Step to win ตอน 10 รู้เพื่อชัย 2 (อ.ปราจิน)

ผู้ดูแล: ผู้สนับสนุนเวบ

ตอบกลับ
รูปประจำตัวสมาชิก
www.asiabike.com
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3428
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ต.ค. 2008, 14:25
Tel: 028877813-4,0811330063
team: AsiaBike
Bike: Wheeler-Haro-CSK-CKT-Manitou-A2Z-Wheeler Helmet-Hayes-Tacx-SixSixOne -DT Swiss-Masi -etc...
ติดต่อ:

Step to win ตอน 10 รู้เพื่อชัย 2 (อ.ปราจิน)

โพสต์ โดย www.asiabike.com »

รูปภาพ

6. รู้แก้

นักปั่นชั้นยอดจะรู้จักวิธีแก้ไขสถานการณ์ในสนามแข่งขันที่เกิดขึ้นได้ ค่อนข้างดี เช่น รถยางแตก โซ่ขาด ล้ม หรือหลุดกลุ่ม ในกรณีที่หลุดกลุ่มนักปั่นชั้นยอดจะทุ่มเทแรงกายขี่ไล่อย่างเต็มที่เกินร้อย เปอร์เซน อาจใช้ “จิตวิทยาทางการกีฬา”ด้วยการพูดเกลี่ยกล่อม ชักชวนให้เพื่อนนักปั่นคนอื่นๆช่วยขี่พลัดนำบ้างเพื่อเป็น”สิริมงคล” ถ้าโชคดีก็มีคนช่วยครับ!! แต่นักจักรยานไทย ชอบขี่ไล่จี้มากกว่าการขี่นำข้างหน้าเพื่อสร้างความเร็ว ทำให้ดูว่านักปั่นไทยในสายตาของนักปั่นต่างชาติชอบเอาเปรียบ ขาดน้ำใจนักกีฬา(เห็นแก่ตัว) อย่างไรก็ดีการขี่นำ(ผู้นำ: Leadershipคือผู้ที่คนอื่นอยากขี่ตาม) ทำให้กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ และประสาทสั่งงาน ทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย (Training Effect) ในทางที่ดีขึ้น ทั้งในด้าน ด้านแข็งแรง ความเร็วและความอดทน ถ้าหากเรารู้ว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหนในสามข้อนี้เราจะต้องรีบแก้ไขเพื่อจะได้ เป็นนักจักรยานที่สมบูรณ์แบบ (Perfect) นี่คือการรู้แก้เพื่อจะพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

7. รู้แพ้

แน่นอนไม่มีอะไรที่จะประสบความสำเร็จไปเสียทุกๆเรื่อง การแข่งขันกีฬาจักรยานก็ เช่นกัน วันหนึ่งเราอาจแพ้เพราะเรายังยึดถือวิธีการฝึกเดิมๆ ซึ่งมันได้ผลเมื่อในอดีต เช่นเวลาฝึกซ้อมไม่ดื่มน้ำจะทำให้ร่างกายอดทนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด ผลของการไม่ดื่มน้ำจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ (Dehydration) ทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น เลือดข้นทำให้ระบบไหลเวียนติดขัด ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายลดลงในที่สุดอาจเป็นลม แต่ถ้าเรารู้จักวิธีการดื่มน้ำ เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้ปกติคงที่ตลอดเวลา การทำงานของร่างกายยังคงประสิทธิภาพคงเดิมโอกาสที่จะแพ้คงน้อย ความพ่ายแพ้ในสนามแข่งเป็นเรื่องปกติ ถามว่ามีนักกีฬาคนใดบ้างที่ไม่เคยแพ้ ทุกคนล้วนมีประสบการณ์ด้านนี้มาทั้งนั้น สาเหตุที่แพ้เพราะ ซ้อมน้อย ประมาทคู่แข่ง เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขัน รถเสีย ฯลฯ ไม่ว่าจะแพ้เพราะเหตุใดก็ตาม เราต้องยอมรับความพ่ายแพ้นั้น กลับไปคิดทบทวนแก้ไขข้อผิดพราดเหล่านั้นเสียใหม่ เพื่อกลับไปแข่งขันในสนามต่อไป

8. รู้ชนะ

นักจักรยานชั้นยอดหลายคนเป็นผู้ชนะเกือบทุกสนาม ยกตัวอย่าง เช่น แลนซ์ อาร์ม สรองค์ นักปั่นชาวอเมริกันที่ชนะเลิศการแข่งขัน “ตูร์ เดอร์ ฟร๊องค์” 7 สมัยซ้อนติดกัน เพราะการฝึกซ้อมที่ทุ่มเท และเป็นระบบ ตามหลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการกีฬา ทำให้นักกีฬารู้ว่าตนเองจะชนะการแข่งขัน แต่ก่อนที่จะชนะคนอื่นนักกีฬาจะต้องรู้จักเอาชนะใจของตนเองให้ได้เสียก่อน โดยอาศัยองค์ประกอบ 5 ดี คือผู้สนับสนุนดี (Sponsor) อุปกรณ์ดี (Equipment) ร่างกายดี (Body) จิตใจดี (Mental) และมีโค้ชดี (COACH)เมื่อถึงเวลาต้องแสดงศักยภาพในการแข่งขันโอกาสจะชนะมีค่อนข้างมาก

หมายเหตุ : ผู้เขียนได้รับการสนับสนุนรถจักรยานแข่งขันและอุปกรณ์จาก คุณ สีมา เพิ่มยงค์ บริษัท เอเชียอินเตอร์เนชั่นแนลบิสสิเนสแอนด์เซลส์ จำกัด(ASIA BIKE) เป็นอย่างดีตลอดมาทำให้ประสบความสำเร็จจากการแข่งข้น

9. รู้อภัย

มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในสนามแข่งขัน เช่น เกิดอุบัติเหตุชนกัน(ให้อภัยนักแข่ง ด้วยกันที่ทำให้เราล้ม) หลงทาง(ให้อภัยผู้จัดที่ติดป้ายน้อยหรือไม่ชัดเจน) ถ้าคุณเป็นนักปั่นชั้นยอดต้องมีน้ำใจนักกีฬา(รู้ แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย)จะเข้าใจและให้อภัยเสมอการรู้จักการให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีทำให้ผู้ ให้เกิดความสุขขึ้นในใจอธิบายไม่ได้แต่รู้ว่านี่แหละคือผลของการให้อภัย แต่อย่า!ลืมให้อภัยตนเองด้วยนะครับ เพราะบ้างครั้งเราก็ตัดสินใจผิดพราดในสนามแข่งบางสนามได้เช่นกัน

10.รู้ใจกัน

นักจักรยานชั้นยอดจะรู้ใจกันครับ เพราะเคยฝึกซ้อมและแข่งขันมาด้วยกันกัน เรียกว่าเจอะเจอกันทุกสนาม เคยเหนื่อยหน่ายมาด้วยกัน เคยสมหวัง-ผิดหวังมาด้วยกัน สิ่งเหล่านี้มันเป็นเหมือนการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิตว่าต้องเกร็งขึ้น ทั้งในสนามแข่งขันและสนามชีวิตซึ่งมีปัญหาและอุปสรรค์มากมายในการดำเนิน ชีวิตบนโลกปัจจุบัน นักปั่นทุกๆที่ก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้มาได้จะเข้าใจถึงธรรมชาติของการแข่ง ขันกีฬาจักรยานว่ามันเป็นกีฬาที่มีทั้งความหวานชื่นและขื่นขม(สมหวัง-ผิด หวัง)สลับกันไป “ในสนามแข่งไม่มีคำว่าเพื่อน หลังการแข่งขันคุณคือเพื่อน” และเพื่อนจะเข้าใจเพื่อนเมื่อผ่านเส้นชัยไปแล้วครับ

กล่าวโดยสรุปหากต้องการความสำเร็จจากการแข่งขันจักรยานจำเป็นต้องลงมือ กระทำด้วยตนเองไม่ใช่เป็นแค่คิด แต่ต้องทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม ด้วยความมานะอดทน หนทางที่จะก้าวขึ้นสู้ความสำเร็จนั้นไม่ไกล การลงแข่งขันบ่อยๆ จะทำให้เกิดการพัฒนาทักษะในการแข่งขัน(R&D) และในที่สุดคุณจะค้นพบ 10 รู้เพื่อชัยคือ รู้เขา รู้เรา รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และรู้ใจกัน ส่วนการที่คุณจะนำเอาความรู้ส่วนไหนมาใช้ในสนามแข่งขันก่อน-หลัง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ (เป็นศิลป์) ในที่สุดคุณก็จะชนะครับขอให้โชคดีประสบความสำเร็จ.......




“ชัยชนะไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่ทุกสิ่งที่ทำเพื่อชัยชนะ”



อ่านบทความอื่นๆของ อ.ปราจิน ได้ที่
http://www.asiabike.com/main/index.php? ... &Itemid=28

AsiaBike:http://www.asiabike.com
FaceBook:https://www.facebook.com/AsiabikesThailand
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2887 7813-4
ตอบกลับ

กลับไปยัง “รวมสินค้าใหม่(กระทู้เดิม)”