# # # D I S S # # #

[DISS]

สวัสดีครับ..

ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้
รวบรวมภาพ และ เรื่องราว ที่ผมเคยโพสไว้ในเวปนี้
และ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อๆ ไป

สามารถร่วม สนทนากันได้ ตามสะดวก นะครับ





**เพื่อความสบายตา กรุณา F11**

[DISS]

เริ่มจาก...

โพสวันที่ 9 ธ.ค. 2008

“ ท ริ ป แ ร ก.. ”

สวัสดีครับ

ตามหัวกระทู้เลยครับ...ทริปนี้เป็นทริปแรกของผม ที่ไปขี่กันมากมายขนาดนี้
และเป็นการเป็นงานมากๆ ครับ..

เอา ง่ายๆ คือ ผมมือใหม่ แรงน้อย นั่นเองครับ..55

ทริปนี้ชื่อ " ปั่นสนุก เพิ่มสุข ปลูกป่าชายเลน " วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2551
ตอนที่อ่านกระทู้ชวนเชิญ ผมก็เข้าใจไปว่าไม่เท่าไหร่ เราน่าจะไหวน่า..
เลยไปลงชื่อ ลองดูแล้วกัน...


เดิมที ว่าจะเอารถพับไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเอารถคันเก่า ล้อใหญ่ๆ ไปแทน
(รถพับที่มี ก็ไม่ได้ใหม่ไปกว่าคันใหญ่หรอกครับ...ซื้อมือสอง มาครับ..)

ใจก็ กะว่า จะรถเอาไปทำซะหน่อย เพราะจอดยางแบนอยู่นานแล้ว
บ่ายวันเสาร์ เอารถไปที่ร้านจะให้ เขาล้าง หล่อลื่นสักหน่อย เปลี่ยนยางสักนิด..ฯ
แต่ เอาจริงๆ แค่ เติมลม และ ซื้อแบตฯ ใส่ไมล์ ซึ่งหมด ไปนานแล้ว..แค่นั้น 55

คืนวันเสาร์ประมาณห้าทุ่ม ยังทะลึ่งเอารถพับ ไปขี่รอบๆ สวนลุม กะว่าจะซ้อม..
ที่ไหนได้..มัน คือการตัดกำลังผม เสียมากกว่า..

พอเช้าวันอาทิตย์ผมก็ขี่รถไป จุดนัดพบ..บริเวณสวนพักผ่อนเซ็นทรัลพาร์ค
บ้านผมอยู่ไม่ไกลครับ แต่ออกตัวช้ามาก ดูเวลาน่าจะ เกินเจ็ดโมงครึ่งมามากแล้ว
กว่าจะถึง ด้วยแรงอันน้อยนิด..ก็ ล่อเข้าไป เกือบแปดโมงครึ่งแล้วมังครับ

ผมไปถึงเขาเริ่มพิธีการแล้ว
มีการตั้งขบวน มีพูดไมค์กันแล้วครับ..

ผมจอดรถ และเดินไปที่โต๊ะนึง...ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโต๊ะลงทะเบียน
(ไปช้าแล้วยังหน้าด้านจะขอเขาลงทะเบียน อีกนะเรา..)

ปรากฎว่า เขาเก็บของกันแล้วครับ..
เจ้าหน้าที่เขา ก็เลยบอกว่า "ขี่ตามๆ ไปแล้วกัน" ...55


ภาพแรกเป็นจุดปล่อยตัวที่บริเวณสวนพักผ่อนเซ็นทรัลพาร์ค ครับ


จุดเริ่มต้น...








จากจุดปล่อยตัว ผมก็ขี่ๆ ตามเขาไป..

ไปสะดุดที่ เฟรมรถ ของพี่คนนึงครับ..
มาทราบทีหลัง ก่อนกลับแล้ว ว่าเจ้าของคือ พี่O'Pern

คือ มันคล้ายๆ รถผมน่ะครับ..ไม่มี อะไรครับ

ผิวทางที่ขี่กันไป ค่อนข้างสะเทือนครับ
เพราะเป็น ถนนกำลังทำ ยังไม่ได้บดและ ราดยางครับ
ผมไม่มีภาพนะครับ ขออภัยครับ

แต่เวลาเหนื่อยหอบ เจ็บตูด และมือชา ก็ ผ่านไป..
จนมาถึงจุดหมายแรก คือ โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์

ที่นี่มีท่าน ผู้อำนวยการที่น่ารัก ส่งเสียงออกลำโพง ต้อนรับอย่างอบอุ่นครับ
มี อาหารว่าง เครื่องดื่มและ อาหารกลางวัน
ที่ทางคณะจัดงานฯ ตระเตรียมไว้รองรับผู้ร่วมงาน อย่างดีเยี่ยมครับ..

นอกจากอาหารแล้ว
ผมยังได้รับความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับป่าชายเลน
และได้ร่วมปลูกป่าชายเลน ด้วยครับ


จุดหมายที่ 1








พออิ่มหนำแล้ว
ปลูกต้นไม้แล้ว

ผมก็ร่วมขี่รถ ไปชมทะเลครับ..

ทางช่วงนี้ เป็นทางปูน ร่มรื่น ขี่สบายครับ
มีสะพานข้ามคลอง ชันและสูง ไว้ ท้าทาย..ผู้กล้า

แต่สำหรับ ผู้ไม่กล้า อย่างผม..
เลือกที่จะเข็นครับ..555

ช่วงสุดท้ายก่อนจะถึง ทะเล..นั้น
จะเป็นทางชมธรรมชาติ ป่าชายเลนครับ
เป็น สะพานไม้แคบๆ ยาว กิโลกว่าๆ..จนถึง หัวสะพานริมทะเล

ได้รับข้อมูลว่า จริงๆ แล้วเขาไม่ให้ เอารถทุกชนิดเข้าไปครับ
รวมทั้ง จักรยาน.. แต่คราวนี้ คงกรณี พิเศษครับ


จุดหมายที่ 2








จาก ทะเล ก็ ขี่กลับมาที่โรงเรียนฯ เพื่อตั้งขบวนขี่กลับ เซ็นทรัลพระรามสอง ครับ

ผมออกมา น่าจะเป็น คันสุดท้าย มังครับ..(ช้าตลอด..55)

ขี่ทาง สะเทือน และเป็นหลุมบ่อ ย้อนมาทางเดิม
แล้วก็มาแยกเลี้ยวเข้าไปวัดหัวกระบือ ครับ

ทางวัดก็เตรียม น้ำดื่มเย็นๆ ไว้ให้ชื่นใจกัน..
บางท่านก็เข้าไป กราบพระ ขอพร..

ที่วัดนี้ จะมี กองหัวกะโหลกวัวหรือควาย ผมก็ไม่แน่ใจครับ
แต่ เห็นน่าสนใจ เลยเก็บภาพมาครับ


จุดหมายที่ 3








ช่วงออกจาก วัดหัวกระบือ..
ผมก็ พยายามจะขี่เกาะกลุ่มกับ เขาบ้าง
เลยออกแรงมากหน่อย..

กลับมาถึงบ้าน ขาอ่อนแรง..ครับ เมื่อยจัง..
จริงๆ ช่วงขี่กลับบ้าน ก็มี อาการเจ็บตรูด...อยู่มากครับ..

ขี่ บ่อยๆ น่าจะดีขึ้น..


ขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง กับงานนี้ครับ

.

[DISS]

โพสวันที่ 12 เม.ย. 2009

“ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ”

.

หาก รู้ว่า ครึ่งวัน คงไม่ได้ เห็นป้าย แบบนี้..







รถอะไร ก็ร่วมทางกันได้..







มาไกล.. แต่ ชื่นใจ ที่ได้มาเยือน..







ลวดลาย งามงด







สีสัน สดสวย







ไหนๆ ก็มาแล้ว...ขอ ชักภาพ สักหน่อย..







สุดท้าย..แต่ไม่ท้ายสุด..



.

[DISS]

โพสวันที่ 15 เม.ย. 2009

“ ไปได้ แต่กลับไม่ถึง ”

.

ออกเดินทาง ประมาณ บ่ายโมงครึ่ง ได้ มังครับ
จาก ร้านเกาเหลาแถวๆ บ้านพี่จิ๊ป น่ะครับ
(รอยัลการ์เด้น)

กะว่า ขี่ เรื่อยเปื่อย เดี๋ยว โพล้เพล้ ก็กลับ

ใช้เส้นทาง เพชรเกษม ตรงอย่างเดียวไปเรื่อย จนถึงสาย5
ระหว่างทาง ก็ ชุ่มฉ่ำ เล็กน้อย กับ เทศกาล ลอยกระทง..
เอ้ย... สงกรานต์..

เลยแยกสาย5 ไป แวะพักดื่มน้ำที่ ซอยเทศบาล3 บ้านคนรู้จัก
แต่ไม่ได้ เข้าไป ทักเขาหรอกครับ
ไม่รู้็ จะไป ทำไม เหมือนกัน..55

แล้วก็ ย้อนกลับมาเลี้ยวซ้ายเข้า สาย5 จนไป ถึงที่นี่ครับ





ทางเข้าตลาด มีหลายทาง....ผม ก็ มั่วๆ ไป

ไปถึงตรงป้ายในภาพ ก็เลย เข้าไปทางนั้น
คนในตลาดเยอะ เอารถเข้าไปด้วย คงเกะกะ..
เลยหาทางเดินอื่น เพื่อตรงลงริมน้ำ..





ไปถึง กี่โมง ผม ก็ลืมเวลาแล้ว..55
แต่ แสงสวยจัง แดดเย็นๆ

ไปกับ คันนี้...ครับ




เดินไป อีกนิด..




ร้านเสริมสวย ได้ อารมณ์..




เรื่อง กล้วยๆ..




จากนั้น ก็ออกเดินทางกลับ..
ถามทางจาก คนแถวๆ นั้น เอาครับ
เข้าซอยตามที่ เขา บอก..
ข้างทาง..




จากซอย นั้น ก็มา ทะลุ ถนนเส้นนี้..




และจากนี้ ก็อยากกลับบ้าน แล้ว ล่ะครับ
เวลาที่ บันทึก ภาพข้างบนนั้น น่าจะ ประมาณ หกโมงเย็น แล้ว..

พอทะลุ มาออก เส้นสายสี่...
โอ้โห..ถนน หรือ ลานจอดรถ...
แบบว่า รถจอดเล่น สงกรานต์ กัน เต็มผิวถนน เลยครับ
รถขยับไม่ได้เลย แต่ เรา จักรยาน ไม่เกี่ยว..55

กะว่าจะใช้ ถนนสายใน ทะลุๆ ไป เรื่อยๆ
สายสี่ ทะลุ สายสาม ทะลุ สายสอง ไป กาญจนาฯ และ อื่นๆ

แต่ ไปได้ แค่ สายสาม กว่าๆ ก่อนถึง สายสอง มังครับ
่ดันไป โดน เศษกระจก ทิ่มเข้าที่ยางหน้า เสียอย่างนั้น..

โดน เมื่อไหร่ ไม่ทราบได้
มารู้ อีกที ตอน จอดแวะ แล้ว เห็นว่า ยางหน้า มัน อ่อนๆ
ลองดู เห็น เศษแก้ว เลย เอาออก..แล้ว ขี่ต่อ..55

ขี่จน ยางมันอ่อน...ไปต่อไม่ได้
ผมไม่ได้ เตรียมยางใน ไว้ด้วย..
ก็....เข็น.... สิครับ..55

เข็นไป สักพัก มี จุดเล่นสงกรานต์ เปิด เพลงดัง เลยล่ะ..
ตาก็ เหลือบไปมอง เห็นป้ายมีข้อความว่า " ปะยาง "
ดีใจจัง...เข็นรถข้ามไปขอเขา เติมลม

แล้วก็ขี่มาได้ถึงแค่ สายสอง ยางก็อ่อนอีก
ตอนนี้ ฟ้ามืดแล้ว..
มองไป เห็น ปั้ม..เลย ถาม มอเตอร์ไซค์วิน ว่า ที่ปั้มมี ปะยางไหม
เขาบอก "ไม่มีหรอก เขาปิดหมดแล้ว กลับบ้านเถอะ.."

แต่ผม ยังไม่ยอม ก็ลองเข็นไปที่ปั๊ม เผื่อ จะมีอะไรบ้าง..

ถึงปั๊ม.. ผมก็ทำได้แค่ เติมลม..เพราะไม่มี ร้านปะยาง
ตอนนี้ แหละครับ ที่ ลังเล ว่า หากขี่ต่อไปจะยังมีปั๊ม ให้เติมลมไหม..
อ้อ..ปั๊มนี้ อยู่ที่แยกทศกัณฐ์ ครับ

ผมขี่ วนๆ แถวนั้น สักพัก
เลย ตัดสินใจ พับรถ และเรียก แท็กซี่..55
นั่งรถมา ไม่ไกลมาก มีปั๊มจริงๆ ด้วย..
และ มาอีก ไม่ไกล ก็จะ ทะลุ เพชรเกษม แล้ว..

หาก ไม่ ถอดใจ คงกลับถึงบ้าน ได้ด้วยจักรยาน..

.

[DISS]

โพสวันที่ 04 พ.ค. 2009

“ บางขุนเทียน - บางน้ำผึ้ง ”

.

The boat..








The gang..






The door..






The X..






The NONG..






The BROOKS..






The PTT..






The road..






The LEE-LA..






The distance..



.

[DISS]

โพสวันที่ 11 พ.ค. 2009

“ เขาใหญ่ แต่ เราเล็ก ”

.









ออกเดินทางจากกรุงเทพ เช้าๆ
มาแวะรับทานกลางวัน ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว แห่งหนึ่ง

แม่ค้า..










จากนั้นก็เดินทางต่อ..










เหนื่อย ก็แวะ พัก..










และ ก็ มาถึง ที่พักคืนแรก..










อ่างเก็บน้ำ วังบอน..










มาถึง ก็ หาที่ กางเต้นท์..










เช้าวันรุ่งขึ้น...

อาหารเช้า...พร้อม ชมรถ ชมไม้..










เตรียมตัว ออกเดินทาง..










ออกเดินทาง กันแบบ สบายๆ..










ที่นี่แหละ...ที่ผม จะเข้าไปเก็บเกี่ยว ประสบการณ์ชีวิต..



หลังจากนี้ ก็ ไม่ได้เก็บภาพ เลย..จนถึง..








จุดชมวิว..



.

[DISS]

โพสวันที่ 27 พ.ค. 2009

“ วังน้ำเขียว ไหลเชี่ยวจริงๆ ”

.










ครั้งนี้ ไปกันทั้งหมด 5 คน 5 คัน คือ พี่จิ๊ป น้าก๊วก น้าน้อง พี่ไก่ และ ผม

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ วันเสาร์ โดยแยกกันไป และ นัดพบกันที่ ที่พักเดิม...
ผมไปทางเขาใหญ่ เพราะจะได้ชื่นชมธรรมชาติ และ ให้ พี่ชายผม ได้ลิ้มลอง ความเร้าใจ ไหลลงเนินสูง บนยอดเขาใหญ่ด้วย...









คืนนั้น ก็ อิ่มหนำกัน ร้านลุงชุบ และ แยกย้ายพักผ่อน..

เช้าวันต่อมา..
เมื่อเสร็จธุระส่วนตัว กันแล้ว ก็ รับทานอาหารเช้า และ เราก็พร้อมออกเดินทาง..









วันนี้ เราตัดสินใจกันว่า จะออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน กลุ่มใหญ่
เพราะ เรี่ยวแรงที่มีกันนั้น คงทาน ความแรงของกลุ่มใหญ่ไม่ได้
ยังไง ก็ต้อง โดนแซง ในที่สุด...

เวลาประมาณ เจ็ดโมงครึ่ง เราทั้ง 5 ก็ออกเดินทาง
ขี่ไปได้ ประมาณ 6 กิโลเมตร พี่ชายผม ยางระเบิด..พอดีตอนนั้น มีรถสองแถวมา
จึงเอารถจักรยาน ขึ้นรถสองแถว กลับไปซื้อยางและเปลี่ยน ที่จุดปล่อยตัว..

โดยผมขี่ตามไปด้วย...ยัง งง ทำไม ไม่ขึ้นรถ มาเสียทีเดียว
แล้ว แถมยังชวนให้ อีก 3 ท่าน ขี่กลับมาด้วย..55
พอผมนึกได้ เลย โทรบอก พี่จิ๊ปว่า ให้ล่วงหน้าไปก่อนจะดีกว่า..

ที่ วัดป่าเขาใหญ่ ซึ่ง เป็น จุดปล่อยตัวของทริปนี้
พี่ไก่ ก็ซื้อยาง และ มีท่านผู้ใจดี รีบ กุลีกุจอ อาสา เปลี่ยนยางให้เป็นที่เรียบร้อย
ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง..









เปลี่ยนเสร็จ ผม และ พี่ไก่ ก็ ออกเดินทาง กันจริงๆ สักที..
เส้นทางก็ เป็นเนิน เป็นเขา ไป เรื่อยๆ
เวลาลง ก็ มี หมอบ หลบลมกันบ้าง เพื่อความเร้าใจ..









ขี่ไปเรื่อยๆ ก็ เริ่มมี ผู้ร่วมเดินทาง มากขึ้น แล้วเขาก็ แซงกันไป..









เนินมันมาก ชันด้วย อาการแบบนี้ เป็นเรื่อง ปกติ..









เหนื่อยนัก ก็พักก่อน..









ไม่ได้มี เฉพาะ เรา...
คนอื่น เขาก็ เป็นกัน
มัน คือเรื่อง ธรรมชาติ









เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม









จะ เหนื่อย ยังไง
จะ ร้อน แค่ไหน
จะ เจ็บตรูด สักเพียงใด
แต่ ข้าฯ ก็ มาถึง..









ถึง จุดหมาย คือ ไร่ธันยพร ที่นี่เอง ที่ผม และ พี่ชาย เพิ่งจะได้ เจอ อีก 3 ท่านที่ ล่วงหน้ามาก่อน
ก็ รับทานอาหารที่เขาจัดไว้ให้....

พี่ไก่ ขอขึ้นรถกลับก่อน เพราะ ทริปนี้ คือ ครั้งแรกจริงๆ ซึ่งผมคิดว่า มาได้ ขนาดนี้ ก็ เยี่ยมมากๆ แล้วครับ..

ช่วงที่ รับทานอาหาร ฝนก็ตกเรื่อยๆ
จริงๆ ตกตั้งแต่ ผม ยังไม่ถึงไร่ แล้ว..

พอฝนซา พี่จิ๊ป น้าก๊วก น้าน้อง และ ผม ก็ ออกเดินทางกลับ
ขี่กันไป เรื่อยๆ ฝนตก ก็ลุยไป...เป็น ช่วงที่ สนุกสุขใจมากๆๆๆๆๆๆๆ

ระยะทาง เหลือน้อยลงเรื่อยๆ พี่ไก่ ที่ กลับไปก่อน ก็ ขับรถกลับมา หาอะไรรับทาน
แล้ว ก็ ขับตาม กลับมาด้วย กัน



ยิ้มทั้งน้ำตา..









อีกสักภาพ ใน จุดเดียวกัน









ใกล้ถึง ที่พักแล้ว..
เก็บภาพเดี่ยวๆ กัน สักหน่อย ได้มา เหมาะๆ สองคัน..

















ก่อนเก็บรถ ก็ เก็บภาพ สักนิด
ทริปนี้ ระยะรวมประมาณ 120
ประทับใจ สุด ก็ ตอนลุยฝน ล่ะครับ..55



.

[DISS]

โพสวันที่ 01 มิ.ย. 2009

“ วันเดียว เที่ยว สองจังหวัด ”

.












เช้ามืด วันนึง..
ผมมีนัดกับ ชายคนหนึ่ง..
เพื่อขี่รถไป..ป้อมพระจุลฯ

จากจุดนัดหมาย คือ หน้าโรงแรมรอยัลการ์เด้น
ใช้ถนนสุขสวัสดิ์ ยาวไปเลย..จนไปเลี้ยวขวา เข้าถนนไปป้อมพระจุลฯ

ช่วงถนนใกล้ๆ ถึงประตูทางเข้าป้อมพระจุลฯ












ไปถึงก็เห็น..











เดินไปชมริมน้ำหน่อย..







อ้าาาา..







อืมมมม...










ชาย..ในเงาดำ










แดด เริ่มสวยแล้ว..

รถเหล็ก กับ เรือเหล็ก..







ตระหง่าน..







เก็บภาพเสียหน่อย..










8 โมงเช้า.. เราก็ เดินทางกลับ












ถึงปากซอยบ้าน ก็ได้ ระยะ..

และ เริ่มนับ ระยะใหม่











จากนั้นผมก็ มุ่งหน้า องค์พระปฐมเจดีย์..
เส้นทางในเมืองก็เดิมๆ ไล่ออกไป จนถึง ชานเมือง

ถนน เลียบคลอง..







แวะลงสะพานข้ามคลอง ไป ถ่ายภาพ ทางรถไฟ (เหมือนไม่เคยเห็น..55)







ทะลุ ศาลายา ต่อไปเรื่อยๆ
แวะ ดื่มน้ำ ถามทาง ไปเื่รื่อยๆ
จนมาถึง...

เป็ด เรซซิ่ง...น่ารักดี










ตลาดท่านา นครไชยศรี










จากสะพาน เริ่มเข้า ชุมชน อีกครั้ง และมี แยกมากมาย...ทำให้ ผมหลงทาง จนได้
หลงแล้ว ก็ หลงอีก

จนไป เจอน้าคนนึง แกบอกให้ มาทางนี้สิ..แล้วจะดีเอง..







พอมาถูกทางแล้ว ผมยังคาใจ....เมื่อหลงแล้ว อยากรู้ว่า หลงมาจาก ตรงไหน
เลยขี่ย้อนไปดู เสียหน่อย เสียเวลา วน แถวนี้ ไปนานพอสมควร

พอรู้แล้ว ก็ เดินทางต่อ...
เส้นทางช่วงนี้ แดดร้อน บวกกับ เหนื่อยอ่อน......ขี่มาเรื่อยๆ จนเห็น ยอดองค์พระฯ...

เป็นภาพที่เห็นแล้ว ค่อยมีกำลังใจหน่อย







ถึง เสียที..



ถึงองค์พระฯ สักพักใหญ่ ฝนก็ลงอย่างหนัก
แต่ไม่นาน ผู้มีพระคุณ ก็เดินทางมารับ..55

.

[DISS]

โพสวันที่ 08 มิ.ย. 2009

“ เกาเหลา 70 โล ”

.





.

[DISS]

โพสวันที่ 16 มิ.ย. 2009

“ องค์พระ มาพูด ก็ไม่เชื่อ ”

.

ไม่ต้องบอก ว่า เราไปไหนกันมา..











ตั้งขบวน..













มาถึงแล้ว...










มากันอีก...










แต่มันที่ไหนเนี่ย...












ที่นี่ คือ...












มี พาหนะ ให้ยล มากมาย..












มอเตอร์ไซค์..










เก๋ง..










กระบะ..









โรงเรียน..









สิบล้อ..









ตู้เย็น รึ?..









จากนั้น เราก็ มุ่งหน้าไป จุดหมายหลัก นั่นคือ องค์พระปฐมเจดีย์

ไปต่อแล้วจ้าาาาา..









แล้วก็ ถึง..









ไม่พอเท่านั้น..

ที่องค์พระฯ เราได้ เจอ ท่านนักถีบฯ ผู้หนึ่ง
อาสา พาเราไป ชมรมจักรยานนครปฐม
เราก็ เชื่อคนง่าย จึง ตามไป..

ถึง ชมรมฯ ก็นั่งพัก ดื่มน้ำ ปัสสาวะ (อย่าอ่านติดกัน)

แล้วเราก็ไป พระราชวังสนามจันทร์ ต่อ
หวังจะได้ เก็บภาพ ภายในพระราชวังฯ

แต่..พอไปถึง

พอไปถึง อ้ายจะเบิ้น น้ำมัน
พอไปถึง อ้ายจะเปิ้น น้ำมัน
หื้อน้องแก้นควัน
ต๋ายจ้างมัน สาวมอเตอร์ไซด์

ไม่เกี่ยว นี่หว่า...




ปัจจุบัน พระราชวังฯ ไม่ อนุญาตให้ นำ พาหนะใดๆ เข้าไปแล้ว ครับ
ต้องจอด แล้ว เดินเท้า หรือ เช่ารถกอล์ฟ เที่ยวชมภายใน เท่านั้น..

พวกเราจึง ลง มติ ว่า...

ไม่ได้ กิน ดมกลิ่น ก็ยังดี..











จากนั้น ก็ เดินทางกลับ

บ้างก็ เลือกใช้ มอเตอร์เวย์..










จนมาถึง ร้านอาหารแพพิณทอง
ผมได้ข้อมูลมาว่า เป็นร้านแนะนำ จึงต้องแวะ ชิม เสียหน่อย
ทั้งๆ ที่ หลายๆ ท่าน ยังไม่อยากอาหาร..55

อาหาร บรรดา มี..









หลังจาก ชิมอาหาร พร้อม ชมวิวแม่น้ำ อย่าง เกือบๆ เพลิน
ได้ เวลา อันสมควร แล้ว

เรา ก็รีบ คว้า จักรยาน แล้ว ขี่ออกจากร้าน มาอย่างเร็ว...

อ่านแล้ว เหมือน ชักดาบไหม..



จริงๆ คือ ฟ้า ฮะ..

ฟ้า ครึ้ม มาเลย...
ก็ เตรียมตัว กันให้ พร้อมเปียก แล้ว ก็ ซัดยาว....

ขากลับ ตั้งใจว่า จะ เลี่ยงช่วง ถนนที่ยังไม่เสร็จ

เนื่องด้วย ผมไม่มี จี พี เอส
มี แต่ จี พี เอ๊ะ จึงพาเข้าผิดซอย...




แต่ ซอยที่ผิดนั้น กลับ เป็นประโยชน์ อย่างมาก
เพราะ พอเข้าไปสุดซอย ฝนก็ ลงมาอย่างหนัก พอดี

โดยใน ซอยนั้น เป็น ตึกการเคหะมังครับ มีหลายๆ ตึก
แต่ละตึก จะมี โถงบันไดที่ ชั้น1 ให้ พวกเราเข้าไป หลบฝนได้ สบายเลย
ก็ เลือกหลบ ตึกละ 3-4 คน..

เสียเวลาตรงนี้ ไปพอสมควร ทำให้ เวลา เลื่อนไปมาก

พอฝนซา และ หยุดในที่สุด
เราก็ออกเดินทางต่อ



ใกล้จะถึงแล้ว..









จบทริป พร้อมแสงตะวัน..









เกือบ สามหลัก แบบ ไม่ได้ตั้งใจ..



.

[DISS]

โพสวันที่ 19 ก.ค. 2009

อัพเดท เพิ่มเรื่อง เพิ่มภาพ วันที่ 30 ธ.ค. 2009


“ เกือบจะนอก แต่ได้แค่ ดอกบัว ”

.

ครั้งนี้ ตั้งใจจะไป ลาว กันเลยครับ
โดยไปสมทบกับ กลุ่ม พี่ธานินทร์ ที่ จะกลับเข้ามา โขงเจียม แล้ว จะ เข้าไปทาง ลาวใต้ อีกครั้ง

จองตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ ไว้ พร้อมเลย
สองที่ ผม และ พี่จิ๊ป

ก่อนเดินทาง ไม่กี่วัน เพิ่งทราบว่า
ทางสายการบินเขา ไม่อนุญาตให้ เข็นจักรยานขึ้นทั้งคันแล้ว
เราจึงต้อง แพ็ครถ ลงกล่อง ให้เรียบร้อย

วันเดินทาง ก็ไป ตามเวลา ปกติ
ถึง อุบลฯ เช้าๆ




บิน...









ถึงสนามบิน น้าเหน่งหนักแน่น มารับครับ ขอบคุณน้าเหน่ง นะครับ

ออกมาจากสนามบินไม่นาน ก็แวะ ร้านจักรยาน ร้านนี้ ครับ









แวะคุยกัน นิดหน่อย

เจ้าของร้าน..









ทริปนี้ พี่ศรีนคร ก็มาร่วมด้วยครับ
พอออกจากร้านจักรยาน ก็ แวะรับ พี่ศรีนคร ที่ สถานีรถไฟ









แล้วน้าเหน่ง ก็แวะซื้อ ซาลาเปา ขนมจีบ และ ชา กาแฟ
เอาไป รับทานกันที่ร้านน้าเหน่ง

ซาลาเปาร้านนี้ น้าเหน่ง เขา แนะนำ..









แล้ว ก็ มาถึง ร้านน้าเหน่ง
ประกอบรถ และ นั่งรับทาน ซาลาเปา ขนมจีบ กัน สักครู่..









จากนั้น ก็เริ่ม ออกเดินทาง ครับ
โดย กะว่า จะไป สวนกับ พี่ธานินทร์ ที่ ขี่ ย้อนกลับมา สนามบิน
เพราะ มีงานด่วน ต้อง จบทริปก่อน ไม่ได้ เข้าลาวไปด้วยกัน

ออกเดินทาง..









แล้ว เราก็ได้ เจอกับ พี่ธานินทร์ ที่ร้านอาหาร ริมทาง
พี่ธานินทร์ ได้แจ้ง แผนการเดินทางในลาว คร่าวๆ มาให้









อิ่มท้องแล้ว ก็ แยกกับ พี่ธานินทร์ ที่ร้านข้าว นั้น
แล้ว เดินทางต่อ

ผมจำไม่ได้แล้วว่า เขาเรียกแถวนี้ ว่าอะไร
แต่ ย่านนั้น จะมี บ้านที่ ทำฆ้องและกลอง ใหญ่ๆ ครับ

เราแวะ รับทานอาหาร กันแถวนี้
อาหาร ก็ เป็น เฝอ มังครับ คล้าย ก๋วยจั๊บ



ฆ้อง...









เจ้า้ของร้าน...









กลอง...









ก่อนที่จะแวะ ทานอาหาร
พี่จิ๊ป มีอาการ เหมือนเหนื่อยมาก หัวใจเต้น เร็ว

รับทานแล้ว นั่งพักแล้ว
อาการก็ ยัง ไม่ดีขึ้น จึง ตัดสินใจ โบกรถ ให้ พี่จิ๊ป ล่วงหน้าไป ที่พัก ที่โขงเจียมก่อน

ช่วงรอ โบกรถ พี่ศรีนคร ออกเดินทางไปก่อน
เพราะ เข้าใจว่า ผมจะขึ้นรถ ไปกับ พี่จิ๊ป ด้วย
แต่เปล่าครับ..
ผมส่งพี่จิ๊ปขึ้นรถ แล้วผมก็ ขี่มุ่งหน้าโขงเจียมต่อ

เวลาที่ เริ่มขี่คนเดียว ตอนนั้น
ผม เกิด ความรู้สึก "หลุด" ครับ
มันรู้สึกอิสระมากๆ เลย ตอนนั้น ไม่รู้ ทำไม และ อธิบายไม่ถูก

แต่มันเป็น ความรู้สึกที่ดีมากๆ ครับ

ถนนช่วงนั้น เรียบมาก เพิ่งราดยางใหม่ไม่นานเลยมังครับ









ขี่เรื่อยๆ มี เนินนิดๆ หน่อยๆ ถนนโค้งไม่มาก




ไหล ลงเนิน..









เห็นเลขทางหลวง สวยดี เลยรอ จนได้ เลขระยะ สวยๆ..









ยินดีต้อนรับ..









ผมขี่ไป เรื่อยๆ อยู่พักใหญ่
ก็มองเห็น ข้างหน้ามี นักเดินทางด้วยจักรยาน จอด พักอยู่ริมทาง
ในใจก็ ยัง สงสัย ว่า ใครนะ..

พอเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นว่า เป็น พี่ศรีนคร นี่เอง..55
พี่เขารอผม ครับ เพราะ เห็นว่า บนรถกระบะ มี พี่จิ๊ป นั่งไป คนเดียว
จึง จอดรอผม แล้ว ขี่ไปด้วยกัน..




ช่วงใกล้ถึง โขงเจียม เหมือนจะมี พายุ ครับ
ฟ้ามืดครึ้มมาก ลมก็แรงมากๆ ด้วย
ถ้ามาคันเดียว ก็ อาจจะมี หวั่นใจเล็กๆ..

เราจึงรีบขี่ ไปให้ถึงที่พัก
เพราะ เดี๋ยวจะมืดเกินไป และ ฝนจะลงเมื่อไหร่ ไม่รู้ได้




ไม่นานเราก็มาถึงที่พัก..
พร้อมฝนที่ เริ่มโปรยปราย
ที่นั่น มีพี่ปกรณ์ ซึ่ง ขี่กับพี่ธานินทร์ มาหลายสิบวันแล้ว และ มีพี่จิ๊ป ที่ล่วงหน้ามาก่อน รอต้อนรับอยู่

ก็ แยกย้าย ไป อาบน้ำ เพื่อ มา รับทานอาหารร่วมกัน
จำได้ว่า ขณะที่ไปถึงนั้น ที่พัก ไฟฟ้าดับ ครับ
แต่ผมเข้าใจว่า ระบบน้ำ คงไม่เกี่ยว มัง

แต่..
พออาบน้ำ สระผมไปได้ ไม่นาน น้ำหยุด ครับ..!!
ต้อง ออกมา เอาน้ำที่รถ ล้างหัว ล้างตา เพราะ แสบ..55

ก็ เอา แค่พอได้ครับ
เปลี่ยนเสื้อผ้า ไป กินข้าว ดีกว่า..


คืนนั้น เรารับทาน ปลาแม่น้ำโขง ครับ ผมลืมแล้ว ว่าเขาเรียกว่าปลาอะไร
เป็น ปลาสดๆ เอามาห่อฟรอยด์ แล้ว ย่าง เนื้อหวานดีครับ แต่ ก้าง จะเยอะหน่อย

เป็นอาหาร ที่มาถึง โขงเจียม แล้วต้องลอง...เขาว่าอย่างนั้น

บนโต๊ะอาหาร เราได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่อง เดินทางกลับ ของ พี่จิ๊ป
ตอนนั้น ผมเองก็ ลังเล ว่าจะไปต่อดีหรือเปล่า
เพราะ เพิ่งรู้ข่าว ว่าแฟนผม เป็นไข้หวัด2009 พอดี

ใจไม่สบาย ขี่ไป ก็คงไม่สุข..


สุดท้าย ก็ สรุปว่า กลับ พร้อม พี่จิ๊ป เช้าวันรุ่งขึ้นครับ

ตรงนี้ครับ ที่ ทำให้เกิด “ เกือบจะนอก แต่ได้แค่ ดอกบัว ”

มันเกือบแล้ว ที่จะได้ ไปขี่รถที่ ประเทศนอก..55



บนรถของลุงเจ้าของ ที่พัก ขณะเดินทางกลับ..
จะเห็น นักจักรยานถิ่นดอกบัว ในภาพด้วย









ณ.สุวรรณภูมิ..





ทริปนี้ ผมขอขอบคุณ พี่จิ๊ป ที่นี่ อีกครั้ง

.

[DISS]

โพสวันที่ 27 ก.ค. 2009

“ เรื่อยๆ เปื่อยๆ ”

.

วันอาทิตย์ 26/07/2552 ที่ผ่านมา...

ได้ลองไป สำรวจเส้นทาง
จุดหมาย คือ ที่ใด เชิญติดตาม ครับ





เวลา 6:30 วันอาทิตย์
ผม และ พี่จิ๊ป เริ่ม ออกตัวจาก ย่านเจริญนคร
มุ่งหน้าไปจุดนัดที่2 เพื่อไปเจอ น้าก๊วก และ น้าน้อง

เวลาประมาณ 7:40 ก็ ถึงจุดนัด คือ สี่แยกนึง บนอ่อนนุช
โดยวันนี้ มี ผู้ร่วมทาง ไปส่งอีก 1 ท่าน คือ พี่เป้ ซึ่งจะแยกกลับ แถวๆ ลาดกระบัง









แล้วก็ออกเดินทางกัน...
สายๆ แวะทานอาหาร ที่ร้านเป็ดย่าง คูณสิน....
จำได้ แต่ว่า หมูแดงที่นี่ อร่อยฝังใจ..

หลังจาก อิ่มหนำ ก็ เดินทางต่อ
ซึ่ง มา อีกไม่ไกลนัก พี่เป้ ก็ แยกกลับ..






ใกล้ถึงแล้ว..









แต่ ก่อนถึงจุดหมาย...
พี่จิ๊ป ขอแวะ ตรงนี้ก่อน..










ดูอะไรกัน...(ภาพโดย พี่จิ๊ป)









ไม่มีอะไรครับ แค่ ถ่ายภาพนี้..









ลองหันกล้องมา ก็ เป็นแบบนี้..









ยัง สู้..









เก็บภาพ สักนิด..









พักก่อนครับ..
ยังไม่ถึงจุดหมายเลย....
เดี๋ยวมาต่อ









เห็นป้ายแล้ว เลี้ยวเข้าไปเลย ดีกว่า..









ถึงแล้ว...
ป้าย เขา ๑๐๐ ปี....แต่ผม ถ่ายได้ ๐๐ ปี...55



ภาพนี้ บันทึก เวลา 10:28







จอดรถ ก็ เจอ เจ้าตัวนี้..









เนื่องจาก ต้องจอดรถห่างตัว
อีกทั้ง ไม่ได้ เอา สายล๊อคไป

น้าน้อง กับ น้าก๊วก ขันอาสา นั่งเล่น อยู่แถวนั้น
ผม และ พี่จิ๊ป จึง มีโอกาส ได้เดิน ถ่ายภาพ ครับ

ขอบคุณ น้าน้อง และ น้าก๊วก นะครับ




ดังนั้น จึง ออกเดิน.....

..









ตลาด..









อาม่า..









ชั้นสอง..









ข้ามสะพาน..









หุ่นกระป๋อง..









ป้าย..








ตลาดคลองสวน กิน พื้นที่ ถึง 2 จังหวัด
คือ สมุทรปราการ และ ฉะเชิงเทรา

หลังจากนี้ ถ้า จำไม่ผิด น่าจะ อยู่ ฝั่ง ฉะเชิงเทรา ครับ




แป๊ะหลี..









มะลิ..









คลั่งดารา..









แมวเตา..









จะข้ามกลับ ฝั่งสมุทรปราการ แล้วครับ..









หลังจากเดินชมตลาดฯ แล้ว
เราก็ มานั่ง ดูแผนที่ แล้ว คิดว่า จะเอา ยังไง ต่อไปดี

เพราะ รู้สึกว่า ยังพอมีเวลา

จึงออกจาก คลองสวน แล้วเดินทาง ต่อ...
เวลา ขณะนั้น ประมาณ 12:30









ขี่กันไป ตามทางเรื่อยๆ....

จากภาพ..

จะเห็นได้ว่า เงาของรถบนถนน จะ ลง ตรงๆ บนถนน เลย
ไม่ค่อย จะ เยื้อง สักเท่าไหร่

นั่น หมายถึง ตะวัน กำลัง เบ่งบาน
สาดแสง แรงร้อน มายัง โลก

รวมทั้ง 4 ชีวิต ที่เดินทางด้วยจักรยาน ณ. เวลานี้ด้วย
คงไม่ต้อง อธิบาย ต่อ..



ข้าม มอเตอร์เวย์..









ประมาณ 13:30
มาสะดุด อีกแล้ว..55


มาที่นี่ ได้ ภาพ พอร์ทเทรต มานิดหน่อย..

รถผม..









น้าน้อง..









น้าก๊วก..









พี่จิ๊ป..









ครบคน..









สาดสี ส่งท้าย โกดัง..









ออกมาหน่อย ก็ เจอ....









อ้า...

เข้าเขต จุดหมาย 2 แล้ว นะ..
16:07









ขี่ ต่อ..









และ แล้ว ก็ ถึง..
17:04









มาถึงตรงนี้ แต่ละคน มีอาการ เปลี้ยๆ
เพราะ ขาดอาหาร โดย ไม่รู้ตัว..55

จึง จัดไป...

ไม่ได้ ถ่ายภาพ นะครับ..
มือไม่ว่าง...ถือ ช้อน กับ ส้อม







หลังจาก รับทาน เรียบร้อย
ร่างกายก็ สดชื่น ขึ้น..

พอดีกับ แสงสุดท้าย ของวัน ที่กำลังจะลับไป..









สองสี..









ก่อนกลับ..กับแสง สุดท้ายของวัน
















ปิดท้าย ด้วยภาพนี้

สีหวานๆ กับ ความหวาน..









เราออกเดินทางกลับ จากบางปู เวลาประมาณ 19:00
น้าน้อง น้าก๊วก แยกกลับ ที่สี่แยก ศรีนครินทร์ ตัด อ่่อนนุช

ไม่ทราบว่า น้าก๊วก น้าน้อง ถึง บ้าน เวลาใด

ผมถึงบ้าน ประมาณ 21:40
พี่จิ๊ป ก็ หลังจากนี้ อีก นิด




ขอบคุณครับ

.

[DISS]

โพสวันที่ 02 ส.ค. 2009

“ กินไข่ ”

.

01/08/52


ณ.ร้าน









เครื่องดื่ม









ครบชุด









ซัด









ฟ้า สวย ดี มี มา สาม









พ่อค้า









เรือโยง




ขอบคุณครับ

.

[DISS]

โพสวันที่ 18 ส.ค. 2009

“ อำ - พะ - วา ”

.

15 - 16 สิงหาคม 2552


เวลา 7:00 น. ของ วันที่ 15 ที่ผ่านมา
มีนัด ไปค้างแรม กันที่ อัมพวา
ผู้ร่วมทริป ก็ พี่จิ๊ป น้าก๊วก น้าน้อง และ ผม

เรานัดกันที่ สถานีรถไฟฟ้า วงเวียนใหญ่
พอมากัน ครบ ก็ ออกเดินทาง โดยใช้ ถนนพระรามสอง ตรงยาวไปเลย..









ถนนบางช่วง โล่ง ดีเหมือนกัน..









โปร จริงๆ..









อีกไม่นานคงถึง..









ฟ้าสวยใส ใช้ได้อยู่..









ระหว่างทางก็ แวะพัก ตามปั๊ม มาเรื่อยๆ ครับ
จนมาถึง ช่วง นาเกลือ ที่อากาศร้อน พอควร
มองหา ปั๊ม ไม่เจอ....คงอีกไกล
เลย แวะที่จุดนี้
เป็น นาเกลือ ขายเกลือ ครับ แต่มี ตู้แช่น้ำ ด้วย..









บรรยากาศร้าน เพื่อชีวิต ดี...

มุมเมา..









ผมลองเดินไปดู อีกทางของร้าน ก็ เห็นภาพที่ดู อลังการดี
อาจจะเพราะผมไม่เคยเห็น

เป็น ฉางเกลือ ครับ
กองเกลือ สูงเกือบถึงหลังคา ของ ฉาง
สูงจาก พื้นน่าจะเกิน 3 เมตร

ที่เห็นขาวๆ หลังรั้วไม้ นั่นคือ เกลือ..









ฉางเกลือ อีกสักภาพ..









จาก บรรยากาศร้าน คงพอเดาได้ว่า เจ้าของ จะดูเป็น LOOK ไหน

เท่ห์ จริงๆ...









ออกจากร้านลุง ไม่นาน ก็ เจอป้าย..

ถ่ายไป อย่างนั้นแหละ ไม่ได้ จะไปหรอก..









แล้วก็ถึงป้าย ยินดีต้อนรับ..

เก็บภาพเสียหน่อย..









สีเสื้อ กับ สีท้องฟ้า ตัดกัน สวยงาม

ถึงทางแยกเข้าตัวเมืองสมุทรสงครามแล้ว..









ถึงตัวเมืองแล้ว เราก็ หาอาหาร รับทานกัน
จากนั้นก็ เดินทางเข้าที่พัก

ซึ่ง จริงๆ แล้ว วันนี้ มี โปรแกรม จะ ขี่รถเที่ยว ชมสถานที่ต่างๆ
แต่เอาเข้าจริงแล้ว..

ยกเลิกหมด...




เพราะ เมื่อถึงที่พัก "บ้านคุณเกล้า" ซึ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง
เวลาขณะนั้น 13:25 น.
ด้วย อากาศ ที่ร้อน เราเลย ลงเล่นน้ำ
และ เปลี่ยน โปรแกรม เป็น พายเรือแทน..55

เราเล่นน้ำกัน อยู่สักพัก
ก็ จัดแจงเรือ เพื่อ จะเดินทาง ไปชมแม่น้ำแม่กลอง เสียหน่อย

เรือพาย ลำใหญ่มาก..
แต่ ลุงเกล้า แกว่า...เบา...พริ้ว..

เอ้า...ลองดู
ขาไปก็ดี สบายเลย...เพราะ ตามน้ำ
พายไป สักพัก เริ่มหิว เลย แวะร้านอาหาร จัดมื้อใหญ่ ไป 1 มื้อ..55

อิ่มหนำ เสร็จสรรพ..
ลงความเห็น ร่วมกันว่า มาแค่นี้ คง พอแล้ว
เดี๋ยว ขากลับ ทวนน้ำด้วย ต้องใช้เวลานานแน่ๆ

ขนาด ขามา ยัง แย่ๆ


แล้ว ก็ จริงๆ ครับ
ทั้งลม ทั้งน้ำ พาย เป๋ไป เป๋มา..
กว่าจะถึง ก็ เริ่มเย็นแล้ว..

ระหว่างทาง ยังมี แวะพักซื้อ ไอศครีมวอล์ล..
เป็น เรือขายวอล์ล น่ะครับ..55





ช่วงที่เล่ามานี้ ไม่มีภาพ จากผม..
เพราะ ผมใช้เวลา ส่วนใหญ่ อยู่ในน้ำ ครับ
ต้อง ขออภัย..






พายเรือ กลับถึงที่พัก
ผมก็ ลงน้ำ ต่ออีก
จน เริ่มเย็น ก็ เตรียมตัว ไป ตลาดยามเย็น อัมพวา กัน..

เดินทางไป ตลาด ด้วยความเอื้อเฟื้อ จาก ลูก ของลุงเกล้า ขับรถไปส่งครับ



แล้วเรา ก็มาถึง..










คนมากจริงๆ ครับ
เพราะ นอกจากเป็น คืนวันเสาร์แล้ว
ช่วงนี้ยังเป็น ช่วงเทศกาลอาหาร ของ ที่นี่ อีกครับ..









มาถึง ก็เดิน ชมตลาด ไปเรื่อย ครับ..









เสื้อ อัมพวา..









น้ำอัดลม แบบโบราณ..









ลุงคนนี้ แก เรียกให้ชิม นะครับ..
ไม่ได้ เรียกให้ ซื้อ

" อย่าเดินผ่านความอร่อย.....เชิญหยิบ ชิมก่อนครับ...." แกว่า









โปสการ์ด..









กระปุกออมสิน..




















เช้าอีกวัน..

เรามี โปรแกรม ตักบาตร ครับ

ลุงเกล้า แกมา มองๆ หาทาง ให้ พระขึ้นมาให้เรา ใส่บาตร ได้ สะดวกๆ น่ะครับ
เพราะ เช้านี้ น้ำลง เราคงเดิน ลุยโคลน ลงไป ใส่บาตร ไม่ไหว..

ผม ยังไม่แน่ใจ ว่า จะได้ บุญ หรือ บาป...55









นั่งรอพระมา ก็ เก็บภาพไป..









อ้า....พระมาแล้ว

ต้องช่วยกันดึงเรือ ขึ้นมา บนโคลน









ก็ จัด..กันไป

น้าน้อง..









น้าก๊วก..









พี่จิ๊ป..









รับพร...กันนะ โยม...

แล้ว พ่อหนุ่ม เสื้อเทา ทำอะไร อ่ะ..55









ใส่บาตรเสร็จ ก็ อาบน้ำ รับทานข้าวต้มกุ้ง ที่ทาง ลุงเกล้า จัดไว้
แล้วก็ เตรียมตัวออกเดินทาง

ดอก อะไร ผมลืมแล้ว..เห็น เหลืองๆ สีจัดดี เลย เก็บภาพมา









เก็บภาพกับ ลุงเกล้า

พร้อม เดินทาง...









วันนี้ โปรแกรม คือ ขี่เที่ยวชม อัมพวา ก่อน เดินทางกลับ..

ที่แรกเลย คือ บ้านแมวไทย..









ตา สองสี..









วัดบางกุ้ง..









ลอดช่อง..









โบส์ถพระแม่บังเกิด..









ที่ โบส์ถนี้ เด่นที่ กระจกสีครับ
ลองดูงาน กระจก สักนิด..

สีสัน..สวยงาม









อีก สักบาน..









คงส่งท้าย ด้วยภาพนี้ ครับ




จากนั้น ก็ เดินทางกลับ..


ขอบคุณครับ..

.

[DISS]

โพสวันที่ 12 ต.ค. 2009

“ ครั้งแรก TP#1 ”

.

11/10/2552


ทริปนี้ คงเป็น ทริปแรกของทวีธาฯ

เรานัดพบกัน บริเวณปากซอยวัดกำแพง บนถนนราชพฤกษ์ เวลา 7:30 น.

ผมออกจากบ้าน เวลาประมาณ 6:50 น. กะว่า ถึงจุดนัด ทันเวลาพอดี
แต่ มันไม่เป็น เช่นนั้น...

พอออกตัว ผ่านแยกเพชรเกษม ตัด ราชพฤกษ์
รถผม มีอาการโซ่สะดุด คล้ายโซ่จะหลุดจากเฟือง

ผมยัง ใจเย็น ขี่ต่อไป ไม่หยุด..
อีกไม่กี่เมตร ต่อมา..โซ่ติด..ครับ
ขี่ต่อไม่ได้เลย....

จอดรถดู ก็เห็นว่า เฟืองหลังแตก..ฟันหายไป 1 ซี่ เลย
แล้ว รถผม มันมี เฟืองหลังอันเดียว เสียด้วย..
แบบนี้ จบ แน่ๆ..

ผม ก็รีบโทร แจ้ง ท่านmoddaeng ว่า คงไปร่วมมิได้แล้ว รถเสีย
ก็ คุยๆๆๆ กัน... ตกลงว่า จะกลับไปเปลี่ยนรถที่บ้าน แล้วค่อยมาใหม่

พอขึ้นแท็กซี่มุ่งหน้ากลับบ้าน ได้ไม่นาน
ท่านmoddaeng โทรมา บอกว่า..ท่านอื่นมากันแล้ว
และ ที่บ้าน ท่านสยาม มี รถให้เลือกใช้ บริการ...55

ผมจึง วนรถกลับไป จุดนัด อีกครั้ง
และในที่สุด ผมก็มีรถขี่ร่วมทริป จนได้..


เมื่อพร้อม เราก็ ออกเดินทางกัน โดยใช้เส้นทางในสวน
ผมไม่รู้จักเส้นทางช่วงนี้ เลยครับ แปลกใหม่ดี

ลัดเลาะในสวน จนมาออก สาย1 จึงเริ่มเก็บภาพ



ผู้ร่วมทาง..(ช่วงแรก)













จากนั้น ก็ มุ่งหน้าไปทาง ถนนกาญจนาฯ



แดดสวย ฟ้าใส..











พอถึง ถนนกาญจนาฯ ต้อง ยกรถ ข้ามสะพานลอย

และนี่ คือ รถคันที่ได้รับ ความเอื้อเฟื้อ จาก ท่านสยาม
ขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้ อีกครั้งหนึ่ง











บนสะพานลอย นี้ มีสายจากท่านArchyina แจ้งว่า กำลังตามมา สมทบ



สะพานลอย..











พอทราบว่า ท่านArchyina จะตามมา เราก็หาร้าน นั่งรอ
ระหว่าง รอ ก็ สนทนา กันไป

พอท่านArchyina มาถึง และ พร้อมกันแล้ว..จึงออกเดินทาง

ขี่ ตามทางไปเรื่อยๆ ผมก็ ไม่ค่อยรู้จัก เส้นทางนัก
ตามๆ กันไป..จนถึง ถนนอุทยาน



สวยสุดในไทย..











ตรงยาว บนอักษะ ไปข้ามแยก เพื่อเข้า ถนนข้างๆ สวนพุทธฯ



สามคัน..











จนมาทะลุ สาย 5 มุ่งสู่ สวนกล้วยไม้ ย่านดอนหวาย
โดยผม หวังว่า จะได้ ชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ที่นั่น ซึ่งจะเป็น มื้อแรกของวัน..

แต่เมื่อไปถึง..
ร้านก๋วยเตี๋ยวปิดครับ!!

แต่ก็ ok เพราะ มีบรรยากาศศาลาริมแม่น้ำ มา ชดเชย
วันนั้น น้ำขึ้นมาก น่าลงเล่นน้ำ เป็นอย่างยิ่ง..



สองลำ..











หรือที่ เราเดินทางมา ก็เพื่อ สิ่งนี้..



แก้กระหาย..











นั่งพัก กันที่ศาลาริมน้ำนั้น อยู่พักใหญ่
ก็ ออกเดินทางกลับ

มุ่งหน้า หา อาหาร..55



กลับแล้วนะ..











เดินทางกันมา เรื่อยๆ
โดยเฉพาะผม เรื่อย มากๆ เพราะ แรงหมด!!

และแล้ว ก็มาถึง แหล่งอาหาร



บ้านใจรัก..











แล้ว สิ่งที่ตามหา ก็ เรียงราย อยู่เต็มหน้า..55

ขอบคุณท่านmoddaeng มากๆ ครับ สำหรับอิ่มนี้



Big มื้อ..











ภาพรวมกันสักนิด..



เริ่มจากซ้าย..

moddaeng : ผมยังสะกดไม่ถูก ขอพิมพ์เป็น พี่ คม-กิด ก่อนแล้วกัน

fong : หรือ พี่หน่อง

DISS : แปลว่า ดิษ

สยาม : ตรงๆ พี่สยาม

Archyina : หรือ นัท หรือ นัด ไม่แน่ใจว่า สะกด ยังไง..55




ลองชมในแบบเคลื่อนไหว..

เป็นการอัพ youtube ครั้งแรก ของผม..55



เชิญครับ



ขอบคุณครับ

.