ขอบคุณพี่ธานินทร์และน้องออยที่ช่วยบันทึกเหตุการณ์ที่น่าสนใจครับ
วันนี้จำได้เปล่าค่ะ น้าพิศ เคยเขียนกระทู้เดิมไว้ที่ 9/11 สงคราม............มหันตภัย ที่มนุษยชาติก่อขึ้น September 11, 2001
ขอบคุณน้องออย ผมลืมกระทู้ตัวเองเสียสนิทเลย
สงคราม.............มหันตภัย ที่มนุษยชาติก่อขึ้น
http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=107335
http://911research.wtc7.net/talks/towers/index.html เป็นที่ฮือฮาสมกับเป็นดาวค้างฟ้าครับ..... เพชรา เชาวราษฎร์
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1254271776
http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000114247 
น้าพิศ...ชิงเปิดตัวกระทู้ไปเสียแล้วแค่ห่างครึ่งนาทีแล้ว ฉันตามมาโพสต์ทับไม่ทัน เห็นคลิปวีดีโอแล้วบอกว่า ใช่ คุณป้าเพชรายังสาวพริ้งดีอยู่ และการมองเห็นเป็นตาบอดแต่ตาใสจริงๆ เมื่อยอมรับงานถ่ายโฆษณามิสทีน ฉันได้เห็นดวงตาเพชรา โดยไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ
พี่สมพิศช่วยเสริมความเห็นหน่อยครับโพสต์ทูเดย์ เขียน:เบื่อเอ็นจีโอต้านโรงไฟฟ้า พลังงานห่วงแผนผลิตไฟ
หนังสือพิมพ์ "โพสต์ทูเดย์" วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
กระทรวงพลังงานห่วงโรงไฟฟ้าใหม่ โดนม็อบต้าน สร้างไม่ได้ อาจกระทบแผนผลิตไฟฟ้าของประเทศ
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) 2007 ว่า ขณะนี้การก่อสร้างโรงไฟฟ้า แห่งใหม่ตามแผนพีดีพี กำลังถูกต่อต้านจากกลุ่มองค์กรเอกชน ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ซึ่งสังเกต ได้ว่าโรงไฟฟ้าทุกประเภทไม่ได้รับการสนับสนุน ไม่ใช่เพียงแค่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือถ่านหิน เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลด้วย
“ทั้งนี้ ล่าสุดที่มีการออกมาเคลื่อนไหวคือ โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ซึ่งจัดเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาด และยังช่วยลดภาวะโลกร้อน ก็ยังถูกต่อต้าน ควรจะคำนึงถึงการผลิตไฟฟ้าของประเทศในอนาคตด้วย ซึ่งปัจจุบันตัวเลขสำรองไฟฟ้าที่ระบุไว้ว่ามี 29% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด แต่ถ้าพิจารณาถึงกำลังการผลิตจริงไม่ได้สูงขนาดนั้น โดยเรื่องนี้คงต้องมีการทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น” นายพรชัย กล่าว
นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยอมรับว่า ขณะนี้โครงการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานลมที่เขื่อนลำตะคองของกฟผ. ที่ได้เปิดขายซองประมูล ไปเมื่อวันที่ 4 เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ซื้อซองจำนวน 10 กว่าราย กำลังถูกต่อต้านจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวในท้องที่ โดยเรียกร้องให้มีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก่อนที่จะยื่นประกวดราคา
ทั้งนี้ ตามระเบียบวิธีประมูลต้องเปิดขายซองราคาก่อน หลังจากนั้นจึงจะให้เวลาเตรียมตัว ดำเนินการตามเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้ลงทุนในโครงการ และจะเปิดให้ยื่น รายละเอียดของโครงการ และ อีไอเอ ภายใน 45 วัน ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาตัดสินใจเลือกผู้ลงทุนได้ในช่วงต้นปี 2553
“ขั้นตอนหลังคัดเลือกจะต้องเสนอครม. เห็นชอบ และโครงการที่ได้ก็จะต้องผ่านขั้นตอนการทำ อีไอเอ หากทำไม่ผ่านก็ไม่สามารถเดินหน้าก็จะเป็นเรื่องปกติแบบนี้” นายสมบัติ กล่าว
“เราใช้ก๊าซฯ ผลิตไฟ 70% มีความเสี่ยงทั้งความมั่นคงและราคา จึงต้องกระจายแหล่งเชื้อเพลิง ซึ่งในที่สุดไทยก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ ในโลกที่อาจหนีพ้นนิวเคลียร์” นายสมบัติ กล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติม :-
เหตุการณ์บุกจับขบวนการค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ ครั้งใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 12 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำคลังสินค้าภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม พร้อมด้วยตำรวจสันติบาล นำกำลังเข้าตรวจสอบเครื่องบินลำเลียงแบบทหาร รุ่น IL 76 (อิลยูชิน 76) สีขาว เลขข้างตัวเครื่อง 4L-AWA สัญชาติจอร์เจีย ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเปียงยาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือเกาหลีเหนือ เพื่อขออนุญาตลงจอดที่คลังสินค้า ท่าอากาศยานดอนเมืองแทน
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบตู้เหล็ก และลังไม้ขนาดใหญ่ บางส่วนแยกบรรจุหีบห่อมาอย่างดี โดยบรรทุกมาเต็มลำเครื่อง จำนวน 145 กล่อง น้ำหนักรวมประมาณ 35 ตัน แต่ภายในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดกลับเป็นอาวุธสงคราม ประเภทอาวุธหนักหลายชนิด เช่น ท่อส่งจรวด หัวจรวด จรวดอาร์พีจี ปืนกลติดรถยนต์ เป็นต้น โดยอาวุธประเภทท่อส่งจรวดนั้นมีรายงานว่าเป็นท่อส่งจรวดที่ยิงจากภาคพื้นสู่ อากาศ หรือกราวด์มิสไซล์
หลังตรวจสอบอาวุธสงครามบนเครื่องบินเจ้าหน้าที่ เชิญตัวชาวต่างชาติทั้งหมด 5 คน เป็นชาวเบลารุส 1 คน คาซักสถาน 4 คน ในจำนวนนี้มีนักบินรวมอยู่ด้วยให้ลงจากเครื่องเพื่อขอทำการตรวจสอบอย่าง ละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นมีรายงานว่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าสิ่งของ ที่อยู่บนเครื่องนั้นเป็นเพียงชิ้นส่วน หรืออะไหล่ของอาวุธสงครามเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นอาวุธสงครามร้ายแรงและมีพิรุธในการสำแดงราย ละเอียดของสินค้าจึงรายงานผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทราบก่อนจะอายัด เครื่องบิน และสินค้าทั้งหมดไว้ พร้อมกับควบคุมตัวชาวต่างชาติทั้ง 5 คน เพื่อรอการสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารอากาศ และทหารบก ได้นำรถบรรทุกขนาดใหญ่มาขนถ่ายอาวุธสงครามทั้งหมดออกจากเครื่องบิน ก่อนจะประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ทางกองบังคับการปราบปราม มี พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. นำล่ามจากตำรวจท่องเที่ยวเข้าทำการสอบปากคำชาวต่างชาติทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม เวลาประมาณ 16.00 น. ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ได้นำเครื่องบินลำดังกล่าวมาลงจอดที่ประเทศไทยเพื่อเติม น้ำมัน จากนั้นทั้งหมดนำเครื่องบินเดินทางไปยังกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ ก่อนที่จะบินผ่านประเทศไทยในวันนี้และขอแวะลงจอด โดยอ้างว่าขอเติมน้ำมันและเปลี่ยนอะไหล่ล้อเครื่องบิน แต่มาถูกตรวจสอบพบว่าในลำเครื่องมีการบรรทุกลำเลียงอาวุธสงครามมาเต็มลำ โดยอาวุธสงครามทั้งหมดนี้คาดว่านำมาจากเกาหลีเหนือแต่จุดหมายปลายทางเบื้อง ต้นคาดว่าน่าจะเป็นประเทศศรีลังกา โดยลำเลียงอาวุธไปส่งยังประเทศแถบตะวันออกกลาง ให้กับพวกกลุ่มแบ่งแยกดินแดน อย่างไรก็ตาม ในการขนส่งอาวุธสงครามผ่านน่านฟ้าประเทศไทยนั้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ นอกจากนี้ยังอาจมีความผิดฐานสำแดงเท็จด้วย แต่ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจ
ส่วนของกลางอาวุธสงครามทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ เจ้าหน้าที่ทหารได้นำขึ้นรถบรรทุกไปเก็บรักษาไว้ที่คลังสรรพาวุธ กองบิน 4 ทหารอากาศ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จากนั้นจะประสานพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ร่วมกันตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนชาวต่างชาติทั้งหมดหลังจากสอบสวนที่คลังสินค้า ดอนเมืองแล้วพนักงานสอบสวนจะนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมและควบคุมตัวไว้ที่กอง ปราบปราม
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยได้รับการประสานทางการข่าวจากประเทศสหรัฐ อเมริกาว่ามีข้อมูลการลักลอบค้าอาวุธสงครามระหว่างประเทศ ดังนั้น เมื่อเครื่องบินลำดังกล่าวมาขอลงจอดเติมน้ำมันในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังทั้งตำรวจและทหารเข้าตรวจค้นจึงพบว่าเครื่องบินลำ ดังกล่าวขนอาวุธสงครามจำนวนมาก แต่เนื่องจากอาวุธสงครามทั้งหมดอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งตามกฎหมายถือว่าอยู่นอกราชอาณาจักรไทย จึงต้องใช้อำนาจทางอัยการสูงสุดเพื่อมอบอำนาจให้ตำรวจดำเนินการต่อ เบื้องต้นได้เตรียมบันทึกจับกุมในข้อหาร่วมกันลักลอบนำอาวุธสงครามเข้ามาใน ราชอาณาจักรและความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ
ค่ำวันเดียวกัน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การจับกุมมีขึ้นหลังจากที่เครื่องบินดังกล่าวลงจอด ณ สนามบินดอนเมือง และพบวัสดุต้องสงสัยบนเครื่อง และได้ควบคุมตัวลูกเรือ 5 คนไว้แล้ว อย่างไรก็ดีไม่สามารถยืนยันได้ว่าเครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งออกจากเกาหลี เหนือกำลังมุ่งหน้าไปยังที่หมายใดในเอเชียแต่คาดว่าจะเป็นประเทศในเอเชียใต้
นายธานี ทองภักดี รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การควบคุมเที่ยวบินลำดังกล่าวของไทยเป็นการดำเนินการในฐานะรัฐภาคีของสห ประชาชาติ ตามข้อมติของสหประชาชาติที่ 1874/2009 ว่าด้วยเรื่องเกาหลีเหนือ ซึ่งหนึ่งในรายละเอียดของข้อมติคือการห้ามการขนส่งอาวุธจากเกาหลีเหนือ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายความมั่นคงได้รับการแจ้งเบาะแส โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดของอาวุธ ต้องห้ามที่พบว่ามีอะไรบ้าง
อ้างอิง
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews ... 0000155465 http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews ... 0000155085 
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1262658671 http://www.burjdubaiskyscraper.com/ ตึกระฟ้า : WikiPedia
http://www.youtube.com/watch?v=AHjH7AXKRm0 http://www.youtube.com/watch?v=8u8-bvAkfuM 
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000024038 http://www.youtube.com/watch?v=A3TjtDTc6f0 ธานินทร์๙๙ เขียน:ขอสดุดีคนดีของชาติที่ต้องสิ้นไปอีกคน
พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา
ผกก.บันนังสตาเสียชีวิตแล้ว หลังโจรใต้วางบึ้มรถจนท.ที่ยะลา
ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้ง เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 มี.ค. ว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณกลุ่มบ้านทับช้าง ม. 2 บ้านกือลอง ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสาหัส 4 นาย ทราบชื่อ คือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ โลมา รอง สวป สภ.บันนังสตา ด.ต.โสภณ อินทรบวร ส.ต.ท.ระวิกรณ์ สังข์ศิริ ทั้งหมดถูกลำเลียงทั้งทางรถยนต์และทางเฮลิคอปเตอร์ ส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะของ พ.ต.อ.สมเพียร ยี่ห้อโต้โยต้า หมายเลขทะเบียน กข.9302 ยะลา ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดยับเยิน ห่างจากตัวรถพบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1 เมตร โดยเจ้าหน้าที่พบสายไฟลากเข้าไปในป่าข้างทาง นอกจากนั้นยังพบเศษถังดับเพลิง เศษสะเก็ดระเบิด กระจายอยู่ทั่ว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ทราบว่า ในขณะที่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จ. ยะลา ได้นั่งรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นาย ออกไปติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ หลังจากสืบทราบว่า กลุ่มคนร้ายได้ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมกันนั้น ก็ได้ไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อรับทราบปัญหาและข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ด้วย เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม ซึ่งได้นำระเบิดมาซุกซ่อนเอาไว้ใต้ผิวถนน ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที ทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ในเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ก็เคยรอดหวุดหวิดจากการเสียชีวิตมาแล้วหนึ่งครั้ง คือ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 53 ที่ผ่านมา ได้เคยถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ลวงขณะเดินทางไปพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 3 นาย ไปตรวจสอบเหตุระเบิด บนถนนในหมู่บ้าน หมู่ 9 บ.คีรีราช ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อรถวิ่งถึงบริเวณบนถนนสาย 410 (บันนังสตา-กรงปินัง) หมู่ 11 บ.บูเก๊ะปาโจ คนร้ายซึ่งนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีบรอนซ์ดำ หมายเลขทะเบียน กคว 383 เบตง ซุกระเบิดเอาไว้ภายในรถ นำมาจอดอยู่ริมถนนสายดังกล่าว ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที แต่โชคดีที่ระเบิดทำงานหลังจากรถของ พ.ต.อ.สมเพียร วิ่งผ่านไปแล้ว ทำให้รถยนต์กระบะได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่บริเวณกระบะหลัง และกระจกหลัง ส่วน พ.ต.อ.สมเพียร และพวกไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ต่อมา เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พ.ต.อ.สมเพียร ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งที่ผ่านมาไม่เป็นธรรม โดยพ.ต.อ.สมเพียร กล่าวว่า ตนทำงานในชายแดนภาคใต้มากว่า 40 ปี เหลืออายุราชการอีกแค่ปีกว่าจะเกษียณ เมื่อถึงช่วงปลายชีวิตราชการน่าจะได้ไปพักผ่อนในสถานที่สบายๆ จึงขอให้พิจารณาโยกย้ายตนไปเป็น ผกก.สภ.กันตรัง จ.ตรัง แทนตำแหน่งเดินที่ว่างอยู่ โดยทำหนังสือขอสมัครใจย้ายไปยังที่ดังกล่าวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ.10) ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ก็รับปากจะดำเนินการให้
พ.ต.อ.สมเพียร กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนแรกโผโยกย้ายที่ออกมาในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ก็มีชื่อตนไปเป็นผกก.กันตรังจริง แต่เมื่อคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายออกมา กลับให้ตนอยู่ในตำแหน่งเดิม ทั้งที่ตนทำงานในภาคใต้มายาวนาน เคยปะทะผู้ร้ายเกือบ 100 ครั้ง บาดเจ็บ 8-9 ครั้ง วิสามัญผู้ร้าย 22 คน คิดว่าผลงานขนาดนี้ เมื่อถึงเวลาจะได้อะไรตอบแทน แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย ที่ใครหลายคนบอกว่าแย่ที่สุดในชีวิต เนื่องจากมีการข้ามอาวุโส และเล่นพรรคเล่นพวกจำนวนมาก ซึ่งนายตำรวจในพื้นที่หลายคนก็ไม่พอใจ แต่ไม่กล้าออกมาพูดอย่างตน เพราะยังเหลือราชการอีกหลายปี ต่างจากตนที่เหลือใกล้เกษียณเต็มที
"ที่ผมออกมาเรียกร้องครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าตำรวจในภาคใต้ทำงานอย่างไร ไม่ได้เรียกร้องหาความเป็นธรรมใดๆ เพราะมีคนเคยพูดว่าตำรวจเลือกที่กับเลือกนายไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้นายกฯเข้ามาสะสางปัญหาการจัดทำโผโยกย้ายในบช.ภ.9 ด้วย อย่าเอาใจใส่แต่ตำรวจในส่วนกลาง หรือบช.ภ.1, 2 และ 4 เพียงอย่างเดียว เพราะขณะนี้ตำรวจในพื้นที่รู้สึกเป็นลูกเมียน้อยกันหมดแล้ว มีแต่เด็กนายเท่านั้นที่ได้ดี ส่วนจะเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใหญ่หรือไม่ ผมไม่ทราบ“ พ.ต.อ.สมเพียรกล่าวพร้อมหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมา โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว พ.ต.อ.สมเพียรได้นำประกาศนียบัตรเกือบ 20 ใบมาแสดง พร้อมทำรายงานผลการปฏิบัติงานมาเสนอต่อนายกฯด้วย
เผยก่อนตายพ.ต.อ.สมเพียร เสียงสั่นโทรบ่นยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนผู้กำกับการ รุ่น 52 ของพ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่เสียชีวิต จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบนถนนสายเบตง-ยะลาเมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อคืนวันที่ 11 มี.ค. เวลา 20.04 น. พ.ต.อ.สมเพียร ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ โทรมาหาตน โดยโทรมาระบายความอึดอัดที่ไม่ได้รับความเห็นใจจากผู้บังคับบัญชาในการโยกย้าย โดยพูดกับตนว่า ตั้งแต่ที่ร้องเรียนไปกับทั้งนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ที่ผ่านมา ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ข่าวที่ โฆษก.สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า จะมีการเยียวยาให้ ก็ไม่ได้มีการเยียวยาแต่อย่างใดทั้งสิน
"พี่สมเพียรพูดเสียงสั่นเครือว่า พี่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไรจากผู้ใหญ่ตามที่ออกข่าวไปเลย อาทิตย์หน้าพี่จะลามากรุงเทพฯ เพื่อมาทวงถาม ต็อก อยู่ใกล้กรุงเทพ พี่ขึ้นมาไม่ค่อยรู้จักใคร ถ้าว่างมาอยู่เป็นเพื่อน กินข้าวกันสักมื้อนะ " พ.ต.อ.ศารทูล กล่าว
พ.ต.อ.ศารทูล กล่าวอีกว่า เมื่อแกโทรมาเราในฐานะเพื่อน ก็ได้แต่ปลอบใจ และรับปากว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนช่วงที่แกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พอทราบเรื่องว่าโดนลอบโจมตี ตกใจมากเพราะเมื่อคืนยังคุยกันอยู่เลย พอโทรไปเบอร์ที่แกโทรมา ลูกน้องแกรับบอกว่าผู้กำกับเจ็บหนัก ขาขาดเพราะแรงระเบิด ต่อพอทราบว่า แกเสียก็สงสารไม่รู้จะช่วยแกยังไง ได้แต่ปลงกับชีวิตตำรวจคนทำงานเพื่อชาติ
ตร.คนสนิทยกย่อง"ยอดคน" เผยภรรยาผกก.เข้มแข็ง
ทางด้าน ร.ต.ท.ราม ลอยสะเทื้อน ผู้บังคับหมวด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สภ.บันนังสตา ตำรวจคนสนิท เป็นเจ้าหน้าที่ชุดแรกไปถึงที่เกิดเหตุ กล่าวว่า หลังจากรับรายงานแล้วได้เดินทางไปที่เกิดเหตุทันทีโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นได้เข้าไปนำตัว พ.ต.อ.สมเพียร ออกมา ซึ่งตอนนั้นอยู่ในสภาพแน่นิ่ง ไม่ได้สติแล้ว และมีบาดแผลที่ขาเกือบขาดห้อยล่องแล่งแล้ว จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบันนังสตาซึ่งแพทย์ช่วยเหลือเต็มที่ ก่อนที่จะถูกนำตัวไปรักษาที่ศูนย์โรงพยาบาลยะลา หลังจากนั้นแพทย์แจ้งออกมาแจ้งว่าได้เสียชีวิตแล้ว
ร.ต.ท.ราม กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อพิธีกรถามถึงภรรยาของพ.ต.อ.สมเพียร ว่า ภรรยาของพ.ต.อ.สมเพียรเข้มแข็งไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ตำรวจไม่มีเสียขวัญ ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สมเพียร ถูกลอบวางระเบิดหลายรอบแล้ว ซึ่งผู้กำกับพยายามที่จะหาตัวคนร้าย และรู้ตัวว่าเป็นใครพยายามที่จะจับตัวคนร้ายหลายครั้งแล้ว หลังจากพ.ต.อ.สมเพียร กลับจากร้องเรียนนายกฯที่ทำเนียบเรื่องการโยกย้ายไม่เป็นธรรมกลับมาก็ทำงานตามปกติ เพราะมีคนให้กำลังใจมาก สิ่งที่พ.ต.อ.สมเพียร ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อตำรวจในพื้นที่ภาคใต้ เพราะตนเองเหลือแค่ปีเดียวแต่อยากเรียกร้องเพื่อคนรุ่นหลังว่าต้องมีค่าตอบแทนให้ตำรวจบ้าง
"วันนี้คงพลาดจริง มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่สามารถสืบได้ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดการออกไปปฏิบัติการในพื้นที่" ร.ต.ท.ราม กล่าว
ผู้บังคับหมวด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สภ.บันนังสตา กล่าวยกย่อง พ.ต.อ.สมเพียร ว่า "ยอดคน ไม่มีใครมาแทนได้" กับลูกน้องดูแลทุกเรื่องไม่มีเรื่องผลประโยชน์ ทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคือ เสียใจ ก่อนเกิดเหตุประมาณ ตี 5 ยังเห็นผู้กำกับออกมาจากบ้านพัก ในตอนบ่ายยังได้คุยกันว่าวันนี้ไปไหนไม่ได้เพราะมีเหตุการณ์ชุมนุมและยังนัดประชุมตำรวจตอน 1 ทุ่มเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
ร.ต.ท.ราม กล่าวทิ้งท้ายว่า "นายเหนื่อยมาเยอะแล้วพักให้สบายไม่ต้องห่วง"
"มาร์ค"ส่ง"พงศพัศ"ปลอบใจครอบครัว"ผกก.บันนังสตา" "อดุลย์"ยกย่อง"ตายสมศักดิ์ศรี "ปทีป"เงียบ
"อดุลย์ แสงสิงแก้ว " ยกย่อง "พ.ต.อ."สมเพียร" ตร.นักรบเพื่อปชช.ที่แท้จริง บอก ตายสมศักดิ์ศรี ขอตร.ใต้อย่าท้อ ให้เอาอย่าง "ปทีป"ปิดปากเงียบ ไม่สัมภาษณ์สื่อ อ้างไม่สะดวก นายกฯส่งโฆษกตร. ปลอบใจครอบครัว ตร.คนสนิทยกย่อง"ยอดคน" บอก"นายเหนื่อยมาเยอะแล้วพักให้สบายไม่ต้องห่วง"
"มาร์ค"รู้ข่าวส่ง"พงศพัศ"ปลอบใจครอบครัว
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 มี.ค. กรณี พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ผู้ที่เคยมาร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีขอย้ายไปเป็นผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง ในช่วงเวลา 1 ปีก่อนเกษียณ แต่ไม่ได้ไปเนื่องจากมีเด็กของนักการเมืองเข้ามาแทรก ซึ่งล่าสุดเสียชีวิตแล้วในวันนี้หลังถูกผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดว่า นายกฯทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไปพบกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้น คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีหลักเกณฑ์สำหรับการเยียวยาอยู่แล้ว
"ปทีป"ปิดปากเงียบงดสัมภาษณ์ข่าว"พ.ต.อ.สมเพียร"อ้างไม่สะดวก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 17.30น. วันที่ 12 มีนาคม ผู้สื่อข่าวพยายามสัมภาษณ์ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. เพื่อสอบถามถึงกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดที่จ.ยะลา โดย พ.ต.อ. วราวุธ สกลธนารักษ์ นายเวร พล.ต.อ.ปทีป เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ปทีป ทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ โดยไม่บอกว่าเหตุผลใด เมื่อถามว่าจะเดินทางไปงานศพหรือไม่ พ.ต.อ.วราวุธ กล่าวว่า น่าจะไป พร้อมแนะนำให้ไปสัมภาษณ์ พล.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร. แทน ซึ่งวันนี้ พล.ต.ท.พงศพัศ ติดภารกิจนอก ตร. แต่เมื่อติดต่อทางโทรศัพท์ไปหลายครั้ง แต่ปรากฎว่าไม่รับสายแต่อย่างใด
"อดุลย์"ยกย่อง"สมเพียร"ตายสมศักดิ์ศรี ขอตร.ใต้เอาอย่าง-อย่าท้อ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา(สบ 10) ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ ซึ่งกำกับดูแลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) กล่าวถึงการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ว่า เป็นการสูญเสียที่สำคัญของตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.สมเพียร คือ ลูกน้องที่รัก เป็นตำรวจนักรบเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พ.ต.อ.สมเพียรเป็นตำรวจที่ไม่ท้อถอย แม้จะมาร้องเรียนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายออกนอกพื้นที่ ซึ่งยังไม่สมหวังก็ยังกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่สภ.บันนังสตา อย่างเต็มที่ สมเกียรติภูมิ และสำนึกต่อหน้าที่ การเสียชีวิตครั้งนี้สมศักดิ์ศรี ตำรวจอาชีพที่ตายในหน้าที่
“ตำรวจทุกคนที่ยังปฏิบัติหน้าที่ใน จ.ชายแดนภาคใต้ ให้คิดว่าทำเพื่อประเทศชาติ แม้อาจจะไม่ได้รับการตอบแทน ตามที่ต้องการ แต่ขอตำรวจใต้อย่าท้อถอย ขอให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปร่วมงานศพ พ.ต.อ.สมเพียร” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:14:33 น. มติชนออนไลน์
http://www.youtube.com/watch?v=fnE0fLhLTwU http://www.youtube.com/watch?v=L9mradXNT7Y http://www.youtube.com/watch?v=BbXKM2YPY3o http://www.youtube.com/watch?v=QctVOIKnQbI http://www.youtube.com/watch?v=poFUWHhwIPo http://www.youtube.com/watch?v=_cGtYnq40UQ http://www.youtube.com/watch?v=-l8ErG7MkN8 นำเสนอ " ตำรวจยอดเยี่ยม " ของแท้ จากยะลา.. http://www.oknation.net/blog/print.php?id=333896 
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews. ... 0000036624 http://www.youtube.com/watch?v=0dJCfzyxTEY http://www.youtube.com/watch?v=-GYYYMEV5DY http://www.youtube.com/watch?v=P_OtcfRpZ7g http://www.youtube.com/watch?v=zCbgWoIUraY
ผมนี่แหละ ชายเตี้ยที่สุดในโลก
“คเชนดรา ธาปา มาการ์” หนุ่มน้อยชาว “เนปาล”วัย 18 ปี ขอให้กินเนสส์ เวิร์ลด์เรคคอร์ดส์ บันทึกว่าเขาคือชายตัวเตี้ยที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยส่วนสูงเพียง 51 เซนติเมตร ได้ทำให้ “มาการ์” ตัดสินใจขอให้ทางกินเนสส์ เวิร์ลด์ เรคคอร์ดส์ บันทึกว่าเขาเป็นชายเตี้ยที่สุดในโลก แทนนาย “เหอ ผิงผิง” ชายชาวจีน ที่เป็นเจ้าของสถิติปัจจุบัน ซึ่งมีความสูงเพียง 73 เซนติเมตรก่อนหน้านี้ ครอบครัวของหนุ่มเนปาลร่างเตี้ยเคยยื่นเรื่องว่า “มาการ์” คือผู้ชายเตี้ยที่สุดใน
- article-4434--p13240210.jpg (51.35 KiB) เข้าดูแล้ว 3809 ครั้ง
โลกเมื่อตอนที่เขาอายุได้ 14 ปี แต่กลับต้องถูกปฏิเสธ เพราะเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นวัยที่ยังมีโอกาสสูงขึ้นอีกอย่างไรก็ตาม “มาการ์” ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปอิตาลีพร้อมกับบิดาและผู้สนับสนุนรายหนึ่ง เพื่อออกรายการโทรทัศน์พูดเรื่องความต้องการยื่นขอเป็นเจ้าของสถิติชายตัวเตี้ยที่สุดในโลกพี่ชายของ “มาการ์” กล่าวว่า “เราจะไป อิตาลีเพื่อพยายามที่จะบันทึกชื่อของ มาการ์ ลงในกินเนสส์เวิร์ลด์ เรคคอร์ดส์ ให้เป็นได้”
วันอังคารที่ 23 February พ.ศ.2553 18:41 น.
