***กลุ่มสากเหล็ก***

ผู้ดูแล: TheDeathMan

กฏการใช้บอร์ด
ชื่อชมรม Phichit Bike
ผู้ดูแล TheDeathMan / โทร 0846220237
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

รูปภาพ

เทคนิคการหายใจขณะขี่แข่งขันถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการแข่งขัน: ทำได้ดังนี้
1. ถ้าคุณหายใจไม่ทันขณะที่ปล่อยตัวออกไปอย่างรวดเร็ว คุณต้องฝึกการหายใจเข้า - ออกทุกๆ วันก่อนออกฝึกซ้อม
มีวิธีฝึกดังนี้
....1. ฝึกหายใจเข้าทางจมูกให้เต็มปอด และ เป่าลมออกทางปากจนหมดปอด จังหวะการหายใจให้หายใจลึกๆ ( ยาว ) ช้าๆก่อนทั้งเข้า - ออก
....2. ฝึกหายใจเข้า-ออกทั้งทางปากและจมูกพร้อมๆกัน จังหวะการหายใจเหมือนแบบที่ 1.
....3. รวมการหายใจแบบที่ 1+2 เข้าด้วยกันแต่เน้นจังหวะการหายใจที่หนักหน่วงแรงและเร็วเหมือนแข่งขันฯประมาณ 15-20 สะโตก( เข้า - ออก ) แล้วผ่อนการหายใจยาวๆเป็นแบบที่หนึ่งหรือสองจนกว่าจะรู้สึกว่าหายเหนื่อยดีแล้วก็ให้กลับมาเริ่มฝึกหายใจแบบที่สามอีก คือหนักหน่วงแรงและเร็ว ทำสลับกันอย่างนี้ใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที แล้วก็ออกไปฝึกซ้อม
หมายเหตุ: การฝึกแรกๆระวังหน้ามืดเป็นลม ต้องค่อยเป็นค่อยไป เมื่อร่างกายปรับตัวได้ดีแล้วคุณจะเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการหายใจว่า " นี่คือหัวใจของความอึด " ในการปั่นเสือที่คุณชอบครับ การฝึกหายใจเป็นประจำทำให้ปอดขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับฝึกประสาทควบคุมการหายใจให้รับรู้วิธีการหายใจในขณะแข่งขันฯ ทำให้คุณผ่านพ้น " ภาวะอึดอัด " ( หายใจไม่ทัน )ไปได้ ซึ่งจะเป็นผลดีในการปั่นแข่งขัน มากกว่าคนที่ไม่เคยฝึกเทคนิคการหายใจครับ แต่ทุกๆคนต้องหายใจเพื่อชีวิตเพียงแต่ว่าคุณหายใจได้ดีแค่ไหน ? โดยเฉพาะอากาศออกซิเจนที่คุณต้องการน่ะมากพอหรือยังครับ
สาเหตุที่มีอาการมึนๆก็เพราะว่าร่างกายเรายังไม่เคยชินกับการหายใจเร็วแรงอย่างนี้ ถ้าค่อยๆฝึกทำบ่อยๆร่างกายจะเคยชินกับวิธีการหายใจอย่างนี้ครับ แน่นอนเวลาหายใจเข้า ท้องเราต้องป่องออกมาครับเพราะมันเกี่ยวกับกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการหายใจหลายๆมัดเช่นกล้ามเนื้อหน้าท้อง,กล้ามเนื้อกระบังลม( เวลาที่เราหายใจลึกๆหน้าอกของเราจะยกขึ้น ) ด้วย ) เราจะใช้การหายใจแบบนี้เวลาเราปั่นเร็วๆครับ ( ไม่ว่าจะเป็น Interval หรือ Sprint ครับ ที่สำคัญ: เวลาหายใจออกต้องปั่น( ถีบ ) ให้ได้2-4 สะโตก พูดง่ายๆเมื่อเราออกแรงกดลูกบันไดลงเมื่อใดให้หายใจออกครับส่วนเวลาดึงลูกบันไดขึ้นให้หายใจเข้าครับ ใจเย็นๆ ให้เริ่มฝึกหายใจช้าๆก่อนแล้วค่อยๆเร่งการหายใจให้เร็วขึ้นในตอนท้ายประมาณ 5 -10 ครั้งแล้วก็ต่อด้วยการหายใจยาวๆลึกๆเป็นการผ่อนคลายจนกว่าจะหายเหนื่อยครับ หมายเหตุ : การหายใจที่มีประสิทธิภาพจะยาว - ลึก จะช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับออกซิเจนมากขึ้นตามที่ร่างกายต้องการ และทำให้คุณขี่ขึ้นเขาได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ จำไว้ว่าเมื่อร่างกาย " พ้นภาวะหายใจไม่ทัน " ไปแล้วจังหวะการหายใจจะเปลี่ยนมาเป็นการหายใจที่ ยาวๆ ลึกๆแทน เสมอ " ครับ โชคดีครับพี่น้องชาวเสือ


รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

@@ปั่นเดี่ยวเมษายน57ขุนหาญ-วังทรายพูน 4วัน 650กม.""

พัก ทานอาหารกลางวัน สี่แยกปราสาท ตรงนี้มีทางลัดเข้ากทม.ด้วย

รูปภาพ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

รุ่นนี้ ทางอีสานขายดี

รูปภาพ

ไครที่คิด จะซื้อหลังคาแบบนี้

รูปภาพ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

ของที่ระลึก
รับเสื้อจักรยานของ forz จำนวน 1 ตัว
นายอำเภอ ยอดนักปั่น..

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=954267
ไฟล์แนบ
aYirup[1].jpg
aYirup[1].jpg (79.6 KiB) เข้าดูแล้ว 728 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

@@ปั่นเดี่ยวเมษายน57ขุนหาญ-วังทรายพูน 4วัน 650กม.""

สังเกตุ ต้นไม้ใหญ่ ในนา ยังมีไห้เห็น

รูปภาพ


รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

@@ปั่นเดี่ยวเมษายน57ขุนหาญ-วังทรายพูน 4วัน 650กม.""



มาไม่ตรง พระอาทิตย์ ตกตรงประตูหน้าหลัง

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

ราชบุรี http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=970025


ลุงเนตร http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... start=8475

ทริปชัยนาท 3สิงหา http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=977309

ถ้าดูจากการแข่งขันในรายการต่างๆ แล้ว เรามักจะพบว่าบรรดาเหล่านักปั่นอาชีพเหล่านี้จะขึ้นยืนโยกโชว์บั้นท้ายเมื่อ เจอเนินหรือภูเขา ซึ่งความจริงแล้ว การยืนปั่นนั้นจะเป็นการออกแรงเหยียบลูกบันไดพร้อมกับดึงแฮนด์สลับกัน การกดลูกบันไดซ้ายทีขวาที จะได้ประสิทธิภาพดีกว่าการนั่งปั่นแต่ใช้พลังงานมากกว่า และเหนื่อยเร็วกว่า และที่สำคัญรักษารอบขาได้ยากกว่า เพราะฉะนั้นการยืนปั่นจึงเหมาะกับการเร่งความเร็วเพื่อโจมตีหรือหนึคู่แข่ง สำหรับเราๆ ท่านๆ แล้วการนั่งปั่นดูจะเหมาะสมและยังเป็นวิธีที่ค่อยๆ พาเราไปพิชิตยอดเขาก่อนที่จะต้องเดินลงมาเข็นเพราะเสียแรงก่อนที่จะต้องเดิน ลงมาเข็นเพราะเสียแรงไปโดยใช่เหตุ แต่สำหรับเพื่อนๆ นักกีฬาที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างพอสมควร การยืนนอกจากจะช่วยเร่งความเร็วได้แล้ว ยังเป็นการช่วยแก้อาการเมื่อยโดยเฉพาะหัวไหล่และต้นคอ และที่สำคัญที่สุดก็คือบั้นท้ายของเรานั่นเอง

อยากจะขึ้นเขาแต่ไม่สนใจเรื่องน้ำหนักตัวเห็นทีจะเป็นไปได้ยาก อยากทราบไหมครับว่าน้ำหนักตัวมีผลต่อการปั่นจักรยานขึ้นเขามากแค่ไหน หากเป็นพื้นที่ราบน้ำหนักตัวคงไม่มีผลมากมายต่อการสูญเสียแรงปั่น แต่กับการขึ้นเขาแล้วเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าต่อให้รถที่คุณใช้เบาแค่ไหน หากเราแบกน้ำหนักตัวที่เกินพิกัดไปด้วย รถที่เบาก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วสูตรของการคำนวนน้ำหนักตัวที่เหมาะสมกับส่วนสูง มีไหมละ และพอจะมีสูตรไหนที่พอจะนำมาใช้ได้บ้าง วิธีที่มักจะใช้กันก็คือ เอาส่วนสูง แล้ว ลบด้วย 100 ก็จะได้น้ำหนักตัวที่เหมาะสม ส่วนผู้หญิงให้ลบด้วย 110 แต่สำหรับนักปั่นที่ต้องการจะทำการปั่นขึ้นเขาได้ดีแล้ว สูตรการคำนวนนี้ยังไม่เพียงพอ เพราะอย่างคอนทาดอร์ สูง 177 แต่น้ำหนักตัวเพียง 62 กิโลกรัมเท่านั้น หรือแม้แต่รองแชมป์อย่าง เชร็ก ก็มีส่วนสูงถึง 186 แต่น้ำหนักตัวเพียง 67 กิโลกรับเท่านั้น จะเห็นได้ว่าทั้งสองคนมีน้ำหนักที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างมากหากน้ำหนัก ตัวของทั้ง 2 คนมาลบด้วย 100 สรุปแล้วหากคุณอยากที่จะปราดเปรียวดุจพญาอินทรีย์และพร้อมทะยานขึ้นภูเขา ก็ต้องหันมาดูแลเรื่องโภชนาการกันหน่อย

การปั่นจักรยานไม่ได้ใช้แค่กล้ามเนื้อขาเท่านั้นที่ออกแรงกดลูกบันไดให้ จักรยานพุ่งออกไปข้างหน้า แรงดึงจากข้อเท้า แขนและหัวไหล่ล้วนแต่เป็นเทคนิคชั้นสูง แต่หัวใจสำคัญที่ไม่แพ้ 2 ขาที่ต้องคอยส่งพลังอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ “การหายใจ” ทั้งสองสิ่งนี้จะต้องทำงานร่วมกันเพราะการหายใจจะเป็นการนำเอาออกซิเจนไปให้ กับกล้ามเนื้อ และเผาผลาญอาหารทำให้เกิดพลังงานแก่กล้ามเนื้อ แต่นักจักรยานส่วนใหญ่ยังหายใจกันไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องสูญเสียพลังงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องอยู่บนภูเขาสูงๆ จะทำให้เหนื่อยได้ง่ายกว่าปรกติ การหายใจที่ถูกต้องจะเห็นผลอย่างชัดเจนเมื่อปั่นอยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำ ทะเล โค้ชทีมชาติสหรัฐอเมริกาและนักปั่นมืออาชีพอย่าง Skip Hamilton มีเทคนิคการหายใจที่เรียกว่า การหายใจสลับข้าง (Switch Side Breathing) อธิบายง่ายๆ ก็คือ พยายามหายใจข้างที่เราไม่ถนัด ซึ่งปรกตินักปั่นจักรยานส่วนมากจะหายใจโดยหันหน้าไปทางขวา วิธีนี้แค่ลองฝึกหันไปทางซ้ายแล้วฝึกหายใจเข้าออกยาวๆ กับการปั่น 5-10 รอบและพยายามใช้วิธีนี้บนภูเขาด้วยนะครับ มีอีก 2 วิธีที่สามารถนำไปฝึกบนภูเขา

วิธีแรก จะใช้การปั่นแบบ 4 สโตร๊ค คือ เมื่อหายใจออกให้ถึบลูกบันไดให้ได้ 2 ครั้ง และ เมื่อหายใจเข้า ให้ดึงหัวเข่าขึ้นให้ได้ 2 ครั้งเช่นกัน จังหวะหายใจ (1 2 – 3 4)

วิธีที่สอง เหมาะกับระดับความชันที่เพิ่มมากขึ้น ใช้การปั่นแบบ 2 สะโพก คือ เมื่อหายใจออกเร็วขึ้น ให้ถึบลูกบันไดลง 1 ครั้ง และ ดึงหัวเข่าขึ้นอีก 1 ครั้ง เมื่อหายใจเข้าเร็วขึ้น จังหวะการหายใจ (1 – 2)

เมื่อคุณได้รู้เทคนิคต่างๆ มาเป็นแนวทางแล้ว แต่หากไม่รู้จักวิธีใช้มันหรือไม่มั่นใจว่ามันควรจะใช้ในเวลาใด ความรุ้เหล่านั้นก็ไม่มีความหมาย ซึ่งเทคนิคอันสุดท้ายก็คือ การใช้ความรู้ที่จะเลือกเทคนิคต่างๆ ให้เหมาะสมกับตนเอง การจะเป็นนักจักรยานที่ดีนั้น คุณต้องเป็นคนช่างสังเกตุและใส่ใจในข้อมูลต่างๆ เช่นความชันประมาณนี้ เราเหมาะที่จะใช้รอบขาประมาณเท่าไหร่ หัวใจทนได้ไหม จังหวะไหนที่ควรจะจิบน้ำหรือจังหวะไหนที่ควรยืนปั่น ตรงไหนควรนั่งปั่น บางครั้งการได้อยู่ในสถานการณ์จริงๆ คุณไม่สามารถที่จะทำตามตำราหรือเทคนิคใดๆ ได้ แต่ทุกสิ่งจะขึ้นอยู่กับสติปัญญาของคุณว่าจะแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่อย่างไ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

@@ปั่นเดี่ยวเมษายน57ขุนหาญ-วังทรายพูน 4วัน 650กม.""

วันนี้เริ่มที่นางรอง.

รูปภาพ

โคราชอีก 100กม.

รูปภาพ

รูปภาพ
ถ่ายย้อนกลับ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

@@ปั่นเดี่ยวเมษายน57ขุนหาญ-วังทรายพูน 4วัน 650กม.""
จากนางรอง มีดอกไม้ไห้ชม ตลอดเส้นทาง ทั้งรังผึ่ง
รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ[/url

] [url=http://image.ohozaa.com/view2/xHGHMgBSU0u3mTGz]รูปภาพ


รูปภาพ

รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย hs6rpj เมื่อ 09 ก.ค. 2014, 17:24, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

แก้ไขล่าสุดโดย hs6rpj เมื่อ 07 มิ.ย. 2014, 11:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

สมัค ใจเกินร้อย ชัยนาท


http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=977309

ลงรายชื่อ http://www.chainatcity.go.th/bike/bike.php


ปั่นวันเดียว300กม. http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=964000
เมื่อต้นปี2013 มีการติดต่อจากประเทศไทยไปยัง Audax Club Parisien (ACP) เพื่อขอสิทธิในการจัดขี่(แข่ง)จักรยานแบบAudax หรือ Randonneur ขึ้นในประเทศไทย ตลอดปี2013 มีการพัฒนาเส้นทาง, พัฒนาเครือข่ายนักปั่นและผู้จัด, ศึกษาดูงาน, ทำความเข้าใจในแนวคิด กฎ และกติกาของการขี่(แข่ง) ขณะนี้เป็นช่วงปลายปี2013 เรากำลังเริ่มทดสอบเส้นทาง200กิโลเมตรเป็นครั้งแรก กำลังจะตามมาด้วย300กิโลเมตร เพื่อจะจัดขี่(แข่ง)ตามปฏิทินการแข่งขันปี2014พร้อมๆกับประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงขอเปิดกระทู้นี้เพื่อต้อนรับทุกๆท่าน มาแลกเปลี่ยนความรู้ ตั้งคำถาม ตอบข้อสงสัย และเสนอแนะความคิดเห็น เพื่อเผยแพร่รูปแบบการขี่(แข่ง) Audax Randonneur ให้แพร่หลายมากขึ้นในวงกว้าง

ถาม: Audax Randonneur อ่านว่าอะไร
ตอบ: ออ-แดก__แรน-โดน-เนอ

ถาม: ตกลง Audax หรือ Randonneur
ตอบ: ได้ทั้ง2อย่าง ที่ประเทศอเมริกาจะเรียก Randonneur อังกฤษ, ออสเตเรีย, ญี่ปุ่น เรียก Audax ฝรั่งเศสเรียก Randonneur แต่Clubใหญ่ที่ควบคุมกฎและการแข่งขันทั้งหมด เรียก Audax Club Parisien ซะงั้น เป็นความสับสนของการใช้ภาษา ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่จึงเรียกรวม เป็น Audax Randonneur ซะเลย

คนที่ขี่เสือหมอบมาก่อนจะมักเรียกว่าAudax ส่วนคนที่ขี่Touring สะสมจักรยานวินเทจ จะรู้จักในชื่อ Randonneur

ถาม: แล้วตกลงการขี่(แข่ง) Audax Randonneur คืออะไร
ตอบ: ทีมงานผู้ก่อตั้งคนไทยพยายามจะหาคำจำกัดความที่ง่ายที่สุดในการอธิบาย Audax Randonneur และคิดว่า "แรลลี่จักรยานทางไกล" น่าจะเป็นคำจำกัดความที่ใกล้ที่สุด กล่าวคือ
- เป็นการขี่จักรยานที่ต้องพึ่งการใช้แผนที่ และทำความเข้าใจเส้นทางเอง
- เส้นทางการขี่เป็นวงกลมย้อนกลับมาจุดเริ่มต้น
- ต้องขี่ไปพร้อมใบประทับตรา แล้วนำไปประทับตามจุด และ ภายในเวลาที่กำหนด ไม่มีการติดป้ายเลยหมาย
- มีกรอบเวลากำหนดในการขี่(แข่ง) คือ
--- 200กม. ไม่เกิน 13ชั่วโมงครึ่ง
--- 300กม. ไม่เกิน20ชั่วโมง
--- 400กม. ไม่เกิน27ชั่วโมง
--- 600กม. ไม่เกิน40ชั่วโมง
- นอกจากกำหนดกรอบเวลาต่ำสุดแล้ว ยังมีการกำหนดเวลาสูงสุดไม่ให้ขี่เร็วเกินด้วย จุดควบคุมจะเปิดตามเวลาเท่านั้น ถ้าขาแรงมาถึงก่อนเวลาเปิด ต้องรอจุดเปิดถึงจะได้รับการประทับตรา
- เป็นการขี่แบบกึ่งพึ่งตนเอง ต้องพาตัวเองไปยังจุดประทับตราให้ได้ ระหว่างทางไม่มีการให้น้ำให้อาหาร ไม่มีการบำรุงรักษา ห้ามไม่ให้มีรถตามโดยเด็ดขาด รถของทีม หรือรถส่วนตัวสามารถให้การสนับสนุนน้ำและอาหารตามจุดควบคุมได้เท่านั้น
- เป็นการขี่แบบไม่จำกัดรูปแบบ ใครจะใช้เสือภูเขา รถTandem รถนอน เสือหมอบ รถพับ ขี่เดี่ยว ขี่กลุ่ม(ในกรณีที่ขี่กลุ่มห้ามมีการติดป้ายหรือทำสัญลักษณ์ว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม) ตราบใดที่ใช้แรงคนถีบ ได้หมด
- ระหว่างทาง ใครใคร่พัก พัก, ใครอยากหยุดทานข้าวข้างทาง เชิญ, หยุดนวดเท้าก็ได้ หยุดช่วยเพื่อนที่ยางแตกก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง แต่ห้ามรับการช่วยเหลือจัดตั้งที่เตรียมมาเป็นอันขาด
- ความปลอดภัย และ การเคารพกฎจราจรเป็นเรื่องสำคัญมาก ห้ามขี่สวนเลนจราจร ต้องมีไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน
- การขี่ตอนกลางคืน ขอเน้นย้ำอีกทีว่า ระบบไฟส่องสว่างสำคัญมากถ้าอุปกรณ์ไม่ครบ ผู้จัดมีสิทธิ์ไม่อนุญาติให้ลงแข่ง
- การลงโทษการทำผิดกติกา ถ้าไม่รุนแรงจะลงโทษด้วยการเพิ่มเวลาการขี่ 1-2 ชั่วโมงแล้วแต่ทีมงานจะพิจารณา ถ้ารุนแรง อาจถึงปรับให้ออกจากการแข่งขัน
- ผลการแข่งขันจะบันทึกเวลาที่เข้าเส้นชัยด้วย แต่จะไม่ประกาศผลตามเวลา ประกาศผลตามลำดับอักษร

ถาม: Audax Randonneur คือใคร
ตอบ: ก่อตั้งโดยคุณ Bob Usher นักปั่นจักรยานอาวุโสอายุ 85 พื้นเพเป็นชาวอังกฤษ แต่อยู่เมืองไทยมากว่า30ปีจนได้ชื่อพระราชทานเป็นภาษาไทยว่า นาย เกตุ วรกำธร ร่วมกับนักจักรยานสมัครเล่นวัยกลางคนรุ่นลูกอีกท่านหนึ่งที่แค่อยากจะปั่นจักรยานแบบAudax Randonneur ในเมืองไทย แต่ไม่มีสนามแข่ง จึงเขียนจดหมายไปคุยกับACP ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้ง2คนชื่นชอบการปั่นจักรยานทางไกล และมีเจตนาที่จะโปรโมทการขี่จักรยานทางไกลโดยไม่ใช้ประกอบเป็นอาชีพ ผู้ก่อตั้งได้รับสิทธิในการเป็นตัวแทนของACPอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีชื่อว่า Randonneurs Thailand

ภายใต้สิทธิ์การเป็นตัวแทนของACP, Randonneurs Thailand เปิดรับผู้จัดทุกๆท่านที่สามารถทำตามเงื่อนไขที่กำหนดของทางAPC, ผู้จัดการแข่งขันครั้งแรกที่ Randonneurs Thailand ขึ้นทะเบียนกับทางACPคือกลุ่มCentral ฝึกปั่นทางไกล โดยเฮียฮ้อ ที่ร่วมพัฒนาและทำความเข้าใจการจัดขี่(แข่ง)ร่วมกันกับ Randonneurs Thailand มาตั้งแต่ต้น


----------------------------------------
ตอนนี้ขอแจ้งข้อมูลเบื้องต้นเท่านี้ก่อน เดี๋ยวจะยาวเกินไป จะค่อยๆทยอยลงข้อมูล พูดคุยและตอบคำถามไปเรื่อยๆนะครับ

Audax Randonneurs Thailand มี Facebookเป็นของตัวเองคือ
facebook.com/AudaxThailand
มีข้อมูลในPageดังกล่าวมากพอสมควร ทีมงานจะค่อยๆทยอยถ่ายข้อมูลมาลงในกระทู้นี้ให้ทันๆกันครับ

Facebook ของ กลุ่ม Central ฝึกปั่นทางไกล โดยเฮียฮ้อ
facebook.com/Audaxtraining
และแน่นอนว่าติดตามกระทู้ชวนปั่นได้แทบทุกอาทิตย์ในThaiMTB โหดบ้าง เบาบ้าง คละเคล้ากันไป

สรุปว่ามีศูนย์กลางข้อมูล2ที่ คือกระทู้นี้ และในFacebookนะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***มิถุนายน 57***

โพสต์ โดย hs6rpj »

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=964000

ลองมาดูว่า การเตียมตัว ปั่น300โลวันเดียวไห้เวลา20ชั่วโมง

ซ้อมเท่าระยะจิงมัมโหดมากสำหรับ100โลหลัง

เริ่ม05.30ล้อหมุน

ภาพถ่ายเมื่อได้50โล ที่วังทอง

วังทรายพูน วังทอง จอดพักทานข้าววัดตายม จุด2ห้องน้ำอบต.หนองพระ


รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย hs6rpj เมื่อ 23 มิ.ย. 2014, 10:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

มีไรกันเดือน มิถุนายน 57**

โพสต์ โดย hs6rpj »

:Phttp://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=54&t=964000

พักเข้าห้องน้ำ ครั้งที่2ปั่มปท.หน้าค่ายสลิต

อาหารอีกครั้ง ที่วัดตายม (โจ๊ก)ตรงนี้ขาวลาดแกง55

ละยะทางตรงนี้63.49กม.


รูปภาพ

สังเกตุตรงนี้

ห่างกัน1ชั่วโมง

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
hs6rpj
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 21:12
Tel: 0813790703
Bike: trek

Re: ***กลุ่มสากเหล็ก***

โพสต์ โดย hs6rpj »

ลองมาดูว่า การเตียมตัว ปั่น300โลวันเดียวไห้เวลา20ชั่วโมง

11โมงครึ่งเติม ขาวผัดร้านป้าเจ้าเก่า อีก1

รูปภาพ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “พิจิตร Bike”