veenono เขียน:สวัสดีครับผู้พัน พี่ต่อ ผมขออนุญาตเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ต่อนะครับthor เขียน:ไม่ต้องห่วงครับพี่ เรื่องนี้ถึงผู้ใหญ่มูลนิธิชัยฯ แน่นอนผู้พันPOK เขียน: เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในตลาดน้ำอัมพวา
เมื่อ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ผมได้ปั่นจักรยานท่องเที่ยว ในวันที่เกิดเหตุผมได้ปั่นจักรยานจาก แก่งส้มแมว อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จุดหมายปลายทางที่ตลาดน้ำอัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร ขณะนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. ผม และคณะ รวมทั้ง 12 ท่าน(เป็นผู้เดินทาง 7ท่าน คณะที่มารับ 5 ท่าน) ได้ไปหาอาหารรับประทาน บริเวณมูลนิธิแห่งหนึ่งที่อยู่ในตลาดน้ำอัมพวา ขณะที่ผมเดินข้ามถนนเข้าไปยังบริเวณด้านหน้าของมูลนิธิฯเพื่อจะไปซื้ออาหารมารับประทาน โดยวิสัยของนักท่องเที่ยวจึงได้ถ่ายภาพบริเวณทั่ว ๆไป (ผมเพิ่งเดินทางมาตลาดน้ำอัมพวาเป็นครั้งแรกครับ ตามคำเล่าลือว่าเป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวในลำดับต้น ๆ ของประเทศ) ในขณะที่ผมถ่ายภาพก็มองแต่ภาพที่กล้องจับ ขณะที่กล้องของผมเล็งไปยังร้าน หัวยักษ์ หรือ หัวหนุมาน ประมาณนั้น เจ้าของร้านได้ตะโกนออกมาว่าถ่ายไม่ได้ แล้วตามด้วย”ไอ้สัตว์” ผมได้ลดกล่องลงโดยยังไม่ได้กดชัดเตอร์(มองเห็นว่ามีสัญญลักษ์ห้ามถ่ายรูปเล็ก 2-3 ป้าย) พร้อมกับพูดว่า บอกดีก็ได้ ทำไมต้องมีไอ้สัตว์ด้วย คุณก็รู้ว่าผมยังไม่ได้กดชัดเตอร์ เจ้าของร้านก็พูดว่า ผมก็รู้ว่ายังไม่ได้กดชัดเตอร์ กล้องคุณไปถ่ายรูปอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ ไม่สมควรมาถ่ายภาพในร้านของเขา ผมจึงได้ถามเขาว่าในเมื่อคุณก็รู้ว่าผมยังไม่ได้ถ่ายภาพในร้าน แล้วทำไมถึงด่าคำว่าไอ้สัตว์ด้วย เท่านั้นเองทำให้เจ้าของร้านไม่พอใจลุกขึ้นเดินออกจากร้านตรงมายังผมขยับแข้งขยับขาทำท่าทางในลักษณะจะทำร้ายร่างกายผม โดยมีเสือโก๋คอยห้ามปราม นักท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณนั้นทุกคนหันมองมายังที่ผมยื่นอยู่ทุกคนคงจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเองคิดอยู่ในใจว่าคนแบบนี้ไม่ควรพูดอะไรไปมากกว่านี้ จึงได้เดินออกจากที่เกิดเหตุ ไปหาเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ เพื่อขอพบกับผู้จัดการเพื่อจะได้เข้ามาทำความเข้าใจกับร้านดังกล่าว แต่กลับหาผู้จัดการไม่พบ ผมจึงได้โทรไปยัง 191 ขอให้สงสายตรวจมายังที่เกิดเหตุ ผมรออยู่บริเวณที่เกิดเหตุสายตรวจก็ยังไม่มาผมได้ออกไปตรงหน้าวัดอัมพวา(นึกได้ว่าตอนเข้ามามีจราจรอยู่ 1 ท่าน) พอผมได้เดินไปถึงหน้าวัดอัมพวา มีนายตำรวจนายหนึ่งคงได้รับแจ้งจาก 191 กำลังเดินเข้าไปบริเวณมูลนิธิ ผมจึงตรงเข้าไปหาพร้อมบอกว่าผมเป็นผู้เสียหาย แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง จึงเดินไปยังที่ร้านดังกล่าว แล้วชี้ตัวคนที่ดูหมิ่นผมให้ จนท.ตร.ทราบ ชายคนเจ้าของร้านได้ตะโกนออกมาว่า “มึงยังหน้าด้านไปแจ้งตำรวจอีกเหรอ” จนท.ตร.ได้เชิญตัวชายเจ้าของร้านไปที่โรงพัก (เพราะผมแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ ตร.ว่า ผมจะไม่พูดอะไรตรงนี้) แล้วผมก็เดินออกไปจากบริเวณร้านไปรออยู่ฝั่งถนนด้านหน้ามูลนิธิ สักครู่หนึ่ง จนท.ตร.เดินออกมาบอกผมว่าให้ไปแจ้งความที่โรงพัก ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ผมจึงได้ปั่นจักรยานไปแจ้งความกับ จนท.ตร. ชั้นยศพันตำรวจโท โดยเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่เล่ามาข้างบนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ตร.ที่รับแจ้งได้วิทยุให้ สายตรวจไปเชิญตัวชายเจ้าของร้านไปที่โรงพัก ประมาณ 3-4 ครั้ง(ผมรอเกือบชั่วโมง) จึงได้มา ผมเองก็ไม่ได้ติดใจเพื่อจะเอาความหรอกครับ ก็เพียงแต่ต้องการให้ จนท.ตร.อบรมสังสอน พอชายเจ้าของร้านไปพบพนักงานสอบสวน แล้วพูดว่าผมผิดอะไร เจ้าหน้าที่ขอบัตรประจำตัวก็บอกว่าอยู่ในรถ ถามชื่อก็ไม่ยอมบอก เจ้าหน้าที่ต้องคาดเค้นถึงจะบอก ผมเห็นแล้วรู้สึกเซ็งมาก ๆ ท้องก็เริ่มหิว เจ้าหน้าที่รีบเขียนใบรับแจ้งความของผมพร้อมทั้งให้ลงชื่อทั้งสองฝ่าย ผมจึงได้ขอตัวกลับยังที่พัก
ท่านที่อ่านเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ท่านมีความรู้สึกอย่างไร ท่านคิดหรือไม่ว่า ตลาดน้ำอัมพวาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในระดับต้น ๆ ของประเทศ จะมีเหตุการณ์แบบนี้ และขณะที่เกิดเหตุการณ์ในตอนนั้น หากผมถูกทำร้ายร่างกาย ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ หรือเจ้าหน้าที่ ตร.ในบริเวณนั้น แล้วใครล่ะ จะเป็นผู้ดูแลนักท่องเที่ยว หรือว่าสุดแต่เวรแต่กรรมนักท่องเที่ยวที่มาเองเช่นนั้นหรือ
“และขอฝากผู้ที่เกี่ยวข้องโปรดได้กรุณานำเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วยว่า ท่านจะมีการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่นำเงินเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในอำเภอ ในจังหวัดของท่านได้อย่างไรบ้าง “
ผู้พัน POK
เป็นประโยชน์กับชาวจักรยานและนักท่องเที่ยวมากๆครับ
กระทู้นี้นะครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 7&t=476583
ด้วยความยินดีครับ