คุ้ม ๙

[ลุงเนตร]

“จิงจูฉ่าย” ผักใบเขียวลักษณะคล้ายต้นขึ้นฉ่าย เมนูยอดฮิตของคนชอบกินเกาเหลาเลือดหมู มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า นอกจากประโยชน์ แก้ไข้ไตบำรุงปอด ฟอกเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี ยังช่วยรักษาโรคมะเร็งด้วย มาดูกันว่า จิงจูฉ่ายนี้มีสรรพคุณและดีอย่างไร

จิงจูฉ่าย (Guizhou)

ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง
ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง

เชื่อว่าหลายๆท่านที่ชอบกินเกาเหลาเลือดหมู หรือเมนูต้มทั้งหลายจะรู้จักกันดีกับผักลักษณะใบแฉกๆ สีเขียว คล้ายๆกับต้นขึ้นฉ่าย หรือที่เรียกกันว่า “จิงจูฉ่าย” จิงจูฉ่าย คือชื่อของผักของจีนชนิดหนึ่งส่วนมากนิยมนำไปใส่ในเกาเหลาเลือดหมูเพราะช่วยดับกลิ่นคาวเลือดได้และ มีสรรพคุณทางสมุนไพรสำหรับ

ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง
ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง

จิงจูฉ่ายเป็นที่นิยมมากของชาวจีน เนื่องจากจิงจูฉ่ายเป็นยาเย็น (หยิน)กลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากใบและลำต้นจิงจูฉ่าย ยิ่งต้มร้อนๆหรือ กินสดๆ จะมีสารไลโมนีน ซิลนีน และสารกลัยโคไซด์ที่มีชื่อว่า อะปิอิน ซึ่งสารเหล่านี้มีสรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน อีกทั้งช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ดีด้วย ส่วนลำต้นสด และเมล็ดของต้น “จิงจูฉ่าย” มีโซเดียมต่ำ จึงดีต่อผู้ป่วยโรคไตครับ



สรรพคุณของจิงจูฉ่าย

ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง
ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง

ต้นจิงจูฉ่ายมี สรรพคุณทางยาสูง จิงจูฉ่าย ๑๐๐ กรัมให้พลังงาน 392 กิโลแคลอรี่ประกอบด้วยสารอาหารนานาชนิด ได้แก่

โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, เส้นใย, แคลเซียม, เหล็ก, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี๖, วิตามินซี และวิตามินอี



จิงจูฉ่ายกับงานวิจัยโรคมะเร็ง

ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง
ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง

“จิงจูฉ่าย” ใช้ต้นและใบ กะพอประมาณปั่นผสมน้ำสะอาด 1-2 แก้ว ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเฉพาะน้ำดื่มวันละแก้วควรรับประทาน1ชั่วโมงก่อนอาหารหรืออย่างน้อยสองชั่วโมงหลังอาหารเพื่อความ รวดเร็วของการเข้าถึงเซลล์และป้องกันการปะปนกับสารอื่นๆซึ่งอาจทำให้ฤทธิสาร ดังกล่าวลดลง จะช่วยป้องกันมะเร็งได้ อาจไม่ได้ช่วยได้ 100 % แต่สรรพคุณ และด้วยสารที่มีในต้นจิงจูฉ่าย จะช่วยให้ร่างกายและการรักษาโรคมะเร็งดีขึ้น แต่ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย และเลือกกินอาหารที่ดีนะครับ

ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง
ผักจิงจูฉ่าย Guizhou ช่วยรักษามะเร็ง

จิงจูฉ่าย Artemisia Lactiflora ‘Guizhou’ (White Mugwort’Guizhou) หรือโกฐจุฬาลำพา’กุ้ยโจว’ เป็นสมุนไพรตระกูลเดียวกันกับ A.annua L., A.Vesstita และ A.Agryi ซึ่งมีสารสำคัญมากมาย ได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่ารักษาโรคมาลาเรียได้ซึ่งเชื้อโรคนี้คล้ายๆกับ เซลล์ของโรคมะเร็งคือจะมีจำนวนธาตุเหล็กสูงกว่าเซลปกติ 5-1,000เท่า สารสำคัญมีหลายอย่าง สารบางตัวทำงานโดยอิสระ และบางตัวทำงานร่วมกับตัวอื่นๆ ผลวิจัยของ ดร. ไลล์แสดงถึงสารชิงเฮาซู(qinghaosu)หรือสารอาร์เทมิซินิน(artemisinin)ผสม ผสานกับธาตุเหล็ก(ที่เซลล์มะเร็งต้องการ)เจาะจงซึมผ่านผนังของเซลล์เข้าภาย ในเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง ประกอบกับข้อความและการยืนยันจากผู้ป่วยหลายต่อหลายคนที่รักษาตนเองโดยการ ดื่มน้ำคั้น(สดๆ)ทุกวันภายในระยะเวลา 2-3เดือน จึงพอสรุปได้ว่า จิงจูฉ่าย รักษาโรคมะเร็งได้จริง

(หมายเหตุ: เนื่องจากจิงจูฉ่ายเป็นสมุนไพรที่แพร่หลายในกลุ่มชาวจีนทั่วไปแต่ยังไม่เป็น ที่รู้จักทางการแพทย์ยุคใหม่จึงเป็นการยากที่จะหารายระเอียดการวิจัยจาก แพทย์แผนปัจจุบันแต่ที่หน้าสังเกตุเป็นอย่างยิ่งคือในบรรดาสมุนไพรกลุ่มนี้ ทำไมจิงจูฉ่ายจึงเป็นชนิดเดียวที่บรรพบุรุษชาวจีนที่อพยพเลือกที่จะนำติดมา จากถิ่นฐานเมืองเกิด ทั้งๆที่สมุนไพรในกลุ่มนี้มีมากมายล้วนแล้วแต่เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรค ได้เช่นกันอาธิเช่น A.annua L. ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่จนถึงปัจจุบันแต่เราจะไม่เคยเห็นปลูกฅามบ้านตาม สวนของชาวจีนหรือแม้วางขายตามตลาด, เป็นไปได้ไหมว่าจิงจูฉ่ายเป็นยอดของยอดสมุนไพรที่ทุกบ้านจะขาดไม่ได้?)



จิงจูฉ่ายในไทย

ต้นจิงจูฉ่าย Guizhou
ต้นจิงจูฉ่าย Guizhou

จิงจูฉ่าย เป็นหนึ่งในผลผลิตดอยคำในหมวดสมุนไพร ของมูลนิธีโครงการหลวง ที่มีผลผลิตตลอดทั้งปี เราสามารถหาซื้อได้ที่ตลาด หรือซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปครับ หรือในอินเตอร์เน็ตก็มีขายเป็นต้น สามารถนำมาเพาะปลูกได้เป็นผักสวนครัวประจำบ้านเลยครับ

[ลุงเนตร]

"จิงจูฉ่าย" กำจัดมะเร็งได้จริงๆ
คอนเฟิร์มแล้ว จากผู้ป่วย หลายๆรายที่ดื่มน้ำคั้นจากใบ "จิงจูฉ่าย" ทั้งจากผู้ที่อยู่ใน นครลอสแองเจิลลิส และโรสมีท แคลิฟฟอร์เนีย รวมทั้ง กทม ที่แขวงราษฎบูรณะด้วย

สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง อย่าท้อใจคุณมีทางสู้...

ในขณะที่คุณ พี่น้อง หรือญาติของคุณ กำลังได้รับการรักษา หรือยังไม่ได้รับการรักษาก็ตามเพื่อเป็น อีกทางเลือกของการรักษา (a non toxic care) ขอแนะนำให้คุณที่เป็นโรคมะเร็งได้ไปหาซื้อใบ "จิงจูฉ่าย" นำใบมาคั้นน้ำดื่ม 1กำมือจะใช้เครื่องปั่นหรือใช้ครกตำก็ได้ ทาน 1- 2 ครั้งต่อวัน ทานเช้าเย็น ก่อนอาหารสัก หนึ่งชั่วโมง และให้ทำทานติดต่อกันเป็น เวลา 2-3 เดือน
ทำไมต้องดื่มน้ำคั้นสด คำตอบคือสารสำคัญและน้ำหอมระเหยจะสลายตัวหรือเสื่อมตัวลงเมื่อถูกความร้อน และเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดก็ควรเตรียมหรือปรุงสดๆรับประทานทันที ในกรณีที่ไม่สดวกในการเตรียม ควรใชวิธีใส่ปากเคี้ยว.(เฉพาะในกรณีที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง) เชิญชม youtube วิดิโอ Prof. Tu คุยให้ฟังถึงความผิดพลาดและความสำเร็จของการค้นพบ สาร"ชิงเฮาซู"นาทีที่ 4.00 เขาพูดถึงการสกัดสาร Artemisinin ต้องไม่ใช้การต้ม(ความร้อน) (@3:10) 340CE Ge Hong บันทึกวิธีใช้โกฐจุฬาไว้ว่าให้ใช้สมุนไพร 1ส่วน น้ำเย็น 2ส่วน(2X0.2ลิตร) มารวมกัน คั้นน้ำและดื่มน้ำนั้น
จิงจูฉ่าย (Artemisia Lactiflora'Guizhou') หรือโกฐจุฬาลัมพา'กุ้ยโจว' เป็นสมุนไพรตระกูลเดียวกันกับ A.annua L. (หมายเหตุ: เนื่องจากจิงจูฉ่ายเป็นสมุนไพรที่แพร่หลายในกลุ่มชาวจีนทั่วไปแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักทางการแพทย์ยุคใหม่จึงเป็นการยากที่จะหารายระเอียดการวิจัยจากแพทย์แผนปัจจุบันแต่ที่หน้าสังเกตุเป็นอย่างยิ่งคือในบรรดาสมุนไพรกลุ่มนี้ ทำไมจิงจูฉ่ายจึงเป็นชนิดเดียวที่บรรพบุรุษชาวจีนที่อพยพเลือกที่จะนำติดมาจากถิ่นฐานเมืองเกิด ทั้งๆที่สมุนไพรในกลุ่มนี้มีมากมายล้วนแล้วแต่เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรคได้เช่นกันอาธิเช่น A.annua L. ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่จนถึงปัจจุบันแต่เราจะไม่เคยเห็นปลูกฅามบ้านตามสวนของชาวจีนหรือแม้วางขายตามตลาด, เป็นไปได้ไหมว่าจิงจูฉ่ายเป็นยอดของยอดสมุนไพรที่ทุกบ้านจะขาดไม่ได้?) สมุนไพรกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักดีและถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคมากมายหลายชนิดทั่วโลกนับพันปีจากจีน,อินเดีย,อียิปและยุโรป ซึ่งสมุนไพรมีสารที่เรียกว่าสารชิงเฮาซู(qinghaosu)หรือสารอาร์เทแอนนิวอิน(arteannuin)หรือสารอาร์เทมิซินิน(artemisinin)ที่WHOรับรองใช้รักษาโรคมาลาเรียและยังประกอบด้วยสารสำคัญๆมากมายซึ่งที่ผ่านมานักวิจัยได้นำมาทดรองกำจัดเซลล์มะเร็งทั้งในห้องทดรองและกับสุนัขได้ผลสรุปที่เหลือเชื่อ แต่อันที่จริงถ้าอ่านบทความ จาก"Townsend"case reportคุณจะได้เห็นว่ามีการรักษาโรคมะเร็งนาๆชนิด อย่างมีประสิทธิภาพมาก่อน แล้วตั้งแต่ปีคศ2001ดังที่เห็นในcase report ที่ใช้ สารartemisinin ที่สกัดา จากใบหรือส่วนเหนือดินจากต้นโกฐจุฬาลัมพาหรือ Artemisia Annua นั่นเอง( case report อยู่ด้านล่าง)
ทำไมต้องทานติดต่อกัน? เพราะสมุนไพรมีสารอยู่ในใบน้อยกว่าสารสกัดที่ใช้ในการวิจัย (0.1% - 1%) จึงจำเป็นต้องอาศัยปริมาณและระยะเวลา 2-3เดือนเพื่อความมั่นใจในการกำจัดเซลล์มะเร็งให้หมดจด ซึ่งเป็นการป้องกันการหวนกลับของโรคร้าย
เท่าที่ได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนที่เคยเป็นโรคมะเร็งที่ได้ดื่มน้ำคั้นบอกไว้ว่าควรดื่มทุกๆวันติดต่อกันถึง 2เดือนสามารถรักษาโรคมะเร็งได้หลายประเภทและจากการค้นคว้าหารายระเอียดเพิ่มเติมได้พบว่าแพทย์ที่ใช้สารสกัดจากสมุนไพรนี้หลายท่านให้ความ เห็นที่ตรงกันว่าควรรับประทาน1ชั่วโมงก่อนอาหารหรืออย่างน้อยสองชั่วโมงหลังอาหารเพื่อความรวดเร็วของการเข้าถึงเซลล์และป้องกันการปะปนกับสารอื่นๆซึ่งอาจทำให้ฤทธิสารดังกล่าวลดลง(ทั้งหมดทั้งปวงได้มาจากการค้นคว้าหาข้อมูลจากTCMและจากการพูดคุยกับผู้ที่มีประสภการณ์ ฉนั้นเพื่อประสิทธิภาพขอให้ปฏิบัติตามแนวทางที่เคยได้ผลกันมาแล้ว)
คุณๆจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่มันก็เป็นทางเลือกของการรักษาที่เราสามารถจะดูแลตนเองได้โดยไม่ใช้เคมีหรือยาอื่นๆ(แต่ก็ไม่ได้หมามความว่าควรงดการดูแลจากแพทย์ให้ถือว่าเป็นทางช่วยอีกทางหนึ่ง)แต่สำหรับผู้ที่กำลังได้รับการรักษาจากแพทย์หรือทานยาตายคำสั่งอยู่ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ
สารหรือตัวยาในใบของจิงจูฉ่าย/โกฐจุฬาลัมพายังมีสรรพคุณในการแก้ไข้หลอดลมอักเสบ,อักเสบต่างๆ,อาการบวมตามข้อ,ฆ่าเชื้อในลำใส้และกะเพาะอาหาร รักษาโรคกะเพาะ
แน่นอนว่าสมุนไพรชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการรัษาโรคมากมาย แต่ก็ไม่ใช่สมุนไพรวิเศษมหัศจรรย์อะไรแหละคงไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทุกประเภทเพราะขึ้อยู่กับสภาพแวดล้อมหลายประการ อย่างน้อยเป็นองค์ประกอบอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสต่อสู้กับโรคร้าย เราเองเห็นความสำคัญและคุณค่าดังกล่าว,ได้แต่แนะนำและหวังว่าจะเกิดคุณต่อผู้ป่วยไม่มากก็น้อย
ดังคำพูดของ โปรเฟซเซอร์.เฮนรี่ ไล ว่า, "จากผลของการวิจัยที่ไดรับ คาดว่าจะมีการปฎิรูปวิธี รักษาโรคมะเร็ง เปลี่ยนเป็น การใช้ยาเพื่อรัปทาน ทางปาก ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจเป็น $2.00ตรั้ง
"รีพอต" จากTownsend Letter ภาษา google ไทย original version Townsend Letter
หมายเหตุ: สมุนไพรที่ดีมีคุณภาพควรจะมาจากสวนของคุณเอง คุณจะแน่ใจได้ว่าไล้สารพิษ,เติบโตโดยธรรมชาติปราศจากปุ๋ยเคมี

[ลุงเนตร]

"..หาซื้อได้ที่นี่ เปิดดู.." http://pantip.com/topic/31349846

[ลุงเนตร]

เพื่อนจาก รพ จุฬาส่งมาให้
น่าสนใจนะ
Shafin de Zane presents: What is Cancer?
Awaken to new reality - RedefineYourReality.com

http://www.youtube.com/watch?v=P_OHAtVzeB0

นี่คือสิ่งที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดกล่าวว่า - มะเร็ง คือ ธรรมชาติ (Cancer is Natural)
มะเร็ง คือ ธรรมชาติของวิวัฒนาการของเซลล์ในร่างกายคนเรา
น่าแปลกใจไหมครับ ?
ขออนุญาตให้ผมได้อธิบาย
หน่อย.... ไม่กี่วันมานี้ ในขณะที่ผมกำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
ผมพบสาระสำคัญ คือ การปรับตัว (adaptation)
เมื่อเซลล์ในร่างกายของเราผ่าเหล่า (mutate) ไปเพราะสภาพแวดล้อมที่
เปลี่ยนไป เพื่อทำให้เราสามารถปรับตัวไปตามเปลี่ยนแปลงนั้นได้ เราเรียกการปรับเปลี่ยนนั้นว่า - การปรับตัว (adaptation)

หากผมของเรายาวขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออากาศหนาวจัด - นั่นก็คือการปรับตัว
หากเซลล์ผมของเราหยุดยาว เพื่อตอบสนองต่ออากาศร้อน - นั้่นก็คือการปรับตัว

เมื่อเราปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้สำเร็จ วิวัฒนาการจึงเกิดขึ้น
เป็นเหตุ-เป็นผลไหมครับ ?
อีกครั้งนะครับ - เซลล-ผ่าเหล่าไป-เพื่อปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป มันเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ

มะเร็ง คือ กลุ่มของเซลล์ที่ผ่าเหล่าไป
เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็น
ธรรมชาติ-อันเนื่องมาจากการที่เลือดของเรากลายเป็นพิษเกินกว่าที่
เซลล์จะมีชีวิตต่อไปได้ ถ้าหากเซลล์เหล่านั้นไม่ผ่า
เหล่าไป เซลล์เหล่านั้นจะป่วยและตาย เซลล์เหล่านั้นจึงตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการผ่า
เหล่า เพราะเซลล์ในร่างกายมนุษย์มีความสามารถที่จะปรับตัวเพื่อ
รับมือกับการเปลี่ยนแปลง การปรับตัวของเซลล์จึงเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ

เป็นที่น่าเสียดายว่า คุณหมอทั่วโลก บอกกับเราว่า วิธีการรักษามะเร็ง คือ การบำบัดด้วย-คีโม หรือการทำลายเซลล์มะเร็ง
ด้วยรังสี แต่สิ่งที่คุณหมอไม่ได้บอกเราคือ ทำไมเซลล์มะเร็งจึงผ่าเหล่า
ตั้งแต่แรก ? อย่างไรก็ตาม-เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป เซลล์อีกจำนวนมากก็จะผ่า
เหล่า-ต่อไปอีก-ไม่เร็วก็ช้า นั่นเป็นสาเหตุที่เราพบเห็น
ผู้ป่วยมะเร็งถูกให้คีโม ดีขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วกลับทรุดลงไปใหม่อีก

จากมุมมองของเซลล์ หากมันไม่ผ่าเหล่า-มันจะต้องตาย การผ่าเหล่าของเซลล์จึง
เป็นธรรมชาติ
มะเร็ง แท้จริงแล้ว คือ วิวัฒนาการของกลุ่มเซลล์ที่พยายามรอดตายจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ แต่ทั้งหมดนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่
ควบคุมไม่ได้ เพราะเซลล์เหล่านั้นลงเอยด้วยการ-ฆ่าร่างกาย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่แท้จริง

มะเร็ง คือ วิวัฒนาการของกลุ่มเซลล์ที่พยายามจะรอดตายในสภาพ
แวดล้อมที่เป็นพิษอย่างสูง เราต้องพยายามทำความ
เข้าใจในประเด็นนี้ให้ชัดเจน การพยายามฆ่าเซลล์เหล่านั้น-โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลง
สภาพแวดล้อม เปรียบได้กับการฆ่าแมลงวัน โดยไม่ได้พยายามเอา
ขยะออกไป

เอาละ คุณจะลงมืออย่างฉับพลัน-เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อม
ของคุณอย่างรวดเร็วได้
อย่างไร
มีวิธีการง่ายๆด้วยกัน 3 วิธี คือ:
1. หายใจลึกๆ - หายใจลึกๆ
สิ่งแรกที่กระตุ้นให้เซลล์ผ่าเหล่าและกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
คือ การขาดออกซิเจน
เซลล์มะเร็งปรับตัวเพื่อรอดชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มี
ระดับออกซิเจนต่ำ ยิ่งมีออกซิเจนต่ำเท่าไร เซลล์มะเร็งก็ยิ่งเติบโตได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะนี่คือวิวัฒนาการของเซลล์ที่ปกติซึ่งต้องการจะรอดชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่มีระดับออกซิเจนต่ำ - วิธีแก้ไขคือ หายใจลึกๆ ซึ่งเป็นการออกกำลังง่ายๆที่ทำได้ทุกเช้าเพื่อเพิ่มระดับ
ออกซิเจนให้กับเลือด

เดิน 5 นาที
แล้วหายใจแบบนี้ คือ
หายใจเข้า 4 ครั้ง ติดกัน
กลั้นหายใจแล้วนับ 1 ถึง 4
หายใจออกช้าๆ 4 ครั้ง ติดกัน

ทำอย่างนี้ครับ
>>>>
1-2-3-4
<<<<

ทำอีกครั้งครับ
>>>>
1-2-3-4
<<<<

ผมหายใจเข้าทางจมูก >>>>
กลั้นใจแล้วนับ 1-2-3-4
หายใจออกทางปาก <<<<

หายใจเข้าไปในท้อง ไม่ใช่หายใจเข้าไปในอก นี่คือวิธีการหายใจที่ถูกต้อง
ถ้าหากไม่มีที่เดิน ให้เดินในห้องนอนของคุณ เพราะมันมีที่พอสำหรับ
การออกกำลังของเราทุกวิธี

วิธีที่ 2 หยุดรับประทาน-กรด
สิ่งที่สองที่มากระตุ้นเซลล์ให้ผ่าเหล่ากลายเป็นเซลล์มะเร็ง คือ สภาพแวดล้อมที่เป็นกรด เพราะนั่นคือการตอบสนองที่จะทำให้เซลล์รอดชีวิตได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด เซลล์ที่ผ่าเหล่าจะตายในสภาพแวดล้อมที่เป็นด่าง และเติบโตในสภาพ
แวดล้อมที่เป็นกรด คุณจะทำให้ร่างกายของคุณ
เป็นด่างได้ ก็ด้วยการรับประทาน
อาหารที่เป็นด่างมากขึ้น

น้ำผัก น้ำผลไม้ มีประสิทธิภาพสูงมาก
งดน้ำตาล โคคา-โคล่า เปปซึ่ และน้ำอัดลมทุกชนิด กาแฟ เนื้อสัตว์ นม บุหรี่ และ แอลกอฮอล์
รับประทานผักสดสีเขียว ผลไม้สด น้ำด่าง และน้ำมะพร้าว หากคุณต้องการเห็นการ
เปลี่ยนแปลงของสุขภาพอย่างน่าอัศจรรย์ในระยะเวลาอันสั้น ดื่มน้ำผักสดปั่นทุกเช้า โดยไม่ต้องรับประทานอะไรอีกเลย จนกว่าจะถึงมื้อเที่ยง-นำผักใบเขียวหลากชนิด มะเขือเทศ แตงกวา ปั่นกับน้ำสะอาดแล้วดื่ม คุณอาจจะคิดว่า มันไม่น่าดื่มเลย แต่มันไม่เลวร้ายและออกจะ
อร่อยด้วยซ้ำไปเมื่อคุณ
คุ้นเคยกับมัน

วิธีที่ 3 ดูแลร่างกายของคุณ
ความเครียด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ความเครียด คือ ฆาตกรเบอร์หนึ่ง และเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรค-ทุกโรค
ความเครียด เพิ่มกรดและส่งผลกระทบต่อ
ทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกาย มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่เราจะต้องทำจิตใจให้แข็งแรงเบิกบานอยู่เสมอ

คุณจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ?
ทำสมาธิ ดูหนังตลก ละเว้นจากการดูข่าวร้าย
และเรื่องเลวร้าย อ่านหนังสือดีๆที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ หาสัตว์มาเลี้ยง พบเพื่อนใหม่ๆ สัมพันธภาพใหม่ๆ ปลดความทุกข์ความสลดใจ
เก่าๆและสิ่งเลวร้ายต่างๆที่ผ่าน
ไปแล้ว และแชร์ข้อมูลนี้ให้กับผู้อื่นต่อไปให้มากที่สุดที่คุณจะทำได้

ความเจ็บปวด และ ความเสียหาย ที่เกิดจากการบำบัดด้วยคีโม เลยเถิดไปอย่างเหนือ
คำบรรยาย
ช่วยให้ผู้อื่นตื่นจากฝันร้ายที่เกิดจากโฆษณาชวนเชื่อของผู้ผลิตยากันเสียที การป้องกันและรักษาตนเองให้หายจากมะเร็งเป็นสิ่งที่ง่ายดายเสียจนแทบจะเป็นเรื่องตลกอย่างเหลือเชื่อ

ใช้ความคิดให้ถูกต้อง
จงเปลี่ยนน้ำในบ่อปลาเมื่อปลาป่วย
เพราะการทำลายบ่อปลา ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง
มาช่วยกันทำให้โลกของเราในวันนี้-น่าอยู่ขึ้น

Shafin de Zane
- บรรยาย (ภาษาอังกฤษ)
http://www.youtube.com/watch?v=P_OHAtVzeB0
ดร.ชนิสา อรรถจินดา - แปล
Chanisa Arthachinda, Ph.D.

[เสือตัวที่9]

ขอขอบพระคุณ ลุงเนตร มาก ๆ ครับ สิ่งที่ดี จะรีบนำไปปฏิบัติ

[ลุงเนตร]

ขอขอบพระคุณ ลุงเนตร มาก ๆ ครับ สิ่งที่ดี จะรีบนำไปปฏิบัติ

"..ด้วยความยินดีครับ หลานเก้า.."

[ลุงเนตร]

รพ.ฟูด้า ประเทศจีน น้อมเกล้าถวายในหลวง รักษาโรคมะเร็งทุกระยะด้วยความเย็นไม่ใช้ครีโม ให้ฟรี สำหรับพสกนิกรไทย สมัครตั้งแต่บัดนี้ถึงสิ้นเดือน ธค 2557

http://youtu.be/SvBWcDFgoiU วิธีดูยูทูปนี้ นำ url ไปพิมพ์มในเวบยูทูป

ประชาสัมพันธ์กันต่อไปด้วยคะ

[เสือตัวที่9]

[ลุงเนตร]

"..ก๊อปมาจาก FB เห็นว่าดี..นิ. (นิคเนมเขายาวปานนั้นแหละ เคยปั่นไปเขมรด้วยกันกับหลวงพ่อสมบูรณ์ สุมังคโล วัดป่าลานหินตัด จ.บุรีรัมย์

..Paesangkaew Thanajaruphamorn ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 7 รูป

สุขภาพดีด้วยวิถีธรรมชาติ เมื่อวันก่อนอ่านข้อมูล fbของอาน้อง ตอนนี้ทุกชม.มีคนเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น ถึง๗ คน ย้ำอีกครั้งว่าทุกชม.นะคะ และทุกครั้งที่มาบ้านป้าวรรณ ก็จะมีโอกาสได้พูดคุย และทำอาหารให้กับคนที่เป็นมะเร็ง ได้ทาน ได้พูดคุย ถึงต้นเหตุ ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ก็เป็นเรื่องยาก ที่จะหาย หรือไม่เจ็บป่วย ถ้าทุกท่านไม่อยากเป็นหนึ่งในเจ็ดคน ของทุกชม ก็ขอเชิญชวน ให้หันกลับมาใช้ชีวิต ที่สอดคล้องกับธรรมชาติ ค่อยเริ่มต้นทีละน้อยเช่น ทานอาหารให้เป็นเวลา นอนหัวค่ำตื่นเช้ามืด หาเวลาในการออกกำลังกาย ที่ีืสำคัญต้องเริ่มในการที่จะลงมือ ปลูกผัก ถ้าในกทม.ไม่มีพื้นดินก็ไม่ใช่ปัญหา มีวิธีปลูกหลายแบบ ใครไม่รู้ก็สอบถามมาได้ค่ะ หลังจากนั้นเริ่มศึกษาวิธีการ ปรุงอาหารอย่างถูกต้อง การเลือกเครื่องปรุง นึกอะไรไม่ออก ก็ให้นึกย้อนกลับไปในอดีต ปู่ย่าตายาย เรามีแค่น้ำพริก ผักริมรั้ว กับข้าวไม่ต้องมากอย่าง แต่ปัจจุบันเรามีทางเลือก และความสะดวกสบาย มากเกินไป ทุกชีวิตจึงเป็นชีวิตสำเร็จรูป ไปที่ไหนก็เจอแต่คนเป็นมะเร็ง มาร่วมเรียนรู้และลงมือทำไปพร้อมๆ กันนะคะ เราต้องไม่เป็นภาระ ให้กับใครและในขณะเดียวกัน สามารถ ที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้เป็นแบบอย่างได้ บอกตามตรงว่า อยากเห็นทุกคนมีสุขภาพที่ดี หลายคนเสียเวลา ในการหาเงินมาทั้งชีวิต สุดท้ายให้หมอหมด พร้อมกับความทุกข์ทรมาน ข งร่างกาย วันนี้ออกเดินทางบ่ายหน้าไปทางกระบี่ พังงา ดีเจไหม ให้ออกรายการสดก่อนเดินทาง ป้าวรรณบอกยังไม่หายคิดถึงเลย อาจารย์และเรายังมีภาระกิจ เกี่ยวกับบ้านดินอีก๒ที่ และภาระกิจที่สำคัญมากที่สุดคือ การกลับไปเยี่ยมบ้าน ไปให้ความรู้กับน้องส่าวคนเล็ก ที่เป็นคุณแม่มือใหม่่ ชีวิต...คือการเดินทางเพื่อเรียนรู้ และแบ่งปันี

[เสือตัวที่9]

ตลอดเกือบ ๑ ปี ไม่ได้ออกไปปั่นที่ไหนเลย ( ต้องขอโทษชาวจักรยาน ที่จัดงานด้วย สัญญาปีหน้าจะพยายามไม่พลาด ) อันด้วยสาเหตุ หลาย ๆ ประการ เช่น ร่างกาย จิตใจ บุคคล แต่เมื่อ วันที่ ๒๘-๓๐ พ.ย. ทริปนี้ รู้ทั้งรู้หนักแน่





















น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

[เสือตัวที่9]

[เสือตัวที่9]

[เสือตัวที่9]

เช้านี้ มุ่งหน้าสู่ อช.ถ้ำธารลอด





ประมาณ ๗ กม. ก็ถึง ท่าข้ามแพขนานยนต์ (เท้ง) อัตราค่าข้ามคิดตามจำนวนรถ (ไม่เก็บคน ) จักรยาน ๒๐.- จักรยานยนต์ ๕๐.- รถยนต์ ๒๐๐.- รถตู้ ๓๐๐.- เหมาเที่ยว ๓๐๐.-









ใช้เวลาอยู่ในแพประมาณ ๕๐ นาที ใน ๕๐ นาที ทุกคนก็หากิจกรรมตามแต่อารมณ์

[เสือตัวที่9]

หนทางขึ้นเขาโจดเป็นหนทางที่หนักสุด ๆ สูงชัน เงียบไม่มีบ้านคน





บางช่วงสูงซะจนผมนึกว่าจะจับพระอาทิตย์ได้เลย

[ลุงเนตร]

..ไปมาเมื่อไร กับพี่สองคนมั้ง?..