี ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นหวัดได้ ซึ่งอ้างอิงจากผลการศึกษาของ American Journal of Epidemiology พบว่า การดื่มไวน์ 8-14 แก้วต่อสัปดาห์ สามารถลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดไข้หวัดได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ จากการศึกษากับกลุ่มอาสาสมัครกว่า 4,000 คน

การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีประโยชน์ต่อหัวใจ

มีการยืนยันว่าเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็น เหล้า ไวน์ หรือเบียร์ ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ซึ่งพบจากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารของ American Heart Association Journal ระบุว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดีในเลือดได้ เมื่อดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ

เหล้ามีผลดีต่อความคิดสร้างสรรค์

หากคุณสังเกตเห็นว่ามีเพื่อนที่ดื่มเหล้าเพียงไม่กี่แก้ว แต่สามารถเปลี่ยนจากคนเงียบขรึมให้เป็นคนร่าเริง ที่มาพร้อมกับคำพูดแบบสร้างสรรค์ที่คุณอาจไม่เคยได้ยินจากเพื่อนคนนี้มาก่อน ก็เพราะว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเขานั่นเอง โดยมีผลการศึกษาจาก University of Illinois ในปี 2012 พบว่าคนที่มีอาการเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย

จิบเหล้านิดหน่อยช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง


คุณผู้ชายหลายคนอาจเคยได้ยินว่า เหล้าสามารถทำลายเซลล์สมองได้ เมื่อดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไป แต่หากจิบวันละนิด ก็จะเป็นผลดีต่อสมองด้วยเช่นกัน ตามผลงานวิจัยที่ปรากฏในวารสาร British Medical Journal ที่ระบุว่า การจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาของ Loyola University Chicago ในปี 2011 พบว่า เอทานอลที่อยู่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อมได้เช่นกัน

การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพ

ดื่มมากไป ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ

บทความจากเว็บไซต์ของ Mayo Clinic ชี้ว่า คนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ เป็นประจำ จะมีปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ และความดันโลหิตสูง เป็นต้น ฉะนั้นควรลดปริมาณการดื่มลง เพราะมันจะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคข้างต้น รวมถึงโรคเบาหวานด้วย

เมื่อได้ทราบเคล็ดลับดี ๆ ทั้ง 8 ข้อที่เรานำมาฝากกันแล้ว คุณผู้ชายก็ลองนำไปปรับใช้กับพฤติกรรมการดื่มของตัวเองได้เลย เชื่อเหลือเกินว่าคุณจะมีสุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

รูปประจำตัวสมาชิก
เสือทะเล
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 33011
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:16
Tel: 0868393421
team: เพิงหมาแหงนกรุ๊ป ชลบุรี
Bike: สับถังFUJI ทะลุมิติRITบรรทุก สนุกเร้าใจไปกะKHSคาร์บอน
ตำแหน่ง: ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย เสือทะเล »

@@@ทริปเมืองชล~วัดโสธร~สามตลาดน้ำโบราณ~บนเส้นทางธรรมชาติอา.22กพ.58
@เตรียมลับน่องขอร้องเมียเคลียร์สามีไว้แต่เนิ่นๆ
@05.00-05.40น.เชิญทุกเสือเติมมื้อเช้า...จำเป็นมากๆ(อาหารหลัก+เครื่องดื่ม) ณ จุดรวมพลบ้านเสือทะเล
@06.00น.ล้อหมุน~เข้าซอย12-คู่ขนานเวย์-ข้ามแม่น้ำบางปะกง-ผ่าป่าโปร่งสนามกอล์ฟ-แสนภูดาษ-สี่แยกวัดหัวเนิน
@เชิญเพื่อนเสือร่วมขบวนที่สามแยกวัดกระทุ่ม
@กระพุ่มกราบหลวงพ่อโสธร
@11.00น.ร่อนไปเติมมื้อที่2ตลาดโบราณบ้านใหม่
@ไต่คันคลองลุ่มๆดอนๆโผล่นครเนื่องเขต
@ย้ายเฟสไปวัดหนามแดงแหล่งของเก่า
@เข้าทางตรงสุดท้ายตามอัธยาศัยใส่กันสุดๆ
@หยุดยาวๆตลาดคลองสวนอร่อยล้วนหลากหลายสบายอุรา
@สมควรแก่เวลายุรยาตรากลับเมืองชล ซัก170กิโล โอ้โฮ กะลังคำฉะ
@มามะมาปั่นล้างปอดขอดไขมันลดความดันด้วยกันครับเพื่อนๆ
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

อาหาร 10 ชนิดที่ควรรับทานหลังออกกำลังกาย

http://www.manager.co.th/Marsmag/ViewNe ... 0000063348
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

ตีนผีขาสั้นหรือขายาวต่างกันอย่างไร

Shimano ทำตีนผีมีขาสั้นยาวแตกต่างกัน 3 รหัสคือ
1. SS ซึ่งจะสั้นที่สุด และใช้กับเสือหมอบที่มีจานหน้า 2 จานเท่านั้น
2. GS สำหรับเสือหมอบจะเป็นตีนผีขายาวซึ่งจะใช้กับจานหน้า 3 จาน ( 52-42-30 ) แต่ถ้าเป็นของเสือภูเขาจะถูกเรียกเป็นตีนผีขาสั้นไปซะนี่
3. SGS เป็นตีนผีที่ขายาวที่สุด

ก่อนที่ผมจะพูดเรื่องความแตกต่างของขาสั้น ขายาวนั้น สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเน้นก็คือ อย่าเพิ่งละเลยเรื่องพื้นฐาน มาดูตารางแสดงคุณสมบัติของตีนผีรุ่นต่างๆกันก่อนดีกว่าครับ



ตารางที่แสดงให้เห็นนี้เป็นเฉพาะของเสือภูเขาอะไหล่ปี 2000 เท่านั้น จริงๆแล้วยังมีของปี 1998 และ 1999 อีก แต่คิดว่าแค่นี้ก็น่าจะแสดงให้เห็นให้เข้าใจได้ง่ายๆแล้วครับ ดูรูปกันหน่อยนะครับ



ตีนผีทุกๆรุ่นจะมีสปริงอยู่ด้วยกัน 3 ชุด
1. B-tension spring หรือ สปริงที่อยู่ใน Hanger bracket หรือ ที่ที่เราขันยึดตัวตีนผีเข้ากับdrop out สปริงตัวนี้จะทำหน้าที่ดึงให้ hanger bracket ถอยไปด้านหลังตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เฟืองจอกกี้กระแทกกับชุดเฟืองท้าย โดยเฉพาะช่วงที่ใช้เฟืองท้ายใบใหญ่ที่สุด
2. Parallelogram link spring จะอยู่ระหว่างinner link และ outer link ของขาบน
- สำหรับตีนผีธรรมดา สปริงตัวนี้ทำหน้าที่ดึงให้ขาของตีนผีขยับกลับออกไปด้านนอก โดยจะเกี่ยวจาก link pinตัวหลังของouter plate ไปยังlink pin ตัวหน้าของinner plate พูดๆง่ายๆคือเป็นตัวดึงให้ตีนผีขยับเพื่อเปลี่ยนเกียร์จากเฟืองใหญ่ลงมายังเฟืองเล็ก
- ส่วนในตีนผีreverse หรือ Rapid rise สปริงตัวนี้จะเกี่ยวจากlink pinตัวหลังของinner plate ไปยังlink pin ตัวหน้าของouter plate สปริงตัวนี้จึงทำหน้าดึงในทิศตรงกันข้ามกับแบบปกติ คือ จะดึงให้ขาของตีนผีขยับเข้าด้านในแทน หรือ เป็นตัวดึงให้ตีนผีขยับเพื่อเปลี่ยนเกียร์จากเฟืองเล็กขึ้นไปยังเฟืองใหญ่
3. สปริงใน pulley cage bracket สปริงตัวนี้จะทำหน้าทีดึงให้ขาล่างหรือpulley cage งอเข้าหาขาบนตลอดเวลา โดยสปริงตัวนี้จะทำหน้าร่วมกับ B-tension spring ในการดึงให้โซ่ตึงตลอดเวลา

ที่ต้องกล่าวให้เข้าใจแบบนี้ก่อน เพราะว่าจะได้หลับตานึกภาพการทำงานไปด้วยกันได้ไงครับ

มาดูไล่ตารางกันทีละบรรทัดนะ ตารางจะบอกให้รู้ว่า
1.ชุดตีนผีชุดนี้ทำงานได้กับชุดเฟืองท้าย 9 สปีด ซึ่งเราสามารถใช้กับ 8 และ 7 สปีดได้ ทั้งนี้เนื่องจากตีนผีชุดนี้มีระยะที่จะขยับเคลื่อนที่จากเฟืองนอกสุด เข้าไปจนถึงเฟืองในสุด ได้ ( เฟือง 8 กับ เฟือง 9 ชั้น มีระยะห่างจากเฟืองเล็กสุด ไปยังเฟืองใหญ่สุดเท่าๆกัน ส่วนเฟือง7ชั้นมีระยะดังกล่าวน้อยกว่า ดังนั้นตีนผีสำหรับเฟือง 7 ชั้น จึงนำมาใช้งานกับเฟือง 8หรือ 9 ชั้นได้ลำบาก เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีระยะขยับที่สั้นกว่า ซึ่งอาจจะไม่พอสำหรับระยะห่างระหว่างเฟืองเล็กสุด กับใหญ่สุด ที่ห่างกันมากกว่าได้ )
2. Max. Sprocket 34T อันนี้แสดงว่า ตีนผีชุดนี้สามารถใช้กับเฟืองท้ายใหญ่สุดได้ไม่เกิน 34ฟัน
###### แล้วอะไร?เป็นตัวกำหนดหละ ตัวที่จะกำหนดว่าตีนผีจะใช้ได้กับเฟืองใหญ่สุดกี่ฟันนี้คือ ระยะห่างมากที่สุดระหว่างจุดศูนย์กลางของHanger bracket กับ จุดศูนย์กลางของGuide pulleyหรือเฟืองจอกกี้ ที่ตีนผีสามารถจะทำได้ (ระยะห่างนี้จะขึ้นกับความยาวของขาบน และยังจะเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเมื่อตีนผีขยับตัวเข้าด้านใน )
###### ความแตกต่างของตีนผี 8 สปีดของปี 98 กับ ตีนผี9สปีดตั้งแต่ปี 99 ขึ้นไป ก็คือ ความสามารถในการรับเฟืองที่ใหญ่สุด ซึ่งเดิมได้แค่ 32T ขึ้นมาเป็น34T ด้วยการเพิ่มระยะห่างดังกล่าวขึ้นโดยอาศัยการเพิ่มความยาวของขาบนให้ยาวขึ้นกว่าเดิม
3. Min. Sprocket 11T อันนี้แสดงให้เห็นว่าตีนผีชุดนี้สามารถใช้กับเฟืองท้ายที่เล็กสุดไม่น้อยกว่า 11ฟัน
###### แล้วอะไร?เป็นตัวกำหนดหละ อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจกันนักกระมัง แต่ตัวที่กำหนดก็ไม่ได้มีอะไรที่ลึกซึ้งนัก นอกไปจาก ระยะห่างระหว่าง จุดศูนย์กลางของHanger bracket กับlink pin ตัวหลัง และมุมที่แคบที่สุดระหว่าง Hanger bracket กับขาบนที่สามารถจะทำได้
4. Front difference กับ Total Capacity อันนี้แหละที่เป็นเรื่องที่จะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องขากุด ขาสั้น ขายาว นี่แหละ

######จานหน้าของShimano นั้นจะถูกประดิษฐ์ให้มีจำนวนฟันเป็นชุดกันเสมอ เช่น 44-32-22 ซึ่งเราจะเห็นได้ในชุดขาจานcompact และ 46-34-24 หรือ 48-36-26 ในชุดขาจานStandard คำว่าFront difference หมายถึงความแตกต่างของจำนวนฟันของจานหน้าใหญ่สุด กับเล็กสุด ซึ่งจะสังเกตได้ว่าทุกๆชุดจะมีค่า เท่ากับ 22T ทั้งสิ้น ซึ่งค่านี้มีความสำคัญกับการทำงานของชุดสับจานหน้า ถ้าหากเราcombineชุดใบจานเสียใหม่ เช่น 46-34-22 ซึ่งจะมีค่า front difference เปลี่ยนไปเป็น 24T ซึ่งจะเกินกว่าค่าปกติที่ชุดสับจานทั่วๆไปจะทำงานได้อย่างราบรื่นได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะต้องมีการพลิกแพลงการติดตั้งสับจานหน้า เพื่อให้คงความราบรื่นในการทำงานต่อไป เรื่องนี้แล้วแต่ฝีมือช่าง (และฝีมือเรา ถ้าเราเป็นคนทำเองครับ ! )
######แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับการทำงานของตีนผีหละ เกี่ยวสิครับ ไม่งั้นเขาคงไม่ระบุไว้ให้มากเรื่องหรอก มันมาเกี่ยวที่คำว่า"Total Capacity"ต่างหากครับ ผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะเข้าใจความหมายของคำนี้ ในเรื่องช่างมือใหม่ที่ผมแนะนำการติดตั้งและปรับแต่งเกียร์ก็ลืมกล่าวไว้เสียด้วย
######Total capacity หมายถึงผลลัพท์ระหว่าง front difference + ผลต่างของจำนวนซี่เฟืองของเฟืองหลังใบใหญ่สุดกับเฟืองหลังใบเล็กสุด
ตัวอย่างเช่น ใช้จานหน้า 44-32-22 ใช้เฟืองหลังชุด 11-32 ค่าTotal capacityของระบบนี้จะเท่ากับ ( 44-22 ) + ( 32-11 ) = 22 + 21 เท่ากับ 43

5. ฯลฯ ที่เหลือขออุบเอาไว้ก่อน เอ๊ย ขอละไว้ไม่กล่าวถึง เพราะว่าไม่ยังประโยชน์กับเนื้อหาที่เราจะคุยกัน

ขาสั้นมาก ขาสั้น ขายาว
เรามาวกดูตีนผีขาสั้นมากรหัสลงท้ายด้วยSS กันก่อนนะครับ ซึ่งผมบอกแล้วว่ามันใช้กับเสือหมอบที่มีชุดจานหน้า 2ใบ ซึ่งจะมีfront difference ไม่เกิน 15T ( 53-42 , 53-39 , 52-39T ) มากสุดก็คือ 14T และเฟืองหลังเสือหมอบซึ่งส่วนแตกต่างที่มากสุดก็คงเป็นชุด12-27 ซึ่งมีผลต่างเท่ากับ 15 รวมแล้วTotal capacity ก็เท่ากับ 29T ก็จะเพียงพอแล้ว สำหรับตีนผีรหัสSS เช่นRD-6500-SS ที่ใช้ในชุด Ultegra

แล้วตีนผีขาสั้นรหัสลงท้ายด้วยGS ถ้าเป็นเสือหมอบก็จะใช้กับชุดจานหน้า 3ใบ ( 52-42-30 ) ซึ่งจะมีค่าfront difference=22T เมื่อใช้กับชุดเฟืองหลัง 12-27 ก็จะมีค่าTotal capacity=37T ซึ่งตีนผีในรหัสRD-6500-GSสามารถรับได้ แต่ถ้าเป็นเสือภูเขาหละ!

ตีนผีของMTBในรหัสลงท้ายด้วย GS ที่เราเรียกว่าตีนผีขาสั้นจะสามารถรับ Total capacity ได้เพียง33T แต่ตีนผีของMTBในรหัสลงท้ายด้วย SGS หรือที่เราเรียกว่าตีนผีขายาวจะสามารถรับมือกับTotal capacity ได้ถึง43Tซึ่งเท่ากับTotal capacityของระบบMTBทั่วไป แค่นี้เองหรือที่คือความแตกต่างในเรื่องของคุณสมบัติ ครับ!นี่แหละครับคือความแตกต่าง แล้วความแตกต่างในเชิงกายภาพหละเป็นยังไง?

ตีนผีในรหัส GS และ SGS สามารถใช้งานได้กับเฟืองหลังใหญ่สุด 34T เท่ากัน และเฟืองเล็กสุด 11T เท่ากัน ความแตกต่างที่ต่างกันในเชิงกายภาพจริงๆก็คือ ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของเฟืองจอกกี้ กับเฟืองเทนชั่น เท่านั้น! พูดง่ายๆว่าขาล่างของตีนผีSGSยาวกว่า

เมื่อยาวกว่าก็จะเก็บโซ่ได้มากกว่า แล้วเป็นยังไงหละก็คงจะต้องวกมาที่เรื่องของความยาวโซ่ที่พอเหมาะสำหรับเสือภูเขานั้น เรามีวิธีการเลือกความยาวโซ่ได้ 2 วิธี
1. วิธีแรกเป็นวิธีมาตรฐานสำหรับShimano group set คือ ร้อยโซ่ผ่านจานหน้าใหญ่สุดและเฟืองหลังใหญ่สุด โดยไม่ผ่านตีนผี เอาปลายมาชนกัน แล้วบวกไปอีก 1คู่ หรือ 2ข้อโซ่ ซึ่งเป็นวิธีที่ผมแนะนำไว้ใน"ช่างมือใหม่" วิธีการนี้จะใช้ได้กับตีนผีขายาวรหัสSGS ซึ่งเป็นตีนผีมาตรฐาน ซึ่งวิธีนี้เมื่อร้อยผ่านตีนผีและต่อโซ่แล้ว เวลาที่เก็บเกียร์ไว้ที่ตำแหน่งจานหน้าเล็กสุด และเฟืองหลังเล็กสุด ( 1-9 ) ตีนผีจะงอได้สวยกำลังดี โซ่ที่ผ่านเฟืองเทนชั่นมาจะไม่ตกท้องช้างและจะไม่สีกันกับโซ่ที่คล้องเฟืองจอกกี้ และยังสามารถใส่เกียร์ต้องห้ามที่จานหน้าใหญ่สุดและเฟืองหลังใหญ่สุดได้ ( 3-1 )( เฉพาะชุดเฟืองหลัง 11-32 นะครับ ชุด 11-34 จะทำไม่ได้ ถึงทำได้ก็อย่าทำ เพราะว่าTotal capacity จะเท่ากับ 45 ซึ่งมากกว่าความสามารถของตีนผี ) เพราะว่าโดยวิธีมาตรฐานที่Shimanoแนะนำ จะทำให้ตีนผีสามารถทำงานได้ครบtotal capacity ได้
#####โดยวิธีการนี้ไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างดีนักกับตีนผีขาสั้นรหัสGS เพราะว่าโซ่ที่ผ่านเฟืองเทนชั่นจะตกท้องช้างและจะสีกันกับโซ่ที่คล้องผ่านตีนผี ในเวลาที่เก็บโซ่ และจะทำให้สปริงใน pulley cage bracket ซึ่งคอยดึงให้เฟืองเทนชั่นดึงโซ่ให้ตึงจะทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือหย่อนความสามารถในการรักษาความตึงของโซ่ไป ทำให้มีโอกาสเกิดChain suck ได้ง่ายๆ ( Chain suck จะเกิดตอนที่ย้ายโซ่จากจานกลาง ลงมาจานล่าง แต่โซ่ที่อยู่ทางด้านล่างและด้านหลังของจานกลาง จะไม่ทันหล่นลงไปที่จานเล็กสุดได้ทัน เนื่องจากเฟืองเทนชั่นไม่สามารถดึงโซ่ส่วนล่างให้ตึงตัวได้ทัน หรือรถได้รับการกระเทือนมากๆ ทำให้โซ่ส่วนนั้นถูกหมุดวิดโซ่ของจานกลางเกี่ยวขึ้นไป ทำให้โซ่ถูกวิดขึ้นไปขัดระหว่างใบจานกับchain stay ) หรือในกรณีที่เราcombineชุดใบจานหน้าเอง เช่น ผมใช้ 46-34-22 กับชุดเฟือง 12-32 (ซึ่งทั้งระบบจะมีTotal capacity เท่ากับ 45 ซึ่งมากเกินกว่าตีนผีหลังจะคลุมได้หมด )เวลาเก็บโซ่ โซ่ก็จะสีกันและตกท้องช้าง และทำให้เกิดChain suckได้ง่ายๆ ดังที่กล่าวไว้แล้ว

จึงต้องใช้วิธีที่ 2
2. วิธีวัดจริงๆ วิธีนี้ดูจะตรงไปตรงมาที่สุด อาจจะลำบากสักนิด แต่จะพอดิบพอดีกับตีนผีขาสั้น(GS) ที่สุด วิธีก็คือ ร้อยโซ่ผ่านจานหน้าใบเล็กสุด ผ่านตีนผีผ่านเฟืองหลังเล็กสุด เลือกความยาวโซ่ที่ทำให้ตีนผีงอพับมากที่สุด โดยที่โซ่ที่ผ่านเฟืองเทนชั่นมาไม่ตกท้องช้างและไม่สีกันกับโซ่ที่คล้องเฟืองจอกกี้ ด้วยวิธีนี้จะสามารถทำให้การทำงานของเฟืองเทนชั่นเป็นไปอย่างสมบูรณ์
#####แล้ววิธีนี้ จะใช้เฟืองต้องห้าม 3-1 ได้หรือไม่ ตอบได้เลยครับว่าไม่มีทาง! เพราะว่าตีนผีขาสั้นมีค่า Total capacity เพียง 33T เท่านั้น นั่นหมายถึง ถ้าเราใช้ Front difference มาตรฐานเท่ากับ 22 เราจะเหลือค่าผลต่างด้านหลังเพียง 11 ซึ่งถ้าเราใช้เฟืองหลัง 11-32 หรือเฟือง11-34 เราจะเหลือ แค่เพียง 11 + 11 เท่ากับ 22T เท่านั้น !
#####แต่อย่าเพิ่งสับสน จริงๆแล้วคุณก็ยังใช้เฟืองหลัง 32T หรือ 34T ได้เหมือนกับตีนผีขายาวได้เสมอ แต่จะใช้ได้เมื่อจานหน้าอยู่ที่ตำแหน่งจานกลาง หรือ จานเล็กสุดเท่านั้น แต่ถ้าคุณอยู่ที่จานใหญ่สุด เฟืองหลังสุดที่ใหญ่ที่สุดที่คุณจะใช้ได้เมื่อใชักับตีนผีขาสั้นก็คือ 22T ( โดยที่ตีนผียังทำงานได้อย่างปลอดภัย )
#####เมื่อเป็นแบบนี้ตีนผีขาสั้นจะทำมาทำไมหละ ไม่เห็นได้เรื่องเลยนี่ หลายๆคนคงจะคิดแบบนั้น ปล่าวครับ มันมีประโยชน์ที่คุณคิดไม่ถึงอีก อย่าลืมว่าขาล่างที่สั้นกว่าจะทำให้ตัวสปริงที่ดึงให้เฟืองเทนชั่นดึงโซ่ให้ตึงนั้นทำงานได้แรงกว่าเดิมและดึงโซ่ได้ตึงกว่าเดิม ผิดกับตีนผีที่มีขาล่างยาวกว่า แรงดึงสปริงจะดึงโซ่ให้ตึงได้น้อยกว่าขาสั้น จริงป่าว ( ลองคิดกลับกันสิครับ ถ้าขายาวกว่า โซ่ก็จะออกแรงดึงให้ขาล่างของตีนผีกางออกมาได้ง่ายกว่า ) บรรดารถDHทั้งหลายจึงจำเป็นต้องใช้ตีนผีขาสั้น เพราะว่าสามารถรักษาความตึงของโซ่ได้ดีกว่าขายาว อีกทั้งDH ใช้จานหน้าใบเดียว ค่าFront diff.จึงมีค่าเท่ากับ 0 เลยไม่ต้องห่วงอะไรเท่าไหร่

เอาหละหาข้อสรุปกันดีกว่า
1. ตีนผีขาสั้น GS หรือ ขายาว SGS สามารถใช้งานในระดับทั่วๆไปได้เหมือนกัน ใช้กับเฟืองหลังใหญ่สุดได้เท่ากัน ไม่ต้องกังวล
2. ตีนผีขาสั้นGSใช้งานได้ในขอบเขตที่จำกัดกว่าตีนผีขายาวในเฉพาะกรณีที่ใช้จานหน้าใหญ่สุดเท่านั้น โดยจะไล่เฟืองหลังได้จำกัดกว่าโดยเฟืองหลังใหญ่ที่สุดเมื่อใช้จานหน้าใหญ่สุดจะมีขนาดไม่มากกว่า 22Tเมื่อใช้กับชุด 11-32 ,11-34 หรือ 23Tเมื่อใช้กับชุด 12-34 ของXTR
3. ตีนผีขาสั้นGS จะมีแรงดึงโซ่ได้ดีกว่าตีนผีขายาวSGS ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดChain suck ได้ดีกว่า
4. ความไวในการเปลี่ยนเกียร์เฟืองหลังนั้น ไม่มีความแตกต่างกัน และไม่มีเหตุผลใดที่จะมาสนับสนุนว่าความไวจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้ตีนผีขาสั้น เนื่องจากการเปลี่ยนเกียร์นั้น ความเร็วจะขึ้นกับความลื่นของสายเกียร์ เหลี่ยมมุมหรือProfile ของเฟืองหลังและของโซ่ อัตราการขยับของสายเกียร์ และการเคลื่อนที่ของขาบนของตีนผีในการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ โดยเฉพาะความตึงของParallelogram link spring ซึ่งในXTRจะมีขนาดเส้นสปริงใหญ่กว่ารุ่นล่างกว่า ( การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จะอาศัยการขยับของเฟืองจอกกี้หรือGuide pulley ในการพาโซ่ข้ามเฟืองเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ) ส่วนขาล่างที่มีความยาวแตกต่างกันจะมีผลในเรื่องการรักษาระดับความตึงของโซ่ได้ดีกว่า ลดโอกาสการเกิดChain suckได้ดีกว่า

ส่วนเรื่องของตีนผีReverse ก็เหมือนกันทุกประการ แต่ต่างกันที่มันreverse กลับทิศกันเท่านั้น
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

เคล็ดลับทำของทอดไม่อมน้ำมัน


สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญแล้ว การทำอาหารเมนูทอดมักจะเกิดปัญหาอมน้ำมัน วันนี้มีเคล็ดลับการทอดอาหารให้กรอบอร่อยไม่อมน้ำมันมาฝาก

ทอด

enlightenedอาหารเมนูทอด เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนก็จริง แต่ก็มีอันตรายด้วย จากการที่ได้รับน้ำมันมากเกินไป เพราะฉะนั้นเวลาทำอาหารประเภทนี้ จึงควรรู้เคล็ดลับการประกอบอาหารไม่ให้อมน้ำมัน เพื่อรสชาติที่อร่อย และสุขภาพที่ดี

enlightenedโดยพระเอกของงานนี้ก็คือ "น้ำส้มสายชู" เพียงหยดน้ำส้มสายชูลงในน้ำมันเล็กน้อย จะทำให้เมนูทอดมีรสชาติดีขึ้น ไม่เลี่ยน และไม่อมน้ำมันด้วย ส่วนถ้าใครอยากได้อาหารทอดที่กรอบนาน ไม่เหม็นหืน แนะนำให้ใช้น้ำมันเมล็ดฝ้ายในการทอด เพราะน้ำมันชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยให้อาหารทอดเก็บไว้ได้นาน แถมยังมีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำอีกด้วย

enlightenedส่วนเคล็ดลับเวลาประกอบอาหารก็คือ ต้องรอให้น้ำมันร้อนจัดเสียก่อน จึงค่อยใส่อาหารที่ต้องการลงไปทอด เพราะถ้าทอดนาน ๆ แล้วใช้ไฟอ่อน อาหารจะอมน้ำมัน และเมื่อสุกแล้วควรจะมีตะแกรงเพื่อให้น้ำมันหยดออกจากอาหาร และใช้กระดาษซับน้ำมันด้วยก็จะดีมาก
อีกอย่างหนึ่งคือ คนที่ชอบพลิกอาหารไปมาระหว่างทอดโดยไม่จำเป็น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการอมน้ำมัน ควรรอให้สุกเหลืองไปด้านหนึ่งก่อน ค่อยพลิกกลับมาทอดอีกด้าน

enlightenedแถมให้นิดนึงสำหรับคนที่ชอบทอดเฟรนช์ฟรายทานเอง ซึ่งมักประสบกับปัญหาอมน้ำมันอยู่บ่อย ๆ เพียงแค่นำเฟรนช์ฟรายไปแช่แข็งก่อนนำไปทอด จะทำให้เฟรนช์ฟรายกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน.
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

..นางแบบเพลย์บอยครึ่งปีล่าสุดทุกคนล้วนมาในแบบVDO..
..สุดยอดเลยครับท่าน..
下年份
先傳
(花花公子)2015最新貨:
http://pmatehunter.com/playboy-videos/
點 每一張圖片都是影片
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

สะพาน&ถนน ที่ก่อสร้างในจีน...สุดยอดมากๆ
ถนนสายที่ไปถึงทิเบต no. 9 สวยงามมาก...

跨海.掛壁.盤山.隧道.懸索.沙漠.臨海...十大最美公路
□□□□□□□□
http://mp.weixin.qq.com/s?__biz=MjM5OTE ... 8814dde#rd
รูปประจำตัวสมาชิก
navybike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1226
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 11:42
Tel: 0817158663
Bike: TREK , GIANT, CANNONDALE
ตำแหน่ง: ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

Re: เสือ 2 วัย ศรีราชา

โพสต์ โดย navybike »

“การแสดงออกทางรสนิยมที่ดีที่สุด…คือ การไม่แสดงอะไรเลย”
คำพูดสั้นๆจากรุ่นพี่คนหนึ่งทำเอาผมสะดุ้งเฮือกกลืนน้ำลายลงคออึกๆ และพยายามทบทวนกับคำพูดของแกว่าถ้าไม่แสดงออกแล้วมันจะเรียกว่า ‘แสดงออก’ ได้อย่างไรฟ๊ะ? ก้มลงสำรวจตัวเองตั้งแต่รูขุมขนจรดหัวเท้า จากนั้นจึงประมวลเข้ากับสีหน้าท่าทางของพี่ชายคนนั้น ทำให้สามารถปะติดปะต่อได้คร่าวๆว่า…อ้อ! มันคงคล้ายกับประโยคจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ว่า “ความงามที่แท้จริง ไม่ต้องการการเรียกร้องความสนใจ” นั่นเอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมยุคนี้ ผู้คนสามารถพูด เล่า และแสดงออกทางความรู้สึกกันได้มากขึ้น ยิ่งพวกเราทุกคนอยู่ในยุคโซเชียลครองเมืองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การแสดงออกทางรสนิยมเหล่านั้นทำได้ง่ายแสนง่ายขึ้นไปอีก และบ่อยครั้งเราก็จะเห็นว่ามันสามารถส่งผลไม่ดีต่อตัวเราเองได้ด้วยเช่นกัน ทว่า, ผลทางด้านลบเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ในโลกโซเชียลอย่างเดียว แต่มันมีอยู่ในที่ทำงานของเราด้วย

และนี่คือ 12 สิ่ง ที่พวกเราไม่ควรเผยในที่ทำงานครับ



เผย…ว่าไม่ชอบงานที่เราทำ
สิ่งที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดที่ทุกคนไม่อยากฟังในที่ทำงานนั่นก็คือ…การที่มีใครบางคนพร่ำบ่นว่าเขาเกลียดงานของเขามากแค่ไหน การเผยความรู้สึกเหล่านี้ออกมาจะทำให้เราดูเป็นคนมองโลกในแง่ลบ และดูเป็นคนมีทัศนคติที่ไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันออกห่าง และที่แย่เข้าไปอีกอาจทำให้หัวหน้าสุดที่รักของเราประเมินตัวเราในแง่ไม่ดีได้ หากยังคิดและบ่นพร่ำเพรื่อในทัศนคติแบบนี้ต่อไป ปรับเงินดงปรับเงินเดือน หรือเลื่อนข้งเลื่อนขั้นที ก็อย่าหวังว่าจะเป็นเราเลยครับ

เผย… “ชั้นคิดว่าเขา/เธอ_ คนนั้นไร้ความสามารถ”
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ในทุกสถานที่ทำงานมักจะต้องมีคนที่ขาดความสามารถ หรืออาจขาดคุณสมบัติบางประการเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากเราไม่มีความสามารถที่จะช่วยพัฒนาเขา หรือไม่มีอำนาจที่จะไล่เขาออก…เราก็ไม่มีสิทธิที่จะบอกว่าเขา/เธอคนนั้นไร้ความสามารถ

การลั่นวาจาว่าเพื่อนร่วมงานขาดคุณสมบัติ หรือขาดความสามารถนั้น อาจทำให้ตัวเรารู้สึกสบายใจที่ดูเหนือกว่าคนอื่น แต่เชื่อเถอะครับว่าความสบายใจเหล่านั้นคงอยู่ได้ไม่นาน เพราะสุดท้ายแล้วเราจะโดนเพื่อนร่วมงานมองว่าเราเป็นคนที่มีทัศนคติที่ย่ำแย่ หากอะไรมันไม่ได้ดั่งใจ ก็ขอให้ทำใจร่มๆไว้ ไม่อย่างนั้นก็ให้คำแนะนำหรือสอนเพื่อนร่วมงานคนๆนั้นก็ได้ครับ

เผย…เราหาเงินได้มากแค่ไหน
‘อวดไปทำไมให้สึก’ คำพูดของท่านพุทธทาสภิกขุ ยังคงใช้ได้ดีอยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่ของเราอาจมีความสุขที่ได้ยินว่าเดือนต่อเดือนเราสามารถหาเงินได้มากเท่าไหร่ แต่หากพูดในที่ทำงาน…นี่คงเป็นการส่งผลลบต่อตัวเราอย่างใหญ่หลวง ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะนั่นอาจทำให้เพื่อนร่วมงานของเราหมั่นไส้และมองเราในแง่ลบเอาได้ เชื่อเถอะครับว่าไม่มีใครชอบคนขี้อวดคุยโวหรอกครับ ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินเดือนในที่ทำงานด้วยแล้ว ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

คำว่า ‘อวด’ มักใช้ไปในทางไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่าจะเป็น อวดรู้, อวดรวย, อวดเก่ง, อวดดี, อวดฉลาด, อวดนั่นอวดนี่ ฯลฯ แม้เรื่องดีๆในชีวิตก็ไม่ต้องอวด เพราะของอะไรก็แล้วแต่…อวดบ่อยๆแล้วมันทำให้สึกครับ

เผย…มุมมองเรื่องการเมือง และความเชื่อทางศาสนา
ว่ากันว่า, รสนิยมและมุมมองส่วนตัวในเรื่องการเมืองและศาสนาเป็นสิ่งที่ก้าวก่ายกันไม่ได้ และที่สำคัญต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกัน การแสดงความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อาจทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างเรากับเพื่อนร่วมงานเอาได้ บางรายอาจถึงขั้นนึกว่าชวนทะเลาะตบตีกันเลยทีเดียว บางครั้งการรู้จักยอมรับและรับฟังอาจเป็นการกระทำที่ดีที่สุด หัดปล่อยผ่านและปล่อยวางไปบ้าง คิดเสียว่า…เราทุกคนมีสิทธิที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาเชื่อมั่นครับ

เผย…ทุกการกระทำบน Facebook
เชื่อได้เลยว่าหัวหน้าของเราคงไม่อยากเห็นรูปเราบนเฟสบุ๊คที่กำลังถือแก้วเหล้าพร้อมบรรยากาศแบบปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยงชนิดผมเพ้ากระเซอะกระเซิงเป็นอย่างแน่ เพราะนั่นอาจทำให้เราดูไม่เหมาะสมและเกิดความไม่ประทับใจเอาได้

ความไม่เหมาะสมเหล่านี้อาจพานไปถึงเสื้อผ้าที่เราใส่ คนที่เราอยู่ด้วย กิจกรรมที่กำลังทำอยู่ หรือแม้แต่คอมเม้นท์จากเพื่อนของเราเองก็ตาม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งเล็กๆที่อาจส่งผลต่อมุมมองของหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่มีต่อเราได้…ซึ่งมันอาจมีผลต่อการเลื่อนตำแหน่ง หรือปรับเงินเดือนของเรา

อาจดูเป็นเรื่องยากที่เราจะป้องกันตัวเองบนเฟสบุ๊คจากเพื่อนร่วมงาน จำไว้ว่าการโพสก็เหมือนกับการพูด คิดก่อนพูด-คิดก่อนโพส เสมอครับ ใช้ LinkedIn เป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อกับสังคมในการทำงาน และเก็บ Facebook ไว้ใช้กับคนอื่นๆทั่วไปจะดีกว่าครับ เฟสบุ๊คเปรียบเสมือนกับกระจก 2 ด้าน…ที่สะท้อนทั้งด้านดี และด้านไม่ดีของตัวเรา ในคราวเดียวกัน, มันก็สามารถสะท้อนความรู้สึกด้านดี และด้านไม่ดีจากคนอื่นได้เช่นกัน

เผย…การกระทำบน ‘เตียง’
เรื่องบนเตียง ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ส่วนตัวมาก และส่วนตัวจนไม่ควรเอามาเที่ยวเล่าให้ใครต่อใครฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสังคมในที่ทำงานของเรา การเผยเรื่องเหล่านี้อาจดูเป็นบทสนทนาที่สนุกสนาน และทำให้เราดูเป็นคนจริงใจ (เหรอ?) แต่ในคราวเดียวกัน, มันอาจทำให้เราดูเป็นคนไม่น่าเคารพ และเราอาจมีกิตติศัพท์ที่ไม่ดีเอาได้ ให้เกียรติและเคารพกับเรื่องส่วนตัวของเราเองเสมอครับ

เผย…การกระทำบนเตียงของ ‘คนอื่น’
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตในสังคม เราต้องรู้จักเคารพคนอื่นเสมอ การนำเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมาเล่า นอกจากจะทำให้ตัวเราสูญเสียความเชื่อใจแล้ว ยังเป็นการไม่ให้เกียรติคนๆนั้นอย่างที่สุด แน่นอนว่าคนอื่นๆรวมถึงหัวหน้า…จะต้องมองเราในทางที่ไม่ดีเป็นอย่างแน่ ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่า…ให้เกียรติและเคารพกับเรื่องส่วนตัวทั้งของคนอื่น และของตัวเองเสมอ

เผย…ถึงการเอาความดีเข้าตัว
การเอาดีเข้าตัว เป็นการกระทำที่ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน หรือสังคมไหนๆ ต่างก็ไม่มีใครชื่นชอบกันทั้งนั้นครับ เข้าใจว่าอยากก้าวหน้า อยากประสบความสำเร็จ จึงต้องแสดงความทะเยอทะยานด้วยการบอกหัวหน้าว่าโปรเจคชิ้นนี้ตัวเราเองตั้งใจทำมากแค่ไหน ทั้งที่ความเป็นจริงโปรเจคนี้เราทำกันเป็นทีม สิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำให้เพื่อนร่วมงานไม่พอใจแล้ว ยังทำให้หัวหน้ารู้ว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัวมากแค่ไหนอีกด้วย

พนักงานที่ดีต้องการให้ทีมทั้งทีมประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ต้องการแค่ตัวเองคนเดียวครับ

เผย…ถึงความห่ามของเราเมื่อสมัยเรียน
อดีตสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างเกี่ยวกับตัวเรา แค่เพราะว่ามันเป็นการกระทำห่ามๆบ้าๆบอๆของเราในสมัยเมื่อ 20 ปีก่อนจะสามารถทำให้คนเชื่อได้ว่าปัจจุบันนี้เราพัฒนาและปรับปรุงตัวเองแล้ว เพราะบางการกระทำก็อาจถูกจัดให้อยู่ในหมวดกิจวัตรปกติประจำวันของเราได้ อาทิ การดื่มหนัก, ลักเล็กขโมยน้อย, เมาแล้วขับ, แกล้งผู้อื่นและสัตว์ ฯลฯ บางครั้งอาจดูเป็นเรื่องสนุกๆสบายๆที่เล่าให้ฟังกันได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ฟังจะมองว่ามันเป็นที่เรื่องขำๆชิลๆ ดังนั้นเราจึงต้องระวังไว้มากครับ ก่อนที่จะคิดหรือพูดอะไรออกไป

คุณค่าของ ‘ประสบการณ์’ ไม่ได้อยู่ที่สอนให้เรารู้ว่า ‘ควรทำ’ อะไร…แต่อยู่ที่การเตือนสติว่าเรา ‘ไม่ควรทำ’ อะไร

เผย…ความสุขนิยมในของมึนเมา
เราอาจคิดว่าการพูดถึงงานปาร์ตี้ต่างๆที่เราไปร่วมหัวราน้ำมา หรือการสังสรรค์ที่แสนสนุกในแต่ละแมทช์ของเรานั้น อาจไม่มีผลต่อการทำงานของเรา เพราะงานของเราก็เสร็จทันเวลา และออกมาสมบูรณ์แบบแทบทุกครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่า, หัวหน้าอาจไม่ได้วัดกันที่ผลงานแต่อย่างเดียว หากแต่วัดกันที่วินัยและความน่าเชื่อถือด้วย

การเล่าหรือพูดให้เพื่อนร่วมงานฟังเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มหนักและความ ‘เมา’ มันส์ของเรานั้น ไม่ได้ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเราเป็นคนสนุกหรือคนเจ๋งแต่อย่างใด แต่มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ และติดเที่ยวติดสนุกจนเกินไป หลายคนมีมุมมองด้านลบเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราเก็บเกี่ยวและซึมซับความสนุกเหล่านั้นไว้กับตัวเราและเพื่อนๆใกล้ตัวของเราจะดีกว่าครับ

เผย…มุขตลกเสื่อมๆ
มีสิ่งหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากดาราเซเลบฯคนดังทั้งหลายนั่นก็คือ…ระมัดระวังในสิ่งที่พูด และคนที่เราพูดด้วย มุขตลกลามกหยาบคาย มุขตลกก้าวร้าว หรือมุขตลกเสื่อมๆ อาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่ได้ และยังทำให้เราดูแย่ได้อีกด้วย

มันมีเส้นด้ายบางๆระหว่างคำว่า ‘มุขตลก’ กับ ‘ไม่เหมาะสม’ เสมอ เราไม่มีทางรู้ว่าคนที่เล่าเล่นมุขด้วยนั้น เขาอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีตเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆหรือเปล่า ดังนั้นเมื่อต้องคิดก่อนพูด คิดก่อนโพสแล้ว…ก็อย่าลืมคิดก่อนเล่นมุขด้วยครับ

เผย…ว่ากำลังหางานใหม่
‘จังหวะ’ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตของเราทุกคน ทั้งด้านการพูดและการกระทำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเที่ยวบอกใครต่อใครในที่ทำงานว่ากำลังหางานใหม่นั่นก็คือ…เราจะกลายเป็นบุคคลไร้ประโยชน์ไปโดยปริยาย และยังทำให้คนอื่นๆรู้สึกว่าเราทำให้พวกเขาเสียเวลาอีกด้วย นอกจากนั้นโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จในการหางานใหม่ยังมีสูง ทางที่ดีเราควรจะรอให้เราได้งานชัวร์ๆก่อนที่จะเที่ยวไปปาวๆบอกใครต่อใคร มิเช่นนั้น, อาจกลายเป็นคนว่างงานได้นะครับ



อนึ่ง, ไม่จำเป็นที่ชีวิตจะต้อง ‘สวยหรู’…เพราะคนที่สวยหรู ก็อยู่บนถนนที่เราเดินเช่นกัน
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ห้องรวมกระทู้กลุ่มย่อย”